ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
เผยโฉมหน้า10 แบรนด์ BEV ยอดนิยมของไทยในปี 2567
25 มกราคม 2568| จำนวนผู้เข้าชม 1,485

b
ปี 2567 ถือเป็นปีทองของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า((BEV))ในประเทศไทยอีกปีหนึ่งแม้ว่าตลาดรวมรถยนต์ไฟฟ้ามีอัตราการเติบโตลดลงเล็กน้อย โดยรถยนต์แบรนด์ BYD ยังคง มีการจดทะเบียนมากสุด สำหรับยอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2567(2024) อยู่ที่ 68,936 คัน มีอัตราการเติบโตลดลง 9.67 % เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งในปี 2566 (2023) ยอดรถยนต์ไฟฟ้ามีการจดทะเบียนรวม 76,314 คัน สำหรับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ยังคงดึงดูดตลาดไทย 10 อันดับแรกของปี 2567 นั้นเราพบว่า มีถึง 7 แบรนด์ที่เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่เหลือเป็นแบรนด์ยุโรปโดยไม่มีค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากญี่ปุ่นติดอันดับมาเลย
10 ในแบรนด์รถยนต์ BEV ที่ครองตลาดไทยสูงสุด ปี 2567
1. BYD ยอดขาย 27,021 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 39.2 %
2. MG ยอดขาย 9,080 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 13.2%
3. NETA ยอดขาย 7,969 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 11.6%
4. CHANGAN ยอดขาย 5,902 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 8.6%
5. AION ยอดขาย 5,184 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด7.5%
6. TESLA ยอดขาย 4,120 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 6%
7. ORA ยอดขาย 3,231 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 4.7%
8. VOLVO ยอดขาย 1,662 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 2.4%
9. BMW ยอดขาย 1,485 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 2.2%
10. WULING ยอดขาย 711 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 1%
BYD แชมป์ที่มั่นคง
BYD ยังคงเป็นรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม สามารถครองอันดับหนึ่งในด้านยอดขายตลอดทั้งปี โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 39.2% ทั้งนี้ BYD เริ่มเปิดตลาดรถในเดือนตุลาคม 2565 และเริ่มส่งมอบ Atto 3 ในประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน เป็นครั้งแรก ส่งผลให้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 ค่ายBYD สามารถครองแชมป์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเป็นเวลาอย่างน้อย 18 เดือน ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า 1 ใน 3 คันที่จำหน่ายในประเทศไทยมาจาก BYD ปี2567 BYD มีการจำหน่ายรถยนต์ทั้่งหมด 6 รุ่นหลัก รวมรถนั่ง รถตู้ แบ่งออกเป็น 16 รุ่นย่อย มากสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยรุ่นที่จำหน่าย โดยรุ่นย่อย 3 อันดับยอดนิยม มีดังนี้ 1.BYD DOLPHIN STD ยอดจำหน่าย 7,427 คัน 2.BYD ATTO 3 จำนวน 4,353 คัน และ3.BYD DOLPHIN EXD จำนวน 3,302 คัน ทั้งนี้ ในปี2567 ยังไม่มีการรายงานยอดขายของรถรุ่นใหม่ ที่เข้ามาเสริมตลาด อย่างเดนซ่า ซึ่งนำมาจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 เมื่อปลายปีที่แล้ว
MG
เอ็มจี (MG) ครองอันดับ 2.ด้วยส่วนแบ่งตลาด13.2% MG เป็นรถที่มีพื้นฐานเข้าตลาดไทยด้วยรถเครื่องยนต์สันดาปภายในก่อนจะขยายเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า MGได้รับการยอมรับในแง่ของ ความคุ้มค่าและการมีเครือข่ายที่แข็งแรง รวมถึงมีฐานลูกค้าเก่าจำนวนมาก ทำให้เมื่อเข้าตลาดยังคงมีความสามารถในการแข่งขัน รถไฟฟ้าของเอ็มจีมีจำหน่ายทั้งหมด 7 รุ่นหลักและรุ่นที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรกได้แก่ 1.MG4 ELECTRIC มียอดขาย 5,402 คัน 2.MG EP จำนวน 1,886 คัน และอันดับ 3.ได้แก่ MAXUS จำนวน 9,670 คัน ส่วนรถยนต์สปอร์ตไฟฟ้า ก็ได้รับความนิยมรุ่นขายดีได้แก่ CYBERSTER มียอดขาย 62 คัน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในปี 2025 ของMG ได้แก่ All New MG ES5
NETA
เนต้า ค่ายรถที่เคยเป็นผู้นำตลาดก่อนหน้า BYD จะเข้าตลาด ในปี2567 เนต้าทำยอดขายรวม 7,969 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 11.6% เป็นอันดับ 3 แม้ว่าจะมีข่าวร้ายของบริษัทแม่เกี่ยวกับปัญหาการเงินและมียอดขายตกต่ำในจีน แต่เนต้าในไทยยังคงได้รับการยอมรับอย่างดี สาเหตุที่เนต้าเป็นที่นิยมเนื่องจาก เนต้าทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเจาะกลุ่มแมส ระดับราคาไม่สูงทำให้ผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้า สามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้ง่ายอย่างไรก็ตามอนาคตของเนต้ายังไม่แน่นอนจากปัญหาที่จีน และอาจส่งผลต่อการขยายโมเดลใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งเนต้ากำหนดเป้าหมายในไทยไว้ว่า ต้องการก้าวสู่การเป็น TOP 5 แบรนด์รถยนต์ในประเทศไทย ภายในปี 2573 โดยจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 1 รุ่นทุกปีนับจากปี 2568 สำหรับเนต้ามีรถจำหน่าย 3 รุ่นหลักและ รถรุ่นยอดนิยมของเนต้าได้แก่ 1.NETA V จำนวน 4,578 คัน 2. NETA V-II จำนวน 2,009 คัน 3. NETA Xจำนวน 1,382 คัน
CHANGAN
ฉางอาน ทำยอดขาย ได้เป็นอันดับ 4 ของตลาด จำนวน 5,902 คัน สามารถครองส่วนแบ่งตลาด 8.6% ฉางอาน นั้นรวมยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 2 แบรนด์ในตลาดคือ DEEPAL กับ LUMIN เข้าด้วยกัน รถที่ได้รับความนิยมมากสุดคือ DEEPAL S07 รถครอสโอเวอร์ ขนาดใหญ่ ราคา 1.39 ล้านบาท สำหรับ 3 อันดับ รุ่นยอดนิยมได้แก่ 1. DEEPAL S07 จำนวน 4,806 คัน 2.DEEPAL L07 จำนวน 707 คัน และ3.LUMIN L DC รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก จำนวน 226 คัน
AION
ไอออน ทำยอดขายเป็นอันดับ 5 ของตลาดมียอดจดทะเบียน 5,184 คัน ครองตลาด 7.5% รถยอดนิยมได้แก่ AION Y PLUS ที่มียอดขาย 3,873 อันดับ2 ได้แก่ AION ES จำนวน 1,088 ซึ่ง ยอดขายนี้ได้จากตลาดรถแทกซี่และรถนั่งเชิงพาณิชย์เป็นตลาดหลัก ส่วนแบรนด์ HYPTEC ที่มีเอกลักษ์ ประตูปีกนกทำยอดได้ 222 คัน ส่วนรถซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า HYPTEC SSR มียอดจดทะเบียนเพียง 1 คัน
แบรนด์ญี่ปุ่นชะงัก
แม้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในสองสามปีที่ผ่านมาแต่แบรนด์รถยนต์ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง โตโยต้า ฮอนด้า และ นิสสัน กลับยังไม่สามารถครองใจผู้บริโภคได้โดยในปี2567 ที่ผ่านมา โตโยต้า กลับมามีรายงานการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น BZ4X จำนวน 66 คัน หลังจากที่หยุดหายไปเมื่อปีที่แล้ว ส่วนค่ายฮอนด้า ส่งมอบรถไฟฟ้า e:N1 จำนวน 265 คัน โดยในจำนวนนี้ เป็นการผู้นำรถของผู้เข้ารายอิสระ ในรถรุ่น E จำนวน 1 คันและรุ่น E ADVANCE จำนวน 1 คัน ก่อนหน้านี้ฮอนด้า เปิดสายการผลิต e:N1 ในไทยแต่ล่าสุดมีรายงานว่า ฮอนด้ายุติการผลิตและหันไปนำเข้ารถยนต์ดังกล่าวจากประเทศจีนแทน ส่วนนิสสันทำการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า LEAF จำนวน 14 คันเท่านั้น
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยมดุเดือด
ทิศทางของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมเริ่มดุเดือดขึ้นโดย ยังคงเป็นการขับเคลื่อนระหว่างรถจาก BMW,MERCEDES BENZและ TESLA โดยเป็นการแข่งกันระหว่าง แบรนด์ยุโรปและแบรนด์อเมริกา ซึ่ง Tesla ผู้สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมจากฝั่งอเมริกา BMW พยายามเร่งเครื่อง ตลาดไฟฟ้ารถยนต์พรีเมียมแต่ TESLA เองก็ทำยอดติดอันดับ 6 ของตลาดไทย ในขณะที่ BMW ยังคงถูกทิ้งห่าง โดย BMW มียอดจำหน่าย รวม1,485 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 2.2% และเมอร์เซเดส-เบนซ์ทำยอดขาย 221 คัน ซึ่งอยู่ในอันดับ 9 และ16 ตามลำดับส่วนAUDI มียอดขายเพียง 43 คันครองอันดับที่ 23จากยอดจดทะเบียนของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในตลาดรวม 31 ยี่ห้อ ในขณะที่ยอดขายของ TESLA สามารถทำยอดขายได้เป็นอันดับ ที่ 6 ของตลาด มียอดรวม 4,120 คัน ครองตลาด 6% โดยรถรุ่นย่อยยอดนิยม 3อันดับแรกของ TESLA คือ 1.Model 3 Rear-Wheel Drive จำนวน 1645 คัน 2. Model 3 Long Range จำนวน 1,072 คัน 3.Model Y Rear-Wheel Driveจำนวน 394 คัน
23 รถยนต์ไฟฟ้า(EV) รวมยี่ห้อที่ดีที่สุด

Ev2Gang
9 ธันวาคม 2023
เพื่อตอบรับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ที่กำลังมาแรงในไทย พร้อมจำนวนผู้ผลิตหลากหลายแบรนด์รถยนต์ที่กำลังเข้าแข่งขันกันในตลาด จึงเป็นเรื่องยากที่จะค้นหาว่า รถยนต์ไฟฟ้ามียี่ห้ออะไรบ้างขณะนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี ? และยี่ห้อไหนดีที่สุด ทำให้ในวันนี้ Ev2Gang แหล่งรวมรถยนต์ไฟฟ้าทั้งมือหนึ่งและมือสอง จึงได้จัดทำบทความรวม 23 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในไทยและรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุด ซึ่งจะแบ่งออกตามสัญชาติของบริษัทผู้ผลิตเพื่อให้ผู้อ่านศึกษาได้ง่าย โดยตัดสินใจเลือกซื้อจากข้อมูลและตารางเปรียบเทียบราคารถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น ดังนี้
23 รถยนต์ไฟฟ้า(EV) ที่ดีที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกา
1. Tesla
Tesla(เทสล่า) ผู้บุกเบิกด้านยานยนต์ไฟฟ้าในอเมริกา เป็นผู้นำด้านการรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Tesla มีสำนักงานใหญ่ในเมืองพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีชื่อเสียงจาก CEO ที่มีวิสัยทัศน์อย่าง Elon Musk ภารกิจของบริษัท Tesla คือการจัดการกับความท้าทายด้านพลังงานทั่วโลกผ่านรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูง โมเดลอันเป็นเอกลักษณ์ของ Tesla ได้แก่ Model S, Model 3, Model X และ Model Y ซึ่งผสมผสานความหรูหราเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Model S | 4,900,000 บาท |
| Model 3 | 1,599,000 บาท |
| Medel X | 3,900,000 บาท |
| Model Y | 2,000,000 บาท |
รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเกาหลีใต้
2. Hyundai
Hyundai(ฮุนได) ในฐานะบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ฮุนไดมีบทบาทสำคัญในแวดวงรถยนต์ไฟฟ้า ฮุนไดได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น Hyundai Kona Electric และ Hyundai Ioniq 5 ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม Hyundai ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Hyundai Ioniq 5 | 1,699,000 บาท |
| Hyundai Kona Electric | 1,849,000 บาท |
3. KIA
Kia(เกีย) คือผู้เล่นหลักในกลุ่มฮุนไดมอเตอร์ KIA มีส่วนสำคัญต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ เช่น KIA Niro EV และ KIA EV6 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ KIA ในด้านตัวเลือกไฟฟ้าที่หลากหลายและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยคำว่า KIA มาจากภาษาเกาหลีที่หมายถึง เกิดขึ้นไปทั่วโลกจากเอเชีย โดย KI แปลว่า ออกมา และ A ย่อมาจาก Asia ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการขยายฐานธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| KIA EV6 | 1,850,000 บาท |
| KIA Niro EV | 1,086,000 บาท |
รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติยุโรป
4. MINI Cooper
MINI Cooper(มินิคูเปอร์) เป็นบริษัทที่ถูกควบคุมกิจการโดย BMW นำเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของรถมินิคูเปอร์ สู่อาณาจักรแห่งพลังงานไฟฟ้าด้วย MINI Cooper SE รุ่นรถยนต์ไฟฟ้านี้ยังคงรักษาเสน่ห์ดึงดูดใจของ รถ MINI แบบคลาสสิก ในขณะเดียวกันก็นำเอาเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าขั้นสูงมาปรับใช้ การรุกเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ MINI Cooper สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ BMW ที่มีต่อแบรนด์ลูกและการพัฒนาโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสมัยใหม่ในอีกหนึ่งเป้าหมายทางการตลาด

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| MINI Cooper SE | 2,459,000 บาท |
5. Jaguar
Jaguar(จากัวร์) แบรนด์รถยนต์สุดหรูจากกลุ่มอังกฤษ(British Jaguar Land Rover) เปิดตัว Jaguar I-Pace รถยนต์ SUV ไฟฟ้าสุดหรู Jaguar ผสมผสานความสง่างามสุดหรูหราสไตล์ผู้ดีอังกฤษเข้ากับเทคโนโลยีไฟฟ้าขั้นสูง มอบประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียม I-Pace ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของ Jaguar ในด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| i-PACE AWD S | 5,499,000 บาท |
| i-PACE AWD SE | 6,299,000 บาท |
| i-PACE AWD HSE | 6,999,000 บาท |
6. Audi
Audi(อาวดี้) ก่อตั้งที่เมืองซวิคเกาในรัฐซัคเซิน เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม Volkswagen Group(เครือฟ็อลคส์วาเกิน) จากฐานผลิตขนาดใหญ่ใน 9 ประเทศทั่วโลก ยกระดับการขับเคลื่อนรถยนต์หรูอย่าง Audi ด้วยพลังงานมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุดต่างๆ อย่าง Audi e-tron ที่ออดี้ผสมผสานความหรูหราเข้ากับการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว โดยนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าเยอรมันสไตล์หรูหรา ที่หลากหลายซึ่งดึงดูดผู้บริโภคที่มีวิสัยทัศน์

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| e-tron GT quattro | 6,390,000 บาท |
| e-tron GT quattro Performance | 6,790,000 บาท |
7. Volvo
Volvo(วอลโว่) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสวีเดนที่โด่งดังด้านความปลอดภัยและความหรูหรา ปัจจุบันถูกเข้าซื้อกิจการโดยบริษัทรถยนต์จีน จี๋ลี่ (Geely Holding Group) และนำวอลโว่เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วย Volvo XC40 รถยนต์ประเภทเอสยูวีไฟฟ้าคันนี้รวบรวมความมุ่งมั่นของวอลโว่ในการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยและหรูหรา ขณะเดียวกันก็ยึดหลักปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Volvo XC40 Plus | 1,990,000 บาท |
| Volvo XC40 Ultimate | 2,490,000 บาท |
8. BMW
BMW(บีเอ็มดับเบิลยู) ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา โฉบเฉี่ยวเป็นที่ชื่นชอบจากนโยบาย BSI Performance และประวัติอันยาวนาน โดยบริษัท BMW เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 12 ของโลก ปัจจุบันได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า BMW ซีรีส์ I เช่น BMW i3 และ BMW iX รถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ผสมผสานคุณลักษณะสมรรถนะสูงเข้ากับความมุ่งมั่นต่อความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของ BMW ในการสร้างอนาคตของการเคลื่อนที่ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นโดยยังคงสมรรภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเช่นเคย

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| BMW i3 | 3,399,000 บาท |
| BMW iX | 5,149,000 บาท |
9. Mercedes Benz
Mercedes-Benz(เมอร์เซเดส-เบนซ์) สุดยอดสัญลักษณ์แห่งความหรูหราด้านรถยนต์สัญชาติเยอรมัน รุ่นรถยนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในขณะนี้คือ Mercedes-Benz EQB ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้า ที่ผสมผสานการแสดงออกด้านความมั่งคั่งเข้ากับความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าของ Mercedes-Benz เป็นตัวอย่างการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหรูหรา มีระดับฐานะ และความยั่งยืนอย่างเรียบง่ายที่ลงตัว

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Mercedes Benz EQB 250 AMG | 3,020,000 บาท |
10. Peugeot
Peugeot(เปอโยต์) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสที่เก่าแก่ มีสัญลักษณะตราโลโก้ที่โดดเด่นและเป็นที่น่าจดจำ ตราประจำเมืองเบลฟอร์ต (BELFORT) ซึ่งเป็นเมืองที่โรงงานแห่งหนึ่งของเปอโยต์ตั้งอยู่ ปัจจุบัน Peugeot ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตได้มีการควบรวมกิจการและใช้ชื่อว่า Stellantis มีเป้าหมายผลักดันวงการรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Peugeot e-2008 ซึ่งเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็กไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าของเปอโยต์เน้นสไตล์ที่แปลกใหม่ ประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดี และความมุ่งมั่นในการพัฒนาโดยรับฟังเสียงผู้บริโภคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Peugeot e-2008 | 2,490,000 บาท |
11. Volkswagen
Volkswagen(โฟล์คสวาเกน) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความประหยัด ก่อตั้งโดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ซึ่งมีเป้าหมายให้ Volkswagen เป็นรถยนต์ประจำชาติเยอรมัน โดยต้องเป็นรถที่มีสมรรถนะดี เกิดประโยชน์ใช้สอยมากพอ และราคาถูกเท่ารถจักรยานยนต์(ในสมัยนั้น) ปัจจุบัน Volkswagen เปิดตัว Volkswagen ID.4 ซึ่งเป็น SUV รถยนต์ไฟฟ้าที่สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของแบรนด์ ประโยชน์ครอบคลุม ราคาเข้าถึงได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Volkswagen ID.4 | 1,620,000 บาท |
12. Porsche
Porsche(ปอร์เช่) หรือ พอร์ช มีชื่อเสียงในด้านรถยนต์ทรงสปอร์ตสมรรถนะการขับขี่สูง ทั้งรถยนต์สปอร์ตคาร์, เอสยูวี และรถเก๋ง Porsche เข้าสู่การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยการเปิดตัว Porsche Taycan รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า โดยรถรุ่นนี้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของปอร์เช่ในการนำเสนอสมรรถนะอันเร้าใจพร้อมเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทันสมัยมากที่สุด

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Porsche Taycan | 6,450,000 บาท |
รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น
13. Fomm
Fomm(ฟอมม์) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นเชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก นำเสนอ Fomm ONE ซึ่งเป็นรถซิตี้คาร์ขนาดกะทัดรัดที่ออกแบบมาเพื่อการเดินทางในเมือง Fomm ตอบสนองความต้องการโซลูชั่นการขนส่งที่ใช้งานได้จริงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในรูปแบบที่กะทัดรัด โดยเป็นรถที่พัฒนาขึ้นเพื่อจะให้เป็น “Mobility” ที่ใช้เดินทางในระยะทางสั้น ๆ

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Fomm ONE | 481,500 บาท |
14. Nissan
Nissan(นิสสัน) บริษัทนิสสันมอเตอร์จำกัดผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือ นิสสันถือเป็นบริษัทรถยนต์รายใหญ่อันดับที่หกของโลกตามหลังโตโยต้า ที่กำลังนำเสนอ Nissan Leaf หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดทั่วโลก ความมุ่งมั่นของ Nissan คือการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก ระดับกลาง ในราคาที่คนทั่วไปสามารถจ่ายได้และภารกิจของนิสสัน ฮิโรโตะ ไซกาวะ (CEO นิสสัน) ประกาศว่ารถยนต์นิสสันจะเป็นรถยนต์ไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น นับแต่ปี 2023 เป็นต้นไป

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Nissan Leaf | 1,590,000 บาท |
15. Lexus
Lexus(เล็กซัส) ผู้ผลิตรถยนต์หรูสัญชาติญี่ปุ่นที่เป็นบริษัทลูกของToyota(โตโยต้า) มุ่งเน้นการผลิตรถยนต์พรีเมี่ยมที่ดีที่สุดและมุ่งเน้นการทำตลาดรถยนต์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป รวมถึงประเทศไทย (คำว่า Lexus ย่อมาจาก Luxury Edition for the United States) ได้เปิดตัว Lexus UX 300e รถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าให้คุ้มค่าที่สุด เลกซัสมีส่วนสนับสนุนกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมโดยมุ่งเน้นที่ความหรูหราและการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Lexus UX 300e | 3,490,000 บาท |
16. Toyota
Toyota(โตโยต้า) ยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ด้านยานยนต์ของญี่ปุ่น สำหรับในประเทศไทย โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน (ประเทศญี่ปุ่น) เป็นผู้ถือหุ้น 86.43% ในบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ซึ่งกำลังเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วย Toyota bZ4X ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าของโตโยต้าเป็นที่รู้จักในด้านความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง(ประหยัด) ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของแบรนด์ในด้านการขนส่งที่ยั่งยืน

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Toyota bZ4X | 1,836,000 บาท |
รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน
17. Wuling
Wuling(หวู่หลิง) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่เน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่เกิดจากการจับมือกันระหว่าง 3 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์จีน อย่าง Shanghai Automotive Industry Corporation (SAIC) และ General Motors และ Liuzhou Wuling Motors เพื่อนำเสนอ Wuling Air EV ซึ่งเป็นรถซิตี้คาร์ไฟฟ้าขนาดเล็กและราคาไม่แพง ผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าของ Wuling ตอบสนองความต้องรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับใช้งานในเมืองที่ใช้งานได้จริงและคุ้มค่าราคาประหยัดมากที่สุดยี่ห้อหนึ่งในไทยขณะนี้

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Wuling Air EV | 395,000 บาท |
18. POCCO
POCCO(ป๊อคโค่) ถือเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในวงการรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์น่ารัก ขนาดเล็ก (ระยะวิ่งเฉลี่ย 150 กิโลเมตร) ที่กำลังเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วย Pocco DD ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองขนาดเล็กและราคาถูกเช่นเดียวกันกับ Wuling(หวู่หลิง) หากแต่ Pocco จดทะเบียนไม่ได้ ซึ่งป๊อคโค่มอบทางเลือกไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดสำหรับชาวเมืองเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Pocco DD | 389,000 บาท |
19. NETA
NETA(เนต้า) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากการร่วมทุนของบริษัท Hozon Auto ในจีน ก่อตั้งโดย Fang Yunzhou วิศวกรออกแบบระบบไฟฟ้าชื่อดัง ที่เริ่มต้นด้วยความคิดจะสร้างรถยนต์ไฟฟ้า(EV) เพื่อประชาชนที่ไม่ได้มีรายได้มากนักในพื้นที่ชนบทประเทศจีนพร้อมมอบส่วนลดพิเศษจากการร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่น ปัจจุบัน Neta ได้นำเสนอ NETA V ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าราคาประหยัดและมีสไตล์ล้ำสมัย การมุ่งเน้นที่สไตล์และราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกหากแต่สมรรนะยอดเยี่ยมของ NETA ทำให้เกิดตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายในตลาดมากมาย

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| NETA V | 549,000 บาท |
20. MG
MG(เอ็มจี) แบรนด์อังกฤษจากบริษัทผู้ผลิต มอร์ริส การาจส์(Morris Garages) ที่ถูกซื้อกิจการโดย(Nanjing Automobile Group)จากประเทศจีนเพื่อผลิตขึ้นใหม่ ปัจจุบัน MG จึงถือเป็นรถยนต์จากประเทศจีน ทั้งวัสดุ วิศวกรรม การออกแบบซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Morris Garages อีกต่อไป ต่อมา MG ถูกนำเข้าประกอบในประเทศไทยโดย เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี ทำให้ปัจุบัน จากกระแสความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า เอ็มจีจึงได้นำเสนอ MG ZS EV ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าราคาประหยัดและใช้งานได้จริง เอ็มจี ผสมผสานการใช้งานจริงให้เข้ากับสไตล์การออกแบบที่โฉบเฉี่ยวและหรูหรามากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ในไทย

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| MG ZS X EV | 1,023,000 บาท |
| MG ZS D EV | 949,000 บาท |
21. Aion
Aion(เอไอออน) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในเครือ GAC Aion บริษัทเจ้าของโรงงานไฟฟ้าบริสุทธิ์แห่งแรกในประเทศจีน มีจุดเด่นคือเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะที่กำลังวางแผนตั้งโรงงานประกอบรถยนต์และแบตเตอรี่ในประเทศไทย ปัจจุบันได้นำเข้าพร้อมเปิดตัวการจำหน่าย Aion Y รถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าที่มีสไตล์และราคาไม่แพง ผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าของ Aion เน้นการผสมผสานระหว่างความสวยงาม ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| AION Y Plus | 899,999 บาท |
22. Changan
Changan(ฉางอัน) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ถูกควบคุมและเป็นเจ้าของโดยรัฐจีน Changan ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่เก่าแก่และได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับสองของจีน ที่ปัจจุบันChangan(ฉางอัน)กำลังร่วมทุนกับหัวเว่ย(Huawei)ในปี 2023 เพื่อสนับสนุนและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอัจริยะอย่าง Changan Deepal S7 ซึ่งเป็นรถ SUV ไฟฟ้าราคาประหยัดและใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดที่กำลังเปิดขายในไทยขณะนี้

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| Changan Deepal S7 | 1,399,000 บาท |
23. BYD
BYD(บีวายดี) บริษัทข้ามชาติสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ก่อตั้งโดย Wang Chuanfu จาก BYD Auto ซึ่งผลิตตั้งแต่รถยนต์นั่งโดยสาร รถโดยสารสารธารณะ รถบรรทุก จักรยานไฟฟ้า รถยก และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ครบวงจร รถยนต์ไฟฟ้า BYD ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของ BYD Group บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่อันดับสามของโลก ในไทย BYD มีฐานความคิดตามคอนเซป Build Your Dreams จึงได้นำเสนอ BYD Atto3 ซึ่งเป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่หรูหราและมีภายในที่กว้างขวาง รถยนต์ไฟฟ้าของ BYD เป็นที่รู้จักในด้านนวัตกรรม โดยผสมผสานความหรูหราดั่งความฝันเข้ากับด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับผู้บริโภคที่กำลังมองหาความคุ้มค่าที่เชื่อถือได้

| รุ่นย่อย | ราคาเริ่มต้น |
|---|---|
| BYD Atto3 | 1,199,900 บาท |
สรุป
จากการตอบรับของผู้คนจำนวนมากในประเทศไทยต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า(EV)เพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน ทำให้แบรนด์ผู้ผลิตและบริษัทรถยนต์ทั้ง 23 แห่งที่เรานำเสนอได้มอบความหลากหลายในด้านภาพลักษณ์และเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2024 ดังน้น ไม่ว่าคุณจะให้ความสำคัญกับความหรูหรา ความคุ้มค่า รถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาถูก หรือเน้นย้ำที่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า(EV)ในไทยตอนนี้มีรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับทุกความต้องการบนท้องถนน อย่างไรก็ดี โปรดติดตามการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นในขณะที่โลกแห่งการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ากับ Ev2Gang เพราะเราจะไม่หยุดยั้งอัพเดทข่าวสารและบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าต่อไป หรือหากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอื่นใด อย่าลังเลที่จะ ติดต่อเรา เพื่อรับคำปรึกษาได้ทันที 24 ชม. หรือ เยี่ยมชมรถยนต์ไฟฟ้ามือสองที่น่าสนใจได้ที่ รายการรถยนต์ไฟฟ้า ของเราทันที สำหรับวันนี้ ขอบคุณครับ

