ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
รวมรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 2024 รุ่นไหนน่าใช้บ้าง
Suttinun Poomkung | 19 January 2567 10:59

รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 2024 รุ่นไหนดี
กดเลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่คุณอยากรู้ข้อมูลและข้อดี-ข้อเสีย
รู้หรือไม่? รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการประหยัดน้ำมัน
1. รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก BYD Dolphin

ขุมพลัง BYD Dolphin รุ่น Standard Range
- สามารถเดินทางได้ไกลถึง 410 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
- แบตเตอรี่ความจุ 44.9 กิโลวัตต์
- รองรับการชาร์จ AC สูงสุด 6.6 kW
- รองรับการชาร์จแบบ DC สูงสุด 60 kW
- แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม. ภายใน 12.3 วินาที
- ทำความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม.
ขุมพลัง BYD Dolphin รุ่น Extended Range
- สามารถเดินทางได้ไกลถึง 490 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
- แบตเตอรี่ความจุ 60.48 กิโลวัตต์
- รองรับการชาร์จแบบ DC สูงสุด 80 kW
- แรงบิด 310 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม. ภายใน 7 วินาที
- ทำความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
BYD Dolphin ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมด้วยหัวชาร์จ AC Type 2 ขนาด 7 กิโลวัตต์ และพอร์ตชาร์จ DC ขนาด 60 และ 80 กิโลวัตต์ ชาร์จแบตเตอรี่จาก 30 เปอร์เซ็นต์ เป็น 80 เปอร์เซ็นต์ เพียง 29 นาที มีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (VtoL) จ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 2000w
เทคโนโลยีการขับขี่และระบบความปลอดภัยที่โดดเด่น
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค
- ระบบกระจายแรงเบรก
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
- ระบบป้องกันการลื่นไถล
- ระบบเบรกอัตโนมัติ
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า
- ระบบเตือนเปลี่ยนเลน
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย เบาะนั่งคู่หน้า
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
ราคา BYD Dolphin
- BYD Dolphin Standard Range ราคา 699,999 บาท
- BYD Dolphin Extended Range ราคา 859,999 บาท
ข้อดีของ BYD Dolphin
- BYD Dolphin เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก แต่คุณภาพสูง! ถูกวางอยู่ในระดับกลางระหว่างรุ่นพี่อย่าง BYD Atto3 และ NETA V
- ราคาไม่แรงจนเกินไป มีฟังก์ชันและเทคโนโลยีการใช้งานที่สะดวกสบายกว่า คล่องตัวกว่าและหรูหรากว่า
- ใช้แค่รุ่น Standard ก็เหลือๆ แล้ว แต่ถ้าใครเงินถึงและชอบความคุ้มค่า เราขอแนะนำรุ่น Extended Range ที่มีหลังคาซันรูฟและฟังก์ชันเพิ่มเติม ที่สำคัญติดตั้งที่ชาร์จให้ฟรี ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันเล็กที่อัดเทคโนโลยีมาเยอะมากๆ
ข้อเสียของ BYD Dolphin
- อัตราเร่งเพียงพอต่อการใช้งานแต่ไม่ซิ่ง ใครที่ชอบความเร็วควรเลือกรุ่นที่สูงกว่า
- ฟังก์ชั่นรักษารถออกนอกเลนค่อนข้างน่ารำคาญ แต่ต้องโทษถนนบ้านเราด้วยที่เป๊ะไม่เท่าที่จีน
- ไม่มีแอร์หลังเหมือนรถยุคใหม่หลายๆ คัน แต่แอร์เย็นพอต่อการใช้งาน
อ่านเพิ่มเติม: รีวิวข้อดี-ข้อเสีย BYD Dolphin แต่ละรุ่นย่อยเหมาะกับใคร?
2. รถ EV ขนาดเล็ก ORA Good Cat

ขุมพลัง ORA Good Cat 400 PRO
- วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 400 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
- ความจุแบตเตอรี่ 47.788 kWh
- กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์
- แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม.
ค้นหารถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat 400 PRO มือสอง
ขุมพลัง ORA Good Cat 500 ULTRA
- วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 500 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
- ความจุแบตเตอรี่ 63.139 kWh
- กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์
- แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม.
ค้นหารถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat 500 ULTRA มือสอง
ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมด้วยหัวชาร์จ AC และ DC
ORA Good Cat 400 PRO AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW ประมาณ 8 ชั่วโมง / DC Fast Charger (30-80%) รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW ประมาณ 32 นาที
ORA Good Cat 500 ULTRA AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW ประมาณ 10 ชั่วโมง / DC Fast Charger (30-80%) รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW ประมาณ 40 นาที
เทคโนโลยีการขับขี่และระบบความปลอดภัยที่โดดเด่น
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง
- ระบบอัพเกรดระบบผ่านออนไลน์ FOTA
- การเชื่อมต่อรถผ่านระบบ Application บนมือถือ
- ระบบตรวจสอบหลังคากระจก Panoramic Sunroof และ สั่งปิด
- ระบบตรวจสอบเบาะเป่าลมระบายความร้อน
- ระบบค้นหาตำแหน่งรถยนต์
- ระบบเบรก ABS / EBD / BA
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ควบคุมการลื่นไถล
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในภาวะฉุกเฉิน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
ราคา ORA Good Cat
- Good Cat PRO 400 km. ราคา 828,500 บาท
- Good Cat ULTRA 500 km. ราคา 959,000 บาท
ข้อดีของ ORA Good Cat
- หน้าตาน่ารัก สวยหรูดูแพง ดูเป็นมิตร สาวๆ ชอบ
- ใครชอบช่วงล่างนุ่มๆ คันนี้ถือว่าตอบโจทย์ เพราะนั่งสบายมาก
- ภายในสวยงาม หรูหราเกินคาด
ข้อเสียของ ORA Good Cat
- ไฟหน้ากับไฟเลี้ยวค่อนข้างต่ำ คันอื่นอาจมองเห็นไม่ชัด
- ที่นั่งด้านหลังจะได้รับแรงสั่นสะเทือนมากกว่า
- เบาะหลังพับไม่เรียบ
3. รถยนต์ไฟฟ้าคันเล็ก Neta V
ขุมพลัง Neta V
- ระยะทางในการขับขี่ 384 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
- ความจุแบตเตอรี่ 40.7 kWh
- กำลังสูงสุด 95 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ใน 3.9 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 124 กม./ชม.
เทคโนโลยีการขับขี่และระบบความปลอดภัยที่โดดเด่น
- ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย HSS Body
- ระบบกระจายแรงเบรก
- ระบบควบคุมการทรงตัว
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถออกตัว
- ไฟ Follow Me Home
- จุดยึด ISOFIX
- ระบบ V2L จ่ายไฟฟ้าออกสู่ภายนอก กำลังสูงสุด 3.3 kW
- Cruise Control ระบบล็อกความเร็ว
- ระบบคันเร่งเดียว One-Pedal ปรับระดับได้
ราคา NETA V
NETA V ราคา 549,000 บาท
ข้อดีของ NETA V
- อะไหล่และค่าบำรุงรักษาถูกกว่าแบรนด์อื่น เนื่องจากเป็นรถราคากลางๆ
- เป็นรถเล็ก แต่ระยะตัวถังด้านล่างห่างจากพื้นถนนค่อนข้างสูง ขับลุยไปได้ทุกที่
- วัสดุอุปกรณ์ไม่พรีเมียม ดูธรรมดา แต่ก็ถือว่าทำได้ดี
ข้อเสียของ NETA V
- รถมีน้ำหนักเบา เวลาขับเร็วจะส่ายได้ง่าย
- ช่วงล่างแข็ง ต้องไปเซ็ตช่วงหล่างใหม่ถึงจะดีขึ้น
- แอร์ไม่แอร์ไม่คงที่ เดี๋ยวหนาวไป เดี๋ยวร้อนไป
4. รถไฟฟ้าขนาดเล็ก VOLT City EV

ขุมพลัง VOLT City EV FOR-TWO
- วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 165 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
- ความจุแบตเตอรี่ 11.8 kWh
- กำลังสูงสุด 40 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 102 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม.
ขุมพลัง VOLT City EV FOR-FOUR
- วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 210 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
- ความจุแบตเตอรี่ 16.5 kWh
- กำลังสูงสุด 46 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม.
การชาร์จแบตเตอรี่รองรับเฉพาะการชาร์จแบบ AC กระแสสลับ 3.1 kW
เทคโนโลยีการขับขี่และระบบความปลอดภัยที่โดดเด่น
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเตือนการชนขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ City
- ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง TPMS
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- เข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด
- ชุดอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน
ราคา VOLT City
- VOLT For-TWO ราคา 365,000 บาท
- VOLT For-FOUR ราคา 425,000 บาท
ข้อดีของ VOLT City
- ช่วงล่าง นุ่ม ยวบ ย้วย เหมาะกับการขับในเมืองจ่ายตลาด แบบช้าๆ ไม่รีบ
- รถออกแนวสไตล์แม่บ้านญี่ปุ่น สาวๆ ชอบ
- รถขนาดเล็กกระทัดรัด หาที่จอดง่าย
ข้อเสียของ VOLT City
- ถ้าขับใช้ความเร็วสูงจะสามารถขับได้เพียง 130 กิโลเมตรเท่านั้น
- ไม่เหมาะกับการเจออถนนที่เป็นหลุมหรือบ่อ ลุยมากไม่ได้
- มีแค่ Normal Charge ใช้เวลาชาร์จถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งค่อนข้างนาน
5. รถไฟฟ้าขนาดเล็ก Wuling Air EV

ขุมพลัง Wuling Air EV Standard Range
- วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 200 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
- ความจุแบตเตอรี่ 17.3 kWh
- กำลังสูงสุด 40.2 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด 106 กม./ชม.
- รองรับการชาร์จ AC 2 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ใน 8.5 ชั่วโมง
ขุมพลัง Wuling Air EV Long Range
- วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 300 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
- ความจุแบตเตอรี่ 26.7 kWh
- กำลังสูงสุด 40.2 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด 106 กม./ชม.
- รองรับการชาร์จ AC 6.6 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ใน 4 ชั่วโมง
เทคโนโลยีการขับขี่และระบบความปลอดภัยที่โดดเด่น
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบช่วยหยุดรถบนทางลาดชัน HHC
- ระบบเตือนแรงดันลมยาง TPMS
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- ระบบสัญญาณกันขโมย
รุ่น Long Range จะเพิ่มออปชัน
- ระบบปรับอากาศก่อนขึ้นรถ Remote AC
- กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
- ฟังก์ชั่น Auto Brake Hold
- ระบบกุญแจ Bluetooth Smart Keyless Entry
- ระบบควบคุมการทรงตัว ESC
ราคา Wuling Air EV
- Standard Range ราคา 395,000 บาท
- Long Range ราคา 465,000 บาท
ข้อดีของ Wuling Air EV
- ราคาเข้าถึงง่าย ถือว่าเข้าถึงง่ายที่สุดแล้วในบรรดาทุกรุ่น
- เทคโนโลยีเพียงพอต่อการใช้งานในราคาเบาๆ
- ดีไซน์รถออกแนวน่ารัก เป็นมิตรกับทุกคน
ข้อเสียของ Wuling Air EV
- เทคโนโลยีความปลอดภัยน้อยไปหน่อย
- ศูนย์บริการน้อย ยังต้องอาศัยเวลาอีกสักพัก
อ่านบทความน่าสนใจ
- รวมรถยนต์ไฟฟ้า EV มือสอง ราคาถูก น่าซื้อที่สุด
- 10 ข้อดี-ข้อเสีย รถยนต์ไฟฟ้า อย่าเพิ่งซื้อถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้
- ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า EV ปีนึงต้องจ่ายเท่าไร
- ติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน ราคา? ทำยังไง (ตั้งแต่ต้นจนจบ)
10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ประหยัดพลังงาน
ในยุคปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อน ทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นจนนำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ รถยนต์ไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) ก็ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทั้งยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก เนื่องจากใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน จึงไม่มีการปล่อยแก๊สเรือนกระจกที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของภาวะโลกร้อน เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า มีระบบต่างจากรถยนต์ทั่วไปที่เราคุ้นเคย รวมทั้งมีวิธีการชาร์จหลากหลายรูปแบบ จึงอาจทำให้ผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เป็นครั้งแรกเกิดความสับสน ไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไรดีใช่ไหมคะ
ในครั้งนี้ เพื่อช่วยให้ทุกคนรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า มากขึ้น ทีมงานมายเบสท์จึงได้รวบรวมข้อมูลมาทั้งข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า, วิธีการเลือก และ 10 อันดับรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น แบตเตอรี่คงทน และประหยัดน้ำมัน จากแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ เช่น BMW, NISSAN, MG และ TESLA มาให้ทุกคนใช้ประกอบการตัดสินใจ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
อัปเดตล่าสุดเมื่อ 17/03/2023รีวิวและการจัดลำดับสินค้าของเราเป็นไปอย่างอิสระ โดยไม่ได้รับอิทธิพลจากการสนับสนุนของแบรนด์หรือการจ่ายเงินเพื่อโปรโมตสินค้าแต่อย่างใด แต่หากคุณเลือกซื้อสินค้าผ่านลิงก์ของเรา ทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อดังกล่าว นโยบายกองบรรณาธิการ
Top 5 รถยนต์ไฟฟ้า ยอดนิยม
1
MG
NEW MG ZS EV

รถยนต์ไฟฟ้า SUV กว้างขวางนั่งสบาย นวัตกรรมอัจฉริยะจัดเต็ม
2
TESLA
Model 3 Standard Range Plus

ที่สุดแห่งรถยนต์ไฟฟ้าการันตีด้วยยอดขายอันดับ 1 ของโลก
3
NISAAN
Nissan Leaf

แสนสะดวก เร่งและเบรกได้ในคันเร่งเดียวด้วยเทคโนโลยี e-Pedal
4
MG
NEW MG EP

คุ้มเกินราคา สัมผัสความประหยัดและฟังก์ชันสุดล้ำในราคาไม่ถึงล้าน
5
BMW
I3s

ประหยัดยิ่งขึ้นด้วย One-Pedal Feeling สุดพิเศษจาก BMW

มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนประวัติของ กองบรรณาธิการ mybest
…อ่านต่อ
สารบัญ
- Why You Can Trust Us
- รถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือรถ EV คืออะไร ?
- วิธีการเลือกรถยนต์ไฟฟ้า1ตรวจสอบปริมาณความจุของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า2ตรวจสอบหัวชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้า3ตรวจสอบระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
- 10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ประหยัดพลังงานNo. 1MG | NEW MG ZS EVNo. 2TESLA | Model 3 Standard Range PlusNo. 3NISAAN | Nissan LeafNo. 4MG | NEW MG EPNo. 5BMW | I3sอื่น ๆ จำนวน 5 รายการ
- บทส่งท้าย
Why You Can Trust Us
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือรถ EV คืออะไร ?
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือที่เรานิยมเรียกกันว่ารถ EV (Electric Vehicle) นั้น คือรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์ โดยระบบจะเก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จได้ และแปลงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ในการขับเคลื่อน ซึ่งต่างจากรถยนต์น้ำมันทั่วไปที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบสันดาปและมีการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิง
โดยข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า คือ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เนื่องจากใช้พลังงานไฟฟ้า 100% จึงไม่มีไอเสีย และไม่มีการปล่อยมลพิษออกมา ทั้งยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า เพราะไม่จำเป็นต้องเสียค่าน้ำมัน และมีชิ้นส่วนในการบำรุงรักษาน้อย นอกจากนี้ เนื่องจากไม่ต้องใช้การจุดระเบิดเผาไหม้ในการขับเคลื่อนเหมือนรถยนต์น้ำมัน ทำให้เครื่องยนต์เงียบ ไม่ส่งเสียงรบกวนขณะขับขี่อีกด้วยค่ะ
วิธีการเลือกรถยนต์ไฟฟ้า
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า กันไปแล้ว ต่อไปเรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน และจำเป็นต้องชาร์จไฟนั้น มีจุดใดที่ควรให้ความสำคัญและควรตรวจสอบก่อนเลือกซื้อบ้าง
1
ตรวจสอบปริมาณความจุของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ยิ่งมีปริมาณความจุของแบตเตอรี่มากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อ อย่าลืมตรวจสอบปริมาณความจุของแบตเตอรี่กันด้วยนะคะ โดยแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า มีอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ Lead-Acid, NiMH (Nickel-Metal Hydride), Ni-Cd (Nickel-Cadmium) และ Li-Ion (Lithium-Ion) ซึ่ง Li-Ion (Lithium-Ion) เป็นประเภทที่นิยมนำมาใช้มากที่สุด เนื่องจากมีน้ำหนักเบา มีขนาดเล็ก จ่ายพลังงานได้อย่างรวดเร็ว และเป็นแหล่งจ่ายพลังงานที่มีความจุมากถึง 100 – 400 kWh ค่ะ
นอกจากปริมาณความจุของแบตเตอรี่แล้ว การจราจร สภาพท้องถนน และการใช้แอร์ภายในห้องโดยสารก็มีผลต่อการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการรถยนต์ไฟฟ้า ที่วิ่งได้ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เราขอแนะนำให้เลือกรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีความจุของแบตเตอรี่ 40 kWh ขึ้นไปค่ะ
2
ตรวจสอบหัวชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้า
เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีหัวชาร์จหลายแบบ และมีระยะเวลาในการชาร์จกับความสามารถในการรองรับกระแสไฟแตกต่างกัน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสมและตรงกับความต้องการ อย่าลืมตรวจสอบประเภทของหัวชาร์จกันด้วยนะคะ โดยหัวชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้านั้น สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
- หัวชาร์จสำหรับไฟกระแสสลับ (AC) Type 1 เป็นหัวต่อแบบ 5 Pin และเป็นการชาร์จแบบ Single Phase สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าได้ 7.4 kWh
- หัวชาร์จสำหรับไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) Type 2 เป็นหัวต่อแบบ 7 Pin โดยทั่วไปสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าได้ 3.7 kWh แต่หากเป็นการชาร์จแบบ 3 Phase สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าได้ 22 kWh
- หัวชาร์จสำหรับไฟฟ้ากระแสตรง (DC) CHAdeMO พบได้ในรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา แต่ยังไม่ค่อยแพร่หลายในประเทศไทย
- หัวชาร์จสำหรับไฟฟ้ากระแสตรง (DC) Combined Charging System มีกำลังในการจ่ายไฟสูง รองรับทั้งการชาร์จแบบกระแสตรงและกระแสสลับ โดยส่วนบนของปลั๊กจะใช้สำหรับกระแสไฟสลับ และส่วนล่างใช้สำหรับไฟกระแสตรง
นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังมีรูปแบบการชาร์จไฟอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ แบบ Quick Charge เป็นการชาร์จไฟกระแสตรง, Normal Charger แบบเครื่องชาร์จ Wall Box ซึ่งเป็นการชาร์จด้วยไฟด้วยกระแสไฟฟ้าสลับ (AC Charging) และ Normal Charger แบบต่อจากเต้ารับภายในบ้านโดยตรง ซึ่งมิเตอร์ไฟของบ้านจะต้องสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 15(45)A ขึ้นไป และหากคุณเลือกประเภทได้เหมาะสมกับกำลังไฟและพื้นที่ใช้สอย รับรองว่าจะสามารถใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยแน่นอนค่ะ
3
ตรวจสอบระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า คุณสามารถชาร์จไฟได้ทั้งตู้ชาร์จที่ติดตั้งที่บ้าน (Wall Box) และจุดชาร์จไฟรถไฟฟ้าตามสถานีอัดประจุไฟฟ้าหรือห้างสรรพสินค้าค่ะ ซึ่งรถส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 30 นาที – 15 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ ประเภทของหัวชาร์จ, ความจุของแบตเตอรี่, กำลังไฟฟ้าของจุดจ่ายไฟ, ความสามารถในการรองรับกำลังไฟ และสภาวะอากาศภายนอกค่ะ
โดยหัวชาร์จแบบกระแสตรงจะสามารถชาร์จได้รวดเร็วที่สุด คือภายใน 40 นาที – 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีความจุของแบตเตอรี่มากแต่รองรับกำลังไฟได้น้อย ก็จะยิ่งใช้ระยะเวลาในการชาร์จมาก และนอกเหนือจากเรื่องแบตเตอรี่แล้ว สภาวะอากาศก็มีผลต่อระยะเวลาในการชาร์จเช่นกัน นั่นคือ ยิ่งอุณหภูมิภายนอกสูง ก็จะยิ่งทำให้ระยะเวลาในการชาร์จมากขึ้นตามนั่นเอง ดังนั้น หากคุณต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว เราขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีความจุแบตเตอรี่ไม่มากเกินไป พอดีกับการใช้งาน รวมทั้งรองรับการชาร์จไฟกระแสตรงและกำลังไฟสูงได้ค่ะ
วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?ใช้ได้ใช้ไม่ได้
10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ประหยัดพลังงาน
อันดับต่อไป เราจะขอพาทุกคนไปดูรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งรับรองได้เลยว่าแบตเตอรี่ทนทาน ชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว และมีสมรรถนะในการวิ่งดีเยี่ยมค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว อย่ารอช้า ไปดูกันเลยนะคะว่าจะมีรถรุ่นใด จากผู้ผลิตใดที่น่าสนใจบ้าง
เรียงจากความนิยม
| สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | จุดเด่น | |
|---|---|---|---|---|
| 1 | MGNEW MG ZS EV | ![]() | MG | รถยนต์ไฟฟ้า SUV กว้างขวางนั่งสบาย นวัตกรรมอัจฉริยะจัดเต็ม |
| 2 | TESLAModel 3 Standard Range Plus | ![]() | TESLA | ที่สุดแห่งรถยนต์ไฟฟ้าการันตีด้วยยอดขายอันดับ 1 ของโลก |
| 3 | NISAANNissan Leaf | ![]() | NISSAN | แสนสะดวก เร่งและเบรกได้ในคันเร่งเดียวด้วยเทคโนโลยี e-Pedal |
| 4 | MGNEW MG EP | ![]() | MG | คุ้มเกินราคา สัมผัสความประหยัดและฟังก์ชันสุดล้ำในราคาไม่ถึงล้าน |
| 5 | BMWI3s | ![]() | BMW | ประหยัดยิ่งขึ้นด้วย One-Pedal Feeling สุดพิเศษจาก BMW |
| 6 | AudiE-Tron 55 Quattro | ![]() | AUDI | ร่วมข้ามผ่านขีดจำกัดความแรงด้วย Boost Mode จาก Audi |
| 7 | LEXUSUX 300e | ![]() | LEXUS | รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจาก LEXUS อัตราเร่งดี ภายในเรียบหรู |
| 8 | FOMMFOMM One | ![]() | FOMM | รถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด ขนาดเล็ก กะทัดรัด เคลื่อนที่บนน้ำได้ |
| 9 | HYUNDAIIONIQ Electric | ![]() | HYUNDAI | รถยนต์ไฟฟ้า 4 ประตู คล่องตัว ทันสมัย มีระบบเปลี่ยนเกียร์แบบปุ่ม |
| 10 | KIASoul EV | ![]() | KIA | ที่สุดแห่งสมรรถนะการขับขี่และระยะทางวิ่ง สูงสุดถึง 452 กิโลเมตร |
หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้
No.1
MGNEW MG ZS EV

อ้างอิง:mgcars.com
ราคาอ้างอิง
1,190,000 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ
รถยนต์ไฟฟ้า SUV กว้างขวางนั่งสบาย นวัตกรรมอัจฉริยะจัดเต็ม
NEW MG ZS EV รุ่นนี้ ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรูปลักษณ์สวย โดดเด่น ประหยัด ปลอดภัย และมีนวัตกรรมอัจฉริยะมาแบบจัดเต็มค่ะ โดยตัวรถออกแบบมาให้พื้นที่หลังคามีกระจกมากถึง 90% จึงช่วยให้คุณเพลินเพลินกับทิวทัศน์ภายนอกได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมกับ Synchronized Protection System ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยมาตรฐานจากยุโรป และมีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยให้คุณสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น Easy Connect เชื่อมต่อกับรถตลอดเวลาได้ง่าย ๆ, ระบบกรองอากาศ PM 2.5, ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลและหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกคันที่ขอแนะนำเลยค่ะ
การจัดอันดับสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?ใช้ได้ใช้ไม่ได้
No.2
TESLAModel 3 Standard Range Plus

อ้างอิง:tesla.com
ราคาอ้างอิง
2,500,000 บาท
ราคาปานกลาง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ TESLA
ที่สุดแห่งรถยนต์ไฟฟ้าการันตีด้วยยอดขายอันดับ 1 ของโลก
หากพูดถึงเจ้าแห่งรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว หลาย ๆ คนคงจะนึกถึง Tesla ขึ้นมาเป็นชื่อแรกใช่ไหมคะ ซึ่งสำหรับรุ่นนี้ ก็ยังคงจัดเต็มกับเทคโนโลยีสุดเฉพาะเช่นเดิม นั่นคือระบบ Autopilot ซึ่งเป็นระบบช่วยขับที่ดีที่สุดในตอนนี้ โดยใช้การทำงานของร่วมกันของกล้องนอกรถ เรดาร์และเซ็นเซอร์ ทำให้สามารถประมวลผลได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ Tesla ยังเป็นรถที่ถูกจัดอันดับว่าปลอดภัยเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากโครงสร้างและตัวถังมีความแข็งแรงสูง จึงเพลิดเพลินกับการขับขี่ได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Tesla ยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ สำหรับผู้ที่สนใจจึงต้องซื้อกับผู้นำเข้าอิสระแทนค่ะ
No.3
NISAANNissan Leaf

อ้างอิง:nissan.co.th
ราคาอ้างอิง
1,990,000 บาท
ราคาปานกลาง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ NISSAN
แสนสะดวก เร่งและเบรกได้ในคันเร่งเดียวด้วยเทคโนโลยี e-Pedal
เบื่อกันไหมคะ กับปัญหารถติดที่ต้องคอยสลับเหยียบเบรกและคันเร่งจนปวดขา แต่ NISSAN ก็ได้นำเทคโนโลยี e-Pedal ที่ช่วยให้คุณสามารถเร่งและเบรกได้ในคันเร่งเดียวมาไว้ใน Nissan Leaf รุ่นนี้แล้ว คุณจึงไม่ต้องคอยเหยียบคันเร่งสลับกับเหยียบเบรกบ่อย ๆ เมื่อรถติด ทั้งยังสามารถปิดระบบเมื่อไม่ต้องการใช้ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ด้วยความจุแบตเตอรี่ที่มากถึง 40 kWh จึงขับขี่ทางไกลได้อย่างสบาย อีกทั้งแบตเตอรี่ยังมีความทนทานสูง สามารถใช้งานได้ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตรโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ หากคุณกำลังต้องการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf เป็นอีกรุ่นที่ขอแนะนำเลยค่ะ
No.4
MGNEW MG EP

อ้างอิง:mgcars.com
ราคาอ้างอิง
988,000 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ
คุ้มเกินราคา สัมผัสความประหยัดและฟังก์ชันสุดล้ำในราคาไม่ถึงล้าน
หากพูดถึงแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงสุด ๆ แล้ว อย่างไรก็คงหนีไม่พ้น MG ค่ะ ซึ่งสำหรับรุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าจัดเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความประหยัดมาอย่างเต็มเปี่ยม เช่น ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง, ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง, ระบบเบรกมือไฟฟ้าและ Kers Mode ที่ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่เมื่อชะลอรถ โดยปรับการตั้งค่าได้มากถึง 3 ระดับ นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่กังวลว่ารถยนต์ไฟฟ้าอาจเสียหายได้ง่ายเมื่อโดนน้ำ ก็หมดกังวลได้เลยค่ะ เพราะแบตเตอรี่ของรถคันนี้ได้ผ่านมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 มาแล้วนั่นเองค่ะ
No.5
BMWI3s

อ้างอิง:bmw.co.th
ราคาอ้างอิง
2,230,000 บาท
ราคาปานกลาง
ประหยัดยิ่งขึ้นด้วย One-Pedal Feeling สุดพิเศษจาก BMW
คงจะดีใช่ไหมคะ ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าที่โดดเด่นในเรื่องความประหยัด มีเทคโนโลยีสุดพิเศษช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มไปอีก ซึ่งในรถยนต์จาก BMW รุ่นนี้มีฟังก์ชัน One-Pedal Feeling ที่มอเตอร์จะช่วยชาร์จไฟกลับขณะเบรกหรือถอนคันเร่งจากช่วงความเร็วคงที่ จึงชาร์จไฟได้ตลอดการขับขี่ ทั้งยังสามารถทำความเร็วจาก 0 – 100 ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยใช้เวลา 6.9 วินาทีเท่านั้น ไม่ต้องห่วงว่าเครื่องจะอืดขณะออกตัวเลยค่ะ นอกจากนี้ รุ่นนี้ได้ปรับเปลี่ยนระบบควบคุมการทรงตัวใหม่ ทำให้ช่วงล่างเสถียรมากขึ้นเมื่อต้องเข้าโค้งหรือขับขี่ด้วยความเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากคุณชอบความประหยัด รุ่นนี้คือคำตอบค่ะ
No.6
AudiE-Tron 55 Quattro

อ้างอิง:audi.co.th
ราคาอ้างอิง
5,099,000 บาท
ราคาสูง
ร่วมข้ามผ่านขีดจำกัดความแรงด้วย Boost Mode จาก Audi
หากพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่มีพละกำลังในการวิ่งสูงแล้ว ไม่พูดถึง E-Tron 55 Quattro จาก Audi ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังจากประเทศเยอรมนีคงไม่ได้ค่ะ เนื่องจากมีกำลังสูงสุดในโหมดปกติอยู่ที่ 360 แรงม้า และมีกำลังสูงสุดใน Boost Mode สูงถึง 480 แรงม้า เรียกได้ว่าแรงแบบฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมลุยทุกสภาพพื้นผิว หมดกังวลเรื่องปัญหาอาการโยนตัวของรถไปได้เลย ทั้งยังมีระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์มาตรฐานมาให้อย่างครบครัน เช่น กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง, เซ็นเซอร์หน้า-หลัง, ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง, และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กอีกด้วยค่ะ
No.7
LEXUSUX 300e

อ้างอิง:lexus.co.th
ราคาอ้างอิง
3,490,000 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ LEXUS
รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจาก LEXUS อัตราเร่งดี ภายในเรียบหรู
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจาก LEXUS รุ่นนี้ ออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีดีไซน์หรู ล้ำสมัย ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยวัสดุระดับพรีเมียม เช่น หัวเกียร์หุ้มหนังและเกียร์โครเมียมซาติน รู้สึกได้ถึงความมีระดับตั้งแต่แรกเห็น มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสุดแกร่ง ให้พละกำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ จึงดึงพลังออกมาได้อย่างดีเยี่ยม อัตราเร่งไม่มีตก ทั้งยังจัดวางชุดแบตเตอรี่มาอย่างดี โดยคำนึงถึงพื้นที่ห้องโดยสารและจุดศูนย์ถ่วงของรถ และรองรับกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้ ทำให้ชาร์จได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของฟังก์ชันก็จัดเต็มไม่แพ้กัน เช่น Adaptive Cruise Control, ระบบชาร์จไฟไร้สายและระบบการเชื่อมต่อไร้สายค่ะ
No.8
FOMMFOMM One

อ้างอิง:fomm.co.th
ราคาอ้างอิง
644,000 บาท
ราคาต่ำ
รถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด ขนาดเล็ก กะทัดรัด เคลื่อนที่บนน้ำได้
สำหรับ FOMM One รุ่นนี้เป็นรถส่วนบุคคลขนาดเล็กที่สุดในบรรดารถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยานพาหนะสำหรับเดินทางใกล้ ๆ และใช้ความเร็วไม่มาก โดยรถคันนี้รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 4 ที่นั่ง ทั้งยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า เนื่องจากมีอัตราสิ้นเปลืองเพียง 30 สตางค์ต่อกิโลเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันพิเศษเพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อเกิดน้ำท่วม และออกแบบมาให้สามารถเคลื่อนที่บนน้ำได้ด้วยวงล้อพิเศษ หมดกังวลเรื่องมอเตอร์เสียหายเมื่อเจอกับสภาวะน้ำท่วมขัง รวมทั้งยังมีระบบ High Power Cooler System ช่วยให้สู้กับแดดร้อน ๆ ของประเทศไทยได้สบายอีกด้วยค่ะ
No.9
HYUNDAIIONIQ Electric

อ้างอิง:hyundai.co.th
ราคาอ้างอิง
1,749,000 บาท
ราคาปานกลาง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ HYUNDAI
รถยนต์ไฟฟ้า 4 ประตู คล่องตัว ทันสมัย มีระบบเปลี่ยนเกียร์แบบปุ่ม
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า สำหรับขับขี่ในเมืองสักคัน เราขอแนะนำ IONIQ Electric คันนี้เลยค่ะ เนื่องจากเป็นรถ Sedan 4 ประตู จึงมีความคล่องตัวสูง และไม่ต้องการพื้นที่ในการจอดมาก ทั้งยังสามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 280 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รองรับการชาร์จ 3 แบบ ได้แก่ เต้าเสียบบ้าน, เครื่องชาร์จ Wall Box และสถานีชาร์จเร็ว สะดวก สามารถชาร์จได้ทุกที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ ยังมีระบบการใช้งานที่ทันสมัยมากมาย เช่น เบรกมือไฟฟ้า, ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบปุ่ม และที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่ทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นอย่างแท้จริงเลยล่ะค่ะ
No.10
KIASoul EV

อ้างอิง:kia.com
ราคาอ้างอิง
2,387,000 บาท
ราคาปานกลาง
ที่สุดแห่งสมรรถนะการขับขี่และระยะทางวิ่ง สูงสุดถึง 452 กิโลเมตร
หากคุณต้องการรถยนต์ไฟฟ้าสักคัน ที่มีสมรรถนะในการขับขี่อย่างดีเยี่ยม รถยนต์จาก KIA คันนี้ต้องตอบโจทย์การใช้งานของคุณแน่นอนค่ะ เนื่องจากมีกำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า หมดกังวลเรื่องอาการอืดขณะออกตัวและแซง นอกจากนี้ ยังสามารถวิ่งได้ถึง 452 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง จึงเหมาะสำหรับทั้งผู้ที่ต้องการขับขี่ในเมืองและต่างจังหวัด เพราะไม่จำเป็นต้องชาร์จบ่อย ๆ ในส่วนของระบบความปลอดภัย ก็เรียกได้ว่าให้มาอย่างครบครัน เช่น ระบบเตือนมุมอับด้านข้างและขณะถอยหลัง, ระบบป้องกันการลื่นไหล, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวและถุงลมรอบคัน ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยแน่นอนค่ะ
บทส่งท้าย
นอกจากความจุแบตเตอรี่ ประเภทหัวชาร์จ และความเร็วในการชาร์จแล้ว อีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ สถานที่ชาร์จไฟ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ จำเป็นต้องติดตั้ง Wall Box ไว้สำหรับชาร์จไฟที่บ้าน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ อย่าลืมตรวจสอบพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง รวมทั้งวางแผนเรื่องการเดินสายไฟและติดตั้ง Wall Box ไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสะดวกกันด้วยนะคะ
TOP 5 รถยนต์ไฟฟ้า แนะนำ
อันดับที่ 1: MG|NEW MG ZS EV
อันดับที่ 2: TESLA|Model 3 Standard Range Plus
อันดับที่ 3: NISAAN|Nissan Leaf
อันดับที่ 4: MG|NEW MG EP






