ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กน่าใช้ 2025 จดทะเบียนได้ ไม่เกิน 5 แสนกว่า

Nanna·2024-12-23 17:38:05

รถยนต์ไฟฟ้า EV ไซซ์เล็กในไทย รุ่นไหนดี ราคาคุ้มค่า
สำหรับใครที่อยากได้รถยนต์ไฟฟ้า ราคาไม่เกินล้าน ไซซ์เล็ก ใช้ดี ขับในเมืองสบาย ออกต่างจังหวัดได้ แนะนำรุ่นต่อไปนี้
1. CHANGAN LUMIN
รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ราคาถูก คันแรกที่อยากแนะนำคือ CHANGAN LUMIN เขามีฉายาว่า “น้องหน้าง่วง” แต่น่าใช้มาก ๆ ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ดีไซน์น่ารัก แม้จะเป็นรถ EV 2 ประตู แต่ออปชันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียงพอต่อการใช้งาน
- ให้จอกลางระบบสัมผัส 10.25 นิ้ว UI ใช้งานง่าย
- เกียร์แบบหมุน
- จอผู้ขับขี่เป็น LCD 7 นิ้ว
- พื้นเก็บสัมภาระมา 104 ลิตร
- พับเบาะได้แบบ 50:50 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากถึง 580 ลิตรเลยทีเดียว
ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่
- Wheat Yellow
- Sakura Pink
- Moss Green
- Foggy White
- Magpie Gray
ภายในมีให้เลือก 2 โทน คือ
- โทนเขียว
- โทนส้ม
มอเตอร์ไฟฟ้า: ทั้งสองรุ่นใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM) ที่ให้กำลังสูงสุด 48 แรงม้า และแรงบิด 83 นิวตันเมตร
แบตเตอรี
- Lumin L: ใช้แบต Lithium-ion ความจุ 27.98 kWh ชาร์จได้แบบ AC เท่านั้น
- Lumin L DC: ใช้แบต Lithium-ion ความจุ 28.08 kWh ชาร์จได้ทั้ง AC และ DC
ระยะทาง: ทั้งสองรุ่นวิ่งได้ไกลสุด 301 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
ความเร็วสูงสุด: วิ่งได้เร็วสุด 101 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การชาร์จ
- Lumin L: ชาร์จ AC เต็มใน 10 ชั่วโมง
- Lumin L DC: ชาร์จ AC เต็มใน 10.5 ชั่วโมง และชาร์จ DC จาก 30-80% ได้ภายใน 35 นาที
ราคา CHANGAN LUMIN
- LUMIN รุ่น L ปรับลดราคาเหลือ 379,000 บาท จากปกติ 479,000 บาท
- LUMIN รุ่น L DC ปรับลดราคาเหลือ 399,000 บาท จากปกติ 499,000 บาท
2. NETA V-II
NETA V ได้ต่อยอดความสำเร็จเป็น NETA V-II ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนรุ่นแรกที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย ใครที่กำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก อย่าพลาดรถไฟฟ้า NETA รุ่นนี้ เพราะสเปก ออปชัน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยของเขาจัดเต็มกว่ารุ่นไหน ๆ ในราคาไม่ถึง 5 แสน
ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นในด้านความอเนกประสงค์ NETA V-II ชนะขาด! และรถคันนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่น่าสนใจ เช่น
- Electronic Shifter ก้านเปลี่ยนเกียร์ไฟฟ้าตรงพวงมาลัย
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- หน้าจอกลาง Infotainment Screen 14.6 นิ้ว
- Smart Screen 12 นิ้ว คมชัด บอกข้อมูลครบถ้วน
- เบาะนั่งตาม Ergonomic
- ที่ชาร์จมือถือแบบไร้สาย
- Smart Key ที่มือจับประตู
- ระบบจ่ายไฟออกภายนอก V2L เสมือน Power Bank เคลื่อนที่
- พื้นที่จัดเก็บสัมภาระท้ายรถจุได้ 335 ลิตร ถ้าพับเบาะจุได้มากถึง 588 ลิตรเลยล่ะ
ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่
- Milk Tea (เฉพาะรุ่น Smart)
- Baby Blue (เฉพาะรุ่น Smart)
- Moonlight Green
- Sakura Pink
- White Storm
- Midnight Gray
ภายในมีให้เลือก 3 โทน คือ
- Gray-Black
- Blue-White
- Gray-White
มอเตอร์ไฟฟ้า: Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า และแรงบิด 150 นิวตันเมตร
แบตเตอรี: Lithium-ion ขนาด 36.1 kWh
ระยะทางวิ่งสูงสุด: 382 กิโลเมตร (NEDC)
การชาร์จ
- AC แบบ Type 2 จาก 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง
- DC แบบ CCS Combo จาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ระบบความปลอดภัย (เฉพาะรุ่น Smart)
- Adaptive Cruise Control
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ
ราคา NETA V-II
- NETA V-II LITE ราคา 429,000 บาท (ราคาเดิม 549,000 บาท)
- NETA V-II SMART ราคา 459,000 บาท (ราคาเดิม 569,000 บาท)
3. Wuling Binguo
Wuling Binguo (วู่หลิง บิงโก) รถ EV ขนาดเล็ก แต่จุสัมภาระขนาดใหญ่ได้สูงสุดถึง 790 ลิตร พับราบให้เป็นเตียงนอนได้ แถมมาในสไตล์ Retro แฝงความคลาสสิกไว้ได้อย่างลงตัว หากเปรียบเทียบกับ NETA V-II ด้านความสะดวกในการใช้งานขับขี่ Wuling Binguo ได้เปรียบกว่าพอสมควร เพราะมีจุดเด่นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
- พวงมาลัยไฟฟ้า ปรับสูง-ต่ำได้
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง
- เบรกมือไฟฟ้า
- ช่องเก็บของอเนกประสงค์ 15 ช่อง
- พื้นผิวภายในรถเคลือบเซรามิก
- โหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ (ECO+ / ECO / Normal / Sport)
- เซ็นเซอร์ช่วยจอด
- Keyless พร้อมระบบเข้ารถอัจฉริยะ
ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่
- Milk tea
- Galaxy blue
- Mousse green
มอเตอร์ไฟฟ้า: Permanent Magnet Synchronous ให้กำลังสูงสุด 50 kW หรือ 68 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร
แบตเตอรี: Lithium irion ขนาด 31.9 kWh
ระยะทางวิ่งสูงสุด: 333 กิโลเมตร (CLTC)
ความเร็วสูงสุด: วิ่งได้เร็วสุด 101 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การชาร์จ
- AC 6.6 kW ชาร์จจาก 20% – 100% ใช้เวลาประมาณ 4.5 ชั่วโมง
- DC 50 kW ชาร์จจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
สำหรับรุ่น ICON จะมีออปชันเพิ่มเติม (เพิ่มเงิน 30,000 บาท ได้ออปชันมูลค่า 100,000 บาท)
- หน้าจอคู่ LCD 10.25 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย
- กล้องบันทึกข้อมูลการขับขี่ด้านหน้ารถ 1080p FHD แบบ Built-in WiFi
- Passive Lifetime Warranty (มอเตอร์ / แบตเตอรี / คอนโทรลเลอร์) ตลอดอายุการใช้งาน
- Wallbox Home Charging 7kW พร้อมติดตั้ง
ราคา Wuling Binguo
- BINGUO EV – SR (AC) ราคา 419,000 บาท
- BINGUO EV – SR (AC) ICON ราคา 449,000 บาท
- BINGUO EV – SRD (DC) ราคา 449,000 บาท
- BINGUO EV – SRD (DC) ICON ราคา 479,000 บาท
4. BYD Dolphin
ถ้าคุณอยากได้รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่วิ่งได้ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด BYD Dolphin ค่อนข้างตอบโจทย์ เพราะวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 490 km. (NECD) แถมใช้ e-PLATFORM 3.0 ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจากรถไฟฟ้า BYD ทำให้การขับขี่นุ่มนวล เกาะถนนดี อัตราเร่งเยี่ยม
ส่วนระบบความปลอดภัยใส่มาให้แบบจัดเต็ม ดีไซน์โฉบเฉี่ยวด้วยวิถีแห่งโลมาสมชื่อ มาพร้อมเทคโนโลยีและอุปกรณ์การใช้งานที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น
- ระบบ V2L (Vehicle to Load) จ่ายไฟฟ้าได้ พร้อมปลั๊กต่อ
- ระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking)
- Fixed Panoramic Glass Roof หลังคากระจกขนาดใหญ่ (เฉพาะรุ่น Extended Range)
- Wireless Charging (เฉพาะรุ่น Extended Range)
- เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้าแบบ 6 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น Extended Range)
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ 4 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น Extended Range)
- เบาะนั่งด้านหน้าพร้อมระบบระบายอากาศ
- หน้าจอขนาดใหญ่ 12.8 นิ้ว ปรับหมุนได้ด้วยไฟฟ้า
- NFC / Keyless Card
- USB Ports Type A และ Type C จำนวน 4 พอร์ต
- กระจกไฟฟ้า 4 บาน แบบ One-Touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (รุ่น Standard ได้กระจกไฟฟ้าแค่ด้านคนขับ)
สีตัวถังและภายในของ BYD Dolphin รุ่น Standard มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่
- Coastal Crème ภายในสี Black/Brown
- Flora Purple ภายในสี Brown/Black
- Alaskan Grey ภายในสี Black/Grey
- Coral Pink ภายในสี Pink/Grey
สีตัวถังและภายในของ BYD Dolphin รุ่น Extended มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่
- Coral Pink + Alaskan Grey ภายในสี Pink/Grey
- Atoll Blue + Alaskan Grey ภายในสี Blue/Grey
- Mafic Grey + Graphite Black ภายในสี Black / Grey
- Surge White + Alaskan Grey ภายในสี Black/Grey
มอเตอร์ไฟฟ้า
- Standard Range ใช้ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 70 kW หรือ 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร
- Extended Range ใช้ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 150 kW หรือ 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร
แบตเตอรี
- Standard Range ใช้แบต BYD Blade Battery (LFP) ความจุ 44.9 kWh
- Extended Range ใช้แบต BYD Blade Battery (LFP) ความจุ 60.48 kWh
ระยะทาง
- Standard Range วิ่งได้ไกลสุด 410 km. (NECD)
- Extended Range วิ่งได้ไกลสุด 490 km. (NECD)
อัตราเร่ง 0-100 km/h
- Standard Range ทำความเร็ว 0-100 km/h ภายใน 12.3 วินาที
- Extended Range ทำความเร็ว 0-100 km/h ภายใน 7 วินาที
การชาร์จ
- Standard Range ชาร์จ AC 7 kW ชาร์จ DC 60 kW ชาร์จจาก 30-80% ภายใน 30 นาที
- Extended Range ชาร์จ AC 7 kW ชาร์จ DC 80 kW
Safety Surge ระบบความปลอดภัยจัดเต็มทั้ง 2 รุ่นย่อย
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
- ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ
- ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา
- ระบบช่วยเตือนและระบบเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ
- Adaptive Cruise Control
- ระบบช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ
- ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางรถ
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
ราคา BYD Dolphin
- Standard Range ปรับลดราคาเหลือ 559,900 บาท จากเดิม 699,999 บาท
- Extended Range ปรับลดราคาเหลือ 699,900 บาท จากเดิม 859,999 บาท
BYD Dolphin ผ่านทดสอบชน 5 ดาวจาก LatinNCAP เผยเคล็ดลับเหล็กกล้าที่แข็งแรงสูงถึง 78.2%
รวม 10 รถยนต์ไฟฟ้าขายดีสุดในไทย น่าใช้ขนาดไหน มาดูกัน!
-กกก+
Following

รถยนต์ไฟฟ้า
ติดตาม
การเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างก้าวกระโดดของรถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วนคิดเป็น 9% ของยอดขายรถยนต์สันดาปภายใน ยอดขายที่แซงหน้าตัวเลขเมื่อปีที่ผ่านมา (2565) คือการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศที่ค่อยๆ เปลี่ยนถ่ายจากรถยนต์เชื้อเพลิงไปสู่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่ปัญหาคอขวดที่จุดชาร์จในช่วงวันหยุดกลายเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการตัดสินใจ บวกกับระยะทางที่ทำได้และราคาที่ยังถือว่าแพงกว่ารถยนต์สันดาป สำหรับคนที่ใช้รถเยอะ วิ่งทางไกลบ่อยครั้ง ยังคงยืนยันว่ารถยนต์ไฟฟ้าควรเป็นรถคันที่สองในบ้านสำหรับการทดลองใช้ ก่อนจะเปลี่ยนผ่านอย่างเต็มตัวเมื่อแบตเตอรี่มีระยะทำการไกลมากกว่านี้


…
Advertisements

ตามข้อมูลของ Tesla ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าใน Model 3 มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้ประมาณ 17 ชิ้นเท่านั้น เมื่อเทียบกับ 200 ชิ้น หรือมากกว่านั้นในระบบขับเคลื่อนทั่วไปสำหรับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ความแตกต่างนั้นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อพิจารณาถึงความซับซ้อนของชิ้นส่วนที่ขับเคลื่อนรถ : เครื่องยนต์ ICE มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวหลายร้อยชิ้น ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าโดยทั่วไปมีเพียง 2 ชิ้น ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น มาพร้อมกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อบำรุงรักษาเครื่องจักรที่ซับซ้อนแบบรถ ICE รถยนต์ไฟฟ้าช่วยประหยัดเงินในระยะสั้นสำหรับค่าเชื้อเพลิง สำหรับค่าบำรุงรักษาในระยะยาว คงต้องตามดูกันอีกที การชาร์จไฟที่บ้าน ทำให้ไม่ต้องรอที่สถานีชาร์จ เหมาะสำหรับคนในเขตเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง ออกจากบ้านไปทำงานและกลับเป็นเวลา และนี่คือ 10 รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในไทย

10 รถยนต์ไฟฟ้าขายดีสุดในไทย
อันดับที่ 1 BYD Atto 3
BYD ส่ง Atto3 สองรุ่นลงสู่ตลาดรถยนต์พลังงานสะอาดของไทย หลังจากนั้น กระแสตอบรับก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ยอดขายของ BYD Atto 3 อยู่ในอันดับที่ 1 รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีสุดในไทย 6 เดือนแรกจากมกราคม จนถึงมิถุนายน มียอดขายรวม 11,167 คัน
BYD Atto 3 Extended Range วิ่งไกล 510 กิโลเมตร ราคา 1,199,900 บาท
BYD Atto 3 Standard Range วิ่งไกล 410 กิโลเมตร ราคา 1,099,900 บาท

อันดับที่ 2 Neta V
มาดีด้วยราคาและกลายเป็นขวัญใจของคนต่างจังหวัด Neta V ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ CTL CATL Ternary Lithium ความจุ 38.5 kWh มอเตอร์วางด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ชาร์จเต็มวิ่งไกล320 กิโลเมตร หักกลบลบหนี้ วิ่งใช้งานจริงประมาณ 290 กิโลเมตร ในเมืองขับทั้งวันแบตยังเหลืออีกเพียบ เหมาะกับคนที่มีงบไม่มากและอยากลองใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยที่ยังไม่ได้ขายรถยนต์สันดาปที่ใช้งานเป็นประจำเอาไว้ออกทางไกล ส่วนความเร็วสูงสุด จากทรงของรถไม่ได้เน้นให้วิ่งเร็วมากนัก ทำได้แค่ 121 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 6 เดือนแรกของปี 2566 Neta V ทำยอดขาย 5,955 คัน อยู่ในอันดับที่สอง ตามหลัง BYD Atto 3 อยู่ไกลลิบ
Neta V ราคา 549,000 บาท
…

อันดับที่ 3 Tesla Model Y
Tesla Model Y Rear-Wheel Drive 1,959,000 บาท
มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ขับเคลื่อนให้กำลังสูงสุด 347 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุ 57.5 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 455 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 217 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หัวชาร์จ Type 2 AC 11 kW / CCS Combo DC Fast Charging 170 kW
Tesla Model Y Long Range 2,259,000 บาท
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่เพลาหน้าและเพลาหลัง ขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ขับเคลื่อนสองตัวให้กำลังสูงสุด 514 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 493 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุ 75.0 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 530 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 217 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หัวชาร์จ Type 2 AC 11 kW / CCS Combo DC Fast Charging 250 kW
Tesla Model Y Performance 2,509,000 บาท
รุ่นสูงสุด ของ Model Y ที่จำหน่ายในประเทศ (นำเข้าจากจีน) ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ที่เพลาหน้าและเพลาหลัง ขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ขับเคลื่อนสองตัวให้กำลังสูงสุด 534 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุ 75.0 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 514 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หัวชาร์จ Type 2 AC 11 kW / CCS Combo DC Fast Charging 250 kW
Model Y ทำตัวเลขยอดขาย 6 เดือนแรกในปี 2566 ที่ 3,638 คัน
…

อันดับที่ 4 ORA Good Cat
แมวไฟฟ้าอยู่ในอันดับที่ 4 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของไทย ทำตัวเลขยอดขาย 6 เดือนแรกของปี 2566 ได้ 2,471 คัน โดยมีตัวเลือกรุ่นและระยะทางดังต่อไปนี้
ORA Good Cat รุ่น 400 PRO แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ความจุ 47.788 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 400 กิโลเมตร ราคา 828,500 บาท
ORA Good Cat รุ่น 500 ULTRA แบตเตอรี่ลิเธียม Ternary ความจุ 63.139 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 500 กิโลเมตร ราคา 959,000 บาท
ORA Good Cat รุ่น GT มอเตอร์ไฟฟ้า 171 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium Ternary ความจุ 63.139 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 500 กิโลเมตร ราคา 1,286,000 บาท

…
อันดับที่ 5 MG4 Electric
เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบาย แต่ขับมันเหลือกำลังลาก MG4 EV จำหน่ายในรุ่น X และ D โดยทั้งสองรุ่นนี้มีมอเตอร์ตัวเดียวติดตั้งอยู่ที่ด้านหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน สร้างกำลังได้ 125 กิโลวัตต์ หรือ 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 50.8 kWh ชาร์จไฟจนเต็มทำระยะทาง 425 กิโลเมตร MG4 EV เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.7 วินาที และบรรลุความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง MG4 EV ทำตัวเลขยอดขาย 6 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 1,848 คัน
MG 4 Electric รุ่น D ราคา 869,000 บาท
MG 4 Electric รุ่น X ราคา 969,000 บาท

อันดับที่ 6 MG ES
มอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 51 kWh วางหลัง ขับเคลื่อนล้อหลัง ตัวเลขเคลมจากโรงงาน อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 161 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จเต็มวิ่งไกล 425 กิโลเมตร ราคา 959,000 บาท MG ES สเตชันแวกอนไฟฟ้า ทำยอดขาย 6 เดือนแรกในปี 2566 ไปได้ 1,806 คัน

อันดับที่ 7 Tesla Model 3
ในช่วงเวลาสั้นๆ ของการเจริญเติบโตและประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างรวดเร็ว Tesla ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่ามีความสามารถมากพอ ในการแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์อื่นๆ เท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับนับถือจากผู้คนทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่ที่ชอบเทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งมีความทันสมัยไม่ล้าหลัง สิ่งสำคัญที่ทำให้บริษัท Tesla ประสบความสำเร็จก็คือแนวคิดของ Elon Musk ซีอีโอของแบรนด์ Tesla Model 3 ทำยอดขายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ถึง 1456 คัน
Tesla Model 3 Rear-Wheel Drive ราคา 1,659,000 บาท
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 283 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุ 57.5 kWh ชาร์จเต็ม วิ่งไกล 490 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบชาร์จ ใช้หัวชาร์จแบบ Type 2 AC 11 kW / CCS Combo DC Fast Charging 170 kW
Tesla Model 3 Long Range AWD ราคา 1,879,000 บาท
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ที่ล้อหน้าและล้อหลัง มอเตอร์สองตำแหน่งให้กำลังสูงสุด 498 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 493 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุ 75.0 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 602 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หัวชาร์จ Type 2 AC 11 kW / CCS Combo DC Fast Charging 250 kW
Tesla Model 3 Performance AWD ราคา 2,159,000 บาท
มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 2 ตัว ที่เพลาหน้าและเพลาหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าสองตำแหน่ง ให้กำลังสูงสุด 513 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุ 75.0 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 540 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 261 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หัวชาร์จ Type 2 AC 11 kW / CCS Combo DC Fast Charging 250 kW

อันดับที่ 8 MG ZS EV
มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลัง 177 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.6 วินาที แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 50.3 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 403 กิโลเมตร ครอสโอเวอร์ไฟฟ้ารุ่นปรับโฉมอย่าง MG ZS EV ที่ออกขายมานานพอสมควร ทำตัวเลข 6 เดือนแรกอยู่ที่ 1125 คัน
MG ZS รุ่น D ราคา 949,000 บาท
MG ZS รุ่น X ราคา 1,023,000 บาท

อันดับที่ 9 Volvo XC40 Recharge
ไวกิ้งไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด XC40 Recharge มอเตอร์ไฟฟ้าวางหลัง ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 238 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบตเตอรี่ NMC ความจุ 69 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 565 กิโลเมตร ชาร์จ Wall Box กระแสสลับ AC กำลังชาร์จ 11 kW 0-100% ภายใน 7 ชั่วโมง ชาร์จไฟกระแสตรง DC Quick Charge 0-80% ใช้เวลา 35 นาที Volvo XC40 Recharge Pure Electric มอเตอร์เดี่ยว ราคา 1,990,000 บาท XC40 Recharge ทำยอดขาย 6 เดือนแรกของปี 2566 ไปได้ 560 คัน

อันดับที่ 10 Volvo C40 Recharge
Volvo C40 Recharge Pure Electric รุ่นมอเตอร์เดี่ยวที่เพิ่งจะโผล่ออกมา ราคา 2,090,000 บาท ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว บนเพลาหลัง ขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ NMC ขนาดความจุ 69 kWh กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 238 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ชาร์จเต็มวิ่งไกล 590 กิโลเมตร
Volvo C40 Recharge รุ่น Twin-motor ราคา 2,790,000 บาท มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนหน้า-หลัง 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD แบตเตอรี่ความจุ 75 kWh กำลังสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิด 660 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับการทำระยะทางเมื่อชาร์จไฟมาเต็ม Volvo เคลมมา 580 กิโลเมตร เมื่อลองขับทดสอบด้วยการใช้คันเร่งอย่างระมัดระวังไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง C40 ขับได้ไกลประมาณ 400 กิโลเมตร และเมื่อใช้คันเร่งอย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเร็ว โดยจัดหนักด้วยความเร็วในย่าน 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางจังหวะไปเต็มถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางจะหดลงเหลือประมาณ 310-350 กิโลเมตร Volvo C40 Recharge แม้จะมีราคาแพงเฉียดๆ 3 ล้านบาท แต่ก็เป็นรถที่ถูกใจหลายๆ คน และทำยอดขายไปได้ถึง 406 คัน จากพลังในการเร่งความเร็ว และรูปลักษณ์ที่งดงาม โดยเฉพาะส่วนท้ายนั้นออกแบบได้ดีมาก




แนวคิดยอดนิยมที่ว่า ระบบส่งกำลังของรถยนต์ไฟฟ้า หมายถึงการออกแบบแพลตฟอร์มที่เรียบง่าย นำไปใช้ในยานพาหนะประเภทต่างๆ ได้อย่างหลากหลายมากขึ้น และสามารถคงอยู่ในสายการผลิตได้นานขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ผิด แพลตฟอร์ม BEV จะเรียบง่ายขึ้นและมีวงจรโมเดลที่ยาวขึ้นก็จริง แต่แบรนด์ไหนก็ตามที่สามารถสร้างรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายรุ่นมากที่สุดบนแพลตฟอร์มเดียว จะประสบกับความสำเร็จ ทุกวันนี้ การสร้างแพลตฟอร์มเดียวแล้วใช้งานลากยาวเป็นเวลาถึง 10 ปี อาจทำให้บริษัทรถแห่งนั้นประสบกับความล้มเหลวในที่สุด






แม้ว่าโมเมนตัมจะเพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ายังคงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปภายใน ยังคงมีอุปสรรคอีกมาก เช่น ราคาที่แพงกว่า และสถานีชาร์จก็ไม่ได้มีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ปัญหาคอขวดของสถานีชาร์จทางไกลในช่วงวันหยุดยาว แม้ว่าจะมีการสร้างเพิ่มอย่างต่อเนื่องก็ยังไม่เพียงพอ ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือ การติดตั้งสถานีชาร์จราคาแพงและทำให้มั่นใจว่าโครงข่ายไฟฟ้าจะไม่ล้มเหลวหากทุกคนเสียบปลั๊กพร้อมกัน สิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าก็คือ การมีสถานีชาร์จ Wall Box ที่บ้านเพื่อเสียบปลั๊กชาร์จไฟข้ามคืนโดยไม่ต้องลงทุนมากนักในการติดตั้ง ในขณะที่ผู้พักอาศัยอยู่ในคอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ หรือจอดรถบนถนน ต้องมีจุดชาร์จในขณะที่ทำงาน อุปสงค์ที่ยังคงมีมากกว่าอุปทาน เนื่องจากปัญหาด้านซัพพลายเชนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ประสบปัญหาด้านความล่าช้าในการส่งมอบ สำหรับคนที่ยังกล้าๆ กลัวๆ ว่าจะไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร วิธีการเช่าซื้อเพื่อทดลองขับดูก่อน น่าจะเหมาะสมกว่าการขายรถยนต์สันดาปภายในทิ้งไปแล้วเหลือแค่รถยนต์ไฟฟ้าคันเดียวในบ้านละครับ.

