ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 สวนสนุกเกาหลีใต้ที่ไหนดี เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นคุ้ม ในปี 2025
หมวดหมู่ : Travel Guide
เผยแพร่ 28 พฤษภาคม 2567
เที่ยวเกาหลีไปกี่ทีก็ไม่เบื่อ เพราะประเทศเกาหลีนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมให้ได้สัมผัสมากมาย ทั้งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ธรรมชาติที่สวยงาม อาหารเกาหลีรสเลิศ แหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม รวมถึงสถานบันเทิงและสวนสนุกระดับโลก อาทิ Everland, Lotte World หรือ LEGOLAND วันนี้ KTC ขอชวนคุณไปย้อนวัยกับ 10 สวนสนุกเกาหลี เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นคุ้ม ในปี 2025 แพลนทริปเกาหลีครั้งต่อไปให้สนุกกว่าเดิม ด้วยเครื่องเล่นสุดเร้าใจ โลกเหนือจินตนาการ และบรรยากาศแห่งความสนุก
บัตรเครดิต KTC
รายได้รวมเริ่มต้น 15,000 บาท สมัครเลย (รายได้รวมเริ่มต้น 50,000 บาท สำหรับชาวต่างชาติ )ชื่อนามสกุลหมายเลขโทรศัพท์ 10 หลักอีเมลรายได้ต่อเดือน – กรุณาเลือก – 15,000 – 29,999 บาท 30,000 – 49,999 บาท 50,000 บาท ขึ้นไป ช่วงเวลาที่สะดวกให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับติดต่อกลับภายใน 30 นาที (เวลาทำการ*)เลือกวันเวลาที่สะดวกด้วยตนเอง
ข้าพเจ้ารับทราบว่า บมจ. บัตรกรุงไทย หรือเคทีซีจะเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าข้างต้น เพื่อติดต่อและนำเสนอผลิตภัณฑ์เคทีซี ทั้งนี้ ข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจรายละเอียด ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า แล้ว
เวลาทำการจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08:00 – 20:00 น.
เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09:00 – 18:00 น. ยกเว้น วันหยุดนักขัตฤกษ์ส่งข้อมูล
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.

1. สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland)
สวนสนุกเกาหลี Everland ดินแดนในฝันของคนรักสวนสนุก ติดอันดับโลกในปี 2005 โดยนิตยสาร Forbes ที่ได้ยกให้เอเวอร์แลนด์เป็น 1 ใน 4 สวนสนุกยอดนิยมของโลก ที่นี่เป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี เน้นธีมความเป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย แบ่งออกเป็น 5 โซน ทั้งเครื่องเล่นสำหรับเด็กโซน Global Fair, เครื่องเล่นแบบผาดโผน โซน American Adventure และโซนครอบครัว Magic Land เพลิดเพลินกับสัตว์นานาชนิดที่ Zootopia และรถไฟเหาะ T Express ซึ่งเป็นรถไฟเหาะไม้ที่สูงที่สุดในโลก
- ราคา : บัตรสำหรับ 1 วัน เด็ก 26,000 KRW ผู้ใหญ่ 37,000 KRW
- เวลาทำการ : 10.00-22.00 น.
- ที่อยู่ : 199 Everland-ro, Yongin-si, Gyeonggi-do(Google Map : https://maps.app.goo.gl/yqDZz5XugreHcfoE8)
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายเอเวอร์ไลน์ (Yongin EverLine) ลงสถานีชอนแดเอเวอร์แลนด์ (Jeondae-Everland station) ทางออก 3 จากนั้นขึ้นรถชัทเทิลบัสฟรีไปลงยัง Everland

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.visitbusan.net/
2. สวนสนุกลอตเต้เวิลด์ แอดเวนเจอร์ ปูซาน (Lotte World Adventure Busan)
Lotte World Adventure Busan สวนสนุกเกาหลีเปิดใหม่ที่ปูซาน ยิ่งใหญ่อลังการด้วย 6 โซน ได้แก่ Underland, Queen Lorry’s Royal Garden, Joyful Meadows, Tinker Falls, Rainbow Springs และ Wonder Woods เครื่องเล่นที่เป็นไฮไลต์ห้ามพลาดคือ Giant Digger รถไฟเหาะตีลังกา ความสูง 38 เมตร และ Giant Swing ชิงช้าหมุนยักษ์
- ราคา : บัตรสำหรับ 1 วัน เด็ก 39,000 KRWผู้ใหญ่ 47,000 KRW
- เวลาทำการ : 10.00-21.00 น.
- ที่อยู่ : Busan, Gijang-gun(Google Map : https://maps.app.goo.gl/GP5rsyXhzmCrXdoQA)
- วิธีเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน ลงสถานี Osiria (오시리아) ทางออก 1 แล้วเดินต่ออีก 10 นาที

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/happylotteworld
3. สวนสนุกลอตเต้เวิลด์ โซล (Lotte World Seoul)
เป็นสวนสนุกในโซลที่ต้องไป กับลอตเต้เวิลด์ โซล (Lotte World Seoul) สวนสนุกที่มีพื้นที่ทั้งแบบกลางแจ้งและแบบในร่ม โดยโซนในร่มจะเน้นผจญภัยแบบเด็กๆ เป็นสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไฮไลต์คือลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดใหญ่ ส่วนโซนกลางแจ้งตกแต่งเป็นเกาะเวทมนตร์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ เต็มไปด้วยเครื่องเล่นหวาดเสียวแนวเอ็กซ์ตรีม มี 4 เครื่องเล่นที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ GYRO DROP, GYRO SWING, BUNGEE และ ATLANTIS
- ราคา : บัตรสำหรับ 1 วัน เด็ก 45,000 KRWผู้ใหญ่ 54,000 KRW
- เวลาทำการ : 09.30-22.00 น.
- ที่อยู่ : 240 Olympic-ro, Songpa-gu, Seoul
- (Google Map : https://maps.app.goo.gl/oboFX61jw4krfABn7)
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Jamsil Station (잠실역, จัมชิลหยอก,Seoul Subway Line 2หรือ Line 8) และออกทางออกที่ 4 Lotte World เชื่อมต่อโดยตรงกับสถานี

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/seoullandpark
4. สวนสนุกโซลแลนด์ (Seoul Land)
ย้อนวัยกันต่อที่โซลแลนด์ (Seoul Land) สวนสนุกแห่งแรกของเกาหลี ที่มีวิวสวยล้อมรอบด้วยภูเขาชองกเยซาน ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของเกาหลี และจำลองสถาปัตยกรรมจากทั่วโลกในรูปแบบ World Square มีเครื่องเล่นหลากหลาย เหมาะกับทุกวัย ตอบโจทย์ทั้งครอบครัว ไฮไลต์คือ รถไฟเหาะตีลังกา, หลุมดำ (Black Hole 2000), รถไฟกาแล็กซี, Rapid Current Ride, พรมวิเศษ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงงานเทศกาลที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลด้วย เช่น Seoulland Flower Festival เทศกาลทิวลิปในช่วงเดือนเมษายน
- ราคา : บัตรสำหรับ 1 วัน เด็ก 43,000 KRW ผู้ใหญ่ 49,000 KRW
- เวลาทำการ : 09.30-22.00 น.
- ที่อยู่ : 181 Gwangmyeong-ro, Gwacheon-si, Gyeonggi-do(Google Map : https://maps.app.goo.gl/xZdbZcXtyFugbpy87)
- วิธีเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟใต้ดินสาย 4 ไปยังสถานี daegongwon (Grand Park Station) ทางออกที่ 2 สามารถซื้อบัตร Elephant bus เพื่อไปยังโซลแลนด์

ขอบคุณรูปภาพจาก https://english.seoul.go.kr/seoul-childrens-grand-park/
5. สวนสาธารณะแกรนด์พาร์ค (Seoul Children’s Grand Park)
อยากเที่ยวที่เดียวครบ แนะนำสวนสาธารณะแกรนด์พาร์ค (Seoul Children’s Grand Park) เป็นสวนสาธารณะสำหรับครอบครัว มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ภายในประกอบไปด้วยสวนต้นไม้ดอกไม้ สวนสัตว์ เวทีการแสดงโชว์ น้ำพุ รวมไปถึงสวนสนุก เพื่อให้เด็กๆ และครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันในวันหยุดพักผ่อนที่แสนพิเศษ มี Seoul Children’s Museum พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็ก สำหรับโซนสวนสนุกจะมีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ ที่ผาดโผนไม่มาก อาทิ รถไฟเหาะสำหรับเด็ก ม้าหมุน บรรยากาศชิลๆ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
- ราคา : บัตรสำหรับ 1 วัน เด็ก 19,000 KRW ผู้ใหญ่ 21,000 KRW
- เวลาทำการ : 05.00-22.00 น.
- ที่อยู่ : 216 Neungdong-ro, Gwangjin-gu, Seoul(Google Map : https://maps.app.goo.gl/MoJ7HRXLmiLB2bPc7)
- วิธีเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟใต้ดินสาย 7 ลงที่สถานี Children’s Grand Park Station ทางออก 1

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/LEGOLANDKoreaResort
6. เลโกแลนด์ โคเรีย รีสอร์ท (LEGOLAND Korea Resort)
สวนสนุกเลโก้ ของเล่นยอดนิยมในวัยเด็ก โดยเป็นสวนสนุกเกาหลีเปิดใหม่อยู่ในจังหวัด Gangwon-do ความพิเศษคือสวนสนุกแห่งนี้อยู่บนเกาะ จัดเต็มด้วยเครื่องเล่นมากกว่า 40 ชนิด และมีโรงแรมให้บริการด้วย ภายในมีทั้งหมด 7 โซน ไฮไลต์คือ LEGO Factory Adventure Ride พาน้องๆ หนูๆ ขึ้นรถชมโรงงานเลโก้ ชมหอคอยเลโก้ เมืองจำลอง หรือใครชอบหวาดเสียวหน่อยก็มีเครื่องเล่น The Dragon รถไฟเหาะ มังกรพาลอดปราสาท Royal Castle ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ลึกลับ และบรรยากาศสนุกสนาน
- ราคา : บัตรสำหรับ 1 วัน เด็ก 40,000 KRW ผู้ใหญ่ 50,000 KRW
- เวลาทำการ : 12.00-18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
- ที่อยู่ : 128 Hajungdo-gil, Chuncheon-si, Gangwon-do(Google Map : https://maps.app.goo.gl/9hLvnN9L8saaGXBq7)
- วิธีเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟมาลงที่สถานี Chuncheon ทางออก 1 ต่อรถ shuttle bus บริการฟรีมาส่งถึงหน้าสวนสนุก

ขอบคุณรูปภาพจาก https://english.visitkorea.or.kr/svc/whereToGo/locIntrdn/locIntrdnList.do?vcontsId=88084&menuSn=351
7. สวนสนุกแดกู (Daegu E-World)
สวนสนุกเกาหลีอีกหนึ่งแห่งที่เมืองแดกู เป็นสวนสนุกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาหลี โดยสวนสนุกแดกู (Daegu E-World) แบ่งออกเป็น 4 โซน คือ Fantasy World, Magic World, Adventure World และ Dynamic World แต่ละโซนจะมีเครื่องเล่นแตกต่างกันออกไป และยังมีบ้านผีสิง (Ghost House) ให้ตื่นเต้นชวนสยอง สำหรับโซน Adventure World ก็เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสุดมันส์ อย่าง Bumper car และ Boomerang นอกจากนี้ก็ยังมีสวนสัตว์เล็กๆ ไว้ให้เด็กๆ ได้เข้ามาดู อย่างหนู นก ให้เพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน
- ราคา : บัตรสำหรับ 1 วัน เด็ก 11,000 KRW ผู้ใหญ่ 20,000 KRW
- เวลาทำการ : 10:00-21:30 น.
- ที่อยู่ : 200 Duryugongwon-ro, Dalseo-gu, Daegu(Google Map : https://maps.app.goo.gl/4mfbdBFYRiiyRqacA)
- วิธีเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟ มาลงที่สถานี Duryu ทางออก 14

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/hi.gjw
8. สวนสนุกคยองจูเวิลด์ (Gyeongju World)
ชี้เป้าสวนสนุกเกาหลีที่เมืองคยองจู กับคยองจูเวิลด์ (Gyeongju World) สวนสนุกที่ใครมีแพลนเที่ยวเกาหลีหน้าหนาวต้องมา เพราะไฮไลต์ของที่นี่คือลานสกีกลางแจ้ง Gyeongju World Snow Park มีกิจกรรมเล่นกระดานเลื่อนที่เนินหิมะสุดลาดชันยาว 250 เมตร ส่วนเครื่องเล่นหวาดเสียวยอดนิยมของ Gyeongju World ต้องยกให้ Phaethon roller coaster รถไฟเหาะที่ไม่มีผนังกั้นด้านข้าง บนความสูงที่ 62 เมตร ทิ้งดิ่งด้วยความชัน 90 องศา ทำความเร็วสูงสุดที่ 114.3 กม.ต่อ ชม. แถมด้วยการหมุนตีลังกาอีก 1 รอบ สายลุยที่ชื่นชอบความตื่นเต้นเร้าใจแบบขีดสุดต้องมาลอง
- ราคา : บัตรสำหรับ 1 วัน เด็ก 33,000 KRW ผู้ใหญ่ 47,000 KRW
- เวลาทำการ : 10.00-20.00 น.
- ที่อยู่ : 544 Bomun-ro, Gyeongju-si, Gyeongsangbuk-do(Google Map : https://maps.app.goo.gl/3ud8jvF6wtL9Ktqm7)
- วิธีเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟ KTX (Korea Express Train) จากสถานีโซล ลงที่สถานีชินคยองจู ต่อรถเมล์มาลงที่สวนสนุก

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.shinhwaworld.com
9. สวนสนุกเชจู ชินฮวา เวิลด์ (JEJU SHINHWA WORLD)
สวนสนุกเกาหลี บนเกาะเชจู กับชินฮวา เวิลด์ (JEJU SHINHWA WORLD) ตั้งอยู่ในรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่สุดในเกาหลี มีครบทุกความสะดวก ทั้งสวนสนุก โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ เรียกว่าได้ทั้งเล่นสนุก ได้ทั้งพักผ่อน ในที่เดียวจบ สำหรับที่นี่จะแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ Rotary Park แสดงงานศิลปะ โชว์เทคโนโลยีสมัยเก่า เครื่องจักร หุ่นยนต์ และลานแสดงกิจกรรมด้วย โซนถัดมาคือ Larva Adventure Village มีตัวการ์ตูนน่ารัก เครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ และโซนสุดท้ายคือ Oscar’s New World ให้ความรู้สึกย้อนยุคไปในสมัยของชนเผ่าอินคา พร้อมเครื่องเล่นที่มาแล้วต้องลองคือ Spin’n Bump จานหมุนสุดหวาดเสียว
- ราคา : บัตรสำหรับ 1 วัน เด็ก 29,000 KRW ผู้ใหญ่ 39,000 KRW
- เวลาทำการ : 10.00-18.00 น.
- ที่อยู่ : Jeju-do, Seogwipo-si, 38 Sinhwayeoksa-Ro 304beon-Gil Andeok-Myeon, Seogwipo-Si(Google Map : https://maps.app.goo.gl/EJJ6MmyYsXdqWYr67)
- วิธีเดินทาง : เดินทางจากสนามบินนานาชาติเชจูนั่งรถบัสหมายเลข 250-3 จาก Jeju Interbus Terminal ไปลงที่ป้าย Shinhwa Theme Park

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/KTOThailand
10. สวนสนุกวอลมิ (Wolmi Theme Park & My Land)
ปิดท้ายกันที่สวนสนุกเกาหลีติดทะเล กับวอลมิ (Wolmi Theme Park & My Land) สวนสนุกชื่อดังของเมืองอินชอน ที่นอกจากจะได้ไปสวนสนุกแล้วยังได้เที่ยวทะเลต่อ เหมาะสำหรับเด็กและวัยรุ่น แถมราคาไม่แพง ไม่ต้องเหมาทั้งวันก็ได้ สำหรับสวนสนุกวอลมิ ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่อยู่ติดทะเล สามารถให้อาหารนกนางนวลได้ ด้านเครื่องเล่นที่คนนิยมมากที่สุดคือ Mooneye Whell ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ สัญลักษณ์ของสวนสนุก และ Crazy Crown หมึกที่จะเหวี่ยงเราขึ้นลงด้วยความเร็ว เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
- ราคา : ไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู แต่มีค่าใช้จ่ายเครื่องเล่น 4,000-6000 KRW
- เวลาทำการ : 10.00-22.00 น.
- ที่อยู่ : 81 Wolmimunhwa-ro, Jung-gu, Incheon(Google Map : https://maps.app.goo.gl/L1eiqxTpV79bs2pS8)
- วิธีเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟใต้ดินมาลงที่ Incheon Station ทางออก 1 แล้วต่อรถเมล์มาลงหน้าสวนสนุกวอลมิได้เลย
แลกคะแนนรับส่วนลดสูงสุด 1,400 บาท เมื่อจองกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ ที่ Klook กับบัตรเครดิต KTC

จองกิจกรรมท่องเที่ยว ที่ Klook ใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 1,400 บาท กับบัตรเครดิต KTC
แลกคะแนน KTC FOREVER แลกรับส่วนลดเพิ่มสำหรับการจองผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ Klook จองผ่าน www.klook.com และแอปพลิเคชัน Klook
- 1,000 คะแนน KTC FOREVER = โค้ดส่วนลดเมื่อจองผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ 120 บาท โดยมียอดจองตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป / ครั้งในการทำรายการ
- 3,000 คะแนน KTC FOREVER = โค้ดส่วนลดเมื่อจองผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ 360 บาท โดยมียอดจองตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป / ครั้งในการทำรายการ
- 5,000 คะแนน KTC FOREVER = โค้ดส่วนลดเมื่อจองผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ 650 บาท โดยมียอดจองตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป / ครั้งในการทำรายการ
- 10,000 คะแนน KTC FOREVER = โค้ดส่วนลดเมื่อจองผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ 1400 บาท โดยมียอดจองตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป / ครั้งในการทำรายการ
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 พ.ค. 67 – 30 มิ.ย. 68
ระยะเวลาเดินทาง : ทุกเวลา
พิเศษ! แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12%
เพียงใช้จ่ายที่ Klook และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดซื้อแลกรับเครดิตเงินคืน 12%
10 สวนสนุกในเอเชีย อัปเดตใหม่ สนุกได้ทั้งครอบครัว!

By Editor.Mushroom Travel ( by Lifestyle Travel Photo / shutterstock.com )
ใครที่อยากเติมสีสันให้ทริปเที่ยวต่างประเทศคึกคักกว่าเดิม ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง สนุกกับแก๊งเพื่อนเหมือนแต่ก่อน หรืออยากพาลูกหลานของคุณไปพักสมองจากการเรียน ปลดปล่อยให้สนุกสุดเหวี่ยง มีความสุขกันทั้งครอบครัวแบบไม่ไกลจากจากเมืองไทย ก็ต้องไปเที่ยว สวนสนุกในเอเชีย กันดีกว่า พี่เห็ด มัชรูมทราเวล คัดพิกัดเด็ดๆ มาให้แล้วถึง 10 ที่ มาดูกันว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง…!!
1. Tokyo Disneyland – ญี่ปุ่น

โตเกียวดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกที่มอบประสบการณ์ความสนุกสนานเพลิดเพลินให้กับทุกเพศทุกวัย ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวสวนสนุกเกือบ 20 ล้านคนต่อปี ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทวอลท์ดิสนีย์ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 ซึ่งเป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งแรกที่สร้างขึ้นนอกอเมริกา ประกอบด้วยธีมหลัก 7 โซน ดังนี้
1. World Bazaar ตั้งอยู่ประตูทางเข้าหลักที่ไปยังพาร์ค เป็นโซนแหล่งช้อปปิ้งที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร โดยมีการออกแบบตกแต่งคล้ายยุคศตวรรษที่ 20 ของอเมริกา
2. Tomorrowland โซนนี้ถูกออกแบบเป็นพื้นที่นอกโลก และเทคโนโลยีต่างๆ จากโลกอนาคต เครื่องเล่นน่าสนใจคือ Space Mountain, Star Tours และ Buzz Lightyear’s Astro Blasters ที่จะพาคุณท่องอวกาศข้ามกาแลคซี่
3. Toontown โซนที่อยู่อาศัยของเหล่าตัวละครดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้านมิกกี้เม้าส์ เรือเป็ดโดนัลด์ดั๊ก บ้านต้นไม้ของชิปและเดลล์ และมีเครื่องเล่นรถไฟเหาะขนาดเล็กเหมาะสำหรับเด็กเล็ก
4. Fantasyland โซนภาพยนตร์การ์ตูนดิสนีย์แบบคลาสสิค เป็นที่ตั้งของปราสาทของซินเดอเรลล่า และตัวละครเทพนิยายอื่นๆ เช่น ปีเตอร์แพน สโนว์ไวท์ บ้านของวินนี่เดอะพูห์ เป็นต้น เครื่องเล่นแนะนำที่ไม่ควรพลาดก็คือ Enchanted Tale of Beauty and the Beast ซึ่งตอนนี้มีอยู่แค่ที่โตเกียวที่เดียวในโลก
5. Critter Country โซนบ้านกระต่าย, สุนัขจิ้งจอก, หมี และตัวละครอื่นๆ จากภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง “Song of the South” และยังมีเครื่องเล่นล่องเรือแคนูบนแม่น้ำอเมริกา
6. Westernland โซนจำลองเมืองชายแดนทางทิศตะวันตกตามแนวแม่น้ำอเมริกา เป็นที่ตั้งของเครื่องเล่นรถไฟเหาะ Big Thunder Mountain และมีเกาะ Tom Sawyer ตั้งอยู่กลางแม่น้ำ
7. Adventureland โซนผจญภัยที่คุณสามารถล่องเรือเข้าไปในป่า สำรวจบ้านต้นไม้ของครอบครัวสวิส หรือจะนั่งรถไฟสายแม่น้ำตะวันตก และล่องเรือไปกับโจรสลัดในทะเลแคริบเบียน
นอกจากนี้อย่าพลาดการชมขบวนพาเหรดอันตระการตาของเหล่าตัวละครดิสนีย์ในช่วงตอนเย็นของทุกวัน รับรองว่าจะต้องตื่นตาตื่นใจกับ สวนสนุกในเอเชีย แห่งนี้อย่างแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-22.00 น.
ค่าเข้าชม : บัตร one day pass ผู้ใหญ่ 7,900 – 10,900 เยน / เด็กโต 6,600 – 7,800 เยน / เด็กเล็ก 4,700 – 5,600 เยน (โปรดตรวจสอบราคาในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุกอีกครั้ง)
เว็บไซต์ : https://www.tokyodisneyresort.jp/en/index.html
วิธีการเดินทาง : ขึ้นรถไฟจากสถานี Tokyo สาย JR Keiyo Line หรือ JR Musashino Line ไปลงที่สถานี Maihama
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/9zndWws9pXCJ75jm7
2. Tokyo DisneySea – ญี่ปุ่น

โตเกียว ดิสนีย์ซี อีกหนึ่งสวนสนุกในญี่ปุ่นที่อยู่ติดกับโตเกียวดิสนีย์แลนด์ แถมยังมีแห่งเดียวในโลก เป็นสวนสนุกจากดิสนีย์ในธีมสำรวจทะเล มีเครื่องเล่นสนุกๆ ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากเทพนิยายและตำนานแห่งท้องทะเล ภายในสวนสนุกมีทะเลสาบขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลาง เครื่องเล่นที่นี่จะมีความหวาดเสียวมากกว่าทางฝั่ง Tokyo Disneyland พื้นที่แบ่งออกเป็น 7 โซนหลักๆ ดังนี้
1. ท่าเรือเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Harbor) ตกแต่งเป็นสไตล์อิตาเลียนเหมือนคลองเวนิซ ประเทศอิตาลี มีเรือกอนโดล่าอยู่บริเวณรอบๆ พร้อมชมไฮไลต์อย่าง โชว์พาเหรดบนน้ำ โซนนี้มีเครื่องเล่น 3 เครื่อง ได้แก่ DisneySea Transit Steamer Line, Venetian Gondolas และ Fortress Explorations
2. ชายทะเลฝั่งอาหรับ (Arabian Coast) โซนนี้เป็นการจำลองบรรยากาศของเมืองอาหรับ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องอาลาดินกับตะเกียงวิเศษ เครื่องเล่นจะไม่ได้มีความหวาดเสียวมากนัก สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย
3. ทะเลสาบนางเงือก (Mermaid Lagoon) เป็นโซนที่ตกแต่งในธีมโลกใต้ท้องทะล ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนยอดฮิตอย่าง Little mermaid มีไฮไลต์คือ Mermaid Lagoon Theater โชว์นางเงือกสุดอลังการที่บอกเลยว่าคุ้มค่าแก่การรอคิวจริงๆ
4. เกาะลึกลับ (Mysterious Island) การตกแต่งภายในโซนได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง The Mysterious Island นวนิยายของ Jules Verne สามารถมองเห็นวิว Prometheus Volcano ภูเขาไฟสุดอลังการไฮไลต์ของโซนได้ มีเครื่องเล่นที่ไม่ควรพลาดคือ Journey to the Center of the Earth และ 20,000 Leagues Under the Sea
5. ริมน้ำฝั่งอเมริกา (American Waterfront) โซนจำลองบรรยากาศท่าเรือของเมืองนิวยอร์กในศตวรรษที่ 20 มีเครื่องเล่นยอดฮิตคือ Toy Story Mania และปราสาท Tower of Terror เครื่องเล่น 4D สุดระทึกขวัญ สัมผัสประสบการณ์ตกลิฟต์จากหอคอย
6. เมืองเรือแห่งการค้นพบ (Port Discovery) มาในธีมสถานีวิจัยย้อนยุค ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ อย่าง Finding Dory ซึ่งเป็นภาคต่อจากเรื่อง Finding Nemo เครื่องเล่นที่เป็นไฮไลต์ของโซนนี้ได้แก่ Nemo & Friends SeaRider และ Aquatopia
7. เมืองลับแลสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ (Lost River Delta) โซนนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง Indiana Jones โดดเด่นด้วยพีระมิดแอซเท็ก (Aztec Pyramid) ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางป่าฝนเขตร้อนของอเมริกากลาง ในช่วงปี ค.ศ. 1930 ให้บรรยากาศของการผจญภัย เป็นอีกหนึ่งโซนยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด
และใครที่ชอบเซ็ตตัวการ์ตูนอย่าง Duffy and Friends น้องหมีตัวฟูพร้อมด้วยเหล่าเพื่อนๆ ที่กำลังฮิตสุดๆ สามารถมาเจอตัวการ์ตูนและซื้อของที่ระลึกได้ที่โตเกียวดิสนีย์ซีเท่านั้น ฝั่งโตเกียวดิสนีย์แลนด์จะไม่มีขายนะคะ
เวลาเปิด-ปิด : 09:00-21:00 น.
ค่าเข้าชม : บัตร one day pass ผู้ใหญ่ 7,900-10,900 เยน / เด็ก 6,600-9,000 เยน / เด็กเล็ก 4,700-5,600 เยน
เว็บไซต์ : https://www.tokyodisneyresort.jp/en/tds/
วิธีการเดินทาง : รถไฟลงสถานี Maihama และต่อไปยังสถานี Tokyo DisneySea
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/1pxR7vZzDckoAEuZA
3. Universal Studios Japan – ญี่ปุ่น

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ เจแปน เป็น สวนสนุกในเอเชีย แห่งแรกของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการในปี ค.ศ. 2001 ด้วยความยิ่งใหญ่ แถมแต่ละโซนยังดึงดูดคนจำนวนมาก ตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ภายในมีทั้งเครื่องเล่นสุดมันส์ที่คิวยาวสุดๆ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด แนะนำว่าซื้อบัตรพาสไปเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นรอคิวเป็นชั่วโมงๆ แถมยังเสียเวลาเที่ยวระหว่างรออีกต่างหาก ไม่เพียงแค่เครื่องเล่นที่น่าดึงดูดใจ แต่ยังมีขบวนพาเรด หรือบางวันก็จะมีเล่นเกมแจกของ แจกขนมให้เด็กๆ อีกด้วย โดยสวนสนุกแห่งนี้แบ่งเป็นโซนต่างๆ 10 โซน ได้แก่
1. Super Nintendo World โซนใหม่ล่าสุดที่เหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในเกมมาริโอ้ โดยถือว่าเป็นที่แรกของโลกเลย เครื่องเล่นยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดคือ Mario Kart: Koopa’s Challenge™
2. New York โซนนี้จำลองเมืองนิวยอร์กที่เป็นฉากของภาพยนตร์ดังหลายเรื่องอย่าง Spider Man และยังมี NO LIMIT! Parade การรวมตัวละครจากยูนิเวอร์แซล ออกมาร้องเล่นเต้นรำกันแบบครบทีม
3. Hollywood เหมือนยกฮอลลีวู้ดจากอเมริกามาไว้ที่โซนนี้เลยค่ะ เครื่องเล่นมันส์ๆ ก็มีให้ได้หวาดเสียวกันอย่าง Holly wood Dream the Ride หรือใครอยากจะสัมผัสประสบการณ์ดูหนังแบบ 4 มิติ ที่ครบทุกประสาทสัมผัสเต็มรูปแบบมาตรฐานระดับโลก
4. Jurassic Park สาวกหนังเรื่อง Jurassic Park คงต้องกรี๊ดไปกับไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์เป็นแน่ แถมยังได้ตื่นเต้นไปกับการล่องเรือหนีไดโนเสาร์สุดหวาดเสียว ด้วยการดิ่งจากความสูง 25 เมตร ลุ้นระทึกสุดๆ ไปเลยล่ะ
5. Minion Park โซนรวมความน่ารักของเหล่ามินเนี่ยนสีเหลืองตัวป่วน เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีกิจกรรมให้เล่นสนุกกันตลอดทาง
6. Universal Wonderland โซนโปรดของเหล่าเด็กน้อย ที่รวมเอาคาแร็กเตอร์การ์ตูนมาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hello Kitty, Sesame Street และ Snoopy เครื่องเล่นก็น่ารักเหมาะกับเด็กๆ ถ้าเดินจนเหนื่อยก็มีร้านอาหาร ของกินเล่นให้ได้นั่งกินกันเพลินๆ บอกได้เลยว่าถ้าเด็กๆ มาโซนนี้มีอยู่ยาวแน่ๆ
7. Lagoon นี่เป็นอีกโซนที่เด็กๆ จะต้องชอบมาก เพราะมีโชว์อันน่าตื่นตาตื่นใจของปีเตอร์แพนและผองเพื่อนรออยู่
8. Water World ใครที่เป็นคอหนังแอ็กชั่นและชื่นชอบหนังเรื่อง Water World โซนนี้มีโชว์แอ็กชั่นมันส์ๆ ให้ได้ชม จะดุ เด็ด เผ็ด มันส์ ขนาดไหน ต้องไปดู
9. Amity Village (Jaws) โซนจำลองท้องทะเลจากหนังเรื่อง Jaws ให้เราได้ล่องเรือผ่านฉลามตัวยักษ์ที่โผล่มาเป็นระยะ เล่นเอาใจหายแว๊บ ถึงจะเปียกไปซักนิดแต่แค่มีเสื้อกันฝนก็สบายหายห่วง
10. The Wizarding World Harry Potter โซนยอดนิยมที่เหล่าสาวกพ่อมดน้อย แฮร์รี่ พอตเตอร์ ใฝ่ฝันว่าครั้งหนึ่งต้องมาให้ได้ รับรองว่าจะต้องร้องว้าวไปตลอดทางแน่นอน แต่ละจุดจำลองมาจากหนังได้สมจริงมากๆ มีมุมถ่ายรูปเจ๋งๆ เต็มไปหมด ทั้งปราสาทฮอกวอตส์ ตอนกลางคืนมีการเปิดไฟสวยงามไปอีกแบบ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การชิมบัตเตอร์เบียร์ และซื้อของที่ระลึกจากหนัง แม้ราคาจะแรงไปบ้าง แต่ได้มาเที่ยวสวนสนุกทั้งทีก็ต้องยอม
เวลาเปิด-ปิด : 08.30-22.00 น. (เวลาแตกต่างกันไปในแต่ละวัน โปรดตรวจสอบในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุก)
ค่าเข้าชม : บัตร one day pass ผู้ใหญ่ 8,600 เยน / เด็ก 5,600 เยน / ผู้สูงอายุ 7,700 เยน (ราคาแตกต่างกันไปในแต่ละวัน โปรดตรวจสอบในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุกอีกครั้ง)
เว็บไซต์ : https://www.usj.co.jp/web/
วิธีการเดินทาง : จากรถไฟสาย JR Osaka Loop Line ลงสถานี Nishikujo แล้วเปลี่ยนเป็นสาย JR Yamesaki Line ไปยังสถานีปลายทาง Universal-city Station เดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/APtspEkUGyL8X6QT8
4. Hong Kong Disneyland – ฮ่องกง

ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกในเอเชีย สถานที่ในฝันของใครหลายคน แถมยังอยู่ไม่ไกลจากไทย บอกเลยว่าที่นี่คุ้มไม่แพ้ที่อื่นเลยค่ะ แถมยังมีการปรับปรุงปราสาทใหม่ให้สวยงามอลังการกว่าเดิม พร้อมด้วยโชว์ใหม่สุดพิเศษ โดยเราจะพบกับโซนต่างๆ 6 โซนด้วยกัน จะมาเที่ยวกันเป็นครอบครัวแบบชิลๆ หรือเที่ยวกับแก๊งเพื่อนก็ตอบโจทย์เช่นกัน เรามาดูโซนต่างๆ ของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์กัน
1. World of Frozen โซนใหม่ล่าสุดธีม Frozen แห่งแรกของโลก พบกับดินแดนแห่งเอเรนเดลล์ของเอลซ่าและอันนา ที่ถอดแบบออกมาจากภาพยนตร์เป๊ะๆ พร้อมชม Playhouse in the Woods โชว์พิเศษที่จะได้พบปะกับตัวละครอย่างใกล้ชิด
2. Main Street USA โซนร้านขายของที่ระลึกที่ตกแต่งในสไตล์คันทรี่
3. Tomorrowland ก้าวเข้าสู่โลกแห่งอนาคตที่จะนำพาคุณและครอบครัวไปทัวร์กันบนดวงดาว มีเครื่องเล่นยอดฮิตอย่าง Space Mountain และมีเครื่องเล่นใหม่อย่าง Iron man
4. Fantasyland เติมเต็มทุกจินตนาการในดินแดนแห่งเทพนิยาย มีปราสาทเจ้าหญิงนิทราและเครื่องเล่นน่ารักๆ เหมาะกับเด็กๆ
5. Adventureland และ Grizzly Gulch ตื่นเต้นผจญภัยไปในดินแดนลึกลับในบรรยากาศของป่าอเมซอน ซึ่งทั้งสองโซนนี้อยู่ใกล้กัน สามารถเดินไปมาระหว่างทั้งสองโซนได้
6. Toy Story Land โซนเล็กๆ น่ารัก สีสันสดใสเหมาะกับการถ่ายรูป และมีเครื่องเล่นเบาๆ อย่าง Slinky dog spin, Toy Soldier Parachute drop ส่วนใครชอบความสูงต้องเล่น RC Racer
เพลินกับเครื่องเล่นแล้วอย่าลืมรอชมขบวนพาเหรดและการแสดงดอกไม้ไฟที่ Main Street ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญของที่นี่ ดอกไม้ไฟจะแสดงตอน 20.00 น. ก่อนกลับที่พักกันนะคะ
เวลาเปิด-ปิด : 10.30-20.30 น. (เวลาแตกต่างกันไปในแต่ละวัน โปรดตรวจสอบในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุก)
ค่าเข้าชม :บัตร one day pass ผู้ใหญ่ 639 ดอลล่าร์ฮ่องกง / เด็ก 475 ดอลล่าร์ฮ่องกง / ผู้สูงอายุ 100 ดอลล่าร์ฮ่องกง (โปรดตรวจสอบราคาในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุกอีกครั้ง)
เว็บไซต์ : https://www.hongkongdisneyland.com/
วิธีการเดินทาง : ใช้บริการรถไฟ Mass Transit Railway (MTR) ขึ้นสายดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท (Disneyland Resort Line) ที่สถานี Sunny Bay จะมีรถไฟที่วิ่งจากสถานี Sunny Bay ไป-กลับจากฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ทเป็นประจำ ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงกลางดึก
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/chPRjtcp9ejYYEpCA
5. Universal Studios Singapore – สิงคโปร์

ขยับเข้ามาใกล้ประเทศไทยอีกนิด ไปเที่ยว สวนสนุกในเอเชีย ต่อกันที่ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ สิงคโปร์ สวนสนุกในธีมภาพยนตร์ที่รวมเอาตัวละคร และฉากที่อยู่ในหนังฮอลลีวู้ด แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ และความบันเทิงสำหรับครอบครัวและผู้ชื่นชอบในความตื่นเต้นเร้าใจ พื้นที่ภายในแบ่งเป็นโซนเครื่องเล่นตามธีมภาพยนตร์ ทั้งหมด 6 โซน ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ ได้แก่
1. Hollywood เป็นโซนแรกที่ต้องเดินผ่าน คุณก็จะเจอกับ Hollywood Walk of Fame ทางเท้าที่มีชื่อเสียงในฮอลลีวู้ด สองข้างทางนั้นจะมีทั้งร้านขายของที่ระลึก, ของฝากและสินค้าต่างๆ ของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ, ร้านกาแฟ ทุกร้านจะตกแต่งอย่างสวยงาม
2. New York พบกับวิวทิวทัศน์สองข้างทางของเมืองนิวยอร์กที่น่าประทับใจ ร้านค้าต่างๆ ประดับด้วยป้ายไฟนีออน รวมทั้งทางเข้ารถไฟฟ้าใต้ดินเลียนแบบสถานที่จริงอีกด้วย คุณสามารถเดินเข้าไปในฉากในภาพยนตร์ และสัมผัสประสบการณ์ทำลายล้างสูงของพายุเฮอร์ริเคน พร้อมสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่จัดทำขึ้นโดยผู้กำกับชื่อดัง สตีเว่น สปีลเบิร์ก ทั้งยังมี Sesame Street Spaghetti Space Chase เครื่องเล่นพิเศษแห่งแรกและแห่งเดียวของโลก
3. Sci-Fi City โซนเครื่องเล่นอันสนุกตื่นเต้น โซนไซไฟซิตี้เป็นมุมของ TRANSFORMERS The Ride: The Ultimate 3D Battle หรือการขับรถต่อสู้แบบ 3 มิติเพื่อต่อสู้กับจอมวายร้ายที่ตื่นเต้นเร้าใจ นอกจากนี้ก็ยังมี Accelerator ยานหมุนอวกาศที่จะหมุนด้วยความเร็วสูง ทั้งหมุนรอบตัวและหมุนไปในวงกว้าง และรถไฟเหาะสุดหวาดเสียว Battlestar Galactica ซึ่งมีขนาดความสูงเท่าตึก 14 ชั้น
4. Ancient Egypt โซนอียิปต์โบราณ พบกับสุสานฟาโรห์ต้องคำสาป เครื่องเล่นที่ต้องลองก็คือ Revenge of the Mummy รถไฟเหาะที่จะพาเราท่องเข้าไปในดินแดนนักรบมัมมี่, หลบหลีกลูกบอลไฟที่จะลอยเข้ามา และยังมีฝูงแมลงปีกแข็งที่ตามไล่ล่าเราเหมือนในเรื่องมัมมี่อีกด้วย อีกหนึ่งเครื่องเล่นที่น่าสนใจก็คือ การตามล่าหาสมบัตร Treasure Hunters เป็นการขับรถจี๊ปเข้าไปในเมืองโบราณเพื่อค้นสมบัติที่ซ่อนอยู่
5. The Lost World โซนแห่งการผจัญภัยในยุคไดโนเสาร์ โดยมีเครื่องเล่นทั้งหมด 4 อย่างคือ การปีนหน้าผาหิน Amber Rock Climb ซึ่งที่หน้าผานั้นจะเป็นโครงกระดูกไดโนเสาร์ ให้เราเกาะไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ, Canopy Flyer เครื่องร่อนไดโนเสาร์นกยักษ์ เมื่อมองลงมาจากด้านบนก็จะรู้สึกเหมือนกำลังบินอยู่, Dino-Soarin เครื่องเล่นสำหรับเด็กที่จะได้ขึ้นไปขี่นกยักษ์และบินไปรอบๆ , Jurassic Park Rapids Adventure ล่องแก่งไปในพื้นที่เพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ และ WaterWorld การแสดงโชว์ของสตั๊นแมน จากฉากต่างๆ ที่จะมีสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์เหมือนในหนัง
6. Far Far Away ดินแดนที่จะได้พบกับเหล่าตัวการ์ตูนในภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่องเชร็ค ซึ่งมีทั้งการ์ตูน 4 มิติ Shrek 4-D Adventure, Donkey Live คอนเสิร์ตเล็กเจ้าลาดองกี้, Magic Potion Spin ชิงช้าสวรรค์ เด็กเล็กๆ ก็เล่นได้ และไฮไลท์ของโซนนี้ก็คือ Puss In Boots’ Giant Journey เครื่องเล่นใหม่ล่าสุด ที่จะพาไปผจญภัยต้านแรงโน้มถ่วงกลางอากาศบนยอดต้นถั่วยักษ์ เพื่อตามหาห่านที่ออกไข่เป็นทองคำอันล้ำค่า กับเจ้าแมวเหมียว Puss และ Kitty
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-19.00 น. (เวลาแตกต่างกันไปในแต่ละวัน โปรดตรวจสอบในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุก)
ค่าเข้าชม : บัตร one day pass ผู้ใหญ่ 83 ดอลล่าร์สิงคโปร์ / เด็ก 62 ดอลล่าร์สิงคโปร์ (โปรดตรวจสอบราคาในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุกอีกครั้ง)
เว็บไซต์ : https://www.rwsentosa.com/
วิธีการเดินทาง : ใช้บริการรถไฟใต้ดิน MRT ไปลงที่สถานี HarbourFront จากนั้นต่อรถไฟฟ้านั่งข้ามเกาะไปลงที่สถานี Waterfront
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/q4u8B6BiPDcmLGGZ8
6. Shanghai Disneyland – จีน

ต่อด้วย เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ เป็น สวนสนุกในเอเชีย ตระกูลดิสนีย์แห่งล่าสุดในเอเชีย เปิดให้บริการเมื่อปี 2016 ตั้งอยู่ในเขตผู่ตง เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นวอลท์ดิสนีย์พาร์คแอนด์รีสอร์ตแห่งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่ และเป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งที่สองของจีนถัดจากฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ต ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าที่ฮ่องกงถึง 3 เท่า!! พร้อมด้วยปราสาทดิสนีย์ไซส์ใหญ่สุดๆ พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่
1. Mickey Avenue เป็นโซนแรกที่เจอเมื่อเราผ่านประตูเข้ามา เป็นแหล่งรวมร้านขายของที่ระลึกจากดิสนีย์ แวะไปช้อปกันได้
2. Zootopia Land โซนใหม่ล่าสุดเอาใจสาวก Zootopia บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์ ทั้งยังได้พบกับจูดี้ ฮอปส์, นิค ไวลด์ และตัวละครอื่นๆ ได้แบบใกล้ชิด
3. Disney Pixar Toy Story Land พบกับตัวละครและเครื่องเล่นสุดน่ารักในธีม Toy Story เครื่องเล่นส่วนใหญ่จะไม่ได้หวาดเสียวมากนัก สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย
4. Garden of Imagination บริเวณสวนหน้าปราสาท มีเครื่องเล่นม้าหมุน 2 สไตล์สำหรับเด็กๆ และมี Marvel Universe จัดแสดงอุปกรณ์ในฉากของหนังตระกูล Marvel ด้วย
5. Fantasyland โซนที่ตั้งปราสาทดิสนีย์ขนาดใหญ่ ให้เราได้เข้าไปผจญภัยในโลกแห่งเทพนิยาย มีห้องให้เด็กๆ ได้ลองแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ด้วย นอกจากนี้ยังมีสวนเขาวงกต Alice in Wonderland เข้าไปถ่ายรูปได้เลยค่ะ
6. Treasure Cove โซนแห่งการผจญภัยในธีมโจรสลัด หรือ Pirates of the Caribbean มีกิจกรรมนั่งเรือแคนู เรือโจรสลัด เครื่องเล่น Pirates of the Caribbean – Battle for the Sunken Treasure เครื่องเล่น 4D จำลองการต่อสู้ระหว่างกลุ่มโจรสลัดด้วยกัน
7. Adventure Isle โซนนี้มีการจำลองภูเขาและน้ำตกขนาดใหญ่ในธีม ไลอ้อนคิง และ ทาร์ซาน โดยมีเครื่องเล่นที่จะพาคุณไปผจญภันในป่าลึก
8. Tomorrowland ก้าวสู่ดินแดนแห่งโลกอนาคตไปกับ Buzz Lightyear, TRON รถไฟเหาะที่นั่งรูปแบบจักรยาน ถอดแบบมาจากหนัง รับประกันความหวาดเสียวตื่นเต้น
นอกจากนี้ยังมีขบวนพาเหรดที่จะได้เจอทั้ง มิกกี้เมาส์, เอลซ่า, นีโม่, มู่หลาน, ตัวละครจาก Toy Story และตัวละครอื่นๆ จากดิสนีย์อีกมากมาย แถมช่วงประมาณ 2 ทุ่ม ยังมี Ignite the Dream – A Nighttime Spectacular of Magic and Light การแสดงแสง สี เสียง สุดอลังการให้ชมอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 08.30-21.30 น. (เวลาแตกต่างกันไปในแต่ละวัน โปรดตรวจสอบในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุก)
ค่าเข้าชม : บัตร one day pass ผู้ใหญ่ 475 หยวน / เด็ก 356 หยวน (โปรดตรวจสอบราคาในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุกอีกครั้ง)
เว็บไซต์ : https://www.shanghaidisneyresort.com/
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 11 มาลงที่สถานี Disney Resort ซึ่งเป็นสถานีปลายทางเดินต่อจนเจอน้ำพุสัญลักษณ์ของ Disneyland ด้านหน้าทางเข้า
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/aFK7o9CovGHindVt8
7. Universal Beijing Resort – จีน

ไปต่อกันที่สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของปักกิ่ง มีพื้นที่กว่า 2,500 ไร่ โดยรวบรวมเครื่องเล่นมาตรฐานระดับโลก และการแสดงสุดอลังการไว้มากมาย ภายในสวนสนุกมีการแบ่งออกเป็น 8 โซนใหญ่ๆ ได้แก่
1. City Walk Zone เป็นโซนที่รวบรวมร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน
2. The Wizarding World of Harry Potter โซนที่จะพาทุกคนเข้าไปสู้โลกเวทมนตร์ ชมความอลังการของฮอกวอร์ต แวะชิมเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างบัตเตอร์เบียร์ พร้อมทั้งสัมผัสบรรยากาศสุดตื่นเต้นและชมโชว์จากเหล่าพ่อมดแม่มด
3. Transformer Metrobase เอาใจคอหนัง Transformers เป็นโซนที่รวบรวมเหล่าหุ่นยนต์ตัวยักษ์จากจักรวาลเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมด้วยเครื่องเล่น Decepticoaster รถไฟเหาะสุดหวาดเสียวจะพาทุกคนไปสำรวจเอเนอร์ก้อน (Energon) แหล่งพลังงานของเหล่า Transformers รับรองว่าได้กรี๊ดกันแบบสุดเสียงแน่นอน
4. Kung Fu Panda Land of Awesomeness ธีมกังฟูแพนด้าแห่งแรกของโลก ภายในโซนเต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศของศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของจีน และพาไปชิม Mr.Ping’s Noodle House ร้านบะหมี่ของเตี่ยเฮียโป แพนด้าสุดกล้าหาญพระเอกของเรื่อง
5. Hollywood Boulevard โซนที่ยกเอาสตูดิโอถ่ายหนัง การแสดง ฉากต่างๆ และบรรยากาศของฮอลลีวูดจากอเมริกามาไว้ที่นี่ พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงเบื้องหลังและสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่นำมาใช้จริงในภาพยนตร์
6. Water World ร่วมผจญภัยไปกับกิจกรรมสุดเอ็กซ์ตรีม ผู้ชมจะได้สัมผัส “การต่อสู้เหนือผิวน้ำ” สุดอลังการ และการแสดงสุดตื่นเต้นอีกมากมาย
7. Minion Land เติมความสดใสและเรียกเสียงหัวเราะไปกับตัวละครสุดน่ารักอย่างมินเนี่ยน ภายในโซนมีเครื่องเล่นอย่าง Loop-Dee Doop-Dee รถไฟเหาะที่เหมาะสำหรับครอบครัว และการแสดงที่ไม่ว่าใครได้ชมก็ต้องหลงรัก
8. Jurassic World Islar Nablar ย้อนเวลาเข้าสู่ยุคดึกดำบรรพ์ไปพบกับเหล่าสัตว์โลกล้านปีหลากหลายสายพันธุ์ พร้อมผจญภัยไปในโลกยุคจูราสสิคที่มีทั้งช่องเขา น้ำตก และภูเขาไฟ พร้อมด้วยเอฟเฟ็กต์ แสง สี เสียง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
เวลาเปิด-ปิด : 09:30-19:30 น. (เวลาแตกต่างกันไปในแต่ละวัน โปรดตรวจสอบในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุก)
ค่าเข้าชม : ราคาแตกต่างกันไปในแต่ละวัน สามารถตรวจสอบได้ทางเว็บไซต์ทางการของสวนสนุก
เว็บไซต์ : https://www.universalbeijingresort.com/en
วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดินปักกิ่งสาย 1 (สีแดง) หรือ สาย 7 (สีเหลือง) ลงที่สถานี Universal Resort ทางออก B, C หรือ D จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/BEgiwtZ577RUmtmYA
8. Genting SkyWorlds Theme Park – มาเลเซีย

เก็นติ้งสกายเวิลด์ สวนสนุกในเอเชีย ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา Genting Highland มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 6,000 ฟุต ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี การจะขึ้นไปเที่ยวที่นี่จะได้นั่งกระเช้าขึ้นเขามาที่สวนสนุก ชมวิวทิวเขา ผ่านเมฆหมอก รับอากาศดีๆ ก่อนที่จะมาถึงพื้นที่เก็นติ้งไฮแลนด์ ส่วนพื้นที่ภายในสวนสนุกมีเครื่องเล่นทั้งหมด 26 ชนิด เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แบ่งออกเป็น 9 โซน ดังนี้
1. Studio Plaza ชมการแสดงต้อนรับด้วยการเต้นรำประกอบเพลงจากนักแสดง และร่วมค้นหาตัวละครในภาพยนตร์ที่คุณชื่นชอบ ภายในโซนมีร้านอาหารมุสลิม รวมทั้งร้านขนมสำหรับน้องๆ หนูๆ อีกมากมาย
2. Eagle Mountain โซนนี้มีเครื่องเล่นสำหรับสายแอดเวนเจอร์อย่าง Mad Ramp Peak รถไฟเหาะตีลังกาสองล้อเครื่องเล่นแรกของโลก หลังเล่นเสร็จสามารถมาดูถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอสโลว์โมชั่นของตัวเองที่ทางเจ้าหน้าที่ถ่ายไว้ได้ด้วย
3. Central Park จัตุรัสกลางเมืองสุดคึกคัก เป็นโซนที่ใหญ่ที่สุดและมีเครื่องเล่นมากที่สุดในเก็นติ้งสกายเวิลด์ มีพิพิธภัณฑ์ และเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ
4. Rio ภายในโซนมีเครื่องเล่นสบายๆ เอาใจน้องๆ หนูๆ อย่าง Blue Sky Carousel ม้าหมุนสุดน่ารัก, Samba Gliders ชมวิวทิวทัศน์ของโซน Rio จากมุมสูง และ Rio Carnaval Chaos ถ้วยชาสีสันสดใสที่จะหมุนวนไปเรื่อยๆ
5. Andromeda Base ใครชอบความหวาดเสียวแนะนำโซนนี้เลย เพราะมีเครื่องเล่นไฮไลต์อย่าง Terraform Tower Challenge หอคอยที่จะพาคุณไปยังจุดสูงของเครื่องเล่น และทิ้งดิ่งลงมาอย่างรวดเร็ว
6. Liberty Lane ได้รับแรงบันดาลใจมากจากถนนในซานฟรานซิสโก เพราะเต็มไปด้วยร้านค้าที่มีเอกลักษณ์ ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจจากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Planet of the Apes
7. Epic ร่วมผจญภัยด้วยเวทมนตร์ของ Queen Marigold และสิ่งประดิษฐ์ของศาสตราจารย์ Bomba พบกับตัวละครน่ารักมากมาย และเครื่องเล่น Epic Hummingbird Flyers ที่จะได้ขี่หลังนกฮัมมิ่งเบิร์ดพร้อมชมวิวสวยๆ และรับลมเย็นๆ
8. Robots Rivet Town โซนที่สามารถทำกิจกรรมได้ทั้งครอบครัว เพราะมีเครื่องเล่น Bigweld’s Zeppelins เครื่องเล่นที่สามารถนั่งได้หลายที่นั่ง ชมวิวสวยๆ ของ Robots Rivet Town
9. Ice Age โซนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Ice Age แฟรนไชส์การ์ตูนเอนิเมชั่นที่โด่งดังไปทั่วโลก สนุกไปกับเครื่องเล่นที่สามารสนุกได้ทั้งครอบครัว
เวลาเปิด-ปิด : อาทิตย์-พฤหัสบดี 11:00-18:00 น. ศุกร์-เสาร์ 11:00-20:00 น. (ปิดวันพุธ)
ค่าเข้าชม : บัตร one day pass ผู้ใหญ่ 126 ริงกิตมาเลเซีย / เด็ก 98 ริงกิตมาเลเซีย (โปรดตรวจสอบราคาในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุกอีกครั้ง)
เว็บไซต์ : https://www.gentingskyworlds.com/
วิธีการเดินทาง : รถไฟฟ้าลงที่สถานี KL Sentral จากนั้นต่อรถบัสลงป้าย Genting Highland แฃะต่อด้วยกระเช้าลอยฟ้า
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Q8F7ohocoe34N7Uh8
9. VinWonders Phu Quoc – เวียดนาม

ต่อด้วยสวนสนุกแห่งใหม่ของเวียดนาม อย่าง วินวันเดอร์ส ฟูก๊วก สวนสนุกที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเวียดนาม ตั้งอยู่บนเกาะฟูก๊วก มีเครื่องเล่นกว่า 100 ชนิด ภายในมีทั้งเครื่องเล่น สวนน้ำ อควาเรียม การแสดงแสง สี เสียง กิจกรรม และมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย แบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่
1. Fantasy World โซนที่เหมาะสำหรับเด็กๆ มีเครื่องเล่นมากถึง 11 เครื่องเล่น ภายโซนแบ่งเป็นโซนย่อยอีก 5 โซน ได้แก่ Amazing Kingdom, Forest of Myths, Hidden Oasis, Ancient Valley และ Western Frontier
2. Mysterious Viking Village โซนหมู่บ้านชาวไวกิ้ง มีเครื่องเล่นหลัก 2 เครื่องเล่น คือ Land of Viking และ The Jungle of secrets
3. Adventure World เครื่องเล่นในโซนนี้ส่วนใหญ่จะเน้นแนวลุยๆ หวาดเสียว เหมาะกับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ พร้อมด้วยไฮไลต์อย่างชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่สามารถชมวิวได้แบบชิลๆ
4. The Sea Shell พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ตัวอาคารดีไซน์เป็นรูปน้องเต่าทะเลไซส์ยักษ์ ภายในแบ่งออกเป็นโซนย่อยๆ มากมาย พร้อมด้วยปลาและสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์ แถมยังมีเพนกวินอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นน่ารักๆ สำหรับน้องๆ หนูๆ ไฮไลต์อีกอย่างก็คือ โชว์นางเงือกในตู้ปลาขนาดใหญ่ รอชมให้ได้นะคะ
5. Typhoon World โซนสวนน้ำขนาดใหญ่ที่มีเครื่องเล่นสุดมันส์กว่า 20 ชนิด
6. European Streetmostphere ภายในโซนมีร้านค้าและร้านขายที่ระลึก และมี Hustling Game Village ห้องเกมหยอดเหรียญที่สามารถเล่นได้ฟรีทุกตู้
เวลาเปิด-ปิด : 09:00-19:00 น.
ค่าเข้าชม : ราคาแต่ละแพ็คเกจมีความแตกต่างกัน โปรดตรวจสอบราคาในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุกอีกครั้ง
เว็บไซต์ : https://vinwonders.com/en/vinwonders-phu-quoc/
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8n5y63kNfMoXpgPm7
10. VinWonders Nha Trang – เวียดนาม

ปิดท้ายด้วยสวนสนุกทำเลดีแห่งเวียดนาม อย่าง วินวันเดอร์ส ญาจาง สวนสนุกในเอเชีย ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเกาะอีกฝั่งของเมืองญาจาง มีความยิ่งใหญ่อลังการจนสามารถมองเห็นได้จากฝั่งชายหาดเมืองญาจางเลยทีเดียว การเดินทางมายังสวนสนุกสามารถนั่งเรือสปีดโบ้ท หรือข้ามกระเช้าไปก็ได้ แบ่งออกเป็น 6 โซนหลัก ดังนี้
1. Fairy Land ภายในโซนมี Cosmo Castle ปราสาทสุดอลังการ และมีไฮไลต์คือ Alpine Coaster เครื่องเล่นรถรางเลื่อนที่นอกจากจะได้ความสนุกหวาดเสียวแล้ว ระหว่างทางยังได้ชมวิวธรรมชาติสวยๆ อีกด้วย
2. Adventure Land โซนเครื่องเล่นหวาดเสียวเอาใจสายแอดเวนเจอร์ มีทั้ง Sky Drop, Giant sky chaser และ Swing Carousel
3. King’s Garden โซนนี้จะมีจุดชมวิวที่มองเห็นเมืองญาจางและวิวสวนสนุกได้แบบ 360 องศา เหมาะสำหรับคนที่อยากมาพักเหนื่อย รับลมเย็นๆ พร้อมชมวิวสวยๆ
4. World Garden เป็นโซนที่รวบรวมดอกไม้ พันธุ์ไม้นานาชนิดเข้าไว้ด้วยกัน มีทั้ง Winter Colours, Africa Desert, Aboriginal Village และ Japanese Garden สามารถมาถ่ายรูปสวยๆ ได้
5. Sea World เป็นโซนโลกใต้น้ำที่รวบรวมสัตว์น้ำไว้หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งยังมี Ocean Square อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน พร้อมชมการแสดงนางเงือก และโชว์ให้อาหารปลา
6. Tropical Paradise โซนสวนน้ำที่มีเครื่องเล่นหลากหลายชนิด มีสระสำหรับเด็ก และกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย ใครที่อยากเล่นน้ำแนะนำว่าให้เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนด้วยนะคะ
นอกจากโซนต่างๆ และกิจกรรมในช่วงกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนก็มีการแสดงแสง สี เสียง ที่ผสมผสานกับสายน้ำได้อย่างสวยงามอลังการ เป็นสวนสนุกที่สามารถอยู่ได้ยาวๆ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำเลย
เวลาเปิด-ปิด : 08:00-20:00 น.
ค่าเข้าชม : ราคาแต่ละแพ็คเกจมีความแตกต่างกัน โปรดตรวจสอบราคาในเว็บไซต์ทางการของสวนสนุกอีกครั้ง
เว็บไซต์ : https://vinwonders.com/en/vinwonders-nha-trang/
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/k2gsYYz6zQevhX1b9
บอกเลยว่า สวนสนุกในเอเชีย แต่ละที่ต่างก็มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป ใครที่วางแผนจะไปเที่ยวประเทศใกล้ๆ ในเอเชียอย่างญี่ปุ่น ฮ่องกง เวียดนาม จีน สิงคโปร์ และอยากเพิ่มความสนุกตื่นเต้น แถมได้ถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชียล ก็ไม่ควรพลาดสวนสนุกเหล่านี้เลยค่ะ แต่ละสวนสนุกที่พี่เห็ดคัดมาบอกเลยว่าตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย จะพาลูกเที่ยวช่วงปิดเทอม หรือไปกับแก๊งเพื่อนก็เหมาะสุดๆ เลยค่ะ
ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/
—————
Mushroom Travel บริษัททัวร์ ที่มีโปรแกรมให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
- ← 20 จุดชมซากุระ ญี่ปุ่น ทั่วประเทศ พร้อมช่วงเวลาแนะนำ
- พาเด็กเที่ยวต่างประเทศ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง? ไม่ได้มีแค่พาสปอร์ต! →

