• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0110754 คนไม สวย ลำบากหน อยนะ(ละครส น) part 2

admin79 by admin79
October 1, 2025
in Uncategorized
0
N0110754 คนไม สวย ลำบากหน อยนะ(ละครส น) part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

B AUTOHAUS ภารกิจยกระดับมาตรฐานรถนำเข้า กับ ICONIC CITY SHOWROOM สาขาพร้อมศูนย์บริการต้นแบบ

Date: 20/08/2021Author: Temsiri Just II

บริษัท บี ออโต้ ฮาวส์ จำกัด หรือ “B AUTOHAUS” ผู้จัดจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากทั่วโลก พร้อมด้วยศูนย์บริการลูกค้าอย่างครบวงจร ภายใต้แนวคิด “The 360 Degrees of Auto Services” บริการด้านรถยนต์แบบครบวงจร 360 องศา เดินหน้ายกระดับมาตรฐานการเป็นผู้นำด้วยบริการผ่านออนไลน์ พร้อมเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ B AUTOHAUS ICONIC CITY SHOWROOM ใจกลางกรุงเทพฯ

B Autohaus: Lumpini ตั้งอยู่ในอาคารศรีเฟื่องฟุ้ง บนถนนพระราม 4 ตรงข้ามสวนลุมพินี นับเป็นสาขาที่ 2 พร้อมด้วยศูนย์บริการของ B AUTOHAUS และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับลูกค้าเพื่อความสะดวกสบายในการเยี่ยมชมรถและเข้ารับบริการ ภายในโชว์รูมประกอบไปด้วยรถยนต์หลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่น ทั้งรถสปอร์ต รถครอบครัว รถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงมุมสำหรับคนที่รักการแต่งรถ TECHART CORNER และศูนย์บริการรถยนต์ทุกยี่ห้อ

อัครวัชร คงสิริกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี ออโต้ ฮาวส์ จำกัด กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานมากว่า 30 ปี ผสานกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการทำการตลาดและกิจกรรมที่หลากหลาย ทำให้ฐานลูกค้า B AUTOHAUS มีความหลากหลายและขยายตัวมากขึ้น เราจึงตัดสินใจขยายสาขาโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มเติม โดยเลือกโลเคชั่นลุมพินีใจกลางเมืองและคาดว่าจะตอบโจทย์แก่ผู้อาศัยในย่านต่าง ๆ สะดวกต่อการเดินทาง

“ที่สำคัญ ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับประสาการณ์การบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ทั้งพิเศษและสะดวกสบาย ตั้งแต่การเข้าชม การดูแลในทุกมิติ ตลอดจนการบำรุงรักษาจากช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์”

Live Auction ครั้งแรกของประมูลรถหรูผ่านออนไลน์

สำหรับสาขาลุมพินีแห่งใหม่นี้ B AUTOHAUS ทุ่มงบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ในการปรับปรุงสถานที่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE ICONIC CITY SHOWROOM” นำเสนอความแปลกใหม่รวมไปถึงเทคโนโลยีชั้นนำต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าทุกรูปแบบ  เริ่มตั้งแต่การโชว์รถหรูหลากหลายแบรนด์ หรือรถที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกือบทุกรุ่นทุกค่าย มีโซนสำหรับคนที่รักในการแต่งรถกับชุดแต่งระดับโลกอย่าง TECHART จากประเทศเยอรมนี และ Rowen ชุดแต่งจากประเทศญี่ปุ่น

“ไฮไลท์ของเราคือ การเปิดตัวโชว์รูมด้วยวิธีที่ล้ำสมัย ไม่เหมือนใคร และเป็นที่แรกที่เปิดตัวด้วยการจัดกิจกรรม Live Auction จัดประมูลรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยราคาสุดพิเศษ และปิดการประมูลรถ Cayenne Coupe ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมอย่างครบครันในราคาเพียง 7.3 ล้านบาทเท่านั้น”

ภายในงานการประมูลเปิดตัวโชว์รูม B AUTOHAUS ICONIC CITY SHOWROOM สาขาลุมพินี ครั้งนี้ ยังมีรถรุ่นอื่น ๆ เข้าร่วมประมูลอีกมากมาย อาทิ รถตู้ยอดนิยมอย่าง Toyata Alphard ในราคา 3.15 ล้านบาท, Jeep Renage ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท ทั้งยังมีอุปกรณ์ Accessories อื่น ๆ เข้าร่วมประมูลด้วย ได้แก่ พวงมาลัยจาก Techart แบบ Custom made หรือเครื่องชาร์จรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด Zaptec EV Charger

B Autohaus ให้ความสำคัญกับการนำเข้ารถที่มี ‘ความหลากหลาย’ และ ‘เป็นที่ต้องการจริง’ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ The 360 Degrees of Auto Services ที่ให้บริการอย่างครบวงจร นับตั้งแต่ฝ่ายขาย ฝ่ายบริการ ศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง และฝ่ายสปารถยนต์ เพื่อมุ่งตอบโจทย์ลูกค้าทุกระดับในทุกด้านอย่างมืออาชีพ ที่สำคัญรองรับความต้องการและบริการดูแลรถยนต์ได้หลากหลายยี่ห้อ ซ่อมได้จริงโดยช่างที่มีความเชี่ยวชาญ และยินดีรับซ่อมบำรุงทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะซื้อจากผู้จำหน่ายที่ใดโดยไม่มีค่าแรกเข้า

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมรถยนต์หรือรับบริการที่โชว์รูม B Autohaus ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาถนนวิภาวดี โทร. 02-938-5555 และ สาขาลุมพินี โทร. 083-945-2555 เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ เวลา 08:00น. – 17:00 น.

–

ส่อง 10 อันดับยี่ห้อรถแบรนด์ไหน ขายดีสุด ประจำปี2566

ฐานเศรษฐกิจ

07 ก.พ. 2567 | 03:36 น.

บทสรุปยานยนต์ไทยปี 2566 เช็คเลยยี่ห้อไหนขายดีสุด 10 อันดับแรก พร้อมส่องแนวโน้มตลาดรถยนต์ปี 2567 รุ่ง หรือ ร่วง ตรวจสอบที่นี่

ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2566 ปิดยอดขายในประเทศไป 775,780 คัน หรือลดลง 9% เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยเซกเมนต์ที่หดตัวคือกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์ ที่มียอดขาย 483,275 คัน ลดลง 17 % อย่างไรก็ตามในกลุ่มรถยนต์นั่ง มียอดขายรวม 292,505 คัน เพิ่มขึ้น 10 % 

สำหรับยอดขายรถยนต์ที่ชะลอตัวลงในปีนี้ผ่านมา ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ หนี้ครัวเรือนที่ยังสูง และสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่ในระดับสูง 

เมื่อมาดูยอดขายรถยนต์แบรนด์ต่างๆในปีที่ผ่านมา 5 อันดับแรกยังคงเป็นเหล่าผู้เล่นในตลาดที่อยู่มานานอย่าง โตโยต้า อีซูซุ ฮอนด้า ฟอร์ด มิตซูบิชิ ส่วนอันดับ 6 ของตลาดตกเป็นของแบรนด์จีน  บีวายดี ที่ดันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งนี้สามารถตรวจสอบ 10 อันดับแบรนด์รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยได้ดังนี้

ยี่ห้อรถยนต์ขายดีในไทย10 อันดับแรก (ม.ค.-ธ.ค.66)  

  1. โตโยต้า    265,949 คัน         
  2. อีซูซุ        151,935 คัน      
  3. ฮอนด้า     94,336  คัน      
  4. ฟอร์ด       36,483  คัน      
  5. มิตซูบิชิ    32,668  คัน      
  6. บีวายดี     30,432  คัน    
  7. เอ็มจี        27,311  คัน       
  8. มาสด้า     16,544  คัน     
  9. นิสสัน      16,423   คัน      
  10. เนต้า        13,836  คัน     


สรุปยอดขายแบรนด์จีนปี 2566 

  • บีวายดี     30,432    คัน 
  • เอ็มจี        27,311    คัน     
  • เนต้า        13,836    คัน 
  • เกรท วอลล์ มอเตอร์ 13,039 คัน 
  • GAC AION     88 คัน
     

ยี่ห้อรถยนต์ขายดีในไทย10 อันดับแรก (ม.ค.-ธ.ค.66)ยี่ห้อรถยนต์ขายดีในไทย10 อันดับแรก (ม.ค.-ธ.ค.66)

ส่วนทิศทางตลาดรถยนต์ในปี 2567 จะไปในทิศทางไหน จะเติบโตหรือไม่ มีปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยบวกอะไรที่มีผลกับตลาดบ้าง สามารถตรวจสอบได้ที่นี่

โตโยต้า ประเมินตลาดรวมปี 67 เติบโต 3 % 

โตโยต้า เผยถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2567 คาดว่าจะยังคงอยู่ในสภาวะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปพร้อมๆ กับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ โดยมีปัจจัยรอบด้านที่จะส่งผลกระทบ อาทิ การเติบโตของการบริโภคภาคเอกชนจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น นโยบายของภาครัฐที่จะสนับสนุนการใช้จ่ายให้เร่งตัวขึ้น การขยายตัวของการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมภายในประเทศและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการผลักดันมาตรการสนับสนุนการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง คือสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่จะส่งผลในด้านการส่งออก ตลอดจนสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูง และทิศทางของนโยบายอัตราดอกเบี้ย โดยโตโยต้า คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2567 จะอยู่ที่ 800,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายของโตโยต้าในปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 277,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 4% ส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 34.6%

โตโยต้า ประเมินตลาดรวมปี 67 เติบโต 3 % โตโยต้า ประเมินตลาดรวมปี 67 เติบโต 3 % 

ซูซูกิ คาดยอดขายตลาดรถรวมปี 67 ทะลุ 8 แสนคัน

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2567 ด้วยแนวโน้มของสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ตลาดรถยนต์น่าจะกลับมามีการเติบโตขึ้นอีกครั้ง คาดการณ์ว่าตัวเลขยอดขายรวมของทั้งตลาดจะมีตัวเลขอยู่ประมาณ 800,000 คัน  สำหรับซูซูกิ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2567 รวมจำนวน 12,000 คัน 


นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดนายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

2 ปีที่แล้ว

อีซูซุ ลงทุนในไทยเพิ่ม 32,000 ล้านบาท จ่อผลิตรถกระบะไฟฟ้า EV ปี 2025

2 ปีที่แล้ว

เกีย นำเข้า KIA EV9 เปิดตัวในไทย 1 มี.ค.นี้ ราคาทะลุ 2 ล้านบาท

2 ปีที่แล้ว

“BOI”ชี้โครงสร้างพื้นฐาน-พลังงานสะอาดหนุนนักลงทุนเข้าไทย

2 ปีที่แล้ว

MG จีบดีลเลอร์ลงทุนโชว์รูมใหม่ ขาย EV หรู ตั้งเป้า 25,000 คัน ปีนี้

2 ปีที่แล้ว

มาสด้า ซูซูกิ ไม่หวั่นดีลเลอร์หนี รอขาย EV ปี 2568

มาสด้า คาดตลาดรถปี 67 แข่งเดือด 

นาย ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาคึกคัก ส่วนกำลังซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น กลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19

“มาสด้าเชื่อว่าในปีนี้จะเป็นปีที่ท้ายทายยิ่งขึ้น การแข่งขันของตลาดรถยนต์ในประเทศจะทวีความร้อนแรง การเข้ามาลงทุนจากนักธุรกิจต่างประเทศ ผลักดันให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้นจากการปรับอัตราค่าแรง ” 

โดยมาสด้า คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 750,000 – 800,000 คัน หรือใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ในส่วนของมาสด้าคาดว่าจะเติบโตเช่นเดียวกัน เนื่องจากฐานลูกค้าที่เข้ามารับบริการที่ศูนย์บริการเพิ่มขึ้นช่วยเพิ่มโอกาสในการขายรถใหม่มากขึ้น

มาสด้า คาดตลาดรถปี 67 แข่งเดือด มาสด้า คาดตลาดรถปี 67 แข่งเดือด 

สภาอุตฯตั้งเป้าผลิตรถปี 67 จำนวน 1.9 ล้านคัน โต 3.17 %

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในปี 2567 ได้ประมาณการยอดผลิตรถยนต์ในประเทศจำนวน 1,900,000 คัน เพิ่มขึ้น 3.17 % เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ผลิตได้ 1,841,663 คัน โดยแบ่งออกเป็น ผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,150,000 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 750,000 คัน 

เป้าหมายการผลิตรถยนต์ไทย ปี 2567เป้าหมายการผลิตรถยนต์ไทย ปี 2567

สำหรับปัจจัยบวก และ ปัจจัยลบที่จะมีผลกระทบต่อการผลิตเพื่อส่งออกมีดังต่อไปนี้ 

ปัจจัยบวก 

  • ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะซึ่งขนส่งสินค้าและคนเพื่อส่งออกไปทั่วโลกกว่าหนึ่งร้อยประเทศจึงอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากจากเศรษฐกิจชะลอตัว
  • ประเทศจีนเปิดประเทศซึ่งอาจส่งผลให้การค้าโลกและการท่องเที่ยวเติบโตเป็นผลดีต่อการส่งออกของหลายประเทศดีขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกของประเทศไทย
  • การขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลายลงมากส่งผลให้การผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น
  • การลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอาจมีการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า
  • คำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่ค้า สหรัฐฯ, ยุโรป, จีน เพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดที่มีศักยภาพ เช่น กลุ่มอ่าวอาหรับ GCC
  • อัตราดอกเบี้ยอาจอยู่ในช่วงขาลงทำให้เศรษฐกิจโลกดีขึ้น

ปัจจัยลบ 

  • การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและการเพิ่มขึ้นใหม่ซึ่งจะ ส่งผลต่อการส่งออกลดลงและเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น
  • ตลาดทั้งในและต่างประเทศเกิดการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในสินค้าประเภทเดียวกัน และคู่แข่งเกิดขึ้นในภูมิภาคเพิ่มขึ้น 
  • นโยบายของประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก เช่น การขึ้นภาษีสรรพสามิตในรถยนต์บางประเภทในลาว

สำหรับปัจจัยบวก และ ปัจจัยลบที่จะมีผลกระทบต่อการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ มีดังต่อไปนี้ 

ปัจจัยบวก 

  • การย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาไทย ทำให้เกิดการเชื่อมโยง Supply Chain ของอุตสาหกรรม 
  • ความต้องการสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นทั่วโลกจากกฎระเบียบและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
  • เริ่มมีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

ปัจจัยลบ 

  • หนี้ครัวเรือนสูง หนี้สาธารณะสูง ค่าครองชีพสูง อัตราดอกเบี้ยสูง ส่งผลกระทบต่ออำนาจซื้อของประชาชนลดลง ทำให้ยอดขายอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งมีsupply chain หลายอุตสาหกรรมชะลอตัวลง ส่งผลต่อการจ้างงาน ทำให้รายได้คนงานก่อสร้างและโรงงานลดลง
  • งบประมาณรายจ่ายประจำปี2567 ล่าช้าออกไปราวแปดเดือนทำให้การลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้าออกไปด้วย ส่งผลให้การลงทุนการจ้างงานของเอกชนล่าช้าออกไป เศรษฐกิจจึงเติบโตในระดับต่ำ
  • ภัยธรรมชาติที่คาดไม่ถึง อาจจะกระทบต่อผลผลิตและรายได้เกษตรกร
  • ความขัดแยังระหว่างประเทศอาจขยายตัวและเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่จะส่งผลให้ราคาพลังงาน สินค้า และวัตถุดิบสูงขึ้น
  • การส่งออกสินค้าต่างๆ ในปีนี่อาจลดลงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงส่งผลการผลิตการลงทุนการจ้างงานลดลง อำนาจซื้อลดลง
     

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทยนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย

Previous Post

N0110753 อแม จบแค ป part 2

Next Post

N0110755 อย าเร ยกต วเองว คน (ละครส น) part 2

Next Post
N0110755 อย าเร ยกต วเองว คน (ละครส น) part 2

N0110755 อย าเร ยกต วเองว คน (ละครส น) part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0411563 หลอยผ วมาต วอ าย EP1 part 2
  • N0411126 จะได ณค าและความลำบากในการใช เง part 2
  • N0411120 การด แลต วเองหล งคลอด part 2
  • N0411125 องการคนร กเม อตอนท กคนไม องการ part 2
  • N0411124 ความค ดครอบคร วผ วเต าล านป part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.