ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

5 โรงแรมหรู ดีไซน์สวย ในโลเคชั่นที่แพงที่สุดในเอเชีย ยุโรปและอเมริกา

โดยอริญชัย วีรดุษฎีนนท์

08 กันยายน 2567

     GQ Thailand พาชมโรงแรมและรีสอร์ตสุดลักซ์ชูรีในแต่ละเมืองใหญ่ ตั้งแต่โตเกียว นิวยอร์ก ซังคท์โมริตซ์ และโมร็อคโค นอกจากจะมีดีไซน์ที่สวยงดงามในย่านดังกล่าวแล้ว ยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจบางโณงแรมยังมีอายุยาวนาน จนอยากให้ทุกคนไปเยือนสักครั้ง

     1. Badrutt’s Palace Hotel – St. Moritz, Switzerland

     หนึ่งในโรงแรมเก่าแก่ระดับลักซ์ชัวรีและมีชื่อเสียงที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับบาดรูตต์ พาเลซ (Badrutt’s Palace) โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1896 และเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มโรงแรม Leading Hotels of the World, Swiss Deluxe Hotels และ Swiss Historic Hotels 

     โดยจุดเด่นของโรงแรมคือโลเกชั่นที่ตั้งอยู่ในเมืองซังคท์โมริตซ์ (St. Moritz) ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์อันงดงามและทะเลสาป ที่สำคัญการออกแบบของที่นี่ยังใส่ใจทุกรายละเอียด ทั้งการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และการดีไซน์ห้องพักทั้งหมด 155 ห้อง อันเป็นเอกลักษณ์ที่ให้ความคลาสสิกและหรูหราในแบบยุโรป 

     ท่ามกลางประวัติศาสตร์กว่าร้อยปีของโรงแรม จึงเป็นจุดหมายปลายทางของบุคคลสำคัญในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นดารา ศิลปิน ดีไซเนอร์ และพระราชวงศ์ มาพร้อมกับการบริการที่ยอดเยี่ยม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหาร สปา สระว่ายน้ำในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงมีกิจกรรมหลากหลายทั้งในฤดูหนาวและฤดูร้อน เช่น สกี เดินป่า และกอล์ฟ เป็นต้น 

Via Serlas 27, 7500 St. Moritz, Switzerland

Tel. +41 81 837 1000

Facebook: badruttspalace

IG: badruttspalace

     2. Janu Hotels – Tokyo, Japan

     แบรนด์โรงแรมน้องใหม่ในเครืออมัน (Aman) ที่ให้ความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยความหมายของคำว่า ‘จานุ’ (Janu) แปลว่า ‘จิตวิญญาณ’ ในภาษาสันสกฤต หากว่าอมันคือโรงแรมที่ดูสุขุม รอบคอบ และลึกลับ ให้ความเป็นส่วนตัว แบรนด์จานุก็จะให้ความรู้สึกสนุกสนานและเชื่อมโยงกับสังคมรอบข้างมากกว่า

     สำหรับโรงแรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาซาบุได ฮิลส์ (Azabudai Hills) แลนด์มาร์กแห่งใหม่ในญี่ปุ่น และเป็นตึกที่สูงที่สุดในโตเกียวด้วยความสูง 330 เมตร โดยตัวโรงแรมมีห้องพักทั้งหมด 122 ห้อง กับห้องอาหารมากถึง 8 ห้อง และศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่บนพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร 

     การออกแบบภายในโรงแรมจะเน้นการได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมด้านอาหารและศิลปะ เป็นสไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรีตามแบบฉบับโรงแรมในเครืออมัน หากแต่ที่นี่เลือกใช้โทนสีสว่าง เช่น สีเบจ สีน้ำตาล และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทำให้ดูมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเชื่อมโยงเข้ากับพื้นที่สีเขียวโดยรอบ โดยความน่าตื่นตาตื่นใจคือวิวของห้องพักจะมองเห็นโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) แบบชัดเจน 

1-2-2 Azabudai Minato-ku, 106-0041 Tokyo, Japan

Tel. +81 3 6731 2333

Facebook: discoverjanu

IG: januhotels

     3. Ultima Crans-Montana – Lens, Switzerland 

     อัลทิมา ครานส์-มอนทานา (Ultima Crans-Montana) เป็นที่พักในเครืออัลทิมา คอลเล็กชั่น (Ultima Collection) ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงพลาโต เดอ แพลน-มาเยนส์ (Plateau de Plan-Mayens) ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยเป็นบ้านพักส่วนตัวเพียงสองหลัง สามารถรองรับผู้เข้าพักได้มากถึง 38 คน มาพร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงอันงดงาม 

     จุดเด่นของที่นี่คือความเป็นส่วนตัวและบ้านพักในสไตล์ชาเลต์ (Chalet) ซึ่งเป็นบ้านแบบคอตเทจที่ชาวสวิสแถบเทือกเขาแอลป์นิยมอาศัยอยู่ คือจะมีหลังคาทรงจั่วที่กว้างกว่าปกติ สำหรับบ้านพักหลังแรมีพื้นที่ 3,850 ตารางเมตร มีห้องนอนถึง 8 ห้อง โดยแต่ละห้องมีห้องแต่งตัว ห้องน้ำในตัว และระเบียง ส่วนอีกหลังมีพื้นที่ 820 ตารางเมตร มีห้องนอนพร้อมห้องแต่งตัว ห้องน้ำ และระเบียงเช่นเดียวกัน 

     นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นครบครัน เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องสันทนาการ สปา ฟิตเนส ห้องซาวนา และห้องดูหนัง เป็นต้น

Chem. de la Digue 15, 3963 Lens, Switzerland

Tel. +41 22 779 33 33

Facebook: ultimadestinations

IG: ultimacollection

     4. Nine Orchard Hotel – New York, United States 

     หนึ่งในโรงแรมสุดชิกในนิวยอร์ก สำหรับไนน์ ออร์ชาร์ด โฮเทล (Nine Orchard Hotel) ตั้งอยู่ในย่านโลเวอร์อีสต์ไซด์ (Lower East Side) ที่เต็มไปด้วยสีสันและพลังงานของคนหนุ่มสาว ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากได้ประสบการณ์การเข้าพักในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม ตัวอาคารสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1912 ในรูปแบบสถาปัตยกรรรมแบบโบซาร์ (Beaux Arts) และเคยเป็นที่ทำการธนาคารจาร์มูโลว์สกี (Jarmulowsky) ในอดีต ก่อนจะถูกชุบชีวิตให้กลายเป็นโรงแรมที่เต็มไปด้วยสีสันอีกครั้ง

     แน่นอนว่าร่องรอยของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมยังคงอยู่ ทั้งเพดานโค้งขนาดใหญ่ พื้นหินอ่อน และผนังหินอ่อน แต่เสริมด้วยความโมเดิร์นเข้าไป อย่างเช่น ผนังสีขาว ข้าวของเครื่องใช้ และเฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละห้องพัก ซึ่งมีทั้งหมด 116 ห้อง และมีให้เลือกหลากหลายประเภททั้งห้องพักทั่วไปและห้องสวีต

     จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือบาร์ที่มีเพดานสูงโปร่ง เผยให้เห็นรูปแบบสถาปัตยกรรมในอดีต ตกแต่งด้วยโคมไฟแสงสีส้มงดงาม และมีที่นั่งให้เลือกนั่งได้ตามสบายใจ  

9 Orchard Street, New York, NY 10002, United States 

Tel. +1 212-804-9900

nineorchard.com

IG: nineorchard

      5. Villa Mabrouka – Tangier, Morocco

     โรงแรมขนาดเล็กที่มีเพียง 12 ห้องแห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นบ้านพักส่วนตัวของอีฟส์ แซงต์ โลรองต์ (Yves Saint Laurent) ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์แซงต์ โลรองต์ (Saint Laurent) โดยแจสเปอร์ คอนราน (Jasper Conran) ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษได้เปลี่ยนบ้านเก่าหลังนี้ให้กลายเป็นที่พักสไตล์บูทีกที่มาพร้อมกลิ่นอายในยุค 1930s

     ดีไซน์ของโรงแรมเต็มไปด้วยสีสันในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนเน้นสีเขียวและสีน้ำเงินเป็นหลัก พร้อมความร่มรื่นจากสวนสีเขียว แทรกด้วยต้นกล้วยและต้นปาล์ม มีส่วนของคอร์ตยาร์ด และด้วยที่ตั้งซึ่งมองเห็นช่องแคบยิบรอลตาร์ (Strait of Gibraltar) จึงเหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับคนที่อยากนั่งๆ นอนๆ อ่านหนังสือ ฟังเพลง เพราะได้ความเป็นส่วนตัวและเงีบยสงบ 

1 Sidi Bouknadel, Tangier 90000, Morocco

Tel. +212 8085 26436

Facebook: villamabrouka 

IG: villamabrouka

เปิดโผ “คอนโด” ราคาแพงที่สุดในประเทศไทย

 AREA แถลง ฉบับที่ 190/2566: วันพฤหัสบดีที่ 09 มีนาคม 2566

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส  

            แทบช็อค ห้องชุดที่แพงที่สุดที่ยังขายอยู่ในขณะนี้มีราคา 887.2 ล้านบาท เป็นห้องเพนท์เฮาส์ 1,109 ตารางเมตรๆ ละ 800,000 บาท มาดู 13 อันดับห้องชุดสุดแพง เริ่มต้นที่ 84.6 ล้านบาท

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) นำเสนอข้อมูลห้องชุดราคาแพง ที่ราคาเกินห้องละ 50 ล้านบาท 17 อันดับ โดยห้องที่ราคาแพงที่สุดมีราคาถึง 887.2 ล้านบาท แพงกว่าบ้านเดี่ยวที่แพงที่สุดในราคา 230 ล้านบาท โดยห้องชุดสุดหรูเหล่านี้มีบริการคล้ายโรงแรม อยู่ในทำที่มีศักยภาพในย่านธุรกิจและที่ดินราคาแพง สำหรับรายละเอียดแต่ละโครงการมีดังนี้:

            อันดับที่ 1 ราคาห้องละ 887.2 ล้านบาท ชื่อโครงการ อมัน นายเลิศ เรสซิเดนเซส อยู่ซอยร่วมฤดี 2 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บจก.นายเลิศ ปาร์ค ดีเวลลอปเม้นท์ ประเภทอาคารชุดสูง 36 ชั้นมีทั้งโรงแรมและห้องชุดในอาคารเดียวกันโดยห้องชุดอยู่ชั้น 11-28  รูปแบบห้องเป็น Penthouse พื้นที่ใช้สอย 1,109 ตารางเมตร  ราคาตารางเมตรละ 800,000 บาท จำนวนหน่วยขาย 9 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 086-700-5858

            อันดับที่ 2 ราคาห้องละ 485.900 ล้านบาท ชื่อโครงการ The Residences at Mandarin Oriental Bangkok อยู่ถนนเจริญนคร  แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บจก. ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น ประเภทอาคารชุดสูง 52 ชั้น ขนาด 7 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 709 ตารางเมตร ราคาตารางเมตรละ 685,331 บาท จำนวนหน่วยขาย 35 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 0-2118-2211

            อันดับที่ 3 ราคาห้องละ 475 ล้านบาท ชื่อโครงการ โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ตั้งอยู่ซอยเจริญกรุง 64 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บมจ.คันทรี่กรุ๊ปดีเวลลอปเมนท์ ประเภทอาคารชุดสูง 73 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 1,050 ตารางเมตร  ขนาด 5 ห้องนอน ราคาตารางเมตรละ 452,381 บาท จำนวนหน่วยขาย 5 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 084-757-6060

            อันดับที่ 4 ราคาห้องละ 400 ล้านบาท ชื่อโครงการ สโคป หลังสวน  ที่ตั้งถนนหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บริษัท สโคป จำกัดประเภทอาคารชุดสูง 34 ห้องแบบ Penthouse พื้นที่ใช้สอย 436 ตารางเมตร  ขนาด 3 ห้องนอน ราคาตารางเมตรละ 917,431 บาท จำนวนหน่วยขาย 3 หน่วย มีสาธารณูปโภคและบริการคล้ายโรงแรม เช่น สระว่ายน้ำระบบโอโซนแบบควบคุมอุณหภูมิได้ ฟิตเนสขนาดใหญ่ที่แยกส่วน Bodyweight Training มี Onsen แยกชายหญิง มีพนักงานรับรถ พนักงานยกกระเป๋า บริการแม่บ้านทำความสะอาดในห้องสัปดาห์ละ 3 ครั้ง สนใจติดต่อโครงการโทร. 0-2030-1999

            อันดับที่ 5 ราคาห้องละ 390 ล้านบาท ชื่อโครงการ วินด์เชลล์ นราธิวาส ที่ตั้งอยู่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บจก.วายแอลพี ประเภทอาคารชุดสูง 28 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 1,015 ตารางเมตร ห้องแบบ Combine Duplex ราคาตารางเมตรละ 384,236 บาท ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 2 ยูนิต แต่ละห้องจอดได้ประจำห้องละ 3 คัน จำนวนหน่วยขาย 18 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 06-5510-5889, 09-2652-5544

            อันดับที่ 6 ราคาห้องละ 360 ล้านบาท ชื่อโครงการ ดุสิต เรสซิเดนเซส & ดุสิต พาร์คไซด์ ที่ตั้งถนนพระรามที่ 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บจก.วิมานสุริยา ประเภทอาคารชุดสูง 69 ห้อง Penthouse พื้นที่ใช้สอย 750 ตารางเมตร ราคาตารางเมตรละ 480,000 บาท จำนวนหน่วยขาย 8 หน่วย รูปแบบเพนท์เฮ้าส์ (โซนเรสซิเดนเซส) การออกแบบเน้นพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและอยู่สบายเสมือนบ้านหลังใหญ่ เพดานเปิดโล่งแบบ ‘ดับเบิ้ลวอลุ่ม’ (Double volume) มีความสูงถึง 6.6 เมตร ที่สำคัญทุกยูนิตสามารถใช้บริการโถงลิฟต์ส่วนตัว นับเป็นการยกระดับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้แก่ผู้พักอาศัย สนใจติดต่อโครงการโทร. 0-2233-5889

            อันดับที่ 7 ราคาห้องละ 267 ล้านบาท ชื่อโครงการ มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียม ตั้งอยู่ซอย ถนนบางนา-ตราด แขวงบางแก้ว เขตบางพลี สมุทรปราการโลว์ไรส์คอนโดมิเนียม สูง 7 และ 8 ชั้น ท่ามกลางพื้นที่สีเขียว พัฒนาโดย บจก.เอ็มคิวดีซีทาวน์รอยัลเรสซิเดนซ์ ห้อง Penthouse พื้นที่ใช้สอย 1,027 ตารางเมตร  ราคาตารางเมตรละ 259,980 บาท จำนวนหน่วยขาย 2 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 1265

            อันดับที่ 8 ราคาห้องละ 170 ล้านบาท ชื่อโครงการ Q Sukhumvit ที่อยู่ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ ประเภทอาคารชุดสูง 42 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 343 ตารางเมตร  ขนาด 4 ห้องนอน ราคาตารางเมตรละ 495,626 บาท จำนวนหน่วยขาย 14 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 0-2255-8870

            อันดับที่ 9 ราคาห้องละ 136 ล้านบาท ชื่อโครงการ Tonson One Residence ที่ตั้งอยู่ซอยต้นสน ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บมจ.แอสเซทไฟว์ กรุ๊ป และ บจก.แค๊ปสโตน แอสเสท ประเภทอาคารชุดสูง 29 ชั้น Duplex (Penthouse) พื้นที่ใช้สอย 388 ตารางเมตร  ราคาตารางเมตรละ 350,968 บาท จำนวนหน่วยขาย 2 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 02-119-1500, 091-979-6161

            อันดับที่ 10 ราคาห้องละ 120 ล้านบาท ชื่อโครงการ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Ressident) ที่ตั้งอยู่ถนนพระราม 3 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย คณาพญาพร็อพเพอร์ตี้ ประเภทอาคารชุดสูง 57 ชั้น ขนาด 5 ห้องนอนอ พื้นที่ใช้สอย 500 ตารางเมตร  ราคาตารางเมตรละ 240,000 บาท จำนวนหน่วยขาย 10 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 08-9483-4444

            อันดับที่ 11 ราคาห้องละ 107 ล้านบาท ชื่อโครงการ ดิ แอสเพน ทรี แอด เดอะ ฟอเรสเทียส์ ที่ตั้งอยู่ถนนบางนา-ตราด แขวงบางแก้ว เขตบางพลี สมุทรปราการ พัฒนาโดย บจก.รอยัลแอสเพนเอ็มคิวดีซีทาวน์ ประเภทอาคารชุด Sky Villa Residences สูง 5 พื้นที่ใช้สอย 244 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน + ห้องอเนกประสงค์ และสวนส่วนตัว ที่จอดรถ 2 คันต่อยูนิต ราคาตารางเมตรละ 438,650 บาท จำนวนหน่วยขาย 8 หน่วย ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป สนใจติดต่อโครงการโทร. 1265

            อันดับที่ 12 ราคาห้องละ 95 ล้านบาท ชื่อโครงการ เอสทีค ทองหล่อ (Aestiq Thonglor) ที่ตั้งถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บจก.เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ ประเภทอาคารชุดสูง 40 ชั้น ห้อง Penthouse พื้นที่ใช้สอย 301 ตารางเมตร ราคาตารางเมตรละ 315,615 บาท จำนวนหน่วยขาย 8 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 02-076-1232

            อันดับที่ 13 ราคาห้องละ 92 ล้านบาท ชื่อโครงการ 125 สาทร ที่ตั้งอยู่ซอย ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บจก.พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้  ประเภทอาคารชุดสูง 36 ชั้น ห้อง Penthouse พื้นที่ใช้สอย 283 ตารางเมตร ราคาตารางเมตรละ 325,261 บาท จำนวนหน่วยขาย 2 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 0-2079-1383

            อันดับที่ 14 ราคาห้องละ 86.769 ล้านบาท ชื่อโครงการ บันยัน ทรี เรสซิเด้นซ์ ริเวอร์ไซด์ แบงค์คอก ที่ตั้งอยู่ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 ถนนสมเด็จเจ้าพระยา แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บมจ.เนอวานาไดอิ ประเภทอาคารชุดสูง 45 ชั้น ขนาด 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 248 ตารางเมตร  ราคาตารางเมตรละ 349,875 บาท จำนวนหน่วยขาย 16 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 1787

            อันดับที่ 15 ราคาห้องละ 85 ล้านบาท ชื่อโครงการ มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย แมกโนเลียควอลิตี้ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น ประเภทอาคารชุดสูง 37 ชั้น ห้อง Penthouse พื้นที่ใช้สอย 242 ตารางเมตร  ราคาตารางเมตรละ 351,967 บาท จำนวนหน่วยขาย 4 หน่วย สนใจติดต่อโครงการโทร. 084-244-2456

            อนึ่งจำนวนหน่วยคงเหลือหรือราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างตามภาวะตลาด  แต่ทั้งหมดนี้คือโครงการที่มีราคาแพงที่สุด โดยหากคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐก็เท่ากับตารางเมตรละ 10,000 เหรียญ และราคาต่ำสุดประมาณ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อหน่วย  จะสังเกตได้ว่าสินค้าราคาแพงระดับแบบนี้มีเหลือจำนวนไม่มากนักในตลาด