ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
เปิดที่มา Soneva รีสอร์ทที่แพงที่สุดคืนละครึ่งล้าน!
9 มี.ค. 65
10:56 น.
จาก “มัลดีฟส์” สู่ “เกาะกูด” เปิดที่มาอาณาจักร Soneva รีสอร์ทที่แพงที่สุดในไทย และเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สรุปภาพรวม Digital Trends สำหรับแบรนด์และนักการที่ต้องรู้ในปี 2024
การบินไทยทุ่มซื้อโบอิ้ง 787 เพิ่ม 45 ลำ รับดีมานด์ท่องเที่ยวพุ่งMarTech ตัวไหน SME ไทยใช้มากสุด? รู้จัก 4R ใช้ MarTech กับธุรกิจ
ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้กับ “ห้องพักที่แพงที่สุด คืนละ 5 แสนบาท” ในรีสอร์ทระดับ 6 ดาวบนเกาะกูด จ.ตราด ที่ต้องเดินทางไปด้วย “เครื่องบินส่วนตัวของรีสอร์ท” เท่านั้น ชื่อของ “โซเนวา คีรี เกาะกูด” (Soneva Kiri Koh Kood) อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเพราะราคาที่เกินจะเอื้อมถึง
แต่สำหรับสายท่องเที่ยว อินฟลูเอ็นเซอร์ และผู้ที่นิยมการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติแบบอีโคลักชัวรีแล้ว Soneva เป็นชื่อที่คุ้นหูกันดีในฐานะรีสอร์ทที่แพงที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่ 400 ไร่บนเกาะกูด และเป็นแบรนด์ดังมาจากรีสอร์ทหรูกลางน้ำที่ประเทศ “มัลดีฟส์” และยังเคยเป็นเจ้าของเดียวกับอาณาจักรโรงแรมชื่อดังในประเทศไทย อย่างเครือ “ซิกส์เซ็นส์” (Six Sense) และ “เอวาซอน” (Evason) อีกด้วย
วันนี้ ทีมข่าว SPOTLIGHT จะพาไปเจาะทำความรู้จักกับรีสอร์ทแห่งนี้ตั้งแต่ที่มาที่ไป เจ้าของ การเปลี่ยนมือทางธุรกิจ ความหรูหราระดับโรงแรม 6 ดาว ไปจนถึงตัวอย่างเหตุการณ์ไฟไหม้ในมัลดีฟส์กับรีสอร์ทหรูที่เคยอยู่ในเครือเดียวกันมาแล้ว
ใครเป็นเจ้าของ?
- เจ้าของโซเนวา คีรี เกาะกูด คือ โสนุ ชิฟดาซานี (Sonu Shivdasani) นักธุรกิจชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดีย และภรรยา อีวา มาล์มสตรอม ชิฟดาซานี (Eva Malmström Shivdasani) โดยบริหารหลายบริษัทภายใต้กลุ่ม โซเนวา กรุ๊ป (Soneva Group) ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัท โซเนวา มอริเชียส ลิมิเต็ด (สัญชาติมอริเชียส ) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9998% ของบริษัท โซเนวา (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจรีสอร์ทบนเกาะกูดที่เป็นข่าวในปัจจุบัน


เปิดอาณาจักรของ Soneva ตั้งแต่เริ่ม-ปัจจุบัน
- จุดเริ่มต้นของอาณาจักรโรงแรมหรูที่เน้นความเป็นธรรมชาติภายใต้แนวคิด เป็นมิตรและรักษาสิ่งแวดล้อม แต่หรูหราในระดับ 6 ดาว เกิดขึ้นที่ประเทศ “มัลดีฟส์” เป็นที่แรก กับการเปิด “Soneva Fushi” ในปี 1995 โดยมีไฮไลต์อยู่ที่รีสอร์ทหรูกลางน้ำพร้อมสไลเดอร์ ซึ่งห้องพักที่แพงที่สุดของที่นี่ ราคาตกคืนละ 46,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,500,000 บาท เป็นราคารวมภาษีแล้ว) เรียกได้ว่าเป็นรีสอร์ทในฝันของหลายคน และเป็น 1 ในธุรกิจโรงแรมรายแรกๆ ที่สร้างเทรนด์รีสอร์ตกลางน้ำในมัลดีฟส์

- “โซเนวา คีรี เกาะกูด” ที่ประเทศไทย เป็นโรงแรมแห่งที่ 2 ในแบรนด์โซเนวา เปิดตัวขึ้นเมื่อปี 2009 และได้ชื่อว่าเป็นรีสอร์ทที่แพงที่สุดในประเทศไทย เมื่อเทียบกับโรงแรมหรูหลายที่ทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ และเชียงใหม่ โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ห้องพักหรู ขนาด 6 ห้องนอน Villa 63 (หลังที่เกิดเหตุไฟไหม้) คืนละประมาณ 5 แสนบาทในช่วงไฮซีซั่น จากนั้นก็มีการเปิดโรงแรมในชื่อแบรนด์นี้ตามมาอีกที่มัลดีฟส์ คือ Soneva Gili ในปี 2001 (ขายไปแล้ว) และ Soneva Jani ในปี 2016
- แรกเริ่มเดิมทีนั้น อาณาจักรโรงแรมนี้มี 3 แบรนด์ด้วยกันคือ โซเนวา (Soneva), ซิกส์เซ็นส์ (Six Sense) และ เอวาซอน (Evason) ซึ่ง 2 แบรนด์หลังจะเป็นที่รู้จักในไทยมากกว่า จากโรงแรมชื่อดังอย่าง ซิกส์เซ็นซ์ เกาะยาวน้อย และ เอวาซอน หัวหิน
- ภายหลังในปี 2012 มีการขายเครือโรงแรม ซิกส์เซ็นส์ และ เอวาซอน ให้กับบริษัทลงทุนจากสหรัฐ Pegasus Capital Advisors ซึ่งต่อมาในปี 2019 บริษัทนี้ได้ขายกิจการต่อให้กับกลุ่มโรงแรม InterContinental Hotels Group จากอังกฤษ
- ในปี 2012 ยังมีการขายโรงแรม Soneva Gili ที่มัลดีฟส์ ให้กับบริษัท HPL จากสิงคโปร์ ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Gili Lankanfushi Maldives ทำให้ปัจจุบัน โซเนวากรุ๊ป เหลือมีโรงแรมในเครือ 3 แห่ง คือ ที่มัลดีฟส์ 2 แห่ง และไทย 1 แห่ง
- ล่าสุด มีรายงานข่าวว่ากลุ่มทุนจากสหรัฐอย่าง KSL Capital Partners และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสิงคโปร์ GIC จะเข้าลงทุนใน Soneva Holdings สัดส่วนประมาณ 35 – 40% แทนผู้ถือหุ้นรายเดิมที่ออกไปหลังครบสัญญาลงทุน 5 ปี ทำให้คาดว่าโซเนวาจะได้เงินลงทุนก้อนใหม่สูงสุดที่ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 6,600 ล้านบาท) โดยบริษัทมีแผนจะเปิดรีสอร์ทแห่งใหม่ในมัลดีฟส์ และในโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น
รู้ไหม? โรงแรม 6 ดาว ที่เคยอยู่ในเครือ ก็เคยเกิด “ไฟไหม้” ครั้งใหญ่มาแล้ว
- ถ้าหลายคนสงสัยว่า โรงแรมหรูระดับ 6 ดาว ราคาคืนละครึ่งล้านบนเกาะกูด เกิดไฟไหม้หนักขนาดเผาวอดทั้งหลังได้อย่างไร คงต้องบอกว่า เหตุการณ์ทำนองนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะขนาดรีสอร์ตที่เคยได้รับการโหวตเป็นโรงแรมที่ดีที่สุด “เบอร์ 1 ของมัลดีฟส์” และเป็น 1 ใน 5 ของโลก ก็เคยเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่มาแล้ว กับ Gili Lankanfushi Maldives (ชื่อเดิมคือ Soneva Gili) ซึ่งเคยเป็นรีสอร์ตในเครือโซเนวา ก่อนจะถูกขายไป

- เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2019 เวลาประมาณ 5 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่น เกิดเพลิงไหม้รีสอร์ทแบบเผาวอดหมด 7 หลัง จากทั้งหมด 45 หลัง และห้องอาหารแห่งหนึ่ง โดยรีสอร์ทมีลักษณะคล้ายกับที่เกาะกูดอย่างหนึ่งก็คือ มีลักษณะโครงสร้างเป็นไม้และไม้ไผ่ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาควบคุมเพลิงนานถึง 6 ชั่วโมง แต่ระบุว่าสามารถอพยพแขกและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกมาได้อย่างปลอดภัย
.jpg)

- เหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ในครั้งนั้น เป็นไฟไหม้ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นกับรีสอร์ทในมัลดีฟส์ ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวของมัลดีฟร์ถึงกับลงพื้นที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง และความเสียหายทำให้รีสอร์ทต้องปิดปรับปรุงนานถึงเกือบ 1 ปี ก่อนจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในปลายปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการเปิดเผยหรือรายงานข่าวในภายหลังว่า สาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากอะไร
เทียบฟอร์มความหรูหราห้องพักคืนละ “ครึ่งล้าน” ไทย-มัลดีฟส์
“โซเนวา คีรี” ตั้งอยู่บนเกาะกูด เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของเกาะในประเทศไทย รีสอร์ทเน้นการผสมผสานความหรูหรากับธรรมชาติ Eco-luxury และจุดยืนด้านความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม การจะไปรีสอร์ทแห่งนี้ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวของรีสอร์ท โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที เมื่อไปถึงก็จะพบกับธรรมเนียมที่เป็นจุดขายอย่างหนึ่งของที่นี่ คือ การถอดรองเท้าเดิน เพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวสัมผัสกับธรรมชาติให้ได้มากที่สุด
รีสอร์ทที่แพงที่สุด คือ Villa 63 เป็นวิลล่าขนาด 6 ห้องนอน โดยมีราคาช่วงไฮซีซั่นตกคืนละประมาณ 5 แสนบาท แต่หลังจากที่เกิดไฟไหม้ ทางเว็บไซต์ก็ได้ลบข้อมูลและภาพของวิลล่าหลังนี้ออกไปแล้ว
รีสอร์ทแบบ 5 ห้องนอน (5 Bedroom Beach Pool Reserve)

ห้องพักที่มีราคาแพงที่สุดในปัจจุบัน จึงเป็นห้องแบบ 5 ห้องนอน Beach Pool Reserve ตกคืนละ 11,710 ดอลลาร์ (ยังไม่รวมภาษี) หรือประมาณ 387,000 บาท โดยมีห้องนอนขนาดใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนขนาดปกติ 2 ห้อง เนื้อที่รวม 19,859 ตร.ว. เข้าพักได้สูงสุด 10 คน





ที่นี่ยังมีบ้านต้นไม้สำหรับจัดเป็นห้องนอนของเด็ก มีส่วนดาดฟ้าพร้อมพื้นที่นั่งเล่นแบบเปิดโล่ง มีสปา ยิม ห้องอบไอน้ำ ห้องนั่งเล่นดูทีวี และสไลเดอร์ในสระว่ายน้ำส่วนตัว นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แล้ว ยังมีบริการบัทเลอร์ 24 ชม. และบริการรถบักกี้ส่วนตัว สำหรับเดินทางภายในรีสอร์ทด้วย
ส่องความหรูที่ “มัลดีฟส์” กับ Soneva Fushi
พูลวิลล่ากลางน้ำ 2 ห้องนอน (2 Bedroom Water Retreat with Slide)



ห้องที่แพงที่สุด 9 ห้องนอน Villa 11 (9 Bedroom Reserve)
ห้องพักที่แพงที่สุดของ Soneva Fushi คือ วิลล่า Private Reserve ขนาด 9 ห้องนอน มีพื้นที่ถึง 32,808 ตร.ฟุต รองรับได้สูงสุด ผู้ใหญ่ 14 คน และเด็ก 9 คน ราคารวมภาษีและทุกอย่างแล้ว ตกที่คืนละ 46,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,500,000 บาท
ห้องพักนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น “เกาะส่วนตัว” ได้เลย เพราะนอกจากบริการปกติของห้องพักหรูทั่วไปแล้ว ก็ยังมีความพิเศษอีกเพียบ ทั้งห้องสตรีม ซาวน่า ยิม ห้องสมุด สปา ดาดฟ้า สระน้ำเกลือ สไลเดอร์ ไปจนถึงห้องพี่เลี้ยงเด็ก




ที่มาภาพ: Soneva.com
50 โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก 2023 โรงแรมในไทยติดอันดับ 4 แห่ง

Muzika
21 กันยายน 2566 ( 10:58 )
3.4K
The World’s 50 Best Hotels 2023 เป็นการประกาศรางวัลโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2023 โดยจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยโรงแรมที่คว้าอันดับ 1 ไปครอง ได้แก่โรงแรม Passalacqua เมืองมอลทราซิโอ ประเทศอิตาลี

50 โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก 2023
รางวัลนี้คัดเลือกโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านโรง แรมและการท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ สถานที่ตั้ง การออกแบบ บริการ อาหาร ฯลฯ สำหรับปีนี้มีโรงแรมในประเทศไทยที่ติดอันดับเข้ามา 4 แห่งด้วยกัน ได้แก่
- Four Seasons Hotel Bangkok at Chao Phraya River (อันดับ 3)
- Mandarin Oriental, Bangkok (อันดับ 10)
- Capella Bangkok (อันดับ 11)
- The Siam Hotel Bangkok (อันดับ 42)
The World’s 50 Best Hotels 2023
| อันดับ | โรงแรม | เมือง | ประเทศ |
| 1 | Passalacqua | Moltrasio | Italy |
| 2 | Rosewood Hong Kong | Hong Kong | Hong Kong |
| 3 | Four Seasons Hotel Bangkok at Chao Phraya River | Bangkok | Thailand |
| 4 | The Upper House | Hong Kong | Hong Kong |
| 5 | Aman Tokyo | Tokyo | Japan |
| 6 | La Mamounia | Marrakech | Morocco |
| 7 | Soneva Fushi | Maldives | Maldives |
| 8 | One&Only Mandarina | Puerto Vallarta | Mexico |
| 9 | Four Seasons Firenze | Florence | Italy |
| 10 | Mandarin Oriental Bangkok | Bangkok | Thailand |
| 11 | Capella Bangkok | Bangkok | Thailand |
| 12 | The Calile | Brisbane | Australia |
| 13 | Chablé Yucatán | Chocholá | Mexico |
| 14 | Aman Venice | Venice | Italy |
| 15 | Singita Lodges – Kruger National Park | Kruger National Park | South Africa |
| 16 | Claridge’s | London | England |
| 17 | Raffles Singapore | Singapore | Singapore |
| 18 | Nihi Sumba | Wanokaka | Indonesia |
| 19 | Hotel Esencia | Tulum | Mexico |
| 20 | Le Sirenuse | Positano | Italy |
| 21 | Borgo Egnazia | Savelletri | Italy |
| 22 | The Connaught | London | England |
| 23 | Royal Mansour | Marrakech | Morocco |
| 24 | Four Seasons Madrid | Madrid | Spain |
| 25 | Aman New York | New York City | USA |
| 26 | The Maybourne Riviera | Roquebrune-Cap-Martin | France |
| 27 | Rosewood São Paulo | São Paulo | Brazil |
| 28 | Capella Singapore | Singapore | Singapore |
| 29 | Le Bristol | Paris | France |
| 30 | Park Hyatt Kyoto | Kyoto | Japan |
| 31 | La Réserve | Paris | France |
| 32 | Gleneagles | Auchterarder | Scotland |
| 33 | Hotel Du Cap-Eden-Roc | Antibes | France |
| 34 | Cheval Blanc | Paris | France |
| 35 | Four Seasons Astir Palace | Athens | Greece |
| 36 | Soneva Jani | Maldives | Maldives |
| 37 | The Newt | Bruton | England |
| 38 | Amangalla | Galle | Sri Lanka |
| 39 | Hoshinoya Tokyo | Tokyo | Japan |
| 40 | Desa Potato Head | Seminyak | Bali, Indonesia |
| 41 | Eden Rock | St. Barths | Saint Barthelemy |
| 42 | The Siam | Bangkok | Thailand |
| 43 | Badrutt’s Palace | St. Moritz | Switzerland |
| 44 | Atlantis The Royal | Dubai | United Arab Emirates |
| 45 | The Oberoi Amarvilas | Agra | India |
| 46 | NoMad London | London | England |
| 47 | The Savoy | London | England |
| 48 | Equinox New York | New York City | USA |
| 49 | Six Senses Ibiza | Portinatx | Spain |
| 50 | Hôtel de Crillon | Paris | France |
ข้อมูล : The World’s 50 Best Hotels 2023: the list in pictures (theworlds50best.com)

