ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
Forbes จัดอันดับ 10 มหาเศรษฐีไทย 2567 พบมั่งคั่งลดลง 12%
เศรษฐกิจ4 ก.ค. 67
13:15
65,654
แชร์

อ่านให้ฟัง
07:56Forbes Thailand เปิด 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย 2567 “เฉลิม อยู่วิทยา” ขึ้นอันดับ 1 แทนกลุ่ม CP ที่ร่วงอันดับ 2 พบความมั่งคั่งของกลุ่มผู้ร่ำรวยที่สุดในไทยลดลงเกือบ 12% เหตุ “ความไม่แน่นอนทางการเมือง” ส่งผลความเชื่อมั่นนักลงทุนในประเทศหลัง “เศรษฐา” นั่งนายกฯ
เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2567 นิตยสาร Forbes Thailand เปิดเผยข้อมูล 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2567 หลังนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน อดีตเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ได้เข้ารับตำแหน่ง ความไม่แน่นอนทางการเมืองได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังส่งผลให้ดัชนีหุ้นอ้างอิงลดลงร้อยละ 15 นับตั้งแต่ปีที่แล้ว ต่อเนื่องไปถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง
ความมั่งคั่งรวมของเหล่ามหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดของประเทศจึงลดลงเกือบร้อยละ 12 เหลือเพียง 153,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 173,000 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว
39 มหาเศรษฐีไทยรวยน้อยลง
จากข้อมูลดังกล่าวพบว่ามีเพียง 7 รายที่มีแนวโน้มรวยสวนกระแสเศรษฐกิจจากกำไรของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรูปของค่าเงินดอลลาร์ ได้แก่
อันดับ 1 (ใหม่) : เฉลิม อยู่วิทยา และ ครอบครัว หุ้นส่วนของแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 2,600 ล้านเหรียญ ส่งผลให้มูลค่าความมั่งคั่งเพิ่มตามไปด้วยเป็น 36,000 ล้านเหรียญ ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา Red Bull มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 11,000 ล้านเหรียญ จากยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังที่ขายได้มากกว่า 12,000 ล้านกระป๋องทั่วโลก
หลังจากครองตำแหน่งอันดับ 1 มายาวนานเกือบทศวรรษ ล่าสุด พี่น้องตระกูลเจียรวนนท์ของกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ ได้ร่วงลงมาอยู่อันดับ 2 โดยเป็นผลจากรายได้ 34,000 ล้านเหรียญในปีก่อน ลดลงเหลือ 29,000 ล้านเหรียญในปีนี้ การลดลงดังกล่าวส่วนหนึ่งเกิดจากการตกต่ำของหุ้นหนึ่งในบริษัท Ping An Insurance ของจีน ซึ่งรายงานผลขาดทุนในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ของบริษัทในปี 2566 มูลค่า 2,700 ล้านเหรียญ ส่วนอีก 3 อันดับที่เหลือใน 5 อันดับแรกยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อน แม้ว่ามหาเศรษฐีทั้ง 3 รายจะมีมูลค่าความมั่งคั่งลดลงก็ตาม
ทั้งนี้ มหาเศรษฐีของธุรกิจเครื่องดื่ม อย่าง เจริญ สิริวัฒนภักดี ต้องเผชิญกับความเป็นจริงอันโหดร้าย โดยความมั่งคั่งของเขาหายไปราว 1 ใน 4 ของมูลค่าในปีก่อน ทรัพย์สินหดตัวลงเพียง 10,000 ล้านเหรียญในปีนี้ แม้ว่าเขาจะยังครองตำแหน่งอยู่ในอันดับ 3 ตามเดิมเหมือนปีก่อนก็ตาม
ถัดมาอันดับ 4 คือ ตระกูลจิราธิวัฒน์ ซึ่งถือเป็นเจ้าของกลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลที่ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในห้างสรรพสินค้า Selfridges อันโด่งดังในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยล่าสุดในปีนี้มีมูลค่าความมั่งคั่งอยู่ที่ 9,900 ล้านเหรียญ ลดลงจากปีก่อนราวร้อยละ 20
อันดับ 5 สารัชถ์ รัตนาวะดี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของมหาเศรษฐีด้านพลังงานและโทรคมนาคม เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เขาเปิดตัวในการจัดอันดับเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ได้ลดลงในปีนี้เป็นครั้งแรกเหลือมูลค่าอยู่ที่ 9,200 ล้านเหรียญ

10 อันดับ มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2567
- เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 36,000 ล้านเหรียญ หรือ 1.32 ล้านล้านบาท
แหล่งความมั่งคั่ง : อาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ : ขึ้นจากอันดับ 2 - พี่น้องเจียรวนนท์ ประกอบไปด้วย 3 พี่น้อง รวมถึงครอบครัวของมนตรี เจียรวนนท์ ส่วน “ธนินท์ เจียรวนนท์” ยังคงเป็นประธานอาวุโส
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 29,000 ล้านเหรียญ หรือ 1.06 ล้านล้านบาท
แหล่งความมั่งคั่ง : อาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ : ร่วงลงจากอันดับ 1 - เจริญ สิริวัฒนภักดี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 10,000 ล้านเหรียญ หรือ 368,000 ล้านบาท
แหล่งความมั่งคั่ง : อาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ : คงที่ - ครอบครัวจิราธิวัฒน์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 9,900 ล้านเหรียญ หรือ 364,000 ล้านบาท
แหล่งความมั่งคั่ง : แฟชั่นและค้าปลีก
อันดับ : คงที่ - สารัชถ์ รัตนาวะดี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 9,200 ล้านเหรียญ หรือ 338,000 ล้านบาท
แหล่งความมั่งคั่ง: พลังงาน
อันดับ: คงที่ - ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 3,800 ล้านเหรียญ หรือ 139,000 ล้านบาท
แหล่งความมั่งคั่ง : ธุรกิจแพทย์
อันดับ : ขึ้นจากอันดับ 7 - อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 3,600 ล้านเหรียญ หรือ 132,000 ล้านบาท
แหล่งความมั่งคั่ง : แฟชั่นและค้าปลีก
อันดับ : ขึ้นจากอันดับ 8 - วานิช ไชยวรรณ
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 3,300 ล้านเหรียญ หรือ 121,000 ล้านบาท
แหล่งความมั่งคั่ง : การเงินและการลงทุน
อันดับ : ร่วงจากอันดับ 6 - ครอบครัวโอสถานุเคราะห์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 2,200 ล้านเหรียญ หรือ 81,000 ล้านบาท
แหล่งความมั่งคั่ง : อาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ : ขึ้นจากอันดับ 10 - ประยุทธ มหากิจศิริ
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 2,150 ล้านเหรียญ หรือ 79,100 ล้านบาท
แหล่งความมั่งคั่ง : อาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ : ขึ้นจากอันดับ 12
วิธีการจัดทำ
ทำเนียบการจัดอันดับ เรียบเรียงจากข้อมูลการถือหุ้นและการเงินของทั้งครอบครัวและรายบุคคล การซื้อขายและวิเคราะห์หุ้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ
การจัดอันดับนี้แตกต่างจากการจัดอันดับมหาเศรษฐีอื่น ๆ โดยจะนับทรัพย์สินของครอบครัวรวมถึงที่มีการแบ่งปันกันในวงศ์ตระกูลจากหลาย ๆ รุ่นมารวมด้วย ทรัพย์สินที่มีการเปิดเผยคำนวณจากราคาหุ้นและอัตราการแลกเปลี่ยน การประเมินมูลค่าบริษัทเอกชนอ้างอิงจากเปรียบเทียบกับบริษัทแบบเดียวกันที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
รายชื่อทั้งหมดยังรวมเอาชาวต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจ พักอาศัย หรือมีพันธะอื่น ๆ ในประเทศไทย รวมถึงพลเมืองที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย แต่มีธุรกิจหรือพันธะสำคัญกับประเทศ
10 อันดับที่ดินแพงสุดในไทย ปี 2568
โพสต์เมื่อ 30 ก.ค. 2568
258




10 อันดับที่ดินแพงสุดในไทย ปี 2568
ไม่ใช่แค่ “ย่านเดิม” ที่ราคาทะลุ
แต่หลายโซนเกิดใหม่ก็เร่งขึ้นแบบพุ่งไม่หยุด
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA เผยผลสำรวจราคาที่ดิน พบว่า ราคาที่ดินในปี 2568 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5%
สำหรับทำเลที่ราคาที่ดินที่แพงที่สุดนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมในปี 2537 บริเวณเยาวราช หรือ China Town ของกรุงเทพฯ มีราคาที่ดินแพงสุด เป็นเงิน 700,000 บาท/ตารางวา ต่อมาราคาที่ดินที่แพงสุดขยับเป็นพื้นที่สีลม ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของประเทศ
และในที่สุดก็เปลี่ยนมาเป็นแถวสยามสแควร์, ชิดลม, เพลินจิต ทั้งนี้ เพราะทำเลนี้เป็นจุดตัดของรถไฟฟ้า และมีการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ที่เข้มข้นในลักษณะของพื้นที่ค้าปลีกที่สำคัญที่สุดจึงทำให้ราคาที่ดินสูงกว่าทำเลอื่น ๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.ddproperty.com/…/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9…
——————————-
Wealthiness Estate ตัวแทนขายอสังหามืออาชีพให้กับ Developer ทุกแบรนด์ดัง
การันตีด้วยยอดขายหลายพันล้าน พร้อมทีมที่ปรึกษาการซื้อ ขาย ลงทุน อสังหามืออาชีพ
มั่นใจด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี
เพราะเราเข้าใจว่าการซื้อบ้านสักหลัง…ไม่ใช่เรื่องจิ๊บๆ

