• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N2909165 แม านแซ อยเจ านาย part 2

admin79 by admin79
September 29, 2025
in Uncategorized
0
N2909165 แม านแซ อยเจ านาย part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 ประเทศมีตึกสูงมากที่สุดในโลก พลเมืองได้อยู่ใกล้สวรรค์

06 Apr 2024

10 ประเทศมีตึกสูงมากที่สุดในโลก พลเมืองได้อยู่ใกล้สวรรค์

Play

SHORT CUT

  • ตึกระฟ้า มากกว่า 80% ของโลกอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เพราะมีประชากรหนาแน่นกว่าภูมิภาคอื่น 
  • ตึกระฟ้าคือชิ้นส่วนประดับเมืองที่สำคัญ เพราะช่วยให้เมืองดูทันสมัย มีความศิวิไลซ์ และดูเป็นมหาอำนาจในภูมิภาค
  • หลายเมืองบนโลกที่มีตึกระฟ้ากระจุกตัว กำลังเผชิญกับปัญหาพื้นดินทรุดลงเรื่อยๆ และเสี่ยงที่จะกลายเป็นเมืองจมน้ำ จากปัญหาภาวะโลกร้อน

10 ประเทศใกล้สวรรค์ มี ‘ตึกระฟ้า’ จำนวนมากที่สุดในโลก พลเมืองเหมือนได้อยู่ใกล้สวรรค์ กรุงเทพฯ ติดอันดับด้วย

รู้หรือไม่ ตึกระฟ้า มากกว่า 80% ของโลกอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เพราะความหนาแน่นของประชากรในประเทศเหล่านี้กระตุ้นให้ต้องสร้างตึกสูงมากกว่าพื้นที่อื่นๆ ของโลก

ข้อดีของการมีตึกระฟ้า

“ตึกระฟ้า (Skyscraper)” คืออาคารสูง ที่สามารถอยู่อาศัยได้หลายชั้น โดยอาคารประเภทนี้เริ่มก่อสร้างครั้งแรกในช่วงทศวรรษปี 1880 ซึ่งมีแค่ 10-20 ชั้นเท่านั้น แต่เมื่อความก้าวหน้าทางวิศวกรรมทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเป็นไปได้ ตึกระฟ้า ในปัจจุบันจึงหมายถึงอาคารที่สูงอย่างน้อย 100 – 150 เมตร ขึ้นไป

ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมต้องสร้างตึกระฟ้าเพิ่มขึ้น? คำตอบง่ายๆ คือ เพื่อให้สอดคล้องกับประชากรเมืองที่เพิ่มมากขึ้น เพราะหลายประเทศเมืองใหญ่คือสถานที่แห่งโอกาสในการมีงานที่ดีทำ และการสร้างอาคารสำนักงาน โรงแรม หรือคอนโด ที่มีความสูง และสามารถรองรับคนได้จำนวนมาก จะช่วยให้เมืองนั้นเกิดความคึกคัก คนย้ายเข้ามาอยู่ เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว .

นอกเหนือจากนั้น ในแง่ของสิ่งแวดล้อม ตึกระฟ้าถูกมองว่าเป็นการสร้างเมืองแบบยั่งยืน และช่วยลดขยะในระยะยาว เพราะเมื่อคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในห้องขนาดกะทัดรัด พวกเขาจะสะสมวัตถุน้อยลง และไม่สนใจซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น

และในเรื่องความสวยงาม ตึกระฟ้าคือชิ้นส่วนประดับเมืองที่สำคัญ เพราะช่วยให้เมืองดูทันสมัย มีความศิวิไลซ์ และดูเป็นมหาอำนาจในภูมิภาค ซึ่งส่งผลดีต่อเมืองนัhนในหลายมิติ

ประเทศที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดในโลกประเทศที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดในโลก

ประเทศที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดในโลก

ตามข้อมูลของ Council on Tall Buildings and Urban Habitat (CTBUH) เว็บไซต์สำรวจการเติบโตของเมืองทั่วโลก พบ 10 ประเทศที่มีจำนวนตึกสูงเกิน 150 เมตร มากที่สุดดังนี้

  • อันดับ 1 จีน 3,287 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘ฮ่องกง’
  • อันดับ 2 สหรัฐอเมริกา 892 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘นิวยอร์ก’
  • อันดับ 3 สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 336 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘ดูไบ’
  • อันดับ 4 มาเลเซีย 293 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘กัวลาลัมเปอร์’
  • อันดับ 5 ญี่ปุ่น 280 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘โตเกียว’
  • อันดับ 6 เกาหลีใต้ 276 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘โซล’
  • อันดับ 7 ออสเตรเลีย 154 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘เมลเบิร์น’
  • อันดับ 8 แคนาดา 153 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘โตรอนโต’
  • อันดับ 9 อินโดนีเซีย 136 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘จาการ์ตา’
  • อันดับ 10 ไทย 131 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘กรุงเทพ’

10 ตึกที่สูงที่สุดในไทย

  • อันดับ 1 แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ทาวเวอร์ (315 ม. / 1,033 ฟุต)
  • อันดับ 2 คิง เพาเวอร์ มหานคร (314 ม. / 1,030 ฟุต)
  • อันดับ 3 อาคารใบหยก 2 (304 ม. / 997 ฟุต)
  • อันดับ 4 โฟร์ ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสสิเด้นซ์ (299.5 ม. / 983 ฟุต)
  • อันดับ 5 ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (297.8 ม. / 977 ฟุต) (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)
  • อันดับ 6 สุนทรียา ราชดําริ (295.2 ม. / 969 ฟุต) (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)
  • อันดับ 7 One City Centre (275.8 ม. / 905 ฟุต)
  • อันดับ 8 เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (268.7 ม. / 882 ฟุต)
  • อันดับ 9 เดอะ ริเวอร์ ทาวเวอร์ (258 ม. / 846 ฟุต)
  • อันดับ 10 คณาพญา เรสซิเดนซ์ (253.3 ม. / 831 ฟุต)

ทั้ง 10 ตึกอยู่ในกรุงเทพมหานคร

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

  • หากเกิดแผ่นดินไหว ตึกสูงในกรุงเทพฯ ต้องกังวล-จะถล่มไหม ?20 Jun 2023
  • วัสดุห่อหุ้มอาคาร เปลี่ยนสีตามอุณหภูมิ ระบายความร้อน ลดการใช้พลังงาน 8%31 Jan 2024
  • ฝุ่น PM2.5 ในอาคารของไทยวิกฤตหนัก! พุ่งติดอันดับ 11 ของโลก24 Jan 2024

ข้อเสียของตึกระฟ้าข้อเสียของตึกระฟ้า

ข้อเสียของตึกระฟ้า

อย่างไรก็ตาม แม้ตึกระฟ้าส่วนใหญ่จะมีการออกแบบที่ดี และไม่ค่อยถูกร้องเรียนเรื่องปัญหาต่างๆ เท่าไหร่นัก แต่ปัญหาหนึ่งที่ผู้สร้างยังแก้ไม่หายคือ ผู้ที่อยู่ชั้นสูงๆ จะมีอาการคล้ายเมาเรือ เพราะบนยอดอาคารจะแกว่งไปมา ถ้าหากเกิดเพลิงไหม้ ก่อการร้าย หรือแผ่นดินไหว ตึกระฟ้าจะเป็นจุดอันตรายที่สุดทันที เพราะเป็นอาคารที่คนกระจุกตัวอยู่มาก การอพยพลี้ภัยทำได้ยากและช้ากว่าอาคารขนาดเล็กหลายเท่า และถ้าตึกถล่มจากการถูกโจมตี หรือภัยธรรมชาติ ย่อมหมายถึงต้องมีผู้เสียชีวิตนับร้อยคนอย่างเลี่ยงไม่ได้

ส่วนในเรื่องของความรู้สึก การมีตึกสูงจำนวนมาก แต่มีพื้นที่สีเขียวน้อย และมองไปทางไหนแล้วเห็นแต่ยอดตึกสูงบังเส้นขอบฟ้า ก็อาจทำให้จิตใจเศร้าหมอง หดหู่ ไม่มีความสุขได้ เพราะไม่ว่าบ้านเมืองจะเจริญไปสักแค่ไหน มนุษย์ก็ต้องมีช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้ธรรมชาติบ้าง

ยิ่งไปกว่านั้นการสร้างตึกสูง ย่อมทำให้พื้นดินของเมืองทรุดลงทุกปี ยกตัวอย่างเช่น นิวยอร์ก จากจาการ์ตา เม็กซิโกซิตี้ ฯลฯ ก็กำลังเผชิญกับปัญหาพื้นดินทรุดลงเรื่อยๆ และเสี่ยงที่จะกลายเป็นเมืองจมน้ำ จากปัญหาภาวะโลกร้อนในอนาคต

ดังนั้น ‘ผู้นำประเทศ’ ไม่ควรเพิ่มจำนวนตึกระฟ้าเพียงอวดนานาชาติ แต่ควรสร้างโดยพิจารณาจาก ศักยภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตัวเองเป็นสำคัญ

10 อันดับว่าที่ตึกสูงที่สุดในโลก ความงดงามแห่งอนาคตที่อลังการทะลุเมฆ !

Super.Admin.sgw  ก.ย. 2, 2015 Uncategorized

10 อันดับว่าที่ตึกสูงที่สุดในโลก ความงดงามแห่งอนาคตที่อลังการทะลุเมฆ !
  • Facebook
  • Twitter
  • Line

เปิด 10 อันดับว่าที่ตึกสูงที่เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะกลายเป็นตึกที่มีความสูงที่สุดในโลก แค่ขนาดความสูงที่เป็นตัวเลขก็การันตีเลยว่าต้องร้องโอ้โหแน่นอน !

เมื่อนึกถึงตึกที่มีความสูง หลายคนก็คงจะนึกถึงตึกเบิร์จคาลิฟา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองดูไบกันใช่ไหมละค่ะ เพราะอาคารแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอาคารที่มีสูงที่สุดในโลกในขณะนี้ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีโครงการก่อสร้างตึกอีกหลาย ๆ แห่ง ซึ่งหากสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วจะมีความสูงมากกว่าอาคารว่าสูงที่สุดในโลกในตอนนี้อีกหลายร้อยเมตรเลย

1. อาคาร Kingdom Tower เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย

ความสูง: 3,281 ฟุต
จำนวนชั้น: 167 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2018

แม้ว่าจะยังสร้างไม่เสร็จ แต่อาคาร Kingdom Tower นี้ก็ได้รับตำแหน่งอาคารที่สูงที่สุดไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีการยืนยันว่าอาคารหลังนี้เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะมีความสูงมากกว่าอาคาร United Arab Emirates’ Burj Khalifa ที่ดูไบถึง 550 ฟุตเลยทีเดียว และจะเป็นอาคารที่มีระบบลิฟต์ที่ทันสมัยที่สุดด้วยเช่นกัน

2. อาคาร Suzhou Zhongnan Center เมืองซูโจว ประเทศจีน

ความสูง: 2,392 ฟุต
จำนวนชั้น: 138 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2020

เรื่องความบิ๊กเบิ้มนี่ต้องยกให้กับประเทศจีนเลยจริง ๆ โดยอาคารแห่งนี้ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนั้น นอกจากจะมีความสูงมากเป็นอันดับสองของโลกในอนาคตแล้ว ก็ยังจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศจีนอีกด้วย

3. อาคาร Ping An Finance Center เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน

ความสูง: 2,165 ฟุต
จำนวนชั้น: 115 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2016

อาคารอเนกประสงค์ความสูง 155 ชั้น ที่กำลังอยู่ในการก่อสร้างนี้ นอกจากจะมีสาธารณูปโภคครบครันแล้ว ก็จะเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ในจีนอย่าง Ping An Insurance โดยอาคารแห่งนี้มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมดกว่า 378,00 ตารางเมตรเลยทีเดียว

4. อาคาร Wuhan Greenland Centre เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน

ความสูง: 2,087 ฟุต
จำนวนชั้น: 125 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2017

อาคาร Wuhan Greenland Centre นอกจากจะรั้งอันดับ 4 ของว่าที่อาคารที่สูงที่สุดในโลกอนาคตแล้ว ความพิเศษของอาคารแห่งนี้ก็คือการออกแบบที่มีการคำนึงถึงการประหยัดพลังงานอีกด้วยล่ะ

5. อาคาร Goldin Finance 117, เมืองเทียนจิน ประเทศจีน

ความสูง: 1,957 ฟุต
จำนวนชั้น: 128 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2016

อาคาร Goldin Finance 117 หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อาคาร China 117 เป็นอาคารที่กำลังถูกสร้างขึ้นในเมืองเทียนจินประเทศจีน โดยอาคารแห่งนี้เริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี 2008 แต่ถูกระงับการสร้างชั่วคราวในช่วงต้นปี 2010 และกลับมาเริ่มก่อสร้างอีกครั้งในปี 2011 มีการคาดการณ์ว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2016 นี้

6. อาคาร Pearl of the North เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน

ความสูง: 1,863 ฟุต
จำนวนชั้น: 113 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2018

อาคารที่เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะมีความสูง 113 ชั้นแห่งนี้ ใช้งบประมาณการก่อสร้างสูงกว่า 1.6 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จแล้วอาคารแห่งนี้จะกลายเป็นอาคารอเนกประสงค์ แบ่งเป็นหัองพักโรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวน 320 ห้อง และอาคารสำนักงาน 34 ชั้น

7. อาคาร Lotte World Tower กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

ความสูง: 1,819 ฟุต
จำนวนชั้น: 123 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2016

ด้วยงบประมาณสูงกว่า 1.25 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้อาคารแห่งนี้กลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงโซล โดยอาคารแห่งนี้ใช้เวลาในการวางแผนและเตรียมตัวสำหรับการก่อสร้างยาวนานถึง 13 ปี และเพิ่งได้รับการอนุญาตให้ก่อสร้างได้เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมานี่เอง

8. อาคาร Nordstrom Tower เมืองนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ความสูง: 1,775 ฟุต
จำนวนชั้น: 92 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2018

อาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยได้รับการยืนยันแล้วว่าจะเป็นอาคารแห่งที่ 2 ที่สูงที่สุดในเมืองนิวยอร์ก

9. อาคาร CTF Finance Center เมืองกวางโจว ประเทศจีน

ความสูง: 1,739 ฟุต
จำนวนชั้น: 111 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2016

CTF Finance Center ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอาคารอเนกประสงค์ โดยมีการยืนยันแล้วว่าหากอาคารแห่งนี้สร้างเสร็จ จะกลายเป็นอาคารที่มีลิฟต์เร็วที่สุดในโลก โดยมีความเร็วอยู่ที่ 45 ไมล์ต่อชั่วโมง และจะใช้เวลาเพียง 43 วินาทีจากชั้นล่างสุดจนถึงชั้นที่ 95

10. อาคาร Zhongguo Zun เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน

ความสูง: 1,732 ฟุต
จำนวนชั้น: 108 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2018

อาคารแห่งนี้ถูกตั้งชื่อตามภาชนะใส่เหล้าแบบโบราณ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ โดยอาคารนี้เมื่อสร้างเสร็จก็จะเป็นอาคารที่มีความสูงมากเป็นอันดับ 2 ที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของจีน

Previous Post

N2909164 คนเราม นก องม ลง part 2

Next Post

N2909166 แค มะเข อก ได เง part 2

Next Post
N2909166 แค มะเข อก ได เง part 2

N2909166 แค มะเข อก ได เง part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0411563 หลอยผ วมาต วอ าย EP1 part 2
  • N0411126 จะได ณค าและความลำบากในการใช เง part 2
  • N0411120 การด แลต วเองหล งคลอด part 2
  • N0411125 องการคนร กเม อตอนท กคนไม องการ part 2
  • N0411124 ความค ดครอบคร วผ วเต าล านป part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.