ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 ประเทศมีตึกสูงมากที่สุดในโลก พลเมืองได้อยู่ใกล้สวรรค์
06 Apr 2024




Play
SHORT CUT
- ตึกระฟ้า มากกว่า 80% ของโลกอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เพราะมีประชากรหนาแน่นกว่าภูมิภาคอื่น
- ตึกระฟ้าคือชิ้นส่วนประดับเมืองที่สำคัญ เพราะช่วยให้เมืองดูทันสมัย มีความศิวิไลซ์ และดูเป็นมหาอำนาจในภูมิภาค
- หลายเมืองบนโลกที่มีตึกระฟ้ากระจุกตัว กำลังเผชิญกับปัญหาพื้นดินทรุดลงเรื่อยๆ และเสี่ยงที่จะกลายเป็นเมืองจมน้ำ จากปัญหาภาวะโลกร้อน
10 ประเทศใกล้สวรรค์ มี ‘ตึกระฟ้า’ จำนวนมากที่สุดในโลก พลเมืองเหมือนได้อยู่ใกล้สวรรค์ กรุงเทพฯ ติดอันดับด้วย
รู้หรือไม่ ตึกระฟ้า มากกว่า 80% ของโลกอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เพราะความหนาแน่นของประชากรในประเทศเหล่านี้กระตุ้นให้ต้องสร้างตึกสูงมากกว่าพื้นที่อื่นๆ ของโลก
ข้อดีของการมีตึกระฟ้า
“ตึกระฟ้า (Skyscraper)” คืออาคารสูง ที่สามารถอยู่อาศัยได้หลายชั้น โดยอาคารประเภทนี้เริ่มก่อสร้างครั้งแรกในช่วงทศวรรษปี 1880 ซึ่งมีแค่ 10-20 ชั้นเท่านั้น แต่เมื่อความก้าวหน้าทางวิศวกรรมทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเป็นไปได้ ตึกระฟ้า ในปัจจุบันจึงหมายถึงอาคารที่สูงอย่างน้อย 100 – 150 เมตร ขึ้นไป
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมต้องสร้างตึกระฟ้าเพิ่มขึ้น? คำตอบง่ายๆ คือ เพื่อให้สอดคล้องกับประชากรเมืองที่เพิ่มมากขึ้น เพราะหลายประเทศเมืองใหญ่คือสถานที่แห่งโอกาสในการมีงานที่ดีทำ และการสร้างอาคารสำนักงาน โรงแรม หรือคอนโด ที่มีความสูง และสามารถรองรับคนได้จำนวนมาก จะช่วยให้เมืองนั้นเกิดความคึกคัก คนย้ายเข้ามาอยู่ เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว .
นอกเหนือจากนั้น ในแง่ของสิ่งแวดล้อม ตึกระฟ้าถูกมองว่าเป็นการสร้างเมืองแบบยั่งยืน และช่วยลดขยะในระยะยาว เพราะเมื่อคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในห้องขนาดกะทัดรัด พวกเขาจะสะสมวัตถุน้อยลง และไม่สนใจซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น
และในเรื่องความสวยงาม ตึกระฟ้าคือชิ้นส่วนประดับเมืองที่สำคัญ เพราะช่วยให้เมืองดูทันสมัย มีความศิวิไลซ์ และดูเป็นมหาอำนาจในภูมิภาค ซึ่งส่งผลดีต่อเมืองนัhนในหลายมิติ
ประเทศที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดในโลก
ประเทศที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดในโลก
ตามข้อมูลของ Council on Tall Buildings and Urban Habitat (CTBUH) เว็บไซต์สำรวจการเติบโตของเมืองทั่วโลก พบ 10 ประเทศที่มีจำนวนตึกสูงเกิน 150 เมตร มากที่สุดดังนี้
- อันดับ 1 จีน 3,287 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘ฮ่องกง’
- อันดับ 2 สหรัฐอเมริกา 892 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘นิวยอร์ก’
- อันดับ 3 สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 336 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘ดูไบ’
- อันดับ 4 มาเลเซีย 293 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘กัวลาลัมเปอร์’
- อันดับ 5 ญี่ปุ่น 280 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘โตเกียว’
- อันดับ 6 เกาหลีใต้ 276 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘โซล’
- อันดับ 7 ออสเตรเลีย 154 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘เมลเบิร์น’
- อันดับ 8 แคนาดา 153 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘โตรอนโต’
- อันดับ 9 อินโดนีเซีย 136 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘จาการ์ตา’
- อันดับ 10 ไทย 131 ตึก เมืองที่มีตึกสูงมากที่สุดคือ ‘กรุงเทพ’
10 ตึกที่สูงที่สุดในไทย
- อันดับ 1 แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ทาวเวอร์ (315 ม. / 1,033 ฟุต)
- อันดับ 2 คิง เพาเวอร์ มหานคร (314 ม. / 1,030 ฟุต)
- อันดับ 3 อาคารใบหยก 2 (304 ม. / 997 ฟุต)
- อันดับ 4 โฟร์ ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสสิเด้นซ์ (299.5 ม. / 983 ฟุต)
- อันดับ 5 ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (297.8 ม. / 977 ฟุต) (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)
- อันดับ 6 สุนทรียา ราชดําริ (295.2 ม. / 969 ฟุต) (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)
- อันดับ 7 One City Centre (275.8 ม. / 905 ฟุต)
- อันดับ 8 เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (268.7 ม. / 882 ฟุต)
- อันดับ 9 เดอะ ริเวอร์ ทาวเวอร์ (258 ม. / 846 ฟุต)
- อันดับ 10 คณาพญา เรสซิเดนซ์ (253.3 ม. / 831 ฟุต)
ทั้ง 10 ตึกอยู่ในกรุงเทพมหานคร
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- หากเกิดแผ่นดินไหว ตึกสูงในกรุงเทพฯ ต้องกังวล-จะถล่มไหม ?20 Jun 2023
- วัสดุห่อหุ้มอาคาร เปลี่ยนสีตามอุณหภูมิ ระบายความร้อน ลดการใช้พลังงาน 8%31 Jan 2024
- ฝุ่น PM2.5 ในอาคารของไทยวิกฤตหนัก! พุ่งติดอันดับ 11 ของโลก24 Jan 2024
ข้อเสียของตึกระฟ้า
ข้อเสียของตึกระฟ้า
อย่างไรก็ตาม แม้ตึกระฟ้าส่วนใหญ่จะมีการออกแบบที่ดี และไม่ค่อยถูกร้องเรียนเรื่องปัญหาต่างๆ เท่าไหร่นัก แต่ปัญหาหนึ่งที่ผู้สร้างยังแก้ไม่หายคือ ผู้ที่อยู่ชั้นสูงๆ จะมีอาการคล้ายเมาเรือ เพราะบนยอดอาคารจะแกว่งไปมา ถ้าหากเกิดเพลิงไหม้ ก่อการร้าย หรือแผ่นดินไหว ตึกระฟ้าจะเป็นจุดอันตรายที่สุดทันที เพราะเป็นอาคารที่คนกระจุกตัวอยู่มาก การอพยพลี้ภัยทำได้ยากและช้ากว่าอาคารขนาดเล็กหลายเท่า และถ้าตึกถล่มจากการถูกโจมตี หรือภัยธรรมชาติ ย่อมหมายถึงต้องมีผู้เสียชีวิตนับร้อยคนอย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนในเรื่องของความรู้สึก การมีตึกสูงจำนวนมาก แต่มีพื้นที่สีเขียวน้อย และมองไปทางไหนแล้วเห็นแต่ยอดตึกสูงบังเส้นขอบฟ้า ก็อาจทำให้จิตใจเศร้าหมอง หดหู่ ไม่มีความสุขได้ เพราะไม่ว่าบ้านเมืองจะเจริญไปสักแค่ไหน มนุษย์ก็ต้องมีช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้ธรรมชาติบ้าง
ยิ่งไปกว่านั้นการสร้างตึกสูง ย่อมทำให้พื้นดินของเมืองทรุดลงทุกปี ยกตัวอย่างเช่น นิวยอร์ก จากจาการ์ตา เม็กซิโกซิตี้ ฯลฯ ก็กำลังเผชิญกับปัญหาพื้นดินทรุดลงเรื่อยๆ และเสี่ยงที่จะกลายเป็นเมืองจมน้ำ จากปัญหาภาวะโลกร้อนในอนาคต
ดังนั้น ‘ผู้นำประเทศ’ ไม่ควรเพิ่มจำนวนตึกระฟ้าเพียงอวดนานาชาติ แต่ควรสร้างโดยพิจารณาจาก ศักยภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตัวเองเป็นสำคัญ
10 อันดับว่าที่ตึกสูงที่สุดในโลก ความงดงามแห่งอนาคตที่อลังการทะลุเมฆ !
Super.Admin.sgw ก.ย. 2, 2015 Uncategorized

เปิด 10 อันดับว่าที่ตึกสูงที่เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะกลายเป็นตึกที่มีความสูงที่สุดในโลก แค่ขนาดความสูงที่เป็นตัวเลขก็การันตีเลยว่าต้องร้องโอ้โหแน่นอน !
เมื่อนึกถึงตึกที่มีความสูง หลายคนก็คงจะนึกถึงตึกเบิร์จคาลิฟา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองดูไบกันใช่ไหมละค่ะ เพราะอาคารแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอาคารที่มีสูงที่สุดในโลกในขณะนี้ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีโครงการก่อสร้างตึกอีกหลาย ๆ แห่ง ซึ่งหากสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วจะมีความสูงมากกว่าอาคารว่าสูงที่สุดในโลกในตอนนี้อีกหลายร้อยเมตรเลย
1. อาคาร Kingdom Tower เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย
ความสูง: 3,281 ฟุต
จำนวนชั้น: 167 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2018
แม้ว่าจะยังสร้างไม่เสร็จ แต่อาคาร Kingdom Tower นี้ก็ได้รับตำแหน่งอาคารที่สูงที่สุดไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีการยืนยันว่าอาคารหลังนี้เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะมีความสูงมากกว่าอาคาร United Arab Emirates Burj Khalifa ที่ดูไบถึง 550 ฟุตเลยทีเดียว และจะเป็นอาคารที่มีระบบลิฟต์ที่ทันสมัยที่สุดด้วยเช่นกัน
2. อาคาร Suzhou Zhongnan Center เมืองซูโจว ประเทศจีน
ความสูง: 2,392 ฟุต
จำนวนชั้น: 138 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2020
เรื่องความบิ๊กเบิ้มนี่ต้องยกให้กับประเทศจีนเลยจริง ๆ โดยอาคารแห่งนี้ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนั้น นอกจากจะมีความสูงมากเป็นอันดับสองของโลกในอนาคตแล้ว ก็ยังจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศจีนอีกด้วย
3. อาคาร Ping An Finance Center เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน
ความสูง: 2,165 ฟุต
จำนวนชั้น: 115 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2016
อาคารอเนกประสงค์ความสูง 155 ชั้น ที่กำลังอยู่ในการก่อสร้างนี้ นอกจากจะมีสาธารณูปโภคครบครันแล้ว ก็จะเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ในจีนอย่าง Ping An Insurance โดยอาคารแห่งนี้มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมดกว่า 378,00 ตารางเมตรเลยทีเดียว
4. อาคาร Wuhan Greenland Centre เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
ความสูง: 2,087 ฟุต
จำนวนชั้น: 125 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2017
อาคาร Wuhan Greenland Centre นอกจากจะรั้งอันดับ 4 ของว่าที่อาคารที่สูงที่สุดในโลกอนาคตแล้ว ความพิเศษของอาคารแห่งนี้ก็คือการออกแบบที่มีการคำนึงถึงการประหยัดพลังงานอีกด้วยล่ะ
5. อาคาร Goldin Finance 117, เมืองเทียนจิน ประเทศจีน
ความสูง: 1,957 ฟุต
จำนวนชั้น: 128 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2016
อาคาร Goldin Finance 117 หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อาคาร China 117 เป็นอาคารที่กำลังถูกสร้างขึ้นในเมืองเทียนจินประเทศจีน โดยอาคารแห่งนี้เริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี 2008 แต่ถูกระงับการสร้างชั่วคราวในช่วงต้นปี 2010 และกลับมาเริ่มก่อสร้างอีกครั้งในปี 2011 มีการคาดการณ์ว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2016 นี้
6. อาคาร Pearl of the North เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน
ความสูง: 1,863 ฟุต
จำนวนชั้น: 113 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2018
อาคารที่เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะมีความสูง 113 ชั้นแห่งนี้ ใช้งบประมาณการก่อสร้างสูงกว่า 1.6 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จแล้วอาคารแห่งนี้จะกลายเป็นอาคารอเนกประสงค์ แบ่งเป็นหัองพักโรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวน 320 ห้อง และอาคารสำนักงาน 34 ชั้น
7. อาคาร Lotte World Tower กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
ความสูง: 1,819 ฟุต
จำนวนชั้น: 123 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2016
ด้วยงบประมาณสูงกว่า 1.25 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้อาคารแห่งนี้กลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงโซล โดยอาคารแห่งนี้ใช้เวลาในการวางแผนและเตรียมตัวสำหรับการก่อสร้างยาวนานถึง 13 ปี และเพิ่งได้รับการอนุญาตให้ก่อสร้างได้เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมานี่เอง
8. อาคาร Nordstrom Tower เมืองนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ความสูง: 1,775 ฟุต
จำนวนชั้น: 92 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2018
อาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยได้รับการยืนยันแล้วว่าจะเป็นอาคารแห่งที่ 2 ที่สูงที่สุดในเมืองนิวยอร์ก
9. อาคาร CTF Finance Center เมืองกวางโจว ประเทศจีน
ความสูง: 1,739 ฟุต
จำนวนชั้น: 111 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2016
CTF Finance Center ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอาคารอเนกประสงค์ โดยมีการยืนยันแล้วว่าหากอาคารแห่งนี้สร้างเสร็จ จะกลายเป็นอาคารที่มีลิฟต์เร็วที่สุดในโลก โดยมีความเร็วอยู่ที่ 45 ไมล์ต่อชั่วโมง และจะใช้เวลาเพียง 43 วินาทีจากชั้นล่างสุดจนถึงชั้นที่ 95
10. อาคาร Zhongguo Zun เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
ความสูง: 1,732 ฟุต
จำนวนชั้น: 108 ชั้น
กำหนดสร้างเสร็จ: ปี 2018
อาคารแห่งนี้ถูกตั้งชื่อตามภาชนะใส่เหล้าแบบโบราณ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ โดยอาคารนี้เมื่อสร้างเสร็จก็จะเป็นอาคารที่มีความสูงมากเป็นอันดับ 2 ที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของจีน

