ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
กินอยู่เหนือเมฆ กับ 10 อันดับโรงแรมระฟ้า สูงที่สุดในโลก (ฉบับอัปเดตล่าสุด)
โดย พลอยจันทร์ สุขคง
17.02.2018

- 326

HIGHLIGHTS
10 Mins. Read
- ลิสต์ 10 อันดับโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก อ้างอิงจาก The Skyscraper Center อัปเดตล่าสุด 16 กุมภาพันธ์ 2018
- Gevora Hotel เฉือนเอาชนะ JW Marriott Marquis Dubai โรงแรมสูงที่สุดในโลกไปครอง ด้วยความสูงต่างกันเพียง 1 เมตร ทันสมัย หรูหรา และงดงามด้วยการใช้เฉดสีขาว-ทองในทุกรายละเอียด พื้นปูหินอ่อน เฟอร์นิเจอร์คุณภาพ เครื่องนอนนุ่มลื่นจากใยผ้าเนื้อดี 75 ชั้น บรรจุห้องพัก 528 ห้อง มีทั้งห้องดีลักซ์และสวีท รวมถึง 4 ห้องอาหาร สปาสุดหรูบนชั้น 71 และสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า
หลังการเปิดตัวของ Gevora Hotel อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ทำให้ฉันคนหนึ่งล่ะที่ต้องอุทานในใจว่า “อีกแล้วเหรอ” ใช่แล้ว อีกครั้งแล้วที่เมืองดูไบ (Dubai) สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates) มีโรงแรมสูงเทียมฟ้าไว้ครอบครอง แถมยังทุบสถิติตัวเองด้วยการคว้าตำแหน่ง โรงแรมสูงที่สุดในโลกแทน JW Marriott Marquis Dubai ด้วยความสูงห่างกันเพียง 1 เมตร เท่านั้น
โรงแรมระฟ้ามักพบในแถบตะวันออกกลางและเอเชีย ชูประสบการณ์การพักผ่อนบนความสูงเทียมเมฆ ซึ่งแค่เหล่มองออกหน้าต่างก็เห็นก้อนปุยสีขาวๆ ปูพื้นราวกับพรมแดง ในยามที่ตึกสูงเทียมฟ้ามีเยอะแยะไปหมด อันดับต่างๆ ก็ดูจะอัปเดตไม่เท่าทัน มีทั้งตึกสูงที่สุดในโลก หอคอยสูงที่สุดในโลก โรงแรมสูงที่สุด และอยู่สูงที่สุด เอ๊ะ! ต่างกันอย่างไร THE STANDARD จัดคำตอบมาแล้ว พร้อมลิสต์ 10 อันดับโรงแรมระฟ้า สูงที่สุดในโลก ฉบับอัปเดตล่าสุดด้วย

10 อันดับโรงแรมระฟ้า สูงที่สุดในโลก
มาดูรายชื่อ 10 อันดับแรกของโรงแรมสูงที่สุดในโลก ฉบับอัปเดตล่าสุดกันดีกว่า

1. Gevora Hotel
ความสูง: 356 เมตร
จำนวนชั้น: 75 ชั้น
แน่นอนว่าสูงที่สุดยามนี้ต้องยกให้ Gevora Hotel ที่เฉือนเอาชนะ JW Marriott Marquis Dubai โรงแรมสูงที่สุดในโลกไปครอง ด้วยความสูงต่างกันเพียง 1 เมตร ทันสมัย หรูหรา และงดงามด้วยการใช้เฉดสีขาว-ทองในทุกรายละเอียด พื้นปูหินอ่อน เฟอร์นิเจอร์คุณภาพ เครื่องนอนนุ่มลื่นจากใยผ้าเนื้อดี 75 ชั้น บรรจุห้องพัก 528 ห้อง มีทั้งห้องดีลักซ์และสวีท รวมถึง 4 ห้องอาหาร สปาสุดหรูบนชั้น 71 และสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า

2. JW Marriott Marquis Dubai
ความสูง: 355 เมตร
จำนวนชั้น: 77 ชั้น
อาคารตึกแฝดรูปทรงแปลกตาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลำต้นปาล์ม ใหญ่โตโอ่อ่าสมราคาคุยด้วยห้องพักมากถึง 1,608 ห้อง แบ่งออกเป็นห้องสแตนดาร์ด 1,364 ห้อง ห้องสวีท 240 ห้อง ห้องเพรซิเดนเชียล สวีท 4 ห้อง มีหอประชุม 19 ห้องอาหาร สปา และร้านค้าอีกทั้งหมด 18 แห่ง

3. Rose Rayhaan by Rotana
ความสูง: 333 เมตร
จำนวนชั้น: 72 ชั้น
รู้จักกันดีในชื่อของตึกกุหลาบ หรือ Rose Tower เคยครองตำแหน่งโรงแรมสูงที่สุดในโลกมาแล้วในปี ค.ศ. 2009-2012 โครงสร้างเดิมมีขนาด 380 เมตร แต่ถูกปรับให้ลดลงเหลือ 333 เมตรตามที่เห็นในปัจจุบัน รูปแบบตัวอาคารด้านนอกประดับกระจกสีฟ้าและเงินทั่วทั้งหลัง ตัดกันเป็นรูปทรงเรขาคณิต มองดูละม้ายคล้ายคลึงกลีบดอกกุหลาบสมชื่อ นอกจากจะเป็นโรงแรมสูงระฟ้าระดับต้นของโลกแล้ว ที่นี่ยังเป็นโรงแรมแห่งแรกของดูไบที่ประกาศตนว่าไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสิร์ฟให้บริการแก่แขกที่มาพัก

4. Burj Al Arab
ความสูง: 321 เมตร
จำนวนชั้น: 56 ชั้น
ที่พักหรูหราระดับ 7 ดาว บนเกาะเทียมที่ถูกถมขึ้น ห่างจากชายฝั่ง Jumeirah Beach ประมาณ 280 เมตร ตึก Burj Al Arab เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองดูไบ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่แพงที่สุดในโลก โดยราคาค่าที่พักเริ่มต้นที่ 1,000-15,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน และห้องที่แพงสุดจะอยู่ที่ราคา 28,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน ตัวอาคารเลียนแบบจากรูปร่างของเรือใบ เปิดให้บริการห้องสวีทคู่ 202 ห้อง ขนาดใหญ่ถึง 169-780 ตารางเมตร และมีห้องใต้ทะเลที่เผยโลกใต้น้ำให้เห็นแบบจุใจ

5. Jumeirah Emirates Towers Hotel
ความสูง: 309 เมตร
จำนวนชั้น: 56 ชั้น
หนึ่งในอาคารฝาแฝดนาม Emirates Tower Two ที่ตึกหนึ่งถูกใช้เป็นสำนักงาน Emirates และอีกหนึ่งเป็นโรงแรมนามว่า Jumeirah Emirates Towers อาคาร 56 ชั้น เปิดให้บริการห้องสวีทล้วน 40 ห้อง ดำเนินการโดย Jumeirah International Group โรงแรมเชนดังที่มีสาขาไปทั่วโลก โดยมีพื้นที่ค้าปลีก The Boulevard เชื่อมต่อทั้งสองตึกเข้าไว้ด้วยกัน

6. Baiyoke Sky Hotel
ความสูง: 304 เมตร
จำนวนชั้น: 85 ชั้น
ตึกระฟ้าสูง 85 ชั้น เคยเป็นหนึ่งไม่เป็นสองในไทย จนกระทั่งตึกมหานครเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2016 แต่ยังคงรั้งตำแหน่งโรงแรมสูงที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นเดิม เปิดให้บริการทั้งหมด 673 ห้อง ในย่านการค้าส่งประตูน้ำ โดดเด่นด้วยห้องพักหรูหราพร้อมทิวทัศน์เส้นขอบฟ้ากรุงเทพมหานคร และ Rooftop Bar บาร์ชั้นดาดฟ้าที่ตราตรึงแขกด้วยวิวที่มองเห็นทั่วทั้งเมือง

Photo: ajbest
7. Wuxi Maoye City – Marriott Hotel
ความสูง: 303.8 เมตร
จำนวนชั้น: 68 ชั้น
อาคารสูงระฟ้าแห่งแรกในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ที่มีรูปร่างธรรมดามากถึงมากที่สุด ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูงชะลูด ไร้ลูกเล่นและกิมมิกใดๆ ซึ่งแสดงถึงความฟุ้งเฟ้อตามฉบับคอมมิวนิสต์ โครงสร้างทำจากเหล็กกรุด้วยกระจกทั้งหลัง มี Belt Truss หรือโครงสร้างรับแรงลมในชั้น 26 และ 46

8. Millennium Plaza Hotel Dubai
ความสูง: 294 เมตร
จำนวนชั้น: 66 ชั้น
โรงแรมลำดับที่ 6 ของดูไบที่ติดท็อปลิสต์ ตั้งอยู่บนถนน Sheikh Zayed ละแวกเดียวกับที่พักตัวแม่ทั้งหลาย ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน Emirates Towers Metro Station เพียงไม่กี่นาที ภายนอกสวยงามด้วยเฉดเหลืองทอง ยามต้องแสงไฟระยิบระยับอะร้าอร่าม ด้านในหรูหราคุมโทนด้วยสีเบจ เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Pool อยู่บนชั้นดาดฟ้า แหวกว่ายสายน้ำท่ามกลางวิวเมืองแบบ 270 องศา

9-10. Pullman Zamzam Makkah และ Mövenpick Hotel & Residence Hajar Tower Makkah
ความสูง: 279 และ 276 เมตร
จำนวนชั้น: 58 และ 54 ชั้น
สองอันดับสุดท้ายเป็นสองโรงแรมที่อยู่ในกลุ่มตึก Abraj Al Bait เมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ในนครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประกอบไปด้วยตึกสูงเทียมฟ้าทั้งหมด 7 หลัง มีดาวเด่นเป็นหอนาฬิกา ซึ่งเป็นอาคารแบบมิกซ์ยูส มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า ทว่าอาคารที่ติดโผเป็นตึกแฝด ซึ่งตั้งประกบอยู่ด้านข้าง ได้แก่ Zamzam Tower คุ้นหูในชื่อ Pullman Zamzam Makkah และ Hajar Tower ในนามของ Mövenpick Hotel & Residence
Photos: Courtesy of Brands, Shutterstock
อ้างอิง:
- www.thenational.ae/lifestyle/travel/world-s-new-tallest-hotel-opens-in-dubai-1.703514#3
- www.skyscrapercenter.com/buildings?list=tallest100-hotel
FYI
สูงที่สุด ไม่เท่ากับอยู่สูงที่สุด
หลายคนคงกำลังสับสนว่า ทำไม Gevora Hotel จึงคว้าตำแหน่งโรงแรมสูงที่สุดในโลกไปครอง ทั้งๆ ที่มีความสูงเพียง 356 เมตร ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของตึก Burj Khalifa ซึ่งมี Armani Dubai เปิดให้บริการเสียอีก
โรงแรมสูงที่สุดในโลก ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Tallest Hotel หมายถึง โรงแรมที่มีความสูงที่สุดในโลก ใช้กับอาคารโรงแรมที่ทั้งหลังเปิดให้บริการเป็นที่พักล้วน ไม่แบ่งเช่า แบ่งขายเป็นสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า เฉกเช่นตึกอาคารแบบมิกซ์ยูสทั่วไป ด้วยคำกำจัดความนี่แหละ โรงแรมต่างๆ ที่เรารู้สึกว่าสูงและคุ้นหูทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Armani Dubai, J Hotel Shanghai Tower หรือ The Ritz-Carlton Hong Kong ไม่ถูกจัดอยู่ในลิสต์ แต่ถูกจัดอยู่ในหมวด ‘โรงแรมที่อยู่สูงที่สุดในโลก’ แทน ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นของ The Ritz-Carlton Hong Kong มานานแล้วหลายปี
10 หอชมเมืองทั่วโลก ชมวิวอลังการบนมุมสูง
27 ก.พ. 65 (08:00 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้
ทุก ๆ เมืองมีทัศนียภาพเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เพราะฉะนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว คงจะดีไม่น้อยถ้าได้ใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับการชมวิวของเมืองแต่ละเมือง และวิธีที่ดีที่สุดจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากการขึ้นไปยังจุดสูงสุดเหนือพื้นดิน ที่จะทำให้คุณได้มองเห็นภาพรวมอันกว้างใหญ่สุดสายตา
The Passport คัดเลือก 10 หอชมเมืองจากทั่วโลกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดและมอบวิวที่ดีที่สุดให้กับผู้มาเยือน
Tokyo Skytree, Japan
เมื่อโตเกียวทาวเวอร์แห่งแรกไม่สามารถส่งคลื่นสัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยความสูงของมัน โตเกียวสกายทรีเลยถือกำเนิดขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นหอกระจายคลื่นแห่งใหม่ มาพร้อมกับตำแหน่งหอคอยที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และภายในเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีจุดชมวิวอยู่ที่ชั้น 445 มีชื่อว่า Tembo Galleria โดยเป็นทางเดินทอดยาวขึ้นไปจนถึงชั้นที่ 450 ซึ่งจะมี Sorakara Point จุดชมวิวที่สูงที่สุด 451.2 เมตรเหนือพื้นดิน
ข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ www.tokyo-skytree.jp
Taipei 101, Taiwan
อาคารไทเป 101 มีความโดดเด่นที่การออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์โพสต์โมเดิร์น ที่มีกลิ่นอายความเอเชียแฝงอยู่ แต่ด้วยทำเลของเกาะที่ตั้งอยู่บนรอยแยกภูเขาไฟ Pacific Ring of Fire อาคารแห่งนี้จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อรับแรงสั่นสะเทือนและมีความยืดหยุ่นเพื่อสู้กับพายุไต้ฝุ่นและแผ่นดินไหวจนได้ชื่อว่าเป็นอาคารที่มีรากฐานมั่นคงมากที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างมา ภายในอาคารมีทั้งห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร รวมถึงจุดชมวิวภายในอาคารบนชั้นที่ 89 จากตรงนี้จะมีทางเดินเชื่อมไปยังจุดชมวิวภายนอกอาคารที่ชั้น 91
ข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ www.taipei-101.com.tw
Eiffel Tower, France
ถ้ามาปารีสแล้วไม่ได้ไปเยือนหอไอเฟลก็คงเหมือนมาไม่ถึงปารีส ทุกคนรู้ดีว่าหอคอยแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน ครั้งหนึ่งเคยครองตำแหน่งสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก และเป็นแม่เหล็กคอยดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคนต่อปี อย่างไรก็ตามหอไอเฟลไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสเท่านั้น เพราะด้านบนยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร และมีจุดชมวิวบนความสูง 276 เมตรเหนือพื้นดิน ที่จะพาคุณไปดื่มด่ำกับทัศนียภาพของกรุงปารีสอันเปี่ยมมนต์ขลัง
ข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ www.toureiffel.paris
The Oriental Pearl Tower, China
หอวิทยุและโทรทัศน์ไข่มุกตะวันออกเป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ในเซี่ยงไฮ้ สร้างจนเสร็จสมบูรณ์ในปี 1995 และถือเป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดในจีนมาจนถึงปี 2007 ด้วยความสูง 468 เมตร จึงไม่แปลกที่หอคอยแห่งนี้จะถูดจัดเป็นจุดชมวิวระดับ AAAAA โดยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน ที่ประกอบไปด้วยจุดชมวิวทั้งหมด 15 ชั้น โดยจุดชมวิวที่สูงที่สุดนั้นมีชื่อว่า Space Module อยู่บนความสูง 351 เมตร
Sydney Tower Eye, Australia
เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่อยู่คู่กับเส้นขอบฟ้าของเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียมานานกว่า 30 ปี บางคนก็มักจะคุ้นหูในชื่อว่า Westfiled Tower ตามชื่อของศูนย์การค้า ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในอาคารที่ปลอดภัยที่สุดในโลกการออกแบบที่โดดเด่นทำให้หอคอยสามารถต้านทานแผ่นดินไหวและสภาพลมที่รุนแรงได้ บนความสูง 268 เมตรเหนือพื้นดินเป็นที่ตั้งของ SKYWALK ทางเดินชมวิวกลางแจ้งที่สูงที่สุด ท้าทายความหวาดเสียว จากจุดนี้มองเห็นสะพานฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นอีกสัญลักษณ์ของซิดนีย์ได้อีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ www.sydneytowereye.com.au
N Seoul Tower, Korea
หรืออีกชื่อหนึ่งคือนัมซานทาวเวอร์ เพราะตั้งอยู่บนภูเขานัมซานใจกลางกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ สร้างขึ้นในปี 1971 เพื่อทำหน้าที่เป็นหอส่งคลื่นวิทยุและโทรทัศน์ บนชั้นสามมีหอดูดาวที่มองเห็นทัศนียภาพ 360 องศาของเมือง แต่นัมซานทาวเวอร์กลับมีชื่อเสียงโด่งดังจากความเชื่อเรื่องการคล้องกุญแจคู่รักผ่านซีรีส์และรายการโทรทัศน์จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของกรุงโซลจนถึงทุกวันนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม www.nseoultower.co.kr
Burj Khalifa, Dubai
หลังจากเปิดตัวด้วยความสูงรวม 829.8 เมตรในปี 2010 เบิร์จคาลิฟาจึงกลายเป็นโครงสร้างและสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของโลกนับแต่นั้นมา ภายในอาคารประกอบไปด้วยโรงแรม ศูนย์การค้า และที่อยู่อาศัย มีจุดชมวิวอยู่หลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น At the Top จุดชมวิวกลางแจ้งบนชั้น 124 และ SKY ชั้น 148 ซึ่งตั้งอยู่บนความสูง 555 เมตรเหนือพื้นดิน จึงได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวบนอาคารที่สูงที่สุดในโลก
ข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ www.burjkhalifa.ae
King Power Mahanakhon
คิงเพาเวอร์มหานคร เป็นตึกระฟ้าที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจสีลม-สาทร โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่ด้วยผนังรูปทรงลูกบาศก์ เปิดให้บริการในเดือนธันวาคม ปี 2016 พร้อมกับตำแหน่งอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยด้วยความสูง 314 เมตร แต่หลังจากนั้นก็เสียแชมป์ให้กับอาคารแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนเซส แอท ไอคอนสยาม อย่างไรก็ตามบนชั้นดาดฟ้าของตึกมหานครยังคงเป็นจุดชมวิวกรุงเทพฯ มุมสูงที่ดีที่สุดแบบรอบทิศทาง พร้อมกับพื้นกระจกลอยฟ้าที่ชวนให้หวานเสียว
ข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ ticketing.kingpowermahanakhon.co.th
Berlin Television Tower, Germany
เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์กลางกรุงเบอร์ลิน ตั้งอยู่ในย่าน Marien ใกล้กับ Alexanderplatz ได้ชื่อว่าเป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดในเยอรมนีและเป็นโครงสร้างที่สูงเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป ด้วยความสูง 368 เมตร รวมเสาอากาศ จึงสามารถมองเห็นได้จากทั่วทั้งเมือง นอกเหนือจากหน้าที่หลักแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นหอชมวิวที่มีดาดฟ้าพร้อมบาร์และร้านอาหาร กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เยี่ยมชมมากกว่า 1,000,000 คนทุกปี
ข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ tv-turm.de
One World Trade Center, USA
เป็นอาคารที่สร้างขึ้นใหม่แต่ใช้ชื่อเดิมกับตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่ถูกทำลายในเหตุการณ์วินาศกรรม 9/11 เมื่อปี 2001 และตั้งอยู่บนพื้นที่เดิม สร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2014 ได้ชื่อว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นยังสูงที่สุดในซีกโลกตะวันตก และสูงเป็นอันดับหกของโลก ชั้นบนสุดของวันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์สูงจากระดับพื้นดิน 417 เมตร ส่วนจุดชมวิวบนอาคารแห่งนี้มีชื่อว่า One World Observatory ตั้งอยู่บนชั้นที่ 100 มาพร้อมพื้นกระจกใสขนาด 14 ฟุตที่มองลงไปแล้วจะเห็นถนนกับรถราในมหานครนิวยอร์กวิ่งผ่านไปมา

