ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
ตึกระฟ้าแห่งใหม่ติด 10 อันดับของโลก
Home / จัดอันดับท่องเที่ยวทั่วโลก / ตึกระฟ้าแห่งใหม่ติด 10 อันดับของโลก
ค้นหาบทความ:
ทุกหมวดหมู่ รวมเรื่องท่องเที่ยวทั่วโลก ไหว้พระ สักการะขอพร มูเตลู บทความช้อปปิ้ง ของกิน คาเฟ่ ร้านอาหาร บทความน่าอ่าน จัดอันดับท่องเที่ยวทั่วโลก เกี่ยวกับการเดินทาง Travel NEWS เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Work Permit & VISA เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Corporate แนะนำทริปเที่ยวทั่วไทย Thailand Travel Visa NEWS ค้นหา
ตึกระฟ้าแห่งใหม่ติด 10 อันดับของโลก
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีกว้างไกล ตึกใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แต่ละประเทศก็แข่งกันสร้างตึกสูงสวยๆ รูปร่างแปลกๆ มาอวดประชันกันสุดฤทธิ์
มาดูว่า 10 อันดับตึกระฟ้าแห่งใหม่ของโลกอยู่ที่ไหนบ้าง
อันดับ 1 The Shard (อังกฤษ)
ออกแบบโดยใช้ แองเจิ้ลกลาส ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงการสะท้อนแสง โดยลดแสงอาทิตย์ลงเมื่อมีปริมาณสูง และมีการจัดสวนฤดูหนาว เข้ามาแทนที่มุมออฟฟิศราคาแพงๆ ให้เป็นตึกระฟ้าที่เกิดประโยชน์จากธรรมชาติสูงสุดและยังช่วยในการระบายอากาศอีกด้วย
อันดับ 2 DC Tower 1 (ออสเตรีย)
ตึกกระจก ที่ถูกออกแบบมาให้มีแสงสว่างในตอนกลางวันโดยไม่ต้องพึ่งไฟฟ้า มีการปลูกต้นไม้ท้องถิ่นแทนการนำเข้าต้นไม้จากต่างประเทศ เพื่อลดการใช้น้ำที่เกินความจำเป็น และยังใช้วัสดุท้องถิ่นในการตกแต่งภายในตึกอีกด้วย เป็นตึกระฟ้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมจริงๆ
อันดับ 3 Sheraton Huzhou Hot Spring Resort (จีน)
ตึกระฟ้าที่มีแสงสว่างจาก LED กว่า 19,000 หลอดในตอนกลางคืน และโดดเด่นด้วยรูปทรงโค้งวงแหงนอยู่บนทะเลสาบ
เป็นโรงแรมที่ทุกห้องจะได้เห็นวิวจากระเบียง และได้รับแสงสว่างในตอนกลางวันอย่างทั่วถึง
อันดับ 4 Cayan Tower (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
ตึกบนดูไบที่มีรูปร่างบิดเกลียว 90 องศา เพื่อลดแรงลม โดยในแต่ละชั้นจะมีการหมุน 1.2 องศา สูงขึ้นไปจนกลายเป็น 90 องศา
เป็นตึกระฟ้าที่ออกแบบมาเข้ากับสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างดี
อันดับ 5 One Central Park, East Tower (ออสเตรเลีย)
เป็นตึกระฟ้าที่ออกแบบเป็นสวนแนวดิ่ง ทำให้เกิดความรู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้
อันดับ 6 Flame Towers (อาเซอร์ไบจาน)
ตึก 3 ตึกที่มีแสงไฟ LED อยู่โดยรอบ มีรูปร่างคล้ายกับเปลวไฟ มีต้นแบบความคิดมาจากประวัติของ อาเซอร์ไบจาน เมืองแห่งไฟ
อันดับ 7 Mercury City (รัสเซีย)
ตึกที่ออกแบบมาโดยมีพื้นที่ใช้สอย 75% และมีแสงส่องสว่างในเวลากลางวัน มีลิฟท์ความเร็วสูงถึง 7 เมตร/วินาที
อันดับ 8 Ardmore Residence (สิงคโปร์)
ตึกรูปทรงแปลกตา มีการออกแบบรายละเอียดที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับมีชีวิต
อันดับ 9 AZ Tower (สาธารณรัฐเช็ก)
ตึกที่มีตัวทำความเย็นสูงถึง 30 เมตร ออกแบบมาให้มีความเย็นในฤดูร้อน และอบอุ่นในฤดูหนาว ซึ่งมีเพียงตึกเดียวในสาธารณรัฐเช็ก
อันดับ 10 Nanfung Commercial (จีน)
ตึกที่ใช้ในการบริการและจัดแสดงงานต่างๆ มีพื้นที่ให้จัดแสดงในชั้นล่าง ด้านบนเป็นออฟฟิศ และโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว
ไทยมีอาคารสูงมากเป็นอันดับที่ 10 ของโลก และหนึ่งใน “One Bangkok” จะกลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดในไทย

Date: 31/08/2022Author: Marketeer Team
สำหรับช่วงเวลาสิ้นปีนี้ เริ่มใกล้เข้าสู่กำหนดการเปิดตัวของหลาย ๆโครงการ ทั้งโครงการวันซิตี้ เซ็นเตอร์ ที่คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในไตรมาส 4 ปีนี้ รวมถึงโครงการวัน แบงค็อก เฟส 1 ที่มีแพลนพร้อมเปิดในปีหน้า
- ทำไมต้องสร้างตึกระฟ้าหรืออาคารสูง
การสร้างอาคารสูง อาจมีเหตุผลเรื่องพื้นที่ใช้งานที่มากขึ้น เพื่อผู้อยู่อาศัยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับความหนาแน่นของประชากรที่พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับความก้าวหน้าทางวิศวกรรม
นอกจากนั้น ตึกระฟ้ายังสามารถตกแต่งและปรับปรุงภูมิทัศน์เมืองให้ดูทันสมัยได้ เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าของเมือง แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนา อีกทั้งการเกิดโครงการตึกระฟ้าในพื้นที่ ยังส่งผลให้มูลค่าของที่ดินโดยรอบมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ข้อมูลจาก Council on Tall Building and Urban Habitat พบว่า ประเทศไทยมีอาคารที่มีความสูงมากกว่า 150 เมตร มากเป็นอันดับ 10 ของโลก รองจากอินโดนีเซียและแคนาดา
แต่ความหนาแน่นประชากรไทยกลับใกล้เคียงจีนที่อยู่ในอันดับหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าไทยมีพื้นที่น้อยแต่จำนวนประชากรมาก การสร้างอาคารแนวดิ่งจึงสอดรับกับการรองรับประชากรที่เพิ่มจำนวนขึ้นได้ดีกว่าการลุยสร้างอาคารแนวราบ ซึ่งมีพื้นที่ไม่เพียงพอ
ไทยมีอาคารสูงมากเป็นอันดับที่ 10 ของโลก
| ประเทศ | จำนวนอาคารที่สูง 150m+ | ความหนาแน่นประชากร |
| 1. จีน | 2,968 | 139 คน/ตารางกิโลเมตร |
| 2. อเมริกา | 858 | 32 คน/ตารางกิโลเมตร |
| 3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 314 | 65 คน/ตารางกิโลเมตร |
| 4. เกาหลีใต้ | 276 | 500 คน/ตารางกิโลเมตร |
| 5. ญี่ปุ่น | 271 | 349 คน/ตารางกิโลเมตร |
| 6. มาเลเซีย | 266 | 92 คน/ตารางกิโลเมตร |
| 7. ออสเตรเลีย | 140 | 3 คน/ตารางกิโลเมตร |
| 8. อินโดนีเซีย | 129 | 124 คน/ตารางกิโลเมตร |
| 9. แคนาดา | 124 | 9 คน/ตารางกิโลเมตร |
| 10. ไทย | 124 | 131 คน/ตารางกิโลเมตร |
- รายละเอียดข้อมูลอาคารในไทย
ด้านข้อมูลของไทย Council on Tall Building and Urban Habitat ระบุว่า อาคารสูงของไทยอายุเฉลี่ย 12 ปี ส่วนใหญ่เป็นการสร้างเพื่อที่อยู่อาศัยประมาณ 58%
ในอดีตอาคารใบหยกที่สร้างในปี 2530 กลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดในเวลานั้น และกลายมาเป็นอาคารที่มีความสูงมากกว่า 150 เมตรแห่งแรกของประเทศไทยที่สูงที่สุด และสูงเป็นอันดับ 6 ของเอเชีย
นับจากนั้น อาคารใบหยกก็เป็นที่จดจำว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย จนกระทั่งอาคารระฟ้ามหานครเปิดตัวในปี 2559 ก็ได้ทำลายสถิติของอาคารใบหยก และเข้ามายืนแทนที่ในอันดับหนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นาน แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม ระดับลักชัวรี ก็เข้ามาอยู่ในอันดับหนึ่ง ด้วยความสูง 315 เมตร
แต่ในปี 2560 บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดตัว One Bangkok ด้วยงบการลงทุน 1.2 แสนล้านบาท โครงการมิกซ์ยูส รวมออฟฟิศ รีเทล โรงแรม และที่พักอาศัย ซึ่ง Signature Tower อาคารที่อยู่ในโครงการมีรายละเอียดความสูงที่ 436.1 เมตร ด้วยความสูงดังกล่าว ทำให้ Signature Tower ในโครงการวันแบงค็อกกลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดในเมืองไทย แทนที่ทั้งใบหยก มหานคร และแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์
อัปเดตอันดับอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย
| อันดับ | ชื่อ | สถานะ | สูง(เมตร) |
| 1 | Signature Tower วัน แบงค็อก | อยู่ระหว่างดำเนินการ | 436.1 |
| 2 | แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนเซส ทาวเวอร์ 1 | แล้วเสร็จ | 315 |
| 3 | มหานคร | แล้วเสร็จ | 314 |
| 4 | ใบหยก Tower II | แล้วเสร็จ | 304 |
| 5 | Four Seasons Private Residences | แล้วเสร็จ | 299.5 |
| 6 | สุนทรียา | อยู่ระหว่างดำเนินการ | 295.2 |
| 7 | วัน แบงค็อก เฟส 3 ทาวเวอร์ 2 | อยู่ระหว่างดำเนินการ | 284.7 |
| 8 | อาคารที่พักอาศัยวันแบงค็อก เฟส 2 | อยู่ระหว่างดำเนินการ | 277.7 |
| 9 | วัน ซิตี้ เซนเตอร์ | ใกล้แล้วเสร็จ | 275.8 |
| 10 | วัน แบงค็อก เฟส 1 ออฟฟิศ ทาวเวอร์ | อยู่ระหว่างดำเนินการ | 274.2 |
อ้างอิง: Council on Tall Building and Urban Habitat
–
ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที


