ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อันดับตึกสูงที่สุดในโลก ทะยานแยงแทงเสียดฟ้า
เผยแพร่: 11 ม.ค. 2553 17:28 โดย: MGR Online
โดย : จุชดานิน
ใครที่ชื่นชอบความสูงเร่เข้ามา เพราะฉันจะพาไปเล่นของสูง แต่ไม่ใช่แบบเพลงเล่นของสูงของบิ๊กแอสหรอกนะ แต่เป็นพาไปรู้จักกับตึกที่สูงมากถึงสูงที่สุดในโลกในยุคนี้ พ.ศ.นี้ต่างหาก เพราะเมื่อเร็วๆนี้ที่ดูไบได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของตึกใหม่ตึกที่สูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน (ไม่นับรวมหอคอยชมเมืองและหอส่งสัญญาณโทรทัศน์) ซึ่งก็คือตึก “เบิร์จ ดูไบ” และแน่นอนเมื่อมีการเปิดตัวตึกที่สูงที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ ก็ทำให้ตึก “ไทเป 101” ที่เคยสูงที่สุดในโลกได้ถูกทำลายสถิติไปอย่างเป็นทางการด้วยเช่นกัน
“เบิร์จ ดูไบ” (Burj Dubai ) หรือในปัจุบันได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “เบิร์จ คาลิฟา” (Burj Khalifa) หรือชื่อเต็มๆว่า “ชีค คาลิฟาร์ บิน ซาย์เอ็ด อัล-นาห์ยัน ทาวเวอร์” ซึ่งตั้งชื่อตามประธานาธิบดีของ UAEเพื่อเป็นการให้เกียรติในฐานะผู้นำประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และผู้นำของนครรัฐอาบู ดาบี
สำหรับสิ่งก่อสร้างที่ฉันมองแล้วมีรูปทรงเรียวยาวแหลมสูงคล้ายจรวดแห่งนี้ เริ่มก่อสร้างขึ้นเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาขนาดยักษ์ของเมืองดูไบ เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2547 ออกแบบโดยเอเดรียน สมิธ สถาปนิกชาวชิคาโก ซึ่งเป็นเจ้าเดียวกับผู้ออกแบบ วิลลิสทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา
เบิร์จ คาลิฟา สร้างแล้วเสร็จในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ที่ผ่านมา และทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา ด้วยความสูง 818 เมตร สูงกว่าอาคารไทเป 101เจ้าของสถิติเดิมถึง 309 เมตร ถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกใหม่ล่าสุดในขณะนี้ ไม่เพียงเท่านั้น เบิร์จ คาลิฟา ยังครองสถิติอาคารที่มีจำนานชั้นมากที่สุดคือ 162 ชั้นอีกด้วย
นอกจากนี้ยังได้ทำลายสถิติหอคอยที่สูงที่สุดในโลกคือหอคอยซีเอ็น ที่โทรอนโท ประเทศแคนาดา ซึ่งมีความสูง 553.3 เมตร และแซงหน้าสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างมา นั่นคือ เสาอากาศโทรทัศน์ KVLY-TV Mast ที่สหรัฐอเมริกาด้วย และเป็นแชมป์สถิติตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกนับถึงชั้นหลังคา โดยสูงถึง 546 เมตร จากเจ้าของสถิติเดิมคืออาคารไทเป 101 ซึ่งสูง 449.2 เมตร อีกทั้งยังได้ครองสถิติปั๊มคอนกรีตทางดิ่งที่สูงที่สุดในโลกสำหรับการก่อสร้างอาคาร ซึ่งสูงถึง 512.1 เมตร โค้นแชม์อาคารไทเป 101 ที่เคยสูง 439.2 เมตร และยังครองสถิติปล่องลิฟต์ที่ยาวที่สุดในโลกคือ 514 เมตร อีกด้วย
แน่นอนว่าตึกที่สูงรองลงมาก็คือ “ไทเป 101” แห่งไต้หวัน ที่สูง 509 เมตร มีจำนวนชั้นทั้งหมด 101 ชั้น ออกแบบโดย ซี.วาย. ลี สถาปนิกชาวไต้หวัน เริ่มสร้างในปี พ.ศ.2543 แล้วเสร็จและเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2547 ไทเป 10เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีลดอันตรายจากแรงลมอันทันสมัยตามหลักวิทยาศาสตร์ กับการตกแต่งด้วยรูปหัวมังกรที่มุมอาคารทั้ง 4 ด้านทุกปล้องเพื่อขับไล่ภูติผีปิศาจ ตามหลักความเชื่อทางไสยศาสตร์จากคำบอกเล่าของซินแส
ตึกระฟ้าสูงอันดับ 3 ของโลก คือ “เซี่ยงไฮ้เวิลด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์” ตั้งอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ตึกแห่งนี้สูง 492 เมตร ประกอบด้วยชั้น 101 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น สร้างในปี พ.ศ.2540-2551 ถือเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศจีน แซงหน้าอาคารจินเหมาซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง
ลำดับ 4 เป็นตึก
“อินเตอร์เนชันแนลคอมเมิร์ซเซ็นเตอร์” บนเกาลูนตะวันตก ในฮ่องกง มี 118 ชั้น สูง 484 เมตร ก่อสร้างในช่วงปี พ.ศ.2550-2553โดยที่ตั้งของตึกนี้เรียกว่า ยูนิออนสแควร์เฟส 7 ส่วนชื่ออินเตอร์เนชันแนลคอมเมิร์ซเซ็นเตอร์นั้น ถูกประกาศอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2548
สำหรับตึกสูงลำดับที่ 5 และ 6 คือตึก“เปโตรนาส” ที่มีความสูง 452 เมตร จำนวน88 ชั้น ออกแบบโดย เซซาร์ เปลลี สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2541 ตั้งอยู่บริเวณใจกลางย่านธุรกิจของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นอาคารแฝดมี 2หอคอย ได้รับแรงบันดาลใจจากเสาหินทั้ง 5 ของศาสนาอิสลาม ผสมผสานกับโครงเหล็กที่ห่อหุ้มในแต่ละจุด ทำให้เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตามีสะพานเชื่อมลอยฟ้า (Sky Bridge) ในบริเวณชั้นที่ 41 และ 42ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวิวทิวทัศในมุมสูงสุดหวาดเสียวได้ฟรี วันละประมาณ 1,000คน โดยจะต้องมารับตั๋วในตอนเช้าก่อนขึ้นชมในแต่ละรอบ และเนื่องจากอาคารแห่งนี้เป็นตึกแฝดมี 2 หอคอย จึงครองอันดับที่ 5 และ 6 ร่วมกัน อีกทั้งยังครองอันดับตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย
ตึกสูงอันดับ 7คือตึก “หนานจิงกรีนแลนด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์” มีความสูง 450 เมตร 89 ชั้น ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.2551และกำลังก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยสถาปนิกคนเดียวกับผู้สร้าง เบิร์จ คาลิฟา ตึกหลังนี้จะมีดาดฟ้าชมวิวบนชั้นที่ 72 ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดิน 287 เมตร สามารถมองเห็นภาพมุมกว้างของเมืองหนานกิงและแม่น้ำแยงซี ทะเลสาบสองแห่ง และภูเขาหนิงเจิงได้เป็นอย่างดี
ตึกสูงอันดับ 8 ได้แก่“วิลลิสทาวเวอร์”หรือมีชื่อเดิมที่คุ้นหูว่า“เซียรส์ทาวเวอร์”ตั้งอยู่ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา สร้างในปี พ.ศ.2513 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2517 มีความสูง 442 เมตร และมีจำนวนชั้นทั้งสิ้น 108 ชั้น เคยครองตำแหน่งอาคารสูงที่สุดของโลกตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2518 จนถึงปีพ.ศ. 2548 ก่อนจะเสียตำแหน่งให้กับตึกแฝดเปโตรนาสของมาเลเซีย
ลำดับที่ 9 ได้แก่ “กว่างโจวเวสต์ทาวเวอร์”ตั้งอยู่ที่เมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ตึกระฟ้าขนาด 103 ชั้น สูง 440.2 เมตร ตึกได้เริ่มสร้างในปี พ.ศ.2548 และสร้างถึงจุดสูงสุดในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551 และมีการเปิดตัวในปี พ.ศ.2552 ที่ผ่านมา
ส่วนตึกสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก ได้แก่ “จินเหมาทาวเวอร์” ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มีความสูง 421 เมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2541 มีจำนวนชั้นทั้งหมด 88 ชั้น ซึ่งคนจีนถือว่าเลข 8 เป็นเลขดีเลขนำโชค รูปแบบการก่อสร้างอาคารแห่งนี้เหมือนกับเจดีย์โบราณของจีน จุดที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวได้สูงสุดคือโรงแรมเซี่ยงไฮ้แกรนด์ไฮแอท ในชั้นที่ 53-87 และชั้นที่ 88 จะไม่ใช่พื้นที่ของโรงแรม แต่เป็นส่วนที่เรียกว่า สกายวอล์ค เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นเพื่อดูวิวมุมสูงได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว
เมื่อรู้จักกับ 10 อันดับตึกระฟ้าที่สูงที่สุดของโลกปัจจุบันนี้แล้ว ใครที่อยากจะท้าทายความสูงก็สามารถเดินทางไปพิชิตกันได้ ส่วนใครที่ยังกล้าๆกลัวๆก็ลองไปชิมลางกันก่อนได้ที่ “ใบหยก 2 ทาวเวอร์” มหานครกรุงเทพฯ ประเทศไทยของเราได้ ซึ่งตึกใบหยก 2 แห่งนี้สูงเป็นลำดับที่ 47ของโลก ด้วยความสูง 304 เมตร จำนวน 88 ชั้นรวมชั้นใต้ดิน ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2540 ในชั้นที่ 77 และ 84 เป็นชั้นสำหรับชมวิว โดยที่ชั้น 84 เป็นดาดฟ้าหมุนได้รอบ ทั้งสองชั้นนี้เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 10.30 ถึง 22.00 น.
แต่ในปี 2553 นี้ตึกใบหยก 2 ที่สูงที่สุดในประเทศไทยอาจจะถูกทำลายสถิติ โดยตึก “โอเชี่ยนวัน” (Ocean 1 Tower) คอนโดใจกลางพัทยา ซึ่งปัจจุบันกำลังก่อสร้างมีความสูง91 ชั้น 327 เมตร สูงกว่าตึกใบหยก 2 ถึง 23 เมตร คาดว่าจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยและเป็นที่พักอาศัยที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย
“10 อันดับตึกที่สูงที่สุดในโลก “
ตึกที่ 1. Burj Khalifa เชื่อว่าหลายคนเดาได้ จะด้วยจากภาพหน้าปกหรือจากการที่เคยเห็น ตึก นี้ผ่านตากันมาตามสื่อต่างๆเพราะถือว่าเป็นตึกที่โดดเด่นเเละมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั่นก็คือ ตึกเบิร์จคาลิฟา หรือชื่อเดิมที่เรียกกันคือ ตึกเบิร์จ ดูไบ(Burj Dubai)หลายคนคงเคยเห็นกันผ่านทางภาพยนตร์อย่างMission:Impossible–Ghost Protocolโดยถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ใหม่และสร้างชื่อเสียงให้นครดูไบบนแผนที่โลก ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ เคาะลีฟะฮ์ บิน ซายิด บิน สุลฏอน อัลนะฮ์ยาน(Khalifa bin Zayed Al Nahyan)ประธานาธิบดีคนที่สองแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากพระองค์ได้ให้ช่วยเหลือทางด้านการเงินครั้งใหญ่ให้กับนครดูไบ โดยด้านในตัวตึกมีทั้ง สำนักงาน ภัตตาคาร คอนโด สระว่ายน้ำแบบเอาท์ดอร์ สุเหร่า หอดูดาวกลางแจ้ง จุดชมวิวสูงที่สุดในโลก และ มีลิฟต์สูงที่สุดในโลกอีกด้วย และถ้าหากถามว่าตึกสูงขนาดนี้ ลิฟต์ต้องใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ ไม่ต้องห่วงครับ เพราะลิฟต์ที่เดินทางเร็วที่สุดในโลกก็อยู่ในตึกนี้ด้วยเช่นกัน โดยลิฟต์มีความเร็ว10เมตรต่อวินาที ก็คือถ้าจะไปถึงจุดชมวิวชั้น124จะใช้เวลาแค่1นาทีเท่านั้นตึกที่ 2. Sky City ตึกนี้ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนานของจีน เหตุที่ผุดไอเดียนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าริษัท บรอดซัสเทนนาเบิลคอนสตรักชั่น(Broad Sustainable Construction(BSC)ซึ่งมีชื่อเสียงมาก เมื่อปีพ.ศ.2553 จากการโชว์งานประกอบโรงแรมArk Hotel ในมณฑลหูนาน ซึ่งสูง30ชั้น โดยใช้เวลาเพียงแค่15วัน และยังคงใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบจนทุกวันนี้ และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาวิศวกรและสถาปนิกจีน ได้ประกาศโชว์งานประกอบอาคารระฟ้า สกายซิตี้ ตึกสูงทึ่สุดในโลก220ชั้น(838เมตร) ให้เสร็จภายใน90วัน หรือเฉลี่ยวันละ5ชั้น โดยรายงานข่าวอ้างคำกล่าวของกลุ่มสถาปนิกผู้สร้างว่า ตึกสกายซิตี้ซึ่งจะสร้างที่เมืองฉางซานี้ ออกแบบสร้างโดยกลุ่มวิศวกรและสถาปนิกผู้ผ่านงานสร้างตึกเบิร์จคาลิฟา(Burj Khalifa)ในดูไบด้วย และหากนับความสูงแล้วตึกสกายซิตี้ จะสูงกว่าตึกเบิร์จคาลิฟา10เมตร แต่มีการเลื่อนระยะเวลาประกอบจาก90วัน หรือ3เดือน ออกไปเป็น7 เดือน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเวลาที่สั้นมากๆ อยู่ดีเมื่อเทียบ กับเบิร์จคาลิฟา ที่ใช้เวลาสร้างถึง6ปีซึ่งตึกที่ว่านี้ใช้เทคนิคการประกอบแบบ(พรีแฟบ-Prefabricated modular) อันลดระยะเวลาก่อสร้างได้มากเนื่องจากไม่ต้องทำหรือก่อทีละชั้นก่อนจึงเริ่มชั้นถัดไปแต่สามารถทำชิ้นส่วนทุกชั้นพร้อมกันโดยเตรียมจากโรงงานต่างๆในเวลาเดียวกันและขนส่งมายังสถานที่ก่อสร้างเพื่อยกขึ้นประกอบทีละชั้นๆ ด้วยทาวเวอร์เครนแต่ความสำคัญอยู่ที่ชิ้นส่วนทุกชิ้นต้องมีการออกแบบมาอย่างดีและสร้างขึ้นจากการคำนวณที่ละเอียดแม่นยำตึกที่ 3. Abraj Al-Bait Complex and Makkah Royal Clock Tower ที่ประเทศซาอุดิอาราเบีย เรามั่นใจเลยว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกที่หลายๆคนคิดไม่ถึง ไม่มีอยู่ในสารบบความคิด และไม่เคยเห็นแน่นอนกับAbraj Al-Bait Clock Tower อับราจ อัล เบท ทาวเวอร์ส ที่นครมักกะห์ ตอนที่ทำข้อมูลเรื่องอันดับตึกที่สูงที่สุดในโลก เราได้เห็นรูปเรนเดอร์เดี่ยวๆจากเว็บที่รายงานอับดับความสูงก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งได้เสิร์ชดูรุปจริงของตัวAbrajAl-BaitClockTower ก่อนจะค้นพบว่าเป็นตึกที่แปลกมาก เพราะมาในรูปแบบของหอนาฬิกาสมชื่อ แถมยังเป็นหอนาฬิกาขนาดใหญ่ที่หากกะขนาดด้วยสายตา เข็มสั้นบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนนี้น่าจะสูงประมาณสัก5ชั้นของอาคารได้เลยมั้ง เส้นผ่าศูนย์กลางยาวถึง40เมตร มองเห็นได้จากเกือบๆ2กิโลเมตร เรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นเเละไม่เหมือนใครมากๆ ในเรื่องสีก็เช่นเดียวกัน เราชอบสีของกระจกและตัวอาคารที่เป็นสีฟ้าเทอร์ควอยส์ (Turquoise) สลับกับทองมาก ๆ มันดูสวย หรู ร่ำรวยแบบเอะอะไม่ทิ้งเอกลักษณ์วัฒนธรรมตะวันออกกลางเลยแม้แต่นิดเดียว ด้านในอาคารจะเป็นMixed-useที่เเบ่งออกเป็นหลายส่วนด้วยกันไม่ว่าจะเป็นศูนย์การประชุม โถงละหมาดสำหรับ3,800คน ศูนย์การค้าและโรงแรมตึกที่ 4. Ping An International Finance Centre ขึ้นชื่อว่ามหาอำนาจใหม่ จะมีสิ่งปลูกสร้างอลังการในแผ่นดินเยอะก็ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยตึกที่สูงที่สุดในโลกอันดับที่สี่นี้ ตั้งอยู่ที่นครเซิ่นเจิ้น ชื่อเมืองที่คนไทยหลายคนน่าจะรู้จักกันดี เพราะแค่ข้ามฝั่งภูเขาจากฮ่องกงเท่านั่นเอง แต่ก็เรียกได้ว่าชื่อเสียงนั้นไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ซึ่งเอาจริงๆเเล้วเซิ่นเจิ้นเป็นเมืองที่เจริญมาก เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอีกแห่งของจีน ที่อยู่ติดกับฮ่องกงเลย ซึ่งถ้าหากดูจากรูปนี้ จะดูเหมือนกับว่าตัวอาคารตึกที่สูงที่สุดในโลกอันดับนี้ไม่ได้สูงมาก เพราะบอกตามตรงว่าอาคารอื่นๆในเขตCBDของเซิ่นเจิ้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นอาคารที่สูงมากด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้ามาดูความสูงที่เกือบๆ600เมตรเเล้ว ลองเอาไปเทียบกับตึกที่สูงที่สุดในโลกอันดับที่3ที่ไม่ค่อยมีตึกสูงอื่นโดยรอบก็ถือว่าPing An International Finance Centre เป็นตึกที่สูงมากเลยทีเดียวตึกที่ 5. Signature Tower มาถึงประเทศในเขตเพื่อนบ้านAECของเรากันบ้างกับโครงการ‘เดอะซิกเนเจอร์ทาวเวอร์’จะสร้างขึ้นที่ใจกลางย่านธุรกิจของจาการ์ตา(Sudirman Central Business District-SCBD)ใช้เงินลงทุน2,000ล้านดอลลาร์สหรัฐฯโดยหุ้นส่วนของนายวินาต้าคือบริษัทเอ็มจีเอ็มฮอสปิตาลิตี้ฯยักษ์ใหญ่โรงแรมจากสหรัฐอเมริกา ตึกเดอะซิกเนเจอร์ทาวเวอร์จะมีชั้นหอคอยและภัตตาคารอยู่บนสุดโรงแรมเอ็มจีเอ็ม6ดาว22ชั้นพื้นที่สำนักงานเกรดเอ2โซน โซนละ22ชั้นโซนอพาร์ตเมนต์22ชั้นเพียบพร้อมด้วยศูนย์ประชุมและร้านค้าสินค้าหรูมีลานจอดรถ6ชั้นออกแบบโดยบริษัทดังจากสหรัฐอเมริกาคือบริษัทสมอลวู้ดฯบริษัทเรย์โนลด์ฯและบริษัทสจ๊วตแอนด์แอสโซซิเอทฯตึกที่ 6. Lotte World Tower สำหรับใครที่ไปเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในกรุงโซลเเล้วมีโอกาสได้ขึ้นโซลทาวเวอร์ คงจะสังเกตเห็นอาคารสูงที่โดดเด่นจากระยะไกลหลายสิบกิโลเมตรหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลกอย่างLotteWorldTower เพราะโดยส่วนตัวตอนที่เราไปเที่ยวโซล เรามองเห็นอาคารนี้ครั้งแรกตอนที่นั่งรถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำฮัน รู้สึกตอนนั้นเราจะอยู่ที่สถานีTtukseom Resortกำลังกลับฮงแด บรรยากาศตอนเย็นๆพระอาทิตย์กำลังจะตก แล้วมองเห็นวิวตึกนี้อยู่ไกลๆ คือดีมาก ตึกLotteWorldTower เป็นหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลกของกลุ่มบริษัท ธุรกิจหลากหลายชนิด โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างกลุ่มบริษัทในเกาหลีใต้และกลุ่มบริษัทในญี่ปุ่น มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งก็คือตึกนี้นั่นเอง โดยธุรกิจส่วนใหญ่ที่ทำก็จะอยู่ภายใต้ชื่อ Lotte อย่างในเกาหลีเองก็มีทั้งห้างสรรพสินค้าเเละสวนสนุกที่เป็นแลนด์มาร์คของโซลในชื่อนี้อีกด้วยตึกที่ 7. One World Trade Center ทุกคนคุ้นๆ กับชื่อของตึกที่สูงที่สุดในโลกอันดับนี้กันไหมครับ แน่นอนว่านอกจากจะเป็นชื่อเก่าของอาคารแฝดที่ถูกทำลายจากเหตุการณ์9/11แล้วเนี่ย ซึ่งแน่นอนว่าOneWorldTradeCenterถูกสร้างขึ้นแทนที่กลุ่มอาคารเดิมที่ถูกทำลายไป โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น3,900ล้านดอลลาร์สหรัฐ(117,000 ล้านบาท) ปัจจุบันตึกOneWorldTradeCenter หลังใหม่นี้ ภายในอาคารเป็นสำนักงานและด้านบนมีจุดชมวิว360องศาของเกาะแมนฮัตตัน มองเห็นคลอบคลุมไม่ว่าจะเป็น อัพทาวน์ มิดทาวน์ ดาวน์ทาวน์ ควีนส์ และ บรูคลิน รวมถึงนิวเจอร์ซี่อีกด้วย เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลกแล้ว ก็ยังเป็นอนุสรณ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตที่ชาวนิวยอร์กไม่มีวันลืมอีกด้วย แต่จะว่าไปด้านบนของตัวอาคารOneWorldTradeCenterหลังใหม่นี้ก็มีความคล้ายกับอาคารแฝดหลังเดิมอยู่ จากนั้นพอไล่ระดับลงมา จึงเหมือนถูกบิดมุมให้เปลี่ยนแปลงไป ดูแล้วสวยเเละมั่นคงดีทีเดียวตึกที่ 8. Guangzhou CTF Finance Centre ตึกนี้อยู่ในประเทศจีน ในกวางโจวโดยกวางโจวนั้นเป็นเมืองเศรษฐกิจของจีนอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กับฮ่องกงมาก ฉะนั้นเรื่องความเจริญไม่ต้องพูดถึง เรียกได้ว่าใกล้เคียงกันมาก ๆ จึงไม่แปลกเลยที่จะมีหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลกที่สูงขนาดนี้ตั้งอยู่ โดยในรูป ตึกGuangzhou CTF Finance Centreจะเป็นตึกที่สูงกว่านะ ตัวตึกเป็นสีเทาขาว ฐานถึงยอดตึกเกือบจะมีขนาดเท่ากัน ตัวตึกเป็นทรงกระบอกที่ฐานและยอดอาคารเกือบจะเสมอกัน โดยมีระยะร่น Setback เพียงเล็กน้อย ดูหนังแน่นและมั่นคงดี โดยด้านในจะประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าK11 Art Mallโรงหนังแบบ4DXพื้นที่อยู่อาศัย โรงแรม สวนในร่ม โดยทั้งหมดถูกรังสรรค์อย่างอลังการตามสไตล์พี่จีนบนพื้นที่ว่า750,000ตารางเมตรเลยทีเดียว โดยตึกที่สูงที่สุดในโลกในอันดับที่ 7 และ 8 สังเกตว่าชื่อตึกจะลงท้ายด้วยCTF Finance Centreเหมือนกันเลย เพราะโดยหลักๆเเล้วด้านใน พื้นที่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสำนักงานเกี่ยวกับการเงินนั่นเองตึกที่ 9. Tianjin CTF Finance Centre Tianjin CTF Finance Centre นั้น ซึ่งพอพูดถึงเมืองเทียนจิน หลายคนน่าจะไม่รู้จัก แต่ขอบอกเลยว่าเมืองเทียนจินเป็นอีกเมืองเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมากของประเทศจีน มีกลุ่มอาคารและพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษขนาดใหญ่ จำนวนประชากรเยอะ ฉะนั้นตึกที่สูงที่สุดในโลกอันดับ 9 จะมาโผล่ที่เทียนจินก็ไม่แปลก ตึกอลังการใช้ได้ ดูแล้วให้ฟีลหนังไซไฟดี มีความโค้งมนจากการบิดแกนของตัวตึกคล้ายสว่าน อาจเป็นเพราะตึกรอบด้านไม่สูงมากนัก เลยยิ่งทำให้ Tianjin CTF Finance Centre ยิ่งเด่นขึ้นไปอีก โดยด้านในตึกเป็นสำนักงานระดับสูงGrade A Officeต่างๆ มีที่อยู่อาศัย และโรงแรมตึกที่ 10. Taipei 101 น่าจะเป็นตึกที่คนไทยหลายๆคนคุ้นชื่อเเละเคยไปกันมาบ้างเเล้วสำหรับ ไทเป101 เพราะเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกอยู่ในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยที่ไม่ต้องขอวีซ่าอย่างเมืองไทเป ประเทศไต้หวัน แถมยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายของโปรเเกรมทัวร์ ที่จะต้องพาลูกทัวร์ขึ้นไปชมวิวจากบนตึกไทเป101 อีกด้วย เพราะความที่เป็นตึกแลนด์มาร์คสำคัญของไทเป ที่ถือว่ามีงานสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเจดีย์ของจีน เรียงต่อกันเป็นขั้น ธีมสีการออกแบบเป็นสีเขียวอมฟ้า หากได้ภาพถ่ายตอนเย็น ๆ ที่แสงอาทิตย์บนท้องฟ้าด้านหลังตึกเป็นช่วงTwilight นิดๆจะยิ่งช่วยให้ตัวตึกสวยมากยิ่งขึ้นไปอีก ปัจจุบันด้านในตึกไทเป 101 ประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้า,อาคารสำนักงานรวมทั้งจุดชมวิวและร้านขายของที่ระลึกด้วย โดยมีบริษัทศูนย์การเงินของไทเปเป็นเจ้าของและบริหารจัดการโดยฝ่ายต่างประเทศของบริษัทค้าปลีกอสังหาริมทรัพย์เมือง (Urban Retail Properties Corporation) ใครที่มีโอกาสได้ไปไต้หวันเเละกรุงไทเป ก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมตึกไทเป101 กัน ไปชมวิวมุมสูงของเมืองไทเป ไปชมสถาปัติยกรรมสวยๆในยุคใหม่กัน |
| https://www.youtube.com/embed/5uxgySch4Ks?si=eW-MTdEzn4Gse3_Y |
บทความอื่นๆ
- รวมสิทธิประโยชน์ที่คนมีลูกต้องรู้ / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-12 )
- เลือกฟิล์มรถอย่างไรให้ตรงตามความต้องการ / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-13 )
- เรียนรู้ประวัติศาสตร์จาก 5 วัดดังในอยุธยา / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-13 )
- 5 อันดับ พระเครื่อง มีติดตัวช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-13 )
- ทำความเข้าใจตำแหน่งของข้าราชการตำรวจไทย / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-14 )
- ทำความรู้จักปืน 5 ชนิดที่ไม่ได้ความนิยมมีไว้ติดบ้าน / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-14 )
- 4 พฤติกรรมอะไรบ้างที่ทำร้ายตับที่เราอาจละเลยและมองข้ามไป / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-14 )
- รวมรายชื่อ iPhone และ iPad ที่ได้อัปเดตเป็น iOS 17 และ iPadOS 17 18 กันยายนนี้เจอกัน / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-14 )
- 3 อาชีพที่ไฟแนนซ์อนุมัติง่ายมากสบายใจหายห่วง / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-14 )
- น้ำแร่ประโยชน์ดีๆที่ไม่ควรมองข้าม / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-17 )
- ทาสต้องรู้! สายพันธุ์แมวไทยและเทศยอดนิยม / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-12 )
- กินเลย 5 ผักที่มีวิตามินซีสูง / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-09 )
- 7 แฟรนไชส์ชานมไข่มุก น่าลงทุนประจำปี 2566 / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-09 )
- รวมแหล่ง “เรียนออนไลน์ฟรี” ในปี 2566 แถมเรียนจบได้เกียรติบัตรด้วยนะ / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-09 )
- เท้า ศูนย์รวมเส้นประสาทที่คุณต้องดูแล / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-09 )
- “ติ่งเนื้อ” ทิ้งไว้จะกลายเป็นมะเร็งหรือไม่? เรามีคำตอบ / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-09 )
- รวม 8 น้ำตก unseen thailand ต้องไปสักครั้ง / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-07 )
- จัดการ “ดินเค็ม” ให้อยู่หมัด เกิดประโยชน์สูงสุด / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-07 )
- 7 เรื่องน่ารู้เเกี่ยวกับทางช้างเผือก / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-07 )
- แนะนำ 6 เกมเลี้ยงสัตว์สุดน่ารัก บนมือถือ 2023 / เรื่องทั่วไป ( 2023-09-07 )

เชื่อว่าหลายคนเดาได้ จะด้วยจากภาพหน้าปกหรือจากการที่เคยเห็น ตึก นี้ผ่านตากันมาตามสื่อต่างๆเพราะถือว่าเป็นตึกที่โดดเด่นเเละมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั่นก็คือ ตึกเบิร์จคาลิฟา หรือชื่อเดิมที่เรียกกันคือ ตึกเบิร์จ ดูไบ(Burj Dubai)หลายคนคงเคยเห็นกันผ่านทางภาพยนตร์อย่างMission:Impossible–Ghost Protocolโดยถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ใหม่และสร้างชื่อเสียงให้นครดูไบบนแผนที่โลก ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ เคาะลีฟะฮ์ บิน ซายิด บิน สุลฏอน อัลนะฮ์ยาน(Khalifa bin Zayed Al Nahyan)ประธานาธิบดีคนที่สองแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากพระองค์ได้ให้ช่วยเหลือทางด้านการเงินครั้งใหญ่ให้กับนครดูไบ โดยด้านในตัวตึกมีทั้ง สำนักงาน ภัตตาคาร คอนโด สระว่ายน้ำแบบเอาท์ดอร์ สุเหร่า หอดูดาวกลางแจ้ง จุดชมวิวสูงที่สุดในโลก และ มีลิฟต์สูงที่สุดในโลกอีกด้วย และถ้าหากถามว่าตึกสูงขนาดนี้ ลิฟต์ต้องใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ ไม่ต้องห่วงครับ เพราะลิฟต์ที่เดินทางเร็วที่สุดในโลกก็อยู่ในตึกนี้ด้วยเช่นกัน โดยลิฟต์มีความเร็ว10เมตรต่อวินาที ก็คือถ้าจะไปถึงจุดชมวิวชั้น124จะใช้เวลาแค่1นาทีเท่านั้นตึกที่ 2. Sky City
ตึกนี้ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนานของจีน เหตุที่ผุดไอเดียนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าริษัท บรอดซัสเทนนาเบิลคอนสตรักชั่น(Broad Sustainable Construction(BSC)ซึ่งมีชื่อเสียงมาก เมื่อปีพ.ศ.2553 จากการโชว์งานประกอบโรงแรมArk Hotel ในมณฑลหูนาน ซึ่งสูง30ชั้น โดยใช้เวลาเพียงแค่15วัน และยังคงใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบจนทุกวันนี้ และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาวิศวกรและสถาปนิกจีน ได้ประกาศโชว์งานประกอบอาคารระฟ้า สกายซิตี้ ตึกสูงทึ่สุดในโลก220ชั้น(838เมตร) ให้เสร็จภายใน90วัน หรือเฉลี่ยวันละ5ชั้น โดยรายงานข่าวอ้างคำกล่าวของกลุ่มสถาปนิกผู้สร้างว่า ตึกสกายซิตี้ซึ่งจะสร้างที่เมืองฉางซานี้ ออกแบบสร้างโดยกลุ่มวิศวกรและสถาปนิกผู้ผ่านงานสร้างตึกเบิร์จคาลิฟา(Burj Khalifa)ในดูไบด้วย และหากนับความสูงแล้วตึกสกายซิตี้ จะสูงกว่าตึกเบิร์จคาลิฟา10เมตร แต่มีการเลื่อนระยะเวลาประกอบจาก90วัน หรือ3เดือน ออกไปเป็น7 เดือน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเวลาที่สั้นมากๆ อยู่ดีเมื่อเทียบ กับเบิร์จคาลิฟา ที่ใช้เวลาสร้างถึง6ปีซึ่งตึกที่ว่านี้ใช้เทคนิคการประกอบแบบ(พรีแฟบ-Prefabricated modular) อันลดระยะเวลาก่อสร้างได้มากเนื่องจากไม่ต้องทำหรือก่อทีละชั้นก่อนจึงเริ่มชั้นถัดไปแต่สามารถทำชิ้นส่วนทุกชั้นพร้อมกันโดยเตรียมจากโรงงานต่างๆในเวลาเดียวกันและขนส่งมายังสถานที่ก่อสร้างเพื่อยกขึ้นประกอบทีละชั้นๆ ด้วยทาวเวอร์เครนแต่ความสำคัญอยู่ที่ชิ้นส่วนทุกชิ้นต้องมีการออกแบบมาอย่างดีและสร้างขึ้นจากการคำนวณที่ละเอียดแม่นยำตึกที่ 3. Abraj Al-Bait Complex and Makkah Royal Clock Tower
ที่ประเทศซาอุดิอาราเบีย เรามั่นใจเลยว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกที่หลายๆคนคิดไม่ถึง ไม่มีอยู่ในสารบบความคิด และไม่เคยเห็นแน่นอนกับAbraj Al-Bait Clock Tower อับราจ อัล เบท ทาวเวอร์ส ที่นครมักกะห์ ตอนที่ทำข้อมูลเรื่องอันดับตึกที่สูงที่สุดในโลก เราได้เห็นรูปเรนเดอร์เดี่ยวๆจากเว็บที่รายงานอับดับความสูงก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งได้เสิร์ชดูรุปจริงของตัวAbrajAl-BaitClockTower ก่อนจะค้นพบว่าเป็นตึกที่แปลกมาก เพราะมาในรูปแบบของหอนาฬิกาสมชื่อ แถมยังเป็นหอนาฬิกาขนาดใหญ่ที่หากกะขนาดด้วยสายตา เข็มสั้นบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนนี้น่าจะสูงประมาณสัก5ชั้นของอาคารได้เลยมั้ง เส้นผ่าศูนย์กลางยาวถึง40เมตร มองเห็นได้จากเกือบๆ2กิโลเมตร เรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นเเละไม่เหมือนใครมากๆ ในเรื่องสีก็เช่นเดียวกัน เราชอบสีของกระจกและตัวอาคารที่เป็นสีฟ้าเทอร์ควอยส์ (Turquoise) สลับกับทองมาก ๆ มันดูสวย หรู ร่ำรวยแบบเอะอะไม่ทิ้งเอกลักษณ์วัฒนธรรมตะวันออกกลางเลยแม้แต่นิดเดียว ด้านในอาคารจะเป็นMixed-useที่เเบ่งออกเป็นหลายส่วนด้วยกันไม่ว่าจะเป็นศูนย์การประชุม โถงละหมาดสำหรับ3,800คน ศูนย์การค้าและโรงแรมตึกที่ 4. Ping An International Finance Centre
ขึ้นชื่อว่ามหาอำนาจใหม่ จะมีสิ่งปลูกสร้างอลังการในแผ่นดินเยอะก็ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยตึกที่สูงที่สุดในโลกอันดับที่สี่นี้ ตั้งอยู่ที่นครเซิ่นเจิ้น ชื่อเมืองที่คนไทยหลายคนน่าจะรู้จักกันดี เพราะแค่ข้ามฝั่งภูเขาจากฮ่องกงเท่านั่นเอง แต่ก็เรียกได้ว่าชื่อเสียงนั้นไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ซึ่งเอาจริงๆเเล้วเซิ่นเจิ้นเป็นเมืองที่เจริญมาก เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอีกแห่งของจีน ที่อยู่ติดกับฮ่องกงเลย ซึ่งถ้าหากดูจากรูปนี้ จะดูเหมือนกับว่าตัวอาคารตึกที่สูงที่สุดในโลกอันดับนี้ไม่ได้สูงมาก เพราะบอกตามตรงว่าอาคารอื่นๆในเขตCBDของเซิ่นเจิ้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นอาคารที่สูงมากด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้ามาดูความสูงที่เกือบๆ600เมตรเเล้ว ลองเอาไปเทียบกับตึกที่สูงที่สุดในโลกอันดับที่3ที่ไม่ค่อยมีตึกสูงอื่นโดยรอบก็ถือว่าPing An International Finance Centre เป็นตึกที่สูงมากเลยทีเดียวตึกที่ 5. Signature Tower
มาถึงประเทศในเขตเพื่อนบ้านAECของเรากันบ้างกับโครงการ‘เดอะซิกเนเจอร์ทาวเวอร์’จะสร้างขึ้นที่ใจกลางย่านธุรกิจของจาการ์ตา(Sudirman Central Business District-SCBD)ใช้เงินลงทุน2,000ล้านดอลลาร์สหรัฐฯโดยหุ้นส่วนของนายวินาต้าคือบริษัทเอ็มจีเอ็มฮอสปิตาลิตี้ฯยักษ์ใหญ่โรงแรมจากสหรัฐอเมริกา ตึกเดอะซิกเนเจอร์ทาวเวอร์จะมีชั้นหอคอยและภัตตาคารอยู่บนสุดโรงแรมเอ็มจีเอ็ม6ดาว22ชั้นพื้นที่สำนักงานเกรดเอ2โซน โซนละ22ชั้นโซนอพาร์ตเมนต์22ชั้นเพียบพร้อมด้วยศูนย์ประชุมและร้านค้าสินค้าหรูมีลานจอดรถ6ชั้นออกแบบโดยบริษัทดังจากสหรัฐอเมริกาคือบริษัทสมอลวู้ดฯบริษัทเรย์โนลด์ฯและบริษัทสจ๊วตแอนด์แอสโซซิเอทฯตึกที่ 6. Lotte World Tower
สำหรับใครที่ไปเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในกรุงโซลเเล้วมีโอกาสได้ขึ้นโซลทาวเวอร์ คงจะสังเกตเห็นอาคารสูงที่โดดเด่นจากระยะไกลหลายสิบกิโลเมตรหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลกอย่างLotteWorldTower เพราะโดยส่วนตัวตอนที่เราไปเที่ยวโซล เรามองเห็นอาคารนี้ครั้งแรกตอนที่นั่งรถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำฮัน รู้สึกตอนนั้นเราจะอยู่ที่สถานีTtukseom Resortกำลังกลับฮงแด บรรยากาศตอนเย็นๆพระอาทิตย์กำลังจะตก แล้วมองเห็นวิวตึกนี้อยู่ไกลๆ คือดีมาก ตึกLotteWorldTower เป็นหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลกของกลุ่มบริษัท ธุรกิจหลากหลายชนิด โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างกลุ่มบริษัทในเกาหลีใต้และกลุ่มบริษัทในญี่ปุ่น มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งก็คือตึกนี้นั่นเอง โดยธุรกิจส่วนใหญ่ที่ทำก็จะอยู่ภายใต้ชื่อ Lotte อย่างในเกาหลีเองก็มีทั้งห้างสรรพสินค้าเเละสวนสนุกที่เป็นแลนด์มาร์คของโซลในชื่อนี้อีกด้วยตึกที่ 7. One World Trade Center
ทุกคนคุ้นๆ กับชื่อของตึกที่สูงที่สุดในโลกอันดับนี้กันไหมครับ แน่นอนว่านอกจากจะเป็นชื่อเก่าของอาคารแฝดที่ถูกทำลายจากเหตุการณ์9/11แล้วเนี่ย ซึ่งแน่นอนว่าOneWorldTradeCenterถูกสร้างขึ้นแทนที่กลุ่มอาคารเดิมที่ถูกทำลายไป โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น3,900ล้านดอลลาร์สหรัฐ(117,000 ล้านบาท) ปัจจุบันตึกOneWorldTradeCenter หลังใหม่นี้ ภายในอาคารเป็นสำนักงานและด้านบนมีจุดชมวิว360องศาของเกาะแมนฮัตตัน มองเห็นคลอบคลุมไม่ว่าจะเป็น อัพทาวน์ มิดทาวน์ ดาวน์ทาวน์ ควีนส์ และ บรูคลิน รวมถึงนิวเจอร์ซี่อีกด้วย เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลกแล้ว ก็ยังเป็นอนุสรณ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตที่ชาวนิวยอร์กไม่มีวันลืมอีกด้วย แต่จะว่าไปด้านบนของตัวอาคารOneWorldTradeCenterหลังใหม่นี้ก็มีความคล้ายกับอาคารแฝดหลังเดิมอยู่ จากนั้นพอไล่ระดับลงมา จึงเหมือนถูกบิดมุมให้เปลี่ยนแปลงไป ดูแล้วสวยเเละมั่นคงดีทีเดียวตึกที่ 8. Guangzhou CTF Finance Centre
ตึกนี้อยู่ในประเทศจีน ในกวางโจวโดยกวางโจวนั้นเป็นเมืองเศรษฐกิจของจีนอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กับฮ่องกงมาก ฉะนั้นเรื่องความเจริญไม่ต้องพูดถึง เรียกได้ว่าใกล้เคียงกันมาก ๆ จึงไม่แปลกเลยที่จะมีหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลกที่สูงขนาดนี้ตั้งอยู่ โดยในรูป ตึกGuangzhou CTF Finance Centreจะเป็นตึกที่สูงกว่านะ ตัวตึกเป็นสีเทาขาว ฐานถึงยอดตึกเกือบจะมีขนาดเท่ากัน ตัวตึกเป็นทรงกระบอกที่ฐานและยอดอาคารเกือบจะเสมอกัน โดยมีระยะร่น Setback เพียงเล็กน้อย ดูหนังแน่นและมั่นคงดี โดยด้านในจะประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าK11 Art Mallโรงหนังแบบ4DXพื้นที่อยู่อาศัย โรงแรม สวนในร่ม โดยทั้งหมดถูกรังสรรค์อย่างอลังการตามสไตล์พี่จีนบนพื้นที่ว่า750,000ตารางเมตรเลยทีเดียว โดยตึกที่สูงที่สุดในโลกในอันดับที่ 7 และ 8 สังเกตว่าชื่อตึกจะลงท้ายด้วยCTF Finance Centreเหมือนกันเลย เพราะโดยหลักๆเเล้วด้านใน พื้นที่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสำนักงานเกี่ยวกับการเงินนั่นเองตึกที่ 9. Tianjin CTF Finance Centre
Tianjin CTF Finance Centre นั้น ซึ่งพอพูดถึงเมืองเทียนจิน หลายคนน่าจะไม่รู้จัก แต่ขอบอกเลยว่าเมืองเทียนจินเป็นอีกเมืองเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมากของประเทศจีน มีกลุ่มอาคารและพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษขนาดใหญ่ จำนวนประชากรเยอะ ฉะนั้นตึกที่สูงที่สุดในโลกอันดับ 9 จะมาโผล่ที่เทียนจินก็ไม่แปลก ตึกอลังการใช้ได้ ดูแล้วให้ฟีลหนังไซไฟดี มีความโค้งมนจากการบิดแกนของตัวตึกคล้ายสว่าน อาจเป็นเพราะตึกรอบด้านไม่สูงมากนัก เลยยิ่งทำให้ Tianjin CTF Finance Centre ยิ่งเด่นขึ้นไปอีก โดยด้านในตึกเป็นสำนักงานระดับสูงGrade A Officeต่างๆ มีที่อยู่อาศัย และโรงแรมตึกที่ 10. Taipei 101
น่าจะเป็นตึกที่คนไทยหลายๆคนคุ้นชื่อเเละเคยไปกันมาบ้างเเล้วสำหรับ ไทเป101 เพราะเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกอยู่ในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยที่ไม่ต้องขอวีซ่าอย่างเมืองไทเป ประเทศไต้หวัน แถมยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายของโปรเเกรมทัวร์ ที่จะต้องพาลูกทัวร์ขึ้นไปชมวิวจากบนตึกไทเป101 อีกด้วย เพราะความที่เป็นตึกแลนด์มาร์คสำคัญของไทเป ที่ถือว่ามีงานสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเจดีย์ของจีน เรียงต่อกันเป็นขั้น ธีมสีการออกแบบเป็นสีเขียวอมฟ้า หากได้ภาพถ่ายตอนเย็น ๆ ที่แสงอาทิตย์บนท้องฟ้าด้านหลังตึกเป็นช่วงTwilight นิดๆจะยิ่งช่วยให้ตัวตึกสวยมากยิ่งขึ้นไปอีก ปัจจุบันด้านในตึกไทเป 101 ประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้า,อาคารสำนักงานรวมทั้งจุดชมวิวและร้านขายของที่ระลึกด้วย โดยมีบริษัทศูนย์การเงินของไทเปเป็นเจ้าของและบริหารจัดการโดยฝ่ายต่างประเทศของบริษัทค้าปลีกอสังหาริมทรัพย์เมือง (Urban Retail Properties Corporation) ใครที่มีโอกาสได้ไปไต้หวันเเละกรุงไทเป ก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมตึกไทเป101 กัน ไปชมวิวมุมสูงของเมืองไทเป ไปชมสถาปัติยกรรมสวยๆในยุคใหม่กัน