ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อันดับตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก

- อ่าน (15,670)
- By Webmaster
- 17:14:58 | 22 ก.ย. 2566
10 อันดับตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก
Top 10 Tallest Skyscrapers in the World

นอกเหนือจากองค์ความรู้ และความสามารถของบุคลากรภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สามารถชี้วัดศักยภาพทางด้านเทคโนโลยี และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจได้แล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่บ่งชี้สถานะทางการเงินของประเทศได้ นั่นก็คือ โครงสร้างของอาคารที่ยิ่งใหญ่ สูงเสียดฟ้า สวยงามตระการตา และทันสมัย ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งสถานปฏิบัติการ สถาบันการเงิน ที่พักอาศัย ตลอดจนเป็นจุดชมวิวสำคัญของเมืองในประเทศนั้นๆ วันนี้ Palanla จะพาไปชมตึกระฟ้าที่ถูกจัดอันดับว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกกันค่ะ

แผนที่ตั้ง 10 อันดับตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก
อันดับที่ 1. Burj Khalifa Tower, Dubai, United Arab Emirates
** ความสูง 828 ม. (2,717 ฟุต) **

เบิร์จคาลิฟา ทาวเวอร์ (Burj Khalifa Tower) ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกที่ครองตำแหน่งอันดับ 1 มาอย่างยาว ตั้งอยู่ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดิมมีเชื่อ เรียกว่า Burj Dubai สร้างโดยนายกรัฐมนตรี มุฮัมมัด บิน รอชิด อัลมักตูม (Mohammed bin Rashid Al Maktoum) และแล้วเสร็จในปี 2010 มีความสูง 828 เมตร มีทั้งหมด 163 ชั้น ภายในอาคารประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงาน ภัตตาคาร คอนโด สระว่ายน้ำ สุเหร่า และจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวได้ไกลเกือบ 95 กิโลเมตร และนี่ก็ถือเป็นความสำเร็จด้านวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในโลก
พิกัด GPS : 25°11’49.6″N 55°16’28.9″E
อันดับที่ 2. Merdeka 118, Kuala Lumpur, Malaysia
** ความสูง 678.9 ม. (2,227 ฟุต) **

เมอร์เดกา 118 (Merdeka 118) ครองตำแหน่งตึกระฟ้าที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก แทนที่ตึกเซี่ยงไฮ้ ทาวเวอร์ ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ตึกแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สร้างโดย the Permodalan Nasional Bhd (PNB) group บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย และแล้วเสร็จในปี 2022 มีความสูง 678.9 เมตร มีทั้งหมด 118 ชั้น ภายในอาคารประกอบไปด้วย พื้นที่ให้เช่าสำหรับร้านค้าปลีก พื้นที่สำนักงาน ที่อยู่อาศัย โรงแรม และหอคอยชมวิว ชั้น 118 ที่ว่ากันว่าเป็น หอคอยชมวิวสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการเมอร์เดกา 118 เผยว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบที่พบในงานศิลปหัตถกรรมท้องถิ่น และวัฒนธรรมของชาวมาเลเซีย
พิกัด GPS : 3°08’29.8″N 101°42’02.7″E
อันดับที่ 3. Shanghai Tower, Shanghai, China
** ความสูง 632 ม. (2,073 ฟุต) **

เซี่ยงไฮ้ ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) ตึกสูงระฟ้าของนครเซี่ยงไฮ้ที่ติดอันดับ 3 ของโลก สร้างเสร็จในปี 2015 มีความสูง 632 เมตร มีทั้งหมด 128 ชั้น ภายในอาคารประกอบไปด้วย พื้นที่ให้เช่าสำหรับร้านค้าปลีก พื้นที่สำนักงาน โรงแรม และจุดชมวิว ชั้น 118 ที่สามารถชมวิวนครเซี่ยงไฮ้ ได้แบบ 360 องศา พร้อมชมอาคารสถาปัตยกรรมอื่นๆ ผ่านกระจกอย่าง เดอะบันต์ หอไข่มุก และอาคาร Shanghai World Financial Center และอาคาร Jin Mao Tower ซึ่งได้ชื่อว่าสูงเป็นอันดับ 2 และ 3 ของนครเซี่ยงไฮ้ และที่พลาดไม่ได้คือชมที่ทำการไปรษณีย์ที่อยู่สูงที่สุดในโลก พร้อมกับส่งโปสการ์ดไปให้คนที่คุณรักได้อีกด้วย
พิกัด GPS : 31°14’00.6″N 121°30’19.3″E
อันดับที่ 4. Abraj Al-Bait Complex and Makkah Royal Clock Tower, Mecca, Saudi Arabia
** ความสูง 601 ม. (1,971 ฟุต) **

มักกะห์ รอยัล คอมเพล็กซ์ ทาวเวอร์ (Abraj Al-Bait Complex and Makkah Royal Clock Tower) อาคารสูงที่มาพร้อมกับหอนาฬิกาขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านในเมืองมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาราเบีย โครงการนี้สร้างโดย Saudi Bin Laden Group บริษัทก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในซาอุดิอาระเบีย สร้างแล้วเสร็จในปี 2012 มีความสูง 599 เมตร มีทั้งหมด 120 ชั้น ภายในอาคารประกอบไปด้วย โรงแรม ห้างสรรพสินค้า พิพิธภัณฑ์อิสลาม และห้องประชุม ห้องละหมาด นอกจากโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมของตัวอาคารที่สูงโดดเด่นแล้ว ยังมีหอนาฬิกาขนาดใหญ่ยักษ์ประดับอยู่ด้านบนอาคารทั้ง 4 ด้าน สวยงามหรูหรา สีสันตัดกัน ด้วยสีฟ้าเทอร์ควอยส์ของกระจก และสีทองของตัวอาคาร ช่างสมกับเป็นเอกลักษณ์ของประเทศในตะวันออกกลางได้อย่างแท้จริง
พิกัด GPS : 21°25’10.8″N 39°49’28.1″E
อันดับที่ 5. Ping An International Finance Center, Shenzhen, China
** ความสูง 599 ม. (1,965 ฟุต)**

ศูนย์การเงินนานาชาติผิงอัน (Ping An International Finance Center) เป็นอีกหนึ่งตึกสูงที่ตั้งระฟ้ากลางเมืองเซินเจิ้น พื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศจีน ศูนย์การเงินแห่งนี้สร้างเสร็จในปี 2017 มีความสูง 599 เมตร มีทั้งหมด 115 ชั้น ภายในอาคารประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงาน และโรงแรม ด้านบนสุดของอาคาร มีจุดชมวิวที่ชื่อว่า ฟรีสกาย (Free Sky) ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลถึงพื้นที่บางส่วนของเขตฮ่องกง เช่น เกาะลันเตา, ชาติน, เขตการเลือกตั้งเขตดินแดนใหม่ฝั่งตะวันตก ชื่อ ผิงอัน ตั้งตามชื่อบริษัท ผิงอัน อินชัวรันซ์ จำกัด (Ping An Insurance Company) หนึ่งในบริษัทด้านการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยความหมาย ของคำว่า ผิงอัน ในภาษาจีน แปลว่า ปลอดภัย สบายดี
พิกัด GPS : 22°31’58.4″N 114°03’21.3″E
อันดับที่ 6. Lotte World Tower, Soul, South Korea
** ความสูง 554.5 ม. (1,819 ฟุต) **

ล็อตเต้ เวิลด์ ทาวเวอร์ (Lotte World Tower) ตึกที่สูงที่สุดของเกาหลีใต้ ตั้งตระหง่านในล็อตเต้ เวิลด์ โครงการขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ของ Lotte Group กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ สร้างเสร็จในปี 2017 มีความสูง 554.5 เมตร 123 ชั้น ภายในอาคารประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงาน พื้นที่ให้เช่าสำหรับร้านค้าปลีก โรงแรม และมีไฮไลท์อยู่ที่ชั้นโซลสกาย (Seoul Sky) ซึ่งเป็นจุดชมวิวบนชั้น 123 ที่สามารถมองเห็นวิวของกรุงโซลจากด้านบนได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว
พิกัด GPS : 37°30’44.9″N 127°06’08.9″E
อันดับที่ 7. One World Trade Center, New York, USA
** ความสูง 541.3 ม. (1,776 ฟุต) **

วัน เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ (One World Trade Center) ตึกสูงระฟ้าใจกลางมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เดิมมีชื่อว่า “ฟรีดอมทาวเวอร์” ที่สร้างขึ้นมาทดแทน “ตึกแฝด” เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ที่ถูกถล่มในเหตุวินาศกรรม 9/11 ตึกวัน เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ สร้างเสร็จในปี 2014 มีความสูง 541.3 เมตร มีทั้งหมด 104 ชั้น ถือเป็นอาคารที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในโลก สร้างจากคอนกรีตชนิดพิเศษที่สามารถรับแรงกดได้มากกว่าคอนกรีตทั่วไปได้ถึง 9 เท่า ภายในอาคารประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงาน และจุดชมวิวที่ทำให้นักท่องเที่ยวเห็นนครนิวยอร์กได้อย่าง 360 องศา รวมไปถึงพื้นที่บริเวณรอบๆตึก ยังมีอนุสรณ์สถานของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งอดีต และยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เยี่ยมชมอีกด้วย
พิกัด GPS : 40°42’47.4″N 74°00’49.2″W
อันดับที่ 8. Guangzhou CTF Finance Center, Guangzhou, China
** ความสูง 530 ม. (1,739 ฟุต) **

กวางโจว ซีทีเอฟ ไฟแนนซ์ เซ็นเตอร์ (Guangzhou CTF Finance Center) ตึกศูนย์การเงินที่ตั้งท่ามกลางสวนสาธารณะใจกลางเมืองกวางโจว ประเทศจีน สร้างเสร็จในปี 2016 มีความสูงถึง 530 เมตร มีทั้งหมด 111 ชั้น ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็น สำนักงาน ศูนย์การค้า อพาร์ทเม้นท์ และโรงแรม ตึกแห่งนี้ไม่เพียงแต่จะติดหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลกแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นตึกที่มีหนึ่งในลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลกติดตั้งอยู่ด้วย ซึ่งสามารถทำความเร็วได้ถึง 1,200 เมตรต่อนาทีเลยทีเดียว
พิกัด GPS : 23°07’03.6″N 113°19’31.7″E
อันดับที่ 9. Tianjin CTF Finance Center, Tianjin, China
** ความสูง 530 ม. (1,739 ฟุต) **

เทียนจิน ซีทีเอฟ ไฟแนนซ์ เซ็นเตอร์ (Tianjin CTF Finance Center) ตึกโค้งมนรูปทรงสวยระฟ้าแห่งนี้ ถือเป็นอาคารที่สูงที่สุดแห่งเมืองเทียนจิน ประเทศจีน สร้างเสร็จในปี 2019 มีความสูงถึง 530 เมตร มีทั้งหมด 98 ชั้น ภายในอาคารประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงาน อพาร์ตเมนต์หรู และโรงแรม โดยที่มาของชื่อตึก ตั้งตามชื่อ บริษัท โจวไทฟุก จำกัด โจวต้าฝู เอ็นเตอรไพรซ์ จำกัด (Chow Tai Fook Enterprises Limited) บริษัทเอกชนชื่อดังที่ดำเนินธุรกิจทั้งอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอัญมณี และธุรกิจอื่นๆอีกมากมาย ผลงานการก่อสร้างอันโดดเด่นของเมืองเทียนจินแห่งนี้ ยังได้รับการยอมรับจากทั่วโลกให้เป็นหนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย
พิกัด GPS : 39°01’19.6″N 117°42’14.6″E
อันดับที่ 10. China Zun Tower, Beijing, China
** ความสูง 528 ม. (1,732 ฟุต) **

ไชน่า ซุน (China Zun / CITIC Tower) ตึกระฟ้าใจกลางย่านธุรกิจของกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน สร้างเสร็จในปี 2018 เป็นตึกที่มีความสูง 528 เมตร มีทั้งหมด 108 ชั้น ประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงาน โซนอพาร์ทเม้นท์ โซนโรงแรม และชั้นดาดฟ้าที่อยู่ที่ระดับความสูง 524 เมตร ชื่อ China Zun เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เมื่อถูกจัดให้เป็นหนึ่งในรายชื่อตึกที่สูงที่สุดแห่งของโลก ส่วนที่มาที่ไปของชื่อและการออกแบบอาคาร ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาชนะใส่เหล้าในสมัยโบราณของจีนนั่นเองค่ะ
10 อันดับตึกที่สูงที่สุดในโลกแห่งปี 2014
87,945อ่าน
10 อันดับตึกที่สูงที่สุดในโลก 2014

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก emporis.com
10 อันดับตึกที่สูงที่สุดในโลก 2014 ซึ่งมีตึกสูงระฟ้าจากหลายประเทศติดอันดับ ลองไปชมตึกที่สูงที่สุดในโลกกันดีกว่า ว่าจะมีตึกสูงจากที่ไหนบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นเมืองดูไบ เซี่ยงไฮ้ นิวยอร์ก หรือเมืองอื่น ๆ ทั่วโลก ต่างก็เป็นที่ตั้งของตึกสูงด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งนับวันตึกสูงก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่อยู่ในระหว่างการสร้าง และกำลังวางแผนพัฒนาโครงการ อีกทั้งในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยการก่อสร้างให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากนับจากนี้จะได้เห็นตึกสูงระฟ้าเต็มไปหมด แต่ก่อนจะไปถึงตอนนั้น เว็บไซต์ emporis.com ก็ได้รวบรวมข้อมูลพร้อมทั้งจัดอันดับตึกสูงมาฝากกันก่อน ซึ่งตึกที่สูงที่สุดในโลก 2014 จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Burj Khalifa
อันดับ 1 ตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa)
หลังจากที่ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2010 ตึกเบิร์จคาลิฟาก็กลายเป็นตึกสูงระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก โดยตึกแห่งนี้ก็ตั้งอยู่ในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และออกแบบโดยทีมสถาปนิกจาก Skidmore, Owings & Merrill โดยตึกนี้มีความสูง 828 เมตร พร้อมประกอบไปด้วยจำนวนชั้นอีก 163 ชั้น ซ้ำยังกลายเป็นหนึ่งในตึกที่มีชื่อเสียงของเมืองดูไบอีกด้วย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Gensler
อันดับ 2 เซี่ยงไฮ้ ทาวเวอร์ (Shanghai Tower)
ถึงแม้เซี่ยงไฮ้ ทาวเวอร์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ของประเทศจีน ซึ่งออกแบบโดย Gensler เพิ่งก่อสร้างเสร็จได้ไม่นาน แต่เนื่องจากตึกสูงระฟ้าแห่งนี้มีความสูงถึง 632 เมตร จำนวน 121 ชั้น ซึ่งมีความสูงเป็นรองตึกเบิร์จคาลิฟาเพียง 200 เมตร ก็เลยส่งผลให้ตึกแห่งนี้ได้อันดับ 2 ของตึกที่สูงที่สุดในโลกไปครอง อีกทั้งยังเป็นตึกที่มีลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก เพราะเป็นลิฟต์ที่มีความเร็วเฉลี่ยถึง 18 เมตรต่อวินาทีเลยทีเดียว

ภาพจาก Saudi Binladin Group
อันดับ 3 เมกกะ คล็อก รอยัล ทาวเวอร์ (Makkah Clock Royal Tower)
นอกจากจะตึกเมกกะ คล็อก รอยัล ทาวเวอร์ แห่งเมืองเมกกะ ในประเทศซาอุดีอาระเบีย จะมีความสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ด้วยความสูง 601 เมตร จำนวน 120 ชั้น หลังจากก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2012 แล้ว ยังเป็นตึกที่มาพร้อมกับความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร เพราะมีหน้าปัดนาฬิกาขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้ แม้จะอยู่ห่างออกไปจากหอนาฬิกาถึง 25 กิโลเมตรก็ตาม

ภาพจาก เฟซบุ๊ก WTC Progress
อันดับ 4 ตึกวัน เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ (One World Trade Center)
หลังจากที่เวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ตึกคู่แฝดในมหานครนิวยอร์กถูกทำลายลง เพราะเหตุการณ์วินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 พื้นที่ดังกล่าวก็ถูกทำให้กลับมามีความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยโครงการก่อสร้างตึกวันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่มีความสูงถึง 541 เมตร จำนวน 105 ชั้น ที่มาพร้อมกับอันดับ 4 ของตึกที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย

ภาพจาก KPF
อันดับ 5 ตึกซีทีเอฟ ไฟแนนซ์ เซ็นเตอร์ (CTF Finance Centre)
สำหรับอันดับ 5 ของตึกที่สูงที่สุดของโลกก็คือ ตึกซีทีเอฟ ไฟแนนซ์ เซ็นเตอร์ ในเมืองกว่างโจว ของประเทศจีน ที่มาพร้อมกับความสูง 530 เมตร จำนวน 116 ชั้น แถมยังเป็นแหล่งรวมการทำธุรกิจเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม คอนโด แหล่งช้อปปิ้ง รวมไปถึงพื้นที่สำหรับทำออฟฟิศ ซึ่งคาดการกันว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2016 นี้

ภาพจาก เฟซบุ๊ก TAIPEI 101 MALL
อันดับ 6 ตึกไทเป 101 (Taipei 101)
ตึกสูงระฟ้าที่มีความสูง 509 เมตร ซึ่งมีความสูงน้อยกว่าตึกซีทีเอฟ ไฟแนนซ์ เซ็นเตอร์แค่ 21 เมตรเท่านั้น ก็เลยต้องตกมาอยู่ในอันดับ 6 ของตึกที่สูงที่สุดในโลก และแม้ก่อนหน้าจะเคยครองอันดับหนึ่งของตึกที่สูงที่สุดในโลกมา 5 ปีซ้อน นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004-2007 ก็ตาม ทั้งนี้สำหรับชื่อของตึกนั้นก็ได้มาจากชื่อเมืองไทเป ของประเทศไต้หวัน กับจำนวนรวมของชั้นภายในตึกนั่นเอง

ภาพจาก Kohn Pedersen Fox
อันดับ 7 ตึกเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซ็นเตอร์ (The Shanghai World Financial Center)
ตึกสูงระฟ้าที่มีความสูงน้อยกว่าตึกไทเป 101 เพียง 16 เมตร มาพร้อมกับโครงสร้างที่ดูโดดเด่นด้วยดีไซน์ของตึกที่มีรูปร่างคล้ายกับอุปกรณ์สำหรับเปิดขวด ที่ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2008 ด้วยฝีมือการออกแบบของทีมสถาปนิกจาก Kohn Pedersen Fox พร้อมกับความสูงขนาด 492 เมตร ซึ่งประกอบด้วยจำนวนชั้นทั้งหมด 101 ชั้น

ภาพจาก Kohn Pedersen Fox
อันดับ 8 ตึกอินเตอร์เนชั่นนัล คอมเมิร์ส เซ็นเตอร์ (International Commerce Centre)
ตึกอินเตอร์เนชั่นนัล คอมเมิร์ส เซ็นเตอร์ ในฮ่องกง ถูกยกให้เป็นอันดับ 8 ของตึกที่สูงที่สุดในโลก ด้วยระดับความสูง 484 เมตร ซึ่งประกอบไปด้วยจำนวนถึง 118 ชั้น อีกทั้งยังเป็นตึกสูงระฟ้าที่ควบคู่ไปกับตำแหน่งตึกที่มีความสูงมากที่สุดบนเกาะฮ่องกงอีกด้วย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก PETRONAS Twin Towers
อันดับ 9-10 เปโตรนาส ทาวน์เวอร์ (Petronas Towers)
สำหรับอันดับ 9 และอันดับ 10 ของตึกที่สูงที่สุดในโลกแห่งปี ค.ศ. 2014 ตกเป็นของตึกแฝดเปโตรนาสในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แถมยังเป็นตึกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของชาวมาเลเซียด้วย โดยเฉพาะในส่วนของสะพานลอยฟ้าที่เชื่อมตึกแฝดสูง 452 เมตรเข้าด้วยกัน บนชั้นที่ 41 กับ 42 จากจำนวนชั้นทั้งหมด 88 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 5 ชั้น โดยในอดีตตึกเปนโตรนาสก็เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกระหว่างปี ค.ศ. 1996-2003 มาแล้ว
หลังจากที่ได้เห็นภาพของตึกจากแต่ละที่แล้ว เชื่อเลยว่าไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีระดับความสูงอันน่าเหลือเชื่ออีกด้วย เพราะฉะนั้นหากมีโอกาสเดินไปทางตามเมืองต่าง ๆ ที่เป็นที่ตั้งของตึกเหล่านั้น ก็อย่าลืมไปพิสูจน์ความมหัศจรรย์ของตึกสูงระฟ้าเหล่านี้กันด้วยนะคะ

