ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อันดับ ตึกที่สูงที่สุดในโลก 2019

Muzika
14 มิถุนายน 2562 ( 07:31 )
43.9K
2
ในโลกยุคที่การแข่งขันในทุกด้านเป็นไปอย่างดุเดือด แค่กะพริบตาคุณก็อาจพลาดบางอย่างไปอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเป็นการแข่งขันในโลกวิศวกรรมแล้วล่ะก็ ความเร็วอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไป เพราะสิ่งที่ชี้วัดความสำเร็จคือเรื่องของ “ความสูง” ครับ นั่นจึงทำให้ในแต่ละปีมีตึกที่สูงที่สุดในโลกเกิดใหม่อยู่เรื่อยๆ เป็นดั่งดัชนีชี้วัดความสำเร็จด้านการก่อสร้าง

เอาเป็นว่าเรามาลองดูกันก่อน ตอนนี้ตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในโลกนั้นเป็นของที่ไหน และสูงเท่าไหร่ กันดีกว่าครับ แต่บอกก่อนว่าทั้ง 10 อันดับนี้ เป็นเพียงลำดับในปัจจุบัน (2019) เท่านั้นนะครับ พอปีหน้าเมื่อไหร่ยังมีตึกใหม่รอต่อคิวเข้าอันดับมาอีกเพียบแน่นอน
1. Burj Khalifa, ดูไบ

- ความสูง : 829.8 เมตร
- จำนวนชั้น : 163
- ปีที่สร้างเสร็จ : 2010
ตึกเบิร์จคาลิฟา (หรือ บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์) นั้นได้ขึ้นทำเนียบตึกที่สูงที่สุดในโลกตั้งแต่การวัดในปี 2009 ซึ่งมันก็สามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้ถึง 4 ปี จนกว่าที่มันจะถูกแซงในปีหน้า โดยตึก Jeddah Tower ในซาอุดิอาระเบีย ซึ่งก็กำลังสร้างอยู่ไม่ไกลจากตึกเบิร์จคาลิฟานี่เอง
จุดชมวิวบนตึกเบิร์จคาลิฟานั้นเป็น 1 ในแลนด์มาร์คยอดนิยมของดูไบ มีชื่อว่า At The Top SKY ที่นี่ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของโลกด้วย
===============
2. Shanghai Tower, เซี่ยงไฮ้

- ความสูง : 623 เมตร
- จำนวนชั้น : 128
- ปีที่สร้างเสร็จ : 2015
อาคารเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ที่สร้างเสร็จเมื่อปี 2015 ซึ่งมันเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศจีน มีชั้นชมวิวอยู่บนชั้น 118 และ 119 และเป็นจุดชมวิวที่สูงเป็นอันดับ 2 รองจาก At The Top SKY ของตึกเบิร์จคาลิฟา
===============
3. Abraj Al Bait, เมกกะ

- ความสูง : 601 เมตร
- จำนวนชั้น : 120
- ปีที่สร้างเสร็จ : 2012
ตึกอับราจ อัล เบท หรือที่รู้จักกันในนาม มักกะห์ รอยัล โฮเต็ล คล็อก ทาวเวอร์ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวิหารกะบะฮ์นัก ที่ซึ่งชาวมุสลิมจะเดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์กัน ข้างในตึกนี้จะมีทั้งโรงแรม ที่พักอาศัย ห้างร้าน สถานที่ทำละหมาด รวมถึงหอนาฬิกาด้วย
===============
4. Ping An International Finance Center, เสิ่นเจิ้น

- ความสูง : 599 เมตร
- จำนวนชั้น : 115
- ปีที่สร้างเสร็จ : 2016
อาคารศูนย์การเงินนานาชาติผิงอัน ตอนแรกนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้มีความสูง 660 เมตร หมายมั่นปั้นมือว่าจะกลายเป็นตึกสูงที่สุดในประเทศจีน แต่ด้วยปัญหาว่าตัวอาคารอาจรบกวนการบิน ทำให้มันถูกจำกัดความสูงไม่เกิน 600 เมตรในที่สุด ตึกนี้มีจุดชมวิวตั้งอยู่ที่ชั้น 116
===============
5. Goldin Finance 117, เทียนจิน
- ความสูง : 597 เมตร
- จำนวนชั้น : 117
- ปีที่สร้างเสร็จ : 2019
อาคาร Goldin Finance 117 มีอีกชื่อหนึ่งว่า China 117 เป็นอาคารที่ประสบปัญหาอยู่หลายครั้ง จากเดิมที่กำหนดแล้วเสร็จในปี 2014 แต่ก็ล่าช้าจนมาสำเร็จในปี 2019
===============
6. Lotte World Tower, โซล

- ความสูง : 555 เมตร
- จำนวนชั้น : 123
- ปีที่สร้างเสร็จ : 2016
อาคารล็อตเต้ เวิลด์ ตึกที่สูงที่สุดใจกลางกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ข้างในมีทั้งคอนโดหรู ออฟฟิศ พื้นที่ให้เช่าสำหรับร้านค้า และโรงแรมระดับ 7 ดาว มีจุดชมวิวถึง 7 ชั้น 10 ชั้นด้านบนสุด ออกแบบเป็นพื้นที่สาธารณะ
===============
7. One World Trade Center, นิวยอร์ก

- ความสูง : 541 เมตร
- จำนวนชั้น : 104
- ปีที่สร้างเสร็จ : 2014
วันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ หรือชื่อเดิมคือ ฟรีดอมทาวเวอร์ ประกอบด้วยสำนักงานจำนวน 69 ชั้น รวมถึงร้านอาหาร เสาสัญญาณถ่ายทอดสด และจุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยว รวมถึงอนุสรณ์สถานที่อุทิศให้แก่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์หลังเก่า
===============
8. Chow Tai Fook Finance Center, กวางโจว

By PQ77wd – Own work, CC BY-SA 4.0
- ความสูง : 530 เมตร
- จำนวนชั้น : 111
- ปีที่สร้างเสร็จ : 2016
อาคารนี้ถูกใช้เป็นสำนักงาน ศูนย์การค้า อพาร์เม้นท์ และโรงแรม โดยในนี้ยังมีหนึ่งในลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลกติดตั้งอยู่ด้วย สามารถทำความเร็วได้ถึง 20 เมตร / วินาทีเลยทีเดียว
===============
9. Tianjin Chow Tai Fook Binhai Center, เทียนจิน
- ความสูง : 530 เมตร
- จำนวนชั้น : 97
- ปีที่สร้างเสร็จ : 2017
เป็นอีกหนึ่งอาคารที่ตั้งชื่อตามบริษัท Chow Tai Fook Enterprises ข้างในเป็นสำนักงาน โรงแรม และที่อยู่อาศัย
===============
10. China Zun Tower, ปักกิ่ง

- ความสูง : 528 เมตร
- จำนวนชั้น : 108
- ปีที่สร้างเสร็จ : 2018
China Zun Tower หรืออีกชื่อหนึ่งว่า CITIC Tower เป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงปักกิ่ง ตึกนี้เน้นทำพื้นที่สำนักงาน และสโมสรเอกชน จุดชมวิว และพื้นที่ให้เช่าราคาสูงซึ่งจะอยู่ด้านบน
10 อันดับ หอคอยสูงที่สุดในโลก เทียบ “หอชมเมืองกรุงเทพ”
วันที่ 6 กรกฎาคม 2560 – 14:16 น.
หลังคณะรัฐมนตรีประกาศไฟเขียวให้ก่อสร้าง”หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร” มูลค่า 4,621 ล้านบาท ใช้งบที่มาจากกลุ่มเอกชนแลนด์มาร์คแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ ตั้งอยู่บนที่ดินราชพัสดุหมายเลข กท.3257 เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ที่มีขนาด 4 ไร่, 2 งาน, 34 ตาราวา ราคาประเมินที่ 198 ล้านบาท เดิมเป็นที่ราชพัสดุของตำรวจน้ำแต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว
โดยกำลังจะเป็นหอคอยที่สุดที่สุดในเมืองไทย ด้วยความสูงถึง 459 เมตรมีพื้นที่ใช้สอยรวม 22,281 ตร.ม. เมื่อเทียบกับหอคอยแห่งอื่นๆ ในไทย ได้แก่ หอสูงพัทยาปาร์คทาวเวอร์ สูง240 เมตร , หอชมเมืองสมุทรปราการสูง 179.5 เมตร , หอคอยเทอร์มินอล 21 โคราช สูง 110 เมตร
ประชาชาติธุรกิจ ลองนำโปรเจ็กต์หอชมเมืองกรุงเทพฯ เทียบกับตึกสูงแห่งอื่นๆ ทั่วโลก พบว่า หอชมเมืองเเห่งนี้ หากสร้างเสร็จสมบูรณ์จะมีความสูงติดอันดับ 6 จาก 10 ของโลก (แบบการก่อสร้างยังไม่เป็นทางการ)
เปรียบเทียบกับตึกสูงต่างๆ ในต่างประเทศดังนี้
- Tokyo Skytree จุดสูงสุด 634 เมตร มีจุดชมวิวสูงสุด 450 เมตร
- Canton Tower (Guangzhou) จุดสูงสุด 595.70 เมตร มีจุดชมวิวสูงสุด 449 เมตร
- CN Tower โตรอนโต เเคนาดา จุดสูงสุด 553.33 เมตร
- Ostankino Tower กรุงมอสโก รัสเซีย จุดสูงสุด 540 เมตร
- Oriental Pearl Tower เซี่ยงไฮ้ จุดสูงสุด 468 เมตร
- Bangkok Observation Tower หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร จุดสูงสุด 459 เมตร มีจุดชมวิวสูงสุด 357.50 เมตร (กำลังจะดำเนินการก่อสร้าง)
- Kuala Lumpur Tower กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย จุดสูงสุด 421 เมตร มีจุดชมวิวสูงสุด 276 เมตร
- Tianjin Radio and Television Tower เมืองเทียนจิน ปรเทศจีน จุดสูงสุด 415 เมตร
- Central Radio & TV Tower กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน จุดสูงสุด 410 เมตร
- Zhongyuan Tower เมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน จุดสูงสุด 388 เมตร
ภาพจาก Thailand Skyline
“มูลนิธิหอชมเมือง” เป็นการรวมตัวของ กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่กำลังสร้างโครงการ “ไอคอนสยาม” (Icon
Siam) ที่มีที่ดินอยู่ใกล้เคียงกัน อันประกอบด้วย 1.เครือเจริญโภคภัณฑ์ 2.บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ
3.บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น
จำกัด
เปิดเผยถึงการสร้างหอชมเมืองเเห่งนี้ว่าเป็น “โครงการแสงแห่งความภาคภูมิ ” จะจัดแสดงในภูมิสถานแห่งความดีที่ทุกภาคส่วนร่วมแสดงพลังสร้างสรรค์ในรูปแบบสถาปัตยกรรมหอชมเมืองที่มีความสูง459เมตรซึ่งรวมกันเป็นเลข”9″หมายถึงความเจริญก้าวหน้าผ่านการอนุมัติของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559
“แรงบันดาลใจในการออกแบบ มาจากการจุดเทียนชัยถวายพระพรเป็นภาพลักษณ์ประดุจเทียนชัยแห่งสยามอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการร่วมแรงร่วมใจของคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน”
โดยบนจุดชมวิวของหอชมเมืองกรุงเทพฯจะสามารถชมเห็นวิวทิวทัศน์รอบโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาเเบบ360องศามองเห็นวิวฝั่งตึกแคตเทเลคอมไปรษณีย์บางรักและตึกสูงอื่นๆ อีกมากมาย เนื่องจากตั้งอยู่ในย่านเศรษฐกิจ อีกทั้งเป็นชุมสายการเดินทางทั้งทางรถยนต์รถไฟ และการสัญจรทางเรือ มีนักท่องเที่ยวในบริเวณดังกล่าวจำนวนมาก
ทั้งนี้มีการประเมินรายได้จากการจำหน่วยบัตรเข้าชม 1,054 ล้านบาท ต่อปีประมาณการราคาตั๋วที่เข้าชมคนละ 750 บาทต่อคน ส่วนคนไทยลด 50% หรือคนละ 375 บาท โดยจะมีค่าใช้จ่ายต่อปี 892 ล้านบาท
อีกทั้งช่วงนี้ยังมีภาคเอกชนแห่มาลงทุนสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่คอนโดมิเนียมและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในบริเวณนี้เเละคาดว่าจะมีสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ตัดผ่านย่านดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตามนอกจากคำถามเรื่องงบประมาณการสร้าง ขั้นตอนต่างๆเเละผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเเล้ว
ประชาชนบางส่วนก็มีการตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าสถาปัตยกรรมขนาดมหึมานี้
จะตั้งอยู่ริมเเม่น้ำเจ้าพระยาที่มีปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้งได้อย่างไร
“หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร”จะเริ่มก่อสร้างในเร็ววันนี้…ต้องติดตาม
… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/breaking-news/news-1550

