ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
พาไปส่องราคาบ้าน 10 ประเทศน่าอยู่ ทั่วโลก
บทความ โดย : Nuntanach D. | พฤษภาคม 10, 2021 |
อย่างที่รู้กันว่า Covid-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง รวมไปถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ ข้อมูลล่าสุด ของ LPN Wisdom คาดการณ์ไว้ว่า การเปิดโครงการใหม่ในปี 2564 น่าจะติดลบราว 5-6% (จากเดิมที่เคยประเมินไว้ช่วงต้นปีว่าจะปรับเพิ่มถึง 10%) ส่วนจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของรัฐบาลในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ขณะที่ทิศทางบ้าน-คอนโดของเรากำลังน่าเป็นห่วง แต่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ กลับตรงกันข้าม…
ราคาบ้านในอังกฤษปรับสูงขึ้นกว่า 7% จากปีก่อน (Credit: BBC)
เช่นเดียวกับเยอรมัน ที่ราคาบ้านปลายปี 2020 เพิ่มขึ้นกว่า 8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ( Credit:Federal Statistical Office /Destatis)
วันนี้ เลยขอเปลี่ยนบรรยากาศ พาไปดู #ราคาบ้านในต่างประเทศ กันบ้าง โดยเลือกมา 10 ประเทศ ที่น่า(จะอยากย้ายไป)อยู่มากที่สุด รวบรวมข้อมูลราคาโดย Global Property Guide* แล้วชวนมา ลองคิดเล่นๆ ดูว่า ถ้าอยากอยู่ห้องขนาด 30 ตร.ม. จะต้องจ่ายเท่าไหร่?
*อัพเดท วันที่ 8/5/2020
ทีมรวบรวมข้อมูลค่าแรงขั้นต่ำจากหลายๆ เว็บ แล้วอัพเดทในตารางให้แล้วนะคะ
รวมราคาบ้าน 10 ประเทศน่าอยู่
Credit: Getty Images
ราคาบ้านในอังกฤษ
หนึ่งประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักศึกษาชาวต่างชาติ เช่น ชาวยุโรป จีน เกาหลี ไต้หวัน และไทย ในการศึกษาต่อต่างประเทศ อันเนื่องมาจากภูมิประเทศที่สวยงาม มีความเจริญด้านวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เป็นแหล่งแฟชั่นของโลก และมีคุณภาพทางการศึกษาระบบการปกครองของประเทศอังกฤษ เป็นแบบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ซึ่งมีพระบรมราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เป็นประมุขของประเทศ ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 21,179 € หรือ 794,000 บาท/ตร.ม.
Credit: Getty Images
ราคาบ้านในอเมริกา
ด้วยพื้นที่ขนาด 9.8 ล้านตร.กม. และมีประชากรราว 326 ล้านคน ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก เป็นประเทศซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม และเป็นที่พำนักของประชากรเข้าเมืองใหญ่สุดในโลก ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 17,191 $ หรือ 536,000 บาท/ตร.ม
Credit: Getty Images
ราคาบ้านในญี่ปุ่น
ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกตาม GDP ราคาตลาด และอันดับ 4 ของโลกตามความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ และยังเป็นผู้ส่งออกและนำเข้ารายใหญ่สุดอันดับ 4 ของโลกด้วย ประเทศญี่ปุ่นมีกำลังแรงงานทักษะสูงและถือเป็นประเทศที่มีการศึกษาสูงสุดประเทศหนึ่งของโลก ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 16,322 $ หรือ 509,000 บาท/ตร.ม.
Credit: Getty Images
ราคาบ้านในสิงคโปร์
ศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก โดยเป็นศูนย์กลางการเงินใหญ่สุดเป็นอันดับสี่ ประเทศสิงคโปร์มีรายได้ต่อหัวสูงสุดเป็นอันดับสามของโลก แต่มีความเหลื่อมล้ำของรายได้รุนแรงที่สุดในหมู่ประเทศพัฒนาแล้ว นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับสูงในแง่การศึกษา สาธารณสุขและความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 14,373 $ หรือ 448,0000 บาท/ตร.ม.
Credit: Getty Images
ราคาบ้านในแคนาดา
ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ ติดกับสหรัฐ เป็นประเทศที่มีที่ตั้งอยู่ทางเหนือมากที่สุดของโลกและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม แคนาดาเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเป็นประเทศอุตสาหกรรม มีเศรษฐกิจที่หลากหลาย ซึ่งพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และพึ่งพาการค้าขาย โดยเฉพาะกับสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่แคนาดามีความสัมพันธ์อันยาวนานและสลับซับซ้อน ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 10,947 $ หรือ 342,000 บาท/ตร.ม.
Credit: Getty Images
ราคาบ้านในไต้หวัน
แม้ว่าจะเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติน้อย แต่เป็นประเทศอุตสาหกรรม ซึ่งเน้นไปที่การผลิต มีการนำเข้าน้ำมันดิบและแร่เหล็ก เพื่อนำไปผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ ส่งออกไปจำหน่าย อุตสาหกรรมที่รวดเร็วและการเติบโตอย่างรวดเร็วของไต้หวัน ทำให้ ได้รับการขนานนามว่า “ความมหัศจรรย์แห่งไต้หวัน” โดยถือเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับการจัดอันดับ ให้เป็น “สี่เสือแห่งเอเชีย” เช่นเดียว กับฮ่องกง,เกาหลีใต้และสิงคโปร์ (ก่อนหน้านี้ไทยเคยมีความฝันที่จะเป็นเสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย) ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 10,373 $ หรือ 323,000 บาท/ตร.ม.
Credit: Getty Images
ราคาบ้านในออสเตรเลีย
หนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ที่มีเศรษฐกิจ ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ของโลก ในปี 2012 ออสเตรเลียมีรายได้ต่อหัวที่สูงที่สุดอันดับห้าของโลก นอกจากนี้ยัง ถูกจัดอันดับที่สูงในการเปรียบเทียบระหว่างประเทศจำนวนมากของประสิทธิภาพการทำงานในระดับชาติ เช่น คุณภาพชีวิต, สุขภาพ, การศึกษา, เสรีภาพทางเศรษฐกิจ, และการปกป้องเสรีภาพของพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 8,783 $ หรือ 274,000 บาท/ตร.ม.
Credit: Getty Images
ราคาบ้านในสวีเดน
ประเทศกลุ่มนอร์ดิก บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ในยุโรปเหนือ มีกรุงสต็อกโฮล์มเป็นเมืองหลวง ประเทศสวีเดนมีประชากรที่เบาบาง เว้นแต่ในเขตเมืองใหญ่ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศประกอบด้วยป่าไม้ และภูเขาสูง สวีเดนเป็นแหล่งกำเนิดของบริษัทที่ประสบความสำเร็จในตลาดโลกจำนวนมาก เช่น VOLVO, Ericsson, Electrolux, H&M เป็นต้น และมีการจัดเก็บภาษีที่สูง ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 6,991 €หรือ 262,000 บาท/ตร.ม.
Credit: Getty Images
ราคาบ้านในเยอรมัน
ด้วยจำนวนประชากรประมาณ 82 ล้านคน ทำให้เยอรมันเป็นประเทศที่มากที่สุดในยุโรป และถือเป็นจุดหมายการเข้าเมืองยอดนิยมอันดับสองในโลกรองจากสหรัฐอเมริกา มี GDP เป็นอันดับสี่ของโลก ถัดจากสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มีการส่งออกเป็นอันดับสามของโลก รองจากสหรัฐ และประเทศจีน แต่ปัญหาทางเศรษฐกิจที่สำคัญคืออัตราการจ้างงาน ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 5,907 € หรือ 221,000 บาท/ตร.ม.
Credit: Getty Images
ราคาบ้านในนิวซีแลนด์
ประเทศที่ห่างไกลจากประเทศอื่น ๆ มากที่สุด ประเทศที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ ออสเตรเลีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะใหญ่ 2,000 กิโลเมตร นิวซีแลนด์เป็นประเทศหนึ่งในเขตแปซิฟิกที่มีการทำอุตสาหกรรม เช่น การต่อเรือ โรงงานเบียร์ไวท์ โรงงานปลากระป๋อง และ มีการทำการเกษตร การเพาะปลูก สินค้าที่สร้างรายได้เข้าประเทศอาทิ ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ สตรอเบอรี่ และแอปเปิล เป็นต้น ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 5,272 $ หรือ 164,000 บาท/ตร.ม.
Credit: Getty Images
สำหรับประเทศไทย นโยบายที่รัฐบาลคาดหวังว่าใช้กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ไม่ใช่แค่การลดค่าโอน-จดจำนอง-ภาษีที่ดิน แต่เป็นการปลดล็อคมาตรการที่อาจปิดกั้น การลงทุนของต่างชาติ ตั้งแต่ #ซื้อคอนโดแถมวีซ่า รวมไปถึงการหารือ เพื่อออกมาตรการให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองบ้าน-คอนโดในไทยได้มากขึ้น ทั้งๆ ที่สัดส่วนกำลังซื้อของคนกลุ่มนี้ มีค่าเฉลี่ยเพียง 10% ของตลาดเท่านั้น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในไทย
หมายเหตุ*
- www.globalpropertyguide.com เป็น Real Estate Agency ระดับโลก ที่มีทีม Research เก็บข้อมูล ราคาขาย และ ค่าเช่า Apartmentในหลายๆประเทศ
- ตัวเลขราคานี้จะเป็นการสำรวจเฉพาะในเขตเมืองหลวงเท่านั้น และเป็นราคาเฉลี่ยที่อัพเดตในเว็บไซต์ล่าสุด
- ข้อมูลชุดนี้อ้างอิง จาก www.globalpropertyguide.com อาจมีความ
ความคลาดเคลื่อนของตัวเลข ซึ่งแปรผันตามช่วงเวลา หรือมีการปรับใหม่
รวมไปถึงความผิดพลาดของทีมงานในการหาข้อมูลเอง ซึ่งทาง Think of Living พร้อมปรับแก้ข้อมูลเพื่อความถูกต้องในการนำไปใช้หรืออ้างอิงในโอกาสต่อไป โดยสามารถแจ้งได้ที่ Facebook: Think of Living
อ้างอิงข้อมูลค่าแรงขั้นต่ำ
- https://worldpopulationreview.com/country-rankings/minimum-wage-by-country
- https://tradingeconomics.com/japan/minimum-wages
- https://www.poea.gov.ph/news/2021/NR%20-%20Taiwan%20increases%20minimum%20wage%20of%20workers.pdf
- https://tradingeconomics.com/sweden/wages
0
เปิดคฤหาสน์หรู 9 มหาเศรษฐีระดับโลก
19 Dec 2023 | 06:08 PM
READ 10591
บ้านที่มีราคาแพงที่สุดในโลกอาจไม่ใช่บ้านของมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก ด้วยไลฟ์สไตล์และปรัชญาในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันทำให้ที่อยู่อาศัยไม่เพียงสะท้อนความมั่งคั่งของผู้ครอบครองเท่านั้น แต่ยังสะท้อนตัวตนและบ่งบอกรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของด้วย
Forbes Life พาไปสำรวจอาณาจักรที่พักอาศัยของมหาเศรษฐีติดอันดับโลกจากหลากหลายธุรกิจ เริ่มต้นตั้งแต่บ้านระดับราคา 250,000 เหรียญสหรัฐฯ จนถึงบ้านที่แพงที่สุดในโลกมูลค่า 2 พันล้านเหรียญ โดยรวบรวมจาก Forbes Magazine, BusinessInsider.com, เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของอินเดีย ได้แก่ 99acres.com, SquareYards.com, MagicBricks.com และเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ระดับหรูของแคนาดา FancyPantsHomes.com
Bernard Arnault
Forbes Ranking : #2 World’s Billionaires (10 ตุลาคม 2566)
มูลค่าทรัพย์สิน : 1.762 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัญชาติ : ฝรั่งเศส
อายุ : 74 ปี
ธุรกิจ : แฟชั่นและค้าปลีก
ที่พำนัก : Paris ฝรั่งเศส
มูลค่าบ้านพัก : 750 ล้านยูโร
Arnault ถือได้ว่าเป็นนักสะสมงานศิลปะตัวยง บ้านพักหลายแห่งของเขาประดับตกแต่งด้วยภาพวาดศิลปะที่มีชื่อเสียงของศิลปินดังระดับโลก เช่น Jean-Michel Basquiat, Damien Hirst, Maurizio Cattelan, Andy Warhol และ Pablo Picasso
บ้านที่ Arnault พักอาศัยประจำเป็นคฤหาสน์เก่าแก่อายุกว่า 250 ปีหลังใหญ่ริมแม่น้ำแซนใน Paris ที่เขาทุ่มเงิน 200 ล้านเหรียญและใช้เวลากว่า 10 ปีในการซ่อมแซมและปรับโฉม ออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างโมเดิร์นและคลาสสิก
บ้านตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ภายในบริเวณประกอบไปด้วยทะเลสาบส่วนตัว สนามเทนนิส สระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิก สวนขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม และที่จอดรถชั้นใต้ดิน ในบริเวณบ้านยังมีบ้านพักอีกหลังสำหรับแขก ที่ว่ากันว่าหรูหราไม่แพ้หลังใหญ่
ใน Paris เขายังมีเพนต์เฮาส์ที่ซื้อไว้ในราคา 220 ล้านเหรียญ เขายังมีบ้านและแมนชั่นในฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ แถบเทือกเขาแอลป์ และสหรัฐอเมริกา
Larry Ellison
Forbes Ranking : #4 World’s Billionaires (10 ตุลาคม 2566)
มูลค่าทรัพย์สิน : 1.397 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัญชาติ : อเมริกัน
อายุ : 79 ปี
ธุรกิจ : เทคโนโลยี
ที่พำนัก : Manalapan, Florida สหรัฐอเมริกา
มูลค่าบ้านพัก : 173 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Larry Ellison ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท Oracle ยักษ์ใหญ่ธุรกิจซอฟต์แวร์ระดับโลก ได้ย้ายไปพำนักที่เมือง Manalapan ในรัฐ Florida เมื่อปีที่ผ่านมาหลังจากใช้ชีวิตบนเกาะ Lanai เกาะที่มีขนาดใหญ่อันดับ 6 ในหมู่เกาะฮาวายมากว่า 2 ปีตั้งแต่ปี 2563 โดยบ้านที่ Manalapan ถือเป็นหลังล่าสุดที่นักชอปบ้านอย่าง Ellison ควักกระเป๋าซื้อเก็บเข้ามาไว้ในพอร์ตที่ว่ากันว่ามีเกือบ 10 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านเหรียญ
Manalapan เป็นเมืองที่ใกล้กับ Palm Beach ทำเลสุดฮอตของเหล่าเศรษฐีและเซเลบริตีคนดัง โดยคฤหาสน์ของ Ellison อยู่ทางใต้ของ Palm Beach ซึ่งเขาซื้อต่อมาจาก Jim Clark เพื่อนร่วมวงการซอฟต์แวร์ ตัวเลขซื้อขายที่ 173 ล้านเหรียญได้สร้างสถิติราคาซื้อขายสูงสุดใน Florida
สำหรับทรัพย์สินที่แพงที่สุดของ Ellison คือที่เกาะ Lanai ซึ่งเขาได้ทุ่มเงินจำนวน 300 ล้านเหรียญซื้อที่ดินเกือบยกเกาะ หรือราว 98% ของทั้งเกาะในปี 2555 จาก David Murdock ประธานบริษัทอาหาร Dole Food โดยมาพร้อมรีสอร์ตหรู Four Seasons 2 แห่ง กินอาณาบริเวณรวม 365 ตารางกิโลเมตร
นอกจากนี้ Ellison ยังมีบ้านอยู่ตามเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาอีกหลายหลัง
Warren Buffett
Forbes Ranking : #6 World’s Billionaires (10 ตุลาคม 2566)
มูลค่าทรัพย์สิน : 1.155 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัญชาติ : อเมริกัน
อายุ : 93 ปี
ธุรกิจ : ลงทุนหลากหลายธุรกิจ
ที่พำนัก : Omaha, Nebraska สหรัฐอเมริกา
มูลค่าบ้านพัก : 250,000 เหรียญสหรัฐฯ
Buffet เป็นคนติดดินและมีชีวิตความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย บ้านพักของเขาไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่และไม่ได้ใหญ่โตดูหรูหราฟุ่มเฟือยอย่างที่หลายคนคิดเมื่อนึกถึงบ้านมหาเศรษฐี แต่เป็นบ้านที่มีความหมายกับเขามาก เพราะเป็นบ้านที่เขาใช้ชีวิตมาตั้งแต่ก่อร่างสร้างตัว และอยู่มาจนถึงปัจจุบันที่ติดอันดับมหาเศรษฐีระดับโลก
บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังไม่ใหญ่ มีมูลค่าแค่ 0.001% ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่เขามี เขาซื้อบ้านหลังนี้ในราคาประมาณ 31,500 เหรียญเมื่อปี 2501 หลังจากเช่าอยู่ได้ 2 ปีโดยจ่ายค่าเช่าเดือนละ 175 เหรียญ
“ผมมีความสุขกับบ้านหลังนี้ และจะย้ายออกถ้าคิดว่าอยู่ที่อื่นแล้วมีความสุขมากกว่า” เขาเล่าให้ BBC ฟังเมื่อถูกถามเรื่องบ้านที่ Nebraska “ชีวิตผมจะดีขึ้นจากการมีบ้าน 10 หลังทั่วโลกได้อย่างไร ถ้าผมอยากเป็นคนดูแลบริหารจัดการบ้านผมก็ไปทำอาชีพนั้น แต่ผมไม่อยากดูแลบ้าน 10 หลัง และไม่ได้อยากให้ใครมาดูแลแทน ผมไม่คิดว่าทำแบบนั้นแล้วจะมีความสุขมากขึ้น”
Bill Gates
Forbes Ranking : #9 World’s Billionaires (10 ตุลาคม 2566)
มูลค่าทรัพย์สิน : 1.096 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัญชาติ : อเมริกัน
อายุ : 67 ปี
ธุรกิจ : ซอฟต์แวร์
ที่พำนัก : Medina, Washington สหรัฐอเมริกา
มูลค่าบ้านพัก : 131 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์มีคฤหาสน์อยู่ริมทะเลสาบวอชิงตันใน Medina เมืองเล็กๆ ที่นิยมในกลุ่มเศรษฐี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ Seattle บ้านเกิดของเขาโดยมีทะเลสาบกั้นกลาง คฤหาสน์หลังนี้มีชื่อว่า Xanadu 2.0 ซึ่งตั้งตามชื่อบ้านของ Charles Foster Kane ตัวเอกในภาพยนตร์เรื่อง Citizen Kane ของ Orson Welles ผู้กำกับชั้นครูที่มีผลงานที่นักกำกับภาพยนตร์ทุกคนจะต้องเรียน
Xanadu 2.0 เป็นบ้านระดับมาสเตอร์พีซที่มีความหรูหรา มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและฟีเจอร์มากมาย และยังเป็นบ้านรักษ์โลกที่ออกแบบให้ประหยัดพลังงานบนพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 4,400 ตารางเมตร คฤหาสน์สไตล์ลอดจ์นี้ใช้ไม้กระดานนำมาก่อสร้างถึง 5 แสนฟุต หรือกว่า 152,400 ตารางเมตร ใช้ช่างก่อสร้างถึง 300 คน โดยหนึ่งในสามเป็นช่างไฟฟ้า
Gates ยังมีบ้านตากอากาศที่เมือง Del Mar รัฐ California เป็นบ้านริมหาดขนาด 6 ห้องนอนที่มีพื้นที่ดาดฟ้าขนาดใหญ่ และยังเป็นเจ้าของฟาร์มม้าในเมือง Wellington รัฐ Florida บนเนื้อที่กว่า 6 แสนไร่ ถือเป็นฟาร์มที่มีเอกชนเป็นเจ้าของที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
Mukesh Ambani
Forbes Ranking : #12 World’s Billionaires (10 ตุลาคม 2566)
มูลค่าทรัพย์สิน : 9.15 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัญชาติ : อินเดีย
อายุ : 66 ปี
ธุรกิจ : หลากหลาย
ที่พำนัก : Mumbai อินเดีย
มูลค่าบ้านพัก : 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
หากไม่นับพระราชวังบักกิงแฮมที่มีการตีมูลค่าสูงถึง 4.9 พันล้านเหรียญ มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของอินเดียผู้นี้คือเจ้าของบ้านที่แพงที่สุดในโลก ความอลังการของที่พักอาศัยของเขาที่มิอาจเรียกแค่บ้านหรือคฤหาสน์ได้นี้มีมูลค่าถึง 2 พันล้านเหรียญ
Ambani เริ่มสร้างบ้านหลังนี้ในปี 2549 และสร้างเสร็จในปี 2554 โดยตั้งชื่อว่า Antilia ตามเกาะในตำนานในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นอาคารขนาด 27 ชั้น แต่มีความสูงถึง 173 เมตร ซึ่งเท่ากับอาคารทั่วไป 60 ชั้น เนื่องจากแต่ละชั้นมีเพดานสูงกว่าปกติเท่าตัว ตั้งอยู่ในย่านคนรวยในนคร Mumbai มีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 37,000 ตารางเมตร มีที่จอดรถขนาด 6 ชั้นสำหรับจอดรถระดับซูเปอร์คาร์ได้ 168 คัน
ปัจจุบัน Ambani พักอาศัยที่ชั้นบนสุดของอาคารในพื้นที่ 6 ชั้นกับภรรยา บุตรฝาแฝดชายหญิงที่แต่งงานและมีครอบครัวแล้ว และบุตรชายคนเล็ก
Michael Dell
Forbes Ranking : #16 World’s Billionaires (10 ตุลาคม 2566)
มูลค่าทรัพย์สิน : 7.26 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัญชาติ : อเมริกัน
อายุ : 58 ปี
ธุรกิจ : เทคโนโลยี
ที่พำนัก : Manhattan สหรัฐอเมริกา
มูลค่าบ้านพัก : 100.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Dell เป็นอีกหนึ่งเจ้าพ่อไอทีที่ออกจากมหาวิทยาลัยกลางคันเพื่อมาบุกเบิกกรุยทางธุรกิจของตัวเอง เขาได้ซื้อแมนชันหลังใหญ่ในย่าน Austin ซึ่งเป็นที่ตั้งของ University of Texas at Austin ที่เขาเคยเรียน โดยอยู่ห่างจากที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Dell Technologies เพียง 32 กิโลเมตร
ผู้คนละแวกนั้นเรียกบ้านของ Dell ว่า The Castle เพราะอยู่บนยอดเขาและมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 300 ไร่ เห็นวิวทะเลสาบออสติน มีสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส เป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 3,000 ตารางเมตร มีห้องนอน 8 ห้อง และห้องน้ำ 13 ห้อง
ห่างออกมาไม่กี่กิโลเมตร Dell มีบ้านอีกหลังชื่อ 6D Ranch สำหรับสมาชิกในบ้านทั้ง 6 คนของเขา และในปี 2560 เขาได้ซื้ออะพาร์ตเมนต์ขนาด 670 ตารางเมตรใน Four Seasons Private Residences One Dalton Street ในราคา 40 ล้านเหรียญ นอกจากนั้น Dell ยังมีบ้านพักตากอากาศริมทะเลที่เกาะฮาวาย ชื่อ Raptor Residence บนเนื้อที่เกือบ 11 ไร่
ล่าสุด Dell ควักกระเป๋าซื้อเพนต์เฮาส์หรู One57 บนเกาะแมนฮัตตันในปี 2561 ในราคา 100.47 ล้านเหรียญ ซึ่งทำสถิติแพงที่สุดใน New York ในปีนั้น
Lakshmi Mittal
Forbes Ranking : #110 World’s Billionaires (10 ตุลาคม 2566)
มูลค่าทรัพย์สิน : 1.52 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัญชาติ : อินเดีย
อายุ : 73 ปี
ธุรกิจ : เหล็ก
ที่พำนัก : London สหราชอาณาจักร
มูลค่าบ้านพัก : 222 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Mittal ซึ่งปัจจุบันเป็นพลเมืองอังกฤษเป็นเจ้าของบ้านที่ติดอันดับหนึ่งในบ้านที่แพงที่สุดในโลก เขาพักที่บ้านเลขที่ 9a ใน Kensington Palace Gardens หรือ Billionaire’s Row ของ London ซึ่งมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “Taj Mittal” เพราะคฤหาสน์สุดหรูหลังนี้ใช้หินอ่อนจากแหล่งเดียวกับหินอ่อนที่ใช้สร้างทัชมาฮาล โดย ปัจจุบันเขายกบ้านเป็นของขวัญให้กับ Aditya บุตรชาย
ต่อมาเขาได้ซื้อบ้านเลขที่ 9 เป็นหลังที่ 3 ย่าน Kensington Palace Gardens ดังเดิมในราคา 70 ล้านปอนด์ และยกให้บุตรสาว Vanish Mittal ซึ่งหลังนี้เดิมเคยเป็นสถานทูตฟิลิปปินส์
นอกจากที่ London แล้วเขายังมีบ้านที่สกอตแลนด์ อินโดนีเซีย และตรินิแดด
Andrei Guriev
Forbes Ranking : #259 World’s Billionaires (10 ตุลาคม 2566)
มูลค่าทรัพย์สิน : 8.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัญชาติ : รัสเซีย
อายุ : 63 ปี
ธุรกิจ : ปุ๋ย
ที่พำนัก : London สหราชอาณาจักร
มูลค่าบ้านพัก : 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Guriev ได้ครอบครอง Witanhurst คฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีห้องนอน 25 ห้อง สวนที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง และมีชั้นใต้ดินขนาดใหญ่ที่มีสระว่ายน้ำความยาว 21 เมตร พร้อมโรงภาพยนตร์ ห้องนวด ห้องเซานา และห้องออกกำลังกาย ถือเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองใน London รองจากพระราชวังบักกิงแฮม
Rinat Akhmetov
Forbes Ranking : #472 World’s Billionaires (10 ตุลาคม 2566)
มูลค่าทรัพย์สิน : 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัญชาติ : ยูเครน
อายุ : 57 ปี
ธุรกิจ : เหล็ก ถ่านหิน
ที่พำนัก : Cote d’Azur ฝรั่งเศส
มูลค่าบ้านพัก : 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
บ้านพักของเขาที่ London คือเพนต์เฮาส์ที่ One Hyde Park ราคา 209 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยที่แพงที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในย่าน Knightsbridge โดยเจ้าของ One Hyde Park ทุกยูนิตจะได้รับบริการจากทางโรงแรม ซึ่งว่ากันว่ามีอุโมงค์เชื่อมต่อทั้งสองอาคารไว้ด้วยกัน
Akhmetov ยังมีวิลลาตากอากาศที่ฝรั่งเศสชื่อ Villa Les Ce`dres มูลค่า 450 ล้านเหรียญ เป็นบ้านที่มีราคาแพงที่สุดเป็นอันดับ 4 ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส สร้างขึ้นในปี 2373 หรือเกือบ 200 ปีมาแล้ว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Lucio Tan III ทายาทเศรษฐีพันล้านฟิลิปปินส์ ที่กำลังก้าวสู่บทผู้นำ
