ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

ลัมบอร์กีนี อาเวนทาดอร์ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ในฝันของใครหลายๆ คน

เรื่องเด่น

Pakkawat Unchalee  |  24 March 2568 14:29

ลัมบอร์กีนี อาเวนทาดอร์ ซุปเปอร์คาร์ที่ใครก็ต่างใฝ่ฝันว่าสักวันต้องมีไว้ครอบครอง Lamborghini มันมีดีอะไรถึงเข้ามานั่งเป็น no.1 ในใจผู้ชายส่วนใหญ่ได้ วันนี้เรามาหาคำตอบกัน

---

Lamborghini Aventador คือรถซุปเปอร์คาร์ใช่ไหม?

หลักการคร่าวๆ สำหรับการจัดหมวดหมู่รถยนต์ในหมวด Supercar หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Exotic car คือ ต้องเป็นรถสปอร์ตที่มีประสิทธิภาพสูง และมาพร้อมขุมพลังที่เหนือชั้น สามารถใช้ได้ทั้งในการแข่งขันและวิ่งบนถนนจริง โดยต้องมีอัตราเร่ง 0-100 ต่ำกว่า 4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เมื่อย้อนกับมามองที่ดีไซน์การออกแบบของ Aventador มันก็แน่ชัดตั้งแต่รูปทรงที่แบนราบแสดงถึงความแอร์โรไดนามิกขั้นสุดแล้ว และตอกย้ำด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่ Lamborghini ได้เลือกวางให้กับ Aventador ซึ่งก็คือเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้แรงม้าสูงสุดถึง 700 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 70.311 กก.-ม. ที่ 5,500 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 ใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ไม่แปลกใจเลยที่ความแรงของ Aventador จะแซงรถยนต์ค่ายอื่นเข้ามาอยู่ในดวงใจชายทุกเพศทุกวัยได้ แต่นอกเหนือจากกำลังเครื่องยนต์ก็ต้องบอกว่าดีไซน์ที่ Lamborghini ออกแบบมานั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สวยที่สุดของค่ายและมีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ที่สุด ขับแล้วรู้ได้ทันทีว่านี่แหละ Aventador ดูแล้วน่าจะคู่ควรกับฉายา Godzilla มากกว่า GT-R อีกนะเนี่ย

การออกแบบตัวรถยนต์ไม่ได้เพียงแต่สักจะทำให้สวยเพียงอย่างเดียว แต่ทุกส่วนของรถมีส่วนสำคัญในการทำให้รถคันนี้มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การออกแบบตามหลักการแอร์โรไดนามิกที่เหนือชั้น เพราะมันสามารถสร้างแรงกดอากาศมหาศาลทำให้รถคันนี้สามารถพุ่งทยานไปข้างหน้าได้แบบไม่ต้องหวั่นเกรง และ มีการดีไซน์ช่องรับลมที่สามารถรับลมเข้าไปช่วยระบายความร้อนของเบรคและเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นต้น

Aventador เหมือนเป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์คันแรกของ Lamborghini

Lamborghini Aventador ถูกเปิดตัวต่อสายตาชาวโลกครั้งแรกในปี 2011 และเขาก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้กับแบรนด์ Lamborghini อย่างสมศักดิ์ศรีด้วยยอดขายกว่า 10,000 คันในเวลาเพียง 9 ปี เป็นการตอบย้ำได้เลยว่านี่แหละรถสปอร์ตสุดเท่ในดวงใจชายทุกคนบนโลก และ Aventador นั้นใช้เวลาเพียงแค่ 5 ปี ก็มียอดจองมากกว่าจำนวนรถยนต์ V12 ที่ Lamborghini เคยผลิตรวมกันทั้งหมดแล้ว!

จากหัวข้อนั้นไม่ใช่ว่า Aventador คือรุ่นแรของค่าย แต่มันถือว่าเป็นซูเปอร์คาร์คันแรกของ Lamborghini ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจด้วยโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ มีให้เลือกถึง 4 แบบ STRADA, SPORT, CORSA และ EGO

ซึ่งในโหมด EGO ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าโปรไฟล์ต่างๆ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเวลานั้นมากที่สุดด้วย เช่น ระบบส่งกำลัง การบังคับเลี้ยว และอื่นๆ อีกเพียบ เขาถือว่า Aventador คอรถซุปเปอร์คาร์คันแรกที่สร้างยอดขายได้ดีที่สุด สร้างชื่อเสียงได้มากที่สุด เข้าไปอยู่ในดวงใจคนได้มากที่สุด และ เป็นรถซุปเปอร์คาร์ที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ สร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง

ความรุ่งโรจน์ของ Lamborghini เกิดจากความผิดหวัง

แต่เริ่มเดิมที่ผู้ก่อตั้ง Lamborghini ไม่ได้ตั้งใจจะผลิตรถยนต์ซุปเปอร์คาร์แต่อย่างใด เขาเป็นเพียงชายเศรษฐีที่หลงไหลในรถสปอร์ตเพียงเท่านั้น โดยผู้ก่อตั้ง Lamborghini มีความหลงไหลในรถยนต์ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดและเป็นเสมือนงานศิลปะชิ้นเอกของรถยนต์อย่าง Ferrari

แต่ทาง Ferrari นั้นกลับต้องทำให้เขาผิดหวัง เมื่อเขาได้ซือรถจากทาง Ferrari มาหลายคันแล้วเกิดพบกับปัญหาหลายๆ อย่างที่ Ferrari ไม่อาจแก้ไขได้แม้ว่าเขาจะซื้อรถยนต์จากค่าย Ferrari มาทุกรุ่นก็ตาม นั่นจึงทำให้เขาตัดสินใจแจ้งปัญหาต่างๆ ที่เขาพบทั้งหมดกับผู้ก่อตั้ง Ferrari เมื่อมีโอกาสได้เจอกัน

แต่สิ่งที่เขากลับได้รับมานั้นไม่ใช่คำขอบคุณแต่เป็นคำตำหนิติติงที่ทางเจ้าของค่าย Ferrari บอกเขากลับมาว่า Ferrari ของเขาคือผลงานชิ้นโบว์แดงเป็ฯงานศิลปะที่เพรียบพร้อมและไม่มีที่ติ มันเป็นไปไม่ได้ที่มันจะมีปัญหา นั่นทำให้ผู้ก่อตั้ง Lamborghini รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่เค้าได้ชื่นชอบและศัทธาใน Ferrari

ไม่รอช้าเขากลับมาเริ่มต้นก่อตั้ง Lamborghini ขึ้นมาเพื่อหวังว่ารถที่เขาสร้างมันจะกลายเป็นรถที่แก้ไขและกลบจุดบกพร่องทุกอย่างที่ Ferrari มีทั้งหมด และต้องมีหน้าตาที่สวยทันสมัยที่สุดเท่าที่จะทำได้

เมื่อ Lamborghini ได้ปล่อยรถยนต์คันแรกของค่ายออกมาก็แน่นอนว่ารถมันดีเลยขยี้ Ferrari จนยับเยิน เพราะ Lamborghini ได้แก้ไขจุดบอดของFerrari ทั้งหมดและนำมันไปใส่ในรถของเขาจน Lamborghini กลายเป็นรถสปอร์ตที่ดีที่สุดในตอนนั้นและกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Ferrari เรื่อยมา นั่นจึงทำให้คนที่รู้ถึงความมุ่งมั่นของ Lamborghini ต่างก็ชื่นชอบและรู้สึกศัทธาในแบรนด์รวมถึงรุ่นยอดฮิตอย่าง Aventador ด้วย

แบรนด์รถเยอรมันมียี่ห้ออะไรบ้าง? ที่ทั่วโลกนิยมใช้

Last updated: 15 ส.ค. 2567  |  9319 จำนวนผู้เข้าชม  | 

   

ประเทศเยอรมนี ถือเป็นแหล่งกำเนิดของแบรนด์รถเยอรมันชั้นนำระดับโลกที่มีเอกลักษณ์ และขึ้นชื่อในเรื่องของคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ความปลอดภัย เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมไปถึงนวัตกรรมที่มีความโดดเด่น ทำให้ภาพลักษณ์ของยี่ห้อรถเยอรมัน มีความหรูหรา พรีเมียม และเป็นที่จดจำในฐานะแบรนด์ High-End ดังนั้น APRTECH จึงได้รวบรวมมาว่า รถเยอรมัน มียี่ห้ออะไรบ้าง น่าสนใจตรงไหน และมีประวัติความเป็นมาอย่างไร รวมถึงเหตุผลว่าทำไมรถแบรนด์เยอรมัน ถึงเป็นรถชั้นนำที่หลาย ๆ คนทั่วโลกให้ความไว้วางใจ

1. Volkswagen

Volkswagen รถสัญชาติเยอรมันที่มีชื่อเสียง และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1937 โดยรัฐบาลเยอรมนีภายใต้การปกครองของ Adolf Hitler ซึ่งได้ร่วมมือกับ Ferdinand Porsche ในการผลิตรถยนต์ Volkswagen (VW) โดยเริ่มมาจากแนวคิดที่ต้องการออกแบบให้เป็นรถยนต์สำหรับทุกคน มีคุณภาพดีแต่ราคาไม่แพง และต้นทุนการผลิตต่ำ เพื่อให้คนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้ 

โดยผลงานที่ได้รับความนิยม และจดจำไปทั่วโลกคือ Volkswagen Beetle หรือ “รถเต่า” ซึ่งประกาศยุติผลิตไปเมื่อ 2015 หลังจากผลิตมานานกว่า 80 ปี เนื่องจากความต้องการของตลาดเปลี่ยนไป และบริษัทต้องการมุ่งเน้นไปที่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

ปัจจุบัน Volkswagen ยังคงเป็นรถเยอรมันที่ได้รับความนิยม ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทั้งยังเป็นบริษัทแม่รถซูเปอร์คาร์ชื่อดังหลากหลายแบรนด์อย่าง Audi, Porsche, Bentley, Bugatti, Lamborghini และอื่น ๆ อีกมากมาย

รถโฟล์คสวาเกนรุ่นยอดนิยม: VW Golf, Passat และ Beetle

2. Mercedes-Benz

Mercedes-Benz รถสัญชาติเยอรมันยอดนิยม ที่เกิดจากการรวมตัวกันของแบรนด์ Daimler Motoren-Gesellschaft (DMG) และ Benz & Cie. ในปี 1926 โดย Karl Benz ผู้ก่อตั้งบริษัท Benz & Cie. ได้มีแนวคิดในการพัฒนายานพาหนะที่ไม่ต้องใช้ม้าในการลากเลื่อน จึงได้ประดิษฐ์ Benz Patent-Motorwagen ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้คันแรกของโลก ส่วนในฝั่งของ Gottlieb Wilhelm Daimler ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Daimler Motoren-Gesellschaft ก็ถือเป็นผู้ประดิษฐ์รถยนต์สี่ล้อขับเคลื่อนโดยใช้น้ำมันเบนซินคันแรกของโลกเช่นกัน และเมื่อทั้งสองแบรนด์ต่างเห็นถึงศักยภาพของกันและกัน จึงได้เกิดการรวมกิจการกันในที่สุด ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ขยายตัวและเติบโตมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะในสมัยยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รถแบรนด์เยอรมันอย่าง Mercedes-Benz ได้ทำการคิดค้นเทคโนโลยี และนวัตกรรมยานยนต์ที่ล้ำสมัย รวมถึงการออกแบบดีไซน์ที่ดูหรูหรา Mercedes-Benz จึงกลายเป็นแบรนด์รถเยอรมันที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักจากคนทั่วโลกมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

รถเบนซ์รุ่นยอดนิยม: C-Class, E-Class, S-Class, และ GLE

3. BMW (Bayerische Motoren Werke)

BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ยี่ห้อรถเยอรมันที่มาพร้อมกับความโดดเด่นในเรื่องของความหรูหรา ความทันสมัย และเทคโนโลยีที่ล้ำยุค อีกทั้งยังมีประวัติที่น่าสนใจ โดย Franz Josef Popp เริ่มก่อตั้งแบรนด์ BMW ในปี 1916 ซึ่งแรกเริ่มก่อตั้งเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์เป็นครั้งแรกหลังจากสงครามสิ้นสุดลง โดยมีแนวคิดในการผลิตยานพาหนะที่ตอบโจทย์การใช้งานของบุคคลทั่วไป หลังจากนั้นในปี 1933 BMW ได้ผลิตรถยนต์ที่มีชื่อรุ่นว่า BMW 303 ที่มาพร้อมกับความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร อย่างกระจังหน้าแบบไตคู่ (Kidney Grille) จนได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของ BMW มาจนถึงปัจจุบัน 

รถ BMW รุ่นยอดนิยม: BMW 3 Series, BMW 5 Series, และ BMW X5

4. Audi

Audi อีกหนึ่งรถสัญชาติเยอรมันสุดหรูที่เกิดจากการรวมตัวกันของ 4 บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของเยอรมนี ได้แก่ Audiwerke, Horchwerke and Zschopauer Motorenwerke, DKW และ Wanderer Werke ภายใต้บริษัทใหม่ที่ชื่อว่า ‘Auto Union AG’ หลังจากนั้นในปี 1980 ถือเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญที่ทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์ Audi โด่งดังและเป็นที่รู้จักเป็น จากการที่รถยนต์ของ Audi ชนะในรายการแข่งขันรถยนต์ระดับโลกอย่าง World Rally Championship (WRC) และเป็นครั้งแรกที่คนทั้งโลกได้รู้จักกับ Quattro นวัตกรรมการขับเคลื่อน 4 ล้ออันล้ำสมัย ซึ่งปัจจุบัน Audi ได้ยกระดับแบรนด์ทั้งในเรื่องของดีไซน์และเทคโนโลยีให้มีความพรีเมียมและสมรรถภาพในการขับขี่ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น

รถ Audi รุ่นยอดนิยม: Audi A4, Audi Q5, Audi Q7

5. Porsche

Porsche ก่อตั้งโดย Ferdinand Porsche ซึ่งเป็นวิศวกรยานยนต์ที่เคยร่วมงานกับบริษัทรถชื่อดังอย่าง Mercedes-Benz, Volkswagen สำหรับรถยนต์รุ่นที่ถือว่าสร้างชื่อเสียงให้กับ Porsche คือ Porsche 911 ที่มีรูปทรงหลังคาโค้งลาดเอียงเป็นเอกลักษณ์ โดยคุณสมบัติเด่นที่ทำให้ Porsche กลายเป็นรถในฝันของใครหลาย ๆ คน นั่นก็คือสมรรถนะการขับขี่ที่รวดเร็ว สามารถควบคุมได้อย่างเสถียร และมีอัตราการเร่งที่ดีเยี่ยม ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี Porsche แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอยู่เสมอ ทำให้ Porsche ยังคงเป็นรถสปอร์ตอันดับ 1 ที่ครองใจคนทั่วโลกได้อย่างยาวนานนาน

รถ Porsche รุ่นยอดนิยม: Porsche 911, Porsche Cayenne และ Boxster

รถสัญชาติเยอรมันแบรนด์อื่น ๆ

นอกจากรถสัญชาติเยอรมันยอดนิยม ข้างต้นแล้ว ยังมีแบรนด์รถเยอรมันอีกหลายแบรนด์ที่น่าสนใจ ซึ่งบางแบรนด์อาจไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในระดับสากล แต่ก็มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนี เช่น

• Opel (โอเปิล)

รถสัญชาติเยอรมัน ที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพและราคาย่อมเยา ก่อตั้งขึ้นในปี 1862 โดย Adam Opel และประสบความสำเร็จในการเปิดตัวรถยนต์คันแรก Opel Lutzmann ในปี 1899 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารถรุ่นอื่น ๆ ของ Opel

• Smart (สมาร์ท)

แบรนด์รถเยอรมันขนาดเล็ก โดดเด่นด้วยดีไซน์เล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง แบรนด์ Smart เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง Mercedes-Benz และ Swatch Group โดยมีจุดมุ่งหมายในการผลิต รถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดพลังงาน

• Borgward (บอร์กวาร์ด)

แบรนด์รถยนต์เยอรมันเก่าแก่ ที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 หลังจากเผชิญกับปัญหาทางการเงินและการแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทรถยนต์เยอรมันรายอื่น ๆ Borgward ได้กลับมาผลิตรถยนต์อีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทรถยนต์รายใหญ่จากจีน ซึ่งเน้นไปที่การผลิตรถยนต์ SUV และรถยนต์ไฟฟ้า

ทำไมรถยนต์เยอรมันถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก

1. รถยนต์เยอรมันมีประวัติศาสตร์และชื่อเสียงมายาวนาน

อุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนีมีประวัติศาสตร์และมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพมาอย่างยาวนาน ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพของรถแบรนด์เยอรมัน

2. ภาพลักษณ์ของรถสัญชาติเยอรมัน

แบรนด์รถยนต์เยอรมันหลายแบรนด์มีภาพลักษณ์ที่หรูหรา และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ทำให้การเป็นเจ้าของรถยนต์เยอรมันเป็นเหมือนการแสดงออกถึงความสำเร็จและรสนิยม

3. คุณภาพและความทนทาน

รถยนต์เยอรมันขึ้นชื่อเรื่องการผลิตที่เน้นคุณภาพและความทนทาน ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงและกระบวนการผลิตที่เข้มงวด ทำให้รถยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีความน่าเชื่อถือสูง

4. การออกแบบโดดเด่น และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

บริษัทรถยนต์เยอรมันมักเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และสมรรถนะของรถยนต์ มีการออกแบบที่สวยงามทันสมัย มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้รถยนต์เยอรมันหลาย ๆ แบรนด์โดดเด่น และเป็นที่นิยมไปทั่วโลก


แบรนด์รถยนต์เยอรมันได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก ด้วยคุณภาพการผลิต เทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะการขับขี่ที่เป็นเลิศ ดังนั้นการดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ