ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
5 รุ่นรถยนต์สำหรับรถครอบครัว เลือกรุ่นไหนถึงคุ้มค่าแถมราคาดี
แชร์บทความนี้

หัวข้อที่น่าสนใจ
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่สนใจ รถครอบครัว หรือต้องการขยับจาก “รถส่วนตัว” มาเป็นรถครอบครัว แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเลือกรถยนต์แบรนด์ไหน รุ่นอะไร ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ “โมเดลรถสำหรับครอบครัวใหญ่” มาให้คุณได้ทำความคุ้นเคยคร่าว ๆ ซึ่งจะน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ไปติดตามพร้อม ๆ กับเราได้เลย !
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ รถครอบครัว
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “รถครอบครัว” มีความแตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป โดยเฉพาะภายในห้องโดยสารที่สามารถรองรับสมาชิกได้ 7 ที่นั่ง และบางรุ่นอาจรองรับได้มากถึง 11-14 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึง “ตัวถัง” ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเสน่ห์และเอกลักษณ์ของรถครอบครัวก็ว่าได้
หากคุณต้องการเปลี่ยนมาใช้รถครอบครัวจริง ๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม คุณจะต้องทำการสำรวจจำนวนสมาชิกในครอบครัวก่อน เพื่อดูความเหมาะสม หากใช้รถคนเดียว ไม่ค่อยได้เดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ การเลือกซื้อรถยนต์ทั่วไป (รถส่วนตัว) อาจตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า เพราะอย่าลืมว่ารถครอบครัวมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ และมีราคาค่อนข้างสูง
ในกรณีที่เป็นครอบครัวใหญ่ ที่ใช้รถเดินทางไปไหนมาไหนเป็นครอบครัวใหญ่บ่อย ๆ ต้องดูว่า “จำนวนสมาชิกในครอบครัว” เหมาะกับรถครอบครัวประเภทไหน พร้อมกับดูขนาดของตัวรถว่าสามารถจอดภายในบ้านได้หรือไม่ รวมถึง “ระบบความปลอดภัย” ที่ติดตั้งมากับตัวรถ ว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการ และสามารถมอบความสบายใจให้คุณอย่างครบครันหรือไม่ ในกรณีที่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อแบรนด์ไหน รุ่นอะไร เราได้เช็กลิสต์รถครอบครัวมาให้คุณทำความเข้าใจทั้งหมด 5 รุ่น เรียบร้อยแล้ว ไปทำความเข้าใจในหัวข้อถัดไปได้เลย !
เช็กลิสต์ รถครอบครัว รุ่นไหนดี ?

เมื่อคนเราเติบโตขึ้น โดยเฉพาะคนที่อายุมากขึ้นหรือแต่งงานมีครอบครัว การใช้ชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากการเดินทางกับคนรักเพียงแค่ 2 คน จำเป็นต้องขยับขยายเพื่อสามารถรองรับ “สมาชิกในครอบครัว” ให้มากกว่าเดิม และเราได้รวบรวม 5 รถครอบครัว มาให้คุณทำความรู้จักก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ ดังนี้
- 1. Isuzu Mu-Xราคาเริ่มต้น : 1.154 ล้านบาท
Isuzu Mu-X เป็นรถประเภท PPV มีโครงสร้างมาจากรถกระบะ แต่ถูกออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารอย่างกว้างขวาง รวมถึงมีจำนวนเบาะที่นั่งสำหรับผู้โดยสารค่อนข้างมาก สามารถนั่งโดยสารได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถลุยไปได้ทุกที่ ไม่หวั่นแม้จะเป็นระยะทางไกล มาพร้อมกับหน้าตาอันเฉียบคม ได้ใจ “สาวกอีซูซุ” อย่างล้นหลาม ด้วยการทำ “ไมเนอร์เชนจ์” แต่งหน้าทาปากรถยนต์รุ่นนี้ใหม่ แถมยังมาพร้อมกับออฟชั่นที่เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้นภายในห้องโดยสารถูกปรับแต่งให้หรูหรา พรีเมียม ด้วยโทนสี Macchiato Brown (สีน้ำตาลเทาสลับสีน้ำตาลเข้ม) พร้อมตกแต่งวัสดุภายในด้วยสี Piano Black และ Chrome ในส่วนของเบาะที่นั่งปรับ Shape ใหม่ ที่สามารถโอบกระชับสรีระได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี COOLMAX ซึ่งช่วยลดการสะสมความร้อนที่เบาะที่นั่งได้ดังเดิม - 2. Nissan Terraราคาเริ่มต้น : 1.199 ล้านบาท
Nissan Terra เป็นรถประเภท PPV ในปี 2023 ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นถึง “จุดลงตัว” ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่มีความโดดเด่น เพิ่มเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย แถมยังครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายมากมาย นอกจากนี้ “สมรรถนะการขับขี่” ก็ได้รับการปรับจูนมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะความแรงของเครื่องยนต์ และช่วงล่างที่รองรับการใช้งานได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ทุกการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพภายในห้องโดยสารให้ความรู้จักที่กว้างขวางยิ่งกว่าเดิม ด้วยเบาะที่นั่งดีไซน์ใหม่ ด้วยการพัฒนาเบาะรองนั่งและพนักพิงหลัง ที่ให้ความสบายตลอดการเดินทาง พร้อมเพิ่มความสามารถในการปรับรูปแบบพื้นที่ห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระได้ตามต้องการ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน “รถครอบครัว 7 ที่นั่ง” ที่น่าจับตามองมาก ๆ เลยล่ะ - 3. Toyota Velozราคาเริ่มต้น : 7.95 แสนบาท
Toyota Veloz เป็นรถประเภท Mini MPV รถครอบครัว 7 ที่นั่ง ไม่หวือหวา แต่คุ้มค่าการใช้งาน ! รูปลักษณ์จัดว่าล้ำสมัย เน้นดุดัน แต่คงความเรียบง่าย ไม่หวือหวา เอาใจสายรถครอบครัวที่ไม่ได้เน้นความสปอร์ตมากจนเกินไป จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้คือ “ห้องโดยสารกว้างขวาง” เทียบเท่ากับรถระดับ C-segment ซึ่งเน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก พื้นที่วางขาเยอะ เบาะที่นั่งสามารถปรับได้มากถึง 7 แบบสำหรับภายในห้องโดยสารจัดเต็มด้วยออฟชั่นตามยุคสมัย เช่น แผงหน้าปัดแบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว สามารถปรับได้ทั้งหมด 4 รูปแบบ สามารถแสดงสถานะการทำงานของระบบขับขี่อย่างครบครัน นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมไปด้วย “ระบบมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด” อย่าง Toyota Safety Sense ที่ติดตั้งในรถโตโยต้ารุ่นท็อปแทบทุกรุ่นอีกด้วย - 4. Hyundai Stargazerราคาเริ่มต้น : 7.69 แสนบาท
Hyundai Stargazer เป็นรถประเภท Mini MPV ถูกออกแบบให้มีเส้นสายที่ชวนให้นึกถึงรุ่นใหญ่ อย่าง “Staria” เน้นความทันสมัย ชูจุดเด่นด้วยแนวขอบประตูและหลังคา ที่เรียกว่า One Curve Design สร้างความต่อเนื่องจากด้านหน้าจรดท้าย รวมถึงมี “กล้องตรวจจับสภาพการจราจรหน้ารถ” ทำให้ได้ระบบความปลอดภัยมาอย่างครบครัน เช่น การเตือนและการเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ ฯลฯ ที่ช่วยให้การเดินทางของคุณและคนในครอบครัวราบรื่น และปลอดภัยอย่างถึงที่สุดภายในห้องโดยสารของรุ่นนี้ ถูกจัดวางเบาะที่นั่งแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 เป็นแบบ Captain Seat แยกซ้ายขวาออกจากกันอย่างอิสระ แถมยังสามารถปรับระดับได้ด้วยมือ เลื่อนหน้า-หลัง และปรับเอนเพิ่มความผ่อนคลายได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีพนักพิงศีรษะแบบปรับระดับได้ เรียกได้ว่าให้ความสะดวกสบายได้ไม่แพ้รุ่นใหญ่เลยทีเดียว - 5. Toyota Velfireราคาเริ่มต้น : 3.809 ล้านบาท
Toyota Velfire เป็นรถประเภท MPV สุดหรู รุ่นเริ่มต้นของ “Alphard” ซึ่งออกแบบและพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์หลัก “the joy of comfortable mobility” เพื่อมอบความสบายในการโดยสารสูงสุด และทางแบรนด์เองต้องการ “ยกระดับ” รถรุ่นนี้ให้เป็นรถแนว Luxury Saloon เคลื่อนที่ เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เคยนำเสนอในรุ่นที่ 3 จากการยกระดับสิ่งพื้นฐานต่าง ๆ แทบทั้งหมด เช่น การลดระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร ความกว้างขวางและเข้า-ออกที่มีความสะดวก ตลอดจนความสามารถในการขับขี่ ที่มอบความสะดวกสบายและนิ่มนวลมากยิ่งขึ้นภายในห้องโดยสารนำเสนอ “ความทันสมัย และความกว้างขวาง” ในการโดยสาร ตลอดจนความหรูหรา ทางแบรนด์จึงได้ปรับงานออกแบบหลายจุดด้วยกัน ซึ่งในตอนหน้ามาพร้อมกับจอมาตรวัด ที่เปลี่ยนมาใช้ในขนาด 12.3 นิ้ว และมี Head up Display มาให้ส่วนระบบความบันเทิงตรงกลาง อัปเดตมาเป็นจอภาพขนาด 14 นิ้ว ในส่วนของ “เบาะที่นั่ง” ตอนหน้าสามารถปรับได้สูงสุด 3 ตำแหน่ง โดยจะบันทึกท่านั่ง การปรับพวงมาลัย รวมถึงกระจกมองข้าง และกระจกมองหลังดิจิทัล เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่นั่งอยู่เบาะด้านหลัง 
ทั้งหมดนี้คือ 5 รุ่นรถครอบครัว ที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น ล้วนมีเอกลักษณ์การออกแบบภายใน และภายนอกที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึง “ออฟชั่น” ต่าง ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาให้ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของสายครอบครัวได้มากขึ้น และแน่นอนว่าย่อมแลกมาด้วย “ราคาจ่าย” ที่ต่างกันออกไป หากต้องการจับจองรถครอบครัวสักคัน ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วนก่อน
สิ่งสำคัญสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้ “รถครอบครัว” คือ การใช้งานและงบประมาณในกระเป๋า พร้อมทั้งดูด้วยว่ารถยนต์ที่กำลังสนใจ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกในครอบครัวได้หรือไม่ เพื่อให้คุณครอบครองรถยนต์ที่เหมาะสมมากที่สุด นอกจากการเลือกซื้อรถยนต์ที่ตรงตามความต้องการแล้ว อย่าลืม “ซื้อประกันรถยนต์” เอาไว้ด้วย เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้คุณและคนที่คุณรักตลอดการเดินทาง หากลังเล ไม่รู้ว่าจะซื้อประกันรถยนต์กับที่ไหน ไว้ใจให้ มิสเตอร์ คุ้มค่า ดูแลคุณตลอดอายุกรมธรรม์ เพราะเรายินดีมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณเสมอ
ส่องรถครอบครัว 5 คันที่แสนคุ้มค่าในราคาไม่เกิน 8.5 แสน
Written by Ridebuster_Team on 4 ตุลาคม 2017
ไม่กี่วันมานี้รัฐบาลเพิ่งออกมาตรการกระตุ้นให้คนไทยมีบุตรเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าเมื่อมีเด็กๆ งอกขึ้นมาอีกคนหรือสองคน รถยนต์ที่เคยใช้ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง 4 ประตูไปจนถึงกระบะยกสูงคันหล่อ บรรดารถเหล่านี้อาจไม่ตอบสนองการใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นการหารถคันใหม่ที่นั่งได้ 6 คนขึ้นไปจึงจำเป็นมาก ยิ่งถ้าประหยัดงบไว้ได้ไม่เกิน 8.5 แสนบาทก็จัดว่าดีงามที่สุด
โจทย์ที่เราตั้งไว้สำหรับการหารถครอบครัวคันใหม่ในราคาไม่เกิน 8 แสนบาทนั้นเป็นเรื่องที่หลายครอบครัวคิดกันไม่ตก ด้วยสาเหตุที่สภาพเศรษฐกิจบ้านเรายังไม่ค่อยจะเฟื่องฟูมากนัก ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมรถยนต์อเนกประสงค์ จำนวน 4 คัน เริ่มจาก Toyota Sienta, Avanza, Honda Mobilio และ Suzuki Ertiga มาพูดถึงรายละเอียดเบื้องต้นให้ผู้อ่านได้นำไปพิจารณาเมื่อต้องการเลือกซื้อ


1. Honda Mobilio – ขวัญใจพ่อบ้านแม่บ้านมาดสปอร์ต
เวลาขับรถไปบนท้องถนนเราเชื่อว่าคุณคงพบเห็นฮอนด้า โมบิลิโอ บ่อยตากว่ารถเอ็มพีวีระดับเดียวกันคันอื่น สาเหตุมาจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยวลงตัวกับภายในที่นั่งได้กว้างขวาง ด้วยเบาะจำนวน 6 ที่นั่งที่เบาะแถว 3 สามารถให้ผู้ใหญ่นั่งได้จริงแบบสบายไม่อึดอัด ขณะเดียวกันฟีลลิงเวลาขับขี่ยังจัดว่าเหนือกว่าคู่แข่งอยู่บ้างในบางเรื่อง ที่สำคัญเลยคือราคาค่าตัวในรุ่นท็อปอยู่ที่ 763,000 บาท



2. Toyota Sienta – MPV 6 ที่นั่งกับประตูบานเลื่อนในราคาสุดคุ้ม
รถเอ็มพีวีขนาดย่อมสุดแนวที่มาพร้อมสีส้มสะดุดตารุ่นนี้เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน เพราะเจ้าเซียนต้าเป็นรถราคาไม่เกิน 8 แสนบาทคันเดียวที่ให้ประตูบานเลื่อน 2 ฝั่ง ซึ่งในรุ่น 1.5G มีราคาอยู่ที่ 750,000 บาท ถึงแม้ว่าออฟชั่นสำคัญบางอย่างเช่น ไฟหน้าแอลอีดี ประตูบานเลื่อนไฟฟ้า 2 บานจะถูกตัดออกไป แต่เมื่อพิจารณาถึงเรืี่องการใช้เป็นรถครอบครัวแล้ว เซียนต้ารุ่นเริ่มต้นก็จัดว่ามอบความคุ้มค่าและมาพร้อมกับประโยชน์สอยไม่น้อยหน้าคู่แข่งคันใด



3. Toyota Avanza – รถครอบครัวราคาประหยัดจากแดนอิเหนา
ไม่น่าเชื่อว่ารถครอบครัว 6 ที่นั่งอย่าง Avanza จะทำตลาดมาเป็นเวลาถึง 14 ปีแล้ว โดยรุ่นที่จำหน่ายอยู่ในบ้านเราก้าวมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 2 แม้ว่าภายนอกจะไม่ได้สวยงามทันสมัยเหมือนอย่างรถคันอื่น แต่ข้าวของติดรถที่จำเป็นก็ให้มาครบถ้วนไม่ขาดตกบกพร่อง ขณะเดียวกันมาพร้อมเบาะนั่ง 6 ตัวที่ให้ความสบายแก่ผู้โดยสารเหมาะสม นอกจากนี้จุดเด่นอีกอย่างของรถคันนี้ได้แก่ความสูงจากพื้นที่มากกว่าคู่แข่ง นั่นทำให้ผู้ขับขี่สามารถขับลุยน้ำท่วมหรือทางที่สมบุกสมบันได้พอสมควร และท้ายที่สุดคือค่าตัวในรุ่นสูงสุดจะอยู่ที่ 729,000 บาท



4. Suzuki Ertiga – มินิเอ็มพีวีสุดซิ่ง ขับมั่นใจ กว้างขวางนั่งสบาย
การกลับมาของ Suzuki Ertiga เจนฯ 2 ที่มาครั้งนี้ยัดเครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร บล็อกใหม่ ที่มอบสมรรถนะแรงกว่าใครเพื่อน มิหนำซ้ำ การบังคับควบคุมก็จัดอยู่ในระดับหัวแถวของกลุ่มมินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ส่วนห้องโดยสารนี่จัดว่ากว้างขวางนั่งสบาย โดยเฉพาะเบาะแถว 3 ที่มีพื้นที่วางขากับที่วางเหนือศีรษะเหลือเพียง ทั้งนี้ อุปกรณ์ติดรถอาจน้อยกว่าคู่แข่งไปบ้าง แต่ด้วยราคารถรุ่นท็อป GX ตั้งไว้ 695,000 บาท ทำให้เจ้า Ertiga เป็นรถที่ไม่ควรมองด้วยประการทั้งปวง



5. Mitsubishi Xpander – รถครอบครัวน้องใหม่ หน้าตาทันสมัย ที่มีดีไม่แพ้ใคร
น้องใหม่ล่าสุดในกลุ่มมินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง Mitsubishi Xpander ที่เปิดตัวพร้อมกับการคว้ายอดจองถล่มทลาย ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอันทันสมัยแปลกตา บวกกับภายในที่มีระดับแถมอัดอุปกรณ์ให้เต็มที่ ส่วนการขับขี่จัดว่าดีงามใกล้เคียงกับ Ertiga ใหม่ แต่ขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร จะอืดกว่า สำหรับเรื่องความกว้างขวางของเบาะแถว 2 กับแถว 3 ถือว่าทำได้ดีสมตัว และราคาขายก็ออกจะแพงกว่าใครเพื่อน ตัวท็อปตั้งไว้ 849,000 บาท
ช่วยเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ridebuster.com เพียงถูกใจจากท่านเราจะสรรหาสาระดีๆมานำเสนอต่อไป
	    	
		    
