ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ํามัน
10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ํามัน ในปัจจุบันนี้ผู้คนจำนวนมากให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้เมื่อราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น แบรนด์รถยนต์ต่างกำลังพัฒนารถยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดรถยนต์ แต่ต้องรับรู้ว่าอาจมีข้อจำกัดบางประการที่หลายคนกังวล ดังนั้นรถยนต์ประหยัดน้ำมันจึงเป็นทางเลือกยอดนิยมเช่นกัน ทั้งสองเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถช่วยให้คุณประหยัดเงินได้จริง คนส่วนใหญ่ในสังคมนิยมเดินทางโดยรถยนต์ โดยเฉพาะสำหรับครอบครัว ตั้งแต่ครอบครัวเล็กไปจนถึงครอบครัวใหญ่ พวกเขาล้วนเลือกใช้รถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารถเก๋ง หรือรถเก๋งทั่วไปก็มีหลากหลายสไตล์แต่แบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือแบบที่พบในหลายบ้าน ไม่ว่าจะเป็นรถคันแรกหรือคันที่สองของครอบครัว ก็มักจะเป็นรถแฮทช์แบ็กขนาดใหญ่ ทรงพลัง และคล่องตัว หรือ SUV เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้
ในการซื้อรถยนต์ ผู้คนจำเป็นต้องคำนึงถึงแง่มุมต่างๆ มากมายว่าจะใช้รถอย่างไร มันคุ้มค่าทั้งสองด้าน วัตถุประสงค์หลักของการใช้งาน ได้แก่ ความสะดวกสบายและเครื่องยนต์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขับขี่รอบเมืองหรือขับขี่ในชนบทบ่อยครั้ง การเลือกซื้อรถ SUV ก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี ทั้งความคุ้มค่า และห้องโดยสารที่กว้างขวางตอบโจทย์รถครอบครัว เป็นรถยนต์ที่สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้จำนวนมากและเป็นที่ต้องการของตลาดสูง เนื่องจากราคาน้ำมันกำลังพุ่งสูงขึ้นและไม่มีสัญญาณการลดลง ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ที่จะช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้ หันมาใช้ รถยนต์ประหยัดน้ำมัน เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สิ่งสำคัญคือการพิจารณาหลายรุ่นเพื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคาของแต่ละรุ่นก่อนตัดสินใจซื้อ
10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ํามัน น่าใช้ รุ่นไหนดี
Honda WR-V
10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ํามัน เอสยูวีอเนกประสงค์ 5 ที่นั่งรุ่นล่าสุดของฮอนด้า มาพร้อมประสิทธิภาพทั้งในด้านสมรรถนะ และความคล่องตัว สามารถปรับการใช้งานได้อย่างสะดวกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายด้วยเบาะนั่งคนขับและพวงมาลัยหุ้มหนังที่สามารถปรับสูง-ต่ำได้ ด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับระบบทำความเย็นที่รวดเร็ว และโหมดบังคับทิศทางลมเพื่อความสบาย รวมถึงที่วางแขนและม่านบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดพร้อมไฟสำหรับผู้หญิง เบาะหลังยังสามารถพับเก็บได้ 2 แบบ ฮอนด้า ดับบลิวอาร์-วี (Honda WR-V) มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว จับคู่กับระบบเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 145 แรงม้า นิวตันเมตรพร้อมระบบความปลอดภัย Honda SENSING ทุกรุ่น มีอัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทดแทน E20 โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย
Toyota bZ4X
Toyota bZ4X (โตโยต้า บีแซด4เอ็กซ์) คือรถเอสยูวีรุ่นใหม่ของโตโยต้า ขนาด D-Segment ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนๆ ประเภท BEV ที่โตโยต้าได้พัฒนาร่วมกับไดฮัทสุ ซูบารุ และบีวายดี ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีฐานล้อยาวที่สุดในบรรดารถยนต์ไฟฟ้าเกือบทั้งหมดในประเทศไทย ด้วยการออกแบบภายในที่กว้างขวาง โดยเฉพาะพื้นที่เบาะผู้โดยสารตอนหลังที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ตอบโจทย์ รถครอบครัวได้เป็นอย่างดี สำหรับ Toyota SUV รุ่นนี้จะมีขายในไทยเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น รุ่นท็อป bZ4X 4WD ซึ่งมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าไฟฟ้ากระแสสลับซิงโครนัส 2 เครื่อง กำลังรวมสูงสุด 218 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 336 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ 411 กิโลเมตร (WLTP) ภายนอกมาพร้อมไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED รวมถึงที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, หลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลามแบบพาโนรามา, กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ และไฟตัดหมอกหลัง
Toyota Kicks E – Power
รถไฟฟ้าทางเลือก ไม่ต้องชาร์จ ขับสนุก มาพร้อมสเปคจัดเต็ม ฉีกทุกกฎเกณฑ์ของรถยนต์ไฟฟ้า ด้วย Nissan Kicks E – Power นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินสร้างพลังงานให้กับแบตเตอรี่ แต่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนได้ 100% ไม่ต้องชาร์จ เนื่องจากคุณสมบัติของเครื่องยนต์เบนซินจึงมีประสิทธิภาพในการกักเก็บพลังงานสูงกว่าปกติ เพลิดเพลินกับการขับขี่ด้วยความรู้สึกของรถยนต์ไฟฟ้าในขณะที่ยังใช้น้ำมันอยู่ อัตราเร่งเต็มที่ตั้งแต่เหยียบคันเร่งครั้งแรก มาพร้อมสเปคที่ครบครัน ทั้งระบบความบันเทิง Infotainment ผ่าน Nissan Connect ที่รองรับ Apple CarPlay และความปลอดภัยครบครันรอบคัน 10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ํามัน
Volvo XC60
ใหม่ Volvo XC60 2023 (วอลโว่ 709 นิวตัน ผสมผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Geartronic และแบตเตอรี่ความจุ 18.8 kWh รวมถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่ เช่น Pilot Assist และระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเหลือขึ้น-ลง) การออกแบบของ XC60 โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและไฟหน้าอันเป็นเอกลักษณ์รวมถึงล้อดีไซน์แอโรไดนามิกใหม่เอกสิทธิ์เฉพาะรุ่น Recharge ระบบควบคุมคุณภาพอากาศและเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ ได้แล้ว เริ่มต้นจากรุ่นเริ่มต้น ประกอบด้วยซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือไร้สาย
BMW X7
บีเอ็มดับเบิลยู แต่มาพร้อมกับออฟชั่นเสริมมากมาย รวมถึงกาบบันไดและราวหลังคาสำหรับดีไซน์ภายนอก ยังคงมาพร้อมชุดตกแต่ง M Aerodynamics ขณะที่ภายในระบบเสียงเซอร์ราวด์เปลี่ยนมาเป็น Bowers & Willkins และระบบปรับอากาศเพิ่มเป็น 5 โซน และด้านหลังซ้ายและขวา หน้าจอด้านผู้โดยสารเป็นระบบความบันเทิงสำหรับเบาะหลัง BMW X7 SUV มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง BMW TwinPower Turbo ขนาด 3.0 ลิตร (เทอร์โบชาร์จเจอร์พร้อมรูปทรงแปรผัน) ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive พร้อมระบบช่วยขับขี่และ มีระบบความปลอดภัยครบครัน ด้วย
Haval Jolion Hybrid
จากค่าย GWM เพิ่งยกเลิกการตลาดรุ่นย่อย Tech และ Pro แต่เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ Haval Jolion Sport 2023 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 1.5 ลิตร 16 วาล์ว ที่ทำงานอยู่ใน ควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนให้กำลังรวมสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า เลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 ระดับ และรองรับเชื้อเพลิง E20 สูงสุด สำหรับ Haval Jolion ภายในรุ่น Sport จะเน้นไปที่แนวคิด ดีไซน์ภายนอกสีดำล้วนดูหรูหราสไตล์ยุโรป พร้อมเปลี่ยนกระจังหน้าเป็น Black Symmetric และล้ออัลลอยแบบเดียวกับรุ่น Ultra นอกจากนี้ยังเพิ่มเบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง และลำโพง 6 ตัวเหมือนรุ่น Pro แต่ลดระบบนำทางด้วยดาวเทียมและตัวเลือกม่านลง ถุงลมนิรภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS บางรุ่น ภายในห้องโดยสารยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ All Black และเน้นการตกแต่งด้วยซันรูฟแบบพาโนรามา ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งในห้องโดยสารได้อย่างมากอีกด้วย 10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ํามัน
BYD Tang EV
10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ํามัน รถยนต์ไฟฟ้าจีนจาก BYD เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่มาแรงในปัจจุบัน BYD TANG EV รุ่นนี้เป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าล้วน ขนาด D-Segment คล้ายกับ Ford Everest ซึ่งจะมีวางจำหน่ายในรุ่นปี 2023 มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่สามารถชาร์จได้ระยะทาง 600 กิโลเมตร ให้กำลังสูงสุด 225 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ให้กำลังสูงสุด 241 แรงม้า และ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ตันเมตร 730 กิโลเมตร ถือเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้ไกลที่สุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งในประเทศไทย และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่สามารถวิ่งได้ระยะทาง 635 กิโลเมตร มีกำลังสูงสุดรวม 510 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร สำหรับห้องโดยสาร BYD Tang EV ได้รับการตกแต่งอย่างมีระดับ มาพร้อมระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ Disus-C และทุกรุ่นสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย 5G เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นยิ่งขึ้น แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะได้รับการออกแบบใหม่ด้วยล้อขนาด 20 นิ้ว แต่รถจะยังคงมีให้เลือกทั้งรุ่น 6 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม Tang 2023 เพิ่งเปิดตัวในจีนเท่านั้น ส่วนตลาดไทยเรายังต้องจับตาดูต่อไป หากใครอยากได้ตอนนี้อาจจะต้องซื้อรุ่นเก่าที่แพงกว่าไปก่อน
รวม 5 รถอีโคคาร์มือสองสุดคุ้ม ขับประหยัดน้ำมัน ปี 2025
ในยุคที่ราคาน้ำมันมีความผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเลือกใช้รถยนต์ที่ประหยัดพลังงานจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการเดินทางที่ชาญฉลาด “รถอีโคคาร์” หรือ Eco Car คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยคุณสมบัติเด่นที่ออกแบบมาเพื่อการประหยัดน้ำมันสูงสุด มาพร้อมราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย และค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูงนัก บทความนี้ได้รวบรวม 5 รุ่นรถอีโคคาร์มือสองที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 โดยคัดเลือกจากอัตราสิ้นเปลือง สมรรถนะ และความคุ้มค่า เพื่อเป็นแนวทางให้คุณเลือกรถที่ใช่ที่สุด
มัดรวม 5 รุ่นรถอีโคคาร์มือสอง น่าใช้ ประจำปี 2025
เราได้คัดสรรรถอีโคคาร์มือสอง 5 รุ่นเด่นที่ตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันได้อย่างลงตัว แต่ละรุ่นมีคาแรกเตอร์และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เพื่อให้คุณได้พบกับรถที่ใช่ในสไตล์ของคุณมากที่สุด
1. Toyota Yaris Ativ
หากจะพูดถึงที่สุดแห่งอีโคคาร์ซีดาน คงต้องยกให้ Toyota Yaris Ativ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถรุ่นพี่อย่าง Camry ทำให้ตัวรถดูหรูหราพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยทำได้ยอดเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร และที่สำคัญคือการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง Toyota Safety Sense (TSS) มาให้ครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ทำให้ Yaris Ativ ไม่ได้เป็นเพียงรถที่ประหยัด แต่ยังมอบความมั่นใจในทุกการเดินทาง ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและประหยัดค่าใช้จ่าย
ราคามือสองในตลาด:
- รุ่นปี 2022-2024 ราคาเริ่มต้นประมาณ 460,000 – 590,000 บาท*
2. Toyota Yaris
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความคล่องตัวและดีไซน์ที่ปราดเปรียว Toyota Yaris ในรูปแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู คือตัวเลือกที่โดดเด่นไม่แพ้กัน Yaris ใช้พื้นฐานและเครื่องยนต์เดียวกับ Yaris Ativ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความประหยัดและความทนทาน แต่มาในรูปลักษณ์ที่สปอร์ตและโฉบเฉี่ยวกว่า เหมาะกับการใช้งานในเมืองที่ต้องการความคล่องแคล่วสูง การพับเบาะหลังยังช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างอเนกประสงค์ มาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense (TSS) เช่นเดียวกัน ทำให้เป็นอีโคคาร์ที่ทั้งขับสนุก ปลอดภัย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
ราคามือสองในตลาด
- รุ่นปี 2022-2024 ราคาเริ่มต้นประมาณ 480,000 – 620,000 บาท*
3. Honda City 1.0 Turbo
ถัดมากับ Honda City 1.0 Turbo เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ จุดเด่นคือสมรรถนะที่ครบครันและแรงบิดที่มาในรอบต่ำ ขับสนุกเร้าใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีภายในห้องโดยสารมีความโปร่งโล่งและตกแต่งให้ความรู้สึกพรีเมียม ถือเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งความแรง ความประหยัด และภาพลักษณ์ที่ดูดีไปพร้อม ๆ กัน
ราคามือสองในตลาด
- รุ่นปี 2020-2023 ราคาเริ่มต้นประมาณ 450,000 – 600,000 บาท*
4. Nissan Almera
ถ้าหากความกว้างขวางของห้องโดยสารคือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก Nissan Almera คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด โดดเด่นด้วยพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่กว้างขวางให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในรถขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้การตอบสนองที่ดีและประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ ในรุ่นท็อปยังมีฟังก์ชันความปลอดภัยรอบคัน 360° Safety Shield มาให้ใช้งานอีกด้วย Almera จึงเป็นรถที่เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้น หรือคนที่มักจะมีผู้โดยสารร่วมทางไปด้วยบ่อย ๆ
ราคามือสองในตลาด
- รุ่นปี 2020-2023 ราคาเริ่มต้นประมาณ 380,000 – 520,000 บาท*
5. Suzuki Swift
ปิดท้ายด้วยขวัญใจสายสปอร์ตอย่าง Suzuki Swift อีโคคาร์แฮทช์แบ็กที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ด้วยดีไซน์ที่ดูมีสไตล์และช่วงล่างที่ขึ้นชื่อเรื่องการเกาะถนนและความสนุกในการขับขี่ ให้ฟีลลิ่งคล้ายรถโกคาร์ท เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร Dualjet อาจไม่ได้มีพละกำลังจัดจ้านเท่าคู่แข่ง แต่ก็ให้ความประหยัดน้ำมัน ด้วยน้ำหนักตัวถังที่เบา ทำให้ Swift เป็นรถที่ขับสนุกในเมือง มีความคล่องตัวสูง มุดซอกแซกง่าย และหาที่จอดสะดวก เหมาะกับคนที่รักการขับรถและต้องการรถที่สะท้อนตัวตนได้อย่างชัดเจน
ราคามือสองในตลาด
- รุ่นปี 2020-2023 ราคาเริ่มต้นประมาณ 370,000 – 480,000 บาท*
*หมายเหตุ: ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต สภาพรถ และปัจจัยอื่น ๆ
สรุปบทความ
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่กำลังมองหารถคันแรก นักศึกษาที่ต้องการรถขับไปเรียน หรือคนวัยทำงานที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รถอีโคคาร์มือสองทั้ง 5 รุ่นนี้คือทางเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์อย่างยิ่ง และสำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์มือสองสภาพดี Toyota Sure พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐาน Sure Certified by Toyota ที่ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดมากกว่า 280 จุด พร้อมการรับประกันคุณภาพ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับรถที่พร้อมใช้งานและดูแลครบจบทุกขั้นตอน แวะมาชมและทดลองขับคันจริงได้ที่โชว์รูมโตโยต้า ชัวร์ สาขาใกล้บ้านคุณ
