ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
5 อันดับรถประหยัดน้ำมันที่สุดปี 2016
ข่าวสารรถ | 25 มี.ค. 2559

5 อันดับรถประหยัดน้ำมันที่สุดปี 2016
หลังจากที่ช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมานั้น มีการประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการปรับอัตราภาษีรถยนต์ด้วยโครงสร้างใหม่ พร้อมกับเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ด้วยเรื่องการมีส่วนร่วมลดปัญหาภาวะโลกร้อนกับการจำกัดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นที่น่าสนใจอยู่แล้วว่า รถยนต์ที่ถูกพัฒนามาสำหรับการปล่อย CO2 ที่น้อยลงนั้นก็มักจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์และระบบที่ช่วยควบคุมในส่วนของการประหยัดน้ำมันด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับปี 2016 มีรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่น่าสนใจหลายรุ่น โดยเราขอรวบรวมมาทั้ง 5 รุ่นที่น่าจะตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์

2016 Honda Brio Amaze
ระดับการประหยัดน้ำมัน : 20 กม./ลิตร
ที่มาภาพ : http://www.honda.co.th/th/brioamaze?gclid=CI24gdLMwssCFcqOaAod7I4NlQ
อีโค่คาร์ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับคนเมืองด้วยดีไซน์ปราดเปรียวโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้าสปอร์ตโดดเด่น ล้อแม็กดีไซน์ใหม่ ไฟท้ายและคิ้วโครเมียมสวยลงตัว พร้อมทั้งยังมากับห้องโดยสารกว้างสบายพร้อมพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหลัง แต่สิ่งที่ทำให้ Honda Brio Amaze เป็นที่กล่าวขวัญถึงมาที่สุดคือเรื่องของเครื่องยนต์ i-VTEC 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 90 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ให้ระดับการประหยัดน้ำมันที่ 20 กม./ลิตร ในราคาที่ถูกใจเหล่า First Jobber เริ่มต้นที่ 454,000 บาท

2016 Mitsubishi Mirage
ระดับการประหยัดน้ำมัน : 23.8 กม./ลิตร
ที่มาภาพ : http://www.mitsubishi-motors.co.th/mirage/
เปิดตัวมาพร้อมกับคอนเซ็ปท์น่าสนใจ “ให้คุณมากกว่าที่คิด” โดยทางต้นสังกัดอย่าง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เผยว่าครั้งนี้ 2016 Mitsubishi Mirage จะมากับฟีเจอร์เบรกอัตโนมัติซึ่งเป็นครั้งแรกกับการปรากฏในอีโค่คาร์ สำหรับการออกแบบนั้นยังคงสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัยและมีความเป็นสปอร์ตที่ใครๆ เห็นแล้วก็ต้องอยากได้เป็นเจ้าของอย่างแน่นอน แต่ความเจ๋งของมิราจปี 2016 นั้นยังไม่หมด เพราะมาพร้อมกับความสามารถในการเป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมัน 2016 ด้วยกับเครื่องยนต์1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valve ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า โดยผ่านการทดสอบมาตรฐานอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า 23.8 กม./ลิตร เลยทีเดียว! โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 383,000 บาท

2016 BMW 320D
ระดับการประหยัดน้ำมัน : 22.7 กม./ลิตร
ที่มาภาพ : http://www.bmw.co.th/th/th/newvehicles/3series/gran_turismo/2013/showroom/?gclid=CMWF3NjMwssCFQ8eaAod0s4Ncg
สำหรับรถยนต์จากค่ายใบพัดสีฟ้าหรือ BMW นั้นไม่เคยทำให้ผิดหวังอยู่แล้วด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครๆ ก็ลอกเลียนแบบไม่ได้ โดยเฉพาะในรถยนต์ซีรี่ส์ 3 อย่าง BMW 320D ที่มาพร้อมกับการผสมผสานเส้นลายที่วาดไหลไปตามทรงรถยนต์ให้ความรู้สึกหรูหรา ทั้งการออกแบบภายในเองก็ผ่านการรังสรรค์พื้นที่สำหรับการใช้งานอย่างกว้างขวาง และเพื่อตอบโจทย์ความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น 2016 BMW 320D มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าลงล้อที่ 184 แรงม้า โดยสามารถประหยัดน้ำมันในอัตรา 22.7 กม./ลิตร ราคาเริ่มต้น 2,899,000 บาท

2016 Mazda 2 SKYACTIV
ระดับการประหยัดน้ำมัน : 26.3 กม./ลิตร
ที่มาภาพ : http://www.mazda.co.th/cars/new-mazda2-hatchback-2016/?gclid=CKXG4OLMwssCFZeOaAode84LDA
เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตลอดมานับตั้งแต่มีการเปิดตัว จนกลายเป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย เริ่มต้นด้วยนวัตกรรม SKYACTIV ซึ่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกในด้านของคุณภาพ สมรรถนะ ความปลอดภัย และแน่นอนว่ารวมไปถึงเป็นหนึ่งรถยนต์ประหยัดน้ำมัน ถึงแม้จะถูกบรรจุอยู่ในหนึ่งอีโค่คาร์แต่ 2016 Mazda 2 SKYACTIV ออกแบบในสไตล์ของซับคอมแพ็คที่เพียบพร้อม ด้วยคุณสมบัติและออพชันของรถรุ่นใหญ่เลยทีเดียว สำหรับปี 2016 ปรับอุปกรณ์รายละเอียดและการตกแต่งภายในจากเดิมมาพร้อมกับเครื่องยนต์ทางเลือก SKYACTIV-G 1.3 แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์วและเครื่องยนต์ SKYACTIV-D 1.5 เทอร์โบแปรผัน 4 สูบ 16 วาล์ว ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบอิเล็กทรอนิคไดเร็คอินเจ็คชั่น (Electronic Direct Injection) ซึ่งประหยัดน้ำมันได้ถึง 26.3 กม./ลิตร ราคาเริ่มต้นที่ 529,000 บาท

2016 Lexus CT Hybrid
ระดับการประหยัดน้ำมัน : 26.32 กม./ลิตร
ที่มาภาพ : http://www.lexus.co.th/en/models/ct/ct-hybrid.html?gclid=CMCh1ujMwssCFdKHaAodZrIA0w&gclsrc=aw.ds
รถแฮทช์แบคไฮบริดรุ่นยอดนิยมจากค่ายหรูอย่าง Lexus กับนวัตกรรมใหม่ที่ทางต้นสังกัดเองได้ออกมาเผยถึงการรวมกันที่โดดเด่นของสัมผัสนุ่มในการขับขี่และระบบการจัดการแบบไดนามิก รวมไปถึงการปรับแต่งระดับชั้นนำ การขับขี่ที่เหนือกว่ารวมกับพลังของเล็กซัสไฮบริดไดรฟ์ในการส่งมอบกำลังด้วยประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดี ส่วนภายในนั้นได้รับการออกแบบอย่างสวยงามและเน้นไปที่การใช้งานง่ายเพิ่มความสะดวกสบาย โดยสิ่งที่น่าสนใจกับการเป็นหนึ่งในรถยนต์ประหยัดน้ำมัน 2016 คือเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 4 กระบอกสูบ DOHC VVT-i ที่ไม่เพียงแต่ประหยัดน้ำมัน 26.32 กม./ลิตร แต่ยังมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 88 กรัม/กม. เท่านั้น สำหรับราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,999,000 บาท
และทั้งหมดนี้ก็คือ สุดยอดรถยนต์ประหยัดน้ำมัน 2016 อย่างไรก็ดี อัตราการประหยัดน้ำมันดังกล่าวเมื่ออยู่ในการใช้งานจริงอาจมีค่าที่ลดลงตามพฤติกรรมการขับขี่รวมไปถึงสภาพถนนที่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นเดียวกัน
8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้
MR.CARROมิถุนายน 24, 2022
3 minutes read
8 รถอีโคคาร์มือสอง ประหยัดน้ำมัน ราคาไม่แพง ที่น่าเป็นเจ้าของ!
ในปัจจุบัน “รถมือสอง” นั้นจะมีตัวเลือกในท้องตลาดอย่างมหาศาล และมีรถหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สภาพเก่าๆ ราคาเพียงหลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงราคาหลายล้านบาท ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่ใช้แล้วไม่ถูกใจ ใช้แล้วเบื่อ อยากขายแล้วซื้อใหม่ หรือครอบครัวขยายขึ้น ต้องเปลี่ยนรถใหญ่ขึ้นก็มี
แต่อีกหนึ่งในรถที่ให้ความคุ้มค่าในการใช้งาน ในยุคเศรษฐกิจขาขึ้นก่ายหน้าผากแบบนี้ นั่นคือรถยนต์ “Eco-Car” ที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำงานใหม่ๆ แม่บ้าน หรือนักศึกษา เป็นต้น อยากได้รถมือสองประหยัดน้ำมัน หาที่จอดง่าย ไว้ใช้งานในเมือง ไปจ่ายตลาด หรือขับไปมหาวิทยาลัย ในงบประมาณจำกัด และมีราคารถมือสองที่ไม่แพงมาก ซื้อขายง่าย
ตัวเลือกอย่างรถยนต์ Eco-Car (อีโคคาร์) ถือได้ว่าเหมาะสมกับงบประมาณและสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ … Carro ขอแนะนำ 8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้ มีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง รับชมกันได้เลยครับ

1. Toyota Yaris
Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) ในอดีตถือเป็นรถ Sub-Compact ที่ยอดนิยมที่สุดอีกหนึ่งรุ่นในท้องตลาด ซึ่งรุ่นแรกก่อนหน้านั้น ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แต่ในเจเนอเรชั่นที่เป็น Eco-Car ตอนนี้ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ เน้นกลุ่มวัยรุ่น ความปลอดภัยครบครัน
และผ่านการปรับโฉมมาหลายครั้ง แถมยังมีรถใหม่ป้ายแดงขายในตอนนี้อยู่ด้วย เป็นรถที่ดูแลง่าย ทนทาน ค่าซ่อมไม่แพง ศูนย์บริการหาง่าย ของแต่งก็มีเยอะ ขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้งานในเมือง

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i 86 แรงม้า ปัจจุบัน Yaris มีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 240,000 – 540,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

2. Toyota Yaris ATIV
Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) จัดเป็นรถ Sedan ในรูปแบบ Eco-Car รุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นในท้องตลาด ที่ทาง Toyota ตั้งใจออกมาขายเพื่อชนกับ Eco-Car ซีดานค่ายอื่นๆ โดยเฉพาะ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560 ด้วยรูปลักษณ์สปอร์ต เจาะกลุ่มวัยรุ่น ความปลอดภัยครบครัน แถมยังมีรถใหม่ป้ายแดงขายอยู่ด้วย เป็นรถที่ดูแลง่าย ทนทาน ค่าซ่อมไม่แพง ใช้อะไหล่ร่วมกับ Yaris โฉม Hatchback ได้พอสมควร
โดยทั้ง Yaris และ Yaris ATIV ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i 86 แรงม้า ปัจจุบัน Yaris ATIV มีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 350,000 – 540,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

3. Nissan March
Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ถือเป็นรถ Eco-Car รุ่นแรกที่ทำตลาดในโครงการนี้ ซึ่งในยุคของสยามกลการ เคยทำรุ่นนี้ขายเมื่อ 20 กว่าปีก่อน เปิดตัวเมื่อ 12 มีนาคม 2553 มีราคาจำหน่ายที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ได้รับความนิยมอย่างมากและมียอดขายสะสมรวมหลายแสนคัน แถมยังส่งออกไปขายในญี่ปุ่นอีกด้วย และปัจจุบันยังมีแบบรถป้ายแดงขาย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องอะไหล่นัก
มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC 79 แรงม้า ประหยัดนํ้ามันได้มากถึง 20 กม./ลิตร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 130,000 – 330,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

4. Nissan Almera
Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) เป็นรถ Eco-Car ขนาด 4 ประตู รุ่นแรกที่ผลิตออกมาในตลาดประเทศไทย เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 พร้อมทั้งมีรุ่นพิเศษออกมาหลายครั้ง รวมไปถึงการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ และเวอร์ชั่นใส่ชุดแต่ง NISMO ด้วย มีความโดดเด่นด้วยขนาดห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่ารถรุ่นเดียวกันมาก
มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC 79 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 20 กม./ลิตร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 160,000 – 360,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ
หรือถ้ามีงบประมาณมากหน่อย จะเลือก Almera โฉมปัจจุบันในรูปแบบรถมือสอง ที่เปิดตัวสู่ตลาดบ้านเรามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ก็ได้เช่นกัน
มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 100 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 450,000 – 500,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

5. Suzuki Swift
Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) สำหรับโฉมนี้ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 เป็นรุ่นที่ประกอบในบ้านเรา ด้วยรูปแบบ Eco-Car ที่ขายดีของซูซูกิ นำเสนอด้วยรูปทรงน่ารักเหมือนรถ Hatchback จากฝั่งยุโรป ออพชั่นแพรวพราว แต่งสวย ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 20 กม./ลิตร และมีรุ่นพิเศษออกมากระตุ้นตลาดอยู่เรื่อยๆ
มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12B ขนาด 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT 91 แรงม้า ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 180,000 – 350,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ
หรือถ้ามีงบประมาณมากหน่อย จะเลือก Swift โฉมปัจจุบันในรูปแบบรถมือสอง ที่เปิดตัวสู่ตลาดบ้านเรามาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 ก็ได้เช่นกัน
มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12M แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 83 แรงม้า กับเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ DUALJET รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 350,000 – 460,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

6. Suzuki Ciaz
Suzuki Ciaz (ซูซูกิ เซียส) (ชื่อรุ่น มาจากคำว่า “City A-Z”) เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 เป็นรถซีดาน 4 ประตู ที่มีอะไรร่วมกันกับ Swift หลายๆ อย่าง แต่งสวย สปอร์ต ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง ประหยัดน้ำมันมากถึง 20 กม./ลิตร และตอนนี้ก็ยังมีรถป้ายแดงขายอยู่
มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12B ขนาด 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT 91 แรงม้า ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 240,000 – 400,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

7. Mitsubishi Mirage
Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) ชื่อที่คนรุ่นก่อนคุ้นเคยตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้ว ในรูปแบบของรถ 4 ประตู และ 5 ประตู ก่อนจะกลับมาเป็นรถ Eco-Car ขายในตลาดบ้านเราอีกครั้ง เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 ชูรูปทรงขนาดเล็กน่ารัก ปรับโฉมกันมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังมีในรูปแบบรถป้ายแดงให้เลือกเช่นกัน
มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว MIVEC 78 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้ถึง 20-23.8 กม./ลิตร ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 150,000 – 390,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8. Mitsubishi Attrage
Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวที่แรกในโลกในไทย อีกหนึ่งในรถ Eco-Car แบบ 4 ประตู แบรนด์ที่สอง ที่ออกแนะนำสู่ท้องตลาดในวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ชูจุดเด่นด้วยการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับรถ อีโคคาร์ ซีดาน จากเทคโนโลยีการออกแบบชั้นสูง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มีให้ครบครัน แล้วก็ยังมีในรูปแบบรถป้ายแดงให้เลือกเช่นกัน
มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว MIVEC 78 แรงม้า รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 180,000 – 390,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ
	    	
		    
