ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

รวมรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง งบไม่เกิน 1 ล้านบาทที่หาซื้อได้ในปี 2565 นี้

17 ม.ค. 65 (11:49 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

คัดลอกลิงก์กดฟัง–กก+

     แนะนำรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ในงบประมาณไม่เกิน 1 ล้านบาท สามารถหาซื้อรุ่นไหนได้บ้างในปี 2565 นี้ ไปดูกันเลย

     เชื่อว่าใครหลายคนกำลังมองหารถยนต์แบบ 7 ที่นั่ง ที่เน้นตอบโจทย์การใช้งานในแบบครอบครัว แม้ว่าจะมีงบประมาณที่จำกัด แต่ก็ยังมีตัวเลือกในตลาดจำนวนไม่น้อยทีเดียว โดยส่วนมากจะเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับครอบครัวขยายที่มีความต้องการใช้พื้นที่ภายในห้องโดยสารมากขึ้น Sanook Auto จึงขอแนะนำรถ 7 ที่นั่ง ทั้ง 10 รุ่น ที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ดังนี้

8+ดูภาพทั้งหมด

Toyota Avanza

     Toyota Avanza เป็นรถยนต์เอ็มพีวีขนาด 7 ที่นั่ง ที่ถูกทำตลาดมาอย่างยาวนาน และยังคงทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่องในบ้านเรา โดย Avanza โฉมปัจจุบันมีการปรับไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดไปเมื่อกลางปี 2019 จึงถือว่าอยู่ในช่วงปลายอายุตลาดเต็มที มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ซึ่งแม้ว่าจะมีการปรับปรุงในด้านอุปกรณ์มาตรฐานน่าใช้งานยิ่งขึ้น แต่ก็ยังขาดระบบความปลอดภัยที่ควรมีมาให้ในรถยุคนี้ เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ฯลฯ

รุ่นย่อยและราคา

• รุ่น 1.5 E A/T ราคา 649,000 บาท
• รุ่น 1.5 G A/T ราคา 699,000 บาท

8+ดูภาพทั้งหมด

Toyota Sienta

     Toyota Sienta มีจุดเด่นอยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอกดูทันสมัยน่าใช้ และเป็นรถเอ็มพีวีราคาต่ำล้านเพียงรุ่นเดียวในตลาดที่มีประตูคู่หลังแบบสไลด์ไฟฟ้ามาให้ (รุ่น 1.5G สไลด์ไฟฟ้าเฉพาะบานซ้าย) มีหน้าจอระบบความบันเทิงขนาด 6.8 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นย่อย รวมถึงมีระบบความปลอดภัยมาให้แบบครบครันทั้งระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, กล้องมองภาพรอบคัน ฯลฯ

     ขณะที่ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Dual VVT-i ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน

รุ่นย่อยและราคา

• รุ่น 1.5G ราคา 765,000 บาท
• รุ่น 1.5V ราคา 875,000 บาท

8+ดูภาพทั้งหมด

Honda Mobilio

     Honda Mobilio เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ถูกทำตลาดมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2014 ก่อนจะมีการปรับไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ในปี 2017 และยังคงวางขายมาจนถึงทุกวันนี้ โดยปัจจุบันมีให้เลือกทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT เท่านั้น

     นอกจากนี้ Mobilio ยังครบครันในด้านระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบเบรก ABS/EBD เป็นต้น

รุ่นย่อยและราคา

• รุ่น S ราคา 659,000 บาท (5 ที่นั่ง)
• รุ่น V ราคา 699,000 บาท
• รุ่น RS ราคา 765,000 บาท

8+ดูภาพทั้งหมด

Honda BR-V

     Honda BR-V ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ Mobilio แต่เสริมความอเนกประสงค์ในแบบครอสโอเวอร์ด้วยความสูงใต้ท้องรถที่เพิ่มขึ้นอีก 12 มม. มีให้เลือกทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่งเช่นกัน พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ CVT

รุ่นย่อยและราคา

• รุ่น V ราคา 765,000 บาท (5 ที่นั่ง)
• รุ่น SV ราคา 835,000 บาท

8+ดูภาพทั้งหมด

Mitsubishi Xpander

     Mitsubishi Xpander โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์สวยงามทันสมัย พร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่มีให้แบบครบๆ เช่น เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว, กล้องมองภาพด้านหลัง, ระบบปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระ และ Cruise Control เป็นต้น ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ

รุ่นย่อยและราคา

• รุ่น GLS-LTD ราคา 789,000 บาท
• รุ่น GT ราคา 863,000 บาท
• รุ่น Special Edition ราคา 879,000 บาท

8+ดูภาพทั้งหมด

Mitsubishi Xpander Cross

     Mitsubishi Xpander Cross เสริมความอเนกประสงค์ด้วยช่วงล่างแบบยกสูง ที่ให้ความสูงจากพื้นถนนถึง 225 มม. ทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่ดูบึกบึนแข็งแรงคล้ายกับเอสยูวี โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ LED (มัลติรีเฟล็กเตอร์) ที่ให้ความสวยงามในยามค่ำคืน โดยยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้าบล็อกเดียวกับรุ่นปกติ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 จังหวะ

รุ่นย่อยและราคา

• รุ่น Cross ราคา 919,000 บาท

8+ดูภาพทั้งหมด

Suzuki Ertiga

     Suzuki Ertiga ถือเป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 6 แสนบาทกลาง และยังได้ความสดใหม่เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่กล่าวมาข้างต้น มีอุปกรณ์มาตรฐานมาให้เพียงพอต่อการใช้งาน เช่น หน้าจอความบันเทิงขนาด 10 นิ้ว, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ระบบปรับอากาศแถวหลัง, ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP ฯลฯ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ

รุ่นย่อยและราคา

• รุ่น GL ราคา 659,000 บาท
• รุ่น GX ราคา 725,000 บาท

8+ดูภาพทั้งหมด

Suzuki XL7

     แม้ว่า Suzuki XL7 จะใช้พื้นฐานเดียวกับ Ertiga แต่ก็ถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์ต่างไปอย่างชัดเจน ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน, ไฟท้าย LED แบบ Light Guides, ล้อทูโทนขนาด 16 นิ้ว, หน้าจอความบันเทิงขนาด 10 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อ HDMI ได้ เป็นต้น พร้อมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดเช่นเดียวกับ Ertiga

รุ่นย่อยและราคา

• GLX ราคา 779,000 บาท

8+ดูภาพทั้งหมด

DFSK Glory 560

     DFSK เป็นแบรนด์จีนอีกหนึ่งยี่ห้อที่บุกเข้ามาทำตลาดในไทย โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัว Glory 560 ไปเมื่อช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา พร้อมห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง เน้นอุปกรณ์มาตรฐานแบบครบครันไม่แพ้ค่ายยักษ์ใหญ่ เช่น ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED, เบาะนั่งหุ้มหนัง, เบรกมือไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศตอนหลัง, กุญแจ Keyless Entry, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสความละเอียด HD, ระบบควบคุมการทรงตัว ESP, ระบบควบคุมการลื่นไถล TCS, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ฯลฯ

     ส่วนเครื่องยนต์เป็นแบบเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ

รุ่นย่อยและราคา

• รุ่น Glory 580 ราคา 749,000 บาท

8+ดูภาพทั้งหมด

DFSK Glory i-Auto

     DFSK Glory i-Auto ถูกวางตำแหน่งไว้สูงกว่ารุ่น Glory 560 โดยตัวถังมีขนาดยาวกว่า MG HS และ Haval H6 เล็กน้อย พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่อัดแน่นเต็มพิกัด เช่น ไฟหน้า LED, ไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential, หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ, เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 9 นิ้ว, ระบบเบรกมือไฟฟ้า, กล้องบันทึกภาพ Vehicle Running Recorder เป็นต้น (อ้างอิงตามสเปกอินโดนีเซีย)

     ขณะที่เครื่องยนต์เป็นแบบเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT เช่นเดียวกับ Glory 560

รุ่นย่อยและราคา

• รุ่น Glory i-Auto ราคา 899,000 บาท

อัปเดต 7 รถครอบครัว นั่งสบาย ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท

โดย Wongsupat

โพสต์เมื่อ 10 April 2564

---

ในการเลือกซื้อรถเก๋งสักคันหนึ่งนั้น เรื่องการเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ในปัจจุบัน การจ่ายเงินให้กับรถยนต์สักคันนั้น ต้องวางแผนและศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบให้ดี ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะรถสำหรับครอบครัว ที่มีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสูงกว่าคนปกติทั่วไป 1 ในรถยอดนิยม สำหรับครอบครัวที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ รถยนต์อเนกประสงค์ ไม่ว่าเป็น SUV, PPV, MPV หรือ Crossover ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก

---

7 รถสำหรับครอบครัว ราคาประหยัด น่าซื้อในปี2021

ในวันนี้เราจะมาแนะนำ รถสำหรับครอบครัว ราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท ที่คุ้มค่าคุ้มราคา เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ในสังคมยุคนี้ เพราะการหารถที่ชอบสักคันนั้นไม่ยาก แต่การหารถที่ใช่ ทั้งด้านราคา ความคุ้มค่า และกว้างขวาง นั่งสบายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บทความนี้จะมานำเสนอ รถครอบครัว 2021 ยี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์เหล่านั้นให้คุณ

1.  Toyota Avanza ราคาเริ่มต้น 649,000 บาท

โตโยต้า อแวนซา รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ 5 ประตู 7 เรียกได้ว่าเป็นอีก1รุ่น ที่ราคาถูกที่สุดในบรรดารถครอบครัวรุ่นใหม่เลยก็ว่าได้ โดยมีการปรับโฉมจากรุ่นเก่าทั้งภายนอกและภายใน ตอบโจทย์การใช้งานได้เพิ่มมากขึ้น มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ 

• Silver Mica Metallic
• White 
• Black Metallic

Toyota Avanza มีวางจำหน่าย ทั้งหมด 2 รุ่น

• Toyota Avanza รุ่น 1.5 E AT ราคา 649,000 บาท
• Toyota Avanza รุ่น 1.5 G AT ราคา 699,000 บาท

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร Toyota Avanza เพิ่มเติมได้ที่ 
รีวิว โตโยต้า อแวนซ่าใหม่   

2.  Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 959,000 บาท

โตโยต้า โคโรลล่า ครอส รถยนต์SUVขนาดเล็ก ดีไซน์ทันสมัย เหมาะสำหรับใช้งานในเมือง มีทั้งระบบเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และระบบเบนซิน 1.8 Hybrid และมีสีให้เลือกมากมาย ตามสไตล์คุณถึง 7 สี ได้แก่ 

• Celestite Gray Metallic 
• Platinum White Pearl
• Attitude Black Mica
• Metal Stream Metallic
• Red Mica Metallic
• Nebula Blue
• Graphite Metallic

Toyota Corolla Cross มีวางจำหน่าย ทั้งหมด 4 รุ่น

• Toyota Corolla Cross รุ่น 1.8 Sport ราคา 959,000 บาท
• Toyota Corolla Cross รุ่น 1.8 Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท 
• Toyota Corolla Cross รุ่น 1.8 Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท 
• Toyota Corolla Cross รุ่น 1.8 Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท

ติดตามข้อมูลรีวิว Toyota Corolla Cross เพิ่มเติมได้ที่ All New Toyota Corolla CROSS เปิดตัวครั้งแรกในโลก

3.TOYOTA C-HR ราคาเริ่มต้น 979,000 บาท

โตโยต้า ซีเอชอาร์ เป็นรถ Crossover SUV ขนาดเล็ก 5 ที่นั่ง ดีไซน์ภายนอกสปอร์ต ทันสมัย ตัวรถด้านในค่อนข้างแคบ แต่เล็กกะทัดรัด มีความคล่องตัวสูง และที่สำคัญเป็นรุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดน้ำมันสุดๆ และในปี 2021 กำลังจะมีการเปิดตัวToyota C-HR Minorchange อีกด้วย มีทั้งหมด 7 สี ได้แก่ 

• Premium Red / Black Roof
• Blue Metallic / Black Roof
• Radiant Green Metallic / Black Roof
• White Pearl Crystal / Black Roof
• White Pearl Crystal
• Metal Stream Metallic
• Attitude Black Mica

TOYOTA C-HR มีวางจำหน่าย ทั้งหมด 4 รุ่น

• TOYOTA C-HR รุ่น 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท 
• TOYOTA C-HR รุ่น 1.8 MID ราคา 1,039,000 บาท
• TOYOTA C-HR รุ่น 1.8 Hybrid MID ราคา 1,069,000 บาท
• TOYOTA C-HR รุ่น 1.8 Hybrid High ราคา 1,159,000 บาท

ติดตามข้อมูลรีวิว TOYOTA C-HR เพิ่มเติมได้ที่ รีวิว Toyota C-HR โตโยต้า ซี-เอชอาร์ 

4.  Honda Mobilio ราคาเริ่มต้น 659,000 บาท

ฮอนด้า โมบิลิโอ รถยนต์อเนกประสงค์ mini MPV ขนาดเล็กกะทัดรัด ให้ความคล่องตัว ด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม โฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยการออกแบบแผงคอนโซลหน้าใหม่ พร้อมห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบายทุกตำแหน่ง พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย และมีอุปกรณ์ใหม่ๆ ทันสมัยมากมายในรุ่นท็อป มีให้เลือก 7 สี ได้แก่  

• Alabaster Silver Metallic
• Majestic Blue Mattlic
• Brilliant Gold Metallic
• Urban Titanium Metallic
• Carnelian Red Pearl
• Crystal Black Pearl
• Tafeta White

Honda Mobilio มีวางจำหน่าย ทั้งหมด 3 รุ่น

• Honda Mobilio รุ่น S ราคา 659,000 บาท
• Honda Mobilio รุ่น V ราคา 699,000 บาท
• Honda Mobilio รุ่น RS ราคา 765,000 บาท

ติดตามข้อมูลรีวิว Honda Mobilio เพิ่มเติมได้ที่ New Honda Mobilio อเนกประสงค์ 5 และ 7 ที่นั่ง

5.  Suzuki Ertiga ราคาเริ่มต้น 659,000 บาท

ซูซูกิ เออร์ติก้า มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยหลากหลาย อย่างเช่นระบบHill Hold Control ระบบที่จะช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ออกแบบภายในให้ดูเรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพสูง มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง แอร์เย็นอย่างทั่วถึงทั้งคันรถ มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ 

• Pearl Arctic White
• Metallic silky silver
• Pearl Metallic Auburn Red
• Pearl Metallic Oxford Blue
• Metallic Magma Grey

Suzuki Ertigaมีวางจำหน่าย ทั้งหมด 2 รุ่น

• Suzuki Ertiga รุ่น GL / AT ราคา 659,000 บาท 
• Suzuki Ertiga รุ่น GX / AT ราคา 725,000 บาท

ติดตามข้อมูลรีวิว Suzuki Ertiga เพิ่มเติมได้ที่ NEW SUZUKI ERTIGA 2020 

 
6.  Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท

มิตซูบิชิ เอ็กแพนเดอร์ มีระบบเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือด้านความปลอดภัยอย่างหลากหลายครบครัน ปรับดีไซน์ใหม่ ภายนอกดูสปอร์ตมากขึ้น พื้นที่โดยสารด้านในกว้างขวาง สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับทุกสถานการณ์ตามสไตล์ของคุณ 

Mitsubishi Xpander มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ 

• Jet Black Mika
• Graphite 
• Sterling Silver
• White Pearl

Mitsubishi Xpander มีวางจำหน่าย ทั้งหมด 2 รุ่น

• Mitsubishi Xpander รุ่น GT ราคา 863,000 บาท
• Mitsubishi Xpander รุ่น GLS-LTD ราคา 789,000 บาท

ติดตามข้อมูลรีวิว Mitsubishi Xpander เพิ่มเติมได้ที่ รีวิว Mitsubishi Xpander Cross 

 
7.  All New Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000 บาท

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจาก Nissan ติดตั้งด้วยระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า e-Power อุ่นใจกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ อย่าง Nissan Intelligent Mobility ที่จะช่วยทำให้คุณมั่นใจกับความปลอดภัยในทุกการขับขี่มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สะดวกสบาย มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ ที่ทันสมัยโฉบเฉี่ยว มีให้เลือกถึง 6 สี เลือกได้ตามสไตล์ของคุณ ได้แก่

• Black Star 
• Storm White
• Radiant Red 
• Gun Metallic
• Brilliant Silver
• Monarch Orange

All New Nissan Kicks มีวางจำหน่าย ทั้งหมด 4 รุ่น

• All New Nissan Kicks รุ่น S ราคา 889,000 บาท
• All New Nissan Kicks รุ่น E ราคา 949,000 บาท
• All New Nissan Kicks รุ่น V ราคา 999,000 บาท 
• All New Nissan Kicks รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท 

ติดตามข้อมูลรีวิว All New Nissan Kicks เพิ่มเติมได้ที่ All New Nissan Kicks e-POWER 2020 พลังไฟฟ้า