ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่ได้รับความนิยม [อัพเดต 2025]

หน้าแรก

BYD

10 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่ได้รับความนิยม [อัพเดต 2025]

ในยุคที่พลังงานสะอาดและความยั่งยืนกลายเป็นเรื่องสำคัญ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จึงกลายมาเป็นทางเลือกยอดนิยมของผู้บริโภคชาวไทย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ค่าบำรุงรักษาต่ำ และความสะดวกสบายที่เหนือกว่ารถยนต์เชื้อเพลิงแบบเดิม โดยเฉพาะในปี ค.ศ.2025 ที่มีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดอย่างหลากหลาย

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่ได้รับความนิยม ซึ่งโดดเด่นทั้งด้านราคา ฟีเจอร์ และความคุ้มค่า

หัวข้อ

• 10 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่ได้รับความนิยม
  • 1. BYD
  • 2. Tesla
  • 3. NETA
  • 4. GWM
  • 5. MG
  • 6. Chery
  • 7. Wuling
  • 8. Changan
  • 9. BMW
  • 10. Denza
• ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงได้รับความนิยมในไทย?
  • 1. ค่าบำรุงรักษาต่ำ
  • 2. ไม่ต้องใช้น้ำมัน
  • 3. ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
  • 4. สถานีชาร์จเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ
  • 5. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• สรุป
• แหล่งอ้างอิง
• ติดต่อเรา

10 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่ได้รับความนิยม

1. BYD

BYD (Build Your Dreams) เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่มีความปลอดภัยสูง สมรรถนะดี และราคาจับต้องได้ โดยรุ่นยอดนิยมในไทย เช่น BYD ATTO 3 และ BYD DOLPHIN ครองใจผู้ใช้งานด้วยดีไซน์ทันสมัยและฟีเจอร์ครบครัน พร้อมการสนับสนุนจาก Rever Automotive ที่มีโชว์รูมและศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้ BYD กลายเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย

จุดเด่นของ BYD

• ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่มีความปลอดภัยสูง ทนทาน และลดความร้อนสะสม
• ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ e-Platform 3.0 ที่ออกแบบมาเพื่อ EV โดยเฉพาะ
• ดีไซน์ทันสมัย ฟังก์ชันครบ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
• ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณสมบัติ และมาพร้อมกับการรับประกันแบตเตอรี่ระยะยาว

https://youtube.com/watch?v=cmsOci0TK1o%3Ffeature%3Doembed%26enablejsapi%3D1%26origin%3Dhttps%3A

รถยนยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมของ BYD ในไทย

• BYD Dolphin
• BYD Atto 3
• BYD Seal

ข้อมูลการติดต่อ

• Facebook : BYD BD Auto Group ตัวแทนจำหน่ายบีวายดีรายใหญ่สุดในภาคใต้
• LINE : BYD BD Auto
• Youtube : BYD BD Auto Group
• เว็บไซต์ : www.bydbdautogroup.com

https://www.google.com/maps/embed?pb=!1m14!1m8!1m3!1d15839.690796418961!2d100.4847717!3d7.0183725!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x304d294d3c7b62a7%3A0x620a2bff4874bb35!2sBYD%20BD%20AUTO%20SONGKHLA!5e0!3m2!1sth!2sth!4v1705989331153!5m2!1sth!2sth

2. Tesla

Tesla แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา โดดเด่นด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autopilot), หน้าจอควบคุมกลางขนาดใหญ่ และดีไซน์เรียบหรูที่เป็นเอกลักษณ์ รุ่นยอดนิยมในประเทศไทย ได้แก่ Tesla Model 3 และ Model Y ซึ่งนำเข้าอย่างเป็นทางการโดย Tesla Thailand พร้อมรองรับการชาร์จผ่าน Supercharger และสถานีชาร์จชั้นนำ ทำให้ Tesla เป็นทางเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหารถ EV พรีเมียมที่ทั้งฉลาดและทรงพลัง

ตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ในไทย

• Tesla Model 3
• Tesla Model Y

ข้อมูลการติดต่อ

• Facebook : Tesla
• Youtube : Tesla
• เว็บไซต์ : www.tesla.com

3. NETA

Neta เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจากบริษัท Hozon Auto ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยผ่านบริษัท NETA Auto Thailand โดยมุ่งเน้นการผลิตรถ EV ที่ราคาคุ้มค่าแต่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยี รุ่นยอดนิยมในไทยอย่าง Neta V ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานกลุ่มแรกของ EV ด้วยดีไซน์มินิมอล ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการขับขี่ในเมือง ขณะที่รุ่นใหม่อย่าง Neta GT และ Neta X เริ่มขยายกลุ่มผู้ใช้งานในระดับกลางและเน้นสมรรถนะมากขึ้น พร้อมบริการหลังการขายและศูนย์บริการที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ

ข้อมูลการติดต่อ

• Facebook : Neta Auto, Neta Auto Thailand
• Youtube : Neta Auto Thailand
• เว็บไซต์ : www.neta.co.th

4. GWM

GWM (Great Wall Motor) เป็นแบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากประเทศจีนที่เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แบรนด์ในเครือที่ได้รับความนิยมสูงคือ ORA ซึ่งมีรุ่น ORA Good Cat (ORA 03) ที่ได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภคชาวไทยด้วยดีไซน์น่ารัก ทันสมัย และฟีเจอร์ที่ครบครัน ล่าสุด GWM ได้เริ่มผลิตรถไฟฟ้าในประเทศไทยที่โรงงานระยอง และเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่อย่าง ORA Lightning Cat (ORA 07) ที่เน้นความสปอร์ตและสมรรถนะมากขึ้น พร้อมทั้งวางเป้าหมายเป็นผู้นำตลาดรถ EV ในไทย ด้วยแผนเปิดตัวมากกว่า 10 รุ่นภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

รุ่นรถยนต์ไฟฟ้าของ GWM

• ORA Good Cat

ข้อมูลการติดต่อ

• Facebook : GWM Thailand
• Youtube : GWM Thailand
• เว็บไซต์ : www.gwm.co.th

5. MG

MG (Morris Garages) เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทย ด้วยรุ่นยอดนิยมอย่าง MG ZS EV และ MG4 Electric ที่โดดเด่นเรื่องราคาที่จับต้องได้ สมรรถนะดี และฟีเจอร์อัจฉริยะ เช่น ระบบ i‑SMART ที่ช่วยเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนอย่างครบครัน ในปี 2024 MG ได้เริ่มประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่โรงงานระยอง ทำให้สามารถลดต้นทุนและตั้งราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียงประมาณ 709,000 บาท พร้อมระยะทางวิ่งไกลกว่า 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อีกทั้งยังมีศูนย์บริการทั่วประเทศ รองรับการใช้งานอย่างมั่นใจ เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถ EV ที่คุ้มค่าและพร้อมใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน

https://youtube.com/watch?v=vmqThu2vN1Q%3Ffeature%3Doembed%26enablejsapi%3D1%26origin%3Dhttps%3A

ตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าของ MG

• NEW MG4 ELECTRIC
• NEW MG MAXUS 7

ข้อมูลการติดต่อ

• Facebook : MG Thailand
• Youtube : MG Thailand
• เว็บไซต์ : www.mgcars.com

6. Chery

Chery คืออีกหนึ่งแบรนด์รถไฟฟ้าจากจีนที่เข้ามาเปิดตัวในไทยอย่างจริงจัง โดยในปี 2024 ได้เปิดตัวรุ่น Omoda C5 EV และ Jaecoo 6 EV ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าดีไซน์ล้ำทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่ และคาดว่าจะมีโรงงานประกอบในระยองช่วงกลางปี 2025 โดยตั้งเป้าผลิต EV และไฮบริดกว่า 50,000 คันในเฟสแรก และหวังเพิ่มเป็น 80,000 คันต่อปีภายในปี 2028 ทั้งหมดนี้ช่วยมอบตัวเลือกรถยนต์พลังงานสะอาดที่ครบเครื่องทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และราคาที่เอื้อมถึงสำหรับผู้บริโภคไทย

ข้อมูลการติดต่อ

• Facebook : Chery Thailand
• Youtube : Chery Thailand
• เว็บไซต์ : www.cheryinternational.com

7. Wuling

Chery เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากประเทศจีนที่กำลังรุกเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างจริงจัง โดยในปี 2024 ได้เปิดตัวรุ่น Omoda C5 EV และ Jaecoo 6 EV ซึ่งเป็นรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่ พร้อมแผนการลงทุนสร้างโรงงานผลิตในจังหวัดระยองที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในกลางปี 2025 โดยตั้งเป้าผลิตรถ EV และรถไฮบริดกว่า 50,000 คันต่อปีในเฟสแรก และขยายสู่ 80,000 คันต่อปีภายในปี 2028 ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคชาวไทยที่มองหารถยนต์พลังงานสะอาดคุณภาพสูงในราคาจับต้องได้

ตัวอย่างรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าของ Wuling ในไทย

• Wuling Air EV

ข้อมูลการติดต่อ

• Facebook : Wuling Thailand
• Youtube : Wuling MotorsID
• เว็บไซต์ : www.wulingthai.com

8. Changan

Changan หรือ Changan Automobile เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากประเทศจีนที่เดินหน้ารุกตลาดไทยอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถ EV ครบวงจรในจังหวัดระยอง ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิตจริงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตเบื้องต้นที่ 100,000 คันต่อปี และเตรียมขยายเป็น 200,000 คันในอนาคต สำหรับการป้อนตลาดอาเซียนและประเทศที่ใช้รถพวงมาลัยขวาทั่วโลก รุ่นที่เริ่มนำเข้ามาทำตลาดในไทย ได้แก่ Deepal S05, S07 และ AVATR 11 ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าพรีเมียมที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย สมรรถนะสูง และเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตาในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของไทยในอนาคตอันใกล้

ข้อมูลการติดต่อ

• Facebook : CHANGAN Thailand
• Youtube : CHANGAN Thailand
• เว็บไซต์ : www.changan.co.th

9. BMW

BMW (โซลาร์ i Series) คือแบรนด์รถยนต์พรีเมียมจากเยอรมนีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของไทย โดยมีรุ่นยอดนิยมอย่าง BMW iX, i4 และ i7 ที่นำเสนอความหรูหราทันสมัย พร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าระดับสูง ทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ eDrive, ระบบชาร์จเร็ว รองรับระบบ 11–22 kW AC และสูงสุดที่ 200 kW DC ทำให้ผู้ใช้ EV ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ทรงพลังแต่ยังคงความนุ่มนวลเฉพาะตัวของ BMW พร้อมศูนย์บริการมาตรฐานและบริการหลังการขายจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย

ข้อมูลการติดต่อ

• Facebook : BMW Thailand
• Youtube : BMW USA, BMW Thailand
• เว็บไซต์ : www.bmw.co.th

10. Denza

Denza เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมภายใต้เครือ BYD ที่พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือกับ Mercedes-Benz ก่อนที่ BYD จะเข้าบริหารอย่างเต็มรูปแบบในปี 2024 โดย Denza มุ่งเน้นการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ผสานความหรูหรากับเทคโนโลยีล้ำสมัย รุ่นเด่นในไทยคือ Denza D9 รถ MPV สุดหรูที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายปี 2024 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน AWD ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมหน้าจอ 3 จุด และระบบขับขี่อัจฉริยะ ในราคาเริ่มต้นประมาณ 1.99–2.69 ล้านบาท ปัจจุบัน Denza มีโชว์รูม 5 แห่งทั่วไทย และมีแผนขยายเป็น 10 แห่งภายในปี 2025 เพื่อตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มรถ EV ระดับบน

ตัวอย่างรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าของ Denza

• Denza D9

ข้อมูลการติดต่อ

• Facebook : DENZA BD Ultimate Songkhla
• Youtube : BYD BD Auto Group
• เว็บไซต์ : www.denzabdultimate.com

ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงได้รับความนิยมในไทย?

1. ค่าบำรุงรักษาต่ำ

รถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) อย่างมาก เช่น ไม่มีเครื่องยนต์สันดาป, เกียร์ซับซ้อน หรือระบบไอเสีย ซึ่งหมายความว่า

• ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
• การสึกหรอของชิ้นส่วนน้อยกว่า
• ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงต่ำกว่าในระยะยาว

จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าบำรุงรักษาและลดความยุ่งยากในการดูแลรักษารถยนต์

2. ไม่ต้องใช้น้ำมัน

รถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซล ทำให้

• ลดค่าใช้จ่ายในการเติมพลังงาน (ค่าไฟฟ้าโดยเฉลี่ยถูกกว่าน้ำมัน)
• ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก
• เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศในระยะยาว

3. ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ

รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยมีมาตรการต่าง ๆ เช่น

• เงินอุดหนุน : ให้เงินสนับสนุนสำหรับผู้ซื้อรถ EV (สูงสุดถึงหลักแสนบาท)
• ลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตต่ำ
• สิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น การจดทะเบียนง่ายขึ้น

นโยบายเหล่านี้ช่วยลดต้นทุนของรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ราคาใกล้เคียงหรือถูกกว่ารถยนต์ทั่วไปในบางรุ่น

4. สถานีชาร์จเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ

การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟฟ้ากำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เช่น

• ปั๊มไฟฟ้า (EV Station) จากค่ายต่างๆ เช่น EA Anywhere, PTT EV Station, และ Charge+ เพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง
• ห้างสรรพสินค้า โรงแรม คอนโด และที่ทำงานเริ่มติดตั้งแท่นชาร์จ
• แอปพลิเคชันช่วยค้นหาสถานีชาร์จ ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น

สิ่งเหล่านี้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับ “ระยะทางขับขี่” หรือ “range anxiety” ของผู้ใช้

5. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รถยนต์ไฟฟ้าไม่มีการปล่อยไอเสียในระหว่างการใช้งาน ทำให้:

• ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และ PM2.5
• ช่วยลดภาวะโลกร้อนและปัญหามลพิษทางอากาศในเมืองใหญ่
• ส่งเสริมแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน

เมื่อผนวกรวมกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของรถ EV

https://youtube.com/watch?v=FQ1RZ-_-8Tg%3Ffeature%3Doembed%26enablejsapi%3D1%26origin%3Dhttps%3A

สรุป

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของยานยนต์พลังงานสะอาดอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดรถ EV ที่มีผู้ผลิตชั้นนำเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง หลายแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในไทยเริ่มเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อรถที่เหมาะกับงบประมาณ ไลฟ์สไตล์ และความต้องการเฉพาะตัวได้ง่ายขึ้น โดยแบรนด์เหล่านี้ล้วนมีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย ระบบความปลอดภัยครบครัน และบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในทุกการเดินทาง พร้อมสนับสนุนอนาคตที่สะอาดและยั่งยืน