ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
8 รถยนต์ ครอบครัว SUV ราคาไม่เกิน 1 ล้าน ครบฟังก์ชั่นน่าใช้
สิงหาคม 14, 2022 • Metinee Pue • ยังไม่มีหมวด
— views
มองหารถยนต์ครอบครัว SUV ราคาไม่แพง แบบไม่เกิน 1 ล้านบาท ในตลาดรถยนต์มีให้เลือกหลายแบบหลายยี่ห้อ ยิ่งพอมีตัวเลือกเยอะทำให้การตัดสินใจยากขึ้น เลือกไม่ถูกว่าจะใช้รถครอบครัว SUV นั่งได้หลายคนแบบไหนดี เพื่อให้เหมาะกับไลฟสไตล์ ชัวร์ครับ รวมมาให้แล้วเพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการซื้อรถมากขึ้น กับ 8 รถยนต์ครอบครัว SUV ราคาไม่แพง ผ่อนสบาย มาพร้อมฟังก์ครบเครื่องมาก ไปส่องกันเลยว่ามีรถ SUV รุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
ค้นหาประกันรถเฉพาะตัว เหมาะกับคุณมากที่สุด
รถรถยนต์ ครอบครัว SUV ราคาไม่เกินล้าน
1.รถยนต์ ครอบครัว SUV – Honda BR-V
ราคาเริ่มต้น 765,000 บาท
ถ้าพูดถึงรถยนต์ครอบครัว ราคาไม่แพงมาก มาพร้อมออฟชั่นครบเครื่อง Honda BR-V ดีไซน์สวยโฉบเฉี่ยว สปอร์ตมากๆ รถ ครอสโอเวอร์ ถึกและลุยมาก ภายในรถกว้างขวาง เรียบเท่ เบาะนั่งเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ผู้โดยสารนั่งสบายตลอดเส้นทางไม่ว่าใกล้ไกลสบายใจนั่งสบาย เทคโนโลยีทันสมัย ใช้งานง่ายแบบสัมผัสเพียงปลายนิ้ว เช่น เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่รองรับระบบปฏิบัติการ iOS และ Android มีระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบ Honda Smart Key System ในส่วนของการขับเคลื่อนตามสไตล์รถ SUV เครื่องยนต์เป็นแบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร มาพร้อมกับรถประหยัดน้ำมัน
2.รถยนต์ ครอบครัว SUV – Nissan Kicks e-POWER S
ราคาเริ่มต้น 889,000 บาท
นอกจากเป็นรถยนต์ครอบครัว SUV แล้ว ยังเป็นรถ EV รถไฟฟ้าอีกด้วย เป็นรถยนต์ครอบครัวที่น่าสนใจมากๆ ในยุคน้ำมันแพงแบบนี้ เพราะนอกจากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแล้วการขับเคลื่อนก็แรงไม่แพ้กับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไปเลย ดีไซน์รูปทรงสวยงาม เท่ สปอร์ต ภายในตกแต่งไว้หรูเรียบเท่ กว้างขวาง เบาะนั่งสบาย สัมผัสนุ่ม มาพร้อมกับเทคโนโลยีเหนือชั้น หน้าจอมัลติมีเดียระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay, Andriod Auto, ระบบแอร์อัตโนมัติ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เพื่อควบคุมการทำงานต่างๆ ของตัวรถ อีกด้วย
3.รถยนต์ ครอบครัว SUV – Toyota Corolla Cross
ราคาเริ่มต้น 959,000 บาท
เป็นอีกหนึ่งรุ่นรถยนต์ครอบครัว SUV ที่คนพูดถึงเยอะมาก Toyota Corolla Cross เพราะรูปทรงดีไซน์สวย รถครอบครัวสายสปอร์ต ที่ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าได้เป็นอย่างมากเมื่อเที่ยวกับราคาของรถยนต์รุ่นนี้ สามารถนั่งได้ถึง 7 คน นั่งสบายเพราะที่นั่งกว้างและสำหรับสายจุของเบาะด้านหลังก็ดีไซส์ได้ตามไลฟสไตล์เลย พับเก็บก็ได้ช่วยให้ด้านหลังเก็บของได้อีกเยอะ พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า มาพร้อมกับการประหยัดน้ำมันด้วย และเรื่องของเทคโนโลยี ขึ้นชื่อว่าโตโยต้าไม่แพ้ใครจัดเต็มให้เลย
4.รถยนต์ ครอบครัว SUV – Honda HR-V
ราคาเริ่มต้น 949,000 บาท
รถยนต์ครอบครัวอีกหนึ่งรุ่นของบ้านฮอนด้า ตัวนี้คือถือว่าเป็นรุ่นรถยอดฮิตเลยในสายรถยนต์ครอบครัว นอกจากรูปทรงที่สวยงามโฉบเฉียว ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย เบาะนั่งใหญ่วางคาร์ซีทได้สบายสำหรับใครที่มีเด็กเล็ก เบาะปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้ตามใจต้องการ มาพร้อมเทคโนโลยีจัดเต็มให้แน่นๆ ทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ที่สำคัญคือ เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน
5.รถยนต์ ครอบครัว SUV – MG ZS
ราคาเริ่มต้น 679,000 บาท
มาต่ออีกรุ่นที่เราไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับ รถยนต์ครอบครัว MG ZS รุ่นนี้เป็นกลุ่มคอมแพคเอสยูวี เป็นรถที่เหมาะกับครอบครัวสายประหยัดเพราะราคารถยนต์ไม่แพง แต่ฟังก์การใช้งานครบมาก ออปชั่นแน่นๆ เลย มีทุกอย่างที่จำเป็น มาพร้อมเทคโนโลยีสุดเร้าใจมาพร้อมความปลอดภัยเซฟตี้เต็มรูปแบบ ทั้ง ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) และ ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และสำหรับบ้านไหนมีเด็กเล็กด้วยชอบแน่นอนเพราะมีจุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX อีกด้วย
6.รถยนต์ ครอบครัว SUV – Toyota CH-R
ราคาเริ่มต้น 979,000 บาท
สวยจัดเต็มมากขึ้นชื่อว่าเป็นรถของค่าย Toyota เรื่องดีไซน์ไม่ผิดหวัง หล่อ สปอร์ต เท่ โฉบเฉี่ยว ตอบโจทย์ครอบครัวยุต 2022 แน่นอน นอกจากดีไซน์ด้านนอกจะล้ำๆ แล้ว ภายในห้องโดยสารก็สวยตกหลุมรักกันไปเลยตั้งแต่แรกเห็น อีกทั้งเรื่องความปลอดภัยคือเป็นไฮไลต์ของรุ่นนี้เหมือนกัน เนื่องจากมีระบบความปลอดภัย TOYOTA SAFETY SENSE ทั้ง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ LDA เป็นต้น บอกเลยว่า สายรักครอบครัวต้องหนักใจเมื่อได้เห็นเซฟตี้ระดับเทพของรุ่นนี้แน่นอน
7.รถยนต์ ครอบครัว SUV – Suzuki XL7
ราคาเริ่มต้น 779,000 บาท
สายรถครอบครัว ราคาไม่แพง บ้าน Suzuki ต้องเข้ารอบ 1 ใน 10 สักรุ่น Suzuki XL7 รถครอบครัวแบบ 7 ที่นั่งสไตล์ MPV ราคาดีงาม ผ่อนสบายในแบบออปชั่นจัดให้ครบเครื่องเลย ใช้งานในเมืองก็ดี หรือเดินทางท่องเที่ยวก็สุดเพลินสบายใจ เพราะไม่เปลืองน้ำมันมากนัก เป็นรถยนต์ครอบครัวสายคุ้มค่า สายจุใช้งานได้อย่างจริงจัง ทั้งลุย และสายชิล ไม่ว่าจะจุคนก็นั่งได้เยอะหรือจะจุของก็ดีไซน์เบาะที่นั่งเว้นสเปซไว้เพื่อวางของชิ้นใหญ่ๆ ได้เลย
8. รถยนต์ ครอบครัว SUV – Mitsubishi Xpander
ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท
ปิดท้ายกันด้วยรถยนต์ครอบครัวสุดคุ้ม ราคาไม่เกินล้าน Mitsubishi Xpander ดีไซน์ภายนอกโฉบเฉี่ยวสวยไม่แพ้ใครเลยเช่นกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานของรถรุ่นนี้ก็เหมาะมากๆ สำหรับการเป็นรถครอบครัว ทั้งจุคนและจุของก็ได้เยอะทั้งคู่ ภายในห้องโดยสารค่อนข้างกว้างนั่งระยะไกลผู้โดยสารไม่รู้สึกเมื่อยนั่งได้สบายอีกทั้งเบาะนั่งก็นิ่ม พับได้ตามไลฟสไตล์ของผู้ใช้งานหากอยากวางของก็พบเบาะได้เลยจัดเต็มจุของได้แบบจัดเต็ม อีกทั้งเป็นรถครอบครัวประหยัดน้ำมันด้วย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร
มีรถครอบครัวรุ่นไหนที่กำลังเล็งไว้กันบ้างหรือเปล่า ชัวร์ครับ ช่วยให้คุณได้ตัดสินสินใจได้ง่ายขึ้นไหม หรือกลายเป็นว่าอยากได้ทุกรุ่นเพราะแต่ละรุ่นรถยนต์เขาก็มีความดีแตกต่างกันไปแล้วแต่ความชอบของผู้ใช้ เอาเป็นว่าชอบรุ่นไหน รักรถยนต์แบรนด์ไหนก็ไปสอบถามและทดลองขับกันก่อนซื้อด้วย แต่ที่แน่ๆ มีรถยนต์แล้วเซฟกว่าจริงๆ ก็ต้องมีประกันรถยนต์ไว้ด้วย ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายคุ้มครองคุณได้หากเกดเหตุการ์ณที่ไม่คาดคิดอย่างกระทันหัน
รวมรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง งบไม่เกิน 1 ล้านบาทที่หาซื้อได้ในปี 2565 นี้
17 ม.ค. 65 (11:49 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้
แนะนำรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ในงบประมาณไม่เกิน 1 ล้านบาท สามารถหาซื้อรุ่นไหนได้บ้างในปี 2565 นี้ ไปดูกันเลย
เชื่อว่าใครหลายคนกำลังมองหารถยนต์แบบ 7 ที่นั่ง ที่เน้นตอบโจทย์การใช้งานในแบบครอบครัว แม้ว่าจะมีงบประมาณที่จำกัด แต่ก็ยังมีตัวเลือกในตลาดจำนวนไม่น้อยทีเดียว โดยส่วนมากจะเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับครอบครัวขยายที่มีความต้องการใช้พื้นที่ภายในห้องโดยสารมากขึ้น Sanook Auto จึงขอแนะนำรถ 7 ที่นั่ง ทั้ง 10 รุ่น ที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ดังนี้
Toyota Avanza
Toyota Avanza เป็นรถยนต์เอ็มพีวีขนาด 7 ที่นั่ง ที่ถูกทำตลาดมาอย่างยาวนาน และยังคงทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่องในบ้านเรา โดย Avanza โฉมปัจจุบันมีการปรับไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดไปเมื่อกลางปี 2019 จึงถือว่าอยู่ในช่วงปลายอายุตลาดเต็มที มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ซึ่งแม้ว่าจะมีการปรับปรุงในด้านอุปกรณ์มาตรฐานน่าใช้งานยิ่งขึ้น แต่ก็ยังขาดระบบความปลอดภัยที่ควรมีมาให้ในรถยุคนี้ เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ฯลฯ
รุ่นย่อยและราคา
- รุ่น 1.5 E A/T ราคา 649,000 บาท
 - รุ่น 1.5 G A/T ราคา 699,000 บาท
 
Toyota Sienta
Toyota Sienta มีจุดเด่นอยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอกดูทันสมัยน่าใช้ และเป็นรถเอ็มพีวีราคาต่ำล้านเพียงรุ่นเดียวในตลาดที่มีประตูคู่หลังแบบสไลด์ไฟฟ้ามาให้ (รุ่น 1.5G สไลด์ไฟฟ้าเฉพาะบานซ้าย) มีหน้าจอระบบความบันเทิงขนาด 6.8 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นย่อย รวมถึงมีระบบความปลอดภัยมาให้แบบครบครันทั้งระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, กล้องมองภาพรอบคัน ฯลฯ
ขณะที่ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Dual VVT-i ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน
รุ่นย่อยและราคา
- รุ่น 1.5G ราคา 765,000 บาท
 - รุ่น 1.5V ราคา 875,000 บาท
 
Honda Mobilio
Honda Mobilio เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ถูกทำตลาดมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2014 ก่อนจะมีการปรับไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ในปี 2017 และยังคงวางขายมาจนถึงทุกวันนี้ โดยปัจจุบันมีให้เลือกทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT เท่านั้น
นอกจากนี้ Mobilio ยังครบครันในด้านระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบเบรก ABS/EBD เป็นต้น
รุ่นย่อยและราคา
- รุ่น S ราคา 659,000 บาท (5 ที่นั่ง)
 - รุ่น V ราคา 699,000 บาท
 - รุ่น RS ราคา 765,000 บาท
 
Honda BR-V
Honda BR-V ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ Mobilio แต่เสริมความอเนกประสงค์ในแบบครอสโอเวอร์ด้วยความสูงใต้ท้องรถที่เพิ่มขึ้นอีก 12 มม. มีให้เลือกทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่งเช่นกัน พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ CVT
รุ่นย่อยและราคา
- รุ่น V ราคา 765,000 บาท (5 ที่นั่ง)
 - รุ่น SV ราคา 835,000 บาท
 
Mitsubishi Xpander
Mitsubishi Xpander โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์สวยงามทันสมัย พร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่มีให้แบบครบๆ เช่น เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว, กล้องมองภาพด้านหลัง, ระบบปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระ และ Cruise Control เป็นต้น ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
รุ่นย่อยและราคา
- รุ่น GLS-LTD ราคา 789,000 บาท
 - รุ่น GT ราคา 863,000 บาท
 - รุ่น Special Edition ราคา 879,000 บาท
 
Mitsubishi Xpander Cross
Mitsubishi Xpander Cross เสริมความอเนกประสงค์ด้วยช่วงล่างแบบยกสูง ที่ให้ความสูงจากพื้นถนนถึง 225 มม. ทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่ดูบึกบึนแข็งแรงคล้ายกับเอสยูวี โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ LED (มัลติรีเฟล็กเตอร์) ที่ให้ความสวยงามในยามค่ำคืน โดยยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้าบล็อกเดียวกับรุ่นปกติ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 จังหวะ
รุ่นย่อยและราคา
- รุ่น Cross ราคา 919,000 บาท
 
Suzuki Ertiga
Suzuki Ertiga ถือเป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 6 แสนบาทกลาง และยังได้ความสดใหม่เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่กล่าวมาข้างต้น มีอุปกรณ์มาตรฐานมาให้เพียงพอต่อการใช้งาน เช่น หน้าจอความบันเทิงขนาด 10 นิ้ว, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ระบบปรับอากาศแถวหลัง, ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP ฯลฯ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
รุ่นย่อยและราคา
- รุ่น GL ราคา 659,000 บาท
 - รุ่น GX ราคา 725,000 บาท
 
Suzuki XL7
แม้ว่า Suzuki XL7 จะใช้พื้นฐานเดียวกับ Ertiga แต่ก็ถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์ต่างไปอย่างชัดเจน ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน, ไฟท้าย LED แบบ Light Guides, ล้อทูโทนขนาด 16 นิ้ว, หน้าจอความบันเทิงขนาด 10 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อ HDMI ได้ เป็นต้น พร้อมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดเช่นเดียวกับ Ertiga
รุ่นย่อยและราคา
- GLX ราคา 779,000 บาท
 
DFSK Glory 560
DFSK เป็นแบรนด์จีนอีกหนึ่งยี่ห้อที่บุกเข้ามาทำตลาดในไทย โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัว Glory 560 ไปเมื่อช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา พร้อมห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง เน้นอุปกรณ์มาตรฐานแบบครบครันไม่แพ้ค่ายยักษ์ใหญ่ เช่น ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED, เบาะนั่งหุ้มหนัง, เบรกมือไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศตอนหลัง, กุญแจ Keyless Entry, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสความละเอียด HD, ระบบควบคุมการทรงตัว ESP, ระบบควบคุมการลื่นไถล TCS, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ฯลฯ
ส่วนเครื่องยนต์เป็นแบบเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ
รุ่นย่อยและราคา
- รุ่น Glory 580 ราคา 749,000 บาท
 
DFSK Glory i-Auto
DFSK Glory i-Auto ถูกวางตำแหน่งไว้สูงกว่ารุ่น Glory 560 โดยตัวถังมีขนาดยาวกว่า MG HS และ Haval H6 เล็กน้อย พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่อัดแน่นเต็มพิกัด เช่น ไฟหน้า LED, ไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential, หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ, เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 9 นิ้ว, ระบบเบรกมือไฟฟ้า, กล้องบันทึกภาพ Vehicle Running Recorder เป็นต้น (อ้างอิงตามสเปกอินโดนีเซีย)
ขณะที่เครื่องยนต์เป็นแบบเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT เช่นเดียวกับ Glory 560
รุ่นย่อยและราคา
- รุ่น Glory i-Auto ราคา 899,000 บาท
 
	    	
		    
