• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N2309740 ยามลำบากค ดถ งแม ยามแม วยไม ดจะใส ใจ ความค ดของล part 2

admin79 by admin79
September 24, 2025
in Uncategorized
0
N2309740 ยามลำบากค ดถ งแม ยามแม วยไม ดจะใส ใจ ความค ดของล part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

รวมรถประหยัดน้ำมัน Eco Car ประจำปี 2024

ในยุคที่ค่าน้ำมันพุ่งสูงแบบนี้ เชื่อว่าคงจะมีผู้ขับขี่หลายคนที่กำลังมองหารถประหยัดน้ำมันหรือ ECO CAR เพื่อมาช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันกันอยู่แน่ ๆ ซึ่งในบทความนี้ อินทรประกันภัย จึงได้รวบรวมเช็กลิสต์ 5 อันดับรถประหยัดน้ำมัน (ECO CAR) ประจำปี 2024 มาแนะนำให้คุณได้ทราบกัน จะมีรุ่นไหนที่ถูกใจคุณบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย!

5 อันดับรถประหยัดน้ำมัน Eco Car ประจำปี 2024

สำหรับรถประหยัดน้ำมันที่เรารวบรวมมาแนะนำ จะเป็นรถยนต์จากแบรนด์ดังที่โดดเด่นในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน โดยมีทั้งหมด 5 แบรนด์ ดังนี้

1.Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage เป็นรถยนต์ซีดานประหยัดน้ำมันแบบ 4 ประตู 5 ที่นั่ง ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าที่รวมชุดกันชนสีดำ ตกแต่งด้วยแถบโครเมียม ภายในตกแต่งแผงหน้าปัดด้วยวัสดุสีดำเงา Piano Black และลายคาร์บอน พร้อมมาตรวัดเป็นแบบอนาล็อก และจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่แยกออกจากห้องโดยสาร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่จับคู่กับระบบเครื่องยนต์เบนซินแบบ 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 78 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

2.Toyota Yaris Ativ

Toyota Yaris Ativ เป็นรถยนต์ซีดานประหยัดน้ำมันที่ใช้ตัวถัง Fastback ภายในมีการออกแบบให้ทันสมัยด้วยเส้นแนวนอนหลายเลเยอร์ เล่น Texture และสีทูโทน พร้อมพวงมาลัยยูรีเทนที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้ง ECO, Normal และ Sport จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ที่มาคู่กับโปรแกรมทดเกียร์ Sequential Shift และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า รวมถึงระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม อีกทั้งยังมีอัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิล 4 สูบขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 94 แรงม้า

3. NEW Nissan Almera

NEW Nissan Almera เป็นรถยนต์สปอร์ตซีดานประหยัดน้ำมัน ที่มาพร้อมดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา พร้อมเสริมเทคโนโลยี Nissan Connect Services ที่สามารถสั่งการฟังก์ชันภายในรถได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ตโฟน ขับขี่เร้าใจด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 100 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTronicCVT และ D-Step Logic ขับเคลื่อนล้อหน้า เสริมด้วยระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น โดยมีอัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

4. Suzuki Swift

Suzuki Swift เป็นรถประหยัดน้ำมัน ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2023 ด้วยขนาดที่พอเหมาะกับการขับขี่ในเมือง และอัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร บวกกับแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ที่ทำให้รถมีโครงสร้างแข็งแรงขึ้นแต่น้ำหนักเบาลง พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร พร้อมเทคโนโลยีหัวฉีด DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT

5.New Honda City

New Honda City เป็นรถประหยัดน้ำมันที่มาพร้อมระบบฟูลไฮบริด e:HEV จากขุมพลังเครื่องยนต์มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตรตั้งแต่ออกตัว ส่วนในรุ่นเบนซินก็มาพร้อมเครื่องยนต์ VTEC TURBO แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า

ปักหมุดไว้เลย รับรถประหยัดน้ำมันคันใหม่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ได้ทราบ 6 อันดับรถประหยัดน้ำมันยอดนิยมในปี 2024 กันไปแล้ว ใครที่วางแผนจะออกรถใหม่ก็ต้องเตรียมความพร้อมในการรับรถให้ดี สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไปรับรถใหม่จะต้องเตรียมตัวหรือเช็กอะไรบ้างก็ไม่ต้องกังวล เพราะเรารวมมาให้แล้ว โดยมีทั้งหมด 3 ข้อดังนี้

ตรวจเช็กสภาพรถยนต์

สิ่งแรกที่ควรทำก่อนการรับรถก็คือ การตรวจเช็กสภาพรถยนต์ทั้งภายนอกและภายในอย่างละเอียด เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นรถยนต์มือหนึ่งก็อาจจะมีตำหนิ หรือมีการชำรุดเกินขึ้นได้ โดยจุดที่ควรสังเกตในเบื้องต้นมีดังนี้

ภายนอกตัวรถ

  • ตรวจสอบสภาพของสีรถยนต์ว่ามีความเงางามสม่ำเสมอ ไม่มีรอยขีดข่วนหรือหลุดล่อนของสี เว้นแต่รถมือสองอาจมีร่องรอยจากการใช้งานมาบ้าง แต่ต้องตรงกับที่เต็นท์หรือผู้ขายระบุไว้ว่ามีจุดใดบ้าง
  • ตรวจสอบโคมไฟหน้าต้องใสไม่เหลือง ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไม่มีริ้วรอย
  • ตรวจสอบฝากระโปรงว่ามีระยะห่างที่เรียบเสมอกับส่วนอื่น ๆ ของตัวรถ
  • ลองเปิด-ปิดประตูรถว่ามีอาการฝืดหรือติดขัดหรือไม่ พร้อมกับเช็กขอบยางต่าง ๆ ว่าอยู่ในสภาพที่ใหม่ ไม่ชำรุด
  • ตรวจเช็กอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินต่าง ๆ ทั้งสายพ่วงแบตเตอรี่ ยางอะไหล่ แม่แรง เครื่องมือช่างที่จำเป็นต้องใช้ ว่าครบหรือไม่
  • ตรวจเช็กล้อและยางต้องเป็นยางใหม่ สังเกตได้จากหนวดยางหรือสีที่สกรีนบนยางต้องอยู่ครบ ยางไม่มีรอยแตกลายงา

ภายในตัวรถ

  • ตรวจเช็กระบบไฟส่องสว่างทุกดวง ทั้งไฟหน้า ไฟหรี่ ไฟสูง ไฟเดย์ไลท์ ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟถอย ไฟฉุกเฉิน รวมถึงไฟในห้องโดยสาร ว่าติดครบทุกจุดหรือไม่
  • ตรวจสอบเบาะที่นั่งต้องไม่เปรอะเปื้อนหรือมีร่องรอยการฉีกขาด ถูกหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดีสำหรับรถใหม่ กรณีเบาะไฟฟ้าให้ทดลองการปรับระดับเพิ่มเติม
  • ตรวจเช็กยางปูพื้นและพรมปูพื้นว่ามีมาให้ครบหรือไม่
  • สตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อลองฟังเสียงของเครื่องยนต์ว่าเรียบปกติหรือไม่ ทดสอบเปิดเครื่องปรับอากาศ ลองปรับให้ครบทุกโหมด ทดสอบการทำงานของหน้าจอเครื่องเสียงและลำโพง
  • ทดลองเปิด-ปิดหลังคาซันรูฟ (ถ้ามี) ลองพับ-กางกระจกข้างกรณีควบคุมด้วยไฟฟ้า
  • ลองล็อกและปลดล็อกประตู เพื่อดูว่าระบบล็อกสามารถทำงานได้ปกติทุกบานหรือไม่หรือไม่
  • ตรวจเช็กภายในห้องเครื่องว่า ไม่มีน้ำมันซึมหรือรั่ว สภาพสายไฟ แบตเตอรี่

ตรวจสอบเอกสารให้ครบ

ก่อนที่จะรับรถใหม่ควรมีการตรวจสอบเอกสารสำคัญต่าง ๆ ให้ครบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง โดยเอกสารที่ควรเช็กในเบื้องต้นมีดังนี้

  • ตรวจดูเล่มสมุดทะเบียนว่าเลขตัวถังตรงตามที่ระบุในเล่มหรือไม่ รวมถึงตรวจเอกสารโอนรถ ครอบครองรถ และ พ.ร.บ.
  • ใบเสร็จรับเงินดาวน์รถที่เราจ่ายไป
  • เอกสารสัญญาเช่าซื้อกับทางไฟแนนซ์
  • ใบเสร็จค่ามัดจำป้ายแดง เพื่อนำมารับเงินมัดจำคืนเมื่อได้ป้ายขาว พร้อมตรวจสอบป้ายแดงว่ามีตรา ขส. อยู่หรือไม่ นอกจากนี้ยังควรตรวจเช็กสมุดคู่มือสำหรับรถป้ายแดงด้วยเช่นกัน
  • เอกสารรับประกันอุปกรณ์ และใบรับประกันการเช็กระยะ
  • หากมีการตกแต่งเพิ่มเติม ต้องเช็กเอกสารการรับประกันอุปกรณ์ตกแต่ง

เตรียมเงินเผื่อค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

อีกสิ่งหนึ่งที่ควรเตรียมไปให้พร้อมก็คือ เงิน เพราะในวันที่ไปรับรถ อาจจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่ามัดจำป้ายแดง ค่าอุปกรณ์ที่ติดเพิ่มเติม ค่าทำประกันรถยนต์ชั้น 1 (กรณีที่ศูนย์บริการไม่ได้แถมมาให้) ค่าน้ำมัน เป็นต้น

สรุปบทความ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 อันดับรถประหยัดน้ำมันที่ได้รับความนิยมในปี 2024 ที่เราได้รวบรวมมา สำหรับคนที่สนใจก็แนะนำว่าควรจะเข้าไปทดลองขับและสอบถามข้อมูลด้วยตัวเองที่ศูนย์บริการ และสำหรับคนที่วางแผนจะออกรถใหม่ก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อไปรับรถ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง

เลี่ยงได้เลี่ยง! 6 รุ่นรถมือสองกินน้ำมันมากที่สุด

16 เม.ย. 67 (13:07 น.) พิมพ์

เลี่ยงได้เลี่ยง! 6 รุ่นรถมือสองกินน้ำมันมากที่สุด

แชร์เรื่องนี้

คัดลอกลิงก์กดฟัง–กก+

การซื้อรถยนต์มือสองจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ก็จริง แต่ถ้าเป็นรถมือสองที่ขึ้นชื่อว่ากินน้ำมันมากที่สุดในตลาดแล้วล่ะก็ ไม่แน่ว่าเดือนหนึ่งจะต้องจ่ายค่าน้ำมันมากกว่าค่างวดรถเสียอีก จะมีรุ่นไหนบ้างนั้นไปดูกันเลย

7+ดูภาพทั้งหมด

1. Toyota Fortuner โฉมแรก

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โฉมแรก ยังคงถือว่าเป็นรถยอดนิยมในตลาดมือสอง อันจะเห็นได้จากราคาขายต่อที่ยังคงแข็งแบบสุดๆ รถสภาพดีบางคันยังมีราคาทะลุ 4 แสนบาทกันเลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ว่าฟอร์จูนเนอร์โฉมแรกถือว่ากินน้ำมันอย่างโหด โดยเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีอัตราบริโภคน้ำมันราว 7-8 กม./ลิตร เท่านั้น

7+ดูภาพทั้งหมด

2. Mitsubishi G-Wagon

Mitsubishi G-Wagon ถือเป็นรถอเนกประสงค์ที่มาก่อน Pajero Sport ในปัจจุบัน แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่เหมาะกับสายลุย ก็ยังเป็นรถที่หลายคนยังคงซื้อหามาเล่นกันอยู่ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราสิ้นเปลืองราว 7-8 กม./ลิตรเช่นเดียวกัน ต่อให้ขับทางไกลก็ยังถือว่ากินดุอยู่ดี

7+ดูภาพทั้งหมด

3. Mitsubishi Space Wagon

แม้ว่า Mitsubishi Space Wagon จะใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร แต่ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่โต มีน้ำหนักมาก ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองดีสุดทำได้ราว 6-7 กม./ลิตรเท่านั้น แต่นั่นก็แลกมาด้วยรูปลักษณ์ที่ยังคงสวยงามน่าใช้มาจนถึงปัจจุบัน

7+ดูภาพทั้งหมด

4. Nissan Teana (J31)

Nissan Teana โฉมแรกติดตั้งเครื่องยนต์แบบ V6 ขนาด 2.3 ลิตร ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ความเงียบและความนุ่มนวล แต่หากพูดถึงอัตราสิ้นเปลืองแล้วล่ะก็ รถคันนี้กินน้ำมันในระดับ 5-6 กม./ลิตรกันเลยทีเดียว และต่อให้ขับขี่ทางไกลก็ยากที่จะเห็นอัตราสิ้นเปลืองสองหลักอยู่ดี

7+ดูภาพทั้งหมด

5. Ford Escape / Mazda Tribute

Ford Escape และ Mazda Tribute ถือเป็นเอสยูวีที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกัน ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การขับขี่ที่เหนือกว่าเอสยูวีในยุคนั้น แต่ก็แลกมาด้วยเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร ที่กินน้ำมันดุเดือดแบบสุดๆ ด้วยตัวเลขเฉลี่ยราว 5-6 กม./ลิตรเท่านั้น และต่อให้ขยับไปเล่นรุ่นเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.3 ลิตรแล้วล่ะก็ ด้วยเรี่ยวแรงที่น้อยกว่า ทำให้อัตราสิ้นเปลืองไม่ดีไปกว่ากันเท่าไหร่นัก

7+ดูภาพทั้งหมด

6. Honda Accord 3.0 V6 (G7)

Honda Accord เจเนอเรชันที่ 7 มีเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตรมาเป็นทางเลือกสำหรับคนที่รักความแรง แต่ก็แลกมาด้วยการบริโภคน้ำมันแบบจุกๆ อยู่ที่ราว 5-6 กม./ลิตรเท่านั้น

เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรถมือสองที่ขึ้นชื่อว่ากินน้ำมันแบบสุดๆ หากใครอยากลองแนะนำรถรุ่นอื่นที่กินน้ำมันไม่แพ้รายชื่อเหล่านี้แล้วล่ะก็ ลองมาแชร์ที่กล่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างบทความกันดูนะครับ

Previous Post

N2309739 ยข มจนได เร อง part 2

Next Post

N2309296 สาม ทำเอ เลยเบลอเอาเร องส วนต วไปเล หน งส อส งคม part 2

Next Post
N2309296 สาม ทำเอ เลยเบลอเอาเร องส วนต วไปเล หน งส อส งคม part 2

N2309296 สาม ทำเอ เลยเบลอเอาเร องส วนต วไปเล หน งส อส งคม part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0511368 ใส ดรปภน ดเดทก บน กธ รก จคร งแรก part 2
  • N0511366 กเก บมาเล ยงด กว าล กในไส part 2
  • N0511365 เร องน คนท ยอมต องไม ใช part 2
  • N0511370 หว งด แต ทำไมถ งโดนตบ part 2
  • N0511460 ในว นท ไม เหล ออะไร part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.