ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
รถยนต์ประหยัดน้ำมัน 2023 รุ่นไหนดี รถรุ่นไหนประหยัดน้ำมันที่สุด 2566

รถยนต์ประหยัดน้ำมัน เป็นรถที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดมาก เนื่องจากในปัจจุบันราคาน้ำมันได้พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแม้แต่น้อย การหันมาใช้รถประหยัดน้ำมันจึงตัวทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ในการใช้งานที่จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ที่สำคัญก่อนทำการตัดสินใจซื้อขอให้ทุกคนลองพิจารณาหลาย ๆ รุ่น เพื่อทำการเปรียบเทียบถึงฟังก์ชันและราคาแต่ละรุ่นด้วย สำหรับรถยนต์ประหยัดน้ำมัน ในปี 2023 ที่ CARSOME นำมาฝากนั้นจะมีรุ่นใดที่น่าสนใจบ้าง ก็ไปติดตามกันได้เลย
ซื้อรถมือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน รับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาโปร่งใส คุ้มค่า ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินภายใน 30 วัน
| 10 รถยนต์ประหยัดน้ำมัน 2023 | 
|---|
| Suzuki SwiftMG HS PHEVToyota C-HRHonda HR-V e:HEVMitsubishi Outlander PHEVToyota Corolla Cross HybridMazda 2 2023Haval Jolion HybridVolvo XC60 T8Honda CITY e:HEV | 
10 อันดับ รถยนต์ประหยัดน้ำมัน รถที่ประหยัดน้ำมันที่สุด 2023
1. รถเล็กประหยัดน้ำมัน Suzuki Swift 2023

รถเล็กประหยัดน้ำมัน 2023 รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมที่ประหยัดน้ำมันสุดๆ รวมไปถึงดีไซน์ที่โดดเด่น คลาสสิกโดนใจสายวินเทจ สำหรับ Suzuki Swift (ซูซูกิสวิฟ) รุ่นใหม่นี้มาพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เช่นการตกแต่งด้วยกระจังหน้าแบบใหม่สีโครเมียม พร้อมกับไฟฟ้าแบบ LED Projector สามารถปรับระดับ สูง-ต่ำ พร้อมกับหลอดไฟ LED แบบ Day time running ส่วนทางด้านไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED สำหรับล้อนั้นมีขนาด 16 นิ้ว ลายใหม่ในรุ่น GLX แถมล่าสุดยังเพิ่มรุ่นพิเศษ Suzuki Swift 2023 (ซูซูกิสวิฟ 2023) รุ่น GL Next พร้อมชุดแต่งใหม่รอบคัน ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน K12M 4 สูบขนาด 1.2 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี DUALJET และแพลตฟอร์ม HEARTECT ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า และยังรองรับน้ำมันสูงสุด E20 เหมาะสำหรับเป็นรถขับในเมืองที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองได้เป็นอย่างดี
อัตราประหยัดน้ำมัน Suzuki Swift 2023
สำหรับ Suzuki Swift 2023 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 23 กิโลเมตร/ลิตร
2. รถยนต์ประหยัดน้ำมัน Toyota Yaris 2023


และแล้ว Toyota ก็กลับมาทวงบัลลังก์ รถยนต์ประหยัดน้ำมัน 2023 อีกครั้งด้วยการเริ่มต้นปล่อย All New Toyota Yaris ATIV มาก่อนพร้อมตามมาด้วยการปรับโฉม Toyota Yaris 2023 ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีตัวถังซีดานและ Hatchback แตกต่างกันแต่ทั้งคู่ก็มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตรจับคู่เกียร์อัตโนมัติ CVT-i ขับเคลื่อนล้อหน้าเหมือนกัน โดยใน Toyota Yaris 2023 ตัวถัง Hatchback จะมาพร้อมเอกลักษณ์ด้านหน้า Hammerhead ด้านในปรับเปลี่ยนหน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสให้เป็นแบบลอยตัวพร้อมตกแต่งคู่สีทูโทนใน 2 รุ่นทอปให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร เทียบกับ All New Toyota Yaris ATIV รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ที่เปิดตัวก่อนจะมาพร้อมตัวถัง Fastback หลังคาลาดยาวตามแนวด้านหลัง ให้กำลังสูงสุด 94 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร
อัตราประหยัดน้ำมัน Toyota Yaris 2023
สำหรับ Toyota Yaris 2023 และ Toyota Yaris ATIV 2023 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตรเท่ากัน
3. รถ 5 ประตูประหยัดน้ํามัน Toyota C-HR

อีกหนึ่ง รถ SUV ประหยัดน้ํามัน 2023 ที่น่าสนใจกับ Toyota C-HR รุ่นนี้เป็นรถ Crossover SUV ขนาดเล็ก 5 ที่นั่งที่มาพร้อมกับการออกแบบภายใต้แนวการสร้างยนตกรรมที่ดียิ่งกว่า มีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ สปอร์ต เฉียบคม และมีความล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีใหม่ 4 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่, โครงสร้าง TNGA, Toyota Safety Sense และ Telematics ที่สำคัญยังผสมผสานความอเนกประสงค์ของตัวรถเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมขุมกำลังไฮบริดเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เรียง 1.8 ลิตร ทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า แบตเตอรี่ไฮบริด อีกทั้งยังยังเป็นรถยนต์รุ่นเดียวที่ได้รางวัลรองรับมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชน (ASEAN N CAP) เรียกได้ว่ารุ่นนี้จัดเต็มทุกฟังก์ชันอย่างครบครันมากๆ
อัตราประหยัดน้ำมัน Toyota C-HR
สำหรับ Toyota C-HR มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 24.4 กิโลเมตร/ ลิตร
4. SUV ประหยัดน้ํามัน 2023 Honda HR-V e:HEV

สำหรับใครที่อยากรู้ว่า Honda รุ่นไหนประหยัดน้ํามัน ขอแนะนำ Honda HR-V e:HEV ซึ่ง Honda HR-V 2023 รุ่นนี้ถือว่าเป็น SUV ประหยัดน้ำมัน 2023 ที่น่าสนใจเพราะตัวรถยนต์มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มีจุดเด่นสำคัญในเรื่องการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Atkinson Cycle กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 131 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ Lithium-ion จึงเป็น รถยนต์เครื่อง 1.5 ประหยัดน้ํามันที่สุด สำหรับ Honda อีกทั้งยังปล่อยไอเสียเพียง 94 กรัม ต่อกิโลเมตรเท่านั้น ตามการทดสอบของภาครัฐ ทำให้ถือว่าเป็นรถที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีมากๆ นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังมีกว้างขวางสะดวกสบายและมาพร้อมกับเทคโนโลยีระดับพรีเมียมอย่าง ฮอนด้า เซนส์ซิง (Honda SENSING) ทั้งไลน์อัปอีกด้วย
อัตราประหยัดน้ำมัน Honda HR-V 2023
สำหรับ Honda HR-V e:HEV 2023 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 25.6 กิโลเมตร/ลิตร
5. รถ SUV ประหยัดน้ำมัน Mitsubishi Outlander PHEV (Plug-in Hybrid)

สำหรับใครที่มองหา รถเก๋งเครื่อง 1.8 ขึ้นไป ขอแนะนำ Mitsubishi Outlander PHEV SUV ประหยัดน้ํามัน ที่มาพร้อมกับห้องโดยสารขนาดใหญ่สไตล์พรีเมียม เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และมอเตอร์เพลาล้อหน้า-หลัง มอบกำลังรวมสูงสุด 305 แรงม้า กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 13.8 kW ที่วิ่งด้วย โหมด EV ซึ่ง Mitsubishi ได้เคลมว่าสามารถทำระยะทางได้ 55 กม. และสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 135 กม./ชม. นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดการขับเคลื่อน 3 แบบ ที่สามารถทำงานได้อัตโนมัติ ปรับได้ตามความเหมาะสม ได้แก่ EV Mode โหมดการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียว ๆ Series Hybrid Mode ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าผสานเครื่องยนต์ช่วยเสริมกำลัง และ Parallel Hybrid Mode โหมดขับเคลื่อนกำลังสูงสุด แสดงผลตอนเร่งแซงหรือขึ้นเขา
อัตราประหยัดน้ำมัน Mitsubishi Outlander PHEV
สำหรับ Mitsubishi Outlander PHEV มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 52 กิโลเมตร/ลิตร
6. รถยนต์เครื่อง 1.8 Toyota Corolla Cross Hybrid

สำหรับใครที่มองหา รถยนต์เครื่อง 1.8 ขอแนะนำ Toyota Corolla Cross Hybrid รุ่นนี้ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA-C ร่วมกับ Corolla Altis โฉมปัจจุบัน รวมถึง C-HR ภายนอกได้รับการออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยว แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 1.8 ลิตร โดยเป็นระบบไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดเจเนอเรชั่นที่ 4 ที่ถูกพัฒนาในส่วนแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทาน มีความประหยัดน้ำมันมากขึ้น ที่สำคัญยังใช้เครื่องยนต์เบนซินผสานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์ E-CVT และแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดราย ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 122 แรงม้า และยังมีจุดเด่นของพื้นที่ห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ถึง 487 ลิตร ทำให้บรรจุสัมภาระได้มากขึ้นด้วย
อัตราประหยัดน้ำมัน Toyota Corolla Cross Hybrid
สำหรับ Toyota Corolla Cross Hybrid มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

7. รถยนต์ประหยัดน้ำมัน Mazda 2 2023

ขึ้นชื่อว่าเป็น รถเก๋งที่ประหยัดน้ำมันที่สุด อีกคันหนึ่งสำหรับ Mazda 2 รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกที่เรียบแต่ยังคงความหรูหรา มีความโดดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์สกายแอคทีฟทั้งรุ่นรถเบนซินและ รถดีเซล ประหยัดน้ํามัน ได้เหนือกว่ารถ Eco Car เครื่องยนต์เบนซินบางรุ่น แถมมีให้เลือกทั้งตัวถังรถเก๋งซีดานและแฮทช์แบ็ก และเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้นด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศษ Rookie Drive Sports และ Clap Pop Sports ที่เน้นสีสันสดใส ซึ่ ที่สำคัญยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) เทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้าที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุลในทุกรุ่นย่อย เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้ทั้งความสะดวกสบายในการใช้งานที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกันด้วย
อัตราประหยัดน้ำมัน Mazda 2 2023
- สำหรับ Mazda 2 เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร (SKYACTIV-G) มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
 - สำหรับ Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร (SKYACTIV-D) มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 26.3 กิโลเมตร/ลิตร
 
8. รถ SUV ประหยัดน้ำมัน Haval Jolion Hybrid

เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ไปแล้วสำหรับหนึ่งใน SUV ที่ประหยัดน้ํามันที่สุด อย่าง Haval Jolion Hybrid จากเครือ GWM Thailand มาพร้อมกับยนตกรรมน้องใหม่จากประเทศจีน ซึ่งยังเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดเล็กพิกัด B-SUV ที่พ่วงด้วยขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม GWM LEMON ที่เป็นแบบเดียวกับตัว Haval H6 ในด้านขุมพลังเป็นแบบไฮบริด ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT ไปยังคู่ล้อหน้า มีระบบขับขี่ทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ Standard, Sport, ECO และ Rain ที่สำคัญยังมีระบบอัจฉริย (Intelligent Application) สามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน โดยสามารถควบคุมการล็อก-ปลดล็อกประตู, เปิด-ปิดระบบปรับอากาศ, ตรวจสอบสถานะหน้าต่างและหลังคาซันรูฟ, ตรวจสอบแรงดันลมยาง, ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง, ค้นหาตำแหน่งรถยนต์ รวมถึงระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมการใช้งานรถได้จากมือถือได้อีกด้วย
อัตราประหยัดน้ำมัน Haval Jolion Hybrid
สำหรับ Haval Jolion Hybrid มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 23.8 กิโลเมตร/ลิตร
9. รถยุโรป ประหยัดน้ํามัน Volvo XC60 T8

สำหรับ รถยุโรป ประหยัดน้ํามัน ฉบับสแกนดิเนเวียนที่ขึ้นชื่อในเรื่องพละกำลังและประหยัดน้ำมัน อย่าง Volvo XC60 T8 รถเก่งประหยัดน้ำมัน ขนาดกลาง ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Geartronic แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 10.4 kWh รวมพละกำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร มีสมรรถนะที่สูง และสามารถขับขี่ด้วย Pure Mode ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวได้ระยะทางไกลถึง 40 กม. ที่สำคัญยังมีการเพิ่มระบบกันสะเทือนและใช้ช็อกอัพ Ohlins แบบ Dual Flow Valve (DFV) ที่มีวาล์ว 2 ชุดแยกกัน ระหว่างช่วง Bump และ Rebound ช่วยเพิ่มความเร็วในการตอบสนองของช็อกอัพ และป้องกันการถ่ายเทความร้อนที่ส่งผลต่อแรงดันน้ำมันเมื่อมีการยืดยุบติดต่อกันเป็นเวลานาน
อัตราประหยัดน้ำมัน Volvo XC60 T8
สำหรับ Volvo XC60 T8 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 43.5 กิโลเมตร/ลิตร
10. รถเล็กประหยัดน้ำมัน Honda City e:HEV (Hybrid) 2023

สำหรับใครที่มองหา รถยนต์เครื่อง 1.5 รุ่นไหนดี 2023 ขอแนะนำ Honda City e:HEV (Hybrid) ตัวถังซีดานที่เพิ่งปรับโฉมใหม่ทำให้ Honda City 2023 กลับได้รับความนิยมของคนที่กำลังมองหา รถเล็กประหยัดน้ํามัน 2023 อีกครั้ง โดยในรุ่นนี้มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น e:HEV RS และรุ่น รุ่น e:HEV SV ที่ใช้ระบบฟูลไฮบริด e:HEV ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT โดยระบบจะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติ 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) อีกด้วย
อัตราประหยัดน้ำมัน Honda City 2023
สำหรับ Honda City 2023 e:HEV (Hybrid) มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 27.8 กิโลเมตร/ลิตร
สำหรับ รถยนต์ประหยัดน้ำมัน 10 รุ่นที่นำมาฝากกันในวันนี้จะเห็นได้ว่ามีราคาให้เลือกตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนราคาแบบพรีเมียม ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะที่ต่างกันออกไป ทำให้รถยนต์ประหยัดน้ำมันหลาย ๆ รุ่นที่เป็นแบบไฮบริดต่างก็มีราคาเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้ในการช่วยประหยัดน้ำมัน ซึ่งหากใครที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ ควรวางแผนเรื่องงบประมาณให้รอบคอบ อย่าลืมว่ายังต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าประกันต่าง ๆ ด้วยนั่นเอง 2
รถประหยัดน้ำมัน 2025 แบรนด์ไหนดีจนต้องจับตามอง

ผู้เขียน: Thirakan T Published: ธันวาคม 26, 2024

ตรวจทาน: Natthamon Last edited: ธันวาคม 23, 2024

อัปเดตข้อมูลรถประหยัดน้ำมันเผื่อเป็นตัวเลือก สำหรับคนที่ต้องการซื้อรถยนต์ที่ยังใช้งานเครื่องยนต์สันดาปอยู่ ยังไม่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ของรถไฟฟ้า ทาง แรบบิท แคร์ จึงได้ลองสร้างลิสต์รายการเกี่ยวกับรถประหยัดน้ำมัน2025 ขึ้นมา เพื่อรวบรวมรุ่นรถประหยัดน้ำมันที่คิดว่ามีประสิทธิภาพตอนโจทย์เรื่องความประหยัดเป็นหลัก รวมถึงมีราคาที่จับต้องได้ง่าย เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีการเซอร์วิสดี ใช้งานได้ยาวนาน ดูแลรักษาไม่ยากจนเกินไป
ทั้งนี้ยังเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับการนำเสนอรถประหยัดน้ำมัน ด้วยการคัดเลือกรุ่นที่มีราคาไม่เกิน 6 แสนบาท มานำเสนอเพิ่มเติม นอกเหนือจากรุ่นที่น่าสนใจ และสุดท้ายกับการตามหาคำตอบว่า รถประหยัดน้ำมัน 2024 ปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยกี่กิโลเมตรต่อลิตรบ้าง ช่วยคลายความสงสัย ถึงความประหยัดที่สัมผัสได้จริงจากการใช้งาน
10 รถประหยัดน้ำมัน
ลิสต์รายการ 10 รุ่นรถประหยัดน้ำมันที่ดีจนต้องจับตามอง ได้แก่ Mitsubishi Attrage, Toyota Yaris Ativ, Suzuki Celerio, Toyota Yaris Cross, Honda City Hatchback e:HEV, NEW Nissan Almera, Suzuki Swift, New Honda City, Mazda 2 Hatchback Skyactiv-D และ Honda HR-V e:HEV ถ้าดูจากภาพรวมของทั้งหมด 10 รุ่นที่กล่าวมา จะเป็นรถประหยัดน้ำมันแบรนด์ยอดฮิตในประเทศไทยทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถประหยัดน้ํามัน honda ที่โดดเด่นมายาวนาน กับคู่แข่งคนสำคัญ Toyota ที่สรรค์สร้างนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ ๆ ออกมาให้เราได้ชมกันเกือบทุกปีในช่วงเวลานี้ และแบรนด์อื่น ๆ ที่เข้ามาท้าชิงในตลาดรถประหยัดน้ำมันอีกหลายราย สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลที่น่าสนใจของแต่ละรุ่นเพิ่มเติมได้ดังต่อไปนี้
- Mitsubishi Attrage อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.29 แสนบาท
 - Toyota Yaris Ativ อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 94 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.49 แสนบาท
 - Suzuki Celerio อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 20.8 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 68 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 3.38 แสนบาท
 - Toyota Yaris Cross อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 26.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 7.89 แสนบาท
 - Honda City Hatchback e:HEV อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 27.8 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 7.29 แสนบาท
 - NEW Nissan Almera อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.49 แสนบาท
 - Suzuki Swift อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.67 แสนบาท
 - New Honda City อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 38.8 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.99 แสนบาท
 - Mazda 2 Hatchback Skyactiv-D อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 26.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร (เครื่องยนต์ดีเซล) กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 6.54 แสนบาท
 - Honda HR-V e:HEV อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 25.6 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 9.79 แสนบาท
 
หลาย ๆ รุ่นรถประหยัดน้ำมัน 2024 มักจะเป็นการใช้เครื่องยนต์ควบกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่สูงขึ้น กับอัตราสิ้นเปลืองพลังงานที่ประหยัดมากกว่าเดิม ดังนั้นหากมีงบประมาณเพิ่มขึ้น การตัดสินใจเลือกรถประหยัดน้ำมันที่มีระบบไฮบริด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเช่นเดียวกัน
รถประหยัดน้ำมัน ราคาถูก ไม่เกิน 6 แสนบาท
หลังจากที่เราได้รับชมข้อมูลรถประหยัดน้ํามัน 2024 มาหลายรุ่นแล้ว ในหัวข้อนี้ แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนมาดูรุ่นรถประหยัดน้ำมันในช่วงราคาเริ่มต้นไม่เกิน 6 แสนบาท เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนอยากประหยัดงบประมาณในการออกรถ โดยจะมีนำเสนอเพิ่มเติมจากหัวข้อรถประหยัดน้ำมันด้านบน ประมาณ 5 รุ่น คือ Mazda 2, Nissan March, Nissan Note e:Power, Suzuki Ciaz และ Mitsubishi Mirage รายละเอียดรถประหยัดน้ำมันเพิ่มเติมทั้งหมดที่กล่าวมา ลองดูกันได้จากลิสต์ด้านล่างนี้เลย
- Mazda 2 อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.3 ลิตร กำลังสูงสุด 93 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.99 แสนบาท
 - Nissan March อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 20 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 4.2 แสนบาท
 - Nissan Note e:Power อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 28.8 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 82 แรงม้า (ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า อาจมีกำลังสูงสูดเพิ่มขึ้นอีก) ราคาเริ่มต้น 5.57 แสนบาท (ราคาเปิดตัวจากทางประเทศญี่ปุ่น ยังไม่รวมภาษีและราคาทางการในประเทศไทยยังไม่ได้กำหนด)
 - Suzuki Ciaz อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 20 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 3.78 แสนบาท (ปัจจุบันขายหมดแล้ว)
 - Mitsubishi Mirage อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 22.8 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.09 แสนบาท
 
และทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมของรถประหยัดน้ำมัน ที่มีช่วงราคาไม่เกิน 6 แสนบาท และยังมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยที่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก ช่วยให้เราประหยัดได้ทั้งงบประมาณในการออกรถ กับค่าน้ำมันในอนาคตที่ต้องแบกรับ ใครที่กำลังวางแผนซื้อรถประหยัดน้ำมัน 2024 โดยที่ไม่ได้ต้องฟังก์ชัน หรือสเปกรถคันใหญ่มากนัก เหล่ารายชื่อรถประหยัดน้ำมันที่เราเสนอมาทั้งหมด รับรองเลยว่าต้องมีถูกใจกันแน่นอน

เฉลี่ยรถประหยัดน้ำมัน กี่ กิโล ต่อลิตร
สรุปข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยว่ารถประหยัดน้ำมัน กี่กิโลต่อลิตรกันแน่? คำตอบ คือ รถประหยัดน้ำมัน 2024 ที่ดี ควรจะต้องมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยตั้งแต่ 20-21 กิโลเมตร/ลิตรขึ้นไป ไม่อย่างนั้นจะถือว่าอยู่นอกเกณฑ์รถประหยัดน้ำมัน ยิ่งถ้ามีการใช้ระบบไฮบริด ควบรวมมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยแล้ว ยิ่งควรจะต้องมีประสิทธิภาพในการเป็นรถประหยัดน้ำมันที่มากขึ้นด้วย แต่ทั้งนี้ค่าตัวเลขที่หลายแบรนด์เคลมเอาไว้ อาจเป็นเพียงค่าเฉลี่ยที่ได้จากการพิสูจน์หลายรูปแบบ ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคนอีกทีหนึ่ง ว่าขับขี่บนท้องถนนลักษณะแบบไหน เจอการจราจรที่ติดขัดมากน้อยเพียงใด
คำแนะนำเพิ่มเติม หากต้องการรู้ว่ารถประหยัดน้ำมันที่เราใช้งานอยู่ มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยเท่าไหร่ ให้สังเกตที่หน้าปัดรถยนต์ได้เลย เพราะในรถประหยัดน้ำมันรุ่นใหม่ส่วนมาก จะมีค่าเฉลี่ยแจ้งเอาไว้แบบเรียลไทม์ตอนที่เราขับขี่ได้ระยะทางประมาณหนึ่ง หรือบางรุ่นที่มีค่าเฉลี่ยรวมการเดินทางทั้งหมดของรถ เพื่อเป็นการแจ้งตัวเลขการคำนวณของระบบที่ชัดเจน ถึงการขับขี่ของเราว่าสิ้นเปลืองมากน้อยแค่ไหน
รถประหยัดน้ำมันทำประกันคุ้มไหม
รถประหยัดน้ำมันทำประกันคุ้มไหม? คำตอบนี้ไม่ยากเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นรถประหยัดน้ำมัน2024 รุ่นใหม่ รุ่นเก่า หรือรถยนต์รุ่นอื่น ๆ การเลือกทำประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มค่าได้มากที่สุด ตามความเหมาะสมในการใช้งานรถยนต์ของเรา เช่น หากเราใช้งานรถยนต์เพื่อเดินทางไปทำงาน การเลือกทำประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองได้อย่างครอบคลุม ภายใต้ค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสม ย่อมสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้งานรถได้อย่างมหาศาลอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องสนใจว่าคุณจะใช้งานรถประหยัดน้ำมันหรือรถยนต์รุ่นไหนอยู่ หากต้องการเพิ่มความอุ่นใจ ความปลอดภัยในทุกการขับขี่ ประกันถือเป็นอีกสิ่งที่ควรพิจารณา
พออ่านมาถึงตรงนี้แล้วการตัดสินใจซื้อรถประหยัดน้ำมันของคุณ คงเป็นอะไรที่ชัดเจนมาขึ้น รวมถึงการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ด้วย แต่ถ้ายังไม่มั่นใจเรื่องประกันรถยนต์ ยังอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม อยากมีคนที่ช่วยนำเสนอในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา สามารถติดต่อหา แรบบิท แคร์ มาได้เลยที่เบอร์ 1438 (24 ชม.) เพราะเรามีตัวเลือกจากบริษัทประกันภัยชั้นนำระดับประเทศให้เลือก มากถึง 30 แห่ง และยังมีโปรโมชันส่วนลดสูงสุดถึง 70% หรือจะเลือกผ่อน 0% นานถึง 10 เดือนก็มีให้!
สรุป
บทความนี้แนะนำให้ผู้อ่านรู้จักรถหรูและรถที่แพงที่สุดในโลกจากหลากหลายประเทศ เช่น ยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน โดยแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นด้านดีไซน์ เครื่องยนต์ และประสิทธิภาพที่น่าทึ่ง เช่น Rolls-Royce Boat Tail ที่มีราคาสูงถึง 890 ล้านบาท หรือ Ferrari 250 GTO ที่ถูกประมูลในราคากว่า 1.8 พันล้านบาท พร้อมทั้งกล่าวถึงรถหรู 4 ประตูและ 7 ที่นั่งที่แพงที่สุด รวมถึงแบรนด์เด่นในแต่ละภูมิภาค นอกจากนี้ยังเน้นให้ความสำคัญกับการดูแลรถยนต์และการเลือกประกันที่เหมาะสมเพื่อปกป้องรถคันโปรดของคุณ โดยแนะนำการบริการจากแรบบิท แคร์ เพื่อความอุ่นใจในทุกการเดินทาง…
	    	
		    
