ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
รวม 5 รถอีโคคาร์มือสองสุดคุ้ม ขับประหยัดน้ำมัน ปี 2025
ในยุคที่ราคาน้ำมันมีความผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเลือกใช้รถยนต์ที่ประหยัดพลังงานจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการเดินทางที่ชาญฉลาด “รถอีโคคาร์” หรือ Eco Car คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยคุณสมบัติเด่นที่ออกแบบมาเพื่อการประหยัดน้ำมันสูงสุด มาพร้อมราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย และค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูงนัก บทความนี้ได้รวบรวม 5 รุ่นรถอีโคคาร์มือสองที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 โดยคัดเลือกจากอัตราสิ้นเปลือง สมรรถนะ และความคุ้มค่า เพื่อเป็นแนวทางให้คุณเลือกรถที่ใช่ที่สุด

มัดรวม 5 รุ่นรถอีโคคาร์มือสอง น่าใช้ ประจำปี 2025
เราได้คัดสรรรถอีโคคาร์มือสอง 5 รุ่นเด่นที่ตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันได้อย่างลงตัว แต่ละรุ่นมีคาแรกเตอร์และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เพื่อให้คุณได้พบกับรถที่ใช่ในสไตล์ของคุณมากที่สุด
1. Toyota Yaris Ativ

หากจะพูดถึงที่สุดแห่งอีโคคาร์ซีดาน คงต้องยกให้ Toyota Yaris Ativ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถรุ่นพี่อย่าง Camry ทำให้ตัวรถดูหรูหราพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยทำได้ยอดเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร และที่สำคัญคือการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง Toyota Safety Sense (TSS) มาให้ครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ทำให้ Yaris Ativ ไม่ได้เป็นเพียงรถที่ประหยัด แต่ยังมอบความมั่นใจในทุกการเดินทาง ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและประหยัดค่าใช้จ่าย
ราคามือสองในตลาด:
- รุ่นปี 2022-2024 ราคาเริ่มต้นประมาณ 460,000 – 590,000 บาท*
 
2. Toyota Yaris

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความคล่องตัวและดีไซน์ที่ปราดเปรียว Toyota Yaris ในรูปแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู คือตัวเลือกที่โดดเด่นไม่แพ้กัน Yaris ใช้พื้นฐานและเครื่องยนต์เดียวกับ Yaris Ativ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความประหยัดและความทนทาน แต่มาในรูปลักษณ์ที่สปอร์ตและโฉบเฉี่ยวกว่า เหมาะกับการใช้งานในเมืองที่ต้องการความคล่องแคล่วสูง การพับเบาะหลังยังช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างอเนกประสงค์ มาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense (TSS) เช่นเดียวกัน ทำให้เป็นอีโคคาร์ที่ทั้งขับสนุก ปลอดภัย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
ราคามือสองในตลาด
- รุ่นปี 2022-2024 ราคาเริ่มต้นประมาณ 480,000 – 620,000 บาท*
 
3. Honda City 1.0 Turbo

ถัดมากับ Honda City 1.0 Turbo เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ จุดเด่นคือสมรรถนะที่ครบครันและแรงบิดที่มาในรอบต่ำ ขับสนุกเร้าใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีภายในห้องโดยสารมีความโปร่งโล่งและตกแต่งให้ความรู้สึกพรีเมียม ถือเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งความแรง ความประหยัด และภาพลักษณ์ที่ดูดีไปพร้อม ๆ กัน
ราคามือสองในตลาด
- รุ่นปี 2020-2023 ราคาเริ่มต้นประมาณ 450,000 – 600,000 บาท*
 
4. Nissan Almera

ถ้าหากความกว้างขวางของห้องโดยสารคือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก Nissan Almera คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด โดดเด่นด้วยพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่กว้างขวางให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในรถขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้การตอบสนองที่ดีและประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ ในรุ่นท็อปยังมีฟังก์ชันความปลอดภัยรอบคัน 360° Safety Shield มาให้ใช้งานอีกด้วย Almera จึงเป็นรถที่เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้น หรือคนที่มักจะมีผู้โดยสารร่วมทางไปด้วยบ่อย ๆ
ราคามือสองในตลาด
- รุ่นปี 2020-2023 ราคาเริ่มต้นประมาณ 380,000 – 520,000 บาท*
 
5. Suzuki Swift

ปิดท้ายด้วยขวัญใจสายสปอร์ตอย่าง Suzuki Swift อีโคคาร์แฮทช์แบ็กที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ด้วยดีไซน์ที่ดูมีสไตล์และช่วงล่างที่ขึ้นชื่อเรื่องการเกาะถนนและความสนุกในการขับขี่ ให้ฟีลลิ่งคล้ายรถโกคาร์ท เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร Dualjet อาจไม่ได้มีพละกำลังจัดจ้านเท่าคู่แข่ง แต่ก็ให้ความประหยัดน้ำมัน ด้วยน้ำหนักตัวถังที่เบา ทำให้ Swift เป็นรถที่ขับสนุกในเมือง มีความคล่องตัวสูง มุดซอกแซกง่าย และหาที่จอดสะดวก เหมาะกับคนที่รักการขับรถและต้องการรถที่สะท้อนตัวตนได้อย่างชัดเจน
ราคามือสองในตลาด
- รุ่นปี 2020-2023 ราคาเริ่มต้นประมาณ 370,000 – 480,000 บาท*
 
*หมายเหตุ: ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต สภาพรถ และปัจจัยอื่น ๆ
สรุปบทความ
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่กำลังมองหารถคันแรก นักศึกษาที่ต้องการรถขับไปเรียน หรือคนวัยทำงานที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รถอีโคคาร์มือสองทั้ง 5 รุ่นนี้คือทางเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์อย่างยิ่ง และสำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์มือสองสภาพดี Toyota Sure พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐาน Sure Certified by Toyota ที่ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดมากกว่า 280 จุด พร้อมการรับประกันคุณภาพ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับรถที่พร้อมใช้งานและดูแลครบจบทุกขั้นตอน แวะมาชมและทดลองขับคันจริงได้ที่โชว์รูมโตโยต้า ชัวร์ สาขาใกล้บ้านคุณ
รถยนต์ไฮบริดประหยัดน้ำมันอันดับต้นๆ ของปี 2025
ในบริบทของราคาน้ำมันที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ยานยนต์ไฮบริดแบบชาร์จไฟเอง (HEV) ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ เนื่องมาจากความสามารถในการประหยัดน้ำมัน
Báo Khoa học và Đời sống•02/07/2025
ตามที่คาดการณ์ไว้ โตโยต้า พริอุส ยังคงครองอันดับหนึ่ง ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 4.1 ลิตร/100 กม. ถือเป็นผู้บุกเบิกระบบไฮบริดและครองตำแหน่งนี้มานานกว่า 20 ปี พริอุสยังสร้างสถิติ โลก กินเนสส์ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.5 ลิตร/100 กม. ภายใต้สภาวะการขับขี่ที่เหมาะสม
Elantra Hybrid Blue โดดเด่นด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันเพียง 4.0 ลิตร/100 กม. สำหรับการใช้งานบนทางหลวง จุดเด่นของรุ่นนี้คือราคาที่แข่งขันได้และความน่าเชื่อถือสูง จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันแต่ยังคงความสะดวกสบายสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน
ถึงแม้จะไม่โด่งดังเท่าโตโยต้าหรือฮอนด้า แต่ Kia Niro Hybrid ก็โดดเด่นด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำและเสถียร เพียง 4.4 ลิตร/100 กม. ในทุกสภาพถนน ด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัด ใช้งานง่าย และประหยัดน้ำมันสูง จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ในเมือง
ในบางตลาด Camry ปี 2025 รุ่น LE มาพร้อมระบบไฮบริดมาตรฐาน ช่วยให้รถวิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตรต่อน้ำมันหนึ่งถัง Camry Hybrid ในเวียดนามมีสองรุ่นย่อย ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ราคา 1.46 และ 1.53 พันล้านดอง ตามลำดับ
Civic Hybrid 2025 ได้รับการยกย่องว่าเป็น “รถซีดานขนาดกะทัดรัดที่ดีที่สุดในกลุ่ม” ด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและความสมบูรณ์แบบระดับสูง อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยเพียง 4.8 ลิตร/100 กิโลเมตร และปัจจุบันจำหน่ายในเวียดนามภายใต้ชื่อ Civic e:HEV RS ในราคาเกือบ 1 พันล้านดองเวียดนาม
Accord Hybrid โดดเด่นด้วยพื้นที่กว้างขวาง อุปกรณ์ทันสมัย และการขับขี่ที่นุ่มนวล อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 4.9 ลิตร/100 กม. ถือเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในกลุ่มรถยนต์ซีดานไฮบริดขนาดใหญ่
แม้สมรรถนะจะไม่โดดเด่น แต่ Corolla Hybrid ก็โดดเด่นด้วยความทนทานสูง ต้นทุนการดำเนินงานต่ำ และราคาที่สมเหตุสมผล ในประเทศเวียดนาม Corolla Altis รุ่น 1.8HEV มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 4.76 ลิตร/100 กม. และราคาจำหน่ายประมาณ 870 ล้านดองเวียดนาม
รถเก๋ง D-class จากเกาหลีทำคะแนนได้สูงด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันบนทางหลวง (4.6 ลิตร/100 กม.) และค่าเฉลี่ยรวมเพียง 5.0 ลิตร/100 กม. ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่เดินทางไกลบ่อยครั้งและต้องการรถยนต์ที่ขับขี่ได้อย่างราบรื่นและมีเสถียรภาพ
แม้จะหนักกว่า Toyota Camry เนื่องจากมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอนด์มากมาย แต่ Lexus ES300h ยังคงมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่น่าพอใจเพียง 5.3 ลิตร/100 กม. นับเป็นรถซีดานไฮบริดหรูที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในปัจจุบัน คาดว่าตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ES จะเข้าสู่เจเนอเรชันใหม่พร้อมระบบส่งกำลังไฮบริดที่ได้รับการอัพเกรดอย่างแข็งแกร่ง
Lexus UX รุ่นอัปเกรดเล็กน้อยนี้มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบเดียวกับ Toyota Prius และ Corolla Hybrid ผสานกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่นใหม่ เมื่อเทียบกับ UX250h รุ่นเก่า UX300h มีสมรรถนะที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในกลุ่มรถครอสโอเวอร์หรูขนาดเล็ก อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพียง 5.5 ลิตร/100 กม.
	    	
		    
