ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
3 รถ SUV มือสองไม่เกินล้าน ที่จะขับเที่ยวกับครอบครัวก็ดี ขับเองก็สนุก ดีไซน์โฉบเฉี่ยว

Superbom·2022-11-03 12:12:01

รถครอบครัวถือว่าเป็นรถอีกหนึ่งประเภท ที่มีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากเป็นรถที่ อำนวยความสะดวกของครอบครัว เวลาเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ทำให้รถประเภทนี้จะต้องมีขนาดที่ใหญ่ นั่งสบาย กำลังเครื่องตอบสนองยอดเยี่ยม มีระบบความปลอดภัยที่สูง
สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งราคาที่สูงเช่นกัน วันนี้เราจะมาแนะนำ 3 รถครอบครัวมือสอง งบไม่เกินล้านที่ซื้อแล้วใช่ได้ยาว ๆ โดยราคาอ้างอิงมาจาก CARSOME ประเทศไทย
2020 Mazda CX-30 2.0 SP
ราคา 957,543 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว)

เจ้าของรางวัล 1 ใน 3 รถยนต์ยอดเยี่ยมของโลกปี 2020 Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) รถ Crossover Suv ด้วยรูปทรงที่ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ภายในที่เรียบหรูสไตล์ Mazda พร้อมออปชั่นแบบจัดเต็มเทียบเท่ากับ Mazda 3 ไม่ว่าจะเป็นรถระบบความปลอดภัยที่ครบครันหรือฟังก์ชันการใช้งาน อีกทั้งยังได้หลังคา Sunroof อีกด้วย

โดยจุดเด่นของรถคือเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.0 ลิตร 1,998 cc ที่ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยม ทำให้รถขับได้อย่างสนุก ปราดเปรียว จะเที่ยวเขาหรือขับในเมือง ตัวรถก็สามารถที่จะพาคุณไปได้อย่างไม่ติดขัด แม้จะมีผู้โดยสารนั่งเต็มรถ พร้อมอัตราการประหยัดที่ดี แถมมี Paddle Shift และโหมด Sport ให้คุณได้ใช้อีกด้วย

เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่อยากได้รถแบบพาครอบครัวเที่ยวก็ได้ ขับไปทำงานก็ดี ในราคาที่ถูกกว่ามือหนึ่งเกือบ 3 แสนบาท
อ่านเพิ่มเติม :Review: Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์สไตล์คนเมือง
2019 Honda HR-V 1.8EL
ราคา 807,743 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) แม้ตัวถังอาจะไม่หล่อเท่ารุ่นใหม่ในปี 2021 แต่ในแง่ของการเป็นรถ Compact SUV รถคันนี้ถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่อยากได้รถ ที่มีการออกแบบห้องโดยสารที่ยอดเยี่ยมทั้งในฝั่งของผู้ขับและผู้โดยสารในตอนหลัง ออปชั่นการอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ความปลอดภัยที่ไว้ใจได้

สิ่งที่ทำให้รถรุ่นนี้น่าซื้อคือการที่เป็นรถที่มีเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะดี ด้วยเครื่องเยนซิน 1.8 แต่ดูง่าย ประหยัดน้ำ ทนทาน ต่อการใช้งานอีกทั้งยังมีราคาในการซ่อมบำรุงที่ไม่แพง

หากจะถามว่ารถคันนี้เหมาะกับใคร คำตอบคือเหมาะกับคนที่อยากได้รถที่ซื้อทีเดียวจบ ไม่ต้องการออปชั่นมากมาย แต่อยากได้รถที่ใช้ได้นาน ๆ การบำรุงรักษาที่ไม่แพง ที่สำคัญคือราคาขายต่อที่ดี ไม่ตกมาก คันนี้แนะนำเลย
อ่านเพิ่มเติม : Pros and Cons: New 2019 Honda HR-V รุ่นปรับโฉมคงราคาจำหน่ายเดิม
2019 Toyota C-HR MID 1.8
ราคา 798,113 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เอชอาร์) รถที่สร้างความฮือฮาให้กับ Toyota นับตั้งแต่เปิดตัวมา ที่มีรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว แตกต่างจากรถคันอื่น ๆ ในค่าย โดยจุดเด่นของรถรุ่นนี้คือการที่เป็นรถที่ขับสนุก ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.8 ลิตร พลัง 140 แรงม้า ที่แม้ว่าจะไม่ได้เครื่องยนต์ Hybrid แบบรุ่นท็อปหรือรองท็อป แต่รุ่น MID ก็มอบประสบการณ์ในการขับขี่ที่คุณไม่อาจจะได้ในรถคันอื่นใน Segment เดียวกัน ที่สำคัญยังมีอัตราเร่งช่วงต้นที่ดีกว่าอีกด้วย

อัดแน่ด้วยออปชั่นการใช้งานแบบจัดเต็ม พร้อมระบบความปลอดภัยชั้นยอด การันตีด้วยการรองรับมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชน (ASEAN N CAP) ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งดูแลผู้โดยสารทั้งคันรถ ถอยจอดและกะระยะอย่างปลอดภัยด้วยเซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง และเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 ตำแหน่ง พร้อมกล้องมองภาพขณะถอยจอด

ความคุ้มค่าของรถคันนี้ในราคาค่าตัวไม่เกิน 8 แสนนั้นถือว่าเหมาะสม โดยคนที่เหมาะกับรถรุ่นนี้อาจจะเป็นวัยทำงานที่เพิ่งสร้างครอบครัว ที่ไม่อยากได้รถใหญ่มากหรือมีห้องโดยสารที่ให้คนทั้งบ้านนั่งในสบาย แต่ก็ทดแทนด้วยความสนุกในการขับขี่ การบำรุงรักษาที่ง่าย และราคาขายต่อที่ดี
อ่านเพิ่มเติม : รู้จักที่มา Toyota C-HR หนึ่งในตัวอย่างที่ดีสำหรับการถ่ายทอดรถต้นแบบมาผลิตจริง
ตามหารถเหล่านี้ได้ที่ CARSOME มั่นใจในคุณภาพ พร้อมโปรพิเศษกว่าใคร

ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มือสองที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก CARSOME จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากแคมเปญ “Surprise Deal ยกทัพรับโปรปัง” ไปจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 นี้เท่านั้น โดยจะได้รับดอกเบี้ย 1.99% จากลีสซิ่งกสิกรไทยหรือเลือกรับส่วนลดสูงสุดถึง 20,000 บาท ขยายเวลารับประกัน 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
พร้อมรับฟรีกล้องติดรถจาก Xiaomi เมื่อโพสต์รีวิวบนเฟซบุ๊คเพจของ CARSOME Thailand และยังมีส่วนลดพิเศษสำหรับแพ็กเกจตรวจสภาพรถจากศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ของ OR สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและเงื่อนไขของแคมเปญ Super Deal ที่ลิงก์นี้
แนะนำรถ 7 ที่นั่งในงบไม่เกิน 1 ล้านบาท รุ่นไหนน่าสนใจบ้าง?
09 มี.ค. 58 (00:44 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ Sanook!Auto เคยแนะนำรถยนต์ใหม่น่าสนใจในงบไม่เกิน 1 ล้านบาทกันไปแล้ว คราวนี้ทีมงานขอเอาใจคนรักครอบครัวกันดูบ้าง ไปดูกันว่ารถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่งในตลาดปัจจุบันจะมีรุ่นใดบ้าง แล้วแต่ละรุ่นมีจุดเด่นต่างกันอย่างไร?
     1.Honda Mobilio 

เครื่องยนต์: เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC
กำลังสูงสุด: 120 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด: 145 นิวตัน-เมตร
ระบบเกียร์: CVT, ธรรมดา 5 สปีด
ราคา: 597,000 – 739,000 บาท
Honda Mobilio รถอเนกประสงค์น้องใหม่ล่าสุดในตลาด ที่ใช้พื้นฐานเดียวกับ City/Jazz แต่มีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับอีโคคาร์รุ่นเล็กอย่าง Brio แต่เมื่อนำมาเสริมท้ายให้ยาวขึ้น พร้อมดีไซน์ด้านหลังสไตล์สปอร์ต (ในรุ่น RS) ก็ดูสวยงามลงตัวไม่เบา
จริงๆแล้ว ‘โมบิลิโอ’ มีให้เลือกทั้งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง และ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน ภายในห้องโดยสารถูกยกมาจาก Brio เช่นกัน โดยเฉพาะแผงคอนโซลหน้าซึ่งอาจดูเชยไปนิด แต่ก็มาพร้อมฟังก์ชั่นครบๆอย่างเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน/USB/HDMI/AUX เป็นต้น
เบาะนั่งแถวที่ 2 (ในรุ่น V, RS) ยังสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง พร้อมปรับเอนได้ถึง 3 ระดับ ขณะที่เบาะแถว 3 ยังปรับได้อีก 2 ระดับ รวมถึงการแยกพับแบบ 50:50 มีระบบแอร์หลังแบบราวเหนือศีรษะผู้โดยสารแถวที่ 2 เย็นฉ่ำทุกที่นั่งแน่นอน
อ่าน Test Drive Honda Mobilio ใหม่ ตอบโจทย์คนรักครอบครัว
2.Honda Freed

เครื่องยนต์: เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC
กำลังสูงสุด: 118 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด: 144 นิวตัน-เมตร
ระบบเกียร์: อัตโนมัติ 5 สปีด
ราคา: 834,000 – 959,000 บาท
ครั้งหนึ่ง Honda Freed ถูกตั้งราคาแพงลิบลิ่ว แต่ปัจจุบันถูกหั่นราคาลงมาพอสมควร จึงถือว่าเป็นรถเอ็มพีวีที่คุ้มค่าที่สุดคันหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเป็นรุ่นเดียวที่มีประตูสไตด์แบบไฟฟ้า รวมถึงเบาะนั่งแถวที่ 2 ยังเป็นแบบแยกปรับอิสระราวกับรุ่นใหญ่อย่าง Odyssey ยังไงยังงั้น
ภายในติดตั้งแอร์ราวหลังคาบริเวณเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถกระจายความเย็นไปยังแถวที่ 3 ได้อย่างหายห่วง
อ่าน Test Drove Honda Freed กรุงเทพฯ – จ.ประจวบคีรีขันธ์
3.Suzuki Ertiga

เครื่องยนต์: เบนซิน 1.4 ลิตร VVT
กำลังสูงสุด: 95 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด: 130 นิวตัน-เมตร
ระบบเกียร์: อัตโนมัติ 4 สปีด, ธรรมดา 5 สปีด
ราคา: 554,000 – 689,000 บาท
แม้ว่ายอดขายของซูซูกิส่วนใหญ่จะเทไปทางอีโคคาร์ Swift เสียมากกว่า แต่สำหรับรถเอ็มพีวีอย่าง Ertiga ก็ถือเป็นรถน่าใช้คันหนึ่ง ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 6 แสนต้นๆ (รุ่น GL A/T ที่มีเบาะนั่งแถว 3 มาให้) พร้อมห้องโดยสารคล้ายกับที่พบใน Swift แม้ว่าภายในจะดูเรียบๆ แต่ช่วงล่างของ Ertiga ก็ยังไว้ใจได้ตามสไตล์ซูซูกิ
เบาะนั่งแถว 2 ของ Ertiga ยังสามารถปรับเอนและปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ รวมถึงช่องแอร์บริเวณเบาะนั่งแถวที่ 2 ช่วงกระจายความเย็นได้ทั้งคัน
4.Toyota Avanza

เครื่องยนต์: เบนซิน 1.5 ลิตร VVT-i
กำลังสูงสุด: 101 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด: 133 นิวตัน-เมตร
ระบบเกียร์: อัตโนมัติ 4 สปีด, ธรรมดา 5 สปีด
ราคา: 584,000 – 749,000 บาท
รถอเนกประสงค์คันเล็กจากค่ายยักษ์ใหญ่ ที่ยังคงครองใจผู้ที่ต้องการความทนทาน น่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่นในแบรนด์เป็นสำคัญ ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ก็มาพร้อมฟังก์ชั่นครบครัน
เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเลื่อนและเอนได้ ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถปรับพับ 50:50 ได้ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
5.Toyota Innova

เครื่องยนต์: เบนซิน 2.0 ลิตร VVT-i
กำลังสูงสุด: 136 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด: 182 นิวตัน-เมตร
ระบบเกียร์: อัตโนมัติ 4 สปีด, ธรรมดา 5 สปีด
ราคา: 859,000 – 1,119,000 บาท
หากใครมีงบขึ้นมาหน่อย Toyota Innova ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน แม้ว่าอายุตลาดจะนานพอสมควรแล้ว แต่ Innova ก็มีจุดเด่นที่บอดี้ขนาดใหญ่ ห้องโดยสารกว้างขวาง เพราะใช้แพล็ตฟอร์มเดียวกับ Fortuner นั่นเอง
เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 พร้อมที่วางแขน สามารถปรับเลื่อนได้ เบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับเก็บได้ พร้อมแอร์แถวที่ 2 และ 3 ให้ความเย็นสบาย
	    	
		    
