ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อับดับรถใหม่ 2018
10 อันดับรถใหม่ 2018
ที่จ่อคิวเข้าไทยแล้วในปีนี้
เข้าปีใหม่ทั้งที หลายคนก็คงมองหาสิ่งใหม่ๆอยู่ และพี่หมีเชื่อว่าหลายคนต้องกำลังมองหารถใหม่อยู่แน่ๆ พี่หมีเลยนำ 10 อันดับ รถใหม่ 2018 ที่กำลังจ่อคิวเข้าไทยกันอยู่มาฝากกัน เพื่อใช้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ ใครกำลังมองหารถใหม่ตามพี่หมีมาเลยคร้าบบบบ
1.Suzuki Swift 2018
Eco car เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความโฉบเฉี่ยว

ด้วยรูปทรงและรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หากใครชอบขับ Eco car ที่มีสไตล์ พี่หมีว่าไม่ควรพลาด Suzuki Swift 2018 ครับ ด้วยความสูงและความยาว ที่ลดลง10 mm. ฐานหน้ายื่นไปอีก 20 mm. แต่ฐานล้อกว้างเท่าเดิม ทำให้รถดูโฉบเฉี่ยวและเหมาะกับคนเมืองเป็นอย่างมาก แต่ยังคงต้องรออีกสักหน่อยนะครับ เพราะยังไม่มีข้อมูลว่า รถที่เข้าไทยจะเป็นเครื่องแบบไหน ส่วนเรื่องราคาก็คาดการณ์ว่าไม่น่าจะแพงกว่ารุ่นเดิม หรือประมาณ 5-6 แสนเท่านั้น
2.Mitsubishi Xpander 2018
แข็งแกร่งกว่าเดิมด้วยเครื่อง Mivec 1,500 cc. เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

หลายคนมองว่า Misubishi จะเน้นความแข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่สำหรับในปี 2018 ทุกคนจะได้เห็น Misubishi 2018 ที่แกร่งกว่าเดิมกับ Mitsubishi Xpander 2018 ที่มาพร้อมกับลายเส้นและการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Mivec 1,500 cc. เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ในราคา 6-7 แสน โดยประมาณ ใครชอบขับรถสไตล์นี้ก็เตรียมกระเป๋าตังค์รอได้เลยครับ
3.MG ZS 2018
รถครอสโอเวอร์รุ่นเล็กที่ครบครัน ในราคาสบายๆ

รถครอสโอเวอร์รุ่นเล็กจาก MG ที่ถือว่าตอนนี้กำลังได้รับความนิยมไม่ใช่น้อย ใครที่เป็นแฟนคลับของยี่ห้อนี้ ในปี 2018 คุณจะได้พบกับโฉมใหม่ที่มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เครื่องเบนซิน Turbo 1,000 cc. และเบนซิน 1,500 cc. ไม่มี Turbo ซึ่งหากเทียบราคากับรถประเภทเดียวกัน จะถือว่าคุ้มค่ามากๆ ราคา 6-8 แสน แต่คุณอาจจะได้อุปกรณ์มาตรฐานมากกว่ารถประเภทเดียวกันซะอีก
4.Toyota C-HR
ฟีเจอร์ที่ทันสมัยและดีไซน์ที่เข้มขึ้น

เปิดตัวมาแล้วครับกับรถครอสโอเวอร์ คู่แข่ง Honda HR-V และ Mazda CX-3 ที่ได้เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ สิ่งที่เพิ่มเติมจากรุ่นเก่า คือ คุณจะได้มีฟีเจอร์ที่ทันสมัยและดีไซน์ที่ดูเข้มมากขึ้น แต่ไม่ถึงกับดุดันมากจนเกินไป เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 1.2 ลิตร และ 1.8 ลิตร ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ประมาณล้านต้นๆ
5.Mazda CX-5 2018
เพิ่มประสิทธิภาพด้วย Skyactiv Drive 6 สปีด

รถครอสโอเวอร์ขนาดกลาง 5 ประตู ที่มีมาให้เลือกทั้งเครื่องเบนซินและดีเซล สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล สิ่งที่เปลี่ยนไปจากรุ่นเดิม คือคุณจะเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv Drive 6 สปีด ที่ได้พัฒนาให้มีมีประสิทธิภาพดีขึ้น ช่วยลดรอบเครื่องยนต์เมื่อขับในย่านความเร็วเดินทางและยังแต่งห้องโดยสารให้หรูหรากว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งราคาก็จะอยู่ประมาณล้านต้นๆ เช่นกันครับ
6.Subaru XV 2018
ชุดใหญ่ไฟกระพริบ เปลี่ยนใหม่หมด ตั้งแต่ไฟหน้า สปอยเลอร์ และไฟท้าย

คงเป็นยี่ห้อรถในใจของใครหลายๆคน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและสมรรถภาพชั้นเยี่ยม ภายในราคาล้านต้นๆ ส่วนรุ่นใหม่ที่เรากำลังจะพบกันในปี 2018 นี้ Subaru จะมาพร้อมกับความใหม่เอี่ยม ตั้งแต่ไฟหน้า สปอยเลอร์ ไฟท้าย จะเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด รับรองว่าสมกับการรอคอยอย่างแน่นอนครับ
7.Toyota Camry 2018
พลิกโฉมใหม่ เพิ่มความทันสมัยให้กับผู้ขับขี่

จากกระแสก่อนหน้า ว่าขับ Camry แล้วดูสูงวัยไปหน่อย Toyota จึงปรับมาพลิกโฉมใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น เพื่อแข่งกับรถประเภทเดียวกัน อย่าง Accord 2018 ที่จ่อคิวเข้าไทยเหมือนกัน ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างชัดเจนว่าเครื่องที่เข้าไทยจะเป็นเครื่องยนต์แบบไหน แต่ได้คาดการณ์กันไว้ว่าน่าจะเป็น Hybrid 2,500 cc. พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งในส่วนของราคาก็คาดว่าไม่น่าหนีจากรุ่นเดิมมากนัก หรืออยู่ที่ประมาณ 1,500,000 บาท
8.Honda Accord 2018
ด้านในเพิ่มความสปอร์ตให้ความรู้สึกเหมือนขับรถยุโรป

ในปี 2018 นี้ Honda ได้ปรับแต่งภายในให้มีความคล้ายกับ BMW อย่างมาก ทำให้ดูโฉบเฉี่ยวและทันสมัยมากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ 2,000 cc. Turbo ส่วนเรื่องราคาจะไม่เพิ่มจากเดิมมาก ประมาณ 1.5-1.6 ล้าน เพราะต้องการตีตลาดรถ SUV ที่กำลังเป็นที่นิยมมากในตอนนี้
9.Hyundai Tucson 2018
ล้ำด้วยเทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและฟังก์ชั่นตัดสินใจเองแบบ AWD

แม้จะไม่ค่อยพบมากตามท้องถนน แต่ Hyundai ก็ยังสามารถครองใจใครหลายๆคนได้อยู่ดี ซึ่งรุ่นที่เข้าไทยจะเป็นเครื่อง ดีเซล Turbo ขนาด 2.0 ลิตร CDRI 185 แรงม้า พร้อมกับเกียร์ อัตโนมัติ 6 สปีดและฟังก์ชั่นขับเคลื่อนทุกล้อที่ตัดสินใจเองแบบ AWD เมื่อรถเกิดการลื่นไถล เรื่องราคาของรุ่นนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้าน ซึ่งนับว่าเป็นราคาที่แพงเอาเรื่อง แต่ถ้าคิดถึงความปลอดภัย พี่หมีว่าก็น่าสนใจนะครับ
10.Nissan Navara PPV 2018
ว่ากันว่า เหมือนขับเบนซ์แต่ลุยได้

เป็นที่สงสัยและรอคอยกันมาเป็นเวลานาน ว่าโฉมหน้าของ Nissan Navara PPV 2018 จะเป็นอย่างไร ซึ่งโดยข้อมูลแล้วทาง Nissan ไม่มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด แม้แต่ชื่อเรียกที่แท้จริงก็ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการเลย แต่ก็มีการคาดกันไว้ว่า น่าจะให้ความรู้สึกเหมือนขับ Mercedes-Benz ในร่างที่พร้อมสมบุกสมบันก็เป็นได้!!
ล้อแม็ก คืออะไร? รีวิว 10 แบรนด์ชั้นนำ ล้อแม็กขอบ 18 ที่จะทำให้รถคุณสุดเท่

ล้อแม็กขอบ 18 เป็นอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2025 เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับรถแล้ว ยังช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ได้อีกด้วย วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ 10 แบรนด์ล้อแม็กขอบ 18 คุณภาพดีที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสุดยอดประจำปี พร้อมเทคนิคการเลือกแม็กรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานและสไตล์ของแต่ละคน
ข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับล้อแม็กขอบ 18
ล้อแม็กขอบ 18 ที่มีจำหน่ายในตลาดล้อแม็กรถยนต์ปัจจุบันนั้น มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบตามความชอบและความต้องการของแต่ละบุคคล ตั้งแต่ล้อแม็กสวย ๆ ที่เน้นความโดดเด่นไปจนถึงล้อแม็กที่คำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก อย่างไรก็ตามหากจะแบ่งประเภทของล้อแม็กตามลักษณะพื้นฐานแล้ว ก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ตามที่จะกล่าวถึงในลำดับถัดไป ซึ่งแต่ละประเภทก็จะให้อารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและรสนิยมเฉพาะบุคคลเป็นสำคัญนั่นเอง
ล้อแม็ก มีกี่ประเภท?
แม็กรถยนต์ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการเริ่มต้นแต่งรถ โดยเฉพาะล้อแม็ก 18 ที่ให้ความลงตัวระหว่างสมรรถนะและความสวยงาม ความหลากหลายของล้อแม็กสวย ๆ ในท้องตลาดสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่แตกต่างของผู้ใช้รถ ทั้งในแง่ของสไตล์ การใช้งาน และสมรรถนะ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้
1. ล้อแม็กจาน (Disc Type)
ล้อแม็กประเภทนี้มีลักษณะเด่นคือพื้นผิวที่เรียบเนียนเป็นแผ่นเดียวกัน มีช่องระบายอากาศน้อย ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและมั่นคง เหมาะสำหรับแม็กรถกระบะหรือรถ SUV ขนาดใหญ่ ล้อแม็กแบบนี้มีข้อดีคือทนทานต่อการใช้งานหนัก และดูแลรักษาง่าย แต่อาจมีข้อเสียในเรื่องของน้ำหนักที่มากกว่าแบบอื่น
2. ล้อแม็กก้านเล็ก (Fin Type)
ล้อแม็กประเภทนี้มีลักษณะเด่นด้วยก้านล้อ (spoke) ที่บาง เพรียว และมีจำนวนมาก ให้ความรู้สึกปราดเปรียวและดูสปอร์ต เหมาะสำหรับใช้เป็นแม็กรถเก๋ง รถยนต์สมรรถนะสูง หรือรถสปอร์ต ข้อดีของล้อแม็กแบบนี้คือน้ำหนักที่เบา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ และการระบายความร้อนที่ดี แต่อาจมีข้อเสียในเรื่องความทนทานที่น้อยกว่าแบบอื่นเมื่อต้องรับน้ำหนักมาก
3. ล้อแม็กก้านใหญ่ (Spoke Type)
ล้อแม็กประเภทนี้มีลักษณะเด่นด้วยก้านล้อที่หนาและแข็งแรง มักมีขอบล้อที่ยื่นออกมานอกหน้ายาง ให้ความรู้สึกบึกบึนและพร้อมลุยทุกสภาพถนน เหมาะสำหรับรถยนต์ออฟโรดหรือรถที่ต้องใช้งานในพื้นที่ทุรกันดาร ข้อดีของล้อแม็กแบบนี้คือความแข็งแรงทนทานสูง รองรับการใช้งานหนักได้ดี แต่อาจมีข้อเสียในเรื่องของน้ำหนักที่มากและอาจส่งผลต่อการประหยัดน้ำมัน
4. ล้อแม็กลายตาข่าย (Mesh type)
ล้อแม็กประเภทนี้มีลักษณะเด่นด้วยการออกแบบที่ซับซ้อน มักมีลวดลายหรือรูปทรงที่ประณีต บางรุ่นอาจมีการผสมผสานระหว่างก้านล้อแม็กขนาดต่างๆ หรือมีการเพิ่มมิติด้วยสีสันหรือพื้นผิวที่แตกต่าง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความโดดเด่นเป็นพิเศษ ข้อดีของล้อแม็กแบบนี้คือความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ แต่อาจมีข้อเสียในเรื่องของการดูแลรักษาที่ยากกว่าแบบอื่น และอาจมีล้อแม็กราคาสูงกว่าเนื่องจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน
ขนาดของล้อแม็กเขาวัดจากอะไร
การวัดขนาดของล้อแม็กเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้รถควรทราบ โดยทั่วไป ขนาดของล้อแม็กจะวัดจากเส้นผ่านศูนย์กลางของขอบล้อ ซึ่งวัดจากด้านในของขอบล้อด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง สำหรับล้อแม็กขอบ 18 นั้นหมายถึงล้อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 18 นิ้ว นอกจากนี้ ยังมีมิติอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น ความกว้างของขอบล้อ และระยะออฟเซ็ต ซึ่งเป็นระยะห่างระหว่างจุดกึ่งกลางของความกว้างล้อกับพื้นผิวยึดติดกับดุมล้อ
ส่วนประกอบสำคัญของล้อแม็ก
- ขอบล้อ (Rim): ส่วนวงกลมด้านนอกที่ยางสัมผัส
 - ก้านล้อ (Spoke): ส่วนที่เชื่อมระหว่างขอบล้อกับศูนย์กลาง
 - ศูนย์กลางล้อ (Hub): จุดกึ่งกลางของล้อที่ยึดติดกับเพลา
 
ตัวอย่างวิธีการอ่านขนาดยางที่ใช้สำหรับล้อแม็กขอบ 18
การอ่านขนาดยางสำหรับล้อแม็กขอบ 18 อย่างถูกต้องเป็นทักษะสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจในการแต่งแม็กรถเก๋งหรือแม็กรถกระบะ ยางสำหรับล้อแม็ก 18 นั้น มีรายละเอียดที่ต้องพิจารณามากกว่าแค่ตัวเลข 18 เพียงอย่างเดียว ลองมาดูตัวอย่างการอ่านขนาดแม็กรถยนต์แบบละเอียดกัน
ตัวอย่าง : 245/40R18 97Y
- 245 : แสดงถึงความกว้างของยางในหน่วยมิลลิเมตร ในที่นี้คือ 245 มิลลิเมตร
 - 40 : เป็นอัตราส่วนความสูงของแก้มยางเทียบกับความกว้าง (Aspect Ratio) ในที่นี้คือ 40% ของความกว้าง
 - R : บ่งบอกถึงโครงสร้างยางแบบเรเดียล (Radial) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับยางรถยนต์สมัยใหม่
 - 18 : ระบุขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อแม็กในหน่วยนิ้ว ซึ่งในกรณีนี้คือแม็กขอบ 18
 - 97 : เป็นดัชนีบ่งชี้ความสามารถในการรับน้ำหนัก (Load Index) โดย 97 สามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 730 กิโลกรัมต่อล้อ
 - Y : แสดงถึงอัตราความเร็วสูงสุดที่ยางสามารถรองรับได้อย่างปลอดภัย โดย Y หมายถึงความเร็วสูงสุดที่ 300 กม./ชม.
 
การเข้าใจความหมายของตัวเลขและตัวอักษรเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกยางที่เหมาะสมกับรถยนต์และการใช้งานของคุณได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแม็กขอบ 18 ที่มักจะใช้กับรถยนต์สมรรถนะสูงหรือรถที่ต้องการเน้นความสวยงามควบคู่ไปกับประสิทธิภาพการขับขี่
ประโยชน์หลักของการใช้งานล้อแม็ก
ล้อแม็กไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามให้กับรถยนต์เท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านสมรรถนะอีกด้วย การใช้ล้อแม็กคุณภาพดีสามารถช่วยปรับปรุงการขับขี่ของรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งล้อแม็กขอบ 18 ที่ให้ความสมดุลระหว่างน้ำหนักและความแข็งแรง ทำให้การควบคุมรถมีความแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ ล้อแม็กยังช่วยระบายความร้อนจากระบบเบรกได้ดีกว่าล้อเหล็ก ส่งผลให้ประสิทธิภาพการเบรกดีขึ้นโดยเฉพาะในการขับขี่ที่ต้องใช้ความเร็วสูงหรือในสภาพอากาศร้อน
ข้อดีของการใช้ล้อแม็ก
- น้ำหนักเบา: ช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของรถ ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
 - การระบายความร้อน: ช่วยให้ระบบเบรกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 - ความสวยงาม: เพิ่มความโดดเด่นให้กับรถยนต์
 - การควบคุม: ปรับปรุงการยึดเกาะถนนและการทรงตัวของรถ
 
10 แบรนด์ล้อแม็กขอบ 18 คุณภาพดี ยอดนิยม ในปี 2025
ในปี 2025 การเลือกล้อแม็กที่มีคุณภาพและสไตล์ที่โดดเด่นยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของรถยนต์ ล้อแม็กขอบ 18 นิ้วได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเนื่องจากให้สมดุลที่ดีระหว่างสมรรถนะและความสวยงาม ต่อไปนี้จะเป็นการแนะนำ 10 แบรนด์ล้อแม็กคุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปีนี้
ล้อแม็ก TE37

แม็ก TE37 ถือเป็นล้อแม็กขอบ 18 ในตำนานที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูดีมีเอกลักษณ์ ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงอย่างอลูมิเนียมผสม A6061 ผ่านกระบวนการขึ้นรูปด้วยความแม่นยำสูง ทำให้มีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา และมีความสมดุลที่ดีเยี่ยม สามารถรองรับแรงบิดและน้ำหนักได้อย่างยอดเยี่ยม จึงเหมาะกับการใช้งานในรถสมรรถนะสูงและรถแข่ง ที่ต้องการความเร้าใจและการควบคุมที่ดีเยี่ยม
ข้อดีของล้อแม็ก TE37
- ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เรียบง่ายแต่ดูดี ผลิตจากอลูมิเนียมผสม A6061 คุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทาน
 - ผ่านกระบวนการขึ้นรูปด้วยความแม่นยำสูง ทำให้มีความสมดุลที่ดีเยี่ยม น้ำหนักเบา แต่รองรับแรงบิดและน้ำหนักได้อย่างยอดเยี่ยม
 - เหมาะกับรถสมรรถนะสูงและรถแข่งที่ต้องการความเร้าใจและการควบคุมที่ดีเยี่ยม เป็นล้อแม็กขอบ 18 ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องยาวนาน
 
ปัจจุบันแม็ก TE37 ยังคงเป็นล้อแม็ก ที่ติดอันดับต้น ๆ ในใจของคนรักรถทั่วโลก ด้วยคุณภาพ ประสิทธิภาพ และดีไซน์อันโดดเด่น ทำให้คุณสามารถเพิ่มสมรรถนะและความสวยงามให้กับ รถคันโปรดของคุณ ได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่า เป็นล้อแม็กรถยนต์ระดับตำนานที่คู่ควรแก่การครอบครองเป็นอย่างยิ่ง
ล้อแม็ก VOSSEN

ล้อแม็ก VOSSEN เป็นศิลปะทางด้านวิศวกรรมชั้นสูง มีเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้การกดขึ้นรูปจากแท่งอลูมิเนียม ด้วยแรงอัดที่สูงมาก พวกเขาจึงสามารถออกแบบล้อแม็ก ได้หลากหลายรูปแบบ ล้อแม็ก ขอบ 18 ของ VOSSEN นั้น ทำด้วยมือจากช่างฝีมือในไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา มีขั้นตอนการผลิตที่ถือว่าเป็นงานศิลปะ มีคุณภาพที่ดี และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ ล้อแม็ก VOSSEN จะเป็นล้อแม็กราคาที่สูงมาก ๆ
ข้อดีของล้อแม็ก VOSSEN
- เป็นผลงานศิลปะทางวิศวกรรมที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง โดยการกดขึ้นรูปจากแท่งอลูมิเนียมด้วยแรงอัดสูงมาก ทำให้สามารถออกแบบล้อได้หลากหลายรูปแบบ
 - แม็กขอบ 18 ของ VOSSEN ผลิตด้วยมือโดยช่างฝีมือในไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านขั้นตอนการผลิตที่ประณีตราวกับงานศิลปะ
 - โดดเด่นด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยมและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนทำให้ล้อแม็ก VOSSEN มีราคาสูงมาก
 - การันตีด้วยชื่อเสียงในฐานะแบรนด์ล้อแม็กพรีเมียมที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
 
ล้อแม็ก BBS

เป็นแบรนด์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณในการแข่งขัน โลดแล่นอยู่ในวงการกว่า 37 ปี ล้อแม็ก BBS ทุกรุ่นถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีกดอัดแน่นที่ช่วยให้เป็นล้ออัลลอยที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง มีความโดดเด่นในการออกแบบตามมาตรฐานยุโรปที่เน้นคุณภาพสูงสุด ตั้งแต่ขั้นตอนการขึ้นรูปจนถึงขั้นตอนเก็บรายละเอียดขั้นสุดท้าย ล้อแม็ก ขอบ 18 BBS กำลังกลายเป็นแม็กรถยนต์ ที่ฮิตมากในตลาดตอนนี้ ใครที่เน้นคุณภาพและดีไซน์ที่คลาสสิค คงต้องตกหลุมรัก BBS อย่างแน่นอน
ข้อดีของล้อแม็ก BBS
- เป็นแบรนด์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันมานานกว่า 37 ปี
 - ใช้เทคโนโลยีการกดอัดแน่นในการผลิต ทำให้ล้อแม็ก BBS มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง
 - โดดเด่นด้วยการออกแบบตามมาตรฐานยุโรปที่เน้นคุณภาพสูงสุดในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การขึ้นรูปจนถึงการเก็บรายละเอียดขั้นสุดท้าย
 - ล้อแม็กขอบ 18 ของ BBS กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เน้นคุณภาพและดีไซน์แบบคลาสสิค
 
ล้อแม็ก KONIG

อีกแบรนด์แม็กรถยนต์ เพื่อสมรรถนะที่มีจุดเด่นในการออกแบบ คือ ล้อแม็ก KONING ล้อแม็ก ขอบ 18 ของพวกเขา มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่ง เน้นตอบสนองการใช้งานระดับ MotorSport ที่มีชื่อเสียงมากว่า 40 ปี KONING ยังเป็นเจ้าของแบรนด์แม็กรถยนต์ ชื่อดังอีกหลายยี่ห้อ เช่น Advanti Racing Maxxim, Bravado Performance, และ Mamba Off-road ล้อแม็ก ขอบ 18 ของ KONING ยังมีมาตรฐานที่เข้มงวด และเป็นผู้นำในเรื่องเทคโนโลยี Flow Forming อีกด้วย
ข้อดีของล้อแม็ก KONIG
- เป็นแบรนด์ที่มีจุดเด่นด้านการออกแบบล้อแม็กสำหรับสมรรถนะสูง
 - แม็กขอบ 18 ของ KONIG มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแกร่ง เน้นตอบสนองการใช้งานในระดับ MotorSport
 - เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 40 ปี และยังเป็นเจ้าของแบรนด์ล้อแม็กชื่อดังอีกหลายแบรนด์ เช่น Advanti Racing, Maxxim, Bravado Performance และ Mamba Off-road
 - มีมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวดและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Flow Forming
 
ล้อแม็ก RONAL

แบรนด์ล้อแม็กมาตรฐานยุโรป ที่ใช้นวัตกรรมและการออกแบบระดับสูงสุด จนกลายเป็นที่ยอมรับของรถยนต์ OEM ยุโรปหลากหลายรุ่น สร้างชื่อในการออกแบบ ล้อแม็ก ขอบ 18 สำหรับรถคลาสสิค มานานตั้งแต่ปี 1983 ล้อแม็ก RONAL เน้นหรูหราและมีมนต์เสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ผลิตจากโรงงานรักษ์โลก ซึ่งไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เลย แห่งแรกของโลกคือ รุ่น R70-Blue ที่ใครๆ ก็อยากได้เป็นเจ้าของ
ข้อดีของล้อแม็ก RONAL
- เป็นแบรนด์ล้อแม็กมาตรฐานยุโรปที่ใช้นวัตกรรมและการออกแบบขั้นสูงสุด จนได้รับการยอมรับจากรถยนต์ OEM ยุโรปหลากหลายรุ่น
 - สร้างชื่อเสียงด้วยการออกแบบล้อแม็กขอบ 18 สำหรับรถยนต์คลาสสิคมาตั้งแต่ปี 1983
 - มีเอกลักษณ์ในการออกแบบที่เน้นความหรูหราและมีมนต์เสน่ห์เป็นของตัวเอง
 - มีรุ่นพิเศษที่ผลิตจากโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เลย นั่นคือรุ่น R70-Blue
 
ล้อแม็ก AMERICAN RACING

ต้นกำเนิดของแนวคิดแม็กขอบ 18 เพื่อการแข่ง Drag ด้วยแนวคิดที่จะผลิตล้อที่แข็งแรงและน้ำหนักเบาสุด เพื่อเพิ่มความเร็วในการแข่งทางเรียบ ซึ่งนั่นทำให้เกิดการพัฒนาล้อแม็กซ์ แมกนีเซียม ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ และกลายเป็นต้นแบบของ American Racing Torq Thrust ที่มีดีไซน์ทันสมัยจนได้รับความนิยมในหมู่คนรักรถ และก่อตั้งเป็น American Racing ในที่สุด ล้อแม็ก ขอบ 18 ของพวกเขามีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นไปกับรถยนต์สไตล์ Muscle car อเมริกันเป็นอย่างมาก
ข้อดีของล้อแม็ก AMERICAN RACING
- เป็นผู้บุกเบิกแนวคิดการผลิตแม็กขอบ 18 สำหรับการแข่งขัน Drag โดยเน้นการผลิตล้อที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาที่สุด เพื่อเพิ่มความเร็วในการแข่งทางตรง
 - มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาล้อแม็กแมกนีเซียมน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ซึ่งกลายเป็นต้นแบบของล้อแม็ก American Racing Torq Thrust ที่มีดีไซน์ทันสมัยและได้รับความนิยมอย่างมาก
 - มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นและสอดคล้องกับสไตล์ของรถ Muscle car อเมริกันเป็นอย่างมาก
 - ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูงแบบอเมริกัน
 
ล้อแม็ก GRAM LIGHTS

หากพูดถึง ล้อแม็ก คุณภาพดี ที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำหนักเบาและแข็งแรง สำหรับใช้ในสนามแข่ง หลายๆ คนคงรู้จัก ล้อแม็ก RAYS ซึ่งล้อแม็ก GRAM LIGHTS ก็เป็นแบรนด์ที่อยู่ในเครือเดียวกัน GRAM LIGHTS เน้นด้านสมรรถนะ แต่จะใช้วิธีขึ้นรูปด้วยการหล่อ ในการสร้าง ล้อแม็ก ขอบ 18 ที่ต้องการ โดยจะเน้นการตอบสนองจากการขับขี่เป็นหลัก จึงจะมีรูปร่างลักษณะที่คุ้นตา กับแม็กรถยนต์ ทั่วไป
ข้อดีของล้อแม็ก GRAM LIGHTS
- เป็นแบรนด์ในเครือของ RAYS ที่ขึ้นชื่อเรื่องล้อแม็กคุณภาพสูงสำหรับการใช้ในสนามแข่ง โดดเด่นด้วยน้ำหนักที่เบาและความแข็งแรง
 - เน้นสมรรถนะในการขับขี่ และใช้วิธีการขึ้นรูปด้วยการหล่อในการผลิตล้อแม็กขอบ 18
 - ให้ความสำคัญกับการตอบสนองต่อการขับขี่เป็นหลัก จึงมีรูปร่างและลักษณะที่คุ้นเคยสำหรับผู้ขับขี่ทั่วไป
 - ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการแต่งรถและต้องการล้อแม็กที่มีสมรรถนะสูงสำหรับการขับขี่
 
ล้อแม็ก VOLK

เรียกได้ว่า เป็นแบรนด์เรือธงของ RAYS Engineering อีกแบรนด์ ที่มีชื่อเรียกกันว่า VOLK RACING Wheel การันตีถึงมาตรฐานสูง และเทคโนโลยีจากสนามแข่ง จุดเด่นอยู่ที่การขึ้นรูปด้วยการอัด ทำให้ ล้อแม็ก ขอบ 18 ของ VOLK นั้น มีน้ำหนักเบา แต่ยังคงแข็งแรงพอที่จะรองรับการขับขี่ที่เร็วและหนัก อีกทั้งดีไซน์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ VOLK อย่าง TE37 และ CE28 ก็กลายเป็นที่นิยมใช้กับแม็กรถกระบะ มากๆ ในไทย
ข้อดีของล้อแม็ก VOLK
- เป็นแบรนด์เรือธงของ RAYS Engineering ที่มีชื่อเรียกกันว่า VOLK RACING Wheel ซึ่งการันตีถึงมาตรฐานสูงและเทคโนโลยีจากสนามแข่ง
 - โดดเด่นด้วยการขึ้นรูปล้อแม็กด้วยวิธีการอัด ทำให้ล้อแม็กขอบ 18 ของ VOLK มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงมาก สามารถรองรับการขับขี่ที่เร็วและรุนแรงได้เป็นอย่างดี
 - มีดีไซน์ที่เป็นซิกเนเจอร์เฉพาะตัวของ VOLK อย่างรุ่น TE37 และ CE28 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการใช้งานกับรถกระบะในประเทศไทย
 - เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการล้อแม็กสมรรถนะสูงที่ผ่านการทดสอบและพัฒนาจากประสบการณ์ในสนามแข่ง
 
ล้อแม็ก ENKEI

บริษัทเก่าแก่ที่มีประวัติและประสบการณ์ยาวนานกว่า 70 ปี จากเมืองชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ล้อแม็ก ENKEI ขอบ 18 เป็นที่ยอมรับในนวัตกรรมและคุณภาพที่สูงสุด ทั้งในวงการแข่งรถและคนรักรถทั่วไป ในปัจจุบัน ENKEI มีดีไซน์ที่หลากหลาย ทั้งล้อแข่งและล้อสำหรับรถบนถนน ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง พวกเขายังสร้างสมประสบการณ์จากการเป็นผู้ผลิต ล้อแม็ก OEM ให้กับรถยนต์หลากหลายแบรนด์ โดยมีจุดเด่นด้านการออกแบบล้อ ให้เข้ากับแต่ละประเภทรถได้อย่างสวยงาม รุ่นยอดฮิตคือ RPF1 ที่เป็นขวัญใจนักซิ่ง และ RPT1 แม็กรถกระบะ สุดฮอต
ข้อดีของล้อแม็ก ENKEI
- เป็นบริษัทผู้ผลิตล้อแม็กที่มีประวัติยาวนานกว่า 70 ปี ก่อตั้งขึ้นที่เมืองชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น
 - ล้อแม็กขอบ 18 ของ ENKEI ได้รับการยอมรับในด้านนวัตกรรมและคุณภาพสูงสุด ทั้งในวงการแข่งรถและกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ทั่วไป
 - มีดีไซน์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งล้อสำหรับการแข่งขันและล้อสำหรับการใช้งานบนท้องถนน พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
 - มีประสบการณ์อันยาวนานในการผลิตล้อแม็ก OEM ให้กับรถยนต์หลากหลายแบรนด์ โดยโดดเด่นด้านการออกแบบล้อให้เข้ากับแต่ละประเภทรถได้อย่างลงตัว
 - มีรุ่นยอดนิยมอย่าง RPF1 ที่เป็นที่ชื่นชอบของนักขับรถสมรรถนะสูง และ RPT1 ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้รถกระบะ
 
ล้อแม็ก WORK

ล้อแม็ก WORK เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ขั้นสุดในญี่ปุ่น สำหรับวงการมอเตอร์สปอร์ต และการแต่งรถทั่วไป รุ่นที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ WORK Equip และ WORK Meister ที่เป็นแม็กรถเก๋ง ยอดนิยมในหมู่คนญี่ปุ่นและขยายมาถึงประเทศไทย ล้อแม็ก WORK มีประวัติยาวนาน ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1977 และสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โอซาก้า ล้อแม็ก ขอบ 18 ของ WORK จะมีการออกแบบโดดเด่นเป็นแม็ก 2 ชิ้นมาประกอบเข้าด้วยกัน
ข้อดีของล้อแม็ก WORK
- เป็นแบรนด์ล้อแม็กระดับไฮเอนด์ชั้นนำของญี่ปุ่น ทั้งในวงการมอเตอร์สปอร์ตและการตกแต่งรถยนต์ทั่วไป
 - รุ่นที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ WORK Equip และ WORK Meister ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ใช้รถเก๋งทั้งในญี่ปุ่นและประเทศไทย
 - ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1977 และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
 - ล้อแม็กขอบ 18 ของ WORK มีการออกแบบที่โดดเด่น ด้วยการใช้ล้อแม็ก 2 ชิ้นมาประกอบเข้าด้วยกัน สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
 - เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการล้อแม็กคุณภาพสูงที่ผสานเทคโนโลยีจากมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับดีไซน์ที่สวยงามและโดดเด่น
 
ทำไมล้อแม็กถึงเป็นอะไหล่ชิ้นแรกที่รถทุกคันจะเริ่มต้นการแต่งจากอะไหล่ชิ้นนี้
ล้อแม็กมักเป็นจุดเริ่มต้นของการแต่งรถเนื่องจากเป็นส่วนที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนที่สุดและสามารถเปลี่ยนลุคของรถได้อย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนล้อแม็กเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการยกระดับภาพลักษณ์ของรถยนต์ โดยเฉพาะล้อแม็กขอบ 18 ที่ให้ความสมดุลระหว่างความสวยงามและสมรรถนะ นอกจากนี้ ล้อแม็กยังเป็นอะไหล่ที่สามารถเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องดัดแปลงโครงสร้างหลักของรถ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบต่อการรับประกันของรถ
เหตุผลที่ล้อแม็กเป็นจุดเริ่มต้นของการแต่งรถ
- เห็นผลชัดเจน: เปลี่ยนลุคของรถได้ทันที
 - ไม่ซับซ้อน: สามารถเปลี่ยนได้ง่ายโดยไม่ต้องดัดแปลงโครงสร้างรถ
 - คุ้มค่า: ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการลงทุน
 - ปรับแต่งได้: มีตัวเลือกมากมายให้เลือกตามสไตล์ที่ต้องการ
 - เพิ่มสมรรถนะ: นอกจากความสวยงาม ยังช่วยปรับปรุงการขับขี่
 
จะเลือกใช้งานล้อแม็กขอบ 18 ต้องพิจารณาในเรื่องใดบ้าง
การเลือกใช้ล้อแม็กขอบ 18 นั้นต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการเพื่อให้เหมาะสมกับรถยนต์และการใช้งานของคุณ ประการแรก ต้องพิจารณาขนาดและรูปทรงของล้อให้เข้ากับตัวถังรถ โดยคำนึงถึงระยะห่างระหว่างล้อกับซุ้มล้อเพื่อป้องกันการเสียดสีขณะขับขี่ นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงน้ำหนักของล้อแม็ก เนื่องจากล้อที่หนักเกินไปอาจส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ที่สำคัญ ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับระบบเบรกและช่วงล่างของรถด้วย
ปัจจัยสำคัญในการเลือกล้อแม็กขอบ 18
- ขนาดและรูปทรง: ต้องเหมาะสมกับตัวถังรถ
 - น้ำหนัก: ควรเลือกล้อที่มีน้ำหนักเหมาะสม ไม่หนักเกินไป
 - ความแข็งแรง: พิจารณาวัสดุและกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ
 - ความเข้ากันได้: ตรวจสอบความเข้ากันได้กับระบบต่าง ๆ ของรถ
 - สไตล์: เลือกดีไซน์ที่ตรงกับความชอบส่วนตัวและสไตล์ของรถ
 
สำหรับผู้ที่สนใจล้อแม็กมือสอง ควรตรวจสอบสภาพล้ออย่างละเอียด ทั้งรอยร้าว การบิดเบี้ยว และการสึกหรอ เพื่อให้มั่นใจว่าได้ล้อแม็กสวย ๆ ที่ยังคงคุณภาพดีและปลอดภัยในการใช้งาน
สรุป
ล้อแม็ก 18 นับเป็นองค์ประกอบสำคัญในการยกระดับสมรรถนะและความสวยงามของรถยนต์ในปี 2025 ด้วยความสมดุลระหว่างขนาดและน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นแม็กรถเก๋งหรือแม็กรถกระบะ การเลือกล้อแม็ก 18 ที่มีคุณภาพสูงจะส่งผลให้รถยนต์ของคุณมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวบนท้องถนน
ทั้งนี้ การพิจารณาเลือกล้อแม็กที่เหมาะสมไม่เพียงแต่จะเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่อีกด้วย ดังนั้น การลงทุนในล้อแม็ก จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของตนให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
	    	
		    
