ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
5 อันดับ รถที่แรงที่สุดในโลก
Ramon Khamphan | 07 June 2566 14:07

ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมยานยานต์นั้นมีการพัฒนาอยู่ตลอด ซึ่งรถ Hypercar นั้นก็ได้มีการพัฒนาและเปิดตัวรถใหม่ๆ อยู่ทุกปี พูดถึง Hypercar แล้วแน่นอนว่าหลายคนคงอยากจะรู้ว่ารถที่แรงที่สุดในโลกนั้นมีคันไหนบ้าง เรามาดู 5 อันดับรถที่แรงที่สุดในโลกกัน
หากพูดถึงเรื่องความเร็วและความแรงของรถยนต์ หลายคนคงจะนึกถึงคำว่า Supercar กันเป็นหลักแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่อยู่เหนือกว่า Supercar ก็คือ Hypercar ที่เรากำลังจะพูดถึงนี่แหละ งั้นเรามาทำความรู้จักกับ Hypercar กันก่อนดีกว่าว่าคืออะไร
Hypercar คือรถอะไร
หากให้คำนิยามของ Hypercar แบบสั้นๆ ก็คือ Hypercar คือรถรุ่นท็อปสุดของ Supercar ในไลน์ผลิตนั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริษัทรถหรูที่ทำการผลิต โดยสมรรถนะของตัวรถ Hypercar นั้นจะสูงและเหนือชั้นกว่ารถรุ่นอื่นๆ แน่นอนอยู่แล้วหากขึ้นชื่อว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะสูง และเร็วที่สุด ราคาก็ย่อมสูงตามไปด้วยเช่นกัน
รู้จักกับรถ Hypercar กันแล้ว งั้นเรามาเริ่มดู 5 อันดับรถ Hypercar ที่แรงที่สุดในโลกกันเลยดีกว่า บอกเลยว่าเครื่องแรงจนต้องร้องว้าวเลยทีเดียว

Top 5 รถที่แรงที่สุดในโลก
อันดับที่ 1 SSC Tuatara
อันดับ 1 ของรถ Hypercar ที่แรงที่สุดในโลกคงหนีไม่พ้น SSC Tuatara คันนี้ ซึ่งได้การีนตีความเร็วจากหลายสำนักถึง 2 ปีติดต่อกัน คือในปี 2021-2022 SSC Tuatara ได้ถูกผลิตขึ้นโดยมีจำนวนจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น ซึ่งในเรื่องของความแรงนั้น คือ เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ ความจุ 5.9 ลิตร V8 สูบ พละกำลัง 1,750 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลา 2.5 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 532.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อันดับที่ 2 BUGATTI BOLIDE
BUGATTI BOLIDE รถที่เร็วที่สุดในโลกปี 2022 ถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่ในสนามสำหรับคนที่ชื่นชอบ ความเร็ว โดยรถคันนี้จะมีสถิติความรวดเร็วสูงสุดอยู่ที่ 500 กม./ชม. เลยแหละ ทั้งนี้รถยนต์รุ่นนี้ยังอยู่ในช่วงของการผลิตขึ้นมาเพื่อทำการวิจัยศึกษาในสนามแข่งเท่านั้น ซึ่งผลิตขึ้นมาเพียง 40 คันเท่านั้น และราคาก็อยู่ที่ประมาณ 193.5 ล้านบาท

อันดับที่ 3 HENNESSEY VENOM F5
มาต่อกันที่อันดับที่ 3 ของรถที่เร็วที่สุดในโลกปี 2022 อย่าง HENNESSEY VENOM F5 ที่มีนิยามตอนเปิดตัวรถครั้งแรกว่า “เบาเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศ” ซึ่งนอกจาก ความเร็ว ความแรงที่ทรงพลังแล้ว ยังได้รับฉายาว่า Monster อีกด้วย เพราะมีรูปแบบการดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกที่เท่ หรูหรา และแข็งแกร่ง จึงทำให้ได้ฉายานี้มานั่นเอง ในเรื่องของด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์นั้น ก็ให้กำลังถึง 1,817 แรงม้า และสปีดความรวดเร็วสูงสุดที่ 498-500 กม./ชม. เลยทีเดียว

อันดับที่ 4 BUGATTI CHIRON SUPER SPORT 300+
มาถึงอันดับที่ 4 กันแล้ว กับ BUGATTI CHIRON SUPER SPORT 300+ รถที่เร็วที่สุดในโลกปี 2022 เช่นกัน ซึ่งจุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ก็คือ ตัวถังช่วงท้ายจะมีความยาวแปลกตาต่างจากรุ่นก่อนหน้า และยังมีแนวหลังคาที่สามารถลู่ลมได้อย่างดีมาพร้อมกับตัวถังสีดำ-ส้ม โดย BUGATTI CHIRON SUPER SPORT 300+ รุ่นนี้จะมีกำลังสูงสุดถึง 1,600 แรงม้า และสปีดความเร็วสูงสุดที่ 490 กม./ชม.

อันดับที่ 5 DEVEL SIXTEEN
รถที่เร็วที่สุดในโลกอันดับสุดท้ายก็คือ DEVEL SIXTEEN ซึ่งคันนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 480-515 กม./ชม. เลยทีเดียว และมี ราคา เริ่มต้นที่ประมาณ 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 49.06 ล้านบาทเท่านั้น ที่นอกจากจะมีความแรงและ ความเร็ว อันน่าทึ่งแล้ว รถคันนี้ยังมีการดีไซน์ที่ เท่ แข็งแกร่ง ให้ความรู้สึกดุดันอีกด้วย !

Aspark Owl รถยนต์ไฟฟ้า ที่เร็วที่สุดในโลก
Aspark Owl รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น ได้ทำลายสถิติโลกของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงสุด แถมยังได้ความเร็วสูงสุดถึง 2 สถิติด้วยกัน ทั้งในระยะ 200 เมตร และ 400 เมตร ที่ความเร็วสูงสุดราว 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากการทดสอบที่ลานบิน “อัลวิงตัน” ทางตอนเหนือของอังกฤษ โดยมีความเร็วเฉลี่ย 309 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับระยะ 200 เมตร และทำความเร็วได้สูงถึง 318 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะ 400 เมตรเลยทีเดียว
รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ยังสามารถเร่งความเร็วจาก 0 จนถึง 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาไม่ถึงใน 2 วินาทีอีกด้วย และยังสามารถขับขี่ในความเร็วสูงสุดที่ 418 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร และใช้เวลาชาร์จเพียง 40 นาทีเท่านั้น
ไทย Top 10 ส่งออก ผลิตภัณฑ์ยานยนต์มากสุดในโลก

Date: 11/10/2023Author: Thamonton Jang
ไทยอันดับ 9 แหล่งส่งออกผลิตภัณฑ์ยานยนต์ตลาดโลก 30,000 ล้านดอลลาร์ มาร์เก็ตแชร์ 2.0% สะท้อนศักยภาพความพร้อม ศูนย์กลางอาเซียน ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา รับเทรนด์อีวีแรงไม่หยุด
แม้ตลาดรถยนต์ในประเทศจะซบเซา ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าปี 2566 หดตัว -6% แต่สำหรับภาคการส่งออกไทยยังถือว่าเป็นซัปพลายเชนสำคัญในตลาดโลก
องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ได้รีเสิร์ชมาร์เก็ตแชร์ตลาดส่งออก “ผลิตภัณฑ์ยานยนต์” ขอบเขตเก็บข้อมูล ตั้งแต่รถยนต์, อะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งรถ, เครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยรายงานไม่รวมรถจักรยานยนต์และรถเทรเลอร์
WTO เก็บข้อมูลมาตั้งแต่ช่วงปี 2543-2565 หรือ 22 ปีที่ผ่านมา พบว่าปี 2565 (รายงานล่าสุด) 10 ประเทศแรกที่มีมาร์เก็ตแชร์ส่งออกผลิตภัณฑ์ยานยนต์มากสุดทั่วโลก ดังนี้
| ไทยหนึ่งเดียวในอาเซียนทอป 10 ส่งออกผลิตภัณฑ์ยานยนต์ มากสุดในโลก | ||
| พื้นที่ส่งออก | มาร์เก็ตแชร์ ส่งออกทั่วโลก ปี 2565 | มูลค่าส่งออก ปี 2565/ล้านดอลลาร์ | 
| 1. สหภาพยุโรป | 46.1% | 699,000 | 
| 2. สหรัฐอเมริกา | 9.1% | 138,000 | 
| 3. ญี่ปุ่น | 8.9% | 135,000 | 
| 4. เม็กซิโก | 8.5% | 129,000 | 
| 5. จีน | 8.0% | 121,000 | 
| 6. เกาหลีใต้ | 5.1% | 77,000 | 
| 7. แคนาดา | 3.3% | 50,000 | 
| 8. สหราชอาณาจักร | 2.7% | 41,000 | 
| 9. ไทย | 2.0% | 30,000 | 
| 10. ตุรกี | 1.7% | 25,000 | 
| รวม 10 อันดับข้างต้น | 95.4% | 1,445,000 | 
| ผลิตภัณฑ์ยานยนต์: รถยนต์, อะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์, เครื่องยนต์สันดาปภายใน ไม่รวมรถจักรยานยนต์และรถเทรเลอร์ | ||
| ที่มา: องค์การการค้าโลก (WTO), กันยายน 2566 | ||
จะพบว่าไทยติดอยู่ในอันดับ 9 ของโลก และเป็นหนึ่งเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่ติดอยู่ในทอป 10 ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณที่แสดงถึงขีดความสามารถทางการแข่งขันในการเป็นซัปพลายเชน หลังการเข้ามาของยุคยานยนต์ไฟฟ้า ที่มาแรงทั่วโลก
โดยไทยถูกวางโพสิชั่นนิ่งให้เป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ไฟฟ้า พวงมาลัยขวาของภูมิภาคอาเซียน จากการประกาศเข้ามาลงทุนของค่ายยานยนต์ข้ามชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะค่ายจีน ตลอดปี 2565-66
อ่าน: ต้นปี 2567 แบรนด์จีนจะมีกำลังผลิตในไทย 3.54 แสนคัน/ปี
ปี 2567 ค่ายจีนจะมีกำลังผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศสูงสุดได้ถึง 3.54 แสนคันต่อปี รายใหญ่อย่าง บีวายดี, จีเอซี ไอออน ก็เพิ่งประกาศพร้อมเดินสายพานผลิตในโรงงานเขต EEC ช่วงเดือน มิ.ย. 2567 ไปเมื่อช่วงปลายไตรมาส 3/2566 ที่ผ่านมา
อนึ่ง สถาบันยานยนต์ได้เปิดเผยสถานการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 ผลิต 625,423 คัน ส่งออก 353,632 คัน ขายในประเทศ 276,603 คัน
คาดการณ์ยอดขายรถยนต์ทั้งปี 2566 ยอดขาย 1.95 ล้านคัน แบ่งเป็น ส่งออก 1.05 ล้านคัน ขายในประเทศ 900,000 คัน
ด้านสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) เผยช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2566 มีโครงการในไทยจากบริษัทข้ามชาติ ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 891 โครงการ มูลค่าลงทุน 364,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% และ 69% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ
พบว่าเป็นบริษัทข้ามชาติจากจีนมากสุด 132 โครงการ มูลค่า 61,526 ล้านบาท เป็นโครงการในอุตสาหกรรมเซกเมนต์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด
	    	
		    




