ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
7 อันดับซุปเปอร์คาร์มาแรง 2025 มีคันไหนน่าสนใจบ้าง
Last updated: 23 ก.พ. 2568 | 141898 จำนวนผู้เข้าชม |

อุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2025 ถูกพัฒนาและยกระดับขึ้นต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีมากมายที่ถูกนำมาใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดซุปเปอร์คาร์ที่มีการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาตลอดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีคันไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น APRTECH ได้รวบรวมซุปเปอร์คาร์ที่สนใจมาฝากทุกคนแล้วครับ
7 รถซุปเปอร์คาร์ มาแรงปี 2025
1. Ferrari 296 GTB

ขอบคุณภาพจาก ferrari.com
296 GTB เป็นรถยนต์สปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางขับเคลื่อนล้อหลังที่ผลิตโดย Ferrari เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันแรกที่ใช้เครื่องยนต์ V6 ของ Ferrari และเป็นรุ่นแรกในตระกูล GTB ใหม่ 296 GTB แทนที่ 488 GTB ซุปเปอร์คาร์คันนี้ ใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาด 2.9 ลิตร 653 แรงม้า (488 กิโลวัตต์) จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 167 แรงม้า (123 กิโลวัตต์) กำลังรวมสูงสุด 830 แรงม้า (619 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 740 นิวตันเมตร (546 ฟุต-ปอนด์) มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลังโดยตรงในขณะที่เครื่องยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลังผ่านเกียร์ 8 สปีด สามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม. ระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวอยู่ที่ 25 กม. (15 ไมล์)
ตัวรถมีการออกแบบภายนอกที่คล้ายกับรุ่นก่อนอย่าง 488 GTB แต่มีไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ กันชนหน้า/หลังใหม่ และช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่ด้านข้างของรถ ส่วนภายในมีการออกแบบที่เรียบง่ายและทันสมัย มาพร้อมจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 16 นิ้วอยู่ตรงกลางแดชบอร์ด และจอแสดงผลขนาดเล็กตั้งอยู่ด้านหลังพวงมาลัย เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ต กระชับ และรองรับสัดส่วนผู้ขับได้ดี ถือเป็นรถซุปเปอร์คาร์ที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพสูงคันหนึ่งเลยในปี 2025 นี้ครับ
2. Porsche 911 GT3 RS

ขอบคุณภาพจาก porsche.com
Porsche 911 GT3 RS เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 เป็นรุ่นที่ทรงพลังที่สุดของตระกูล 911 GT3 และเป็นหนึ่งในซุปเปอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบนอน 4.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ให้กำลังสูงสุด 520 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.2 วินาที มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 312 กิโลเมตร/ชั่วโมง 911 รถคันนี้ได้รับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มสมรรถนะโดยเฉพาะ มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต เบรกคาลิปเปอร์แบบคาร์บอนเซรามิก และปีกหลังขนาดใหญ่ การตกแต่งภายในถูกลดทอนลงเพื่อลดน้ำหนัก เบาะนั่งมาแบบสปอร์ตและพวงมาลัยแบบแบนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
911 GT3 RS เป็นรถสปอร์ตที่ทรงพลังและดุดัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ท้าทายและน่าตื่นเต้น ด้วยสเปคเหนือชั้นขั้นสุดขนาดนี้ก็ทำให้มันกลายเป็นรถซุปเปอร์คาร์ในฝันของใครหลายคน
อ่านข้อมูล porsche 911
3. Lamborghini Huracan Tecnica

ขอบคุณภาพจาก lamborghini.com
Lamborghini Huracan Tecnica เปิดตัวครั้งแรกในเดือนเมษายน 2022 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร 640 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 325 กม./ชม. ตัวรถจะมีดีไซน์ที่ดุดันและสปอร์ตกว่ารุ่นก่อน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ กันชนหน้า/หลังดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง เบาะนั่งแบบสปอร์ต จอแสดงผลขนาด 10.25 นิ้วสำหรับมาตรวัดความเร็ว และจอแสดงผลขนาด 8.4 ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto

4. McLaren Artura

ขอบคุณภาพจาก mclaren.com
McLaren Artura เป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นแรกจาก McLaren ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2021 รถคันนี้สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ที่เรียกว่า MCLA (McLaren Carbon Lightweight Architecture) และขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบไฮบริด V6 3.0 ลิตรเทอร์โบคู่ที่ให้กำลัง 680 แรงม้า McLaren Artura จึงสามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.9 วินาทีและทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 330 กม./ชม. นอกจากนี้มันยังเป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริดคันแรกที่มาพร้อมกับระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) และระบบเบรกแบบ Regenerative จึงถือซุปเปอร์คาร์ที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดน้ำมัน และสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ขับขี่ได้ตลอดเวลา
5. Maserati MC20

ขอบคุณภาพจาก maserati.com
Maserati MC20 เป็นรถซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์วางกลาง 2 ที่นั่ง เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 และวางจำหน่ายในปี 2021 MC20 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตรที่พัฒนาโดย Maserati เอง เครื่องยนต์นี้ให้กำลัง 630 แรงม้าและแรงบิด 730 นิวตันเมตร จึงสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 325 กม./ชม. และเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.9 วินาที ตัวรถสร้างขึ้นจากโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 1,500 กิโลกรัม อีกทั้งยังมาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบอิสระทั้งสี่ล้อและระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก
Maserati MC20 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ MC20 Coupe เป็นรุ่นพื้นฐานของรถ มีหลังคาแข็ง, MC20 Spider เป็นรุ่นเปิดประทุน มีหลังคาผ้า และ MC20 Trofeo เป็นรุ่นสมรรถนะสูง มีเครื่องยนต์ที่ทรงพลังกว่าและระบบกันสะเทือนที่แข็งกว่า
6. Chevrolet Corvette C8

ขอบคุณภาพจาก Chevrolet
Chevrolet Corvette C8 เป็นรุ่นที่แปดของรถยนต์สปอร์ตคูเป้จาก Chevrolet เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 ตัวรถใช้เครื่องยนต์ LT2 V8 ขนาด 6.2 ลิตรที่ผลิตได้ 495 แรงม้า เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด สามารถเร่งความเร็วจาก 0-96.5 กม./ชม. ได้ใน 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 312 กม./ชม. ซึ่งดีไซน์ภายนอกของตัวรถนั้นมีไฟหน้าสวยทรงเรียบง่าย และกลมกลืนไปกับไฟโปรเจคเตอร์ กระจกหลังของรถมีขนาดใหญ่และถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถมองเห็นเครื่องยนต์ได้อย่างชัดเจน ตัวรถมีร่องระบายอากาศ 7 ช่อง มีท่อไอเสียจำนวน 4 ชุดติดตั้งอยู่ที่ด้านริมทั้งสองฝั่ง มีไฟท้ายแบบคู่ LED ไฟเลี้ยวแบบวิ่งตามทิศทางการเลี้ยว ถือเป็นซุปเปอร์คาร์ที่มีดีไซน์สวยเรียบหรู มีสมรรถนะสูง และทรงประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง
7. Aston Martin DBS Superleggera

ขอบคุณภาพจาก Aston Martin
Aston Martin DBS Superleggera เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 ขนาด 5.2 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จที่ให้กำลัง 715 แรงม้า มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 340 กม./ชม. โดยตัวรถนั้นมีให้เลือกทั้งรุ่นคูเป้และโรดสเตอร์ Aston Martin DBS Superleggera ได้รับการออกแบบโดย Marek Reichman หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Aston Martin ตัวรถจึงมีความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ดุดันและสง่างาม ด้านหน้ามีกระจังหน้าขนาดใหญ่และไฟหน้า LED รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ด้านหลังมีไฟท้าย LED รูปทรงเรียวยาว DBS Superleggera ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ด้านประสิทธิภาพและความหรูหรา รวมถึงได้รับรางวัล “Car of the Year” จากนิตยสาร Top Gear และ “Best Supercar” จากนิตยสาร Autocar อีกด้วยครับ
ราคารถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อไหนคุ้มที่สุด (2025)
Chuenkamon Phasuk | 20 June 2568 16:05
https://www.facebook.com/v16.0/plugins/like.php?action=like&app_id=&channel=https%3A%2F%2Fstaticxx.facebook.com%2Fx%2Fconnect%2Fxd_arbiter%2F%3Fversion%3D46%23cb%3Dfa211fb7d1f21cc65%26domain%3Dwww.one2car.com%26is_canvas%3Dfalse%26origin%3Dhttps%253A%252F%252Fwww.one2car.com%252Ff6e530675ebe82e0f%26relation%3Dparent.parent&container_width=0&href=https%3A%2F%2Fwww.one2car.com%2F%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%2F10-%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2596%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B0-4-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B9-%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AB%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B5-%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%2594-2023-130377%2F68163&layout=button_count&locale=th_TH&sdk=joey&share=true&show_faces=true&size=small

รวม ราคารถกระบะ 4 ประตู 10 แบรนด์ พร้อมรุ่นย่อย ยี่ห้อไหนเท่าไร ดูบทความนี้จบ!
คลิกชื่อรุ่นที่คุณสนใจเป็นพิเศษได้เลย
- ราคารถกระบะสี่ประตู Toyota Hilux Revo
- ราคารถปิคอัพ 4 ประตู ISUZU D-Max
- ราคากระบะ 4 ประตู Ford Ranger Raptor
- ราคารถกระบะ 4 ประตู Ford Ranger
- ราคากระบะ Mitsubishi Triton 4 ประตู
- ราคากระบะ 4 ประตู Nissan Navara
- ราคากระบะ Mazda BT-50 สี่ประตู
- ราคากระบะ MG Extender 4 Doors
- ราคารถปิคอัพ Mazda BT-50 PRO 4 ประตู
- ราคากระบะสี่ประตู Chevrolet Colorado
รีวิวรถกระบะ 4 ประตู ทุกยี่ห้อ พร้อมราคา
นอกจากรถกระบะมือสองตอนเดียว, กระบะแคป รถกระบะ 4 ประตู ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นได้ทั้งรถครอบครัว รถบรรทุก หรือรถยนต์ส่วนตัวสำหรับคนที่ขนของเยอะ ๆ ไปดูกันว่ารุ่นไหนดี น่าซื้อบ้าง
1. Toyota Hilux Revo

ราคารถกระบะ Toyota Hilux Revo 4 ประตู 2025 (มือหนึ่ง)
Z Edition
- Revo Z Edition 2.4 Double Cab 4×2 Mid AT ราคา 862,000 บาท
- Revo Z Edition 2.4 Double Cab 4×2 Mid ราคา 822,000 บาท
- Revo Z Edition 2.4 Double Cab 4×2 Entry AT ราคา 784,000 บาท
- Revo Z Edition 2.4 Double Cab 4×2 Entry ราคา 744,000 บาท
Prerunner
- Revo Prerunner 2.4 Double Cab 2×4 Entry ราคา 881,000 บาท
- Revo Prerunner 2.4 Double Cab 2×4 Entry AT ราคา 931,000 บาท
- Revo Prerunner 2.4 Double Cab 2×4 Mid ราคา 931,000 บาท
- Revo Prerunner 2.4 Double Cab 2×4 Mid AT ราคา 981,000 บาท
- Revo Prerunner 2.4 Double Cab 2×4 High ราคา 1,022,000 บาท
- Revo Prerunner 2.4 Double Cab 2×4 High AT ราคา 1,072,000 บาท
- Revo Prerunner 2.4 Double Cab 4×4 Mid ราคา 1,050,000 บาท
- Revo Prerunner 2.8 Double Cab 4×4 High ราคา 1,202,000 บาท
- Revo Prerunner 2.8 Double Cab 4×4 High AT ราคา 1,252,000 บาท
Rocco
- Revo Rocco 2.4 Double Cab Prerunner 2×4 AT ราคา 1,136,000 บาท* (รวมชุดแต่ง)
- Revo Rocco 2.8 Double Cab 4×4 AT ราคา 1,326,000 บาท* (รวมชุดแต่ง)
*สี Platinum White Pearl จ่ายเพิ่มอีก 10,000 บาท
GR Sport
- Revo GR Sport 2.8 Double Cab 4×2 AT ราคา 934,000 บาท*
- Revo GR Sport 2.8 Double Cab 4×4 AT ราคา 1,499,000 บาท* (รวมชุดแต่ง)
*สี Platinum White Pearl กับ Emotional Red จ่ายเพิ่ม 10,000 บาท
ราคา Toyota Hilux Revo 4 ประตู รุ่นที่ขายดีที่สุด (มือสอง)
- สนใจคลิก Toyota Hilux Revo 2.4 Prerunner E มือสอง ราคาเริ่ม 419,000 บาท
- สนใจคลิก Toyota Hilux Revo 2.4 Prerunner E Plus มือสอง ราคาเริ่ม 429,000 บาท
- สนใจคลิก Toyota Hilux Revo 2.8 G 4WD มือสอง ราคาเริ่ม 690,000 บาท
- สนใจคลิก Toyota Hilux Revo 2.8 G Prerunner Rocco มือสอง เริ่ม 569,000 บาท
อัปเดตราคามือสองเมื่อ 18 มิถุนายน 2568

รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ Toyota Hilux Revo
Toyota Hilux Revo เป็นรถกระบะที่ได้รับความนิยมสูงมากในไทย ซึ่งส่วนใหญ่ใช้บรรทุกของหรือเพื่อการขนส่งเป็นหลัก เนื่องจากขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน มีศูนย์บริการคลอบคลุมทั่วประเทศ
ยิ่งเป็นรีโว่ตัวใหม่ อย่าง รุ่น Rocco และรุ่น GR Sport บอกเลยว่าหล่อเข้มกว่าเดิมมาก เหมือนรถสัญชาติอเมริกันเลย ที่สำคัญ กระบะ 4 ประตู โตโยต้า รีโว่ ตัวเริ่มต้นราคาถูกกว่าคู่แข่งบางรายด้วย
ในด้านของการขับขี่ เราได้ทดลองขับ Toyota Revo Rocco ซึ่งต้องบอกว่าช่วงล่างดีกว่ารุ่นเดิมมาก ๆ สบายขึ้น ดีดน้อยลง แต่คิดว่ายังไม่รองรับความเร็วสูงมากกว่า 120 km/hr เท่าไหร่ ในความเร็วต่ำสำหรับเราถือว่ายังหนักไปกับการใช้งานในเมือง แต่สำหรับผู้ที่ขับขี่รถกระบะเป็นประจำจะบอกว่าพอดี แสดงให้เห็นว่าทางโตโยต้าได้ทำออกมาเพื่อสายกระบะจริง ๆ
ด้านพละกำลังบอกเลยว่า “แรง” เร็วกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ ปัญหาเบรกแล้วท้ายออกได้รับการปรับปรุงใหม่จนไม่แสดงอาการให้เห็นอีก
ระบบความปลอดภัยทำออกมาได้ดีมาก ครบครันสุด ๆ โดยรวมถือว่าลงตัวในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องการขับขี่และความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากได้กระบะสายลุยแต่งครบมาจากโรงงานอีกด้วย
2. ISUZU D-Max

ราคารถปิคอัพ ISUZU D-Max 4 ประตู 2025 (มือหนึ่ง)
ปิคอัพอีซูซุ 4 ประตู Cab4 ตัวเตี้ย 2025
- D-Max Cab4 2.2 Ddi S ตัวเตี้ย ราคา 749,000 บาท
- D-Max Cab4 2.2 Ddi S A/T สี่ประตู ตัวเตี้ย ราคา 793,000 บาท
- D-Max Cab4 1.9 Ddi MHEV S A/T ไฮบริดสี่ประตู ราคา 803,000 บาท
- D-Max Cab4 2.2 Ddi L 4 ประตู ตัวเตี้ย ราคา 829,000 บาท
- D-Max Cab4 2.2 Ddi L A/T 4 ประตู ตัวเตี้ย ราคา 873,000 บาท
- D-Max Cab4 2.2 Ddi Z 4 ประตู ตัวเตี้ย ราคา 895,000 บาท
Isuzu d-max 4 ประตู ตัวสูง
- D-Max Hi-Lander 2.2 Ddi L ราคา 885,000 บาท
- D-Max Hi-Lander 2.2 Ddi L A/T ราคา 924,000 บาท
- D-Max Hi-Lander 2.2 Ddi Z ราคา 952,000 บาท
- D-Max Hi-Lander 2.2 Ddi Z A/T ราคา 991,000 บาท
- D-Max Hi-Lander 2.2 Ddi ZP ราคา 1,025,000 บาท
- D-Max Hi-Lander 2.2 Ddi ZP A/T ราคา 1,064,000 บาท
- D-Max Hi-Lander 2.2 Ddi M A/T ราคา 1,137,000 บาท
- D-Max Hi-Lander 1.9 Ddi MHEV M A/T ราคา 1,145,000 บาท
- D-Max Hi-Lander 3.0 Ddi ZP ราคา 1,056,000 บาท
- D-Max Hi-Lander 3.0 Ddi M A/T ราคา 1,164,000 บาท
ดีแม็ก 4 ประตู วี-ครอส 4×4
- D-Max V-Cross 3.0 Ddi Z 4-door ราคา 1,054,000 บาท
- D-Max V-Cross 3.0 Ddi ZP 4-door ราคา 1,169,000 บาท
- D-Max V-Cross 3.0 Ddi ZP 4-door A/T ราคา 1,209,000 บาท
- D-Max V-Cross 3.0 Ddi M 4-door A/T ราคา 1,277,000 บาท
ดีแม็ก 4 ประตู เอ็กซ์-ซีรี่ส์
- D-Max X- Series Speed 4 ประตู ตัวเตี้ย ราคา 859,000 บาท
- D-Max X- Series Hi-Lander 4 ประตู ยกสูง ราคา 997,000 บาท
- D-Max X- Series Hi-Lander 4 ประตู A/T ยกสูง ราคา 1,032,000 บาท
ราคาปิคอัพอีซูซุ 4 ประตู Cab4 ตัวเตี้ย (มือสอง) รุ่นขายดี
- สนใจคลิก D-Max Cab4 1.9 Ddi S [ตัวเตี้ย] มือหนึ่ง 746,000 มือสองเริ่ม 445,000 บาท
- สนใจคลิก D-Max Cab4 1.9 Ddi L [ตัวเตี้ย] มือหนึ่ง 824,000 มือสองเริ่ม 419,000 บาท
- สนใจคลิก D-Max Cab4 Hi-Lander 1.9 Ddi L [ยกสูง] มือหนึ่ง 824,000 มือสองเริ่ม 419,000 บาท
- สนใจคลิก D-Max Hi-Lander 1.9 Ddi Z [ยกสูง] มือหนึ่ง 947,000 มือสองเริ่ม 479,000 บาท
- สนใจคลิก D-Max Hi-Lander 3.0 Ddi M A/T [ยกสูง] มือหนึ่ง 1,164,000 มือสองเริ่ม 599,000 บาท
- สนใจคลิก D-Max V-Cross 3.0 M 4WD มือหนึ่ง 1,277,000 มือสองเริ่ม 640,000 บาท
อัปเดตราคามือสองเมื่อ 18 มิถุนายน 2568

รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ ISUZU D-Max
ISUZU D-Max เป็นรถกระบะที่มียอดขายอันดับ 1 เรียกได้ว่าครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะเรื่องการขนของที่คนส่วนใหญ่มักจะเลือกอิซูซุ ดีแม็กซ์ มากกว่ารุ่นอื่น ๆ
สำหรับเราเคยทดลองขับ Isuzu D-Max 3.0 V-Cross ทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ รวมถึงรุ่นท็อปไลน์ V-Cross Safari ด้วย พบว่าเครื่องยนต์มีแรงบิดมหาศาล พละกำลังมีให้ใช้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกดคันเร่งมากจนเกินไป
การขับขี่ในเมืองถือว่าคล่องตัวกว่ารุ่นอื่น ๆ ช่วงล่างดี ลุยได้ทุกสภาพถนน มีสปริงแหนบที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการบรรทุกโดยเฉพาะ ให้ความรู้สึกดีกว่าการขับรถเปล่าที่ไม่มีการบรรทุกใด ๆ
น้ำหนักพวงมาลัยถือว่าพอเหมาะพอดี ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจแม้วิ่งด้วยความเร็วสูง โดยรวมถือว่าเป็นรถกระบะที่น่าประทับใจคันหนึ่ง ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน เหมาะแก่การบรรทุกอย่างยิ่ง แต่ถ้าต้องการใช้ในชีวิตประจำวัน เขาก็มีเครื่องยนต์ 1.9 ลิตรให้เลือกเช่นกัน เป็นแบรนด์เดียวที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่านี้ ซึ่งช่วยคุณประหยัดได้มากกว่า
อ่านเพิ่มเติม: เปรียบเทียบ ISUZU MU-X มือสอง 1.9 กับ 3.0 เลือกแบบไหนดี
3. Ford Ranger Raptor

ราคารถกระบะ Ford Ranger Raptor 4 ประตู 2025 (มือหนึ่ง)
- Ford Ranger Raptor 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT ราคา 1,954,000 บาท
- Ford Ranger Raptor 2.0L Bi-Turbo Diesel เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ราคา 1,804,000 บาท
ราคารถกระบะ 4 ประตู Ford Ranger Raptor (มือสอง)
- สนใจคลิก Ford Ranger 3.0 Raptor 4WD มือสอง ราคาเริ่มต้น
1,450,0001,298,000 บาท - สนใจคลิก Ford Ranger 2.0 Raptor Bi-Turbo 4WD มือสอง ราคาเริ่ม 759,000 บาท
- สนใจคลิก Ford Ranger 2.0 Raptor 4WD มือสอง ราคาเริ่มต้น 839,000 บาท
- สนใจคลิก Ford Ranger 2.0 Raptor X 4WD ราคาเริ่มต้น
1,059,000879,000 บาท
อัปเดตราคามือสองเมื่อ 18 มิถุนายน 2568

รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ Ford Ranger Raptor
ถ้าถามว่าประเภทรถยนต์ กระบะ 4 ประตู รุ่นไหนดี คงต้องยกให้เจ้าของตำนาน “ดุดัน ไม่เกรงใจใคร” Ford Ranger Raptor รถกระบะที่ดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด แม้หลายคนจะบอกว่า Ford Ranger Raptor ราคาแพง ซึ่งเกือบแตะ 2 ล้านบาท แต่ถ้าได้เห็นออปชันจะบอกเลยว่าโคตรคุ้ม!!
ส่วนที่ชอบที่สุด คือ ห้องโดยสารที่มีการออกแบบแนวสปอร์ต ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบ F22 นั่นเอง ขอชมว่าการตกแต่งภายในทุกอย่างลงตัวมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ระบบกันสะเทือนของ Ford Ranger Raptor 2023 ยังล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อเทียบกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็ปเตอร์ รุ่นก่อน ๆ
การขับขี่ในเมือง: เทอะทะไปหน่อย แต่ยังดีที่มีระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ถือเป็นคันแรกของกระบะไทยที่มีระบบนี้
การขับขี่นอกเมือง: ขับง่ายและสนุกมาก มุมมองของผู้ขับขี่อยู่สูง แรงม้าและแรงบิดมีมากพอที่จะพุ่งไปแบบไร้แรงหน่วง ช่วงล่างเทพมาก ขับทางขรุขระได้สบาย เจอหลุมวิ่งเข้าใส่ได้เลย
การขับขี่เส้นทางออฟโรด: โหมดการขับขี่ทุกโหมดครอบคลุมทุกสภาพเส้นทาง ลองขับขี่ในทางที่เป็นโคลน ตัวรถขับผ่านได้แบบสบาย ไม่มีอาการลื่นไถลเลยแม้แต่น้อย
อ่านเพิ่มเติม: ทำไม Ford Ranger Raptor มือสองถึงน่าซื้อ ทั้งที่ซดน้ำมันดุ!
4. Ford Ranger

ราคารถกระบะ Ford Ranger Double Cab 4 ประตู 2025 (มือหนึ่ง)
Ford Ranger XLS
- Ford Ranger XLS 4 ประตู 2.0L Turbo 6AT ราคา 924,000 บาท
Ford Ranger Sport
- Ford Ranger Sport 4 ประตู 2.0L Turbo 6AT (ขับสองยกสูง) ราคา 999,000 บาท
- Ford Ranger Sport 4 ประตู 2.0L Turbo 6AT 4×4 ราคา 1,089,000 บาท
Ford Ranger Stormtrak
- Ford Ranger Stormtrak Double Cab 2.0L Bi-Turbo 4×4 10AT ราคา 1,429,000 บาท
- Ford Ranger Stormtrak Double Cab 2.0L Bi-Turbo 10AT (ขับสองยกสูง) ราคา 1,294,000 บาท
Ford Ranger Wildtrak V6
- Ford Ranger Wildtrak V6 3.0L Turbo 10AT 4×4 ราคา 1,519,000 บาท
- Ford Ranger Wildtrak 2.0L Turbo 6AT ราคา 1,094,000 บาท
ราคากระบะ 4 ประตู : Ford Ranger Wildtrak (มือสอง)
- สนใจคลิก Ford Ranger Wildtrak มือสอง รุ่น 2.0 Turbo Hi-Rider 6AT ราคาเริ่ม 449,000 บาท
- สนใจคลิก Ford Ranger Wildtrak มือสอง รุ่น 2.0 Turbo Hi-Rider 6MT ราคาเริ่ม
550,000499,000 บาท - สนใจคลิก Ford Ranger WildTrak 2.2 Hi-Rider มือสอง ราคาเริ่ม 315,000 บาท
- สนใจคลิก Ford Ranger WildTrak 3.2 4WD มือสอง ราคาเริ่ม 448,000 บาท
อัปเดตราคามือสองเมื่อ 18 มิถุนายน 2568

รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ Ford Ranger
สำหรับกระบะ 4 ประตู ฟอร์ด รุ่นที่เราทดลองขับคือ Ford Ranger Wildtrak ซึ่งต้องขอบอกว่าเป็นการขับขี่และออปชันเหนือกว่าใครในกลุ่มเดียวกัน โดยเฉพาะรุ่นใหม่ล่าสุดที่ปรับทุกอย่างใหม่หมด ตั้งแต่ภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ และช่วงล่าง
ทีเด็ด คือ กระบะหลังเอาใจคนใช้งานอย่างแท้จริง เปรียบเสมือนโต๊ะทำงานขนาดย่อม โดยฝาท้ายได้ทำช่องใส่ปากกาตัว C เพื่อจับงานไม้ได้ และยังมีช่องเสียบไฟสำหรับเครื่องตัดไม้ได้ด้วย
เมื่อทดลองขับ ผู้นั่งถึงกับเอ่ยปากว่ารู้สึกต่างจากรุ่นเดิม อาการรถกระบะมีแหนบกระเด้งท้ายมันหายไปเลย เพราะวิศวกรบอกว่าย้ายโช้กมาด้านข้างคัสซี ทำให้นุ่มลงนั่นเอง
นอกจากนี้ ปุ่มควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ยังวางในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย ส่วนเครื่องยนต์ ที่ถูกปรับปรุงใหม่ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ เกียร์ 10 สปีด ก็แรงกว่าเดิม กดคันเร่งรถทะยานอย่างต่อเนื่อง จังหวะการเร่งแซงถือว่าทำได้ดี บวกกับฐานล้อที่ปรับมาใหม่ ทำให้การทรงตัวดีขึ้นชัดเจน เข้าโค้งคมมากขึ้น พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี ถือเป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างยิ่ง
อ่านเพิ่มเติม: รีวิว Ford Ranger มือสอง ดีไหม มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง?
5. Mitsubishi Triton

ราคารถกระบะ Mitsubishi Triton 4 ประตู
All-New มิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู : ดับเบิ้ล แค็บ (มือหนึ่ง)
- Triton Double Cab Plus 2.4 PRIME ราคา 914,000 บาท
- Triton Double Cab Plus 2.4 PRIME AT ราคา 959,000 บาท
- Triton Double Cab Plus 2.4 ULTRA AT ราคา 1,059,000 บาท
- Triton Double Cab 2.4 PRIME 4WD ราคา 1,039,000 บาท
มิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู : ดับเบิ้ล แค็บ พลัส (มือสอง)
- สนใจคลิก Triton Double Cab Plus 2.4 GLS 6MT ราคาเริ่มต้น
400,000369,000 บาท - สนใจคลิก Triton Double Cab Plus 2.4 GLS 6AT ราคาเริ่มต้น 430,000 บาท
- สนใจคลิก Triton Double Cab Plus 2.4 GT Plus 6MT ราคาเริ่มต้น 500,000 บาท
- สนใจคลิก Triton Double Cab Plus 2.4 GT Plus 6AT ราคาเริ่มต้น 495,000 บาท
- สนใจคลิก Triton Double Cab Plus 2.4 GT Premium ราคาเริ่มต้น
520,000499,000 บาท - สนใจคลิก Triton Double Cab 2.4 GT Premium 4WD ราคาเริ่มต้น 519,000 บาท
มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท 4 ประตู (มือหนึ่ง)
- Triton Double Cab ATHLETE 4WD AT ราคา 1,299,000 บาท
มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท 4 ประตู (มือสอง)
- สนใจคลิก Triton Double Cab ATHLETE 2.4 4WD ราคาเริ่ม 640,000 บาท
- สนใจคลิก Triton Double Cab ATHLETE 2.4 GT Plus ราคาเริ่ม 588,000 บาท
- สนใจคลิก Triton Double Cab ATHLETE 2.4 Plus ราคาเริ่ม 529,000 บาท
Mitsubishi Triton 4 ประตู โฉมไหนขายดีที่สุด (มือสอง)
- Mitsubishi Triton Double Cab ปี 2018-2023
- Mitsubishi Triton Double Cab ปี 2023-2025
- Mitsubishi Triton Double Cab ปี 2014-2019
อัปเดตราคามือสองเมื่อ 18 มิถุนายน 2568

รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ Mitsubishi Triton
ในบรรดารถกระบะที่ดี Mitsubishi Triton นับเป็นหนึ่งในนั้นเสมอ การันตีด้วยรางวัล รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์ดีเซลต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยมแห่งปี 2564 ที่จัดขึ้นโดยบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
เมื่อได้ลองสัมผัสกับการขับขี่รถกระบะ 4 ประตู มิตซูบิชิ ไทรทัน จุดที่ขอชื่นชม คือ การเก็บเสียงทำได้ดีมาก รวมถึงการตอบสนองทำได้ยอดเยี่ยม ช่วงล่างโดดเด่นด้วยแชสซีส์เหล็กกล้า 2 ชั้น
ยังไม่รวมดีไซน์ภายนอกที่สวยงาม ดุดัน แข็งแกร่ง และภายในที่มีพื้นที่กว้างขวาง เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยสุด ๆ แถมทุกโหมดการขับขี่ทำงานได้ดี ตอบโจทย์ทั้งออนโรดและออฟโรดเลยล่ะ
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II ดีสมคำร่ำลือ จึงไม่แปลกที่คนเขาจะพูดว่ามันเจ๋งกว่าระบบขับ 4 ล้อของรถกระบะทั่วไป
อ่านเพิ่มเติม: รีวิว Mitsubishi Triton มือสอง กระบะพันธุ์แกร่ง แบรนด์รองที่น่าซื้อ
6. Nissan Navara

ราคารถกระบะนิสสัน นาวาร่า 4 ประตู 2025
Navara Calibre 2025 (มือหนึ่ง)
- Nissan Navara DC Calibre E 6MT ราคา 859,000 บาท
- Nissan Navara DC Calibre E 7AT ราคา 909,000 บาท
- Nissan Navara DC Calibre E 7AT Black Edition ราคา 944,000 บาท
Navara Calibre (มือสอง)
- สนใจคลิก Navara DC Calibre E ราคาเริ่ม
560,000449,000 บาท - สนใจคลิก Navara DC Calibre E Black Edition ราคาเริ่ม 599,000 บาท
Navara Pro 4X / Pro 2X 2025 (มือหนึ่ง)
- Nissan Navara DC PRO-2X 7AT ราคา 1,045,000 บาท
- Nissan Navara DC PRO-4X 7AT ราคา 1,175,000 บาท
Navara Pro 4X / Pro 2X (มือสอง)
- สนใจคลิก Navara DC PRO-4X มือสอง ราคาเริ่ม
760,000639,000 บาท - สนใจคลิก Navara DC PRO-2X มือสอง ราคาเริ่ม
698,000650,000 บาท
กระบะ Nissan Navara 4 ประตู มือสอง ราคาถูก รุ่นไหนดี
- แนะนำ Navara NP300 Double Cab มือสอง เริ่ม 238,000 บาท
- แนะนำ Navara Frontier Double Cab มือสอง เริ่ม 165,000 บาท

รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ Nissan Navara
เราได้ทดสอบกระบะ 4 ประตู Nissan Navara PRO-2X มาใช้งานอยู่หลายวัน ทั้งบนเส้นทางแบบออนโรดและเส้นทางกึ่งออฟโรด แต่ขอชมดีไซน์ตัวรถใหม่ก่อนว่าทำออกมาได้ดี ทันสมัย หล่อและเท่ขึ้นเป็นกอง
ส่วนห้องโดยสารยอมรับว่ากว้าง นั่งสบาย เบาะนั่งคู่หน้าออกแบบด้วยนวัตกรรม Zero Gravity รองรับกับแนวกระดูกสันหลังตามหลักสรีระศาสตร์ มีแอร์หลังมาให้ ไม่ว่าจะนั่งตำแหน่งไหน แอร์ก็เย็นฉ่ำทั่วถึงทั้งคัน
จุดที่หลายคนกังวล คือ Nissan Navara PRO-2X ตัวรถมีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงคิดว่าอาจเฉี่ยวชนคันอื่นง่าย เพราะมีมุมอับเยอะ ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นรถที่ขับง่ายมาก ๆ เพราะมีเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน โดยกล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอกลาง
ด้านกำลังของเครื่องยนต์ถือว่ามากพอที่จะแบกตัวถังใหญ่ ๆ ให้เคลื่อนไปได้ มีการไต่ระดับความเร็วไปเรื่อย ๆ แบบไร้แรงหน่วง รอบเครื่องมาไว เกียร์ 7 สปีดต่อได้นุ่มนวล
เมื่อขับลอยตัวที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องยนต์เพียงแค่ 1,750 รอบ/นาที เท่านั้น ในจังหวะที่กดคิกดาวน์เพื่อเร่งแซงก็ทำได้อย่างมั่นใจเลยล่ะ
ส่วนการขับขี่บนเส้นทางกึ่งออฟโรด แม้กระบะ 4 ประตู Nissan Navara PRO-2X จะเป็นระบบขับเคลื่อนสองล้อ แต่เนื่องจากเป็นรถยกสูงจึงสามารถขับผ่านหลุมบ่อที่ไม่ได้ลึกมากไปได้แบบสบาย รวมไปถึงการใช้ความเร็วในทางฝุ่น ระบบ Traction Control ทำงานได้ดีมาก ขับออกตัวแรง ๆ ไม่ต้องกลัวลื่นไถลเลย
7. Mazda BT-50

ราคารถกระบะ Mazda BT-50 4 ประตู 2025 (มือหนึ่ง)
- Mazda BT-50 2.2 XT Hi-Racer 8AT ราคา 992,000 บาท
- Mazda BT-50 3.0 XTR Hi-Racer 6AT ราคา 1,242,000 บาท
- Mazda BT-50 3.0 XTR 4×4 6AT ราคา 1,352,000 บาท
ราคารถกระบะ Mazda BT-50 4 ประตู (มือสอง)
- สนใจคลิก BT-50 1.9 S Hi-Racer มือหนึ่ง
891,000มือสองเริ่ม 498,000 บาท - สนใจคลิก BT-50 1.9 SP Hi-Racer มือสองเริ่ม 449,000 บาท
- สนใจคลิก BT-50 3.0 SP 4×4 มือหนึ่ง 1,272,000 มือสองเริ่ม 615,000 บาท
อัปเดตราคามือสองเมื่อ 18 มิถุนายน 2568

รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ Mazda BT-50
ถ้าคุณชอบรถกระบะสวย งานพรีเมียม งานนี้คงต้องแนะนำ Mazda BT-50 เพราะเขามีเอกลักษณ์ตาม KODO Design ที่สะท้อนภาพลักษณ์สง่างาม ดูหรู ดุดัน เรียกได้ว่าสลัดภาพลักษณ์เก่าๆ ของรถกระบะที่แข็งแกร่งบึกบึนออกไป แต่ยังใช้ขับลุยหรือขับไปทำกิจกรรม Out Door ได้ เพราะคอนเซปต์ของเขาคือ “Life Partner”
นอกจากนี้ All-New Mazda BT-50 ยังหันไปใช้แพลตฟอร์มตัวถัง เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และช่วงล่าง ร่วมกับ Isuzu D-Max ทำให้การขับขี่นั้นไม่ต่างจากดีแม็กซ์เลย เรียกได้ว่าเป็นฝาแฝด Isuzu D-Max แต่มีกระดองครอบเป็น Mazda นั่นเอง ซึ่งเราต่างทราบดีว่าเครื่องยนต์อีซูซุนั้นทนทาน ประหยัดน้ำมัน ใครก็ซ่อมได้ พร้อมการการันตีจากมาสด้าว่าค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาถูกที่สุดในกระบะด้วยกันอีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อลองทดสอบขับแล้ว แม้จะเป็นเครื่องยนต์ 1.9 เหมือนกัน แต่มาสด้าให้การตอบสนองที่ดีกว่าเมื่อกดคันเร่ง ในขณะที่เครื่องอีซูซุจะหน่วง ๆ
ส่วนช่วงล่างที่ยกมาจากอีซูซุ ได้ฟีลนุ่มนวล ขับขี่สบาย แต่ถ้าใช้ความเร็วสูงจะแอบย้วย น้ำหนักพวงมาลัยเซ็ตมาอย่างพอดิบพอดี ไม่หนักเกินไปและไม่เบาเกินไป ที่น่าสนใจ คือ ระบบเบรกของมาสด้านั้นดีกว่าอีซูซุด้วย
8. MG Extender

ราคารถกระบะ MG Extender 4 ประตู 2025 (มือหนึ่ง)
- MG EXTENDER DC 2.0 GRAND D 6MT ราคา 769,000 บาท
- MG EXTENDER DC 2.0 GRAND X 6AT ราคา 889,000 บาท
- MG EXTENDER DC 2.0 GRAND X 4WD 6AT ราคา 1,039,000 บาท
ราคารถกระบะ MG Extender 4 ประตู (มือสอง)
- MG EXTENDER 2.0 GRAND D ราคามือสองเริ่ม 299,000 บาท
- MG EXTENDER 2.0 GRAND X ราคามือสองเริ่ม 319,000 บาท
- MG EXTENDER 2.0 GRAND X 4WD ราคามือสองเริ่ม 415,000 บาท

รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ MG Extender
รถกระบะ 4 ประตู MG Extender เป็นรถที่มีออปชันเยอะมาก ๆ และยังมี i-Smart หรือระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยที่บุกเบิกตลาดเป็นเจ้าแรกอีกด้วย ที่สำคัญ เขามีจุดขายหลักคือ “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ถ้าเทียบรถกระบะที่จัดจำหน่ายในประเทศ ถือว่าเป็นรถกระบะที่มีขนาดใหญ่สุดในตลาดเลยล่ะ
ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ทีมงานที่นั่งไปด้วยยังบอกว่า กระบะ 4 ประตู ของเอ็มจี ห้องโดยสารกว้างมากและนั่งสบายที่สุด รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารยังจัดเต็ม! ซึ่งเขาเลือกใช้แต่อุปกรณ์จากบริษัทชั้นนำ
เมื่อลองขับทั้งทางตรงและทางโค้ง รถถือว่ามีกำลังมากพอในการขับเคลื่อน ให้อัตราเร่งที่ดีในทางตรงยาว ๆ เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ แต่ก็ไม่ได้แรงจนทำให้หลังติดเบาะ ส่วนคันเร่งอาจจะหน่วงไปหน่อย ต้องปรับตัวกันพักหนึ่ง
ระบบช่วงล่างมีความนุ่ม หนึบ และเกาะถนน แทบไม่มีอาการท้ายกระเด้ง ซึ่งปกติรถกระบะส่วนใหญ่มักมีอาการนี้ และเมื่อท้ายไม่กระเด้ง การเดินทางไกลก็รู้สึกไม่เหนื่อย ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนรถ SUV ด้วยระบบช่วงล่างที่ทาง MG ให้คำนิยามว่า Euro Tuning Suspension โดยโช้กอัปของ Sachs เป็นระบบช่วงล่างที่ได้รับความไว้วางใจในรถยุโรปหลาย ๆ แบรนด์
จุดที่น่าสนใจอีกหนึ่งจุด คือ การเก็บเสียงทำได้ดีมาก ดีกว่ารถกระบะในกลุ่มเดียวกัน แม้พวงมาลัยจะเบาไปหน่อยเมื่อขับด้วยความเร็วสูง แต่บอกเลยว่าดีถ้าขับในเมือง
9. Mazda BT-50 PRO

สำหรับรุ่นนี้จะไม่มีมือหนึ่งขายแล้ว แต่ราคามือสองคือดีและคุ้มมาก ใครหากระบะมือสองราคาถูก ๆ ลองดูไว้เป็นอีกตัวเลือกได้นะ หน้าตาอาจจะไม่ได้พรีเมียมเท่ารุ่นใหม่ แต่บอกเลยว่าใช้ดี (เคยนั่งมาแล้ว กว้างมาก ๆ รอบมาไว)
ราคารถกระบะ Mazda BT-50 Pro 4 ประตู (มือสอง)
- Mazda BT-50 PRO 2.2 Hi-Racer (ABS) ราคาเริ่มที่ 259,000 บาท
- Mazda BT-50 PRO 2.2 THUNDER Hi-Racer ราคาเริ่มที่ 388,000 บาท
- Mazda BT-50 PRO 3.2 R 4WD ราคาเริ่มที่ 299,000 บาท

รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ Mazda BT-50 PRO
เคยได้ลองขับและนั่ง Mazda BT-50 PRO 4 ประตู เกียร์ธรรมดา สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนคือ รอบมาไวมาก กดคันเร่งแค่นิดเดียวก็มาแล้ว
อีกอย่าง คือ ใครที่ต้องการรถกระบะมีพื้นที่ห้องโดยสารกว้าง จุสมาชิกในครอบครัวได้เยอะ มาสด้า บีที 50 โปร นี่แหละที่ตอบโจทย์ นั่งสบายจริง พื้นที่เหนือศรีษะกว้างมาก และพื้นที่ช่วงขาก็ดีกว่ากระบะรุ่นอื่น ๆ แถมยังมีช่องเก็บของใต้เบาะนั่งด้านหลังอีกด้วย
ระบบเบรกถือว่าดีมาก ๆ ความสามารถในการลากจูงหรือ Towing Capacity ดีที่สุดสำหรับรถในระดับเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่ในการบรรทุกยังมากที่สุดเมื่อเทียบกับกระบะยี่ห้ออื่น
น่าเสียดายที่ไม่มี All-New Mazda BT-50 PRO ขายแล้ว ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คนหันไปซื้อมือสองกันเยอะ เพราะชื่อเสียงเขาค่อนข้างดีเลย
10. Chevrolet Colorado

แม้จะเลิกทำการตลาดในไทยแล้ว แต่ราคามือสองน่าสนใจไม่น้อยเลยคุณพี่ ถ้าซื้อไปใช้งานถือว่าได้อยู่นะ
ราคารถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด 4 ประตู (มือสอง)
- Chevrolet Colorado Crew Cab มือสอง ปี 2011-2016 เริ่มที่ 199,000 บาทเอง
- Chevrolet Colorado Crew Cab มือสอง ปี 2017-2020 ราคาเริ่ม 397,000 บาท

รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ Chevrolet Colorado
แม้จะไม่มีศูนย์การผลิตอยู่ที่ไทยแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Chevrolet Colorado มือสอง ยังเป็นที่ต้องการ นอกจากเรื่องสมรรถนะที่ดีด้วยความเป็นรถอเมริกาแล้ว ราคายังถูกมาก จึงเข้าถึงคนที่ต้องการรถกระบะมือสองราคาถูกนั่นเอง แถมยังได้ของดีไปใช้อีกต่างหาก
เมื่อได้ลอง Chevrolet Colorado ช่วงความเร็วกลางลากไปถึงปลายได้เปรียบกว่ารถคันอื่นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากขุมพลังมีความจุเยอะกว่า แถมยังกลับมาเด่นที่ช่วงความเร็วปลายที่ไหลขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่เหนื่อยอีกด้วย

