ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
รู้ยังกับ 5 รถ Porsche ที่แพงสุดตลอดกาลถึงตอนนี้!!!
ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 18 ธ.ค 2561
แชร์
พอร์ชมีรถยนต์ระดับตำนานออกมาจนเป็นที่รู้จักกันหลายๆ ช่วงเวลา แต่คันไหนล่ะที่ถูกประมูลด้วยมูลค่าสูงที่สุด และค่าตัวแต่ละคันก็ไม่ใช่เล่นด้วย นี่คือรถพอร์ชทั้ง 5 ที่ถูกประมูลมูลค่าสูงสุด มาดูพร้อมกันต่อไปนี้กับ chobrod.com

Porsche 917/30 Spyder
5. Porsche 917/30 Spyder
พูดถึงตลาดรถต่างประเทศตอนนี้ต้องพูดถึงค่ายรถยนต์ที่มีรถหรูหราอยู่อันดับต้นๆของโลกคือ Porsche ด้วยลายสีน้ำเงิน-เหลืองและข้อความ “Die Hard” ที่ไม่มีทางสับสน ตัวรถไม่ได้เป็นแค่ขวัญใจของศึก CanAm แต่ยังเป็นรถที่ถูกถามถึงมากที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด อาจเป็นรถ Porsche ที่ทรงพลังที่สุดรุ่นหนึ่งจากที่ได้ผลิตมา ยอดประมูลทำได้ 3 ล้านเหรียญ แชสซีส์ 917/30-004 ได้ถูกประมูลต่อเป็นทอดๆ หลังจากนั้น Porsche 917/30 Spyder คือแชมป์ CanAm 1973 ด้วยผลงานของทีมเพนสกี้ ขับโดยมาร์ค โดโนฮิว และ Porsche เป็นเจ้าเดียวที่ได้แชมป์รายการนั้นเพราะที่เหลือเป็นรถเครื่อง Chevrolet ทั้งหมด
ดูเพิ่มเติม
>> Porsche 911 ใหม่เปิดตัวแล้ว ! กับเจ็นที่ 8 แห่งมนตรา “เจ้าชายกบ” ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี
>> ส่องสำนักแต่ง “RWB” ผู้เชี่ยวชาญทำให้ “พอร์ช 911” ใหญ่ กว้าง เท่

Porsche 550 A Spyder
4. Porsche 550 A Spyder
รถสปอร์ตแชสซีส์ 550A-0145 ถูกประมูลไปไม่ต่ำกว่า 5.17 ล้านเหรียญเมื่อปี 1958 รถสปอร์ตตัวเล็กใช้เครื่องยนต์สูบนอน 1.5 จากดร. Ernst Fuhrmann (แอร์นส์ท ฟูหร์มันน์) และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 240 กม./ชม.บนสนามแข่งระดับโลก เป็นเหตุผลหนึ่งที่เกิดฉายา “รถล้มยักษ์”

Porsche GT1 Strassenversion
3. Porsche GT1 Strassenversion
จากแชมป์เลอ ม็องส์สู่รถสำหรับใช้งานจริงถูกประมูลที่ราคา 5.665 ล้านเหรียญเมื่อเดือนมีนาคม 2017 ยอดที่สูงลิบลิ่วมาจากเครื่องยนต์หกสูบนอน 3.2 800 แรงม้า ตัวถังทำจากใยคาร์บอนเป็นหลัก Porsche GT1 Strassenversion (Street Version) เหยียบจาก 0-100 กม./ชม.ที่เวลาเพียง 3.6 วินาที สำหรับแชมป์เลอ ม็องส์ที่หมายถึงนั้นคือแชมป์รุ่น GT1 (และอันดับ 2 รวม) เมื่อปี 1996 นักแข่งชุดนั้นมี ฮันส์-โยกี้ สตุ๊ค, เตียครี บูต์ซ็อง และ บ็อบ วอลเล็ค

Porsche 956 (ส่วน Rothmans คือบุหรี่)
2. Porsche 956
รถแชสซีส์ 956-003 ถูกประมูลทะลุ 10 ล้านเหรียญเมื่อปี 2015 เจ้าของแชมป์เลอ ม็องส์ 1983 มีตำนานอย่าง แจ็คกี้ อิกซ์ กับ ดีเร็ค เบลล์เป็นคนขับ แต่ปีนั้น Porsche 956 กวาด 3 อันดับรวด โดยอันดับ 2 เป็นของโยเค่น มาส-เวอร์นอน ชุปปัน และอันดับ 3 จากเฮอร์ลีย์ เฮย์วู้ด, อัล ฮอลเบิร์ต และเยือร์เก้น บาร์ธ Porsche 956 ยังเป็นรถคันแรกที่ใช้ “ground effect” (ดาวน์ฟอร์ซเกิดจากฟอร์มการทำรูปแบบใต้ท้องรถ) ทำให้เกิดมาตรฐานในยุค 1980

Gulf Porsche 917 K
1. Porsche 917 K
มีนักสะสมคนหนึ่งเปย์หนักมากเพื่อรถคันนี้ Porsche 917 K แชสซีส์ 917-024 ทำยอดทะลุ 14 ล้านเหรียญ นี่คือรถที่โจ ซิฟเฟิร์ทใช้ในภาพยนตร์ “Le Mans” ที่สตีฟ แม็คควีนนำแสดงเมื่อปี 1971 แต่ไม่จำเป็นต้องพูดถึงมูลค่าในวงการฮอลลีวู้ด 917 มีความพิเศษในหน้าประวัติศาสตร์ของ Porsche นี่คือแชมป์เลอ ม็องส์ครั้งแรกของแบรนด์เมื่อปี 1970 ใช้เครื่องยนต์ 5.0 V12 พัฒนาจาก Weissach (ไวส์ซัค) ที่ไม่ได้เอาลูกสูบวางแนวนอน ส่วนคนขับคือฮันส์ แฮร์มานน์ กับ ริเชิร์ด แอ็ตวู้ด
Source: Porsche AG
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้เเละคราวหน้าเรื่องอะไรติดตามไปพร้อมกันเลยนะครับ
10 อันดับรถหรู ที่แพงที่สุดในโลก ในปี 2023
รถยนต์ที่มีราคาแพงก็มักจะเป็นรถที่มีดีไซน์ที่สวยสะดุดตากว่ารถธรรมดาทั่วไป รวมไปถึงความแรง สมรรถนะเครื่องยนต์ที่ไม่ธรรมดา ที่หลายๆคนคุ้นเคยอย่างเช่น Rolls-Royce, Bugatti, Lamborghini, เป็นต้น
10 อันดับรถหรู ที่แพงที่สุดในโลก ในปี 2023 มีรุ่นอะไรบ้าง

อันดับ 1. Rolls-Royce Boat Tail ราคา 28.0 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 890 ล้านบาท)
Rolls-Royce เป็นรถที่แพงที่สุดในโลก สำหรับ Boat Tail เป็นยนตรกรรมสั่งทำพิเศษโดยได้แรงบันดาลใจจากเรือยอร์ชระดับ J Class ภายนอกตกแต่งไม่ซ้ำใครในแบบทูโทน มีไฟหน้าเป็นเส้นหนาแนวนอน ท้ายรถใช้แผงไม้วีเนียร์ตกแต่งมาพร้อมตู้แช่เย็นสำหรับแชมเปญ ร่มกันแดดบิ้วอิน โต๊ะด้านหลังตกแต่งด้วยไม้ Caleidolegno และเก้าอี้บาร์สูงที่ทำจากเส้นใยไฟเบอร์ ภายในห้องโดยสารตกแต่งแบบไฮเอนด์ ผสมผสานกับการใช้ไม้ตกแต่งบริเวณช่วงล่างและพื้นภายในห้องโดยสารทั้งหมด ชวนให้นึกถึงโครงของลำเรือ พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสีมันวาว ไม้Caleidolegno และนาฬิกา BOVET 1822 หนึ่งเรือนบนแผงหน้าปัด

อันดับ 2. Bugatti La Voiture Noire ราคา 18.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 598 ล้านบาท)
La Voiture Noire มีความหมายในภาษาฝรั่งเศสว่า “รถยนต์สีดำ” มีการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคลาสสิคระดับตำนานอย่าง Type 57 SC Atlantic ถือเป็นรถ Bugatti รุ่นใหม่ที่แพงที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ทำขึ้นด้วยมือ และเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ 4ตัว ให้กำลังสูงสุดถึง 1,500 แรงม้า

อันดับ 3. Rolls-Royce Sweptail ราคา 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 407 ล้านบาท)
Rolls-Royce Sweptail สั่งทำพิเศษแบบ 2ประตู 2ที่นั่ง ใช้เวลาพัฒนามากกว่า 4ปี มาพร้อมการออกแบบที่เน้นความประณีต วิจิตรตั้งแต่กระจกหน้าทรงประตูวิหารแพนธีออนตี ตัดกับการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมที่บรรจงออกแบบอย่างประณีต ภายในให้ความรู้สึกหรูหราคล้ายกับนั่งในเรือยอร์ช ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 459 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

อันดับ 4. Bugatti Centodieci ราคา 9.0 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 297 ล้านบาท)
Centodieci เปิดตัวครั้งแรกในงาน Pebble Beach car week ปีที่แล้ว อวดโฉมรถรุ่นหายาก สุดแพงอีกรุ่น ยุค 90 ไฮเปอร์คาร์รุ่นพิเศษนี้ถูกผลิตเพียง 10 คันเท่านั้น คันนี้เป็นรถย้อนยุคของ Bugatti EB110 SS ในขณะเดียวกันก็เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 110 ปี อันน่าจดจำของ Bugatti และมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง ทำให้รถรุ่นนี้มีน้ำหนักเบากว่ารถที่ใช้เป็นพื้นฐานอย่าง Chiron ถึง20 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีพละกำลังเพิ่มมากกว่าถึง 100 แรงม้า เป็น 1,600 แรงม้าด้วย

อันดับ 5. Mercedes-Maybach Exelero ราคา 8.0 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 254 ล้านบาท)
Exelero เปิดตัวครั้งแรกในปี2004 ในรูปแบบ one-off หรือมีอยู่คันเดียวในโลก โดยรถคันนี้เป็นโปรเจ็กต์ที่ Mercedes-Maybace และ Fulda บริษัทยางในเครือ Goodyear ในเยอรมันร่วมกันพัฒนา เพื่อแสดงถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ภายใต้ฝากระโปรงติดตั้งเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 690 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,020 นิวตันเมตร และท็อปสปีด 350 กม./ชม.

อันดับ 6. Bugatti Divo ราคา 5.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 191 ล้านบาท)
Bugatti Divo ถือเป็นรถที่มีดีไซน์สวยสุดตั้งแต่หัวจรดท้าย ทั้งยังมีหลายๆสิ่งที่พิเศษมากกว่าของ Chiron ด้วยน้ำหนักที่เบากว่าถึง 35 กิโลกรัม การเพิ่มล้อที่เบาขึ้น อินเตอร์คูลเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์ และการกำจัดเสียงรบกวนออก ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร ทำอัตรเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.4 วินาที และความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 380 กม./ชม.

อันดับ 7. Pagani Huayra Imola ราคา 5.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 178 ล้านบาท)
Huayra Imola ไฮเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.2 ลิตร ทวินเทอร์โบ จาก Mercedes-AMG ให้กำลังสูงสุด 827 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,100 นิวตันเมตร ส่งผลให้ Huayra Imola คือไฮเปอร์คาร์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ Pagani เคยสร้างมา นอกจากนี้ตัวรถยังโดดเด่นไปด้วยปีกหลังขนาดใหญ่ ช่องดักลมบนหลังคา แชสซีส์โมโนค็อกเสริมแข็งแกร่งด้วยวัสดุพิเศษ และผลิตจำนวนจำกัดเพียง 5 คันเท่านั้น

อันดับ 8. Koenigsegg CCXR Trevita ราคา 4.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 153 ล้านบาท)
CCXR Trevita เป็นรถยนต์รุ่นสูงสุดในตระกูล CCX ที่ผลิตขึ้นเพียง 3 คันเท่านั้น มีความพิเศษอยู่ที่ตัวถังทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ถูกทำขึ้นในรูปแบบสีขาวประกายเพชรแทนที่จะเป็นสีดำแบบทั่วไป ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ความจุ 4.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 1,004 แรงม้า

อันดับ 9. Lamborghini Veneno ราคา 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 144 ล้านบาท)
Veneno เป็นรถรุ่นพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการก่อตั้งบริษัท มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 740 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 609 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 2.9 วินาที มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งคูเป้และเปิดประทุน ทั้งหมดมีอยู่เพียง 14 คันบนโลก

อันดับ 10. Bugatti Chiron Super Sport 300 ราคา 3.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 128 ล้านบาท)
Bugatti Chiron ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้คนทั่วโลก ด้วยการทำความเร็วทะลายกำแพง 300 ไมล์/ชม. ได้สำเร็จด้วย Chiron เวอร์ชั่นโปรโตไทป์ที่มีการดัดแปลงมาเป็นพิเศษ และได้ถูกสานต่อมาเป็น Chiron Super Sport 300+ ผลิตจำกัดเพียง 30 คัน มาพร้อมตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ ตกแต่งด้วยแถบสีส้ม มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่ด้านหน้า ดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดใหญ่ขึ้น ปลายท่อไอเสียใหม่ สปอยเลอร์หลังถูกถอดออก และมีช่องระบายอากาศแบบวงกลมบนซุ้มล้อหน้าทั้งสองฝั่ง มาพร้อมเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ

