ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
Isuzu ทำสถิติยอดขายสูงสุดในออสเตรเลีย ปี 2024 มีรถกระบะ D-Max เป็นผู้นำทำยอดขาย
Isuzu ทำสถิติยอดขายสูงสุดในออสเตรเลีย ปี 2024 มีรถกระบะ D-Max เป็นผู้นำทำยอดขาย
Isuzu ออสเตรเลียทำสถิติยอดขายสูงสุดในปี 2024 และติดอันดับ Top 10 แบรนด์ขายดีต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
รุ่นที่ขายดี 2 รุ่นหลัก คือ D-Max และ MU-X ซึ่ง Isuzu D-Max เป็นรถขายดีอันดับ 3 ปี 2024 ในหมวดรถกระบะ 4×4 ด้วยยอดขาย 24,031 คัน และ Isuzu MU-X ก็ทำยอดขายสูงสุดที่เคยมีมาอยู่ที่ 17,978 คัน เพิ่มขึ้น 27.2% จากปีก่อนหน้า
D-Max ทำยอดขายได้มากกว่า Mazda BT-50 ถึง 3 เท่า (15,164 คัน) ทั้งที่เป็นรถรุ่นเดียวกันแต่ต่างดีไซน์ ใช้เครื่องยนต์และโครงสร้างแชสซีเหมือนกัน
ในส่วนของรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ D-Max ขายดีกว่า Ford Ranger โดยเพิ่มขึ้น 7% ที่ 6,163 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 23.9% รองจาก Toyota HiLux ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ แม้จะตามหลัง Ranger (57,960 คัน) และ HiLux (45,839 คัน) แต่ก็ครองอันดับ 3 ด้วยยอด 24,031 คัน นำคู่แข่งอย่าง Mitsubishi Triton (14,737 คัน) อย่างขาดลอย
ด้าน MU-X ทำสถิติยอดขายสูงสุดในปี 2024 ที่ 17,978 คัน เพิ่มขึ้น 27.2% จากปีก่อน และขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ในกลุ่ม SUV ขนาดใหญ่ รองจาก Ford Everest ที่ขายได้ 26,494 คัน
ความสำเร็จของ Isuzu ที่มีรถเพียง 2 รุ่นสะท้อนให้เห็นว่า การมุ่งเน้นตลาดเฉพาะกลุ่มอาจเป็นข้อได้เปรียบ แม้จะมีข้อจำกัดด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ แต่ก็สามารถทำยอดขายแซงหน้าแบรนด์อื่นๆ อย่าง Nissan, Subaru และ Volkswagen ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
สำหรับปี 2025 MU-X จะได้รับการปรับโฉมใหม่พร้อมกับ Mazda BT-50 หลังจาก D-Max ได้รับการปรับโฉมไปในปี 2024 แต่ก็ต้องเผชิญกับคู่แข่งใหม่อย่าง BYD Shark 6 รถกระบะปลั๊กอินไฮบริด และ Kia Tasman ที่จะเปิดตัวกลางปี รวมถึง LDV Terron 9 ที่คาดว่าจะเข้าตลาดในปี 2025
10 อันดับรถ ขายดี ในงาน MOTOR EXPO 2007
1 Feb 2008
บทสรุปความสำเร็จของงานแสดงยานยนต์ MOTOR EXPO 2007 ยิ่งใหญ่ตระการตาสมฐานะมวย วางอันดับ 3 ของเอเชีย ด้วยสถิติที่น่าสนใจ ทั้งยอดผู้ชมงาน ยอดจำหน่ายรถยนต์ และยอดเงินสะพัดในงาน ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบที่ผลักดันให้งานประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย และเป็นธรรมเนียมของเราครับ ที่จะนำตัวเลขต่างๆ มาคุยให้ฟัง สำหรับตัวเลขแรก เป็นข้อมูล “10 อันดับรถ ขายดี” โดยอันดับ 1 เป็นของ โตโยตา ตามความคาด หมาย ด้วยยอด 5,074 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 28.8 % ยังคงร้อนแรงรั้งอันดับ 1 เหมือนปีที่แล้วครบถ้วนกระบวนความ อันดับ 2 เป็นของ อีซูซุ ทำได้ 2,552 คัน ส่วนแบ่ง 14.5 % อันดับ 3 ฮอนดา ทำได้ 2,125 คัน ส่วนแบ่ง 12.1 % สรุปว่าอันดับ 1-3 ตำแหน่งต่างๆ ของปีนี้ยังเหมือนปีที่แล้ว แต่รูปเกมส์มีเชือดเฉือนกันพอสมควร โตโยตา ยังแรงด้วยโพรดัคท์ที่มีความหลากหลาย ส่วน อีซูซุ มีเพียงแค่ ดี-แมกซ์ โกลด์ ซีรีส์ ฉลอง 50 ปี เป็นตัวชูโรง ฉะนั้นตัวเลขเลยทิ้งห่างเกือบครึ่ง ! และ ฮอนดา สร้างโอกาสทางการค้าได้ดีเกินบรรยาย กับความร้อนแรงของ ฮอนดา แอคคอร์ด ใหม่ ที่สร้างกระแสให้ผู้ชมงานเดินมาชมตัวจริงจนล้นหลาม อันดับ 4 ปีนี้เป็นของ คาวบอยอเมริกัน เชฟโรเลต์ ทำได้ 1,889 คัน ส่วนแบ่ง 10.7 % ขึ้นมาจากอันดับ 5 ในปีที่แล้วอย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยรถพิคอัพ โคโลราโด รุ่นใหม่ และ แคพทีวา เอสยูวี เนื้อหอม อันดับ 5 มิตซูบิชิ มียอดจองถึง 1,220 คัน ส่วนแบ่ง 6.9 % พลาดท่าเสียทีเพราะปีที่แล้ว รั้งอันดับ 4 อันดับ 6 เป็นของค่าย ปโรตอน น้องใหม่มาแรงแซงรุ่นพี่ ด้วยยอดจอง 1,058 คัน ส่วนแบ่ง 6.0 % เป็นครั้งแรกที่ออกงานและสร้างกระแสรถเล็กที่กำลังจะกลับมาฮิทอีกครั้ง อันดับ 7 นิสสัน ปิดตัวเลขที่ 1,000 คัน ส่วนแบ่ง 5.7 % อันดับ 8 มาซดา ทำผลงานได้คงเส้นคงวาดีมาก คว้ายอดจองไป 765 คัน ส่วนแบ่ง 4.3 % เท่ากับตำแหน่งเดิมในปีที่แล้ว และมีผลงานดีกว่าพี่น้องร่วมค่าย โดย ฟอร์ด ตามมาในอันดับ 9 ทำได้ 477 คัน ส่วนแบ่ง 2.7 % และอันดับ 10 เป็นของค่าย ฮันเด ที่ยังแรงไม่เลิก เปิดตัวรถหลายรุ่น ล่าสุดนำเข้ารถตู้ รุ่น เอช-1 สามารถทำยอดรวมได้ 389 คันส่วนแบ่ง 2.2 % สรุปยอดจำหน่ายรถของบริษัทรถยนต์ที่เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 34 ยี่ห้อ 17,605 คัน สูงกว่างานมหกรรม ยานยนต์ ครั้งที่ 23 ที่จำหน่ายได้ 17,106 คัน อยู่ 499 คัน หรือ 2.9 % ส่วนยอดผู้ชมงานมีจำนวน 1,662,121 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.6 % (ผู้เข้าชมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 23 จำนวน 1,604,245 คน) ปิดท้ายที่ยอดเงินสะพัดภายในงานทั้งสิ้น ประมาณ 20,000 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่เราประเมินจาก ยอดขายรถใหม่ รถมือสอง รถเพื่อการพาณิชย์ อุปกรณ์รถยนต์ เครื่องเสียงติดรถยนต์ ฯลฯ แถมท้ายอีกนิดครับ ตัวเลขรถมือสองที่ค้าขายในงานปีนี้ มีตัวเลขรวม 434 คัน จาก 5 ยี่ห้อ อันดับ 1 เป็นของ โตโยตา 193 คัน อันดับ 2 บีเอมดับเบิลยู 169 คัน อันดับ 3 เชฟโรเลต์ 48 คัน อันดับ 4 มีนี 17 คัน และอันดับ 5 เมร์เซเดส-เบนซ์ 7 คัน
