ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
รวมรถยนต์พระที่นั่ง ในรัชกาลที่ 10
MR.CARROพฤษภาคม 3, 2019
2 minutes read

ในช่วงแห่งการเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 นับเป็นช่วงแห่งความปลื้มปิติของเหล่าพสกนิกรชาวไทย ในการขึ้นเป็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 อย่างสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 6 พฤษภาคม 2562 ณ พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
และเนื่องด้วย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดด้านการทหารและการบินเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการบิน ซึ่งพระองค์ทรงใฝ่รู้ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และในส่วนของรถยนต์และเครื่องยนต์กลไก พระองค์ก็ทรงโปรดมากๆ เช่นเดียวกัน
CARRO จึงขอนำเสนอถึง “รถยนต์พระที่นั่ง” ของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เท่าที่ค้นหามาได้ ให้ทุกท่านได้รับชมกันครับ
1. Daimler DE36
Daimler DE36 (เดมเลอร์ ดีอี36) พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรำลึกถึงพระราชบิดา ด้วยการทรงนำรถยนต์พระที่นั่ง Daimler DE36 Landaulette มีเลข Chassis เลขตัวถัง 51747 ส่วนตัวถังรถผลิตโดย Hooper แห่ง Westminster ซึ่งผลิตด้วยมือ เป็นรุ่นฐานล้อยาว มีกระจกแบ่งระหว่างคนขับและผู้โดยสาร ใช้เครื่องยนต์แบบ V8 ขนาด 5.5 ลิตร 150 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบคันบังคับไฟฟ้า 4 สปีด
ซึ่งเป็นรถยนต์พระที่นั่ง “อย่างเป็นทางการ” คันแรกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (หมายเลขทะเบียน “ร.ย.ล. 1”) กลับมาประจำการในฐานะรถยนต์พระที่นั่งทรงอีกครั้งในรอบ 40 กว่าปี หลังจากปลดประจำการ


2. Delahaye G.F.A. 180
Delahaye G.F.A. 180 (เดอลาเฮย์ จีเอฟเอ 180) ปี 1953 เดิมเป็นรถพระที่นั่งของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้ แต่ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำออกมาใช้งานในพิธีต่างๆ บ้าง
ผลิตเมื่อปี 2496 ตัวถังแบบลีมูซีน (หมายเลขแชสซีส์ 825018) ตัวถังผลิตโดย Henri Chapron (หมายเลขตัวถัง 6961) ตัวรถผลิตโดย Société Des Automobiles Delahaye มีหน้าต่างกระจกกั้นพระที่นั่งตอนหน้า และตอนหลัง กระจกหน้าต่างแบบไฮดรอลิก และหน้าต่างรับแดด (ซันรูฟ) บนหลังคา ส่งกำลังผ่านเกียร์ 4 สปีด

3. Rolls-Royce Phantom Limousine De Ville
Rolls-Royce Phantom Limousine De Ville (โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม ลิมูซีน เดอวิลล์) ปี พ.ศ. 2482 (หมายเลขแชสซีส์ 3DL 158) ผลิตที่โรงงานโรลส์-รอยส์ ในเมืองดาร์บี ใช้เครื่องยนต์แบบ V12 (หมายเลขเครื่อง W98 H) มีจานจ่าย 2 ชุด ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
ลงเรือที่เซาท์แธมตัน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2482 เจ้าของเดิมคือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ต่อมา สมเด็จพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำออกมาใช้งานในพิธีต่างๆ บ้าง

4. Volvo 264 TE
Volvo 264 TE (วอลโว่ 264 ทีอี) รุ่นนี้ ออกแบบโดย “Bertone” เครื่องยนต์รหัส B27E ขนาด 2.7 ลิตร แบบ V6 OHC ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 21.0 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ/นาที ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด ทำความเร็วได้กว่า 165 กม./ชม.
บริษัท สวีเดนมอเตอร์ส จำกัด มอบหมายให้นายวันนิวัติ ศรีไกรวิน และนางจุไรรัตน์ ศรีไกรวิน เป็นผู้แทนของบริษัทฯ น้อมเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ป้ายทะเบียน ร.ย.ล. 14

5. Mercedes-Benz 450 SEL 6.9
Mercedes-Benz 450 SEL 6.9 (เมอร์เซเดส-เบนซ์ 450 เอสอีแอล 6.9) รถยนต์พระที่นั่ง ป้ายทะเบียน ร.ย.ล. 10 (ปัจจุบัน ทะเบียน 1ด-0106 กรุงเทพมหานคร)
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ทรงอภิเษกสมรส กับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรชายาฯ ในวันพระราชพิธีอภิเษกสมรส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานรถยนต์ Mercedes-Benz 450 SEL 6.9 เครื่องยนต์ขนาด 6.9 ลิตร เป็นของขวัญ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โปรดรถพระราชทานคันนี้มาก ในระหว่างทรงศึกษาที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ทรงขับรถคันนี้ เสด็จพระราชดำเนินต่างจังหวัดอยู่เสมอ ทรงขับจากกรุงเทพฯ ถึงนราธิวาส และจากกรุงเทพฯ ถึงอุดรธานี พิษณุโลก และ ลำปาง

6. Rolls-Royce Corniche Convertible
Rolls-Royce Corniche Convertible (โรลส์-รอยซ์ คอร์นิช คอนเวอร์ติเบิ้ล) เป็นรถที่พสกนิกรหลายท่านคุ้นตาในอดีต เพราะเป็นรถที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ใช้ทรงงานมากที่สุดอีกรุ่น แต่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงมีใช้งานด้วยเช่นกัน

7. Rolls-Royce Silver Spur Limousine
Rolls-Royce Silver Spur (โรลส์-รอยซ์ ซิลเลอร์ สเพอร์) นับเป็นรถลิมูซีน ที่คุ้นตาพสกนิกรมากที่สุดอีกหนึ่งรุ่น เพราะใช้ในงานพระราชพิธีบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นรถประจำของพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ และเป็นหนึ่งในรถยนต์พระที่นั่ง ที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประทับนั่งเป็นประจำ
ขอขอบคุณภาพจาก
- ข่าวปลอม! เจ้าชายซาอุฯ แจกโรลส์รอยซ์ คันละ 50 ล้านให้นักเตะ หลังปราบอาร์เจนฯ
27 Nov 2022



Play
ข่าวปลอม! เจ้าชายซาอุดีอาระเบีย ประกาศแจกรถโรลส์รอยซ์ คันละกว่า 50 ล้านบาทให้นักเตะ หลังปราบอาร์เจนฯได้ 2-1 ด้าน แอร์เว่ เรอนาร์กุนซือของซาอุฯ พร้อมศูนย์หน้าดาวยิง ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวในโซเชียลมีเดีย จาก Suhel Seth นักธุรกิจชาวอินเดีย และ Awab Alvi ทันตแพทย์และนักเคลื่อนไหว โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด (Mohammed bin Salman) มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ประกาศอัดฉีดนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติที่ลงสู้ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย แจกโรลส์รอยซ์ให้นักเตะทุกคน ราคาคันละกว่า 50 ล้านบาท หลังเอาชนะอาร์เจนตินา ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ส่งผลให้ ซาอุดีอาระเบียรั้งอันดับ 1 ของกลุ่ม C หลังจบการแข่งขันนัดแรก
โดยประกาศมอบรถยนต์ Rolls-Royce Phantom ให้กับทีมนักกีฬาทุกคน หลังทำผลงานเฉือนเอาชนะทีมชาติอาร์เจนตินาไปได้ 2-1 และกลายเป็นการจบสถิติไร้พ่าย 36 นัดติดต่อกันของทีมอาร์เจนตินา
ทั้งนี้ เดลีเมล สื่อชื่อดังของอังกฤษ ออกมาเผยว่าต้นตอข่าวดังกล่าวมาจากหมอฟันชาวปากีสถานรายหนึ่งที่มีผู้ติดตาม และมีอิทธิพลด้านโซเชียลมีเดียค่อนข้างสูง ออกมาเผยแพร่เรื่องนี้บททวิตเตอร์แบบลอยๆ เท่านั้น ไม่มีมูลความเป็นจริงแต่อย่างใด
ล่าสุดมีรายงานว่า เฮดโค้ชของทีมชาติซาอุดิอาระเบีย แอร์เว่ เรอนาร์ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แจกรถยนต์หรูโรลส์รอยซ์ ให้แก่นักฟุตบอลทุกหลังเอาชนะอาร์เจนติน่า โดยระบุว่า
เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เรามีกระทรวงกีฬา และสมาคมฟุตบอล ที่ทำงานกันอย่างเคร่งเครียด มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะมาทำอะไรแบบนี้เลย การแถลงข่าวก่อนเกมพบ อาร์เจนติน่า เป็น 1 ใน 3 เกมที่สำคัญมากสำหรับเรา และเรื่องเดียวที่ถือเป็นข่าวดีคือการจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยอันดับ 1 หรือ 2 เท่านั้น”
ด้าน ดาวยิงทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ซาเลห์ อัล-เชห์รี่ ก็ได้ออกมายืนยันอีกเสียงว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง และนักเตะทุกคนตั้งใจลงสนามเพื่อรับใช้ประเทศ และทำผลงานให้ดีที่สุดอยู่แล้ว
“เรื่องข่าวลือนั้นมันไม่ใช่เลย เราอยู่ที่นี่ตรงนี้เพื่อรับใช้ประเทศบ้านเกิดของเราให้ดีที่สุด นั่นคือผลตอบแทนของพวกเขา”
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
โปแลนด์ – ซาอุดีอาระเบีย พรีวิวฟุตบอลโลก วิเคราะห์เกม ดูบอลสด 20.00 น.
25 Nov 2022
อันดับตารางคะแนนฟุตบอลโลก 2022 ทุกกลุ่ม สรุปผลบอลโลกล่าสุด
22 Nov 2022
เปิดราคาลิขสิทธิ์บอลโลก แพงแค่ไหน ลุ้น! คนไทยจะได้ดู ฟุตบอลโลก 2022 หรือไม่?
09 Nov 2022
สำหรับผลงานของทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่าน พ่ายให้กับโปแลนด์ไป 0-2 ทำให้นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มต้องไปลุ้นเข้ารอบกับเม็กซิโกที่พ่ายให้กับอาร์เจนติน่ามา 0-2 เช่นเดียวกัน ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อหาทีมผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ต่อไป

