ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
6 รถซุปเปอร์คาร์ ที่แพงที่สุดในโลก

IP: 180.183.43.x
5 ปีที่ผ่านมา

6 รถซุปเปอร์คาร์ ที่แพงที่สุดในโลก
อันดับที่ 1. Bugatti La Voiture Noire ราคา 18.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 600 ล้านบาท)
ด้วยราคา 18.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังหักภาษีแล้ว ทำให้ไฮเปอร์คาร์รุ่นพิเศษจากค่ายรถฝรั่งเศษ กลายเป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกคันใหม่ทันที La Voiture Noire มีความหมายในภาษาฝรั่งเศษว่า “รถยนต์สีดำ” ตัวรถถูกสร้างขึ้นมาจากพื้นฐานของ Chiron และมีการออกแบบที่ได้รับ แรงบันดาลใจมาจากรถคลาสสิคระดับตำนานอย่าง Type 57SC Atlantic มาพร้อมตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ทำขึ้นด้วยมือ และทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 1,500 แรงม้า
อันดับที่ 2. Rolls-Royce Sweptail – ราคา 12.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 407 ล้านบาท)
นี่คือเจ้าของตำแหน่งรถยนต์ที่แพงที่สุดในปี 2017 และแน่นอนว่าราคาสูงขนาดนี้ต้องมีอยู่คันเดียวในโลก Sweptail สุดยอดอัครยานยนต์สั่งทำพิเศษแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ที่ทาง Rolls-Royce ใช้เวลาพัฒนามากกว่า 4 ปี ก่อนจะเปิดตัวที่งาน Concorso d’Eleganza Villa d’Este 2017 มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 459 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
สนับสนุนบทความโดย pussy888thai
pussy888 คือเว๊บออนไลน์ที่ดีที่สุด
อันดับที่ 3.Bugatti Centodieci – ราคา 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 297 ล้านบาท)
Bugatti เปิดตัว Centodieci เมื่อปีที่ผ่านมาในงาน Pebble Beach car week เผยให้เห็นที่สุดของรถระดับอัลตร้าแรร์และหนึ่งในรถแพงที่สุดในโลก ซึ่งมีการผลิตกำกัดเพียง 10 คันเท่านั้น
Centodieci เป็นรถรุ่นพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Chiron และด้วยการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง ทำให้รถรุ่นนี้มีน้ำหนักเบากว่า Chiron ถึง 20 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีพละกำลังเพิ่มมากกว่าถึง 100 แรงม้า
อันดับที่ 4. Mercedes-Maybach Exelero – ราคา 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 254 ล้านบาท)
Exelero เปิดตัวคร้งแรกในปี 2004 ในรูปแบบ one-off หรือมีอยู่คันเดียวในโลก โดยรถคันนี้เป็นโปรเจ็กต์ที่ Mercedes-Maybach และ Fulda บริษัทยางในเครือ Goodyear ในเยอรมันร่วมกันพัฒนาเพื่อแสดงถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ภายใต้ฝากระโปรงติดตั้งเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 690 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,020 นิวตันเมตร และท็อปสปีด 350 กม./ชม.
อันดับที่ 5. Bugatti Divo – ราคา 5.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 191 ล้านบาท)
ในบรรดารถยนต์ราคาแพงที่เพิ่งเปิดตัว Bugatti Divo ถือเป็นรถยนต์ที่มีดีไซน์สวยสุดตั้งแต่หัวจรดท้าย อีกทั้งยังมีหลายๆ สิ่งที่พิเศษมากกว่า Chiron รถยนต์ที่ใช้เป็นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่เน้นความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งสามารถสร้างแรงกดอากาศ (Downforce) ได้มากกว่า Chiron ถึง 90 กิโลกรัม มีฝาครอบเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ สปอยเลอร์หลังที่มีความกว้างกว่า Chiron ถึง 23% อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่าถึง 35 กิโลกรัม
ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.4 วินาที และความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 380 กม./ชม.
อันดับที่ 6. Pagani Huayra Imola – ราคา 5.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 178 ล้านบาท)
Huayra Imola ไฮเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี ถูกแนะนำตัวให้ชาวโลกได้รู้จักไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา และเพิ่งเปิดเผยรายระเอียดทางเทคนิคเมื่อต้นปีนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.2 ลิตร ทวินเทอร์โบ จาก Mercedes-AMG ให้กำลังสูงสุด 827 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,100 นิวตันเมตร สิ่งนี้ส่งได้ผลให้ Huayra Imola คือไฮเปอร์คาร์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ Pagani เคยสร้างมา
นอกจากนี้ตัวรถยังโดดเด่นไปด้วยปีกหลังขนาดใหญ่ ช่องดักลมบนหลังคา แชสซีส์โมโนค็อกเสริมแข็งแกร่งด้วยวัสดุพิเศษ และผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 5 คันเท่านั้น
5 อันดับแบรนด์รถหรูที่แพงที่สุดในโลก อัปเดต 2025
Last updated: 23 ก.พ. 2568 | 41427 จำนวนผู้เข้าชม |

หากพูดถึงรถหรู หรือ luxury car แล้ว หลายคนคงนึกถึงเหล่าแบรนด์รถหรูเจ้าดัง ๆ อย่าง Rolls-Royce, Bugatti, Lamborghini, Ferrari หรือ Aston Martin ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับไปทั่วโลก แต่คุณรู้หรือไม่ว่ารถที่แพงที่สุดในโลกมาจากแบรนด์อะไร มีจุดเด่นและประสิทธิภาพที่ดีมากขนาดไหน วันนี้เราได้รวบรวม 5 อันดับแบรนด์รถหรูสุดพรีเมี่ยม ที่ราคาแพงที่สุดในโลกปี 2025 มาให้ทุกคนที่สนใจได้ลองอ่านและศึกษากันดูครับ
5 อันดับแบรนด์รถหรูราคาแพงที่สุดในโลก
1. Rolls-Royce Boat Tail

ขอบคุณภาพจาก Rolls-Royce
ราคา 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 960 ล้านบาท)
Rolls-Royce Boat Tail เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 เป็นรถยนต์หรูเปิดประทุน 2 ประตูสั่งทำพิเศษที่มีเพียง 3 คันในโลก ครองตำแหน่งรถสปอร์ตที่แพงที่สุดในโลก และแบรนด์รถหรูคันนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรถเปิดประทุนยุค 1930 ที่มีชื่อเดียวกัน การออกแบบภายนอกของรถมีความโค้งมนและหรูหรา ไฟหน้า LED ที่บางเฉียบและไฟท้ายแนวนอนช่วยเพิ่มความทันสมัยให้กับรูปลักษณ์ ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหรูหรา เช่น ไม้ หนัง และคริสตัล เบาะนั่งหุ้มหนังสีฟ้าอ่อนตัดกับแผงหน้าปัดไม้สีดำ ที่สะท้อนถึงความรักของเจ้าของรถที่มีต่อท้องทะเลได้อย่างลงตัว

Rolls-Royce Boat Tail ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 เทอร์โบคู่ขนาด 6.75 ลิตร ให้กำลัง 563 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ใช้เวลาประมาณ 5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กม./ชม.
Rolls-Royce Boat Tail เป็นรถยนต์ที่หรูหรา ทรงพลัง และคงความคลาสสิคของความเป็น Rolls-Royce ไว้ได้ในทุกกระเบียดนิ้ว นอกจากความสวยงามของดีไซน์อันน่าหลงใหลแล้ว เครื่องยนต์ภายในยังจัดเต็มไม่เป็นสองรองใคร ควรค่าแก่การเป็นรถที่มีราคาแพงที่สุดในโลกประจำปี 2025 อย่างไม่ต้องสงสัยครับ
2. Bugatti La Voiture Noire

ขอบคุณภาพจาก Bugatti
ราคา 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 600 ล้านบาท)
Bugatti La Voiture Noire เป็นรถสปอร์ตไฮเปอร์คาร์ที่ผลิตขึ้นเพียงคันเดียวในโลก เปิดตัวในปี 2019 ด้วยราคา 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 600 ล้านบาท) รถยนต์คันนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Bugatti Type 57 SC Atlantic ซึ่งเป็นรถคลาสสิคที่ผลิตขึ้นในช่วงปี 1930 ตัวถังของรถจะเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด มาในโทนสีดำสนิทแบบ Deep Black Gloss ดีไซน์ภายนอกเน้นความเรียบหรูหรา โฉบเฉี่ยว และทรงพลัง ภายในหุ้มด้วยหนังเกรนสีน้ำตาล Havana Brown ตัดกับอะลูมิเนียมปัดเงาสะดุดตา คอนโซลกลางมีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่และเบาะนั่งทรงสปอร์ตชวนหลงใหลที่ให้กลิ่นอายแบบโมเดิร์น

Bugatti La Voiture Noire ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ W16 เทอร์โบชาร์จ 8.0 ลิตรที่ให้กำลัง 1,500 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลา 2.4 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 420 กม./ชม. La Voiture Noire ใช้เวลาในการพัฒนานานกว่า 2 ปี ผลิตโดยช่างฝีมือกว่า 60 คน และใช้เวลาประกอบมากถึง 6,000 ชั่วโมง เจ้าของรถคันนี้ไม่ได้รับการเปิดเผย แต่คาดว่าจะเป็นมหาเศรษฐีชาวยุโรป
3. Bugatti Centodieci

ขอบคุณภาพจาก Bugatti
ราคา 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 300 ล้านบาท)
Bugatti Centodieci เป็น Supercar รุ่นพิเศษที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 110 ปีของแบรนด์รถหรู Bugatti ตัวรถเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ด้วยราคาสูงถึง 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 300 ล้านบาท) และผลิตเพียง 10 คันเท่านั้น Centodieci ได้รับการตั้งชื่อตาม Bugatti EB110 ซึ่งเป็นรถซูเปอร์คาร์รุ่นแรกของ Bugatti ที่ผลิตขึ้นในปี 1991 ซึ่งนอกจากชื่อแล้ว ดีไซน์ภายนอกและภายในยังได้รับอิทธิพลมาจาก EB110 ด้วยในหลาย ๆ แง่มุม

Bugatti Centodieci เป็น Supercar ที่มีรูปลักษณ์ดุดันและปราดเปรียว มีไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและไฟท้ายแบบ LED สามมิติที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก EB110 ส่วนห้องโดยสารออกแบบได้อย่างหรูหราทันสมัย วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งภายในส่วนใหญ่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และหนังแท้ มีเบาะนั่งทรงสปอร์ตและแผงหน้าปัดดิจิทัล ตัวรถขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้าและแรงบิด 1,600 นิวตันเมตร เครื่องยนต์นี้ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 380 กม./ชม.
4. Mercedes Maybach Exelero

ขอบคุณภาพจาก Wikipedia
ราคา 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 200 ล้านบาท)
Mercedes-Maybach Exelero เป็นแบรนด์รถหรูระดับไฮเปอร์คาร์ที่ผลิตขึ้นเพียงคันเดียวในโลก โดย Mercedes-Benz และ Fulda บริษัทยางในเครือ Goodyear จากประเทศเยอรมัน ตัวรถเปิดตัวครั้งแรกในปี 2004 ด้วยราคา 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 200 ล้านบาท) Exelero สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Mercedes-Benz S 57 แต่ได้รับการปรับแต่งใหม่หลายจุดเพื่อยกระดับสมรรถนะและรูปลักษณ์ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น

โดยภายนอกใช้การออกแบบที่เรียบหรูแต่แฝงไปด้วยความดุดัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ไฟหน้าทรงกลม และไฟท้าย LED รูปทรงเรียวยาว ส่วนภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียมอย่างไม้ หนัง และคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa ตัดด้วยตะเข็บสีแดงดูเข้ากันอย่างลงตัว คอนโซลกลางติดตั้งจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว ระบบเสียง Burmester High-End Surround Sound และระบบความบันเทิงแบบเต็มรูปแบบ
Mercedes-Maybach Exelero มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V12 ความจุ 5.9 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 690 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,020 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 351.45 กม./ชม. ปัจจุบัน Exelero เป็นเจ้าของโดย Fulda และถูกนำไปจัดแสดงตามงานมอเตอร์โชว์ต่าง ๆ ทั่วโลก

5. Bugatti Divo

ขอบคุณภาพจาก Bugatti
6.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 200 ล้านบาท)
Bugatti Divo เป็นรถไฮเปอร์คาร์ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 ด้วยราคา 6.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 200 ล้านบาท) ผลิตออกมาเพียง 40 คันเท่านั้น ตัวรถได้ตั้งชื่อตามนักแข่งรถชาวฝรั่งเศส Albert Divo ซึ่งชนะการแข่งขัน Targa Florio สองครั้งในปี 1928 และ 1929 Bugatti Divo ได้รับการต่อยอดมาจากแบรนด์รถหรู Bugatti Chiron ในด้านแอโรไดนามิกและน้ำหนัก ด้านหน้ามีกระจังหน้าทรงเกือกม้าขนาดใหญ่ขึ้น ช่องดักอากาศที่กว้างขึ้น และโคมไฟหน้า LED ขนาดเล็ก หลังคามีช่องดักอากาศ NACA Duct ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศไปยังห้องเครื่องยนต์ ส่งผลให้มีแรงกดอากาศเพิ่มขึ้น 90% และน้ำหนักเบาลง 35 กก. การปรับแต่งเหล่านี้ทำให้ Divo เร็วกว่า Chiron ตอนเข้าโค้ง แต่ยังคงช้ากว่าเล็กน้อยในการเร่งและทำความเร็วสูงสุด

ด้านข้างของรถมีซุ้มล้อที่กว้างขึ้น ช่องดักอากาศที่ด้านหลังล้อ และปีกเล็ก ๆ ที่ด้านหลังของประตู ด้านหลังมีปีกท้ายแบบแอคทีฟปรับได้ ดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ และไฟท้ายแบบ 3 มิติ ส่วนภายในยังคงความหรูหราแบบ Chiron ไว้ เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Alcantara และคาร์บอนไฟเบอร์ คอนโซลกลางมีจอแสดงผลการขับขี่ขนาดใหญ่และระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงระดับไฮเอนด์
Bugatti Divo มาพร้อมเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีดขับเคลื่อนทุกล้อ มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 380 กม./ชม.
