• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N2808415 สร างเทคน คเกาะก นค ณหน ใสซ ยอมไม ได จร part 2

admin79 by admin79
September 1, 2025
in Uncategorized
0

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

5 รถหรูในไทย มีรุ่นไหนบ้างที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ที่สุด!” ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย !

 แชร์บทความนี้

5 รถหรูในไทย มีแบรนด์ไหนบ้าง

หัวข้อที่น่าสนใจ

  • 5 รถหรูในไทย จะแบรนด์ไหนใครเห็นก็ต้อง Wow!
  • 1. Porsche
  • 2. Mercedes-Benz
  • 3. Lamborghini
  • 4. Ferrari
  • 5. Rolls-Royce
  • รถหรู รถซูเปอร์คาร์ ควรเลือกประกันรถยนต์ชั้นไหนดี ?
  • ข้อกำหนดทั่วไป ของการพิจารณา “ประกันรถซูเปอร์คาร์”

เปิดรายชื่อ รถหรูในไทย อีกหนึ่งปัจจัยที่ใช้บ่งบอก “ฐานการเงิน” ได้ดีพอสมควร ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยก็มีรถหรูมากมาย หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่สนใจ หรือต้องการอยากทราบว่ารุ่นไหนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ที่สุด” มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้ทำการลิสต์รถหรูในไทยมาให้คุณทำความคุ้นเคยทั้งหมด 5 ประเภท ซึ่งจะมีรุ่นอะไรบ้างนั้น ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย !

5 รถหรูในไทย จะแบรนด์ไหนใครเห็นก็ต้อง Wow!

อยากรู้ไหมว่า 5 รถยนต์หรูในไทยมีรุ่นไหนบ้าง และต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงสามารถซื้อได้ ! เราได้รวบรวมรายละเอียดต่าง ๆ มาบอกต่อคุณเรียบร้อยแล้ว ไปดูกัน !

รถหรู รถซูเปอร์คาร์ ควรเลือกประกันภัยรถยนต์ชั้นไหน
  • 1. Porscheประวัติศาสตร์ของ Porsche ไม่มีใครกล้าสงสัยถึงคุณค่าและความหรูหราของรถจากเยอรมันค่ายนี้ สร้างชื่อที่สุดจากรุ่น 911 ที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ปี 1960 ภายใต้ผู้ก่อตั้ง Ferdinand Porsche และผู้ออกแบบรุ่นแรกเริ่มของ 911 ซึ่งเป็นลูกชาย Ferdinand Alexander Porsche Jr. 2 คนผู้ทำให้แบรนด์นี้เป็นที่โด่งดังและเป็นที่ปรารถนาของสาวกรถสปอร์ตจากทั่วโลก8 เจ็นเนอเรชั่น ยอดขายทะลุ 1,000,000 คัน คือประวัติศาสตร์ที่โลกยานยานต์ต้องจดจำรถรุ่นนี้ Porsche 911 และน่าจะเป็นเครื่องการันตีความนิยมได้เป็นอย่างดี โมเดลที่ขายอยู่ในปัจจุบันนั้นมีรหัสว่า 992 เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2020 ราคาเริ่มต้นของ Porsche 911 (โมเดล 992) เริ่มต้นอยู่ที่ราว 11 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นตัวพิเศษแรงระดับเทียบกับตัวแข่งในสนามก็มีให้เลือกปรับแต่งหาซื้อกันได้ด้วยอย่าง 911 GT3 RS กับราคาเริ่มต้นราว 25.9 ล้านบาท เท่านั้น!!
  • 2. Mercedes-Benzอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์หรู สุดพรีเมียม ที่ใคร ๆ ต่างรู้จักเป็นอย่างดี โดยบริษัทก่อตั้งอย่างเป็นทางการ ณ ประเทศเยอรมนี ปี ค.ศ.1926 เป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัท Daimler Motorengesells – Chaft และ บริษัท Benz & Cie ของคาร์ล เบนซ์ (Carl Benz) ในส่วนของรุ่นรถยนต์ Benz รุ่นรถที่แพงที่สุดในไทย คือ Mercedes-Benz AMG GT R โดยมีราคาอยู่ที่ 18,000,000 บาท และอีกหลาย ๆ รุ่นที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไล่ไปตั้งแต่ A-Class, C-Class, E-Class, S-Class
  • 3. Lamborghiniหากคุณเป็นสายรถซูเปอร์คาร์คงจะรู้จักกับ Lamborghini เป็นอย่างดี โดยจุดเริ่มต้นของรถยนต์แบรนด์นี้เกิดจาก เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินี ที่ต้องการสร้างรถยนต์ดีที่สุดในโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1962 เป็นต้นมา ในส่วนของ “สัญลักษณ์วัวกระทิง” มาจากปีเกิดของเจ้าของแบรนด์นั่นเองนอกจากนี้ Lamborghini ยังเป็นคู่แค้นกับ Ferrari สุด ๆ เพราะ เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินี ไม่พอใจการบริการของ Ferrari สักเท่าไหร่นัก จึงทำให้มีปากเสียงกับทางผู้ก่อตั้ง Ferrari จนเป็นจุดที่ทำให้ Lamborghini ถือกำเนิดขึ้นมา สำหรับรุ่นรถที่แพงที่สุดในไทย คือ Lamborghini Aventador โดยมีราคาอยู่ที่ 37,950,000 บาท
  • 4. Ferrariหรือที่หลายคนคุ้นเคยอย่างดีในชื่อว่า “ม้าลำพอง” มีจุดเริ่มต้นอันแสนยิ่งใหญ่ จากทีมแข่งชื่อว่า Scuderia Ferrari จนกระทั่งในปี ค.ศ.1947 รถยนต์คันแรกในนามแบรนด์ Ferrari ก็ถูกเปิดตัวให้ชาวโลกได้ทำความรู้จัก และมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Ferrari 125 S ซึ่งต้องบอกก่อนว่าในช่วงแรก ๆ รถยนต์แบรนด์นี้ จะเป็นรถแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตทั้งหมด แต่เมื่อเวลาผ่านไป และ Ferrari มีชื่อเสียงค่อนข้างมาก จึงได้ผลิตรถยนต์ที่คนทั่วไปสามารถขับขี่บนท้องถนนได้สำหรับรถยนต์ที่สามารถใช้งานได้ทั่วไปของแบรนด์ Ferrari ที่เป็นรุ่นรถที่แพงที่สุดในไทย คือ Ferrari 812 GTS ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 40,900,000 บาท สำหรับรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดของแบรนด์ คือ Ferrari Portofino มีราคาอยู่ที่ 20,900,000 บาท
  • 5. Rolls-Royceสุดยอดยนตรกรรมความหรูหรา Rolls-Royce เริ่มต้นในปี ค.ศ.1904 จากชายสองคนที่มีชื่อว่า Charles Rolls และ Sir Henry Royce โดยในปี ค.ศ.1907 ได้มีการเปิดตัวรถยนต์ในรุ่น Silver Ghost ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นรถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากมีระยะการวิ่งอย่างต่อเนื่องมากกว่า 23,127 กิโลเมตรRolls-Royce คือรถยนต์ประกอบมือ มาพร้อมกับความหรูหราและประณีตตามแบบฉบับ “ผู้ดีอังกฤษ” โดยเฉพาะในด้านเครื่องยนต์ ที่หลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามีความนิ่งเงียบ ไม่รบกวนผู้ขับขี่และผู้โดยสารแม้แต่น้อย สำหรับรุ่นที่แพงที่สุดในประเทศไทย คือ Rolls-Royce Phantom โดยมีราคาอยู่ที่ 53,500,000 บาท

นี่เป็นแค่ตัวอย่าง ! เพราะจริง ๆ ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์หรู ไม่ว่าจะเป็น BMW, Mini, Aston Martin, Bugatti, Jaguar, Bentley ฯลฯ ที่เมื่ออยู่เมืองไทยใครก็สามารถครอบครองได้หากกระเป๋าหนักพอ เพราะมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจากแบรนด์ทั่วโลก ติดใจแบรนด์ไหน ชอบแบรนด์อะไร หาได้ไม่ยาก แต่ต้องไม่ลืมด้วยว่าหากมีรถแล้ว มีประกันรถยนต์เจ้าไหนที่รองรับบ้าง เอาเป็นว่าเราไปดูกันหน่อยเรื่องประกันรถยนต์ของรถหรู มีหลักในการพิจารณาการคุ้มครองอย่างไรบ้าง

รถหรู รถซูเปอร์คาร์ ควรเลือกประกันรถยนต์ชั้นไหนดี ?

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ารถหรู หรือรถซูเปอร์คาร์ส่วนใหญ่ ถูกออกแบบให้มีสมรรถนะสูง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้านความเร็ว เครื่องยนต์ระดับไฮคลาส และวัสดุที่ทนทาน คนส่วนใหญ่จึงนิยมทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เนื่องจากให้ความคุ้มครองมากที่สุด พร้อมดูแลรถยนต์คู่ใจของคุณทุกเหตุการณ์ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ความคุ้มครองรถยนต์และทรัพย์สิน และอื่น ๆ

ข้อกำหนดทั่วไป ของการพิจารณา “ประกันรถซูเปอร์คาร์”

การทำประกันภัยรถซูเปอร์คาร์ จะมีข้อกำหนดที่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป ดังนี้

  • เป็นรถยนต์ที่มีจำนวนน้อยกว่า 4 ประตู
  • มีกำลังเครื่องยนต์ 250 แรงม้าขึ้นไป
  • มีขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,000 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป
  • อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายในเวลา 5 วินาทีหรือน้อยกว่า
  • น้ำหนักรถยนต์น้อยกว่า 2,000 กิโลกรัม
  • ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือมากกว่า
  • ราคาขายปีแรกจากผู้จัดจำหน่าย เริ่มต้นที่ 5 ล้านบาทขึ้นไป

เป็นอย่างไรกันบ้าง ? สำหรับรถยนต์หรูในประเทศไทย ที่เรานำมาบอกต่อคุณเมื่อข้างต้น เมื่อเห็นจุดเริ่มต้น และราคาแล้ว ถึงกับร้องว้าวไปตาม ๆ กันใช่ไหมล่ะ ? หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่สนใจ และต้องการจับจองเป็นเจ้าของ อย่าลืมที่จะทำประกันรถยนต์ติดรถเอาไว้ด้วย เพื่อให้รถหรูของคุณได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมตลอดการเดินทาง สามารถเข้ามา “เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์” ผ่านเว็บไซต์ มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้แล้ววันนี้ รับประกันเลยว่าคุณจะได้รับกรมธรรม์ที่ตอบโจทย์อย่างแน่นอน !

Rolls-Royce รถหรูราคาแพงที่สุดในปี 2025 ครั้งหนึ่งถูกหุ้มเกราะใช้ในสงคราม

ข่าวธุรกิจ

Prakaiporn | Writer

13 ก.พ. 2568

แชร์บทความ

SHARE

สารพัดแบรนด์รถยนต์หรูในปัจจุบันเรียกว่าแทบเดากันไม่ออกว่า ยี่ห้อไหนที่ผลิตรถไฮฟังก์ชั่นออกมาแล้วมีราคาแพงที่สุดในเวลานี้

ข้อมูลจาก ‘Sotheby’s’ บริษัทจัดการประมูลงานศิลปะระดับโลกที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้เปิดประเด็น “Top 10 Most Expensive Cars In The World 2025” ซึ่งแบรนด์รถลักชัวรีที่ชนะอันดับหนึ่งในแง่ราคา ‘แพงที่สุด’ ก็คือ ‘The La Rose Noire Droptail’ รถโรดสเตอร์ 2 ที่นั่งสั่งทำพิเศษผลิตโดย Rolls Royce ในราคาถึง 32 ล้านดอลลาร์ (หรือกว่า 1,000 ล้านบาท)

ความพิเศษของรถ Rolls Royce รุ่นนี้คือ มีแค่ 4 คันบนโลกนี้ โดยแต่ละ Droptail จะมีการตั้งชื่อและเจาะจงรายละเอียดเฉพาะ ซึ่ง La Rose Noire เป็น Droptail คันแรกที่ได้ส่งมอบ ใช้เวลากว่า 4 ปีจึงจะผลิตเสร็จ

ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกุหลาบแบล็คบาคาร่า (Black Baccara) ขึ้นชื่อในเรื่องรูปลักษณ์และสีราวกับกำมะหยี่ จึงทำให้ปัจจุบันรถยนต์คันนี้กลายเป็นรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกในปี 2025

การจัดอันดับของ Sotheby’s ครั้งนี้ยังมีรถหรูจาก Rolls Royce ติดอันดับถึง 3 รุ่น ก็คือ The La Rose Noire Droptail, Rolls Royce Boatail (28 ล้านดอลลาร์) และ Rolls-Royce Sweptail (12.8 ล้านดอลลาร์) สะท้อนความเป็นไอคอนิกของความหรูหรา ความไฮเอนด์ และลักชัวรี ตลอดกาลของ Rolls Royce

แต่หารู้ไม่ว่า Rolls Royce ในปัจจุบันต่างจาก Rolls Royce ในอดีตโดยสิ้นเชิง เพราะรถหรูที่เห็นกันทุกวันนี้ เคยถูกประดิษฐ์หุ้มเกราะเหล็ก เพื่อใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 หลายคนน่าจะคาดไม่ถึงแน่ๆ

[ Rolls Royce แบรนด์รถหรูเกิดจากแพชชั่น ‘ชาตินิยม’ ]

ย้อนไปเมื่อ 121 ปีก่อน ในปี 1904 ที่เกิดเป็นแบรนด์ที่ชื่อว่า ‘Rolls Royce’ แต่กว่าจะมาเป็นชื่อนี้ได้ก็ต้องใช้เวลาถึง 20 ปีกว่าที่ ‘เฮนรี รอยซ์’ หนุ่มชาวอังกฤษที่ชื่นชอบเรื่องระบบรถไฟและพยายามทำสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในแบบความเข้าใจของตัวเอง จนวันหนึ่งลองผลิตรถให้ตัวเอง เพียงเพราะไม่อยากใช้รถนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส

จากสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับรถ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องไดนาโม, รถเครน พัฒนามาเป็นรถยนต์คันแรกของตัวเองในชื่อว่า ‘Royce 10hp’ ความสำเร็จนี้ไปเข้าตา ‘ชาร์ลส โรลส์’ หนุ่มเลือดแรง ผู้บุกเบิกด้านยานยนต์และการบินของอังกฤษที่สนใจเรื่องรถยนต์ไม่ต่างกัน

ทั้งสองได้พบกันโดยบังเอิญ คุยกันถูกคอตามประสานักประดิษฐ์ที่รักความเป็น ‘ชาตินิยม’ อยากเห็นรถยนต์ที่สามารถผลิตจากอังกฤษได้สักครั้งหนึ่ง และนั่นทำให้ต่างคนต่างประทับใจ และตัดสินใจลงขันร่วมลงทุนสร้างบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษขึ้น เป็นที่มาของรถหรู Rolls Royce อย่างที่ทั่วโลกรู้จัก

[ ก่อนเป็นรถหรู เคยหุ้มเกราะในสงครามโลก ]

ผลงานที่สร้างชื่อของแบรนด์ Rolls Royce ต้องยกให้กับ ‘Silver Ghost’ เปิดตัวในปี 1907 หลังก่อตั้งบริษัทร่วมกันประมาณ 3 ปี

โดยชื่อเสียงอันเลื่องลือของ Silver Ghost ก็คือ การทดสอบวิ่งระยะไกลแบบต่อเนื่อง ด้วยระยะทางกว่า 23,000 กิโลเมตร ซึ่งรถรุ่นนี้ของ Rolls Royce เคยได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘รถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก’ ในยุคนั้นด้วย

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือราวปี 1914 ‘Rolls-Royce’ ได้สร้างรถหุ้มเกราะที่พัฒนาจากรุ่น Silver Ghost จากอังกฤษมากกว่า 100 คันเพื่อใช้งานในสนามรบของยุโรปและตะวันออกกลาง อีกทั้งรถรุ่นนี้ยังถูกใช้ในสงครามกลางเมืองไอร์แลนด์ และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือด้วย

นอกจากนี้ รถหุ้มเกราะ Rolls Royce ได้ใช้ในการขนส่งพระราชินีนาถ (H.M. The Queen) ซึ่งสร้างขึ้นเป็นพิเศษในปี 1920 ซึ่งหลังจากนั้นได้ส่งมอบให้กับกระทรวงกลาโหมของอังกฤษในเวลาต่อมาสำหรับใช้ทางการทหาร โดยรถหุ้มเกราะ Silver Ghost บางคันมีการติดอาวุธเพื่อยับยั้งเหตุรุนแรงได้ทันเวลา

นอกจากรถยนต์ ผลงานที่ทำให้ชื่อเสียงของ Rolls Royce ได้รับการยอมรับอีกอย่างก็คือ ‘The Eagle’ เครื่องยนต์ทางอากาศของ Rolls Royce ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์แรก และถูกนำไปใช้ในสงครามทางอากาศด้วย

พิษเศรษฐกิจในปี 1925 ทำให้ Rolls Royce จำเป็นต้องปรับตัว และขายกิจการบางส่วนออกไปเพื่อพยุงบริษัท ทั้งที่เคยถูกสั่งให้ล้มละลายไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่สิ่งประดิษฐ์หลายอย่าง รวมถึงรถยนต์หรูกลายมาเป็นตัวเลือกในการดำเนินธุรกิจต่อ

ความหรูหราของ Rolls Royce เกิดขึ้นตั้งแต่ที่แบรนด์รถยนต์ ‘Bentley’ ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งปัจจุบัน Bentley อยู่ในเครือของ Volkswagen Group สองแบรนด์นี้ที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกะแกะ ทำให้ผู้บริโภคเริ่มลังเลว่ารถคันไหนคือ Rolls Royce และคันไหนคือ Bentley ทั้งยังเป็นรถสัญชาติอังกฤษทั้งคู่

ดังนั้น กลยุทธ์แก้เกมของ Rolls Royce ตั้งแต่ยุคนั้นก็คือ การหาประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า สร้างรถยนต์ที่มาจากความต้องการของลูกค้าเท่านั้น พร้อมดีไซน์ฟังก์ชั่นต่างๆ ร่วมกับลูกค้า ผลตอบรับดีเกินคาด รวมไปถึงตัวเลขปิดการขายที่ไม่ตายตัวเพราะขึ้นอยู่กับความยาก/ง่าย และฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในตัวรถ

สำหรับผลประกอบการของ Rolls Royce ในครึ่งปีแรกของปี 2024 กำไรจากการดำเนินงานพื้นฐานอยู่ที่ 1,149 ล้านปอนด์ หรือ 14% ส่วนกระแสเงินสดอยู่ที่ 1,158 ล้านปอนด์

ส่วนรายได้ธุรกิจทั้งหมดรวมกันอยู่ที่ 8,182 ล้านปอนด์ โดยแบ่งสัดส่วนเป็น

-อุตสาหกรรมการบินพลเรือน 50%

-อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ 27%

-ระบบพลังงาน 23%

กว่า 120 ปีของ Rolls Royce นับจากความบังเอิญแรกๆ ของนักประดิษฐ์สองคน ตราบจนตอนนี้ การบริหารภายใต้ ‘ทูฟาน เออร์กินบิลลิค’ (Tufan Erginbilgic) ซีอีโอคนปัจจุบัน ถือเป็นบุคคลที่หลายคนจับตาหลังจากที่สร้างกำไรให้กับ Rolls Royce ได้ 2 เท่าหลังเข้ามาบริหารได้เพียง 1 ปี

และจากผลงานของ Rolls Royce ของปี 2023 ที่ได้ส่งมอบเครื่องยนต์ทั้งหมด 458 เครื่อง รวมถึงเครื่องบินพลเรือนขนาดใหญ่ 262 เครื่อง และออเดอร์สั่งซื้อเครื่องยนต์อีกประมาณ 700 เครื่อง ทำให้คู่แข่งหลายรายจับตาเพราะปรากฎการณ์นี้ถือว่า เป็นผลงานครั้งประวัติศาสตร์ของ Rolls Royce เลยก็ว่าได้

Previous Post

N2708012 ความเข มแข งของคนท อง คนเป นพ อไม อยร part 2

Next Post

N2808066 เธอทำงานอาช พร บจ างเป นแฟน แต นน งเธอเผลอไปตกหล มร กก บบอสเข งาน part 2

Next Post

N2808066 เธอทำงานอาช พร บจ างเป นแฟน แต นน งเธอเผลอไปตกหล มร กก บบอสเข งาน part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0111331 เวลาของเราไม เท าก part 2
  • N0111323 วยต วเOงในมหาล part 2
  • N0111327 แฟนหน าตาแบบน เป นค ณจะอายไหม part 2
  • N0111328 แกล งขอทาน #สน กด part 2
  • N0111325 แอบก uสาม เพ oนว าซ าน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.