ตามมาดู 10 รถกระบะที่เร็วและแรงที่สุดในโลก !!

ประสบการณ์ใช้รถ | 24 ม.ค 2562

แชร์ 3

หลายๆ คนคงคิดว่ารถที่มีความเร็วขั้นสุดนั้นคงจะเป็นรถยนต์จำพวกรถสปอร์ต และรถซูปเปอร์คาร์ แต่อย่างเพิ่งคิดแบบนั้นไปนะคะ เพราะรถกระบะธรรมดาๆ ก็แรงไม่แพ้กันกับรุ่นอื่นๆ เช่นกัน วันนี้เดี๊ยนจะพาเพื่อนๆ มาเจาะตลาดรถกระบะตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันว่ามีกี่รุ่นที่แรงและเร็วๆ สุด ทั้งในยุคปัจจุบันและอดีตจ้า

ตามมาดู 10 รถกระบะที่เร็วและแรงที่สุดในโลก !!

รถกระบะ ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยขนย้ายสินค้า ดังนั้นเครื่องยนต์ของเจ้ารถยนต์ประเภทนี้จึงต้องมีสมรรถะและกำลังลากที่สูงและอึดอยู่พอตัว เพราะเหตุนี้เองรถกระบะทั้งหลายมักมีอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ซึ่งหากมันไม่ได้ใช้ขนย้ายสินค้าอื่นๆ แล้ว บางทีความเร็วและอัตราเร่งของรถบางรุ่นนั้นแรงเทียบเท่ากับรถสปอร์ตได้เลยนะคะ ซึ่งวันนี้เดี๊ยนก็จะพาเพื่อนๆ มาดูตลาดรถกระบะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่ามีรุ่นไหนบ้างที่แรงแซงน้องๆ ซูเปอร์คาร์ในยุคปัจจุบันและเป็นรุ่นออริจินัลที่ไม่ได้มีการโมดิฟายหรือตกแต่งอะไรเพิ่มเติมเลย ไปดูกันดีกว่าจ่า

Toyota Tundra TRD Supercharged

Toyota Tundra TRD Supercharged

เริ่มต้นก็มากันที่ตัวแรงแห่งปี 2008 เลยค่ะกับ Toyota Tundra TRD Supercharged เพราะรุ่นนี้นางมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5,700 ซีซี พ่วงมากับระบบซูเปอร์ชาร์จให้กำลังสูงถึง 504 แรงม้าและแรงบิด 750 นิวตันเมตร แต่ถ้าเพื่อนๆ เห็นแบบนี้แล้วคงจะคิดกันว่า ไม่เห็นจะเร็วเลย แต่ถ้าเป็นในเรื่องของอัตราเร่งละก็นางใช้เวลาเพียง 4.4 วินาทีจากความเร็ว 0-100 กม./ชม.เท่านั้นเองจ้ะ เรียกได้ว่าอัตราเร่งที่น้องๆ สปอร์ตคูเป้หลายๆ รุ่นจะต้องมูฟหนีกันได้เลยทีเดียว

Ram SRT1

ดูเพิ่มเติม
>> สิ่งที่ควรคำนึงเมื่อต้องการจะซื้อ “รถกระบะมือสอง”
​>> 10 วิธีเลือกรถมือสองยังไงให้ปัง!

Ram SRT1

เป็นรถกระบะที่เริ่มผลิตตขึ้นในปี 2006 โดยกระบะรุ่นนี้เป็นกระบะสัญชาติอเมริกัน นางมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V10 ขนาด 8,300 ซีซี ให้กำลัง 500 แรงม้า แรงบิด 712 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 248 กม./ชม. ทั้งยังมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.9 วินาที ถือว่าเป็นกระบะอีกหนึ่งรุ่นที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยมจนเหล่าพี่น้องซูเปอร์คาร์ยังต้องซู้ดปากตามกันเลยทีเดียว

GMC Syclone

GMC Syclone

กระบะในตำนานจากค่าย เจเนรัล มอเตอร์ โดยเจ้าเอ็มซี ไซโคลนนี้เป็นรถกระบะขนาดเล็ก ผลิตจำหน่ายตั้งแต่ปี 1991 โดยใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบขนาด 4,300 ซีซี ให้กำลัง 280 แรงม้า แรงบิด 475 นิวตันเมตร ถ้าพูดถึงเรื่องการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. รุ่นนี้ก็ทำได้ดีเลยทีเดียวเพราะนางทำได้ระยะเวลา 5.3 วินาที เรียกได้ว่าเป็นรถที่โหดจัดปลัดบอกในยุคนั้นแล้วล่ะค่ะ อีกทั้งยังหากยากที่จะเอารถกระบะคันอื่นๆ มาเทียบชั้นได้อีกด้วยถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะมีมานานกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม

Ford F-150 SVT Lightning

ถ้าเปรียบเทียบชื่อฮีโร่ล่ะก็ รถกระบะรุ่นนี้ก็คงจะเหมือนเทพเจ้าแห่งสายฟ้า Ford F-150 SVT Lightning นั้นผลิตขึ้นมาในช่วงปี 1993 – 2004 และยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5,400 ซีซี ให้กำลังแรงที่สุด 380 แรงม้าบิด 160 นิวตันเมตร โดยทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที ซึ่งเจ้ากระบะรุ่นนี้นั้นถือว่าเป็นกระบะที่แรงสุดๆ เลยล่ะค่ะในยุคนั้นและยังได้รับความนิยมมากอีกด้วย

Ram R/T

Ram R/T

นอกจากรถซีดานและคูเป้แล้ว ทาง ไครส์เลอร์ ยังพัฒนารถกระบะให้มีสมรรถนะที่แข็งแกร่งไม่ต่างจากรถยนต์รุ่นอื่นๆอีก เพราะรุ่นนี้นางมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5,700 ซีซี กำลัง 390 แรงม้า แรงบิด 551 นิวตันเมตรและทำเวลาได้ 5.7 วินาที จก 0-100 กม./ชม. ถ้าพูดกันมันก็ถือว่าเพียงพอสำหรับความรู้สึกในแบบมัสเซิลคาร์นะคะ

Ford F-150 Tremor

Ford F-150 Tremor

ถือว่าเป็นรุ่นสปอร์ของ เอฟ – 150 เลยล่ะค่ะกับ Ford F-150 Tremor รุ่นนี้ซึ่งได้ทำการเปิดตัวไปเมื่อปี 2014 โดยใชเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดอย่าง Ecoboost V6 ขนาด 3,500 แรงม้า ให้กำลัง 365 แรงม้า แรงบิด 570 นิวตันเมตร ถ้าเทียบกันกับแรพเตอร์แล้ว รุ่นนี้แรงกว่าค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นสปอร์ตดั้งเดิม แต้เจ้ารถยนต์รุ่นนี้นั้นทำความเร็วจาก 0-100/กม.ชม.ภายใน 5.8 วินาทีเลยทีเดียวเชียว อีกทั้งยังมีอัตราการสิ้นเปลืองที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังใกล้เคียงกันอีกด้วยค่ะ

Toyota Tacoma X-Runner

Toyota Tacoma X-Runner

จัดเต็มสุดๆ ตามชื่อรุ่นเลยจริงๆ แต่รุ่นนี้ทาง โตโยต้า โคยาม่า นั้นเขาก็ออกมาแบบจำกัดค่ะ ด้วยความที่เป็นรถกระบะรุ่นเล็กที่มีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ทั้งยังปรับแต่งเครื่องยนต์ ช่วงล่างและระบบอื่นๆ มาพร้อม ดังนั้นจะเป็นไปไม่ได้เลยที่สมรรถนะนางจะดีขนาดนี้ โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 ขนาด 4,000 ซีซี ให้กำลัง 236 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 6 วินาที ซึ่งถือว่าแรงใช้เล่นเลยสำหรับรถกระบะ

Chevrolet Silverado SS

Chevrolet Silverado SS

สำหรับรหัสรถรุ่น SS นั้นมักจะการันตีความแรงของรถได้เสมอเลยค่ะ รุ่นนี้ก็เช่นกันกับ Chevrolet Silverado SS กระบะที่เบิ้มดีไซน์ดุเดือดและมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6,000 ซีซี ให้กำลัง 345 แรงม้า และแรงบิด 515 นิวตันเมตร โดยพี่เบิ้มของเรานั้นได้ทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในระยะเวลาภายใน 6.3 วินาที นอกจากนี้ยังเป็นความแรงที่น้องเล็กติดเทอร์โบหลายคันยังต้องอายเลยทีเดียว

Ford F-150 SVT Raptor

Ford F-150 SVT Raptor

คำว่า แรพเตอร์ เป็นชื่อต่อท้ายกระบะสไตล์ออฟโร้ดของฟอร์ดมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงใช้ชื่อนี้ต่อท้ายกันอยู่ค่ะ โดยรุ่นนี้นางก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6,200 ซีซี ให้กำลัง 411 แรงม้า แรงบิด 588 นิวตันเมตรและทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.5 วินาที ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงตัวเลขออกมานั้นก็ยังไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะช่วงล่างที่มีสไตล์ความเป็นออฟโร้ดนั้นเน้นการปีนป่ายมากว่า แต่ถ้าหากแต่งเป็นแบบสปอร์ตละก็ตัวเลขที่ออกมาคงดีกว่านี้แน่นอนเดี๊ยนคอนเฟิร์ม

Chevrolet Silverado 454 SS

Chevrolet Silverado 454 SS

ยุคบุกเบิกความแรงแห่งปี 1990 Chevrolet Silverado 454 SS นั้นติดอับดับกระบะตัวแรงทุกอันดับเลยล่ะค่ะ เพราะนางมาพร้อมกบัเครื่องยนต์ V8 ขนาด 7,000 ซีซี กำลัง 238 แรงม้า แรงบิด 522 นิวตันเมตร ด้วยเครื่องยนต์ระดับนี้คาดว่าตัวรถน่าจะทำความเร็วได้ภายใน 7.1วินาที จาก 0-100 กม./ชม. นับว่าเป็นกระบะที่แรงสุดๆ ในยุคนั้นเลยทีเดียว

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับความแรงของกระบะในแต่ละรุ่น ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อนๆ คงต้องมีกระบะในดวงใจสักคันอยู่แล้วล่ะ แต่อย่างลืมว่ารถกระบะนั้นออกแบบมาเพื่อให้ขนย้ายสินค้า เพราะฉะนั้นถ้าบางรุ่นความเร็วไม่เทียบเคียงกับรถสปอร์ตก็คงไม่ผิด ดังนั้นไม่ว่าจะรถยนต์แบบไหนก็ต้องขับกันอย่างระมัดระวังนะคะ สำหรับวันนี้เดี๊ยนต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่ตคอนเทนต์หน้า สวัสดีจ้า

TOP 5 รถปิคอัพ คนหาซื้อมือสองมากที่สุด แม้บางรุ่นเลิกผลิตแล้ว!

ข่าววงการรถยนต์

Chuenkamon Phasuk  |  08 July 2568 14:06

https://www.facebook.com/v16.0/plugins/like.php?action=like&app_id=&channel=https%3A%2F%2Fstaticxx.facebook.com%2Fx%2Fconnect%2Fxd_arbiter%2F%3Fversion%3D46%23cb%3Dfe1058b04982402ed%26domain%3Dwww.one2car.com%26is_canvas%3Dfalse%26origin%3Dhttps%253A%252F%252Fwww.one2car.com%252Ff1dcad424e59d3d20%26relation%3Dparent.parent&container_width=0&href=https%3A%2F%2Fwww.one2car.com%2F%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%2Ftop-5-%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2596%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259E-pick-up-%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%2594-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B5-2023-130276%2F67774&layout=button_count&locale=th_TH&sdk=joey&share=true&show_faces=true&size=small

แม้กาลเวลาจะหมุนไป แต่ รถปิคอัพ 5 รุ่นนี้ก็ยังคงครองใจคนไทย จนเป็นที่ต้องการในตลาดมือสองอย่างต่อเนื่อง อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ปิคอัพเหล่านี้ยังติดแรงก์และถูกตามหามากที่สุด one2car จะเล่าให้ฟัง

5 รถปิคอัพ (Pick Up) มือสอง คนเสิร์ชหามากที่สุด

รถปิคอัพเป็นประเภทรถยนต์ที่คนไทยนิยมเป็นอันดับ 3 รองจากรถเก๋ง 4 ประตู และรถ SUV จากข้อมูลของเว็บไซต์ one2car พบว่า รถปิคอัพที่คนค้นหามากที่สุด 5 อันดับแรก คือ

1. ISUZU D-Max

ISUZU D-Max ถือเป็นรถปิคอัพมือสองที่คนหาซื้อมากที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่าเขาครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะเรื่องการประหยัดที่นับว่าเป็นกระบะมือสองที่มีเครื่องยนต์ 1.9 ลิตรให้เลือก ซึ่งตอบโจทย์คนที่ไม่ได้ต้องการบรรทุกของหนักบ่อย ๆ และเน้นใช้งานในชีวิตประจำวัน

แต่ถ้าชอบเดินทางไกลและเน้นขนของเป็นหลัก ทาง ISUZU ก็มีปิคอัพอิซูซุเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรด้วย รุ่นท็อปราคาไม่แพงมาก แต่ถ้าต่อภาษีประจำปีจะจ่ายแพงกว่ารุ่นอื่นนิดหน่อย

นอกจากจะมีตัวเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานแต่ละแบบแล้ว อะไหล่ของอิซูซุยังค่อนข้างถูก ศูนย์บริการมีครอบคลุมทุกแห่ง และยังขึ้นชื่อเรื่องการให้บริการดีเยี่ยมอีกด้วย

ที่สำคัญ คือ คนที่ใช้กระบะอิซูซุต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ประหยัด ใช้ดี ดูแลง่าย ไม่ค่อยงอแง ทนทาน ขายคล่อง ไว้ใจเรื่องช่วงล่างได้”

ราคา ISUZU D-Max มือสอง

• Isuzu D-Max 2018 มือสอง ราคาเริ่มต้นที่ 269,000 198,000 บาท
• Isuzu D-Max 2019 มือสอง ราคาเริ่มต้นที่ 408,000 355,000 บาท
• Isuzu D-Max 2020 มือสอง ราคาเริ่มต้นที่ 369,000 275,000 บาท
• Isuzu D-Max 2021 มือสอง ราคาเริ่มต้นที่ 375,000 289,000 บาท

สามารถเลือกดูรถปิคอัพ isuzu ได้ที่ ISUZU D-Max มือสอง

มีให้เลือกทั้งกระบะตอนเดียว (Spark), กระบะแคป (Space Cab) และ 4 ประตู (Cab-4) รวมทั้ง 4×4

อัปเดตราคามือสองเมื่อ 7 กรกฎาคม 68

2. Ford Ranger

รถปิคอัพที่คนหาซื้อเป็นอันดับ 2 ได้แก่ Ford Ranger เหตุผลที่คนซื้อเป็นเพราะดีไซน์ที่เท่ ดุดัน ซึ่งต้องยอมรับว่าเกินหน้าเกินตาเพื่อนจริง ๆ รวมถึงเครื่องยนต์ดี ตอบสนองไว และช่วงล่างแน่นอีกด้วย เกาะถนนดีมากในยามฝนตก แถมเข้าโค้งหนึบ

นอกจากนี้ ยังเป็นรถปิคอัพที่เหมาะแก่การเดินทางไกล ถ้าเทียบกับรุ่นท็อปของกระบะรุ่นอื่น ๆ Ford Ranger ถือว่ามีซีซีน้อยที่สุด คือ 2.0 ลิตร แต่แรงม้ากับแรงบิดกลับสูงที่สุด คือ 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะใช้เทอร์โบคู่และเกียร์แบบ 10 สปีด ซึ่งช่วยให้รอบเครื่องยนต์ต่ำ ไม่ต้องเค้นรอบเครื่องมากนั่นเอง

แต่ข้อเสียของฟอร์ด เรนเจอร์ คือ อะไหล่ค่อนข้างแพงและกินน้ำมันมากกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื่องจากตัวรถใหญ่และมีอุปกรณ์ตกแต่งมากกว่า ถ้าคุณไม่ติดข้อด้อยนี้ ขอบอกเลยว่าเป็นรถปิคอัพที่น่าซื้อใช้ เพราะหลายอย่างของรถสมบูรณ์แบบมาก

ราคา Ford Ranger มือสอง

• Ford Ranger 2021 ราคาเริ่มต้น 389,000 219,000 บาท
• Ford Ranger 2020 ราคาเริ่มต้น 359,000 269,000 บาท
• Ford Ranger 2019 ราคาเริ่มต้น 290,000 249,000 บาท
• Ford Ranger 2018 ราคาเริ่มต้น 259,000 229,000 บาท

สามารถเลือกดูรถปิคอัพฟอร์ด เรนเจอร์ มือสอง ได้ที่ Ford Ranger มือสอง มีให้เลือกทั้งฟอร์ดตอนเดียว (Single Cab), ตอนครึ่ง (Open Cap), 4 ประตู (Double Cab) รวมถึง 4×4 (4WD)

อัปเดตราคามือสองเมื่อ 7 กรกฎาคม 68

3. Toyota Hilux Revo

ถ้าไปถามคนรู้จักว่าซื้อรถปิคอัพรุ่นไหนดี ส่วนใหญ่จะแนะนำเป็น Toyota Hilux Revo เพราะขึ้นชื่อว่าโตโยต้าแล้ว คนมักจะเชื่อถือแบรนด์นี้มาก จนปัจจุบันเป็นยี่ห้อรถที่คนใช้มากที่สุดในไทย

อีกเรื่องหนึ่ง คือ โตโยต้ามีศูนย์ให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ ดังนั้น คนที่เลือกใช้รีโว่จึงมีโอกาสเข้าถึงศูนย์บริการได้ง่าย

นอกจากความน่าเชื่อถือกับศูนย์ที่มีให้เลือกเยอะแล้ว รถยนต์โตโยต้ายังขึ้นชื่อเรื่องความ “อึด ถึก ทน ช่วงล่างแข็งแรง” คนจึงนิยมใช้เป็นรถบรรทุกของ และมักจะนำมาแต่งเป็นรถกระบะตู้ทึบหรือกระบะคอกด้วย

ส่วนข้อดีอีกอย่าง คือ ค่อนข้างประหยัดน้ำมัน เรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งที่สูสีกับ ISUZU D-Max เลยล่ะ

ราคา Toyota Hilux Revo มือสอง

• Toyota Hilux Revo 2022 ราคาเริ่มต้น 399,000 299,000 บาท
• Toyota Hilux Revo 2021 ราคาเริ่มต้น 364,000 298,000 บาท
• Toyota Hilux Revo 2020 ราคาเริ่มต้น 325,000 239,000 บาท
• Toyota Hilux Revo 2019 ราคาเริ่มต้น 295,000 239,000 บาท
• Toyota Hilux Revo 2018 ราคาเริ่มต้น 298,000 239,000 บาท

สามารถเลือกดูรถ Pick up รีโว่ มือสอง ได้ที่ Toyota Hilux Revo มือสอง มีรถทุกรุ่น ทุกแบบ มากกว่า 2,300 คัน

อัปเดตราคามือสองเมื่อ 7 กรกฎาคม 68

4. Toyota Hilux Vigo

แม้รถปิคอัพ Toyota Hilux Vigo จะถูก Revo มาแทนที่ แต่ในตลาดรถมือสองถือว่าแข็งแกร่งมาก เพราะเป็นรถปิคอัพที่มีคนหาซื้อเป็นอันดับ 4 แซงหน้าปิคอัพรุ่นใหม่หลาย ๆ รุ่นเลยทีเดียว แถมไฮลักซ์ วีโก้ ยังเป็นรุ่นที่จดจำมานานอีกด้วย เมื่อไหร่ที่คนพูดถึงยี่ห้อรถปิคอัพ คนก็มักจะนึกถึงวีโก้เสมอ

ถึงแม้รุ่นน้องอย่างรีโว่จะมีการพัฒนาที่ดีขึ้นหลายด้าน ทั้งหล่อขึ้น ประหยัดขึ้น แต่ Vigo Champ มีเบาะหลังที่ลงตัวและนั่งสบายกว่าเล็กน้อย ต่อให้จะโบกมือลาสายพานการผลิตไปแล้ว แต่เสน่ห์และความน่าเชื่อถือของเจ้าคันนี้กลับไม่จางหายไปไหน

ส่วนเรื่องพละกำลังไม่ได้ทิ้งห่างจากน้องมาก โดย Toyota Hilux Vigo จะมีทั้งเครื่องยนต์ 2.5, 2.7 และ 3.0 ลิตร ส่วน Revo มีการปรับขนาดเครื่องยนต์เหลือ 2.4, 2.7 และ 2.8 ลิตร 

น่าเสียดายที่ปัจจุบันไม่มี Toyota Hilux Vigo มือหนึ่งขายแล้ว ธรรมดาของเรื่องเก่าไปใหม่มา แต่ถ้าใครอยากได้ จะมีก็แต่รถมือสองเท่านั้น

ราคา Toyota Hilux Vigo มือสอง

• Toyota Hilux Vigo 2015 ราคาเริ่มต้น 215,000 บาท
• Toyota Hilux Vigo 2014 ราคาเริ่มต้น 198,000 134,000 บาท
• Toyota Hilux Vigo 2013 ราคาเริ่มต้น 155,000 บาท
• Toyota Hilux Vigo 2012 ราคาเริ่มต้น 187,000 155,000 บาท
• Toyota Hilux Vigo 2011 ราคาเริ่มต้น 168,000 155,000 บาท

สามารถเลือกดูรถ Pick up วีโก้ มือสอง ได้ที่ Toyota Hilux Vigo มือสอง ราคาถูกที่สุด มีให้เลือกมากที่สุดในไทย

อัปเดตราคามือสองเมื่อ 7 กรกฎาคม 68

5. Mitsubishi Triton

ของใช้ยี่ห้อที่ทนทานที่สุด เชื่อว่าหลายคนมักจะนึกถึง Mitsubishi แน่นอน และก็ไม่แปลกที่รถยนต์ Mitsubishi Triton จะทนทานเช่นกัน เพราะเขามาพร้อมกับคอนเซปต์ “แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค”

ที่น่าสนใจ คือ การเก็บเสียงของรถปิคอัพมิตซูทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะวิ่งด้วยความเร็วสูง แต่แทบไม่ได้ยินเสียงเข้ามารบกวนเลย อีกทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II ยังโดดเด่นกว่ากว่ารถปิคอัพรุ่นอื่นอีกด้วย

นอกจากนี้ ช่วงล่างยังดี ค่อนข้างประหยัดน้ำมัน จึงไม่แปลกที่จะเป็นรถปิคอัพยอดนิยมในไทย โดยในอดีตเคยเป็นรถปิคอัพที่มียอดขายสูงเป็นอันดับ 3 ในไทยเลยล่ะ

ราคา Mitsubishi Triton มือสอง

• Mitsubishi Triton 2022 ราคาเริ่มต้น 339,000 315,000 บาท
• Mitsubishi Triton 2021 ราคาเริ่มต้น 359,000 289,000 บาท
• Mitsubishi Triton 2020 ราคาเริ่มต้น 299,000 259,000 บาท
• Mitsubishi Triton 2019 ราคาเริ่มต้น 289,000 265,000 บาท
• Mitsubishi Triton 2018 ราคาเริ่มต้น 288,000 184,000 บาท

สามารถเลือกดูรถปิคอัพมิตซูบิชิ มือสอง ได้ที่ Mitsubishi Triton มือสอง มีรถทุกรุ่น ทุกแบบ มากกว่า 1,000 คัน

อัปเดตราคามือสองเมื่อ 7 กรกฎาคม 68