ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
หัวข้อ: เรเว่ ออโตโมทีฟ เขย่าเวที Motor Expo 2025: ปลดล็อกอนาคตยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมข้อเสนอสุดเหนือชั้น ก่อนมาตรการ EV 3.0 สิ้นสุด!
อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เคย โดยมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้ ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมเห็นถึงพลวัตที่รวดเร็วและนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ที่ตลาด EV ในประเทศไทยมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ ในฐานะผู้นำในการขับเคลื่อนตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทย ได้เตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญอีกครั้งในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 หรือ Motor Expo 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ด้วยพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดในงาน ครอบคลุมถึง 2,193 ตารางเมตร พร้อมการเปิดตัวยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก BYD และ DENZA รวมถึงข้อเสนอที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งถือเป็น “ช่วงเวลาทอง” ที่คุณไม่ควรพลาด
ปี 2025 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ทั้งกระแสความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม ราคาเชื้อเพลิงที่ผันผวน และนโยบายภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาสนใจรถยนต์ EV และ PHEV มากขึ้น การเข้ามาของแบรนด์ระดับโลกอย่าง BYD และ DENZA โดยการนำเข้าและจัดจำหน่ายโดย เรเว่ ออโตโมทีฟ ได้สร้างความเชื่อมั่นและทางเลือกที่หลากหลายให้กับตลาดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Motor Expo 2025 ในครั้งนี้มีความพิเศษอย่างยิ่ง คือการสิ้นสุดของมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นมาตรการที่มอบเงินอุดหนุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างมหาศาล เพื่อกระตุ้นให้ราคา รถ EV สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การเปลี่ยนผ่านไปสู่มาตรการ EV 3.5 ที่จะมีผลบังคับใช้หลังจากนั้น จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาขายปลีกของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ผลิตในประเทศไทยอย่าง BYD DOLPHIN และ BYD ATTO 3 ซึ่งเดิมได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 150,000 บาท จะลดลงเหลือสูงสุด 50,000 บาท ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าทั้งหมด เช่น BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 7 และ DENZA D9 นอกจากจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 75,000 บาทจากมาตรการ EV 3.0 แล้ว ยังต้องเผชิญกับการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตจากเดิมอีก 8% รวมเป็น 10% ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การปรับราคารถยนต์ไฟฟ้าให้สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น โอกาสในการเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่ในราคาที่ดีที่สุด จึงอยู่ภายในกรอบเวลาของ Motor Expo 2025 เท่านั้น ก่อนที่นโยบายใหม่จะเริ่มขึ้น
เรเว่ ออโตโมทีฟ ไม่เพียงแต่มองเห็นถึงความท้าทายนี้ แต่ยังแปรเปลี่ยนให้เป็นโอกาสทองสำหรับผู้บริโภค ด้วยการนำเสนอแคมเปญที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อให้คนไทยสามารถตัดสินใจเป็นเจ้าของยานยนต์แห่งอนาคตได้อย่างมั่นใจ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน” เรเว่ มุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยจาก BYD และ DENZA ที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพและสมรรถนะ แต่ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มธุรกิจเรเว่ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ในปีนี้ เรเว่ ได้เตรียมเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ 3 รุ่นที่ไม่เคยจัดแสดงที่ใดในประเทศไทยมาก่อน ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ด้านนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง และการตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของตลาด ได้แก่:
DENZA B5: ผู้นำแห่งยานยนต์ SUV Off-road ขับเคลื่อน DMO Hybrid ที่ผสานความหรูหราเข้ากับสมรรถนะสุดแกร่ง
DENZA B5 คือนิยามใหม่ของรถยนต์ SUV off-road ที่ไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อน DMO Hybrid ล้ำสมัยจาก DENZA ที่ผสมผสานพลังงานไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาปภายในได้อย่างลงตัว ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 505 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร ตอบโจทย์ทุกการเดินทางไม่ว่าจะในเมืองหรือเส้นทางสมบุกสมบัน ด้วยดีไซน์ทรงเหลี่ยมที่มอบความรู้สึกพรีเมียมและแข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาอย่างประณีตเพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุดตลอดการเดินทาง ที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 3.4 เมตร พร้อมเทคโนโลยี B-Style U-Turn ที่ทำให้การขับขี่ในสภาพการจราจรหนาแน่นของเมืองใหญ่เป็นเรื่องง่ายดดุจพลิกฝ่ามือ ขณะเดียวกัน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันทรงพลังก็พร้อมพาลุยทุกเส้นทาง ผจญภัยได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวล นี่คือรถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความหรูหรา ความคล่องตัว และความสามารถในการเดินทางไปได้ทุกที่
BYD Ti7: Urban SUV สไตล์ Adventure พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะล้ำอนาคต
BYD Ti7 คือรถยนต์ Urban SUV ที่มาพร้อมดีไซน์แนว Adventure ภายใต้แนวคิด “STARSHIP Ark” ที่ผสานความดุดันเข้ากับความทันสมัย ด้วยตัวถังทรงเหลี่ยมที่สะดุดตา ภายในห้องโดยสารออกแบบในสไตล์ Dual Layer Symmetry มอบความรู้สึกกว้างขวางและล้ำยุค หัวใจสำคัญคือ BYD Intelligent Cockpit ที่เชื่อมต่อการแสดงผลผ่านหน้าจอต่างๆ รวมถึงระบบแสดงผลบนกระจกหน้า AR-HUD ขนาด 26 นิ้ว ซึ่งให้ข้อมูลการขับขี่และนำทางได้อย่างแม่นยำ เสมือนฉายภาพอยู่บนถนนจริง และอุปกรณ์เสริมหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง BYD PAD ขนาด 13 นิ้ว ที่ช่วยให้ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถได้โดยตรง สร้างความบันเทิงและความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV แบบ DM 5.0 platform 4WD ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง ผสานกับเทคโนโลยี BYD Blade Battery มอบกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 620 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 155 กิโลเมตร (NEDC) มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Fi-Pilot L2+ มากถึง 20 ระบบ เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายสูงสุดในทุกเส้นทาง ถือเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหานวัตกรรมยานยนต์สำหรับอนาคตอย่างแท้จริง
DENZA D9 Phantom Edition: อีกระดับของความหรูหรา สง่างาม และความสะดวกสบายขั้นสุดสำหรับ MPV
สำหรับผู้ที่มองหายานยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (MPV) ที่มอบความหรูหราเหนือระดับ DENZA D9 Phantom Edition คือคำตอบ การปรับโฉมครั้งนี้มาพร้อมชุดตกแต่งสเกิร์ตรอบคันดีไซน์สปอร์ต กระจังหน้าแบบใหม่ที่เพิ่มความสง่างาม และชุดสปอยเลอร์ที่เติมเต็มความลงตัวของดีไซน์ ภายในห้องโดยสารได้รับการยกระดับด้วยจอเพดานระบบสัมผัสสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 15.6 นิ้ว มอบความบันเทิงและความผ่อนคลายตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทริปครอบครัวหรือการเดินทางเพื่อธุรกิจ DENZA D9 Phantom Edition ก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าด้วยความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน นี่คือ MPV ที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทย
นอกเหนือจาก 3 รุ่นใหม่ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก เรเว่ ยังนำทัพรถยนต์พลังงานใหม่ยอดนิยมจาก BYD และ DENZA มาจัดแสดงอย่างครบครัน พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีหลักที่สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น:
DM-i Super Hybrid: นวัตกรรม PHEV ที่ขับเคลื่อนเสมือน EV ไร้กังวลเรื่องการชาร์จ
ระบบ DM-i Super Hybrid จาก BYD คือนวัตกรรม Plug-in Hybrid ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยการออกแบบให้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการขับรถยนต์ไฟฟ้า EV อย่างแท้จริง ทั้งการตอบสนองที่ฉับไว ความเงียบสงบในห้องโดยสาร และการไร้มลพิษ แต่ยังคงความอุ่นใจด้วยเครื่องยนต์สันดาปที่พร้อมเข้ามาเสริมการทำงานเมื่อต้องการระยะทางที่ไกลขึ้น หรือเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย โดยไม่จำเป็นต้องพะวงกับการค้นหาสถานีชาร์จอยู่ตลอดเวลา ระบบนี้ยังมาพร้อมกับ BYD Blade Battery ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยสูงสุดและประสิทธิภาพการเก็บพลังงานที่ดีเยี่ยม ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตร ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลได้อย่างลงตัว โดยเทคโนโลยีนี้มีให้เลือกในรถยนต์ซีดานอย่าง BYD Seal 5 DM-i ซึ่งเป็นซีดานขนาดกลางรุ่นแรกในไทยที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV และรถยนต์ SUV พรีเมียมอย่าง BYD SEALION 6 DM-i ซึ่งมอบทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย
BYD Blade Battery: หัวใจสำคัญของความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
Blade Battery ไม่ใช่แค่แบตเตอรี่ แต่คือมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยในรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยโครงสร้างเซลล์แบบใบมีดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทนทานต่อการเจาะทะลุและมีเสถียรภาพทางความร้อนที่ยอดเยี่ยม ช่วยลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังให้ความหนาแน่นพลังงานที่สูง ทำให้สามารถเพิ่มระยะทางขับขี่และยังช่วยให้การออกแบบโครงสร้างรถยนต์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร และลดน้ำหนักโดยรวมของรถ ทำให้รถยนต์ BYD มีสมรรถนะที่ดีเยี่ยมและมอบความอุ่นใจสูงสุดให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD รุ่นยอดนิยมที่ครองใจคนไทยไปแล้วกว่า 100,000 ราย ก็ยังคงเป็นไฮไลต์สำคัญในงานนี้:
BYD DOLPHIN: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับคนเมืองที่มอบความคล่องตัว ความน่ารัก และความคุ้มค่าเกินราคา เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเข้าสู่โลกของ EV ด้วยรุ่น Standard ในราคาพิเศษ 449,900 บาท หรือ 459,900 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD ATTO 3: รถยนต์ SUV ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ต ภายในกว้างขวาง และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ด้วยรุ่น Premium ราคาพิเศษ 629,900 บาท หรือ 639,900 บาท และรุ่น Extended ราคาพิเศษ 699,900 บาท หรือ 709,900 บาท ทั้งสองรุ่นย่อยมาพร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD M6: รถยนต์ MPV ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบครอบครัวใหญ่ หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและสะดวกสบาย มีข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรุ่น Dynamic ดาวน์เริ่มต้นเพียง 39,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD SEALION 7: รถยนต์ SUV ไฟฟ้าพรีเมียมที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และเทคโนโลยีอัจฉริยะ มีข้อเสนอสำหรับรุ่น Premium ดาวน์เริ่มต้นเพียง 57,495 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD SEAL: ซีดานไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตและเทคโนโลยีล้ำสมัย ให้การขับขี่ที่เร้าใจและประหยัดพลังงาน
เรเว่ ออโตโมทีฟ เข้าใจดีว่าการลงทุนในรถยนต์พลังงานใหม่เป็นเรื่องสำคัญ จึงให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายอย่างสูงสุด ด้วยเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ BYD และ DENZA กว่า 167 สาขาทั่วประเทศ เรามั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษา การรับประกัน หรือการบริการด้านเทคนิคจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ พร้อมรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ทำให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจได้ถึงความอุ่นใจตลอดการเดินทาง
อย่าพลาดโอกาสสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตยานยนต์ไทย และคว้าข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน ณ Motor Expo 2025 ก่อนที่มาตรการ EV 3.0 จะสิ้นสุดลง นี่คือโอกาสทองที่คุณจะได้เป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด พร้อมทั้งสัมผัสกับนวัตกรรมล้ำสมัยและเทคโนโลยีแห่งอนาคต ที่จะมาเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่ของคุณไปตลอดกาล
เชิญสัมผัสประสบการณ์และข้อเสนอสุดพิเศษจาก BYD และ DENZA ได้ที่บูธ A06 ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 หรือเยี่ยมชมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ BYD และ DENZA ใกล้บ้านท่านทั่วประเทศ เพื่อรับคำปรึกษาและทดลองขับ แล้วมาเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่โลกยานยนต์ที่ยั่งยืนไปพร้อมกับเรา!
อนาคตยานยนต์พลังงานใหม่: BYD และ DENZA พร้อมขับเคลื่อนตลาดไทยสู่ปี 2025 ในมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของภูมิทัศน์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก้าวขึ้นมาของยานยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicles – NEV) ที่ไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่คืออนาคตที่จับต้องได้ และในปี 2025 นี้ มหกรรมยานยนต์ หรือ Motor Expo ครั้งที่ 42 กำลังจะกลายเป็นเวทีสำคัญที่จะยืนยันบทบาทอันโดดเด่นของยานยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของผู้เล่นหลักอย่าง Rêver Automotive ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ BYD และ DENZA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ที่พร้อมสร้างปรากฏการณ์ด้วยพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุด และข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อผลักดันให้คนไทยได้สัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตก่อนใคร
ปี 2025 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายและโอกาสสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เรากำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านจากมาตรการสนับสนุน EV 3.0 สู่ EV 3.5 ซึ่งแน่นอนว่ามีผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค การสิ้นสุดของมาตรการ EV 3.0 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ผลิตในประเทศไทยอย่าง BYD DOLPHIN และ BYD ATTO 3 จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 150,000 บาทอีกต่อไป แต่จะได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 50,000 บาทจากโครงการ EV 3.5 แทน ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้านำเข้าอย่าง BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 7 และ DENZA D9 นอกจากจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 75,000 บาทแล้ว ยังต้องเผชิญกับการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตอีก 8% รวมเป็น 10% เหตุผลทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่า ช่วงเวลาของการจัดงาน Motor Expo 2025 คือ “นาทีทอง” ที่แท้จริงในการเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ด้วยราคาและเงื่อนไขที่ดีที่สุด ก่อนที่ราคาจำหน่ายจะปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกภาษีและมาตรการภาครัฐใหม่ การตัดสินใจที่ชาญฉลาดในวันนี้ จะนำมาซึ่งความคุ้มค่าสูงสุดในระยะยาว
Rêver Automotive: ผู้นำที่ก้าวข้ามขีดจำกัด
การที่ Rêver Automotive สามารถครองพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดในงานมหกรรมยานยนต์ระดับประเทศอีกครั้ง ด้วยพื้นที่รวมถึง 2,193 ตร.ม. (แบ่งเป็น BYD 1,591 ตร.ม. และ DENZA 602 ตร.ม.) ไม่ใช่เพียงการแสดงออกถึงศักยภาพทางการตลาด แต่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของกลุ่มธุรกิจ Rêver ที่ต้องการนำเสนอประสบการณ์ยานยนต์พลังงานใหม่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับผู้บริโภคชาวไทย กว่า 100,000 รายที่ไว้วางใจในคุณภาพและนวัตกรรมของ BYD คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความสำเร็จนี้
คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Rêver ได้กล่าวย้ำถึงความตั้งใจที่จะให้ผู้บริโภคได้สัมผัสและทำความรู้จักกับยานยนต์พลังงานใหม่รุ่นล่าสุดจาก BYD และ DENZA อย่างเต็มที่ รวมถึงแคมเปญพิเศษที่ผสานกับมาตรการ EV 3.0 ซึ่งไม่เพียงมอบประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ท่ามกลางสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
ในขณะเดียวกัน คุณประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Rêver ได้เน้นย้ำถึงปรัชญาเบื้องหลังการพัฒนายานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ว่าไม่ได้มีเพียงเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจเท่านั้น แต่เพื่อส่งเสริม “ความยั่งยืนยานยนต์” อย่างแท้จริง ภายในพื้นที่จัดแสดง เราจะได้เห็นรถยนต์พลังงานใหม่หลากหลายรูปแบบ ทั้ง EV (รถยนต์ไฟฟ้า 100%) และ PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด) ระดับแถวหน้าของวงการอย่าง DM-i Super Hybrid ที่สะท้อนถึงนวัตกรรมแห่งโลกอนาคตที่ BYD มุ่งมั่นนำมาสู่คนไทย เพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
เปิดตัวครั้งแรกในไทย: นวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่เหนือความคาดหมาย
Motor Expo 2025 จะเป็นพยานของการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยสำหรับ 3 ยานยนต์พลังงานใหม่ที่น่าจับตา ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนเป็นตัวแทนของเทคโนโลยีล้ำสมัยและการออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้อย่างสมบูรณ์แบบ
DENZA B5: SUV Off-road ผสานเทคโนโลยี DMO Hybrid – นิยามใหม่ของ “รถยนต์ SUV ไฟฟ้าสายลุย”
DENZA B5 คือการปฏิวัตินิยามของ “รถยนต์ SUV Off-road” ที่ผสานความแข็งแกร่งดุดันเข้ากับความหรูหราพรีเมียมอย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ทรงเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานเทคโนโลยีการขับเคลื่อนล้ำสมัยที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองหรือการผจญภัยนอกเส้นทาง ด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 3.4 เมตร ร่วมกับเทคโนโลยี B-Style U-Turn ทำให้การขับขี่ในเมืองใหญ่ที่คับคั่งเป็นเรื่องง่ายดายและคล่องตัวอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องลุย DENZA B5 ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันทรงพลังและขุมพลังไฮบริด DMO (Dual Mode Off-road) ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 505 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร ทำให้รถคันนี้พร้อมพิชิตทุกเส้นทางได้อย่างมั่นใจและไร้กังวล อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในที่ครบครันและหรูหรา มอบความสุนทรียภาพและความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น “รถยนต์ครอบครัวไฟฟ้า” สำหรับการเดินทางไกล หรือ “รถยนต์ Off-road ไฟฟ้า” สำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ DENZA B5 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ
BYD Ti7: Urban SUV สไตล์ Adventure ผสานความชาญฉลาดแห่งอนาคต – “รถยนต์ Urban SUV ไฟฟ้า” ที่ตอบโจทย์คนเมืองรักผจญภัย
สำหรับผู้ที่กำลังมองหา “รถยนต์ Urban SUV ไฟฟ้า” ที่ไม่เพียงตอบสนองการใช้งานในเมือง แต่ยังพร้อมพาคุณออกไปผจญภัย BYD Ti7 คือคำตอบ ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด STARSHIP Ark ที่ผสานความดุดันเข้ากับตัวถังทรงเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบสไตล์ Dual Layer Symmetry มอบความรู้สึกกว้างขวางและทันสมัย พร้อมด้วย BYD Intelligent Cockpit ที่เชื่อมต่อการแสดงผลผ่านหน้าจอต่างๆ อย่างไร้รอยต่อ รวมถึงระบบแสดงผลบนกระจกหน้า AR-HUD ขนาด 26 นิ้ว ซึ่งเป็น “เทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ” ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นข้อมูลสำคัญได้โดยไม่ละสายตาจากถนน และสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง BYD PAD ขนาด 13 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถยนต์ได้โดยตรง เสมือนมีแท็บเล็ตประสิทธิภาพสูงเป็นศูนย์กลางควบคุม ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV แบบ DM 5.0 platform 4WD ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง เข้ากับ BYD Blade Battery ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ระดับชั้นนำของโลก มอบกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 620 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 155 กิโลเมตร (NEDC) มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Fi-Pilot L2+ มากถึง 20 ระบบ ทำให้ BYD Ti7 เป็น “รถยนต์ไฟฟ้าเทคโนโลยีล้ำสมัย” ที่มอบทั้งความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพสูงสุด
DENZA D9 Phantom Edition: MPV หรูเหนือระดับสำหรับทุกการเดินทาง – “รถยนต์ครอบครัวไฟฟ้าสุดหรู” ที่ไร้ที่ติ
DENZA D9 Phantom Edition คือการยกระดับประสบการณ์การเดินทางไปอีกขั้นสำหรับ “รถยนต์ครอบครัวไฟฟ้าสุดหรู” สำหรับผู้ที่ต้องการความพรีเมียมและความสะดวกสบายสูงสุด ด้วยชุดตกแต่งสเกิร์ตรอบคันดีไซน์สปอร์ต กระจังหน้าแบบใหม่ และชุดสปอยเลอร์ ที่เพิ่มความสง่างามและโดดเด่นไม่เหมือนใคร ภายในห้องโดยสารได้รับการยกระดับด้วยจอเพดานระบบสัมผัสสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 15.6 นิ้ว มอบความบันเทิงตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะสำหรับผู้บริหารที่ต้องการพื้นที่ทำงานส่วนตัว หรือครอบครัวที่ต้องการความผ่อนคลาย DENZA D9 Phantom Edition ก็พร้อมตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างลงตัว สะท้อนถึงความเป็นเลิศในทุกรายละเอียด
DM-i Super Hybrid: ทางเลือกอันชาญฉลาดสำหรับผู้ที่มองหา “รถยนต์ไฮบริดเสียบปลั๊กประสิทธิภาพสูง”
DM-i Super Hybrid คือนวัตกรรมระบบ PHEV จาก BYD ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะ “รถยนต์ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน” ที่แตกต่างจากระบบ PHEV ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า EV อย่างแท้จริง ทั้งการตอบสนองที่ฉับไว ไร้เสียงรบกวน แต่ยังคงไว้ซึ่งความอุ่นใจในการเดินทางไกลโดยไม่ต้องพะวงเรื่องสถานีชาร์จ ด้วยการใช้เชื้อเพลิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ DM-i Super Hybrid ยังมาพร้อมกับ BYD Blade Battery ซึ่งเป็น “แบตเตอรี่ Blade Battery” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ในระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวที่ไกลกว่า 100 กิโลเมตร
BYD Seal 5 DM-i: “รถยนต์ซีดาน PHEV” ขนาดกลางรุ่นแรกของไทยที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง DM-i Super Hybrid สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงสุด 120 กิโลเมตร (NEDC) มาพร้อมข้อเสนอพิเศษในรุ่นย่อย Premium ไม่ว่าจะเป็นดาวน์เริ่มต้นเพียง 34,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก ทำให้การเป็นเจ้าของ “รถยนต์ไฟฟ้าซีดาน” ประหยัดพลังงานเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย
BYD SEALION 6 DM-i: “รถยนต์ SUV พรีเมียม” ที่มาพร้อมสไตล์และความสามารถในการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวสูงสุด 104 กิโลเมตร (NEDC) ในรุ่นย่อย Dynamic ก็มีข้อเสนอพิเศษเช่นกัน ด้วยดาวน์เริ่มต้นเพียง 44,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก ทำให้ “รถยนต์ SUV ไฟฟ้า” คันนี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหานวัตกรรมและความคุ้มค่า
ทัพยนตรกรรมพลังงานใหม่จาก BYD พร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุดก่อนมาตรการ EV 3.0 สิ้นสุด
Rêver Automotive ตอกย้ำความเป็น “ช่วงเวลาที่ดีที่สุด” ในการครอบครองรถยนต์ BYD ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรุ่นยอดนิยม ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและงบประมาณที่หลากหลาย:
BYD DOLPHIN: “รถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด” ยอดนิยม สำหรับรุ่นย่อย Standard มอบราคาพิเศษ 449,900 บาท หรือ 459,900 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก ทำให้ BYD DOLPHIN เป็น “รถยนต์ไฟฟ้าผ่อนถูก” และคุ้มค่าที่สุดสำหรับการเริ่มต้นเป็นเจ้าของรถ EV
BYD ATTO 3: “รถยนต์ SUV ไฟฟ้า” ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด สำหรับรุ่นย่อย Premium ราคาพิเศษ 629,900 บาท หรือ 639,900 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ และสำหรับรุ่นย่อย Extended ราคาพิเศษ 699,900 บาท หรือ 709,900 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ทั้งสองรุ่นย่อยมาพร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก ทำให้ BYD ATTO 3 ยังคงเป็น “รถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุด” ในกลุ่ม SUV ขนาดกลางสำหรับหลายๆ คน
BYD M6: สำหรับรุ่นย่อย Dynamic มอบข้อเสนอพิเศษด้วยดาวน์เริ่มต้นเพียง 39,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD SEALION 7: สำหรับรุ่นย่อย Premium ดาวน์เริ่มต้นเพียง 57,495 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
ข้อเสนอเหล่านี้คือโอกาสสุดท้ายที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากมาตรการ EV 3.0 ก่อนสิ้นสุดปี 2568 ทำให้ “ราคา BYD ล่าสุด” ที่มาพร้อมโปรโมชั่นเหล่านี้มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง
บทสรุปและคำเชิญ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามอุตสาหกรรมนี้มาอย่างยาวนาน ผมสามารถยืนยันได้อย่างหนักแน่นว่าปี 2025 คือปีแห่งการตัดสินใจครั้งสำคัญสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเป็นเจ้าของยานยนต์พลังงานใหม่ ด้วยนวัตกรรมที่ก้าวกระโดดจาก BYD และ DENZA รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาครัฐที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้ช่วงเวลา Motor Expo ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ณ บูธหมายเลข A06 คือโอกาสที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับ “เทคโนโลยีล้ำสมัย” และ “ความยั่งยืนยานยนต์” ที่ BYD และ DENZA นำเสนอผ่านรถยนต์ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือปลั๊กอินไฮบริด DM-i Super Hybrid
อย่าปล่อยให้โอกาสครั้งสำคัญนี้หลุดลอยไป สัมผัสประสบการณ์ขับขี่แห่งอนาคต และรับ “โปรโมชั่นรถ EV” ที่ดีที่สุด เพื่อเป็นเจ้าของยานยนต์พลังงานใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมล่าสุดและข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ หรือหากไม่สะดวกเดินทางมาที่งาน คุณยังสามารถค้นหาและทดลองขับรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ได้ที่โชว์รูมและ “ศูนย์บริการ BYD” ใกล้บ้านคุณ ทั้ง 167 สาขาทั่วประเทศ เราพร้อมที่จะมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่เหนือกว่า และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน
