ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
ฟอร์ดในไทย 29 ปี: เจาะลึกเส้นทางความสำเร็จ นวัตกรรม และความผูกพันกับผู้ขับขี่ชาวไทย สู่ทศวรรษใหม่ที่แข็งแกร่ง
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของตลาดรถยนต์ไทยมาโดยตลอด มีไม่กี่แบรนด์ที่จะสามารถยืนหยัดและครองใจผู้บริโภคได้อย่างยาวนานถึงเกือบสามทศวรรษ และหนึ่งในนั้นคือ “ฟอร์ด” รถยนต์สัญชาติอเมริกันที่สร้างตำนานบทใหม่ในประเทศไทยได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ตลอด 29 ปีที่ผ่านมานับถึงปัจจุบัน ฟอร์ด ประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงผู้จำหน่ายรถยนต์ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทย เป็นผู้บุกเบิกด้านนวัตกรรม และเป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรม บทความนี้จะพาทุกท่านเจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จอันน่าทึ่ง พร้อมสำรวจอนาคตที่สดใสของฟอร์ดในตลาดปี 2025 และปีต่อๆ ไป
การเดินทางแห่งความทุ่มเท: ถักทอประวัติศาสตร์ฟอร์ดในไทย
การเริ่มต้นของฟอร์ดในประเทศไทยเมื่อ 29 ปีก่อนไม่ใช่เรื่องง่าย ตลาดรถยนต์ไทยในเวลานั้นเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด แบรนด์จากเอเชียมีอิทธิพลอย่างมาก แต่ฟอร์ดได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ตั้งแต่การนำเสนอรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองอย่าง Ford Laser ในยุคแรกๆ ไปจนถึงการพลิกโฉมตลาดรถกระบะด้วย Ford Ranger ที่ผสานสมรรถนะอันแข็งแกร่งเข้ากับดีไซน์ที่ทันสมัย การปรับตัวให้เข้ากับความต้องการและรสนิยมของคนไทยคือหัวใจสำคัญ ฟอร์ดเรียนรู้จากผู้ใช้งานจริง พัฒนารถยนต์ที่ไม่เพียงแค่เป็นพาหนะ แต่เป็นเพื่อนคู่ใจที่พร้อมลุยไปทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน การเดินทางท่องเที่ยว หรือการขับขี่แบบออฟโรดสุดท้าทาย
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นฟอร์ดลงทุนมหาศาลในการวิจัยและพัฒนา เพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่ล้ำหน้าเข้าสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ EcoBoost ที่ให้พละกำลังมหาศาลแต่ประหยัดน้ำมันอย่างน่าทึ่ง หรือระบบ Infotainment อัจฉริยะ SYNC ที่เชื่อมต่อโลกดิจิทัลเข้ากับการขับขี่อย่างลงตัว ความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ยานยนต์โลกในปี 2025 ไม่ได้ทำให้ฟอร์ดหยุดนิ่ง แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้แบรนด์ต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รถยนต์ฟอร์ดยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้บริโภคชาวไทยที่มองหาความคุ้มค่า ความปลอดภัย และความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง
เหนือกว่าตัวเลข: ความไว้วางใจอันแน่วแน่จากผู้ขับขี่ชาวไทย
ความสำเร็จของฟอร์ดในไทยสามารถวัดได้จากตัวเลขที่น่าประทับใจ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ฟอร์ดได้ส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าชาวไทยไปแล้วกว่า 803,352 คัน ตัวเลขนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยอดขาย แต่เป็นเครื่องสะท้อนถึงความไว้วางใจและความภักดีที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เมื่อเราพิจารณาย้อนหลังไป 4 ปี (พ.ศ. 2564-2568) จะพบว่า “สีดำ” เป็นสีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ลูกค้าฟอร์ดในประเทศไทย นี่ไม่ใช่เพียงแค่รสนิยมส่วนบุคคล แต่ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์ที่ฟอร์ดสร้างขึ้นได้อย่างชัดเจน ทั้งความเท่ ความแกร่ง และความดุดัน ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ฟอร์ดมุ่งเน้นและทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความแข็งแกร่งและสมรรถนะอันเหนือชั้นของรถยนต์ การที่ลูกค้าเลือกสีดำเป็นอันดับหนึ่ง ยิ่งตอกย้ำว่าฟอร์ดได้สร้างแบรนด์ที่สื่อถึงพลังและความเป็นตัวตนได้อย่างลึกซึ้ง
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ผู้คนจำนวนมากตัดสินใจ ซื้อรถฟอร์ด ซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นเครื่องยืนยันถึง คุณภาพรถฟอร์ด ที่ได้รับการยอมรับ และ ศูนย์บริการฟอร์ด ที่พร้อมดูแลลูกค้าตลอดอายุการใช้งาน ความพึงพอใจจากประสบการณ์การขับขี่และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ฟอร์ดแข็งแกร่งในใจคนไทยเสมอมา นี่คือความผูกพันที่สร้างขึ้นจากความเข้าใจและความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการเติบโตของฟอร์ดในทศวรรษหน้า
ความเป็นเลิศด้านการผลิต: ระยอง หัวใจการผลิตระดับโลก
เบื้องหลังความสำเร็จด้านยอดขาย คือหัวใจของการผลิตที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพระดับโลก โรงงานฟอร์ดทั้งสองแห่งที่จังหวัดระยอง ได้แก่ ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (FTM) และออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หรือ AAT เป็นมากกว่าแค่โรงงานผลิตรถยนต์ แต่เป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกที่สำคัญในภูมิภาคนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โรงงานเหล่านี้ได้ผลิตรถยนต์รวมกันแล้วกว่า 3.2 ล้านคัน หากนำรถยนต์ทั้งหมดมาจอดเรียงต่อกัน จะทอดยาวจากจังหวัดระยอง ข้ามทวีปไปจนถึงชายฝั่งตะวันออกของประเทศแคนาดาเลยทีเดียว นี่คือภาพสะท้อนของศักยภาพและความยิ่งใหญ่ในการผลิตของฟอร์ดในประเทศไทย
กำลังการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงส่งผลให้ ทุกๆ 2 นาที จะมี รถฟอร์ดคันใหม่หนึ่งคันออกจากสายการผลิต พร้อมส่งมอบถึงมือลูกค้า ซึ่งเร็วกว่าเวลาที่ใช้ในการดริปกาแฟตอนเช้าเสียอีก ความเร็วและประสิทธิภาพนี้ไม่ได้มาจากการเร่งรัดกระบวนการ แต่มาจากการลงทุนใน นวัตกรรมการผลิต ที่ล้ำสมัย หุ่นยนต์อัตโนมัติ และระบบควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การขึ้นรูปตัวถัง การพ่นสี ไปจนถึงการประกอบชิ้นส่วนและ ทดสอบคุณภาพขั้นสุดท้าย มาตรฐานคุณภาพ ของฟอร์ดที่ใช้ในโรงงานระยองเป็นมาตรฐานระดับโลก ทำให้รถยนต์ที่ผลิตจากที่นี่ ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของตลาดภายในประเทศ แต่ยังเป็นที่ยอมรับและ ส่งออกรถยนต์ ไปยังตลาดกว่า 180 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล บทบาทของโรงงานเหล่านี้ยังสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น และส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย
เจาะลึกดีเอ็นเอผู้ขับขี่ฟอร์ด: พวกเขาคือใคร?
การทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งคือ กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของฟอร์ด ข้อมูลล่าสุดจากปี 2025 เผยให้เห็นว่า กลุ่มลูกค้าฟอร์ดหลักมีอายุระหว่าง 30-50 ปี โดยแบ่งเป็นลูกค้าชาย 60% และที่น่าสนใจคือ มีลูกค้าผู้หญิงสูงถึง 40% ซึ่งเป็นการทำลายภาพจำแบบเดิมๆ ที่ว่ารถฟอร์ดมีแต่ผู้ชายขับเท่านั้น ตัวเลขนี้สะท้อนว่าฟอร์ดสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงยุคใหม่ที่มองหารถยนต์ที่มีสมรรถนะดีเยี่ยม ปลอดภัย และมีดีไซน์ที่แข็งแกร่งแต่ยังคงความคล่องตัวได้อย่างลงตัว
เมื่อพิจารณาอาชีพหลักของ กลุ่มลูกค้าฟอร์ด เราจะพบว่าส่วนใหญ่เป็น เจ้าของธุรกิจ พนักงานบริษัทเอกชน และ เกษตรกร ซึ่งกระจายตัวอยู่ใน 5 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น แต่ละภูมิภาคมีความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ฟอร์ดได้ศึกษาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับแต่ละกลุ่ม
ภูเก็ต: เป็นจังหวัดที่ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 สูงกว่าคู่แข่งทุกราย สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Ford Everest 2025 ซึ่งเป็น รถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ที่ให้ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความสามารถในการขับขี่ที่หลากหลาย ทั้งบนถนนหลวงและเส้นทางท้าทาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของชาวภูเก็ตที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัว หรือการผจญภัยในวันหยุดได้อย่างลงตัว
จันทบุรี: ครองตำแหน่ง ‘เมืองแห่งฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์’ เป็นแหล่งรวมสาวกรถกระบะสุดทรงพลังอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ โดยส่วนใหญ่เป็น เจ้าของสวนผลไม้ ซึ่งมองหา รถกระบะพันธุ์แกร่ง ที่มีสมรรถนะสูงสุดและดีไซน์เท่เป็น ‘รถในฝัน’ ที่พร้อมลุยไปด้วยกันในทุกเส้นทางชีวิต การที่เกษตรกรเลือก Ford Ranger Raptor ราคา อาจดูเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย แต่เมื่อพิจารณาถึงการใช้งานที่ต้องบรรทุกหนัก ลุยเส้นทางทุรกันดาร และความต้องการรถที่สามารถเป็นทั้งเครื่องมือทำมาหากินและพาหนะส่วนตัวที่สะท้อนบุคลิกที่โดดเด่น ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ จึงเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบ
การเข้าใจถึงความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละภูมิภาคและแต่ละอาชีพ ทำให้ฟอร์ดสามารถนำเสนอรถยนต์ที่ “ใช่” และ “ตรงใจ” ได้อย่างแท้จริง
นวัตกรรม พลัง และความปลอดภัย: ความได้เปรียบของฟอร์ดในปี 2025
ในโลกยานยนต์ปี 2025 เทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดทิศทาง ฟอร์ดไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสมรรถนะ ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย
สมรรถนะอันเหนือชั้น: เครื่องยนต์ EcoBlue Turbodiesel ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ให้ทั้งพละกำลังที่จัดจ้าน แรงบิดสูงที่ตอบสนองได้ทันใจ และยังคง ประหยัดน้ำมันฟอร์ด ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกล การลากจูง หรือการลุยเส้นทางออฟโรด ฟอร์ดก็พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและมั่นใจ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ทันสมัยพร้อมโหมดการขับขี่หลากหลาย (Terrain Management System) ทำให้รถฟอร์ดพร้อมสำหรับทุกสภาพพื้นผิว
ระบบความปลอดภัยฟอร์ด ระดับโลก: ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญสูงสุด ฟอร์ดได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและเชิงรับที่ล้ำสมัย อาทิ ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (ADAS – Advanced Driver-Assistance Systems) เช่น ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System), ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบช่วยเบรก (Pre-Collision Assist with Autonomous Emergency Braking), ระบบตรวจจับจุดอับสายตา (Blind Spot Information System) และระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Roll Stability Control) เทคโนโลยีเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ให้กับทั้งคนขับและผู้โดยสารทุกท่าน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ รถยนต์อเนกประสงค์ และ รถกระบะฟอร์ด ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจากองค์กรอิสระอย่าง ASEAN NCAP
เทคโนโลยีฟอร์ด เพื่อการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบ: ระบบ SYNC 4A (สำหรับรุ่นใหม่ล่าสุด) พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูล ความบันเทิง และการนำทางได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ระบบ FordPass Connect ยังช่วยให้เจ้าของรถสามารถควบคุมและตรวจสอบสถานะรถได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการสตาร์ทรถ ล็อก/ปลดล็อก หรือค้นหาตำแหน่งรถ ฟอร์ดไม่เพียงแค่มอบรถยนต์ แต่ยังมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อให้กับผู้ขับขี่ในยุคดิจิทัล
การลงทุนใน นวัตกรรมยานยนต์ เหล่านี้ทำให้ฟอร์ดไม่เพียงแค่ตามทันตลาด แต่ยังเป็นผู้ขับเคลื่อนเทรนด์ ทำให้รถยนต์ฟอร์ดเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่มองหายานพาหนะที่ครบครันทั้ง สมรรถนะรถฟอร์ด ความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
เสาหลักแห่งความเชื่อมั่น: Ranger และ Everest – สัญลักษณ์แห่งความแกร่ง
รถกระบะ Ford Ranger และ รถยนต์ SUV Ford Everest ถือเป็นสองผลิตภัณฑ์เรือธงที่สร้างชื่อเสียงและตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ฟอร์ดในประเทศไทยอย่างแท้จริง
Ford Ranger 2025: นิยามใหม่ของรถกระบะอัจฉริยะและแกร่งทน
ฟอร์ด เรนเจอร์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ รถกระบะยอดนิยม แต่เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ความอเนกประสงค์ และดีไซน์ที่ดุดัน ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นอย่าง XL สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์, XLT สำหรับการใช้งานทั่วไป, Wildtrak ที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับความสมบุกสมบัน, ไปจนถึง Raptor ที่เป็นที่สุดแห่งสมรรถนะออฟโรด เรนเจอร์สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าชาวไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรที่ต้องการรถกระบะคู่ใจในการขนส่งผลผลิต, เจ้าของธุรกิจที่ใช้เป็นรถทำงานและรถครอบครัว, หรือผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยที่ต้องการรถที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง Ford Ranger 2025 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบที่ทรงพลัง ระบบขับเคลื่อน 4×4 ที่ชาญฉลาด และช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงให้มอบความสบายในการขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครัน ซึ่งทำให้ รีวิว Ford Ranger ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามในทุกแพลตฟอร์ม
Ford Everest 2025: รถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียมสำหรับทุกคนในครอบครัว
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็น รถยนต์ SUV ที่มอบความหรูหรา สะดวกสบาย และความปลอดภัยสูงสุดสำหรับครอบครัวใหญ่ ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูภูมิฐานและแข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย 7 ที่นั่ง พร้อมวัสดุคุณภาพสูงและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ Ford Everest 2025 โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ช่วงล่างที่นุ่มนวล มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่นทั้งในเมืองและนอกเมือง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะทำให้สามารถลุยเส้นทางออฟโรดเบาๆ ได้อย่างมั่นใจ และเหนือสิ่งอื่นใดคือ ระบบความปลอดภัยระดับโลกที่มอบความอุ่นใจในการเดินทางทุกครั้ง ทำให้ รีวิว Ford Everest มักจะชี้ให้เห็นถึงความคุ้มค่าและครบครันในแพ็คเกจเดียว เอเวอเรสต์จึงเป็นมากกว่ารถยนต์อเนกประสงค์ แต่เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่มอบความสุขและความทรงจำที่ดีร่วมกันของครอบครัว
ทั้งเรนเจอร์และเอเวอเรสต์ไม่เพียงแค่เป็นรถยนต์ที่ขายดี แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคชาวไทย ด้วย ราคาฟอร์ด ที่เข้าถึงได้เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีและสมรรถนะที่ได้รับ ทำให้ทั้งสองรุ่นนี้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในตลาดเสมอมา
บริการหลังการขายเหนือระดับ: ความอุ่นใจทุกเส้นทาง
ฟอร์ดเชื่อมั่นว่าการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ดีไม่ได้หยุดอยู่แค่การ ซื้อรถฟอร์ด ที่มีคุณภาพ แต่ยังรวมถึงความอุ่นใจตลอดอายุการใช้งานด้วย บริการหลังการขาย ที่ยอดเยี่ยม นั่นคือเหตุผลที่ฟอร์ดได้ลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการเปิด ศูนย์กระจายอะไหล่ แห่งใหม่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 40,000 ตารางเมตร เทียบเท่าสนามฟุตบอลมาตรฐาน 5.6 สนาม พร้อม คลังอะไหล่ฟอร์ด สำรองกว่า 4.3 ล้านชิ้น ศูนย์แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงคลังเก็บอะไหล่ แต่เป็นศูนย์กลางที่ช่วยให้การจัดการและจัดส่ง อะไหล่ฟอร์ดแท้ ไปยัง ศูนย์บริการฟอร์ด ทั่วประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์ฟอร์ดทุกคันจะได้รับการ ดูแลรถฟอร์ด อย่างทันท่วงทีและพร้อมลุยในทุกเส้นทางอย่างไม่มีสะดุด
นอกจากคลังอะไหล่ขนาดใหญ่แล้ว ฟอร์ดยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่าย ศูนย์บริการฟอร์ด ทั่วประเทศ ให้มีมาตรฐานระดับโลก มีช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ พร้อมด้วยเครื่องมือวิเคราะห์และซ่อมบำรุงที่ทันสมัย การใช้แอปพลิเคชัน FordPass ช่วยให้ลูกค้าสามารถนัดหมายเข้ารับบริการ ตรวจสอบสถานะการซ่อมบำรุง และเข้าถึงข้อมูลสำคัญของรถได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ฟอร์ดยังมี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง และโปรแกรม ประกันภัยรถยนต์ฟอร์ด ที่ครอบคลุม เพื่อมอบความอุ่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า สิ่งเหล่านี้คือความมุ่งมั่นของฟอร์ดที่จะสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า และทำให้การเป็นเจ้าของรถฟอร์ดเป็นประสบการณ์ที่ราบรื่นและน่าประทับใจในทุกๆ ด้าน
เส้นทางข้างหน้า: วิสัยทัศน์ของฟอร์ดเพื่ออนาคตประเทศไทย
ตลอด 29 ปีที่ผ่านมา ฟอร์ดได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความเข้าใจในตลาดและผู้บริโภคชาวไทยอย่างลึกซึ้ง ในปี 2025 และทศวรรษต่อจากนี้ ฟอร์ดจะยังคงเดินหน้าตอกย้ำจุดยืนในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ยกระดับมาตรฐานยานยนต์ และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้กับคนไทยอย่างไม่หยุดยั้ง อนาคตฟอร์ด ในประเทศไทยจะยังคงมุ่งเน้นที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง มีสมรรถนะเป็นเลิศ และเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า
ฟอร์ดจะยังคงสานต่อปรัชญา “Built Ford Tough” ที่ไม่ได้หมายถึงแค่ความแกร่งของตัวรถ แต่ยังหมายถึงความแกร่งของจิตวิญญาณในการสร้างสรรค์ การเผชิญความท้าทาย และความมุ่งมั่นในการส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ฟอร์ดยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ รถยนต์อเมริกัน ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกและผลิตขึ้นในประเทศไทย จะยังคงเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้บริโภคเลือก ฟอร์ด
บทสรุปและคำเชิญชวน
29 ปีของฟอร์ดในประเทศไทยไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวของตัวเลขยอดขายหรือเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องราวของความผูกพัน ความไว้วางใจ และความมุ่งมั่นที่จะเติบโตไปพร้อมกับคนไทย ฟอร์ดได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นแบรนด์ที่เข้าใจถึงความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ขับขี่ชาวไทยอย่างแท้จริง และพร้อมที่จะ “ดุดันทุกสถานการณ์” ไปกับคนไทยอีกนาน
หากท่านคือหนึ่งในผู้ที่กำลังมองหายนตรกรรมที่ผสานความแกร่ง สมรรถนะเหนือระดับ เทคโนโลยีล้ำสมัย และบริการหลังการขายที่ให้ความอุ่นใจ ฟอร์ดคือคำตอบที่ใช่ ขอเชิญทุกท่านมา สัมผัสประสบการณ์ฟอร์ด ด้วยตัวคุณเอง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวฟอร์ด และค้นพบว่าทำไมฟอร์ดถึงเป็นแบรนด์ที่ครองใจคนไทยมาเกือบ 3 ทศวรรษ อย่ารอช้า! เยี่ยมชมโชว์รูมฟอร์ดใกล้บ้านท่านเพื่อรับ ข้อเสนอพิเศษ และ โปรโมชั่นฟอร์ด ล่าสุด หรือนัดหมาย ทดลองขับฟอร์ด รุ่นที่คุณสนใจวันนี้ เพื่อเริ่มต้นเส้นทางแห่งความมั่นใจและความประทับใจกับฟอร์ดไปด้วยกัน
29 ปีแห่งการขับเคลื่อน: ถอดรหัสความสำเร็จและอนาคตของฟอร์ดในประเทศไทย
ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว แบรนด์ที่สามารถยืนหยัดและเติบโตเคียงข้างผู้บริโภคมาเกือบสามทศวรรษย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ฟอร์ด ประเทศไทย คือหนึ่งในปรากฏการณ์ที่น่าสนใจนี้ การเดินทาง 29 ปีบนผืนแผ่นดินไทย ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขทางสถิติ แต่คือเรื่องราวของการปรับตัว นวัตกรรม และความเข้าใจในหัวใจของผู้คนอย่างลึกซึ้ง ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มานานกว่าสิบปี ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของฟอร์ดในทุกมิติ และเชื่อมั่นว่าเบื้องหลังความสำเร็จนี้มีมากกว่าที่เราเห็น
จากจุดเริ่มต้นสู่ตำนาน: การปักหมุดที่แข็งแกร่งในตลาดไทย
ย้อนกลับไปในช่วงกลางยุค 90s ที่ฟอร์ดเริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างจริงจัง การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไทยดุเดือดไม่แพ้ที่ใดในโลก แต่ฟอร์ดก็เลือกที่จะเดินหน้าด้วยปรัชญา “Built Tough” ที่ไม่ใช่แค่สโลแกน แต่เป็นดีเอ็นเอที่ถูกฝังอยู่ในผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น นับตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน ฟอร์ดได้ส่งมอบรถยนต์ไปแล้วกว่า 803,352 คัน (ณ กรกฎาคม 2568) ตัวเลขนี้ไม่ได้เป็นเพียงยอดขาย แต่มันคือจำนวนความไว้วางใจที่ลูกค้าชาวไทยมีต่อแบรนด์ การที่รถฟอร์ดเกือบหนึ่งล้านคันวิ่งอยู่บนท้องถนนทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากการตลาดที่หวือหวาเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และทนทาน ในยุคแรกเริ่ม รถยนต์นั่งส่วนบุคคลอย่าง Ford Focus และ Fiesta เคยได้รับความนิยมอย่างสูง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฟอร์ดได้ปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับความต้องการของตลาดไทยที่เน้นรถกระบะและรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) มากขึ้นอย่างชาญฉลาด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของยุคทองของ Ford Ranger และ Ford Everest ที่กลายเป็นเสาหลักของแบรนด์จนถึงทุกวันนี้
หัวใจแห่งการผลิต: โรงงานระดับโลกที่ระยอง
ความแข็งแกร่งของฟอร์ดในประเทศไทยถูกขับเคลื่อนด้วยขุมกำลังการผลิตระดับโลกที่จังหวัดระยอง ซึ่งประกอบด้วยโรงงานสองแห่ง ได้แก่ ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (FMT) และ ออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) (AAT) โรงงานทั้งสองแห่งนี้ไม่ใช่แค่ฐานการผลิตในประเทศ แต่เป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์ฟอร์ดไปทั่วโลก มียอดการผลิตรวมแล้วกว่า 3.2 ล้านคัน หากนำรถเหล่านี้มาเรียงต่อกัน คุณจะได้เห็นขบวนรถที่ทอดยาวจากระยองไปจนถึงชายฝั่งตะวันออกของประเทศแคนาดาเลยทีเดียว นี่คือภาพสะท้อนของศักยภาพและมาตรฐานการผลิตระดับโลกที่ฟอร์ดมอบให้
เทคโนโลยีและนวัตกรรมในสายการผลิตของฟอร์ดระยองก้าวล้ำไม่หยุดนิ่ง มีการนำระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การขึ้นรูปตัวถัง การทำสี ไปจนถึงการประกอบขั้นสุดท้าย ทำให้สามารถผลิตรถฟอร์ดคุณภาพสูงออกสู่ตลาดโลกได้หนึ่งคันในทุกๆ 2 นาที ซึ่งเร็วกว่าเวลาที่เราใช้ในการดริปกาแฟยามเช้าเสียอีก ความเร็วและคุณภาพที่สอดประสานกันนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ยังเป็นการสร้างงานและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล บทบาทของระยองในฐานะศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาคของฟอร์ดจึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แบรนด์สามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง
ถอดรหัสจิตวิทยาลูกค้า: ใครคือผู้ครอบครองฟอร์ด?
ความสำเร็จที่ยั่งยืนของฟอร์ดไม่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมาจากการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ข้อมูลเชิงลึกจากปี 2564-2568 เผยให้เห็นภาพที่น่าสนใจของกลุ่มลูกค้าฟอร์ดในประเทศไทย ลูกค้าหลักมีอายุระหว่าง 30-50 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มั่นคง มีกำลังซื้อ และมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ สัดส่วนลูกค้าผู้หญิงสูงถึง 40% ซึ่งทลายภาพจำแบบเดิมๆ ว่ารถฟอร์ดเป็นของผู้ชายเท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าดีไซน์ที่ดุดันแต่แฝงด้วยความหรูหรา ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ได้เข้ามาครองใจกลุ่มผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องการรถยนต์ที่สามารถเป็นเพื่อนร่วมทางที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้
เมื่อเจาะลึกลงไปในอาชีพ เราพบว่าลูกค้าฟอร์ดมีความหลากหลายอย่างน่าทึ่ง ตั้งแต่เจ้าของธุรกิจที่ต้องการรถกระบะคู่ใจในการขนส่งและสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ พนักงานบริษัทเอกชนที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์สำหรับการเดินทางกับครอบครัว ไปจนถึงเกษตรกรที่ต้องการรถกระบะสมรรถนะสูงที่พร้อมลุยงานหนักในไร่นา นี่คือการยืนยันว่าฟอร์ดสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม
สีดำ ยังคงเป็นสียอดนิยมสูงสุดในหมู่ลูกค้าฟอร์ด ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เน้นความเท่ แกร่ง และดุดัน สีดำสื่อถึงความน่าเกรงขาม ความมั่นคง และความหรูหรา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เจ้าของรถฟอร์ดภาคภูมิใจ
เจาะลึกพื้นที่: แผนที่แห่งความสำเร็จของฟอร์ด
การกระจายตัวของลูกค้าฟอร์ดใน 5 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในความต้องการเฉพาะของแต่ละภูมิภาค
ภูเก็ต: อาณาจักรของ Ford Everest
เป็นที่น่าสนใจว่าจังหวัดภูเก็ตนั้น Ford Everest ครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 เหนือคู่แข่งทุกราย สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเกาะ มีทั้งเส้นทางบนเขา ชายหาด และความต้องการรถยนต์ที่สามารถรองรับการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟ Everest ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ทั้งบนทางเรียบและเส้นทางออฟโรดเบาๆ ภายในตัวเมืองและรอบเกาะ อีกทั้งห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายสำหรับครอบครัวและการรับรองแขก จึงเป็นตัวเลือกที่ลงตัวที่สุดสำหรับชาวภูเก็ตและธุรกิจท่องเที่ยว
จันทบุรี: เมืองแห่ง Ford Ranger Raptor
อีกหนึ่งปรากฏการณ์คือจันทบุรีที่ได้รับฉายาว่า “เมืองแห่งฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” เป็นแหล่งรวมสาวกรถกระบะสุดทรงพลังเป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ เหตุผลเบื้องหลังความนิยมนี้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับเศรษฐกิจของจังหวัด จันทบุรีเป็นเมืองเกษตรกรรมที่สำคัญ โดยเฉพาะการปลูกผลไม้ที่มีมูลค่าสูงเช่นทุเรียน เจ้าของสวนและเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากต้องการรถกระบะที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะสำหรับงานหนัก แต่ยังเป็น “รถในฝัน” ที่สะท้อนถึงความสำเร็จ ความแข็งแกร่ง และพร้อมลุยในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางทุรกันดารในสวน หรือการเดินทางเพื่อธุรกิจและไลฟ์สไตล์ Raptor ที่มาพร้อมขุมพลังและช่วงล่างอันเป็นเอกลักษณ์ จึงตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งสมรรถนะการบรรทุก การลากจูง และความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดที่เหนือชั้น
กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น:
ในขณะที่จังหวัดเหล่านี้มีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในเชิงธุรกิจและการใช้งานส่วนบุคคล รถกระบะ Ranger และ SUV อย่าง Everest ก็ยังคงเป็นตัวเลือกหลัก ด้วยความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ที่ทันสมัย ทำให้ฟอร์ดเป็นที่ยอมรับในทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในเมืองใหญ่ การขนส่งสินค้าในภาคอุตสาหกรรม การเดินทางท่องเที่ยวในภาคเหนือ หรือการทำเกษตรกรรมในภาคอีสาน ฟอร์ดได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นแบรนด์ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกบริบทของการใช้ชีวิต
เหนือกว่ายอดขาย: การบริการหลังการขายคือหัวใจสำคัญ
ความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของรถฟอร์ดไม่ได้หยุดอยู่แค่ตอนซื้อ แต่ต้องรวมถึงความอุ่นใจตลอดการใช้งาน ฟอร์ดตระหนักดีถึงจุดนี้และได้ลงทุนอย่างมหาศาลในการยกระดับบริการหลังการขายเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า การเปิดศูนย์กระจายอะไหล่แห่งใหม่ที่ใหญ่โตโอ่อ่าถึง 40,000 ตารางเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับสนามฟุตบอลมาตรฐาน 5.6 สนาม พร้อมคลังอะไหล่สำรองกว่า 4.3 ล้านชิ้น คือข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นนี้
ศูนย์กระจายอะไหล่แห่งนี้ไม่เพียงแค่ใหญ่ แต่ยังใช้เทคโนโลยีการจัดการคลังสินค้าที่ทันสมัยที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าอะไหล่ทุกชิ้นจะถูกจัดส่งไปยังศูนย์บริการทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำที่สุด สิ่งนี้แปลว่าเจ้าของรถฟอร์ดจะได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที ลดระยะเวลาในการซ่อมบำรุง และสามารถกลับมาใช้งานรถคู่ใจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้รถในการประกอบอาชีพ หรือผู้ที่ต้องพึ่งพารถยนต์ในชีวิตประจำวัน การลงทุนในส่วนนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจและรักษาฐานลูกค้าไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เพราะในโลกปัจจุบัน บริการหลังการขายที่ดีเยี่ยมคือสิ่งที่จะตัดสินใจว่าลูกค้าจะกลับมาซื้อแบรนด์เดิมหรือไม่
นวัตกรรมและเทคโนโลยี: ขับเคลื่อนอนาคตไปกับฟอร์ด
ฟอร์ดไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่และความปลอดภัย ตั้งแต่ระบบ SYNC ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เชื่อมต่อกับรถยนต์ได้อย่างราบรื่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบช่วยจอด ไปจนถึงเทคโนโลยีเครื่องยนต์ EcoBoost ที่ให้สมรรถนะสูงแต่ประหยัดน้ำมัน และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบที่ทรงพลังและทนทาน
ในมุมมองของปี 2568 และอนาคตข้างหน้า ฟอร์ดกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับคลื่นลูกใหม่ของเทคโนโลยียานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ (Connectivity) ที่จะทำให้รถยนต์กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศดิจิทัล การพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving) และแน่นอนที่สุดคือยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งฟอร์ดมีแผนงานระดับโลกที่ชัดเจนในการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ การที่ฟอร์ดลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราเชื่อมั่นว่าฟอร์ดจะยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในทศวรรษหน้า
ก้าวสู่ทศวรรษที่สามอย่างแข็งแกร่ง: ดุดันทุกสถานการณ์
ตลอดระยะเวลา 29 ปีที่ผ่านมา ฟอร์ดได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การดำเนินธุรกิจในตลาดที่มีความหลากหลายและแข่งขันสูงอย่างประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล การทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง การลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตและการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฟอร์ดสามารถก้าวข้ามทุกความท้าทาย และสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือในใจคนไทย
คำว่า “ดุดันทุกสถานการณ์” ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำขวัญ แต่เป็นปรัชญาที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการสร้างรถยนต์ที่พร้อมลุยไปกับผู้ใช้งานในทุกสภาพถนน ทุกสภาพอากาศ และทุกสถานการณ์ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การผจญภัย หรือการเดินทางกับครอบครัว รถฟอร์ดคือเพื่อนคู่ใจที่พร้อมจะพาคุณไปสู่จุดหมายได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการ ผมมองเห็นอนาคตที่สดใสของฟอร์ดในประเทศไทย ด้วยรากฐานที่มั่นคง ความสามารถในการปรับตัว และความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรม ฟอร์ดพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่ทศวรรษที่สามอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทยต่อไป
เชิญสัมผัสประสบการณ์ “Built Tough” ด้วยตัวคุณเอง
หากคุณกำลังมองหารถยนต์คู่ใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ เทคโนโลยีล้ำสมัย และบริการหลังการขายที่เหนือกว่า ขอเชิญคุณมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จของฟอร์ด ประเทศไทย สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง เยี่ยมชมโชว์รูมฟอร์ดใกล้บ้านคุณ หรือเข้าชมเว็บไซต์เพื่อรับข้อมูลและโปรโมชั่นพิเศษ พร้อมให้ผู้เชี่ยวชาญของเราช่วยคุณค้นหารถฟอร์ดที่ใช่สำหรับคุณ และร่วมเดินทางไปกับเราในทุก “สถานการณ์” ที่รออยู่ข้างหน้า
