ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
อนาคตของยานยนต์ไทย 2025-2026: เปิดโผรถใหม่น่าจับตา พร้อมรับยุคแห่งนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่พลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมนี้มาโดยตลอด และหากมองไปข้างหน้าในปี 2025-2026 ผมกล้าพูดได้เลยว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่น่าตื่นเต้นที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ผู้บริโภคชาวไทยจะได้สัมผัสกับนิยามใหม่ของคำว่า “รถยนต์” ที่ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่คือพื้นที่ส่วนตัวที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย การขับขี่ที่ชาญฉลาด และหัวใจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
จากกระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่พุ่งทะยานอย่างไม่หยุดยั้ง นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐที่ชัดเจน และการแข่งขันที่ดุเดือดจากแบรนด์ทั้งเก่าและใหม่ ทำให้ตลาดรถยนต์ไทยในช่วงปี 2025-2026 นี้จะเต็มไปด้วยความคึกคักและรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะมาตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับการใช้งานในเมือง ไปจนถึงรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) พรีเมียมที่มาพร้อมสมรรถนะอันทรงพลังและเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงภาพรวมของตลาดรถยนต์ไทยในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เปิดโผรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าจับตาที่สุด วิเคราะห์เทรนด์สำคัญที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรม และให้มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกยานยนต์
ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทย 2025-2026: ยุคแห่งความยั่งยืนและเทคโนโลยีดิจิทัล
ตลาดรถยนต์ไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ทศวรรษใหม่ด้วยความมุ่งมั่นสู่การขับเคลื่อนที่ยั่งยืน การหันมาให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่เป็นทิศทางหลักที่กำหนดโดยเทรนด์โลกและนโยบายภาครัฐที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมพลังงานสะอาด
งานแสดงรถยนต์ใหญ่ๆ อย่าง Motor Show หรือ Motor Expo ในช่วงปี 2025-2026 จะไม่ได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเปิดตัวรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) รุ่นใหม่ๆ อีกต่อไป แต่จะเป็นมหกรรมที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV Innovation) เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ (Smart Driving Technology) และระบบเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ (Seamless Connectivity) ค่ายรถยนต์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Toyota, Honda, MG, BYD, Neta, หรือแม้แต่แบรนด์หรูอย่าง Mercedes-Benz และ BMW ต่างก็เร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและระบบไฮบริดที่ล้ำสมัยเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้
ผมมองว่าตลาดจะยังคงถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยสำคัญหลายประการ:
นโยบายภาครัฐ: มาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV Subsidies) ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
โครงสร้างพื้นฐาน: การขยายตัวของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Stations) ทั่วประเทศจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน EV มากขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ
เทคโนโลยีแบตเตอรี่: การพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ราคาถูกลง และมีระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น (Long-Range EV) จะเป็นตัวเร่งสำคัญ
ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภคมีความรู้และใส่ใจในประเด็นสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
คาดการณ์ว่าเราจะได้เห็นการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ Facelift และโมเดลใหม่หมดจดอีกจำนวนมาก ที่จะมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS – Advanced Driver-Assistance Systems) หน้าจอแสดงผลแบบพาโนรามา และเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชันใหม่
เปิดโผ 10 รถยนต์น่าจับตาในตลาดไทย 2025-2026 (พร้อมประมาณการราคาและการเปิดตัว)
นี่คือรายชื่อรถยนต์ที่คาดว่าจะสร้างความฮือฮาและเป็นที่พูดถึงในตลาดไทยช่วงปี 2025-2026 ที่จะถึงนี้ ผมได้คัดสรรจากข้อมูลการทดสอบ การเปิดตัวในต่างประเทศ และแนวโน้มของตลาดไทยมาเป็นอย่างดี:
| รุ่นรถยนต์ | ประมาณการเปิดตัว | ประมาณการราคา (บาท) | รูปแบบตัวถัง | จุดเด่น |
|---|---|---|---|---|
| BYD Seal U | ต้นปี 2025 | 1,300,000 – 1,500,000 | SUV ไฟฟ้า | พื้นที่กว้างขวาง, เทคโนโลยี Blade Battery, ระยะทางวิ่งไกล |
| Kia EV5 | กลางปี 2025 | 1,500,000 – 1,800,000 | SUV ไฟฟ้า | ดีไซน์ล้ำสมัย, ภายในห้องโดยสารอเนกประสงค์, แพลตฟอร์ม E-GMP |
| Honda e:N Series (SUV) | กลางปี 2025 | 1,200,000 – 1,600,000 | SUV ไฟฟ้า | เทคโนโลยี Honda e:N Architecture, ประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ต |
| MG Cyberster | ปลายปี 2025 | 2,500,000 – 3,000,000 | รถสปอร์ต EV | ดีไซน์โฉบเฉี่ยว, ประตู Scissor Doors, สมรรถนะสูง |
| Neta V-II | กลางปี 2025 | 550,000 – 650,000 | Crossover EV | ดีไซน์ใหม่, ออปชันทันสมัย, ราคาเข้าถึงง่าย |
| Toyota Yaris Cross HEV | ต้นปี 2025 | 700,000 – 900,000 | Compact SUV Hybrid | ประหยัดน้ำมัน, เทคโนโลยีไฮบริด Synergy Drive, ความอเนกประสงค์ |
| Volvo EX30 | ต้นปี 2025 | 1,600,000 – 1,900,000 | Compact SUV EV | ดีไซน์สไตล์สแกนดิเนเวีย, เน้นความปลอดภัย, วัสดุรีไซเคิล |
| Mitsubishi Xpander HEV | กลางปี 2025 | 900,000 – 1,100,000 | MPV Hybrid | ประหยัดน้ำมัน, ห้องโดยสารกว้างขวาง, ฟังก์ชันสำหรับครอบครัว |
| Hyundai Ioniq 5/6 (Update) | กลางปี 2025 | 1,800,000 – 2,500,000 | EV Hatchback/Sedan | ดีไซน์โดดเด่น, เทคโนโลยี V2L, สมรรถนะการขับขี่ดีเยี่ยม |
| Zeekr X / Zeekr 001 | ปลายปี 2025 | 1,800,000 – 3,000,000 | Premium EV | แบรนด์ใหม่จาก Geely, เทคโนโลยีล้ำสมัย, ประสิทธิภาพสูง |
การแบ่งกลุ่มรถยนต์ตามประเภทและราคา
รถยนต์น่าจับตาในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท
สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์คุ้มค่า ราคาเข้าถึงง่าย แต่ยังคงได้รับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน กลุ่มนี้ยังคงเป็นตลาดใหญ่ โดยเฉพาะรถยนต์ Compact SUV Hybrid และรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่จะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่
Neta V-II: การปรับโฉมใหม่ของ Neta V ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จะมาพร้อมดีไซน์ที่สดใหม่ ฟังก์ชันการใช้งานที่อัปเกรดขึ้น และยังคงจุดเด่นด้านราคาที่เป็นมิตร ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ EV
Toyota Yaris Cross HEV: ด้วยความสำเร็จของรถยนต์ไฮบริด Toyota และความต้องการรถยนต์ SUV ขนาดเล็กในตลาด ทำให้ Yaris Cross HEV เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวเล็กๆ หรือผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในเมืองพร้อมความประหยัดน้ำมัน
รถยนต์ระหว่าง 1-2 ล้านบาท
กลุ่มนี้คือหัวใจของตลาดรถยนต์ไทย ที่ผู้บริโภคต้องการความสมดุลระหว่างราคา เทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพ เราจะได้เห็นรถยนต์ SUV ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดที่มาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง และระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ครบครัน
BYD Seal U: หลังจากประสบความสำเร็จกับ ATTO 3 และ Dolphin, Seal U จะมาเติมเต็มช่องว่างในกลุ่ม SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง ด้วยพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง ระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย
Kia EV5: การเข้ามาของ Kia EV5 จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด SUV ไฟฟ้า ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น และแพลตฟอร์ม E-GMP ที่รองรับการชาร์จเร็วและสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม
Honda e:N Series (SUV): Honda กำลังเร่งแผน EV อย่างจริงจัง และการนำรถยนต์ในตระกูล e:N Series เข้ามาในไทยจะเป็นก้าวสำคัญในการนำเสนอประสบการณ์ EV สไตล์ Honda ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนานและคุณภาพตามแบบฉบับญี่ปุ่น
Volvo EX30: แม้จะเป็น Compact SUV แต่ Volvo EX30 ก็อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ดีไซน์ที่เรียบหรูสไตล์สแกนดิเนเวีย และวัสดุภายในที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถ EV พรีเมียมในขนาดกะทัดรัด
รถยนต์พรีเมียมและสมรรถนะสูงกว่า 2 ล้านบาท
ตลาดรถยนต์หรูและรถยนต์สมรรถนะสูงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเสนอทั้งความหรูหรา นวัตกรรม และความแรง
MG Cyberster: นี่คือหนึ่งในรถยนต์ที่หลายคนรอคอย MG Cyberster จะนำเสนอประสบการณ์การขับขี่รถสปอร์ต EV ที่เร้าใจ ด้วยดีไซน์ที่สะดุดตา ประตูแบบ Scissor Doors และสมรรถนะที่น่าทึ่ง
Hyundai Ioniq 5/6 (Update): Hyundai ได้รับคำชมอย่างมากสำหรับ Ioniq 5 และ 6 และการอัปเดตโมเดลหรือการนำเสนอเวอร์ชันสมรรถนะสูง N Line จะทำให้รถยนต์เหล่านี้ยังคงเป็นที่ต้องการในกลุ่มผู้ที่มองหารถ EV ที่ไม่เหมือนใคร
Zeekr X / Zeekr 001: แบรนด์พรีเมียม EV น้องใหม่จากเครือ Geely ที่กำลังรุกตลาดทั่วโลก Zeekr มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม การเข้ามาของ Zeekr ในไทยจะเพิ่มตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาด EV พรีเมียม
รถยนต์ตามรูปแบบตัวถัง
SUV และ Crossover ยังคงเป็นดาวเด่น: กลุ่ม SUV และ Crossover ยังคงเป็นที่นิยมสูงสุดในตลาดไทย และจะยิ่งคึกคักมากขึ้นด้วยการเปิดตัวรุ่น EV และ Hybrid ใหม่ๆ ที่ให้ความหลากหลายทั้งขนาดและสมรรถนะ ไม่ว่าจะเป็น BYD Seal U, Kia EV5, Honda e:N Series SUV, Volvo EX30 หรือ Toyota Yaris Cross HEV
รถยนต์ไฟฟ้ากลุ่ม Hatchback และ Sedan ที่ไม่ควรมองข้าม: แม้ SUV จะครองตลาด แต่รถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบ Hatchback และ Sedan ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะ Hyundai Ioniq 5/6 ที่นำเสนอดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และเทคโนโลยี V2L (Vehicle-to-Load) ที่โดดเด่น
MPV / PPV Hybrid เพื่อครอบครัว: สำหรับครอบครัวใหญ่ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ การมาของ Mitsubishi Xpander HEV จะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยความประหยัดน้ำมันจากระบบไฮบริด และพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) คือหัวใจของการขับเคลื่อน
แนวโน้มที่ชัดเจนที่สุดในปี 2025-2026 คือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ผมกล้าพูดได้เลยว่าทุกค่ายรถยนต์ต่างกำลังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าให้หลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การแข่งขันจะทำให้เกิดนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ระบบชาร์จเร็ว และระยะทางวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากตัวเลือกที่มากขึ้น การแข่งขันที่สูงขึ้นจะนำมาซึ่งราคาที่แข่งขันได้ และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้น ระบบ Smart EV และ Connected Car ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ และมีฟังก์ชันอัจฉริยะจะกลายเป็นมาตรฐาน
เจาะลึกแบรนด์เด่นกับการรุกตลาดไทย
แบรนด์จีน (BYD, MG, Neta, ORA, Zeekr): ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด EV ด้วยกลยุทธ์ราคาที่เข้าถึงง่าย เทคโนโลยีที่รวดเร็ว และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย BYD จะยังคงแข็งแกร่งด้วย Seal U และอาจมีรุ่นอื่นๆ ตามมา MG Cyberster จะเข้ามาสร้างภาพลักษณ์สปอร์ต Neta V-II จะรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเริ่มต้น ส่วน Zeekr จะเข้ามาเติมเต็มตลาด EV พรีเมียม
แบรนด์ญี่ปุ่น (Toyota, Honda, Mitsubishi, Nissan, Mazda): แม้จะเริ่มต้นช้าในตลาด EV แต่แบรนด์ญี่ปุ่นก็กำลังเร่งเครื่องอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในกลุ่ม Hybrid ที่พวกเขามีความเชี่ยวชาญ Toyota Yaris Cross HEV และ Mitsubishi Xpander HEV จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริดที่เข้าถึงได้ง่าย และ Honda ก็กำลังจะก้าวเข้าสู่ตลาด EV ด้วยผลิตภัณฑ์จาก e:N Series ซึ่งเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับแบรนด์
แบรนด์เกาหลี (Hyundai, Kia): Hyundai และ Kia โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และแพลตฟอร์ม EV ที่ล้ำสมัย การอัปเดตโมเดล Ioniq 5/6 และการเปิดตัว Kia EV5 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม EV
แบรนด์ยุโรป (Volvo, Mercedes-Benz, BMW, Audi, Skoda): ยังคงเป็นผู้นำในตลาด EV พรีเมียมและหรูหรา Volvo EX30 จะเข้ามาเจาะตลาด Compact SUV EV ที่เน้นความปลอดภัยและดีไซน์ ส่วนแบรนด์เยอรมันอื่นๆ ก็ยังคงมีรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงเตรียมเปิดตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดบน
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ: เทรนด์สำคัญที่จะกำหนดทิศทางปี 2025-2026
จากประสบการณ์ในวงการมานานกว่าทศวรรษ ผมมองเห็นเทรนด์สำคัญที่จะกำหนดทิศทางตลาดรถยนต์ไทยในช่วงปี 2025-2026 ดังนี้:
การพัฒนา ADAS และระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ: ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) จะกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานในรถยนต์หลายรุ่น ไม่ใช่แค่ในรถยนต์พรีเมียมอีกต่อไป ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist) และระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning) จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญในการแข่งขัน
AI-Powered Infotainment และ Connected Car: ระบบความบันเทิงและข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะฉลาดขึ้น เรียนรู้พฤติกรรมผู้ขับขี่ และนำเสนอข้อมูลที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ IoT ในบ้านจะราบรื่นยิ่งขึ้น ทำให้รถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ดิจิทัลอย่างสมบูรณ์
การเปลี่ยนผ่านสู่ EV ที่เข้มข้นขึ้น: นอกจากการเพิ่มจำนวนรุ่นรถยนต์ EV แล้ว เรายังจะได้เห็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน EV ที่มากขึ้น ทั้งสถานีชาร์จแบบเร็วและระบบ Swap Battery (เปลี่ยนแบตเตอรี่) ที่อาจเริ่มมีบทบาทในบางเซกเมนต์ นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาเรื่องการรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV เพื่อความยั่งยืนในระยะยาว
โมเดลการเป็นเจ้าของที่หลากหลาย: นอกจากการซื้อขาด เราอาจได้เห็นโมเดลการเป็นเจ้าของรถยนต์แบบสมัครสมาชิก (Subscription Model) หรือการแชร์รถ (Car Sharing) ที่แพร่หลายมากขึ้นในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งให้ความยืดหยุ่นและลดภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
การผลิตในประเทศและการลงทุน: การเข้ามาของค่ายรถยนต์จีนและนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ จะส่งผลให้มีการลงทุนตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะนำมาซึ่งการสร้างงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการลดต้นทุนการผลิต ซึ่งส่งผลดีต่อราคาขายในประเทศ
บทสรุปและคำเชิญชวน
ตลาดรถยนต์ไทยในปี 2025-2026 นี้คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและความตื่นเต้นในทุกมิติ ในฐานะผู้ใช้งานและผู้ที่สนใจในวงการยานยนต์ นี่คือโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีล้ำสมัย การขับขี่ที่ฉลาดกว่าเดิม และการมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
ไม่ว่าคุณกำลังมองหารถยนต์คันแรก รถยนต์สำหรับครอบครัว หรือรถยนต์ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในตลาดไทยมีตัวเลือกที่หลากหลาย พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ และเหนือสิ่งอื่นใด คือการมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือกว่าเดิม
ดังนั้น อย่าพลาดทุกความเคลื่อนไหว! ติดตามข่าวสารล่าสุด ทดลองขับรถยนต์รุ่นที่คุณสนใจ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกรถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณที่สุด เพราะอนาคตของการขับขี่เริ่มต้นขึ้นแล้วที่นี่และตอนนี้ และเราพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่น่าตื่นเต้นนี้ไปพร้อมกับคุณ! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ไทยด้วยกัน!
รถยนต์รุ่นใหม่ 2026 ในไทย: ราคา, วันเปิดตัว และนวัตกรรมที่คุณต้องจับตา
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไทยมานานกว่าทศวรรษ ผมสามารถยืนยันได้อย่างหนักแน่นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา ปี 2025 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงได้มอบปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคชาวไทยอย่างมากมาย ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาสร้างความฮือฮา รถยนต์ไฮบริดที่ตอบโจทย์ความประหยัด และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะปี 2026 ที่กำลังจะมาถึง สัญญาว่าจะนำพานวัตกรรมยานยนต์ที่พลิกโฉมตลาดมาสู่เราอย่างแท้จริง
จากรถยนต์ SUV ไฟฟ้าสุดล้ำไปจนถึงรถยนต์ซีดานไฮบริดที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ปี 2026 จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและความน่าตื่นเต้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ในประเทศไทย ไม่ว่าคุณจะมองหารถยนต์ครอบครัวที่ประหยัดพลังงาน รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ หรือแม้แต่รถกระบะคู่ใจที่ได้รับการอัปเกรดให้ตอบโจทย์การใช้งานในยุคใหม่ เชื่อได้เลยว่าปีหน้าจะมีตัวเลือกที่ตรงใจคุณอย่างแน่นอน
ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยปี 2025/2026: ก้าวสู่การขับเคลื่อนที่ยั่งยืนและอัจฉริยะ
ตลาดรถยนต์ไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ จากอดีตที่เคยเน้นเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) เป็นหลัก เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนไปสู่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและไฮบริด แนวโน้มนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงความตระหนักของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในด้านสิ่งแวดล้อมและความประหยัดพลังงาน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ความกังวลเรื่อง “ระยะทางวิ่ง” ลดลงไปมาก
ในปี 2026 นี้ เราจะได้เห็นผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Toyota, Honda, Isuzu, Mazda, Ford รวมถึงแบรนด์ EV ดาวรุ่งจากจีนอย่าง MG, BYD, NETA และ GWM รวมถึง Tesla จากสหรัฐฯ ต่างพร้อมใจกันเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่ทำงานร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI), หน้าจอแสดงผลแบบพาโนรามา, ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ และทางเลือกเครื่องยนต์ไฮบริดที่หลากหลาย ไม่เพียงแค่รถยนต์รุ่นใหม่แกะกล่องเท่านั้น แต่เรายังจะได้เห็นการปรับโฉม (Facelift) และการนำเสนอทางเลือกเครื่องยนต์ใหม่ๆ ในรุ่นยอดนิยมอีกด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของตลาดไทยในการก้าวสู่ยุคยานยนต์แห่งอนาคต
10 อันดับรถยนต์รุ่นใหม่ 2026 ที่น่าจับตาในไทย (พร้อมราคาและวันเปิดตัวโดยประมาณ)
นี่คือลิสต์รถยนต์รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะสร้างความฮือฮาในตลาดไทยปี 2026 ซึ่งผมได้รวบรวมข้อมูลจากแนวโน้มตลาดและข่าววงใน พร้อมคาดการณ์ราคาและจุดเด่นสำคัญ:
| รุ่นรถยนต์ (คาดการณ์) | วันเปิดตัว (โดยประมาณ) | ราคา (คาดการณ์) | ประเภทรถยนต์ | จุดเด่น |
|---|---|---|---|---|
| Toyota Yaris ATIV Hybrid | มกราคม 2026 | 750,000 – 950,000 บาท | Sedan | ระบบไฮบริดประหยัดน้ำมัน, เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง, การออกแบบที่ทันสมัย |
| Honda HR-V e:HEV RS (Minorchange) | กุมภาพันธ์ 2026 | 1,050,000 – 1,250,000 บาท | SUV | ปรับโฉมดีไซน์ใหม่, เพิ่มฟีเจอร์ภายใน, ประหยัดน้ำมันด้วยระบบไฮบริด e:HEV |
| BYD Seal SUV (ชื่อทางการตลาดอาจต่างกัน) | มีนาคม 2026 | 1,500,000 – 1,900,000 บาท | Electric SUV | ดีไซน์สปอร์ต, แบตเตอรี่ Blade Battery, ระยะทางวิ่งไกล, สมรรถนะสูง |
| MG Cyberster (รุ่นผลิตจริง) | เมษายน 2026 | 1,800,000 – 2,500,000 บาท | Electric Roadster | รถสปอร์ตไฟฟ้าเปิดประทุน, ดีไซน์ล้ำยุค, ประตูเปิดแบบกรรไกร, มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ |
| Isuzu D-Max EV/Hybrid | พฤษภาคม 2026 | 900,000 – 1,300,000 บาท | Pick-up | กระบะไฟฟ้า/ไฮบริดรุ่นแรกจาก Isuzu, ประหยัดพลังงาน, ยังคงความแกร่ง, ตอบโจทย์การใช้งานเชิงพาณิชย์และส่วนตัว |
| Mazda CX-5 e-Skyactiv Hybrid | มิถุนายน 2026 | 1,300,000 – 1,600,000 บาท | SUV | ระบบไฮบริด e-Skyactiv, ดีไซน์ KODO อันเป็นเอกลักษณ์, ภายในพรีเมียม |
| Ford Ranger Wildtrak PHEV | กรกฎาคม 2026 | 1,400,000 – 1,700,000 บาท | Pick-up | กระบะ Plug-in Hybrid, แรงบิดสูง, ประหยัดน้ำมัน, เทคโนโลยีอัจฉริยะ, ลุยได้ทุกสภาพถนน |
| NETA L SUV | สิงหาคม 2026 | 1,000,000 – 1,300,000 บาท | Electric SUV | SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง, ดีไซน์เรียบหรู, ภายในกว้างขวาง, ราคาเข้าถึงง่าย |
| Tesla Model 2 (หรือรุ่น Compact EV) | ตุลาคม 2026 | 1,200,000 – 1,500,000 บาท | Electric Sedan | รถยนต์ไฟฟ้าราคาเข้าถึงง่ายจาก Tesla, เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ, ระบบนิเวศ Supercharger |
| GWM Haval H6 PHEV (Next Gen) | ธันวาคม 2026 | 1,200,000 – 1,500,000 บาท | SUV | SUV Plug-in Hybrid เจเนอเรชันใหม่, ระยะทางวิ่งไฟฟ้าล้วนไกลขึ้น, ภายในหรูหรา, ระบบความปลอดภัยครบครัน |
หมายเหตุ: ข้อมูลข้างต้นเป็นการคาดการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญ อาจมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของชื่อรุ่น, วันเปิดตัว และราคาอย่างเป็นทางการ
รถยนต์รุ่นใหม่ 2026 ในแต่ละช่วงราคา: ทางเลือกที่หลากหลายสำหรับทุกงบประมาณ
ตลาดรถยนต์ไทยมีความหลากหลายสูง ทำให้ผู้ผลิตต้องนำเสนอรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้ซื้อ
รถยนต์รุ่นใหม่ 2026 ราคาต่ำกว่า 800,000 บาท:
กลุ่มนี้จะยังคงเป็นหัวใจสำคัญของตลาด โดยเน้นรถยนต์ Eco Car, City Car และรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เข้าถึงง่ายอย่าง NETA V (รุ่นใหม่) หรือ Wuling Air EV (รุ่นอัปเดต) รวมถึงรถยนต์ซีดานและแฮทช์แบ็กขนาดเล็กที่มีเครื่องยนต์ไฮบริด เช่น Toyota Yaris ATIV Hybrid ที่ให้ความประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ ผู้ซื้อในกลุ่มนี้จะได้รับฟีเจอร์ที่ทันสมัยขึ้น เช่น จออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัส, ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน และความคุ้มค่าในการใช้งาน
รถยนต์รุ่นใหม่ 2026 ราคา 800,000 – 1.5 ล้านบาท:
นี่คือช่วงราคาที่คึกคักที่สุด! เราจะเห็นรถยนต์ SUV และ Crossover ไฮบริดและไฟฟ้าที่น่าสนใจมากมาย เช่น Honda HR-V e:HEV Minorchange, Mazda CX-3/CX-30 Hybrid, BYD Atto 3 (รุ่นอัปเดต) และ NETA L SUV กลุ่มนี้จะเน้นฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง (ADAS), ภายในที่กว้างขวางสะดวกสบาย, และสมรรถนะที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและเดินทางไกล นอกจากนี้ รถกระบะไฮบริด/PHEV บางรุ่นอาจเริ่มเข้ามาทำตลาดในราคานี้ด้วย
รถยนต์พรีเมียม 2026 ราคาสูงกว่า 1.5 ล้านบาท:
กลุ่มรถยนต์พรีเมียมจะถูกขับเคลื่อนด้วยรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเป็นหลัก โดยมีแบรนด์อย่าง Tesla Model 2, BMW iX1, Mercedes-Benz EQB และอาจรวมถึง EV รุ่นใหม่จาก BYD และ MG ที่เน้นสมรรถนะสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัย รถยนต์ในกลุ่มนี้จะมาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น, วัสดุภายในระดับพรีเมียม, เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติระดับสูง (Level 2+ หรือใกล้เคียง Level 3), และระบบเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า
รถยนต์รุ่นใหม่ 2026 แยกตามประเภทตัวถัง
รถยนต์ SUV และ Crossover 2026:
SUV ยังคงเป็นเซกเมนต์ที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ปี 2026 จะเป็นปีแห่งการพลิกโฉมของ SUV ด้วยการนำเสนอทางเลือกพลังงานไฟฟ้าและไฮบริดที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น BYD Seal SUV, NETA L SUV, Honda CR-V e:PHEV (รุ่นใหม่) หรือแม้แต่การอัปเกรดของ Mazda CX-5/CX-8 ด้วยระบบไฮบริด นอกจากนี้ ยังมี Ford Everest PHEV ที่จะเข้ามาเติมเต็มตลาด SUV ขนาดใหญ่ที่เน้นความแข็งแกร่งและสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น
รถยนต์ Hatchback และ Sedan 2026:
รถยนต์ Compact และ City Car ยังคงมีความสำคัญสำหรับตลาดกลุ่มแรกซื้อและผู้ที่ต้องการความคล่องตัว ปี 2026 จะมี Toyota Yaris ATIV Hybrid, Honda City e:HEV (ปรับโฉม) และอาจมี Tesla Model 2 ที่เข้ามาเขย่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลาง กลุ่มนี้จะเน้นความประหยัดเชื้อเพลิง (หรือพลังงานไฟฟ้า), ดีไซน์ที่ทันสมัย, และความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
รถยนต์ Pick-up (กระบะ) 2026:
ประเทศไทยเป็นตลาดรถกระบะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และปี 2026 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเซกเมนต์นี้ เราจะได้เห็น Isuzu D-Max EV/Hybrid และ Ford Ranger Wildtrak PHEV ที่จะนำเสนอทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการความประหยัดพลังงานโดยไม่ทิ้งความแข็งแกร่งและสมรรถนะในการบรรทุกและลุย ซึ่งจะเข้ามาตอบโจทย์ทั้งการใช้งานส่วนตัวและการเชิงพาณิชย์
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) 2026:
รถยนต์ไฟฟ้าคืออนาคตที่มาถึงแล้ว ปี 2026 จะเป็นปีที่รถยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในแง่ของจำนวนรุ่นที่เปิดตัวและยอดขาย เราจะเห็น EV จากแบรนด์จีนที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ด้านราคาและฟีเจอร์อย่าง BYD Seal SUV, NETA L SUV รวมถึง Tesla Model 2 ที่จะเข้ามาทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงง่ายขึ้น นอกจากนี้ ผู้ผลิตญี่ปุ่นและยุโรปก็จะเร่งนำเสนอ EV รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดมากขึ้น เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ปฏิทินวันเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 2026 (โดยประมาณ)
| เดือน | รุ่นรถยนต์ (คาดการณ์) |
|---|---|
| มกราคม 2026 | Toyota Yaris ATIV Hybrid |
| กุมภาพันธ์ 2026 | Honda HR-V e:HEV RS (Minorchange) |
| มีนาคม 2026 | BYD Seal SUV (รุ่นใหม่) |
| เมษายน 2026 | MG Cyberster (รุ่นผลิตจริง) |
| พฤษภาคม 2026 | Isuzu D-Max EV/Hybrid |
| มิถุนายน 2026 | Mazda CX-5 e-Skyactiv Hybrid |
| กรกฎาคม 2026 | Ford Ranger Wildtrak PHEV |
| สิงหาคม 2026 | NETA L SUV |
| กันยายน 2026 | Honda CR-V e:PHEV (รุ่นใหม่) |
| ตุลาคม 2026 | Tesla Model 2 (หรือรุ่น Compact EV) |
| พฤศจิกายน 2026 | Nissan Kicks e-POWER (Minorchange with new battery) |
| ธันวาคม 2026 | GWM Haval H6 PHEV (Next Gen) |
รถยนต์ไฟฟ้าในไทยปี 2026: ปฏิวัติการขับเคลื่อน
รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นหัวใจสำคัญของตลาดรถยนต์ไทยในปี 2026 อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยแรงหนุนจากนโยบายภาครัฐ “EV 3.5” ที่ยังคงมอบเงินอุดหนุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการที่ผู้ผลิตเร่งนำเสนอ EV ที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในด้านราคา ประสิทธิภาพ และระยะทางวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
เราจะได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่ชาร์จได้เร็วขึ้นและมีน้ำหนักเบาลง รวมถึงเทคโนโลยี V2L (Vehicle-to-Load) ที่ช่วยให้รถยนต์สามารถจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกได้ ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานและกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้ การพัฒนาโครงข่ายสถานีชาร์จสาธารณะที่ครอบคลุมทั่วประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น และลดความกังวลเรื่อง “Range Anxiety” ลงไปได้อย่างสิ้นเชิง
รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปและไฮบริด (Standard Cars) ที่ยังคงแข็งแกร่ง
แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม แต่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ไฮบริดก็ยังคงเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และรถกระบะที่ต้องการความทนทานและความพร้อมใช้งานในการเดินทางระยะไกล หรือในพื้นที่ที่โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ EV ยังไม่ทั่วถึง
ผู้ผลิตรถยนต์จะยังคงพัฒนาระบบไฮบริดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้ง Full Hybrid, Mild Hybrid และ Plug-in Hybrid เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการความประหยัดน้ำมันสูงสุดควบคู่ไปกับความสะดวกสบายในการเติมน้ำมันแบบดั้งเดิม รถยนต์เหล่านี้จะยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่าและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน
บทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ: แนวโน้มที่ต้องจับตาในปี 2026
จากประสบการณ์ในวงการ ผมมองว่าปี 2026 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยมีแนวโน้มสำคัญดังนี้:
เทคโนโลยี ADAS และ AI ในทุกเซกเมนต์: ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เช่น Adaptive Cruise Control, Lane Keeping Assist, Automatic Emergency Braking จะกลายเป็นมาตรฐานในรถยนต์หลากหลายรุ่น ไม่ใช่แค่ในกลุ่มพรีเมียมอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น การผนวก AI เข้ากับระบบอินโฟเทนเมนต์และการสั่งงานด้วยเสียง จะทำให้ประสบการณ์การขับขี่สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
การผลิตในประเทศและการปรับตัวของห่วงโซ่อุปทาน: ด้วยแรงหนุนจากภาครัฐ ผู้ผลิตหลายรายจะเร่งตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญในประเทศไทย ส่งผลให้ราคา EV มีแนวโน้มลดลงและเกิดการสร้างงานในประเทศ นอกจากนี้ ห่วงโซ่อุปทานจะเริ่มปรับตัวเพื่อรองรับชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
โมเดลการเป็นเจ้าของที่หลากหลาย: นอกจากซื้อขาดแล้ว เราอาจได้เห็นบริการสมัครสมาชิก (Subscription Model) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์พรีเมียม ผู้บริโภคสามารถใช้งานรถยนต์ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการบำรุงรักษาหรือค่าเสื่อมราคา
ความยั่งยืนและพลังงานสะอาด: นอกจากการเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าแล้ว ผู้ผลิตยังจะให้ความสำคัญกับวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตรถยนต์ รวมถึงกระบวนการผลิตที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด EV: แบรนด์จีนยังคงเป็นผู้เล่นหลักในการขับเคลื่อนตลาด EV ด้วยราคาที่เข้าถึงได้และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า แต่ผู้ผลิตญี่ปุ่นและยุโรปก็กำลังเร่งเครื่องเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด ทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในด้านตัวเลือกและราคา
สรุปและคำเชิญชวน
ปี 2026 กำลังจะนำพานวัตกรรมยานยนต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาสู่ตลาดรถยนต์ไทยอย่างแท้จริง ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความประหยัด และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่กำลังมองหารถยนต์คันแรก รถยนต์ครอบครัว หรือรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมแห่งอนาคต ตลาดรถยนต์ไทยในปีหน้าจะมีทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแน่นอน
อย่าพลาดโอกาสที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคต! ผมขอเชิญชวนให้ทุกท่านติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างใกล้ชิด เยี่ยมชมโชว์รูม และสัมผัสประสบการณ์การทดลองขับด้วยตัวคุณเอง เพื่อค้นหารถยนต์ที่สมบูรณ์แบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง การตัดสินใจในวันนี้คือการก้าวสู่การขับเคลื่อนที่ชาญฉลาดและยั่งยืนในวันพรุ่งนี้ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ไปพร้อมกับเรา!
