• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1512050 กเราสายเล อดใคร EP1 #หน งส นสะท อนส งคม #หน งส นค ณธรรม #หน งส น part 2

admin79 by admin79
December 15, 2025
in Uncategorized
0
N1512050 กเราสายเล อดใคร EP1 #หน งส นสะท อนส งคม #หน งส นค ณธรรม #หน งส น part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

มอเตอร์เอ็กซ์โป 2025: เจาะลึกปรากฏการณ์ยอดจองถล่มทลาย จุดเปลี่ยนตลาดรถยนต์ไทยสู่ยุค EV เต็มรูปแบบ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่างานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Thailand International Motor Expo 2025 ที่กำลังดำเนินไป ณ เมืองทองธานี ไม่ใช่เพียงงานแสดงรถยนต์ประจำปี แต่เป็นดัชนีชี้วัดที่ชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดรถยนต์ไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยยอดจองที่พุ่งทะยานเกินความคาดหมายตั้งแต่ 8 วันแรก สู่ระดับ 36,174 คัน สะท้อนถึงความคึกคักและพลังการขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งจากนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแรงกระตุ้นจากมาตรการภาครัฐที่กำลังจะสิ้นสุดลง นี่คือโอกาสทองสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถยนต์ไฟฟ้า ที่มีโปรโมชั่นสุดพิเศษรออยู่มากมาย

ปรากฏการณ์ยอดจองสุดเร้าใจ: แรงกระเพื่อมจากพลัง EV และกลยุทธ์เหนือชั้น

ตัวเลข 36,174 คันในช่วงครึ่งทางของงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถิติ แต่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าตลาดรถยนต์ไทยกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและโอกาส โดยมียอดจองเติบโตสูงถึง 30-45% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่กลับมาและกระแสความต้องการรถยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน

จากการวิเคราะห์เชิงลึก พบว่าสัดส่วนของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้ก้าวขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดอย่างเด็ดขาด คิดเป็นกว่า 52% ของยอดจองทั้งหมด ตามมาด้วยรถยนต์ไฮบริด (xEV), รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ตัวเลขนี้ตอกย้ำถึงแนวโน้มที่ผมได้คาดการณ์ไว้มาตลอดว่าอนาคตของยานยนต์คือพลังงานสะอาด และประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคนั้นอย่างเต็มตัว

ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนยอดจองให้พุ่งทะยานขนาดนี้คือการเร่งทำแคมเปญส่งท้ายมาตรการสนับสนุน รถยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ทำให้ผู้บริโภคที่ลังเลอยู่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ประกอบกับกลยุทธ์การตลาดที่ดุเดือดของค่ายรถยนต์ที่ต้องการระบายสต็อกก่อนการเปลี่ยนผ่านสู่มาตรการ EV 3.5 ที่มีการปรับลดเงินอุดหนุนและเพิ่มภาษีสรรพสามิตในปี 2569 นับเป็นการช่วงชิงจังหวะที่ลงตัวอย่างยิ่ง

เปิดโผ 10 อันดับแบรนด์ยอดนิยม: ใครคือผู้นำตลาดในยุคเปลี่ยนผ่าน?

แม้ว่า ตลาดรถยนต์ไทย จะกำลังเปลี่ยนผ่าน แต่แบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับและแบรนด์ใหม่ที่รุกตลาดอย่างหนักต่างก็มีส่วนสร้างยอดจองที่น่าประทับใจ ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์ที่แตกต่างกันในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

โตโยต้า (Toyota): 6,013 คัน ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์และเครือข่ายบริการที่ครอบคลุม โตโยต้ายังคงเป็นผู้นำด้านยอดจอง โดยมี Toyota Yaris Cross เป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการปรับตัวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฮบริดขนาดกะทัดรัด

บีวายดี (BYD): 3,154 คัน ผู้เล่นจากจีนรายนี้ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ด้วย BYD Atto 3 ที่เป็นดาวเด่น ควบคู่ไปกับแคมเปญสุดช็อกสำหรับ BYD Seal ที่ลดราคาสูงถึง 5 แสนบาท ยืนยันถึงศักยภาพของ ค่ายรถยนต์จีน ในการพลิกโฉมตลาด EV อย่างแท้จริง

ฮอนด้า (Honda): 3,039 คัน ฮอนด้ายังคงรักษาฐานลูกค้าได้ดี โดยมี Honda HR-V e:HEV เป็นตัวชูโรงในกลุ่มไฮบริด แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของแบรนด์ญี่ปุ่นในการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลาย

โอโมด้า แอนด์ เจคู (Omoda & Jaecoo): 2,678 คัน การปรากฏตัวของแบรนด์ใหม่นี้สร้างความฮือฮาได้อย่างมาก โดยเฉพาะ Jaecoo 5 EV ที่ยอดขายทะลุเป้าอย่างรวดเร็ว ตอกย้ำถึงความกระหายใน รถยนต์ไฟฟ้า ที่มีดีไซน์และเทคโนโลยีล้ำสมัย

เอ็มจี (MG): 2,360 คัน MG ยังคงแข็งแกร่งในตลาด EV ด้วย MG S5 EV ที่น่าสนใจ พร้อมกับกลยุทธ์ด้านราคาที่เข้าถึงง่าย ทำให้ MG เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจ

จีเอซี (GAC Aion): 2,187 คัน Aion UT เป็นรุ่นที่มาแรงสำหรับแบรนด์นี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นจากจีนที่กำลังสร้างชื่อในตลาด รถยนต์ไฟฟ้าไทย ด้วยข้อเสนอที่น่าดึงดูด

จีลี่ (Geely): 2,134 คัน แม้จะประกาศไม่เข้าร่วมมาตรการภาครัฐ แต่ Geely กลับสร้างยอดจองได้ดีด้วย Geely EX2 ที่มีราคาเปิดตัวเพียง 399,990 บาท สะท้อนถึงการวางกลยุทธ์ด้านราคาที่เข้าถึงง่ายเป็นอันดับแรก

ดีพอล (Deepal): 2,117 คัน Deepal S05 คืออีกหนึ่งรุ่นจากค่ายจีนที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว แสดงถึงความหลากหลายของตัวเลือกในตลาด EV

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor): 2,015 คัน GWM ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญ โดยมี GWM Tank 300 Diesel เป็นรุ่นที่มาแรง แสดงถึงการขยายไลน์อัพสู่รถยนต์ SUV ที่แข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้า EV

มิตซูบิชิ (Mitsubishi): 1,588 คัน Mitsubishi Xforce HEV คือรุ่นที่ได้รับความสนใจ สะท้อนถึงการปรับตัวของแบรนด์ญี่ปุ่นในการนำเสนอรถยนต์ไฮบริดที่ตอบโจทย์การใช้งาน

เจาะลึกกลยุทธ์โปรโมชั่นและราคา: สงครามราคาที่เข้มข้นในตลาด EV

ปี 2025 ถือเป็นปีแห่งการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในกลุ่ม รถยนต์ไฟฟ้า ค่ายรถยนต์ต่างงัดกลยุทธ์ด้านราคาและ โปรโมชั่นรถยนต์ มากระตุ้นยอดขายอย่างเต็มที่ก่อนสิ้นสุดมาตรการ EV 3.0 ซึ่งมีส่วนลดสูงสุดถึง 150,000 บาทต่อคันสำหรับรถยนต์ที่ร่วมมาตรการ

บีวายดี-เรเว่ กรุ๊ป สร้างปรากฏการณ์ด้วยการมอบการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานเป็นครั้งแรก มูลค่า 50,000 บาท สำหรับ BYD Dolphin และ BYD Atto 3 พร้อมทั้งส่วนลดมหาศาลสำหรับรุ่นนำเข้าที่เข้าร่วมมาตรการ EV 3.5 อย่าง BYD SEAL ที่ลดสูงสุดถึง 525,000 บาท ทำให้รุ่น Dynamic มีราคาเหลือเพียง 799,000 บาท จากราคาปกติ 1,325,000 บาท นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนของ ราคา รถยนต์ไฟฟ้า ที่เข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงจากมาตรการภาครัฐและการแข่งขันที่สูง

เอ็มจี ยืนยันว่าจะไม่ปรับลดราคา EV ลงอีก เนื่องจากถือเป็นราคาสุดท้ายแล้ว โดยเฉพาะ NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ที่ลดถึง 279,000 บาท เหลือ 849,000 บาท และ MG ZS EV ที่เสนอราคาพิเศษเพียง 499,900 บาท ซึ่งสะท้อนถึงการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและมุ่งเน้นความคุ้มค่า

จีเอซี ไอออน (GAC AION) จัดโปรโมชั่น 4 ต่อ ส่งท้ายมาตรการ EV ด้วยราคาพิเศษสำหรับ AION V และ AION UT พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ มอเตอร์ และกล่องควบคุมตลอดอายุการใช้งาน รวมถึงส่วนลดชุดแต่งและของแถมสุดพรีเมียมอย่าง iPhone 17 มูลค่า 43,900 บาท ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ซื้ออย่างแท้จริง

ฉางอาน (CHANGAN) สร้างความยืดหยุ่นด้วยเงื่อนไขทางการเงินสุดพิเศษ ทั้งดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 2,990 บาท และส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท พร้อมมอบการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานสำหรับ Deepal S05 นี่คือการดึงดูดลูกค้าด้วยข้อเสนอทางการเงินที่ผ่อนคลาย

โอโมด้า แอนด์ เจคู (Omoda & Jaecoo) ที่มียอดส่งมอบทะลุเป้าไปแล้วกว่า 12,000 คัน ได้มอบราคาพิเศษสำหรับ JAECOO 5 EV อีก 3,000 คันก่อนสิ้นปี ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 549,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่น่าสนใจอย่างยิ่งในกลุ่ม ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังมองหาความคุ้มค่า

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) ชี้ให้เห็นถึงสงครามราคาที่ดุเดือดในปี 2568 และคาดการณ์ว่าในปี 2569 ความรุนแรงจะลดลงตามเงื่อนไขมาตรการรัฐ พร้อมประกาศปรับขึ้นราคา ORA Good Cat ในปีหน้า แต่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อชดเชย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับกลยุทธ์ในระยะยาว

จีลี่ (Geely) มีแนวทางที่แตกต่างออกไป โดยไม่เข้าร่วมมาตรการรัฐบาล แต่เน้นการทำงานกับบริษัทแม่เพื่อตั้ง ราคา รถยนต์ไฟฟ้า ให้จับต้องได้ตั้งแต่แรก ด้วย Geely EX2 ที่เปิดตัวในราคา 399,990 บาท สำหรับ 2,000 คันแรก ซึ่งเป็นการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะแข่งขันด้วยราคาพื้นฐานที่เข้าถึงง่าย ไม่ใช่ส่วนลดพิเศษ

ลีปมอเตอร์ (Leapmotor Thailand) นำเสนอ C10 Limited Edition Kinetix Model ในราคา 928,000 บาท เพียง 100 คัน พร้อมแคมเปญบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า

ทิศทางตลาดและ เทรนด์ รถยนต์ 2025 สู่ปี 2569: การเติบโตที่ไม่หยุดยั้ง

จากการคาดการณ์ของผู้บริหารในอุตสาหกรรม ตลาดรถยนต์ไทย ปี 2568 คาดว่าจะมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 600,000 คัน เติบโตขึ้น 3-4% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ดี แม้จะดูเหมือนไม่สูงนัก แต่สะท้อนถึงความยืดหยุ่นของตลาดในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ท้าทาย

ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการเติบโตของ ตลาดรถยนต์ EV ไทย ที่คาดว่าจะพุ่งสูงถึงกว่า 100,000 คันในปี 2568 และต่อเนื่องไปถึง 120,000 คันในปี 2569 ตัวเลขเหล่านี้ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงสู่ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นเทรนด์ที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ และประเทศไทยกำลังเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านการรับ นโยบายภาครัฐ EV มาปรับใช้

อย่างไรก็ตาม การสิ้นสุดมาตรการ EV 3.0 และการปรับเข้าสู่ EV 3.5 ในปีหน้า จะทำให้เกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ในด้านต้นทุนและราคา รถยนต์ไฟฟ้า ค่ายรถยนต์จะต้องบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และผู้บริโภคอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงของ ราคา รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจไม่ถูกลงเท่าช่วงที่มีมาตรการอุดหนุนเต็มที่ แต่การแข่งขันที่ยังคงเข้มข้นจะยังคงเป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่า รีวิว รถยนต์ไฟฟ้า และการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีและบริการหลังการขาย จะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ในยุคนี้ การรับประกันแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนระยะยาว รวมถึงความพร้อมของสถานีชาร์จ จะเป็นจุดแข็งที่ทำให้แต่ละแบรนด์โดดเด่นขึ้นมา

บทสรุปและคำเชิญพิเศษ

งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2025 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลวัตของ ตลาดรถยนต์ไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง ด้วย โปรโมชั่นรถยนต์ และ แคมเปญ มอเตอร์เอ็กซ์โป ที่หลากหลาย รวมถึงการแข่งขันด้านราคาที่ดุเดือด ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมนวัตกรรมและความคุ้มค่า

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีในวงการนี้มานาน ผมเชื่อมั่นว่าการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ในวันนี้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม รถยนต์ยอดนิยม ที่มีข้อเสนอสุดพิเศษจากงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2025 ที่จะจัดขึ้นถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2568 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี

อย่าพลาดโอกาสครั้งสำคัญนี้! หากคุณกำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์รุ่นใหม่ ลองสัมผัสประสบการณ์จริงที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2025 วันนี้ คุณจะได้พบกับข้อเสนอที่ไม่ควรพลาด และค้นพบยานยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณ ผมขอเชิญชวนให้คุณมาสัมผัสเทคโนโลยีแห่งอนาคตและคว้าโอกาสทองนี้ไปพร้อมกัน!

มอเตอร์เอ็กซ์โป 2568: สรุป 8 วันแรก ยอดจองพุ่งกว่า 3.6 หมื่นคัน แบรนด์จีน-EV ผงาด ชี้ชะตาตลาดรถยนต์ไทย

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มายาวนานกว่าทศวรรษ ผมยืนยันได้เลยว่าปี 2568 นี้ ตลาดรถยนต์ไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ และมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Thailand International Motor Expo 2025 ที่จัดขึ้น ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม คือเวทีที่สะท้อนภาพอนาคตได้อย่างชัดเจนที่สุด

เพียงแค่ช่วงครึ่งทาง 8 วันแรก ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. – 5 ธ.ค. ยอดจองรถยนต์ในงานก็พุ่งทะลุ 36,174 คันไปแล้ว ซึ่งตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่ยอดขาย แต่เป็นดัชนีชี้วัดเทรนด์สำคัญที่กำลังเขย่าตลาด นั่นคือการผงาดขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริด (xEV) พร้อมกับการเข้ามาของแบรนด์จากประเทศจีนที่มาพร้อมนโยบายราคาอันดุดันและเทคโนโลยีที่น่าจับตา

ปรากฏการณ์ EV ถล่มทลาย: ครึ่งหนึ่งของยอดจองคืออนาคต

สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดจากข้อมูลยอดจองกว่า 3.6 หมื่นคัน คือสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กินไปแล้วกว่า 52% ของยอดจองทั้งหมด ตามมาด้วยรถยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด (xEV) รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) ตัวเลขนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่หลอมรวมกันอย่างลงตัวในปี 2568

ประการแรกคือ “มาตรการสนับสนุน EV จากภาครัฐ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการ EV 3.0 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ซึ่งเสนอส่วนลดสูงสุด 150,000 บาทสำหรับรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการ กลายเป็นแรงกระตุ้นมหาศาลให้ผู้บริโภคที่ลังเลตัดสินใจคว้าโอกาสครั้งสุดท้ายนี้ ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่ดีที่สุด ต่างมุ่งหน้ามายังงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษก่อนที่ส่วนลดจะลดลงเหลือ 50,000 บาท และอัตราภาษีสรรพสามิตจะเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 10% ในมาตรการ EV 3.5 ที่จะเริ่มในปี 2569

ประการที่สองคือ “การแข่งขันด้านราคาและเทคโนโลยี” จากค่ายรถยนต์ โดยเฉพาะแบรนด์จีนที่ขนทัพรถยนต์ EV รุ่นใหม่ๆ มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง และที่สำคัญคือ “ราคาที่เข้าถึงได้” ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกของคนกลุ่มเล็กๆ อีกต่อไป แต่กลายเป็นกระแสหลักที่ทุกคนจับต้องได้

นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2568 ได้กล่าวถึงสถานการณ์นี้ด้วยความมั่นใจว่า ยอดจองโดยรวมในปีนี้จะเติบโตสูงกว่าปีก่อนอย่างน้อย 30-40% ซึ่งเป็นการสะท้อนภาพรวมตลาดที่ตอบรับการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างชัดเจน และการปรับลดภาษี รวมถึงมาตรการ EV ที่จะสิ้นสุดลง ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เจาะลึก 10 อันดับค่ายรถยนต์ยอดนิยม: ใครครองใจผู้บริโภค?

ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือด เรามาดูกันว่าค่ายรถยนต์ใดที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ และรถยนต์รุ่นไหนที่สร้างกระแสความสนใจได้อย่างล้นหลามในช่วง 8 วันแรกของงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2025 นี้:

โตโยต้า (Toyota): ยังคงเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่แข็งแกร่งด้วยยอดจอง 6,013 คัน โดยมี Toyota Yaris Cross เป็นรุ่นเรือธงที่ได้รับความนิยมสูงสุด สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในแบรนด์ญี่ปุ่น และความลงตัวของเทคโนโลยีไฮบริดที่ประหยัดและใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน Yaris Cross ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือ
บีวายดี (BYD): แบรนด์จีนผู้นำตลาด EV ที่ร้อนแรงที่สุด ด้วยยอดจองกว่า 3,154 คัน BYD Atto3 ยังคงเป็นโมเดลยอดนิยมที่สร้างปรากฏการณ์ในตลาด แต่ที่น่าจับตาคือแคมเปญกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ของ BYD SEAL ที่ลดราคาสูงสุดกว่า 5 แสนบาท ทำให้รุ่น Dynamic มีราคาเหลือเพียง 799,000 บาท และรุ่น Premium ลดถึง 549,100 บาท รวมถึง BYD SEALION 7 ที่นำเข้า และ DENZA D9 ซึ่งมาพร้อมส่วนลดและโปรโมชั่นสุดคุ้ม นี่คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า BYD พร้อมที่จะครองส่วนแบ่งตลาด EV อย่างเต็มตัว ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่ล้ำสมัย และราคาที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ฮอนด้า (Honda): ยังคงเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจสูง ด้วยยอดจอง 3,039 คัน โดยมี Honda HR-V e:HEV เป็นดาวเด่น การผสมผสานระหว่างดีไซน์สปอร์ต เทคโนโลยีไฮบริดที่พิสูจน์แล้ว และชื่อเสียงด้านความทนทาน ทำให้ HR-V e:HEV ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในกลุ่ม Compact SUV และเป็นทางเลือกที่สมดุลสำหรับผู้ที่ไม่พร้อมเปลี่ยนไปใช้ EV เต็มรูปแบบ
โอโมด้า แอนด์ เจคู่ (Omoda & Jaecoo): แบรนด์น้องใหม่จากจีนที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยยอดจอง 2,678 คัน Jaecoo 5 EV เป็นรุ่นที่มาแรงที่สุด การเข้ามาของ Jaecoo 5 EV ด้วยราคาที่น่าสนใจและการออกแบบที่โดดเด่น ทำให้แบรนด์นี้กลายเป็นผู้เล่นที่น่าจับตาในตลาด EV ไทยอย่างรวดเร็ว คุณเซดริก ชุย ประธานบริษัทฯ ยังเผยว่าประสบความสำเร็จเกินคาด และเตรียมส่งมอบรถยนต์กว่า 14,000 คันในปี 2568 พร้อมมอบราคาพิเศษสำหรับ 3,000 คันสุดท้ายของ Jaecoo 5 EV ก่อนสิ้นปี
เอ็มจี (MG): อีกหนึ่งแบรนด์จีนที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยยอดจอง 2,360 คัน โดยมี MG S5 EV เป็นรุ่นฮิตที่ตอบโจทย์ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับคนเมือง นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ MG Sales (ประเทศไทย) ย้ำว่า MG ได้ประกาศราคาพิเศษสำหรับรุ่นต่างๆ อย่าง NEW MG4 ELECTRIC XPOWER ที่ลดถึง 279,000 บาท และ MG ZS EV ที่มาพร้อมข้อเสนอ The Last Offer สะท้อนถึงการปรับกลยุทธ์ราคาอย่างรุนแรงเพื่อกระตุ้นยอดขายและระบายสต็อกก่อนหมดมาตรการ EV 3.0
GAC (ไอออน – Aion): แบรนด์ EV จากจีนที่มาแรง ด้วยยอดจอง 2,187 คัน และ Aion UT เป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจสูง GAC Aion จัดโปรโมชั่นคุ้ม 4 ต่อ พร้อมประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน และของแถมสุดพรีเมียมอย่าง iPhone 17 มูลค่า 43,900 บาท ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจในการดึงดูดลูกค้าและสร้างมูลค่าเพิ่ม
จีลี่ (Geely): ทำยอดจองไป 2,134 คัน และ Geely EX2 คือรุ่นเด่นที่เปิดตัวในงานนี้ด้วยราคาเริ่มต้น 399,990 บาท สำหรับ 2,000 คันแรก นายณรงค์ สีตลายน ซีอีโอ บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ผู้นำเข้า Geely ยืนยันว่าแม้จะไม่เข้าร่วมมาตรการรัฐ แต่เน้นการตั้งราคาที่เข้าถึงได้จากความร่วมมือกับบริษัทแม่ นี่คือแนวคิดที่ท้าทายตลาดและชี้ให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพและราคาที่เป็นธรรม
ดีพอล (Deepal): แบรนด์ EV ที่ทำยอดจอง 2,117 คัน โดยมี Deepal S05 เป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจ Deepal ซึ่งอยู่ภายใต้ Changan Group ก็จัดเต็มด้วยข้อเสนอทางการเงิน 0% ดาวน์ ผ่อนเริ่มต้น 2,990 บาท พร้อมส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท และประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานสำหรับผู้ที่จองในงาน
เกรทวอลล์มอเตอร์ (Great Wall Motor – GWM): ด้วยยอดจอง 2,015 คัน โดยมี GWM Tank 300 Diesel เป็นรุ่นยอดนิยม นายเวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM ประเทศไทย ได้พูดถึง “สงครามราคา” ที่รุนแรงในปี 2568 และคาดว่าจะยังคงมีอยู่บ้างในปี 2569 แต่ความรุนแรงจะลดลงตามเงื่อนไขมาตรการรัฐ GWM ยังได้ประกาศปรับขึ้นราคา ORA Good Cat ในปี 2569 พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ฟรีโปรแกรมช่วยผ่อนและประกันภัยชั้นหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไป
มิตซูบิชิ (Mitsubishi): ทำยอดจอง 1,588 คัน โดยมี Mitsubishi Xforce HEV เป็นรุ่นที่ดึงดูดความสนใจ นี่คืออีกหนึ่งแบรนด์ญี่ปุ่นที่ยังคงรักษาฐานลูกค้าและนำเสนอทางเลือกในกลุ่มไฮบริดที่น่าสนใจ

สงครามราคาและการปรับตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ 2568

ปี 2568 ถือเป็นปีแห่งการตัดสินใจครั้งใหญ่สำหรับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค เนื่องจากเป็นปีสุดท้ายที่มาตรการส่งเสริม EV 3.0 ยังคงเต็มรูปแบบ ค่ายรถยนต์ต่างเร่งทำแคมเปญส่งท้ายปีอย่างดุเดือดเพื่อระบายสต็อก และเพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนที่ต้นทุนจะสูงขึ้นจากมาตรการ EV 3.5 ที่จะมาถึง

BYD-Rever Group: โชว์จุดแข็งด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานเป็นครั้งแรกสำหรับ BYD Dolphin และ BYD Atto 3 พร้อมส่วนลดมหาศาลสำหรับรถยนต์นำเข้าอย่าง BYD SEAL และ BYD SEALION 7
MG: นอกจากการลดราคาอย่างมีนัยสำคัญแล้ว MG ยังคงมองภาพรวมตลาด EV ในปี 2569 ว่าจะเติบโตต่อเนื่องไปถึง 120,000 คัน สะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพของตลาด แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือด
GAC AION และ Changan: ใช้กลยุทธ์ที่คล้ายกันคือการลดราคา ควบคู่ไปกับการมอบสิทธิประโยชน์ด้านการเงิน และการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งถือเป็นจุดขายสำคัญที่ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ใช้รถ EV
Geely: กล้าที่จะเดินสวนกระแส ไม่เข้าร่วมมาตรการรัฐ แต่เลือกที่จะตั้งราคาที่แข่งขันได้ตั้งแต่ต้น ซึ่งหาก Geely EX2 ได้รับการตอบรับที่ดี ก็อาจเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจในตลาด EV ไทย

สรุปภาพรวมและก้าวต่อไปของตลาดรถยนต์ไทย

มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 ไม่ได้เป็นเพียงงานแสดงรถยนต์ แต่เป็นเวทีที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย การที่รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดครองสัดส่วนยอดจองกว่าครึ่ง เป็นสัญญาณชัดเจนว่าผู้บริโภคพร้อมแล้วสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์โดยรวมในปี 2568 อาจปิดตัวเลขที่ 600,000 คัน ซึ่งเป็นการเติบโตที่ดีแม้จะไม่หวือหวา แต่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2569 ไปถึง 120,000 คัน

คำเชิญชวนจากผู้เชี่ยวชาญ:

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในวงการ ผมขอย้ำว่านี่คือโอกาสทองสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์คันใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด ด้วยแคมเปญส่งท้ายมาตรการรัฐที่ดุเดือดและข้อเสนอสุดพิเศษที่หาไม่ได้อีกแล้ว การตัดสินใจในตอนนี้ไม่เพียงแค่เป็นการซื้อรถ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของการเดินทางที่ยั่งยืนและคุ้มค่า

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเปลี่ยนรถ หรือสนใจเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต อย่าพลาดโอกาสสุดท้ายในการเยี่ยมชมงาน Motor Expo 2025 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคม 2568 คุณจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมล่าสุด เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลากหลายค่าย และรับโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง มาสัมผัสประสบการณ์ขับเคลื่อนแห่งอนาคตได้ด้วยตัวคุณเอง!

Previous Post

N1512046 อตาล กเขย EP1 #หน งส นสะท อนส งคม #หน งส นค ณธรรม #หน งส นสอนใจ part 2

Next Post

N1512044 งมงาย EP1 #หน งส นสะท อนส งคม #หน งส #หน งส นค ณธรรม #หน งส นสอ part 2

Next Post
N1512044 งมงาย EP1 #หน งส นสะท อนส งคม #หน งส #หน งส นค ณธรรม #หน งส นสอ part 2

N1512044 งมงาย EP1 #หน งส นสะท อนส งคม #หน งส #หน งส นค ณธรรม #หน งส นสอ part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1612007 จม กโตและเพ อน บแผนเถ อนๆของเขา part 2
  • N1612020 แม าแตงโม รวมห วก บแม าสาล part 2
  • N1612009 นแรกเป นพน กงานด เด นต อมาเป นล กค าหน าหม part 2
  • N1612003 งานการไม อยทำ ขย นสร างแต เร องว นๆ part 2
  • N1612005 กามเทพจม กโต แผลงศรแห งความร part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.