ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
มอเตอร์เอ็กซ์โป 2025: ครึ่งทางยอดจองทะลุ 3.6 หมื่นคัน – เปิดกลยุทธ์แบรนด์เด่น รับมือยุคเปลี่ยนผ่านยานยนต์
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมเฝ้าติดตามและวิเคราะห์ทุกการเคลื่อนไหวของตลาดมาโดยตลอด และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42” หรือ “Thailand International Motor Expo 2025” หรือที่เรียกติดปากกันว่า “มอเตอร์เอ็กซ์โป” ครั้งนี้ ได้สร้างปรากฏการณ์ที่น่าจับตาอย่างยิ่ง หลังผ่านพ้นช่วงครึ่งแรกของการจัดงาน เพียง 8 วันแรก ยอดจองรถยนต์พุ่งทะยานสูงถึง 36,174 คัน ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงพลวัตอันรวดเร็วของตลาดและทิศทางที่ผู้บริโภคกำลังมุ่งหน้าไป
ตัวเลขที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงสะท้อนความคึกคักของผู้เข้าชมงานเท่านั้น แต่ยังเป็นบทสรุปของหลากหลายปัจจัยขับเคลื่อน ทั้งกระแสความนิยมในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนกลยุทธ์การตลาดที่ดุเดือดของค่ายรถยนต์ โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์จีนที่ดาหน้าเข้ามาพร้อมแคมเปญสุดเร้าใจเพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนมาตรการส่งเสริม EV ของภาครัฐจะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นักลงทุนและผู้บริบริโภคต่างจับตา
พลวัตยอดจอง: EV ยังคงเป็นดาวเด่นใน Motor Expo 2025
เมื่อเจาะลึกไปที่ตัวเลขยอดจองสะสมกว่า 36,174 คันในช่วง 8 วันแรกของงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2025 เราจะพบว่านี่คือการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 30-45% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและกำลังซื้อที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือสัดส่วนของประเภทรถยนต์ที่ได้รับความนิยม โดยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังคงครองแชมป์อย่างเหนียวแน่น คิดเป็นกว่า 52% ของยอดจองทั้งหมด ตามมาด้วยรถยนต์ไฮบริด (xEV) ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ก็ยังคงมีส่วนแบ่งตลาดที่สำคัญ ไม่ได้ถูกกลืนหายไปอย่างสิ้นเชิง
การที่รถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคไทยที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ลดลง นอกจากนี้ มาตรการส่งเสริมของภาครัฐในโครงการ EV3.0 และ EV3.5 ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ได้กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคต่างต้องการคว้าสิทธิประโยชน์ส่วนลดภาษีและเงินอุดหนุนก่อนจะหมดเขต
เปิด 10 อันดับค่ายรถยนต์และรุ่นยอดนิยมที่สร้างปรากฏการณ์
ข้อมูลยอดจองในช่วงครึ่งทางของ Motor Expo 2025 ได้เผยให้เห็นถึงผู้นำและดาวเด่นของตลาดอย่างชัดเจน จากการรวบรวมข้อมูลของ ซื้อรถชิงรถ นี่คือ 10 อันดับแรกที่กวาดยอดจองไปอย่างถล่มทลาย:
โตโยต้า (Toyota): 6,013 คัน – ยังคงรักษาฐานลูกค้าและพลังแบรนด์ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมี Toyota Yaris Cross เป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจสูงสุด สะท้อนถึงความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กที่ประหยัดพลังงานและตอบโจทย์การใช้งานในเมือง
บีวายดี (BYD): 3,154 คัน – แบรนด์ EV สัญชาติจีนที่ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่างรวดเร็ว โดยมี BYD Atto3 เป็นหัวหอกสำคัญ แม้ทางค่ายไม่ได้แจ้งยอดจองโดยตรง แต่จากจำนวนผู้ลงทะเบียนซื้อรถชิงรถ ก็บ่งบอกถึงความนิยมที่ไม่ธรรมดา โปรโมชั่น Lifetime Battery Warranty และส่วนลดสำหรับ BYD SEAL และ BYD SEALION 7 ถือเป็นหมัดเด็ดที่ยากจะปฏิเสธ
ฮอนด้า (Honda): 3,039 คัน – ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นที่ยังคงรักษาตำแหน่งในใจผู้บริโภคด้วยความน่าเชื่อถือ โดยมี Honda HR-V e:HEV เป็นรุ่นที่มาแรง แสดงถึงการปรับตัวของแบรนด์ญี่ปุ่นสู่ตลาด xEV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โอโมด้า แอนด์ เจคู (Omoda & Jaecoo): 2,678 คัน – แบรนด์น้องใหม่จากจีนที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยยอดจองที่สูงเกินคาด Jaecoo 5 EV เป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นและราคาที่น่าดึงดูด
เอ็มจี (MG): 2,360 คัน – อีกหนึ่งแบรนด์จีนที่สร้างตลาด EV ในไทยตั้งแต่ยุคบุกเบิก โดยมี MG S5 EV เป็นดาวเด่น ควบคู่ไปกับแคมเปญลดราคาอย่างดุเดือดสำหรับ NEW MG4 ELECTRIC และ MG ZS EV
จีเอซี (GAC Aion): 2,187 คัน – แบรนด์จีนที่เน้นเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยมี Aion UT เป็นรุ่นที่ดึงดูดใจผู้บริโภค พร้อมโปรโมชั่น “คุ้ม 4 ต่อ” ที่สร้างความคุ้มค่าอย่างถึงที่สุด
จีลี่ (Geely): 2,134 คัน – แบรนด์จีนที่เน้นกลยุทธ์การตั้งราคาที่เข้าถึงง่ายตั้งแต่แรก โดยมี Geely EX2 เป็นรุ่นเปิดตัวที่ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 400,000 บาท ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น
ดีพอล (Deepal): 2,117 คัน – แบรนด์ EV ที่เน้นดีไซน์และเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยมี Deepal S05 เป็นรุ่นเรือธงที่มาพร้อมข้อเสนอทางการเงินที่น่าสนใจ
เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor): 2,015 คัน – ผู้บุกเบิกตลาด EV อีกรายที่ยังคงรักษาส่วนแบ่งไว้ได้ โดยมี GWM Tank 300 Diesel (ที่อาจจะเป็นรุ่น ICE หรือ Hybrid) เป็นรุ่นที่มาแรง แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในพอร์ตโฟลิโอของ GWM แม้จะมีกระแสเรื่องการปรับขึ้นราคา ORA Good Cat ในปีหน้า
มิตซูบิชิ (Mitsubishi): 1,588 คัน – แบรนด์ญี่ปุ่นที่กลับมาพร้อมความสดใหม่ โดยมี Mitsubishi Xforce HEV ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริด เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
การปรากฏตัวของแบรนด์จีนถึง 6 แบรนด์ใน 10 อันดับแรก ยืนยันถึงการยกระดับคุณภาพและกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้เล่นสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในตลาดรถยนต์ไทยปี 2025
จุดเปลี่ยนสำคัญ: มาตรการ EV สิ้นสุดลงและสงครามราคา 2025
สิ่งที่ทำให้ Motor Expo 2025 นี้เป็นที่จับตามองมากยิ่งขึ้นคือสถานการณ์เกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ ทั้ง EV3.0 และ EV3.5 ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 นี้
EV3.0: รถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมมาตรการจะหมดสิทธิ์ได้รับส่วนลดเงินอุดหนุน 150,000 บาท
EV3.5: สำหรับรถยนต์ EV นำเข้า ส่วนลดเงินอุดหนุนจะลดลงจาก 150,000 บาท เหลือเพียง 50,000 บาท และอัตราภาษีสรรพสามิตจะปรับเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 10%
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ส่งผลให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ ต้องเร่งระบายสต็อกและกระตุ้นยอดขายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพื่อลดภาระต้นทุนที่จะเกิดขึ้นหลังมาตรการสิ้นสุดลง จึงเกิด “สงครามราคา” ที่ดุเดือดในปี 2025 ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้บริโภคที่กำลังมองหารถยนต์ใหม่
ตัวอย่างกลยุทธ์จากแบรนด์ต่างๆ:
BYD-Rever Group: เสนอเงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับ BYD Dolphin และ BYD Atto 3 ด้วยการมอบการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานเป็นครั้งแรก มูลค่า 50,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2568 และยังให้สิทธิ์ย้อนหลังสำหรับผู้ที่ซื้อตั้งแต่ 24 ตุลาคม 2568 นอกจากนี้ BYD SEAL รุ่น Dynamic ยังลดสูงสุดกว่า 525,000 บาท เหลือเพียง 799,000 บาท จากราคาปกติ 1,325,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่น่าตกใจและไม่อาจจะหาได้อีกแล้ว
MG: นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับลดราคารถยนต์ EV ของ MG อีกแล้ว โดยถือว่าราคาล่าสุดคือราคา “สุดท้าย” ที่แท้จริง อย่างเช่น NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ราคาพิเศษ 849,000 บาท จากเดิม 1,119,900 บาท ลดไป 279,000 บาท (จำนวนจำกัด 90 คัน) หรือ MG IM6 ที่มาพร้อมประกันชั้นหนึ่ง 3 ปี และดอกเบี้ย 0.99% นาน 48 เดือน แสดงถึงการเปลี่ยนผ่านจากการลดราคาตรงๆ สู่การเพิ่มมูลค่าและข้อเสนอที่ครอบคลุม
GAC AION: จัดโปรโมชั่น “คุ้ม 4 ต่อ” สำหรับ AION V และ AION UT ด้วยราคาพิเศษ พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ มอเตอร์ขับเคลื่อน และกล่องควบคุมตลอดอายุการใช้งาน แถมด้วยส่วนลดชุดแต่งและ iPhone 17 มูลค่ากว่า 43,900 บาท ซึ่งเป็นแพ็กเกจที่ครบวงจรและดึงดูดใจ
CHANGAN (Deepal): เสนอเงื่อนไขทางการเงินสุดยืดหยุ่น ทั้งดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 2,990 บาท และส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานสำหรับ Deepal S05 ที่จองภายในช่วงเวลาจัดงาน
JAECOO: คุณเซดริก ชุย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) เผยว่า แม้ยอดส่งมอบจะทะลุเป้าไปกว่า 12,000 คันในปีนี้ แต่ก็ยังมอบราคาพิเศษสำหรับ JAECOO 5 EV อีก 3,000 คันก่อนสิ้นปี โดยรุ่น Long Range Dynamic เหลือเพียง 549,000 บาท จาก 629,000 บาท แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
Geely: คุณณรงค์ สีตลายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ Geely ยืนยันกลยุทธ์ที่แตกต่าง โดยไม่เข้าร่วมมาตรการภาครัฐ แต่เน้นการตั้งราคาที่จับต้องได้ตั้งแต่แรกเริ่ม โดย Geely EX2 เปิดตัวด้วยราคาเพียง 399,990 บาท (จำกัด 2,000 คันแรก) ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาด EV ราคาประหยัด
การแข่งขันด้านราคาและโปรโมชั่นเหล่านี้ ทำให้ Motor Expo 2025 กลายเป็นโอกาสทองของผู้บริโภคอย่างแท้จริง
ทิศทางตลาดรถยนต์ไทยปี 2025 และอนาคต 2026
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ จาก MG Sales (ประเทศไทย) ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2025 ตลาดโดยรวมมีการเติบโตราว 3% และคาดการณ์ว่ายอดขายรวมทั้งปีจะปิดที่ 600,000 คัน ซึ่งเป็นการเติบโตที่ดี แม้จะไม่หวือหวามากนัก
สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ คาดการณ์ว่าปี 2025 จะมียอดขายกว่า 100,000 คัน และจะเติบโตต่อไปในปี 2026 สู่ระดับ 120,000 คัน ตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าแม้มาตรการสนับสนุนจะลดลง แต่กระแสความนิยมและการยอมรับในเทคโนโลยี EV ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ EV เช่น สถานีชาร์จ และบริการหลังการขาย ให้มีคุณภาพและครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในอนาคต
คุณเวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ยังได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ “สงครามราคา” ว่า ในปี 2025 นี้เป็นไปอย่างดุเดือด และคาดว่าในปี 2026 สถานการณ์อาจจะยังคงอยู่ แต่ความรุนแรงจะลดลงตามเงื่อนไขของมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลที่จะส่งผลต่อต้นทุนราคารถยนต์ในที่สุด ซึ่งเป็นสัญญาณว่าหลังช่วงสิ้นปีนี้ การแข่งขันอาจจะย้ายจาก “สงครามราคา” สู่ “สงครามคุณค่า” ที่เน้นการนำเสนอเทคโนโลยี นวัตกรรม และบริการที่เหนือกว่า
นวัตกรรมและเทคโนโลยีขับเคลื่อนอนาคตยานยนต์
นอกเหนือจากยอดจองและกลยุทธ์ด้านราคา Motor Expo 2025 ยังเป็นเวทีแสดงนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต รถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในงานหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Deepal S05, Jaecoo 5 EV, Geely EX2 หรือ Leapmotor C10 Limited Edition Kinetix Model ล้วนมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทั้งในด้านประสิทธิภาพแบตเตอรี่ ระยะทางขับขี่ ระบบขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) และการเชื่อมต่อดิจิทัลภายในห้องโดยสาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนการตัดสินใจของผู้บริโภคในระยะยาว
การที่ค่ายรถยนต์ให้ความสำคัญกับการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน หรือการรับประกันที่ยาวนาน แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพของเทคโนโลยี EV และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่อาจยังกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว
บทสรุปและคำเชิญชวน
มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Motor Expo 2025 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นมากกว่างานแสดงรถยนต์ประจำปี แต่เป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย การที่ยอดจองพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว โดยมีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวของแบรนด์ญี่ปุ่น การผงาดขึ้นของแบรนด์จีน หรือนโยบายภาครัฐที่กำลังจะสิ้นสุดลง ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดในปี 2025 นี้เต็มไปด้วยสีสันและความท้าทาย
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่าช่วงเวลาที่เหลือของงาน Motor Expo 2025 ซึ่งจัดขึ้นถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2568 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี คือโอกาสที่คุณไม่ควรมองข้าม หากคุณกำลังมองหารถยนต์คันใหม่ หรือต้องการสัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต นี่คือช่วงเวลาที่คุณจะได้พบกับข้อเสนอที่ดีที่สุด กลยุทธ์ที่ดุเดือด และความรู้ที่อัดแน่นจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง
อย่าพลาดโอกาสสุดท้ายในการเป็นเจ้าของรถยนต์ในฝัน ด้วยโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน! พบกันที่ Motor Expo 2025 แล้วมาเริ่มต้นการเดินทางสู่โลกยานยนต์แห่งอนาคตไปพร้อมกัน.
มหกรรมยานยนต์ 2025 ทะลุเป้า: ยอดจอง 3.6 หมื่นคัน ปฏิวัติวงการ EV ไทย ส่องกลยุทธ์ค่ายรถยุคใหม่
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในแวดวงยานยนต์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์มาโดยตลอด แต่ปี 2025 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Thailand International Motor Expo 2025 ได้ปิดฉากลงด้วยความสำเร็จที่เหนือความคาดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งทางแรกของงาน ยอดจองรถยนต์พุ่งทะยานสู่ 36,174 คัน ภายในเวลาเพียง 8 วัน ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในพฤติกรรมการบริโภคและความคึกคักของตลาดรถยนต์ไทยอย่างแท้จริง บทความนี้จะพาทุกท่านเจาะลึกถึงปรากฏการณ์ครั้งสำคัญนี้ ถอดรหัสกลยุทธ์ของค่ายรถยนต์ชั้นนำ และมองภาพอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และนวัตกรรมยานยนต์ได้เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญ
คลื่นยักษ์ EV ถล่มตลาด: มากกว่าครึ่งของยอดจองคือรถยนต์ไฟฟ้า
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดใน Motor Expo 2025 ไม่ใช่แค่ยอดจองที่ถล่มทลาย แต่เป็นสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 52% ของยอดจองทั้งหมด นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว ผู้บริโภคชาวไทยเปิดใจและพร้อมที่จะเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) ไปสู่พลังงานสะอาดมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตามมาด้วยรถยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด (xEV) ที่ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเดินทาง ถือเป็นสะพานเชื่อมสู่ยุค EV อย่างสมบูรณ์แบบ ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ก้าวหน้า, ราคาที่แข่งขันได้, และมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐที่เร่งให้เกิดการตัดสินใจของผู้บริโภค
สมรภูมิราคาและมาตรการรัฐ: ตัวเร่งปฏิกิริยาแห่งการซื้อ
ปัจจัยสำคัญที่จุดประกายให้ยอดจองพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงปลายปี 2025 คือ “สมรภูมิราคา” ที่ดุเดือดระหว่างค่ายรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการเร่งตัดสินใจซื้อก่อนที่มาตรการส่งเสริม EV3.0 ของภาครัฐจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ซึ่งให้ส่วนลดสูงสุดถึง 150,000 บาท การเร่งระบายสต็อกรถยนต์ของผู้ผลิตเพื่อลดภาระต้นทุน และการแข่งขันทางเทคโนโลยีที่ทำให้รถยนต์รุ่นใหม่มีประสิทธิภาพและฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจมากขึ้น ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลัง
มาตรการ EV3.5 ที่จะเข้ามาแทนที่ในปี 2569 แม้จะยังคงมีการสนับสนุน แต่ส่วนลดสำหรับรถยนต์ EV นำเข้าจะลดลงจาก 150,000 บาท เหลือ 50,000 บาท และมีการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตจาก 2% เป็น 10% ทำให้ค่ายรถยนต์ต้องปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน การนำเสนอแคมเปญส่งเสริมการขายที่ดึงดูดใจ เช่น อัตราดอกเบี้ย 0%, ประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี, หรือการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ และทำให้ Motor Expo 2025 กลายเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ใหม่ ซึ่งไม่เพียงแต่จะได้รถยนต์ที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังได้รับสิทธิประโยชน์และข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน
เปิด 10 อันดับค่ายรถยนต์และรุ่นยอดนิยมใน Motor Expo 2025
การแข่งขันในมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ดุเดือดอย่างเห็นได้ชัด ค่ายรถยนต์ต่างงัดกลยุทธ์และนวัตกรรมมาประชันกันอย่างเต็มที่ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ มี 10 อันดับแรกที่สามารถดึงดูดยอดจองได้อย่างมหาศาล สะท้อนถึงความหลากหลายของตลาดและความต้องการของผู้บริโภค
โตโยต้า (Toyota) – ยอดจอง 6,013 คัน: แชมป์ยอดจองยังคงเป็นของแบรนด์เจ้าตลาดอย่างโตโยต้า ด้วยความน่าเชื่อถือและเครือข่ายบริการที่แข็งแกร่ง ทำให้ Toyota Yaris Cross กลายเป็นดาวเด่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดรถยนต์ไฮบริด (Hybrid) ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและประหยัดน้ำมัน ถือเป็นการยืนยันถึงความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ญี่ปุ่น แม้ในยุคที่ EV กำลังมาแรง
บีวายดี (BYD) – ยอดจอง 3,154 คัน: ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรายนี้ยังคงแสดงแสนยานุภาพอย่างต่อเนื่อง ด้วย BYD Atto3 ที่เป็นเรือธงครองใจคนไทย และการเปิดตัว BYD SEAL ที่มาพร้อมแคมเปญส่วนลดที่น่าตกใจถึงกว่า 525,000 บาท ทำให้ราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น BYD ยังนำเสนอการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย
ฮอนด้า (Honda) – ยอดจอง 3,039 คัน: Honda ยังคงแข็งแกร่งในตลาดไฮบริด ด้วย Honda HR-V e:HEV ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต เทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ทรงพลัง และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ทำให้ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ที่ประหยัดพลังงาน
โอโมด้า แอนด์ เจคู (Omoda & Jaecoo) – ยอดจอง 2,678 คัน: ผู้เล่นหน้าใหม่จากจีนที่สร้างปรากฏการณ์ได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะ Jaecoo 5 EV ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นและราคาที่แข่งขันได้ ทำให้ Omoda & Jaecoo ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงกลยุทธ์การรุกตลาดที่เฉียบคม
เอ็มจี (MG) – ยอดจอง 2,360 คัน: MG ยังคงเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ด้วย MG S5 EV ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและราคาที่คุ้มค่า นอกจากนี้ MG ยังยืนยันที่จะไม่ปรับลดราคารถยนต์ EV ลงอีก ถือเป็นการแสดงความมั่นคงในกลยุทธ์ราคา พร้อมกับข้อเสนอพิเศษสำหรับรุ่นอื่นๆ เช่น NEW MG4 ELECTRIC และ MG ZS EV ทำให้ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค
จีเอซี (GAC Aion) – ยอดจอง 2,187 คัน: GAC Aion กับ Aion UT ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง พร้อมโปรโมชั่น “คุ้ม 4 ต่อ” และการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน รวมถึงของแถมสุดพรีเมียมอย่าง iPhone 17 ยิ่งตอกย้ำถึงความพยายามในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และเน้นย้ำถึงนวัตกรรมยานยนต์ที่พวกเขาต้องการนำเสนอ
จีลี่ (Geely) – ยอดจอง 2,134 คัน: Geely ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Geely EX2 ในราคาเริ่มต้นเพียง 399,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่น่าดึงดูดอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก โดยเน้นย้ำถึงปรัชญาการทำราคาที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น โดยไม่ต้องพึ่งมาตรการรัฐมากนัก
ดีพอล (Deepal) – ยอดจอง 2,117 คัน: Deepal S05 จาก Changan ยังคงเป็นอีกหนึ่งค่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยม ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและสมรรถนะที่น่าประทับใจ พร้อมเงื่อนไขทางการเงินที่น่าสนใจ เช่น ดาวน์ 0% และผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,990 บาท รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน
เกรทวอลล์มอเตอร์ (GWM) – ยอดจอง 2,015 คัน: GWM ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ออฟโรดด้วย GWM Tank 300 Diesel ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการปรับกลยุทธ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat ในปี 2569 โดยอาจมีการปรับขึ้นราคาพร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายรัฐที่เปลี่ยนแปลงไป
มิตซูบิชิ (Mitsubishi) – ยอดจอง 1,588 คัน: Mitsubishi Xforce HEV เป็นรถยนต์ไฮบริดที่มาแรงของค่ายนี้ ด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่งและสมรรถนะที่เชื่อถือได้ ทำให้มิตซูบิชิยังคงรักษาฐานลูกค้าที่ภักดีและขยายสู่กลุ่มผู้บริโภคที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน
ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยปี 2025 และอนาคต 2026
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในปี 2025 ว่าน่าจะปิดตัวเลขยอดขายรวมที่ประมาณ 600,000 คัน ซึ่งเป็นการเติบโตที่ดีที่ 3-4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคาดว่าจะอยู่ที่กว่า 100,000 คัน และจะเพิ่มเป็น 120,000 คันในปี 2569 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างมหาศาลของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม นายเวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เตือนว่า “สงครามราคา” ในปี 2568 นั้นรุนแรงมาก และคาดว่าจะยังคงมีอยู่ในปี 2569 แม้ความรุนแรงอาจลดลงตามเงื่อนไขมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลที่จะส่งผลต่อต้นทุนราคารถยนต์ การปรับตัวของค่ายรถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเน้นนวัตกรรม, การขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ, หรือการนำเสนอแพ็กเกจสินเชื่อรถยนต์ดอกเบี้ยต่ำและประกันรถยนต์ชั้นนำที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
คำแนะนำสำหรับผู้บริโภคในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน
สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถยนต์ใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า การตัดสินใจในช่วงปลายปี 2025 ถือเป็นโอกาสทองที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล EV3.0 ที่จะสิ้นสุดลง การแข่งขันของค่ายรถยนต์ที่นำเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ และนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นใหม่ 2025 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยในราคาที่คุ้มค่าที่สุด
อย่ารอช้าที่จะสำรวจตัวเลือกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือรถยนต์ไฮบริดที่ให้ความประหยัดและประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบรถยนต์แต่ละรุ่น, เงื่อนไขสินเชื่อรถยนต์, และแพ็กเกจประกันรถยนต์ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด และเลือกยานยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณได้อย่างลงตัว
โอกาสที่ไม่ควรพลาด: ก้าวสู่โลกยานยนต์ยุคใหม่ไปพร้อมกัน
มหกรรมยานยนต์ 2025 ได้สะท้อนภาพอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างชัดเจน ถึงเวลาแล้วที่เราจะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรมอย่างเต็มตัว ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหารถยนต์ครอบครัว, รถยนต์ SUV อเนกประสงค์ หรือรถยนต์ซีดานหรูหรา ตลาดในปัจจุบันมีตัวเลือกที่หลากหลายและน่าสนใจกว่าที่เคย หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคต อย่าพลาดโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้
เชิญสัมผัสประสบการณ์ยานยนต์แห่งอนาคตด้วยตัวคุณเอง!
โลกยานยนต์กำลังหมุนไปอย่างรวดเร็ว และ Motor Expo 2025 คือพยานแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ หากคุณต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่อนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หรือเพียงแค่ศึกษาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ โอกาสนี้คือของคุณ อย่าพลาดที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อรถยนต์หรือประกันรถยนต์เพื่อวางแผนการเป็นเจ้าของรถยนต์คันใหม่ของคุณได้อย่างมั่นใจ และเตรียมพร้อมที่จะขับเคลื่อนไปกับยานยนต์แห่งอนาคต ที่ไม่เพียงแต่ตอบสนองการเดินทาง แต่ยังตอบสนองต่อโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
