• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1512332 ชายสองคนต างท เวลาและต างท ความร part 2

admin79 by admin79
December 14, 2025
in Uncategorized
0
N1512332 ชายสองคนต างท เวลาและต างท ความร part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

<h2>เปิดวิสัยทัศน์ยานยนต์พลังงานใหม่: Rêver Automotive ชี้ทิศทางตลาด EV ไทย สู่ยุค 2025 พร้อมข้อเสนอสุดเร้าใจจาก BYD และ DENZA ใน Motor Expo ครั้งที่ 42</h2>

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์พลังงานใหม่ที่คลุกคลีอยู่ในตลาดมานับทศวรรษ ผมกล้ายืนยันว่าปี 2025 นี้คือห้วงเวลาสำคัญที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) การมาถึงของมหกรรมยานยนต์ Motor Expo ครั้งที่ 42 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การรวมตัวของนวัตกรรมยานยนต์เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่สะท้อนถึงพลวัตและทิศทางของตลาดในอนาคตอันใกล้ และที่น่าจับตาที่สุดคือการเคลื่อนไหวของ Rêver Automotive ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BYD และ DENZA ในประเทศไทย ที่เข้ามาพร้อมกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่นเป็นครั้งแรกในไทย และที่สำคัญกว่านั้นคือการประกาศแคมเปญสุดพิเศษส่งท้ายมาตรการ EV 3.0 ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลง ทำให้ช่วงเวลานี้คือโอกาสทองของผู้บริโภคที่ไม่ควรมองข้ามอย่างแท้จริง

จากประสบการณ์ที่ได้เห็นการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกมาโดยตลอด ผมมองว่ากลยุทธ์ของ Rêver Automotive ใน Motor Expo 2025 ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำและการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ มาตรการ EV 3.0 ที่ให้เงินอุดหนุนสูงสุดถึง 150,000 บาท กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 และจะถูกแทนที่ด้วยมาตรการ EV 3.5 ที่มีเงินอุดหนุนลดลงเหลือสูงสุดเพียง 50,000 บาท สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศอย่าง BYD DOLPHIN และ BYD ATTO 3 ส่วนรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าอย่าง BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 7 และ DENZA D9 นั้น ไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 75,000 บาทจากภาครัฐอีกต่อไป แต่ยังต้องเผชิญกับการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตจากเดิม 8% เป็น 10% การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ “ราคา รถยนต์ไฟฟ้า” ในตลาด ทำให้ข้อเสนอและ “โปรโมชั่น รถ EV” ที่ Rêver นำมาจัดแสดงในงานนี้ กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงปลายปี 2025 นี้ การที่ Rêver สามารถครองพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดในงานถึง 2,193 ตร.ม. แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพในการผลักดันยานยนต์พลังงานใหม่ให้เข้าถึงคนไทยในวงกว้าง และยืนยันสถานะความเป็นผู้นำใน “อนาคต รถยนต์ไฟฟ้า ไทย”

<h3>เจาะลึกทิศทางตลาด EV ไทย 2025: โอกาสสุดท้ายภายใต้ EV 3.0 และความท้าทายในยุค EV 3.5</h3>

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมได้เห็น “ตลาด รถยนต์ไฟฟ้า” ในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด ต้องขอบคุณมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐอย่าง EV 3.0 ที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาสนใจและเป็นเจ้าของ “รถยนต์พลังงานทางเลือก” ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม การสิ้นสุดของมาตรการนี้ในช่วงปลายปี 2568 ได้สร้างคำถามสำคัญว่า “ราคา รถ EV” จะเป็นอย่างไรต่อไปในยุค EV 3.5 จากการวิเคราะห์ ผมมองว่าการปรับราคาขึ้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่น การที่ BYD ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักในตลาด EV ไทย นำเสนอ “โปรโมชั่น รถ BYD” ที่ดีที่สุดใน Motor Expo ครั้งนี้ จึงเป็นความเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจ “ซื้อ รถ EV” ได้ในขณะที่ยังมีข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดก่อนการเปลี่ยนแปลงนโยบาย

ไม่เพียงแค่ราคา การพัฒนา “สถานีชาร์จ EV” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผมมองเห็นความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ทำให้ความกังวลเรื่อง “Range Anxiety” หรือความกังวลเรื่องระยะทางลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ เทคโนโลยี “แบตเตอรี่ Blade” ของ BYD ก็เข้ามาตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งาน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ “รถยนต์ไฟฟ้า” ทุกคัน การที่ Rêver Automotive ไม่เพียงแต่นำเสนอรถยนต์ที่หลากหลาย แต่ยังมาพร้อมกับการรับประกันและบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง ยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า 100,000 รายที่ไว้วางใจในแบรนด์ BYD แล้วในปัจจุบัน

คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดแสดงใน Motor Expo ครั้งนี้ ว่าเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้บริโภคจะได้สัมผัส “นวัตกรรม ยานยนต์” ล่าสุดจาก BYD และ DENZA อย่างเต็มที่ และโปรโมชั่นที่นำมาเสนอ ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไปข้างหน้าในสภาวะที่ท้าทาย ซึ่งผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง การให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดในจังหวะที่มาตรการรัฐกำลังจะเปลี่ยนผ่าน เป็นการช่วยพยุงและกระตุ้นตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

<h3>เปิดตัว 3 ยานยนต์แห่งอนาคต: ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น</h3>

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่ Rêver Automotive นำมาอวดโฉมใน Motor Expo 2025 คือการเปิดตัวยานยนต์ใหม่ 3 รุ่นที่ไม่เคยจัดแสดงที่ใดในประเทศไทยมาก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ BYD และ DENZA ในการนำเสนอ “เทคโนโลยี ยานยนต์” ล่าสุดสู่ตลาดไทย โดยเฉพาะในกลุ่ม “รถยนต์ พรีเมียม” และ “รถยนต์ ออฟโรด”

<h4>DENZA B5: SUV Off-road ผสานความหรูหราและความแกร่ง</h4>

DENZA B5 เป็นรถยนต์ “SUV ออฟโรด” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อท้าทายทุกขีดจำกัดของการเดินทาง ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ผสานความล้ำสมัยเข้ากับดีไซน์ทรงเหลี่ยมแบบพรีเมียม ผมมองว่า DENZA B5 ไม่ใช่แค่รถยนต์ออฟโรดทั่วไป แต่เป็นผลงานที่ผสมผสานความทนทานเข้ากับ “สุนทรียศาสตร์แห่งการขับขี่” ได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัวในเมือง ด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 3.4 เมตร ร่วมกับเทคโนโลยี B-Style U-Turn ที่ทำให้การขับขี่ในสภาพการจราจรหนาแน่นเป็นเรื่องง่ายดายอย่างเหลือเชื่อ นี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่า “การออกแบบที่คิดมาเพื่อผู้ใช้งานจริง”

ในขณะเดียวกัน DENZA B5 ก็พร้อมที่จะพาคุณออกผจญภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันทรงพลังและขุมพลังไฮบริด DMO ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 505 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สเปกทางเทคนิค แต่เป็นเครื่องยืนยันถึงสมรรถนะที่เหนือชั้น สามารถรองรับการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและเส้นทางทุรกันดารได้อย่างมั่นใจ และที่สำคัญ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารก็ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบ “ประสบการณ์ การเดินทาง” ที่สะดวกสบายและเพลิดเพลินตลอดเส้นทาง นี่คือรถยนต์ที่ผมเชื่อว่าจะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกลุ่ม “รถยนต์ SUV” ในตลาดไทย

<h4>BYD Ti7: Urban Adventure SUV ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแห่งอนาคต</h4>

สำหรับ BYD Ti7 ผมขอนิยามว่าเป็น “Urban SUV” สไตล์ Adventure ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของ BYD ในการออกแบบรถยนต์ที่ผสานความดุดันเข้ากับความล้ำสมัย ภายใต้แนวคิด “STARSHIP Ark” รถคันนี้ไม่ได้เพียงแค่ดูดี แต่ยังเต็มไปด้วยนวัตกรรมที่น่าทึ่ง การออกแบบตัวถังทรงเหลี่ยมให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและสง่างามไปพร้อมกัน

ภายในห้องโดยสารของ BYD Ti7 ถือเป็นจุดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยการออกแบบสไตล์ Dual Layer Symmetry ที่ให้ความรู้สึกกว้างขวางและเป็นระเบียบ และหัวใจสำคัญคือ “BYD Intelligent Cockpit” ที่เชื่อมต่อการแสดงผลผ่านหน้าจอต่างๆ รวมถึงระบบแสดงผลบนกระจกหน้า AR-HUD ขนาด 26 นิ้ว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผมเชื่อว่าจะกลายเป็นมาตรฐานใน “รถยนต์ พรีเมียม” ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมหน้าจอผู้โดยสารด้านหลัง BYD PAD ขนาด 13 นิ้ว ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถยนต์ได้โดยตรง เสมือนมีแท็บเล็ตประสิทธิภาพสูงเป็นศูนย์กลางควบคุมในรถ ยกระดับ “ความบันเทิงในรถยนต์” ไปอีกขั้น

ในด้านสมรรถนะ BYD Ti7 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV แบบ DM 5.0 platform 4WD ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง เข้ากับ “BYD Blade Battery” อันเลื่องชื่อ ให้กำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 620 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ถึง 155 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญคือมีเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Fi-Pilot L2+ มากถึง 20 ระบบ ทำให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น BYD Ti7 จึงเป็น “รถยนต์ ประหยัดพลังงาน” ที่ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์การผจญภัยและการใช้งานในเมือง

<h4>DENZA D9 Phantom Edition: MPV พรีเมียมที่ยกระดับความหรูหราเหนือชั้น</h4>

การเปิดตัว DENZA D9 Phantom Edition ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Rêver Automotive ในการขยายตลาด “รถยนต์ พรีเมียม” โดยเฉพาะในกลุ่ม “MPV” ที่ต้องการความหรูหราและสะดวกสบายสูงสุด จากประสบการณ์ ผมเห็นว่าตลาด MPV ระดับบนในประเทศไทยยังคงมีความต้องการสูง โดยเฉพาะจากกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่หรือผู้บริหารที่ต้องการ “ความสะดวกสบายในการเดินทาง” DENZA D9 Phantom Edition จึงเข้ามาตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว ด้วยการเพิ่มความสง่างามจากชุดตกแต่งสเกิร์ตรอบคัน ทั้งยังพร้อมติดตั้งกระจังหน้าแบบใหม่ สเกิร์ตรอบคันดีไซน์สปอร์ต และชุดสปอยเลอร์ ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูโดดเด่นและมีระดับยิ่งขึ้น

สิ่งที่ทำให้ DENZA D9 Phantom Edition แตกต่างคือการให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้โดยสาร โดยเฉพาะเบาะนั่งด้านหลังที่ติดตั้งจอเพดานระบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่ม “ความบันเทิงในรถยนต์” และความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง นี่คือการสร้างสรรค์ “รถยนต์หรู” ที่ไม่ได้เน้นแค่ความสวยงามภายนอก แต่ยังให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดเพื่อยกระดับการเดินทางให้เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด

<h3>DM-i Super Hybrid: นวัตกรรมขับเคลื่อนที่เหนือกว่า PHEV ทั่วไป</h3>

หนึ่งในเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจสำคัญของยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD คือระบบ “DM-i Super Hybrid” ซึ่งผมกล้าพูดได้เลยว่ามันแตกต่างและเหนือกว่าระบบ PHEV ทั่วไปในตลาดอย่างสิ้นเชิง จากประสบการณ์ตรง ผมพบว่า DM-i Super Hybrid ของ BYD ถูกออกแบบมาให้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ “ประสบการณ์การขับขี่แบบ EV” เป็นจริงได้ ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองที่ฉับไว ความเงียบสงบในห้องโดยสาร และที่สำคัญคือ “ความประหยัดพลังงาน” ที่ยอดเยี่ยม

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ DM-i คือการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างชาญฉลาด ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่ตลอดเวลา แต่ยังคงได้รับประโยชน์จากการขับขี่ด้วยไฟฟ้าในระยะทางที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย ระบบก็จะสลับมาใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด นี่คือคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการ “รถยนต์ ไฮบริด” ที่ให้ความรู้สึกเหมือน “รถยนต์ไฟฟ้า” แต่ยังคงความยืดหยุ่นในการใช้งานเชื้อเพลิง

นอกจากนี้ DM-i Super Hybrid ยังมาพร้อมกับ “BYD Blade Battery” ซึ่งเป็นนวัตกรรมแบตเตอรี่ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความปลอดภัย ความทนทาน และอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ใน “ประสิทธิภาพ แบตเตอรี่” และระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถยนต์ PHEV

<h4>BYD Seal 5 DM-i และ BYD SEALION 6 DM-i: นวัตกรรม PHEV สู่ตลาดไทย</h4>

การที่ BYD นำเสนอระบบ DM-i Super Hybrid ในรถยนต์หลากหลายรุ่น แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสองรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดไทย:

BYD Seal 5 DM-i: รถซีดานขนาดกลางรุ่นแรกของไทยที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV คันนี้ ผมมองว่าเป็นการเติมเต็มช่องว่างในตลาด “รถซีดาน” ที่ต้องการความหรูหรา ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยระยะขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตร (NEDC) BYD Seal 5 DM-i จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้รถในเมืองเป็นหลักและต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายน้ำมัน นอกจากนี้ “โปรโมชั่น รถ BYD Seal 5” ที่มาพร้อมข้อเสนอพิเศษในรุ่นย่อย Premium ไม่ว่าจะเป็นดาวน์เริ่มต้นเพียง 34,995 บาท หรืออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก ก็ยิ่งทำให้รถคันนี้น่าสนใจยิ่งขึ้น

BYD SEALION 6 DM-i: รถยนต์ “SUV พรีเมียม” ที่มีสไตล์และมาพร้อมขุมพลัง DM-i Super Hybrid ด้วยระยะขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงสุด 104 กิโลเมตร (NEDC) ผมมองว่า BYD SEALION 6 DM-i เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา “รถยนต์ SUV” ที่ไม่เพียงแต่มีดีไซน์โดดเด่น แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานและลดมลพิษ “โปรโมชั่น รถ BYD SEALION 6” ในรุ่นย่อย Dynamic ที่ให้ดาวน์เริ่มต้นเพียง 44,995 บาท หรืออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก ก็เป็นอีกหนึ่งข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ

<h3>ทัพยนตรกรรมพลังงานใหม่จาก BYD: ข้อเสนอที่ดีที่สุดส่งท้าย EV 3.0</h3>

นอกเหนือจากรถยนต์รุ่นใหม่แล้ว Rêver Automotive ยังนำทัพยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD ที่ได้รับการยอมรับในตลาดไทยมาพร้อมกับ “โปรโมชั่น รถ EV” ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของ “รถยนต์พลังงานทางเลือก” ได้ง่ายขึ้นก่อนการสิ้นสุดของมาตรการ EV 3.0 นี่คือโอกาสที่สำคัญที่สุดในการ “ซื้อ รถ BYD” ด้วยเงื่อนไขที่ดีที่สุด:

BYD DOLPHIN: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เข้าถึงง่าย รุ่น Standard มาพร้อมราคาพิเศษ 449,900 บาท หรือ 459,900 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก

BYD ATTO 3: “รถยนต์ SUV” ยอดนิยมที่ครองใจคนไทย รุ่น Premium ราคาพิเศษ 629,900 บาท หรือ 639,900 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ส่วนรุ่น Extended ราคาพิเศษ 699,900 บาท หรือ 709,900 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ทั้งสองรุ่นย่อยยังมาพร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก

BYD M6: รถยนต์ MPV อเนกประสงค์ รุ่น Dynamic มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ดาวน์เริ่มต้นเพียง 39,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก

BYD SEALION 7: “รถยนต์ SUV” พรีเมียมที่กำลังจะเข้ามาสร้างสีสันในตลาด รุ่น Premium มาพร้อมดาวน์เริ่มต้นเพียง 57,495 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก

ข้อเสนอเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนลด แต่เป็น “การลงทุน ใน รถยนต์ไฟฟ้า” ที่ชาญฉลาดในจังหวะเวลาที่สำคัญที่สุด เพราะหลังจากวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ผู้บริโภคจะต้องเผชิญกับ “ราคา รถยนต์ไฟฟ้า” ที่อาจปรับสูงขึ้น และสิทธิประโยชน์จากภาครัฐที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

<h3>Rêver Automotive: ผู้นำที่ขับเคลื่อน “ความยั่งยืน” สู่ประเทศไทย</h3>

จากภาพรวมทั้งหมด ผมกล้ากล่าวได้ว่า Rêver Automotive ภายใต้การนำของคุณประธานวงศ์และคุณประธานพร พรประภา ไม่ได้เป็นเพียงผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เท่านั้น แต่เป็นผู้นำที่ขับเคลื่อน “อนาคต ยานยนต์ไฟฟ้า ไทย” สู่ “ความยั่งยืน” อย่างแท้จริง การนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (EV) หรือระบบ DM-i Super Hybrid (PHEV) คือการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นที่จะมอบทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคชาวไทย พร้อมทั้งสร้างสรรค์ “สิ่งแวดล้อม ที่ยั่งยืน” ให้กับทุกคน

คุณประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้กล่าวถึงการนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจเท่านั้น แต่เพื่อส่งเสริม “ความยั่งยืน” ด้วย ซึ่งผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง การลงทุนในรถยนต์พลังงานใหม่ในวันนี้ คือการลงทุนในอนาคตที่ดีกว่า ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจส่วนตัว (ประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง) และการมีส่วนร่วมในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

<h3>ก้าวสู่ยานยนต์แห่งอนาคต: โอกาสทองที่ไม่ควรรอ</h3>

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการ ผมเชื่อมั่นว่า Motor Expo ครั้งที่ 42 ในปี 2025 นี้ คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจเป็นเจ้าของยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA จาก “โปรโมชั่น รถ EV” ที่ดีที่สุด และโอกาสสุดท้ายภายใต้มาตรการ EV 3.0 นี่ไม่ใช่แค่การซื้อรถยนต์ แต่เป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเดินทางที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน

อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์ยานยนต์แห่งอนาคตด้วยตัวคุณเอง ที่มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี บูธหมายเลข A06 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 หรือเยี่ยมชม “โชว์รูม และ ศูนย์บริการ BYD” และ DENZA ใกล้บ้านคุณ ทั้ง 167 สาขาทั่วประเทศ เพื่อรับคำปรึกษาและข้อเสนอสุดพิเศษ ด้วย “นวัตกรรม ยานยนต์” ที่เหนือชั้นและ “แคมเปญ รถยนต์” ที่คุ้มค่าที่สุดในรอบปี การตัดสินใจของคุณในวันนี้ จะนำพาคุณไปสู่อนาคตของการขับขี่ที่แตกต่างและดีกว่าอย่างแน่นอน.

ยกระดับประสบการณ์ยานยนต์: Rêver Automotive พลิกโฉม Motor Expo 2025 ด้วยทัพรถยนต์พลังงานใหม่แห่งอนาคตจาก BYD และ DENZA พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมเฝ้าจับตาการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่กระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปี 2025 นี้ มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Motor Expo 2025 ได้กลายเป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของเทคโนโลยียานยนต์ และไม่มีผู้เล่นรายใดที่จะโดดเด่นและสร้างแรงกระเพื่อมได้เท่ากับ Rêver Automotive ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ BYD และ DENZA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย การปรากฏตัวของ Rêver ในปีนี้ไม่ใช่แค่การแสดงสินค้า แต่คือการประกาศศักดาแห่งความเป็นผู้นำ พร้อมเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการขับขี่ที่ยั่งยืนและล้ำสมัยอย่างแท้จริง

ภูมิทัศน์ใหม่แห่งยานยนต์พลังงานสะอาดในประเทศไทยปี 2025: โอกาสและความท้าทาย

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญในปี 2025 นี้ ด้วยมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐอย่าง EV 3.0 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 และการก้าวเข้าสู่มาตรการ EV 3.5 ที่มีเงื่อนไขและผลประโยชน์ที่แตกต่างออกไป นักลงทุนและผู้บริโภคต่างจับตามองสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด มาตรการ EV 3.0 ได้กระตุ้นให้ตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะรถยนต์ BYD ที่ผลิตในประเทศอย่าง BYD DOLPHIN และ BYD ATTO 3 ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 150,000 บาท การสิ้นสุดของมาตรการนี้หมายถึงการปรับโครงสร้างราคาของรถยนต์ EV และ PHEV อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยรถยนต์ที่เคยได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดจะเปลี่ยนไปรับเงินสนับสนุนภายใต้ EV 3.5 ที่ลดลงเหลือ 50,000 บาท ส่วนรถยนต์นำเข้าอย่าง BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 7 และ DENZA D9 นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 75,000 บาทอีกต่อไป แต่ยังต้องเผชิญกับการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตจาก 2% เป็น 10% ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญ

สถานการณ์นี้สร้างทั้งความท้าทายและโอกาสสำหรับผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ Motor Expo 2025 เป็นช่วงเวลาทองคำที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณกำลังพิจารณาเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่ โดยเฉพาะจากแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกอย่าง BYD และ DENZA เพราะข้อเสนอที่ Rêver Automotive นำมามอบให้ในงานนี้ อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณจะได้ครอบครองยานยนต์แห่งอนาคตเหล่านี้ในราคาและเงื่อนไขที่คุ้มค่าที่สุด ก่อนที่ต้นทุนโดยรวมจะปรับตัวสูงขึ้น

Rêver Automotive: ผู้นำที่ก้าวไกลด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน

Rêver Automotive ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์พลังงานใหม่ที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีล้ำสมัยสู่ตลาดไทยมาโดยตลอด การครองพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดในงาน Motor Expo 2025 ด้วยขนาดรวมกว่า 2,193 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็นโซน BYD 1,591 ตารางเมตร และ DENZA 602 ตารางเมตร แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลขององค์กร ไม่ใช่แค่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ครบวงจร เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์อย่างเต็มอิ่ม คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ และคุณประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ ต่างเน้นย้ำถึงพันธกิจในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่ความยั่งยืน ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายทั้งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และปลั๊กอินไฮบริด DM-i Super Hybrid ที่เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบโจทย์เรื่องประสิทธิภาพ แต่ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

เปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่ไม่เคยจัดแสดงที่ใดในไทยมาก่อน

ไฮไลต์สำคัญของ Rêver Automotive ในงาน Motor Expo 2025 คือการเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ที่ไม่เคยปรากฏที่ใดในประเทศไทยมาก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีและการออกแบบที่ก้าวล้ำของ BYD และ DENZA

DENZA B5: redefined SUV Off-road พร้อมลุยทุกเส้นทางและเหนือกว่าในเมือง
DENZA B5 คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างขีดจำกัดของรถยนต์ SUV Off-road เข้ากับความหรูหราทันสมัยและฟังก์ชันการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง การออกแบบตัวถังทรงเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ ผสานกับเทคโนโลยีการขับเคลื่อน DMO Hybrid ที่เป็นนวัตกรรมเฉพาะของ DENZA ทำให้ B5 มีพละกำลังมหาศาล ด้วยกำลังรวมสูงสุด 505 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวม 760 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มอบความมั่นใจในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัยในเส้นทางทุรกันดาร หรือการขับขี่ในเมืองใหญ่ DENZA B5 ก็สามารถรับมือได้อย่างเหนือชั้น ด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเป็นพิเศษเพียง 3.4 เมตร ร่วมกับเทคโนโลยี B-Style U-Turn ที่ช่วยให้การกลับรถหรือเลี้ยวในพื้นที่จำกัดเป็นเรื่องง่ายดาย ภายในห้องโดยสารครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างรื่นรมย์และหรูหรา นับเป็นการยกระดับมาตรฐานของรถยนต์ SUV Off-road สู่มิติใหม่

BYD Ti7: Urban SUV สไตล์ Adventure ที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ากับดีไซน์อันดุดัน
BYD Ti7 คือรถยนต์ Urban SUV ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่แข็งแกร่งและแนวคิด “STARSHIP Ark” ที่สะท้อนถึงอนาคตแห่งยานยนต์ ตัวถังทรงเหลี่ยมผสานความดุดันเข้ากับเส้นสายที่ทันสมัย เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่สามารถพาคุณไปผจญภัยในเมืองใหญ่ได้อย่างมีสไตล์ และพร้อมสำหรับการเดินทางที่ยาวไกล ภายในห้องโดยสารของ BYD Ti7 ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Dual Layer Symmetry ที่มอบความกว้างขวางและความหรูหรา พร้อมด้วย BYD Intelligent Cockpit ที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถ ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า AR-HUD ขนาด 26 นิ้ว นำเสนอข้อมูลสำคัญในการขับขี่ได้อย่างชัดเจนและล้ำสมัย รวมถึงหน้าจอผู้โดยสารด้านหลัง BYD PAD ขนาด 13 นิ้ว ที่ช่วยเพิ่มความบันเทิงและความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV แบบ DM 5.0 platform 4WD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุด ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง เข้ากับ BYD Blade Battery มอบกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 620 นิวตันเมตร สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 155 กิโลเมตร (NEDC) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Fi-Pilot L2+ มากกว่า 20 ระบบ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างเหนือชั้น

DENZA D9 Phantom Edition: redefined Luxury MPV แห่งอนาคต
สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ MPV ระดับพรีเมียมที่มอบความสะดวกสบายและความหรูหราขั้นสุด DENZA D9 Phantom Edition คือคำตอบ การปรากฏตัวครั้งแรกในไทยของรุ่นนี้มาพร้อมกับชุดตกแต่งสเกิร์ตรอบคันดีไซน์สปอร์ต กระจังหน้าแบบใหม่ และชุดสปอยเลอร์ที่ช่วยเพิ่มความสง่างามและความสปอร์ตให้กับตัวรถ ภายในห้องโดยสารยกระดับความหรูหราและความบันเทิงด้วยจอเพดานระบบสัมผัสสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 15.6 นิ้ว มอบประสบการณ์ความบันเทิงและความสะดวกสบายที่ไม่เป็นสองรองใครตลอดการเดินทาง DENZA D9 Phantom Edition ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือห้องรับรองเคลื่อนที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริหารและครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ

DM-i Super Hybrid: นวัตกรรมขับเคลื่อนที่เหนือกว่าใคร

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญให้ความสนใจเป็นพิเศษคือระบบ DM-i Super Hybrid ของ BYD ซึ่งเป็นนวัตกรรมปลั๊กอินไฮบริดที่แตกต่างจากระบบ PHEV ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง โดย DM-i มุ่งเน้นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างแท้จริง ทั้งในเรื่องของอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ ความเงียบสงบในห้องโดยสาร และการปราศจากการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ที่รอบต่ำ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่รถยนต์ไฮบริดทั่วไปยังไม่สามารถทำได้ ระบบนี้ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางและสถานีชาร์จ (Range Anxiety) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความสามารถในการเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงเมื่อจำเป็น และยังคงรักษาประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม

BYD Blade Battery ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบบ DM-i Super Hybrid ได้รับการยอมรับในเรื่องความปลอดภัยระดับสูงสุด การออกแบบที่แข็งแกร่งและเทคโนโลยี Lithium Iron Phosphate (LFP) ทำให้แบตเตอรี่ Blade มีความทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน และมีโอกาสเกิดปัญหาน้อยมากเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถเก็บพลังงานได้สูง ทำให้รถยนต์ที่ใช้ระบบ DM-i สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเลย

ในงานนี้ Rêver ยังได้นำเสนอรถยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในรูปแบบ SUV และ Sedan:

BYD Seal 5 DM-i: ซีดานขนาดกลางรุ่นแรกของไทยที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV อันล้ำสมัย สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงสุด 120 กิโลเมตร (NEDC) มอบความหรูหราควบคู่ไปกับประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานที่โดดเด่น ในงาน Motor Expo 2025 มีข้อเสนอพิเศษสำหรับรุ่นย่อย Premium ไม่ว่าจะเป็นดาวน์เริ่มต้นเพียง 34,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD SEALION 6 DM-i: รถยนต์ SUV พรีเมียมและมีสไตล์ ที่ผสานความแข็งแกร่งเข้ากับความสง่างาม สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงสุด 104 กิโลเมตร (NEDC) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ที่ให้ทั้งประสิทธิภาพและความหรูหรา รุ่นย่อย Dynamic มาพร้อมข้อเสนอพิเศษในงานด้วยดาวน์เริ่มต้นเพียง 44,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก

ทัพยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD พร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุด

นอกเหนือจากรถยนต์รุ่นใหม่และเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid แล้ว Rêver Automotive ยังนำทัพรถยนต์ยอดนิยมจาก BYD พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมาให้เลือกสรร เพื่อให้มั่นใจว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเป็นเจ้าของยานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูง

BYD DOLPHIN: สำหรับรุ่นย่อย Standard ที่ราคาพิเศษเพียง 449,900 บาท หรือ 459,900 บาท (พร้อมโฮมชาร์จเจอร์) BYD DOLPHIN ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่ขับขี่สนุกและประหยัดพลังงาน
BYD ATTO 3: สำหรับรุ่นย่อย Premium ราคาพิเศษ 629,900 บาท หรือ 639,900 บาท (พร้อมโฮมชาร์จเจอร์) และรุ่นย่อย Extended ราคาพิเศษ 699,900 บาท หรือ 709,900 บาท (พร้อมโฮมชาร์จเจอร์) BYD ATTO 3 ยังคงครองใจผู้บริโภคด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น สมรรถนะที่น่าประทับใจ และห้องโดยสารที่กว้างขวาง
BYD M6: สำหรับรุ่นย่อย Dynamic ดาวน์เริ่มต้นเพียง 39,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% BYD M6 เป็น MPV ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอย
BYD SEALION 7: สำหรับรุ่นย่อย Premium ดาวน์เริ่มต้นเพียง 57,495 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% BYD SEALION 7 คือ SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มอบความหรูหรา ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูงสุด

ทุกข้อเสนอพิเศษสำหรับ BYD DOLPHIN, ATTO 3, M6, และ SEALION 7 มาพร้อมกับฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก ซึ่งเป็นการเพิ่มความคุ้มค่าและความอุ่นใจให้กับผู้เป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่

ถึงเวลาแล้วที่คุณจะก้าวสู่ยุคใหม่แห่งยานยนต์

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มาอย่างยาวนาน ผมขอยืนยันว่าช่วงเวลา ณ Motor Expo 2025 นี้ ถือเป็นโอกาสทองที่หาได้ยากยิ่งในการเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำหน้า มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก และที่สำคัญที่สุดคือข้อเสนอสุดพิเศษที่ Rêver Automotive ได้เตรียมไว้ ข้อเสนอเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณได้สัมผัสกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตก่อนใคร พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนกว่าเดิม

การตัดสินใจในช่วงนี้จะส่งผลต่อการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงของมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ อย่าปล่อยให้โอกาสครั้งสำคัญนี้หลุดลอยไป หากคุณกำลังมองหารถยนต์คู่ใจที่ตอบโจทย์ทั้งประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และนวัตกรรม ที่สุดของความลงตัวรอคุณอยู่แล้ว

อย่ารอช้า! มาสัมผัสประสบการณ์แห่งอนาคตและคว้าข้อเสนอที่ดีที่สุด

ทัพยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA พร้อมให้ทุกท่านสัมผัสและทดลองขับแล้วที่มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี บูธหมายเลข A06 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เปรียบเทียบรุ่นรถที่สนใจ และรับข้อเสนอที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ หรือหากไม่สะดวกเดินทางมาที่งาน ท่านสามารถพบกับรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการทั้ง 167 สาขาทั่วประเทศที่พร้อมให้บริการใกล้บ้านท่าน เลือกBYD และ DENZA เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและการขับขี่ที่เหนือกว่า!

เรเว่ ออโตโมทีฟ เขย่าบัลลังก์ยานยนต์พลังงานใหม่ใน Motor Expo 2025: โอกาสทองส่งท้าย EV 3.0 ที่ไม่อาจมองข้าม

มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ประจำปี 2568 กำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ยานยนต์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมมองว่างานในปีนี้มีความพิเศษและมีความเร่งด่วนอย่างยิ่ง ด้วยปัจจัยสำคัญหลายประการที่มาบรรจบกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ไฟฟ้า BYD และ DENZA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ที่ครั้งนี้ขนทัพนวัตกรรมและข้อเสนอสุดเร้าใจมาประชันกันบนพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดในงาน สะท้อนวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำตลาด และมอบโอกาสครั้งสำคัญแก่ผู้บริโภคชาวไทยในการเป็นเจ้าของยานยนต์แห่งอนาคต ก่อนที่มาตรการสนับสนุนภาครัฐจะเปลี่ยนแปลงไป

เรเว่ ออโตโมทีฟ: ผู้นำที่เข้าใจตลาดและนำเสนอนวัตกรรม

กลุ่มธุรกิจเรเว่ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยมาโดยตลอด การเข้ามาของ BYD ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้สร้างปรากฏการณ์และพลิกโฉมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ BYD ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า 100,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจและตอกย้ำถึงความสำเร็จของเรเว่ได้อย่างชัดเจน

ในงาน Motor Expo 2025 นี้ เรเว่ได้เนรมิตพื้นที่จัดแสดงรวมกว่า 2,193 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในงาน แบ่งเป็นโซน BYD 1,591 ตร.ม. และ DENZA 602 ตร.ม. การลงทุนมหาศาลนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเรเว่ต้องการมอบประสบการณ์การสัมผัสยานยนต์พลังงานใหม่แบบเต็มอิ่มจุใจแก่ผู้เข้าชมงาน เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของ BYD และ DENZA ได้อย่างใกล้ชิดและครบครัน

เปิดตัว 3 ยานยนต์ไฮไลต์: นิยามใหม่แห่งการเดินทางแห่งอนาคต

หนึ่งในความน่าตื่นเต้นที่สุดของบูธเรเว่ในปีนี้คือการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยของ 3 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ยังไม่เคยจัดแสดงที่ใดมาก่อน ได้แก่ DENZA B5, BYD Ti7 และ DENZA D9 Phantom Edition ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนเป็นตัวแทนของเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและการออกแบบที่โดดเด่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค

DENZA B5: SUV Off-Road พันธุ์แกร่ง ผสานความหรูหราและเทคโนโลยี DMO Hybrid

DENZA B5 คือนิยามใหม่ของรถยนต์ SUV Off-Road ที่ไม่เพียงแข็งแกร่งและสมบุกสมบัน แต่ยังคงความหรูหราและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยรูปทรงเหลี่ยมที่สะท้อนความพรีเมียมและประโยชน์ใช้สอยที่ครบครัน รถคันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทุกการใช้งานในชีวิตจริง ตั้งแต่การขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัวไปจนถึงการผจญภัยในเส้นทางออฟโรด ด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 3.4 เมตร ร่วมกับเทคโนโลยี B-Style U-Turn ทำให้การขับขี่ในพื้นที่จำกัดเป็นเรื่องง่ายดดายอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่นักขับในเมืองใหญ่จะชื่นชอบเป็นพิเศษ

หัวใจสำคัญของ DENZA B5 คือระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันทรงพลังและเทคโนโลยีไฮบริด DMO (Dual Mode Off-Road) ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ได้อย่างลงตัว มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 505 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร ทำให้มั่นใจได้ถึงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพถนนแบบใด ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันและภายในที่ออกแบบมาเพื่อมอบความสุนทรียภาพตลอดการเดินทาง DENZA B5 จึงเป็นรถยนต์ที่พร้อมตอบโจทย์ผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ที่เหนือกว่าทั้งด้านสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยี

BYD Ti7: Urban SUV สไตล์ Adventure พร้อมห้องโดยสารอัจฉริยะแห่งอนาคต

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยในเมืองใหญ่ หรือต้องการรถยนต์ที่สะท้อนบุคลิกอันโดดเด่น BYD Ti7 คือคำตอบที่เรเว่ภูมิใจนำเสนอภายใต้แนวคิด “STARSHIP Ark” ด้วยดีไซน์ที่ผสานความดุดันของตัวถังทรงเหลี่ยมเข้ากับความโฉบเฉี่ยวสไตล์ Urban SUV ได้อย่างลงตัว แต่สิ่งที่ทำให้ BYD Ti7 โดดเด่นอย่างแท้จริงคือห้องโดยสารที่ถูกออกแบบในสไตล์ Dual Layer Symmetry และติดตั้ง BYD Intelligent Cockpit ซึ่งเชื่อมต่อการแสดงผลผ่านหน้าจอต่างๆ อย่างล้ำสมัย

ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครผ่านระบบแสดงผลบนกระจกหน้า AR-HUD ขนาด 26 นิ้ว ที่ให้ข้อมูลสำคัญในรูปแบบ Augmented Reality พร้อมอุปกรณ์เสริมหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง BYD PAD ขนาด 13 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถยนต์ได้โดยตรง เสมือนมีแท็บเล็ตประสิทธิภาพสูงเป็นศูนย์กลางควบคุม ทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยความบันเทิงและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

BYD Ti7 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV แบบ DM 5.0 platform 4WD ซึ่งเป็นการผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง เข้ากับ BYD Blade Battery อันเป็นเอกลักษณ์ มอบกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 620 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 155 กิโลเมตร (NEDC) เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Fi-Pilot L2+ มากถึง 20 ระบบ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ให้เหนือระดับ

DENZA D9 Phantom Edition: MPV หรูหราเหนือระดับ เพื่อการเดินทางอันไร้ที่ติ

ยกระดับประสบการณ์การเดินทางสู่ความสง่างามและความสะดวกสบายสูงสุดกับ DENZA D9 Phantom Edition รถ MPV ระดับพรีเมียมที่ได้รับการอัปเกรดเพื่อตอบโจทย์ผู้บริหารและครอบครัวใหญ่ที่ต้องการความเหนือระดับ ด้วยชุดตกแต่งสเกิร์ตรอบคันดีไซน์สปอร์ต กระจังหน้าแบบใหม่ และชุดสปอยเลอร์ ทำให้ DENZA D9 Phantom Edition มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและน่าเกรงขาม

ภายในห้องโดยสารคือพื้นที่แห่งความรื่นรมย์และความผ่อนคลาย ด้วยจอเพดานระบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ที่จะช่วยให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความบันเทิงและสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือประชุมงาน DENZA D9 Phantom Edition คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ที่ผสานความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตอบโจทย์การเป็นรถยนต์ครอบครัวไฟฟ้า หรือรถยนต์สำหรับผู้บริหารที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการเดินทาง

DM-i Super Hybrid: เทคโนโลยี PHEV ที่แตกต่างและโดดเด่น

นอกจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่แล้ว เรเว่ยังได้นำเสนอเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ซึ่งเป็นนวัตกรรมระบบ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) จาก BYD ที่แตกต่างจากระบบไฮบริดทั่วไปในตลาด ด้วยการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับความรู้สึกเหมือนกำลังขับรถยนต์ไฟฟ้า EV ทั้งการตอบสนองที่ฉับไว ไร้เสียงรบกวน และความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ยังคงความยืดหยุ่นในการเดินทางระยะไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จ

DM-i Super Hybrid มาพร้อมกับ BYD Blade Battery ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ในระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวที่สามารถทำได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเลย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดมลภาวะได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีนี้มีให้เลือกทั้งในตัวถัง SUV และ Sedan ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย โดยในงานนี้จะได้พบกับ BYD Seal 5 DM-i และ BYD SEALION 6 DM-i ที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ

โอกาสทองส่งท้าย EV 3.0: ตัดสินใจวันนี้ คุ้มค่าที่สุด

ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ Motor Expo 2025 เป็นช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาดคือมาตรการสนับสนุนภาครัฐ “EV 3.0” ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 นี้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอย้ำว่านี่คือ “โอกาสสุดท้าย” ที่ผู้บริโภคจะได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดจากการเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่

หลังจากวันที่ 31 ธันวาคม 2568 รถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ผลิตในประเทศไทย ซึ่งได้แก่ BYD DOLPHIN และ BYD ATTO 3 จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดมูลค่า 150,000 บาท จากโครงการ EV 3.0 อีกต่อไป โดยจะได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดมูลค่า 50,000 บาท จากโครงการ EV 3.5 แทน ซึ่งหมายถึงราคาจำหน่ายที่อาจปรับสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าอย่าง BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 7 และ DENZA D9 สถานการณ์ยิ่งน่ากังวล เพราะนอกจากจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐสูงสุดมูลค่า 75,000 บาทแล้ว ยังมีการปรับอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นอีก 8% รวมเป็น 10% ซึ่งจะส่งผลให้ราคาจำหน่ายของรถยนต์กลุ่มนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น การตัดสินใจซื้อรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ในช่วงเวลานี้ จึงเป็นการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าที่สุด ก่อนที่สิทธิประโยชน์เหล่านี้จะหมดไป

ข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจจากเรเว่: เลือกโปรที่ใช่ ได้รถที่ชอบ

เรเว่ ออโตโมทีฟ เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี จึงได้เตรียมแคมเปญที่ดีที่สุดมามอบให้ในงาน Motor Expo 2025 นี้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์คุณภาพในราคาพิเศษ พร้อมอัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้คุณมั่นใจว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเป็นเจ้าของยานยนต์แห่งอนาคต

BYD DOLPHIN: สำหรับรุ่นย่อย Standard ราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 449,900 บาท หรือเลือกรับโฮมชาร์จเจอร์ ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ EV ขนาดกะทัดรัด คล่องตัวในเมือง และคุ้มค่า
BYD ATTO 3: รุ่น Premium ราคาพิเศษเริ่มต้น 629,900 บาท หรือ 639,900 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ส่วนรุ่น Extended ราคาพิเศษ 699,900 บาท หรือ 709,900 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ทั้งสองรุ่นย่อย ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก รถยนต์ SUV ไฟฟ้ายอดนิยมสำหรับครอบครัว
BYD M6: สำหรับรุ่นย่อย Dynamic ดาวน์เริ่มต้นเพียง 39,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก MPV ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานอเนกประสงค์
BYD SEALION 7: สำหรับรุ่นย่อย Premium ดาวน์เริ่มต้นเพียง 57,495 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก SUV ไฟฟ้าพรีเมียมที่มอบทั้งสมรรถนะและความหรูหรา

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับ BYD Seal 5 DM-i และ BYD SEALION 6 DM-i ซึ่งเป็นรถยนต์ PHEV ที่ผสานข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์สันดาปได้อย่างลงตัว โดย BYD Seal 5 DM-i รุ่นย่อย Premium มาพร้อมดาวน์เริ่มต้น 34,995 บาท หรืออัตราดอกเบี้ย 1.88% และ BYD SEALION 6 DM-i รุ่นย่อย Dynamic ดาวน์เริ่มต้น 44,995 บาท หรืออัตราดอกเบี้ย 1.88% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟิล์มเซรามิกเช่นกัน

บทสรุปและคำเชิญชวน

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มานาน ผมมองว่าปี 2568 นี้คือปีแห่งความท้าทายและโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย การที่เรเว่ ออโตโมทีฟ ได้นำทัพยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA มาจัดแสดงบนพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในงาน Motor Expo 2025 พร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุด จึงไม่เพียงแต่เป็นการตอกย้ำถึงตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสครั้งสำคัญให้กับผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นเจ้าของนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตในราคาที่คุ้มค่าที่สุดก่อนมาตรการภาครัฐจะสิ้นสุดลง

อย่าพลาดโอกาสสำคัญที่จะได้สัมผัสกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ BYD และ DENZA พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน ทัพยานยนต์พลังงานใหม่พร้อมให้ทุกท่านสัมผัสแล้วที่ มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ณ อิมแพค เมืองทองธานี บูธหมายเลข A06 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 หรือเยี่ยมชมและทดลองขับได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ BYD และ DENZA ใกล้บ้านท่านทั้ง 167 สาขาทั่วประเทศ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่โลกยานยนต์ที่ยั่งยืนไปพร้อมกับ BYD และ DENZA วันนี้!

Previous Post

N1412328 ความส มพ นธ โครตเห นแก part 2

Next Post

N1212116 เม ยเห นแก วมาก วเลยทำแบบน part 2

Next Post
N1212116 เม ยเห นแก วมาก วเลยทำแบบน part 2

N1212116 เม ยเห นแก วมาก วเลยทำแบบน part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1612007 จม กโตและเพ อน บแผนเถ อนๆของเขา part 2
  • N1612020 แม าแตงโม รวมห วก บแม าสาล part 2
  • N1612009 นแรกเป นพน กงานด เด นต อมาเป นล กค าหน าหม part 2
  • N1612003 งานการไม อยทำ ขย นสร างแต เร องว นๆ part 2
  • N1612005 กามเทพจม กโต แผลงศรแห งความร part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.