ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
การปฏิวัติยานยนต์ไฟฟ้า: BYD และ DENZA ก้าวสู่จุดสูงสุดใน Motor Expo 2025 พร้อมข้อเสนอที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมากมาย แต่ไม่มีครั้งใดจะน่าตื่นเต้นและรวดเร็วเท่ากับการก้าวขึ้นมาของยานยนต์พลังงานใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 นี้ ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ และท่ามกลางความท้าทายและโอกาสเหล่านั้น งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 หรือ Motor Expo 2025 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จึงไม่ใช่แค่เพียงเวทีจัดแสดงรถยนต์เท่านั้น แต่ยังเป็นสมรภูมิสำคัญที่ผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมแห่งอนาคต และคว้าโอกาสทองในการเป็นเจ้าของยานยนต์ที่พร้อมจะเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราอย่างแท้จริง
บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ ในฐานะผู้นำในการขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นอีกครั้งด้วยการจับจองพื้นที่จัดแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในงาน Motor Expo 2025 เพื่อนำทัพยานยนต์พลังงานใหม่จากสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง BYD และ DENZA มาจัดแสดงอย่างอลังการ การปรากฏตัวอย่างโดดเด่นนี้ไม่ใช่เพียงการแสดงถึงศักยภาพเท่านั้น แต่ยังสะท้อนวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของเรเว่ ในการนำเสนอนวัตกรรมและทางเลือกที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่ตื่นตัวกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต และต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
Motor Expo 2025: จุดเปลี่ยนแห่งโอกาสและการลงทุนในอนาคต
การมาถึงของ Motor Expo 2025 นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณา การลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์พลังงานใหม่ เหตุผลสำคัญคือการสิ้นสุดของมาตรการสนับสนุนภาครัฐ EV 3.0 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ซึ่งจะส่งผลให้ราคา รถ EV ในประเทศไทยมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากปราศจากเงินอุดหนุนเต็มจำนวน การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของราคาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิวัฒนาการของ นโยบาย EV ภาครัฐ ที่กำลังก้าวเข้าสู่เฟสใหม่ ซึ่งจะทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเข้าสู่การแข่งขันที่แท้จริงมากขึ้น
สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ประกอบในประเทศอย่าง BYD DOLPHIN และ BYD ATTO 3 ซึ่งเป็น รถ EV ยอดนิยม ในปัจจุบัน จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 150,000 บาท จากโครงการ EV 3.0 อีกต่อไป แต่จะได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 50,000 บาท จากโครงการ EV 3.5 แทน ซึ่งหมายถึงการปรับราคาขึ้นที่ผู้บริโภคต้องแบกรับ สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้านำเข้า อย่าง BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 7 และ DENZA D9 นั้น ผลกระทบยิ่งชัดเจนขึ้น พวกเขาจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 75,000 บาทจากภาครัฐ และยังต้องเผชิญกับการปรับเพิ่ม ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า สรรพสามิตอีก 8% รวมเป็น 10% ซึ่งจะส่งผลให้ราคาจำหน่ายพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้ ช่วงเวลาของ Motor Expo 2025 จึงถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณจะได้ครอบครอง รถยนต์พลังงานใหม่สุดคุ้ม ในราคาที่ดีที่สุดก่อนมาตรการ EV 3.0 จะสิ้นสุดลง
BYD และ DENZA: ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์แห่งยุค
BYD ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นผู้นำระดับโลกในด้าน เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยยอดขายที่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการยอมรับจากผู้ใช้งานกว่า 100,000 รายในประเทศไทย สิ่งที่ทำให้ BYD แตกต่างคือการเป็นผู้ผลิตที่ควบคุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ตั้งแต่การผลิตแบตเตอรี่ไปจนถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส่งผลให้พวกเขาสามารถพัฒนานวัตกรรมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับ DENZA แบรนด์พรีเมียมภายใต้การร่วมทุนกับ Mercedes-Benz ก็ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของ รถยนต์ EV ระดับหรู ที่ผสานความสง่างามเข้ากับ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าขั้นสูงได้อย่างลงตัว
คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดแสดงในครั้งนี้ว่า “เรเว่มุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ที่ดีที่สุดให้กับคนไทย การจัดแสดงบนพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดใน Motor Expo 2025 เป็นการยืนยันถึงความตั้งใจของเราที่จะให้ผู้บริโภคได้สัมผัสและทำความรู้จักกับ ยานยนต์พลังงานใหม่ล่าสุด จาก BYD และ DENZA อย่างเต็มที่ เราเชื่อมั่นว่าแคมเปญส่งเสริมการขายภายใต้มาตรการ EV 3.0 จะมอบข้อเสนอที่ดีที่สุดและเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน”
คุณประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ ได้กล่าวเสริมถึงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนว่า ” เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ของ BYD และ DENZA ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่ความล้ำสมัย แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนกว่า การจัดแสดง รถยนต์พลังงานใหม่ ทั้งแบบ EV และ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) ชั้นนำอย่างระบบ DM-i Super Hybrid สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะนำ รถยนต์ประหยัดพลังงาน และเทคโนโลยีที่ดีกว่ามาสู่คนไทย เพื่อสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน”
เปิดตัวครั้งแรกในไทย: นวัตกรรมที่เหนือกว่าความคาดหมาย
Motor Expo 2025 จะเป็นเวทีประวัติศาสตร์ที่ BYD และ DENZA จะเปิดตัวยานยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งแต่ละรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาด รถยนต์ไฟฟ้าในไทย และยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า แห่งอนาคต
DENZA B5: SUV Off-Road อัจฉริยะที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง
DENZA B5 คือนิยามใหม่ของ รถ SUV EV ที่ผสานความแข็งแกร่งดุดันแบบ Off-Road เข้ากับเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัจฉริยะได้อย่างไร้ที่ติ ด้วยดีไซน์ทรงเหลี่ยมสุดพรีเมียมที่สะท้อนถึงความพร้อมในการลุย และยังคงไว้ซึ่งความสง่างามที่ไม่เหมือนใคร สิ่งที่ทำให้ B5 โดดเด่นคือระบบไฮบริด DMO ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมสูงสุด 505 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร ซึ่งหมายถึง สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า ที่เหนือชั้น และด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำให้ DENZA B5 พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางขรุขระหรือถนนในเมืองใหญ่ ความคล่องตัวระดับสูงด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 3.4 เมตร และเทคโนโลยี B-Style U-Turn ทำให้การขับขี่ในสภาพการจราจรหนาแน่นเป็นเรื่องง่ายดาย ภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสุนทรียภาพอย่างแท้จริง DENZA B5 จึงเป็นคำตอบสำหรับผู้ที่มองหา รถยนต์ EV ออฟโรด ที่ไม่ประนีประนอมทั้งในเรื่องประสิทธิภาพและความหรูหรา
BYD Ti7: Urban SUV สไตล์ Adventure พร้อมเทคโนโลยีล้ำอนาคต
BYD Ti7 ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด STARSHIP Ark ผสมผสานความดุดันและแข็งแกร่งของตัวถังทรงเหลี่ยมเข้ากับความล้ำสมัยของ เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ยุคใหม่ Ti7 ไม่ใช่แค่ รถยนต์ SUV ทั่วไป แต่เป็น รถยนต์ EV สำหรับการผจญภัยในเมือง ที่พร้อมจะพาคุณออกเดินทางไปในทุกเส้นทางอย่างมีสไตล์ ห้องโดยสารสไตล์ Dual Layer Symmetry มอบความรู้สึกกว้างขวางและทันสมัย พร้อมด้วย BYD Intelligent Cockpit ที่เป็นศูนย์กลางการควบคุมอัจฉริยะ เชื่อมต่อการแสดงผลผ่านหน้าจอต่างๆ รวมถึงระบบแสดงผลบนกระจกหน้า AR-HUD ขนาด 26 นิ้ว ที่ให้ข้อมูลสำคัญแก่ผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน และหน้าจอผู้โดยสารด้านหลัง BYD PAD ขนาด 13 นิ้ว ที่เชื่อมต่อและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถยนต์ได้โดยตรง ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV แบบ DM 5.0 platform 4WD ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง เข้ากับ BYD Blade Battery ให้กำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 620 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ถึง 155 กิโลเมตร (NEDC) มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Fi-Pilot L2+ มากถึง 20 ระบบ ทำให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น BYD Ti7 จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการ รถ EV ประหยัดพลังงาน ที่มีดีไซน์โดดเด่นและเทคโนโลยีระดับผู้นำ
DENZA D9 Phantom Edition: MPV ระดับพรีเมียมสำหรับทุกการเดินทาง
สำหรับผู้ที่มองหา รถครอบครัว EV หรือ รถ MPV EV ที่ให้ความสะดวกสบายสูงสุดและความหรูหราเหนือระดับ DENZA D9 Phantom Edition คือคำตอบ การปรับแต่งพิเศษนี้เพิ่มความสง่างามด้วยชุดแต่งสเกิร์ตรอบคันดีไซน์สปอร์ต กระจังหน้าแบบใหม่ และชุดสปอยเลอร์ที่สะท้อนถึงความพิถีพิถันและสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ภายในห้องโดยสารได้รับการยกระดับไปอีกขั้นด้วยจอเพดานระบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทำให้ทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เป็นช่วงเวลาแห่งความบันเทิงและความผ่อนคลาย DENZA D9 Phantom Edition จึงเป็นมากกว่า รถยนต์ MPV แต่เป็นห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมและสะดวกสบายสูงสุด เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่หรือผู้บริหารที่ต้องการ รถยนต์ EV ระดับองค์กร ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเปี่ยมด้วยฟังก์ชันการใช้งาน
DM-i Super Hybrid: ประสบการณ์ EV ที่ไม่ต้องกังวลเรื่องชาร์จ
นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบแล้ว BYD ยังได้นำเสนอเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ซึ่งเป็นนวัตกรรมระบบ PHEV ที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่างสิ้นเชิง DM-i Super Hybrid ของ BYD ถูกออกแบบมาให้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ใกล้เคียงกับ รถยนต์ไฟฟ้า EV ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองที่ฉับไว ไร้เสียงรบกวน และประหยัดพลังงานอย่างสูงสุด โดยไม่ต้องกังวลเรื่อง สถานีชาร์จ EV หรือระยะทางการขับขี่ เนื่องจากยังมีเครื่องยนต์สันดาปภายในคอยช่วยเสริมในระยะทางไกล
ระบบนี้มาพร้อมกับ BYD Blade Battery ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ในระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวที่ยาวนานกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญของ รถยนต์ PHEV BYD ในตลาดปี 2025 นี้
BYD Seal 5 DM-i: รถซีดานขนาดกลางรุ่นแรกในไทยที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงสุด 120 กิโลเมตร (NEDC) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล EV ที่ประหยัดและมีสมรรถนะดีเยี่ยม
BYD SEALION 6 DM-i: รถยนต์ SUV พรีเมียมและมีสไตล์ สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงสุด 104 กิโลเมตร (NEDC) เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการ รถ SUV EV ที่ผสานความหรูหรา ความประหยัด และความอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว
ข้อเสนอสุดพิเศษ: โอกาสสุดท้ายก่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ในงาน Motor Expo 2025 เรเว่ ได้เตรียมข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจที่สุด เพื่อให้คุณมั่นใจว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นเจ้าของ รถยนต์ BYD และ รถยนต์ DENZA โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่มาตรการ EV 3.0 จะสิ้นสุดลง
BYD DOLPHIN: สำหรับรุ่น Standard ราคาพิเศษเริ่มต้น 449,900 บาท หรือเลือกรับโฮมชาร์จเจอร์ฟรี พร้อม ประกันภัยรถยนต์ EV ชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก BYD DOLPHIN ราคา ที่เข้าถึงง่าย ทำให้เป็น รถ EV ราคาถูก ที่คุ้มค่าที่สุด
BYD ATTO 3: รุ่น Premium ราคาพิเศษเริ่มต้น 629,900 บาท และรุ่น Extended ราคาพิเศษเริ่มต้น 699,900 บาท ทั้งสองรุ่นมาพร้อมโฮมชาร์จเจอร์ฟรี ประกันภัยรถยนต์ EV ชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก ทำให้ BYD ATTO 3 เป็น รถ SUV EV ยอดนิยม ที่น่าจับตา
BYD M6: สำหรับรุ่น Dynamic ดาวน์เริ่มต้นเพียง 39,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรี ประกันภัยรถยนต์ EV ชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD SEALION 7: สำหรับรุ่น Premium ดาวน์เริ่มต้นเพียง 57,495 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรี ประกันภัยรถยนต์ EV ชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
โปรโมชั่นเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการลดราคา แต่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับการลงทุนของคุณ ด้วยการมอบความคุ้มค่าสูงสุดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การเป็นเจ้าของ รถยนต์พลังงานใหม่ ในวันนี้ ไม่ใช่แค่การได้รถยนต์คันใหม่ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
สัมผัสอนาคตได้แล้ววันนี้
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานาน ผมกล้ายืนยันว่านี่คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการก้าวเข้าสู่ยุคของ รถยนต์ไฟฟ้า การเปลี่ยนแปลงนโยบายและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้การตัดสินใจในวันนี้ส่งผลต่อประสบการณ์การขับขี่และการใช้ชีวิตในอีกหลายปีข้างหน้า
เชิญทุกท่านร่วมสัมผัสและทดลองขับ ยานยนต์พลังงานใหม่ จาก BYD และ DENZA ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 (Motor Expo 2025) ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี บูธหมายเลข A06 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 หรือเยี่ยมชม โชว์รูมและศูนย์บริการ BYD และ DENZA ใกล้บ้านท่านทั้ง 167 สาขาทั่วประเทศ อย่าพลาดโอกาสครั้งสำคัญนี้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่สะอาดกว่า ปลอดภัยกว่า และมีประสิทธิภาพกว่า ร่วมเป็นเจ้าของ รถยนต์พลังงานใหม่ ที่มาพร้อมนวัตกรรมล่าสุดและข้อเสนอที่ดีที่สุด เพื่อเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ของคุณวันนี้!
เปิดมิติใหม่แห่งอนาคตยานยนต์: Rêver Automotive นำทัพ BYD และ DENZA บุก Motor Expo 2025 พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ก่อนสิ้นสุดมาตรการ EV 3.0
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของตลาดรถยนต์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มยานยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle – NEV) ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และในปี 2025 นี้ มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 (Motor Expo 2025) ได้กลายเป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนถึงวิวัฒนาการนั้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมจาก BYD และ DENZA โดย บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด (Rêver Automotive) ซึ่งถือเป็นผู้เล่นหลักที่ขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยอย่างแท้จริง
การปรากฏตัวของ Rêver Automotive ในงาน Motor Expo ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การแสดงยานยนต์ แต่เป็นการประกาศยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญ ที่ผู้บริโภคชาวไทยไม่อาจมองข้าม ด้วยพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดรวมกว่า 2,193 ตร.ม. แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับ BYD 1,591 ตร.ม. และ DENZA 602 ตร.ม. Rêver Automotive ได้เนรมิตบูธให้เป็นอาณาจักรแห่งยานยนต์พลังงานใหม่ ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์อันโดดเด่น และเหนือสิ่งอื่นใดคือ “ข้อเสนอที่ดีที่สุด” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภค ก่อนที่มาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 ของภาครัฐจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ปรากฏการณ์สำคัญ: สิ้นสุด EV 3.0 และก้าวสู่ EV 3.5
หนึ่งในประเด็นที่นักลงทุนและผู้บริโภคจับตามองมากที่สุดในปี 2025 คือการเปลี่ยนผ่านจากมาตรการ EV 3.0 สู่ EV 3.5 มาตรการ EV 3.0 ที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่น่าดึงดูดใจ ด้วยเงินสนับสนุนสูงสุดถึง 150,000 บาท สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อมาตรการนี้สิ้นสุดลง ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นจะมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ประกอบในประเทศไทย เช่น BYD DOLPHIN และ BYD ATTO 3 จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 150,000 บาทจาก EV 3.0 อีกต่อไป แต่จะได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 50,000 บาทจากมาตรการ EV 3.5 แทน ซึ่งหมายถึงราคาจำหน่ายที่อาจสูงขึ้นเฉลี่ย 100,000 บาท การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างความกดดันให้ผู้ที่กำลังพิจารณาเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าตัดสินใจให้เร็วขึ้น สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าอย่าง BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 7 และ DENZA D9 ผลกระทบยิ่งชัดเจนขึ้น เพราะนอกจากจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 75,000 บาทจากภาครัฐแล้ว ยังต้องเผชิญกับการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตจาก 2% เป็น 10% ซึ่งส่งผลให้ราคาจำหน่ายปรับสูงขึ้นถึง 8% การตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมช่วงเวลานี้จึงเป็น “โอกาสทอง” ครั้งสุดท้ายที่ผู้บริโภคจะได้เป็นเจ้าของยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ในราคาที่ดีที่สุด
เผยโฉม 3 ยนตรกรรมแห่งอนาคต: ครั้งแรกในประเทศไทย
หัวใจสำคัญของการจัดแสดงในครั้งนี้คือการเปิดตัวยานยนต์ 3 รุ่นใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยจัดแสดงที่ใดในประเทศไทยมาก่อน ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และศักยภาพด้านนวัตกรรมของ BYD และ DENZA ที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น:
DENZA B5: redefined SUV Off-Road Hybrid
DENZA B5 คือนิยามใหม่ของรถยนต์ SUV Off-Road ที่ผสานความแข็งแกร่งเข้ากับความหรูหราได้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ทรงเหลี่ยมที่ดุดันแต่แฝงไว้ซึ่งความพรีเมียม รถรุ่นนี้ตอบโจทย์การใช้งานจริงในทุกมิติ จากประสบการณ์ของผมในวงการ Denza B5 โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้ออันทรงพลัง พร้อมระบบไฮบริด DMO ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 505 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวม 760 นิวตัน-เมตร ซึ่งไม่เพียงแต่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นสำหรับการผจญภัยในทุกเส้นทางเท่านั้น แต่ยังมอบความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยมในเมืองด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 3.4 เมตร และเทคโนโลยี B-Style U-Turn นับเป็นรถที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาความอเนกประสงค์ สมรรถนะที่ไว้วางใจได้ และความสะดวกสบายระดับสูง DENZA B5 ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์ แต่เป็นประสบการณ์การเดินทางที่สมบูรณ์แบบทั้งบนทางเรียบและเส้นทางทุรกันดาร
BYD Ti7: Urban SUV สไตล์ Adventure สุดล้ำ
BYD Ti7 คืออีกหนึ่งไฮไลท์ที่ดึงดูดทุกสายตา ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด “STARSHIP Ark” ที่หลอมรวมความดุดันเข้ากับความล้ำสมัยของตัวถังทรงเหลี่ยม มอบกลิ่นอายของ Urban SUV สไตล์ Adventure ที่พร้อมจะพาคุณออกไปสำรวจโลกกว้าง ห้องโดยสารได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันสไตล์ Dual Layer Symmetry พร้อมด้วย BYD Intelligent Cockpit ที่เชื่อมต่อการแสดงผลผ่านหน้าจอหลากหลาย รวมถึงระบบแสดงผลบนกระจกหน้า AR-HUD ขนาด 26 นิ้ว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ สร้างประสบการณ์การขับขี่เสมือนจริง และอุปกรณ์เสริมหน้าจอผู้โดยสารด้านหลัง BYD PAD ขนาด 13 นิ้ว ที่ทำหน้าที่เสมือนศูนย์กลางความบันเทิงและการควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถ ซึ่งจากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ นี่คือการยกระดับประสบการณ์การเดินทางสู่มิติใหม่ BYD Ti7 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV แบบ DM 5.0 platform 4WD ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง เข้ากับ BYD Blade Battery ให้กำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 620 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ถึง 155 กิโลเมตร (NEDC) พร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Fi-Pilot L2+ มากถึง 20 ระบบ ทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุด
DENZA D9 Phantom Edition: MPV หรูหราเหนือระดับ
DENZA D9 Phantom Edition คือการยกระดับมาตรฐานของรถยนต์ MPV สู่ความหรูหราและความสง่างามขั้นสูงสุด ด้วยชุดตกแต่งสเกิร์ตรอบคันใหม่ กระจังหน้าที่ได้รับการปรับดีไซน์ และชุดสปอยเลอร์ที่เพิ่มความสปอร์ตอย่างลงตัว ภายในห้องโดยสารได้รับการยกระดับด้วยจอเพดานระบบสัมผัสสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่สะท้อนถึงความเข้าใจในความต้องการของผู้โดยสารระดับพรีเมียม มอบความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการพักผ่อน Denza D9 Phantom Edition ไม่ใช่แค่รถยนต์สำหรับเดินทาง แต่เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่มอบความสะดวกสบายและประสบการณ์สุดพิเศษ ที่ทำให้ทุกการเดินทางกลายเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ การนำเสนอ D9 Phantom Edition ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ DENZA ในการเป็นผู้นำตลาด MPV ระดับพรีเมียมที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับนวัตกรรมได้อย่างไร้ที่ติ
เทคโนโลยีขับเคลื่อนแห่งอนาคต: DM-i Super Hybrid และ BYD Blade Battery
นอกเหนือจากรถยนต์รุ่นใหม่ สิ่งที่ BYD และ DENZA นำเสนอและควรค่าแก่การกล่าวถึงคือเทคโนโลยีหลักที่ขับเคลื่อนยานยนต์เหล่านี้:
DM-i Super Hybrid: ระบบ PHEV อันเป็นเอกลักษณ์ของ BYD ที่แตกต่างจากระบบ Plug-in Hybrid ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง จากประสบการณ์ของผม DM-i Super Hybrid คือความล้ำหน้าอย่างแท้จริง เพราะเน้นการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ ตอบสนองฉับไว และให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า EV เต็มรูปแบบ แต่ยังคงความยืดหยุ่นในการใช้เชื้อเพลิงเมื่อจำเป็น ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางและสถานีชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการผสานพลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงอย่างชาญฉลาด DM-i Super Hybrid จึงเป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัด ความแรง และความสะดวกสบายในการใช้งาน
BYD Blade Battery: แบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า และ BYD Blade Battery คือนวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการ ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด ลดความเสี่ยงจาก Thermal Runaway และยังสามารถเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน ทำให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ระยะทางที่ไกลขึ้น จากการวิเคราะห์ของผม Blade Battery ไม่เพียงแต่เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังมีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว
ทัพยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD พร้อมข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ
Rêver Automotive ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์แคมเปญส่งเสริมการขายที่แข็งแกร่งสำหรับรถยนต์ BYD รุ่นยอดนิยมอื่นๆ ที่พิสูจน์แล้วในตลาดไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนผ่านมาตรการ EV 3.0 สู่ EV 3.5 นี้ ผู้บริโภคมากกว่า 100,000 รายทั่วประเทศต่างให้การยอมรับในคุณภาพและนวัตกรรมของ BYD
BYD DOLPHIN: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กยอดนิยม ด้วยราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 449,900 บาท หรือ 459,900 บาท พร้อม Home Charger ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟิล์มเซรามิก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกเพื่อการใช้งานในเมือง ประหยัดพลังงาน และคล่องตัว
BYD ATTO 3: รถยนต์ SUV ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย ด้วยยอดขายอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า SUV มาพร้อมราคาพิเศษในรุ่น Premium เพียง 629,900 บาท หรือ 639,900 บาท และรุ่น Extended 699,900 บาท หรือ 709,900 บาท พร้อม Home Charger ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟิล์มเซรามิก รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีอัจฉริยะภายในห้องโดยสาร ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวยุคใหม่
BYD M6: รถยนต์ MPV ไฟฟ้าหรูหรา ที่มอบความสะดวกสบายเหนือระดับ ด้วยดาวน์เริ่มต้นเพียง 39,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟิล์มเซรามิก เหมาะสำหรับผู้บริหาร หรือครอบครัวใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางและความหรูหราในการเดินทาง
BYD SEALION 7: รถยนต์ SUV ไฟฟ้าพรีเมียม ด้วยดาวน์เริ่มต้นเพียง 57,495 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟิล์มเซรามิก สะท้อนถึงความลงตัวระหว่างดีไซน์ สปอร์ต สมรรถนะ และเทคโนโลยีขั้นสูง
BYD Seal 5 DM-i และ BYD SEALION 6 DM-i: สำหรับผู้ที่มองหาความประหยัดสูงสุดแต่ยังต้องการสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม BYD Seal 5 DM-i ซีดานขนาดกลาง และ BYD SEALION 6 DM-i รถยนต์ SUV พรีเมียม ที่มาพร้อมระบบ DM-i Super Hybrid สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าได้ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง พร้อมข้อเสนอพิเศษ ดาวน์เริ่มต้นเพียง 34,995 บาท (Seal 5 DM-i) และ 44,995 บาท (SEALION 6 DM-i) หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟิล์มเซรามิก
Rêver Automotive: ผู้นำที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ ได้กล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Rêver ในการนำเสนอยานยนต์พลังงานใหม่ที่ดีที่สุด และการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปข้างหน้าท่ามกลางความท้าทายต่างๆ ส่วนนางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้เน้นย้ำถึงเทคโนโลยีของ BYD และ DENZA ที่ไม่เพียงสร้างความตื่นตาตื่นใจ แต่ยังส่งเสริมความยั่งยืน และนำเทคโนโลยีที่ดีกว่ามาสู่ชาวไทยเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า Rêver Automotive ไม่ได้เป็นเพียงผู้จัดจำหน่าย แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ที่ใหญ่กว่าในการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในประเทศไทย
บทสรุปและโอกาสสุดท้ายที่ไม่อาจพลาด
ปี 2025 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย การสิ้นสุดของมาตรการ EV 3.0 และการปรับเปลี่ยนไปสู่ EV 3.5 ส่งผลโดยตรงต่อโครงสร้างราคาและนโยบายสนับสนุน สิ่งนี้ทำให้ข้อเสนอสุดพิเศษจาก Rêver Automotive ในงาน Motor Expo ครั้งที่ 42 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี บูธหมายเลข A06 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 กลายเป็นโอกาสที่หาไม่ได้อีกแล้ว
ดังนั้น หากคุณคือผู้ที่กำลังมองหายานยนต์พลังงานใหม่ ที่มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย ความปลอดภัยสูงสุด ประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือกว่า และข้อเสนอที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา นี่คือช่วงเวลาที่คุณต้องตัดสินใจ ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในอุตสาหกรรม ผมขอยืนยันว่าการลงทุนในยานยนต์ไฟฟ้าจาก BYD และ DENZA ในช่วงเวลานี้ ไม่ใช่เพียงแค่การซื้อรถยนต์ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตที่ยั่งยืน และความคุ้มค่าที่คุณจะสัมผัสได้ในระยะยาว
อย่าพลาดโอกาสครั้งสำคัญนี้! แวะมาสัมผัสและทดลองขับยานยนต์พลังงานใหม่แห่งอนาคตจาก BYD และ DENZA ที่งาน Motor Expo 2025 หรือเยี่ยมชมโชว์รูมและศูนย์บริการ BYD และ DENZA ใกล้บ้านคุณทั้ง 167 สาขาทั่วประเทศ ก่อนที่ข้อเสนอสุดพิเศษและมาตรการสนับสนุนจะสิ้นสุดลง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมยานยนต์พลังงานใหม่เหล่านี้ถึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณและโลกของเรา
