ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
บทความนี้เป็นบทความใหม่ที่เขียนขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับผู้บริโภคชาวไทยในปี 2568 โดยได้มีการปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดและนโยบาย EV ล่าสุด
ก้าวสู่ยุคใหม่ของยานยนต์พลังงานสะอาด: Rêver Automotive เปิดวิสัยทัศน์ที่ Motor Expo 2025 พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษส่งท้ายมาตรการ EV 3.0
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้เลยว่ามหกรรมยานยนต์ปลายปี 2568 หรือ Motor Expo 2025 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ไม่ได้เป็นเพียงงานแสดงรถยนต์ประจำปีทั่วไป แต่คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ผู้บริโภคชาวไทยที่กำลังมองหารถยนต์พลังงานใหม่ ไม่ว่าจะ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือ รถยนต์ Plug-in Hybrid (PHEV) จะพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่นโยบายสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐกำลังจะเข้าสู่เฟสใหม่
บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์พลังงานใหม่แบรนด์ BYD และ DENZA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้เตรียมการอย่างยิ่งใหญ่เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด ด้วยพื้นที่จัดแสดงที่กว้างขวางที่สุดในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 กว่า 2,193 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับ BYD โดยเฉพาะ 1,591 ตร.ม. และ DENZA 602 ตร.ม. การลงทุนอันมหาศาลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเรเว่ ที่จะนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสกับรถยนต์พลังงานใหม่หลากหลายรุ่น รวมถึง 3 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และที่สำคัญที่สุดคือ การนำเสนอ โปรโมชั่นรถ EV 2568 ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของ รถยนต์ไฟฟ้า BYD ราคาถูก ก่อนที่มาตรการ EV 3.0 จะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้
ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด: เปิดตัว 3 ยานยนต์แห่งอนาคตครั้งแรกในไทย
หัวใจสำคัญของการมาเยือนบูธเรเว่ในปีนี้คือการได้ยลโฉมและสัมผัสประสบการณ์จริงกับ 3 สุดยอดยานยนต์พลังงานใหม่ที่ไม่เคยจัดแสดงที่ใดในประเทศไทยมาก่อน ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ BYD และ DENZA ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ตอบรับ นวัตกรรมยานยนต์ 2025 และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง
DENZA B5: นิยามใหม่ของ SUV Off-Road พรีเมียมสำหรับชีวิตเมืองและทุกการผจญภัย
DENZA B5 คือรถยนต์ SUV off-road ที่ออกแบบมาเพื่อท้าทายทุกข้อจำกัด ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งดุดันภายนอก แต่ยังผสานเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่ล้ำสมัยเข้ากับสุนทรียศาสตร์แห่งดีไซน์ทรงเหลี่ยมแบบพรีเมียมได้อย่างลงตัว จากประสบการณ์ในการวิเคราะห์ตลาด ผมมองว่า DENZA B5 คือคำตอบสำหรับผู้ที่มองหา รถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่นใหม่ ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นบนท้องถนน แต่ยังพร้อมพาคุณลุยไปได้ทุกเส้นทาง
ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเป็นพิเศษเพียง 3.4 เมตร ร่วมกับเทคโนโลยี B-Style U-Turn ทำให้การขับขี่ในสภาพการจราจรหนาแน่นของเมืองใหญ่กลายเป็นเรื่องง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะเดียวกัน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันทรงพลังและระบบไฮบริด DMO ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ได้อย่างไร้รอยต่อ มอบกำลังรวมสูงสุดถึง 505 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร ก็พร้อมพาคุณทะยานไปในเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นใจ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในที่ครบครันถูกออกแบบมาเพื่อมอบความสุนทรียภาพตลอดการเดินทางอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในชีวิตประจำวัน หรือการออกผจญภัยสุดสัปดาห์ DENZA B5 จะเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ
BYD Ti7: Urban SUV สไตล์ Adventure ที่มาพร้อมห้องโดยสารอัจฉริยะล้ำยุค
BYD Ti7 คืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “STARSHIP Ark” ที่ผสานความดุดันของตัวถังทรงเหลี่ยมเข้ากับความล้ำสมัย สะท้อนถึง แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่เน้นทั้งดีไซน์และฟังก์ชัน
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือห้องโดยสารที่ออกแบบสไตล์ Dual Layer Symmetry พร้อมด้วย BYD Intelligent Cockpit ที่เชื่อมต่อการแสดงผลผ่านหน้าจอต่างๆ ได้อย่างอัจฉริยะ รวมถึงระบบแสดงผลบนกระจกหน้า AR-HUD ขนาดใหญ่ถึง 26 นิ้ว ที่ให้ข้อมูลการขับขี่สำคัญๆ แบบ Augmented Reality ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมหน้าจอผู้โดยสารด้านหลัง BYD PAD ขนาด 13 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถยนต์ได้โดยตรง เสมือนมีแท็บเล็ตประสิทธิภาพสูงเป็นศูนย์กลางควบคุมในรถ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV แบบ DM 5.0 platform 4WD ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลังเข้ากับ BYD Blade Battery มอบกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 620 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 155 กิโลเมตร (NEDC) และยังมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Fi-Pilot L2+ มากถึง 20 ระบบ ทำให้ BYD Ti7 เป็นมากกว่า รถ SUV ไฟฟ้า แต่เป็นศูนย์บัญชาการอัจฉริยะบนล้อที่พร้อมจะพาคุณผจญภัยไปในเมืองและนอกเมืองได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
DENZA D9 Phantom Edition: ที่สุดแห่งความหรูหราสง่างามของ MPV ระดับผู้บริหาร
สำหรับผู้ที่มองหาความเหนือระดับในการเดินทาง DENZA D9 Phantom Edition ที่เปิดตัวครั้งแรกในไทย คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ นี่คือ MPV ไฟฟ้าหรู ที่ถูกยกระดับความสง่างามด้วยชุดตกแต่งสเกิร์ตรอบคันดีไซน์สปอร์ต และกระจังหน้าแบบใหม่ ที่เสริมบุคลิกให้ดูภูมิฐานและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่ทำให้ DENZA D9 Phantom Edition แตกต่างอย่างแท้จริงคือประสบการณ์ภายในห้องโดยสารที่ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายและความบันเทิงระดับสูงสุด โดยเฉพาะจอเพดานระบบสัมผัสสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 15.6 นิ้ว ที่ช่วยให้ทุกท่านเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะสำหรับผู้บริหารที่ต้องการพื้นที่ทำงานส่วนตัว หรือครอบครัวใหญ่ที่ต้องการความบันเทิงตลอดทริป DENZA D9 Phantom Edition นำเสนอการเดินทางที่เปี่ยมด้วยรสนิยม ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีล้ำสมัย ผมมั่นใจว่า DENZA D9 ราคา ที่เรเว่จะนำเสนอ จะเป็นข้อเสนอที่คุ้มค่าสำหรับรถยนต์ระดับนี้
พลังแห่ง DM-i Super Hybrid: ทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับยานยนต์พลังงานใหม่
นอกเหนือจากรถยนต์ EV เต็มรูปแบบ BYD ยังคงเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ซึ่งเป็นนวัตกรรมระบบ PHEV ที่มีให้เลือกทั้งในตัวถัง SUV และ Sedan จากประสบการณ์ผมมองว่านี่คือเทคโนโลยีที่เป็นสะพานเชื่อมที่ยอดเยี่ยมระหว่างรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ยังมีความกังวลเรื่องสถานีชาร์จหรือระยะทาง
DM-i Super Hybrid จาก BYD แตกต่างจากระบบ PHEV ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเน้นการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้มอบความรู้สึกในการขับขี่ที่เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า EV ทั้งการตอบสนองที่ฉับไว ไร้เสียงรบกวน แต่ข้อดีคือคุณไม่ต้องพะวงเรื่องการชาร์จตลอดเวลา และยังใช้เชื้อเพลิงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เทคโนโลยีนี้ยังมาพร้อมกับ BYD Blade Battery ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ระดับชั้นนำของวงการ มั่นใจได้ในความปลอดภัยและระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตร
BYD Seal 5 DM-i: ซีดานขนาดกลางรุ่นแรกของไทยที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงสุด 120 กิโลเมตร (NEDC) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัด ความหรูหรา และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมสำหรับชีวิตประจำวัน
BYD SEALION 6 DM-i: รถยนต์ SUV พรีเมียมและมีสไตล์ ที่สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงสุด 104 กิโลเมตร (NEDC) ผสมผสานความสะดวกสบายของ SUV เข้ากับเทคโนโลยี DM-i ได้อย่างลงตัว
ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายและเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ DM-i Super Hybrid จึงเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่เรเว่ภูมิใจนำเสนอ และเป็นเหตุผลว่าทำไม BYD ถึงครองใจผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า 100,000 ราย ให้การยอมรับในคุณภาพและนวัตกรรมระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม
ช่วงเวลาทองคำ: ทำไม Motor Expo 2025 จึงเป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณไม่ควรพลาด!
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านตลาด ผมขอย้ำว่านี่คือ “ช่วงเวลาทองคำ” ที่แท้จริง สำหรับการเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจาก มาตรการ EV 3.0 จากภาครัฐ ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
หลังจากวันที่ 31 ธันวาคม 2568 สถานการณ์ราคา รถยนต์ไฟฟ้าลดภาษี จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ:
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ผลิตในประเทศไทย: ได้แก่ BYD DOLPHIN และ BYD ATTO 3 ซึ่งปัจจุบันได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 150,000 บาท จากโครงการ EV 3.0 จะไม่ได้รับเงินจำนวนนี้อีกต่อไป แต่จะได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดเพียง 50,000 บาท จากโครงการ EV 3.5 แทน ซึ่งหมายถึงราคาจำหน่ายที่ผู้บริโภคต้องจ่ายจะเพิ่มขึ้นถึง 100,000 บาท
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านำเข้า: ได้แก่ BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 7 และ DENZA D9 นอกจากจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐสูงสุดมูลค่า 75,000 บาทแล้ว ยังจะมีการปรับอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 8% รวมเป็น 10% ส่งผลให้ราคาจำหน่ายในท้องตลาดสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การสิ้นสุดของมาตรการ EV 3.0 และการเข้าสู่ EV 3.5 ในปี 2569 จะทำให้ ราคารถยนต์ไฟฟ้า BYD ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็น รถยนต์ไฟฟ้าผ่อนถูก และคุ้มค่าอย่างยิ่ง ต้องปรับตัวสูงขึ้น ผมจึงขอแนะนำว่า นี่คือจังหวะที่ดีที่สุดสำหรับการตัดสินใจ ซื้อรถ EV ตอนไหนดี คำตอบคือ “ตอนนี้” เพื่อให้คุณยังได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดจากการสนับสนุนของภาครัฐ ก่อนที่นโยบายใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้
ข้อเสนอสุดพิเศษจากเรเว่: คว้าโอกาสเป็นเจ้าของยานยนต์แห่งอนาคต
เรเว่ตระหนักดีถึงความสำคัญของช่วงเวลานี้ จึงได้เตรียมแคมเปญ โปรโมชั่นรถ EV 2568 ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นเจ้าของยานยนต์พลังงานใหม่คุณภาพระดับโลก ก่อนที่ราคาจะมีการปรับตัว โดยมีข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับแต่ละรุ่นดังนี้
BYD DOLPHIN: สำหรับรุ่นย่อย Standard ราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 449,900 บาท หรือเลือกรับข้อเสนอพร้อมโฮมชาร์จเจอร์ ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD ATTO 3:
รุ่นย่อย Premium ราคาพิเศษ 629,900 บาท หรือพร้อมโฮมชาร์จเจอร์
รุ่นย่อย Extended ราคาพิเศษ 699,900 บาท หรือพร้อมโฮมชาร์จเจอร์
ทั้งสองรุ่นย่อย ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD M6: สำหรับรุ่นย่อย Dynamic ดาวน์เริ่มต้นเพียง 39,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD SEALION 7: สำหรับรุ่นย่อย Premium ดาวน์เริ่มต้นเพียง 57,495 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD Seal 5 DM-i: ในรุ่นย่อย Premium ดาวน์เริ่มต้นเพียง 34,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD SEALION 6 DM-i: ในรุ่นย่อย Dynamic ดาวน์เริ่มต้นเพียง 44,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
ข้อเสนอเหล่านี้คือโอกาสทองที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล และเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่ที่มีคุณภาพและนวัตกรรมล้ำสมัยได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
Rêver Automotive: ผู้นำที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่ความยั่งยืน
ผมได้เห็นการเติบโตและการลงทุนอย่างต่อเนื่องของเรเว่ ออโตโมทีฟ ในประเทศไทยมาโดยตลอด เรเว่ไม่เพียงเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกและผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ในประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแท้จริง ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีที่ดีกว่ามาสู่ชาวไทย พร้อมสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนกว่าสำหรับทุกคน
จากความมุ่งมั่นในการขยาย ศูนย์บริการ BYD ทั่วประเทศ กว่า 167 สาขา แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการให้บริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์ ไม่ว่าคุณจะเลือก BYD Dolphin ผ่อนเท่าไหร่ หรือ BYD Atto 3 ราคาพิเศษ ความอุ่นใจในการบริการคือสิ่งสำคัญ
โอกาสครั้งสำคัญที่ห้ามพลาด!
การตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่ในตอนนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่การซื้อรถยนต์ แต่คือการลงทุนในอนาคตที่ยั่งยืน และการใช้ประโยชน์จาก สิทธิประโยชน์รถยนต์ไฟฟ้า สูงสุดที่ภาครัฐยังคงมอบให้ ผมจึงขอเชิญชวนทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กำลังศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบรถยนต์ไฟฟ้า หรือผู้ที่พร้อมแล้วที่จะเป็นเจ้าของ
อย่าพลาดโอกาสสำคัญที่สุดในการครอบครองยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ซึ่งมาพร้อมนวัตกรรมล่าสุดและข้อเสนอที่ดีที่สุด ที่มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 (Motor Expo 2025) ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี บูธหมายเลข A06 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 หรือเยี่ยมชม รถยนต์ BYD รุ่นใหม่ และ รถยนต์ DENZA รุ่นใหม่ ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ BYD และ DENZA ใกล้บ้านท่านทั้ง 167 สาขาทั่วประเทศ
พบกับเราวันนี้ เพื่ออนาคตที่เหนือกว่าของการเดินทาง!
เรเว่ ออโตโมทีฟ: ปฏิวัติวงการยานยนต์พลังงานใหม่สู่ยุค 2025 มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมกล้ากล่าวได้อย่างเต็มปากว่าช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์พลังงานใหม่ ไม่เคยมีความน่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยโอกาสอันเหนือชั้นเท่าปี 2025 อีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการปรากฏตัวอันยิ่งใหญ่ของ เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ BYD และ DENZA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ที่มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 หรือ Motor Expo 2025 ณ อิมแพค เมืองทองธานี การลงทุนมหาศาลเพื่อเนรมิตพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาถึง 2,193 ตารางเมตร ไม่ได้เป็นเพียงการแสดงศักยภาพ แต่เป็นการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
ปี 2025 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ผู้บริโภคชาวไทยจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น พร้อมกับโอกาสสุดท้ายในการคว้าสิทธิประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าภาครัฐ EV 3.0 ที่จะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้ นี่คือจุดบรรจบที่สมบูรณ์แบบระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัย ข้อเสนอที่เหนือความคาดหมาย และจังหวะเวลาที่ไม่อาจย้อนคืนได้ ในการเป็นเจ้าของยนตรกรรมพลังงานใหม่ระดับโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าคันแรก หรือต้องการอัปเกรดสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ผมเชื่อว่าบูธของ BYD และ DENZA ณ Motor Expo 2025 จะเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่สุดของคุณ
3 ยนตรกรรมใหม่แกะกล่อง: นิยามแห่งอนาคตบนท้องถนนไทย
หัวใจสำคัญของการมาเยือน Motor Expo 2025 ของ เรเว่ ออโตโมทีฟ คือการเปิดตัวยานยนต์พลังงานใหม่ 3 รุ่น ที่ไม่เคยเผยโฉมที่ใดในประเทศไทยมาก่อน ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ BYD และ DENZA ในการนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
DENZA B5: SUV Off-road ผสานเทคโนโลยี DMO มิติใหม่แห่งการผจญภัยในเมืองและนอกเมือง
สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ที่ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะ แต่เป็นคู่หูที่พร้อมลุยไปในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะหรูหราในเมืองหรือท้าทายบนเส้นทางออฟโรด DENZA B5 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย DENZA B5 สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ SUV ด้วยการผสมผสานดีไซน์ทรงเหลี่ยมสุดพรีเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ เข้ากับขีดความสามารถที่เหนือชั้น ยานยนต์คันนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความคล่องตัวสูงสุดในการขับขี่ในเมือง ด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 3.4 เมตร ร่วมกับเทคโนโลยี B-Style U-Turn ที่ทำให้การกลับรถในพื้นที่จำกัดเป็นเรื่องง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ผมในฐานะผู้ขับขี่รถยนต์หลากหลายประเภทมาอย่างยาวนาน ยอมรับว่าสร้างความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ช่วยให้การจราจรในเขตเมืองใหญ่ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป
แต่ DENZA B5 ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความคล่องตัวในเมืองเท่านั้น หัวใจสำคัญที่ทำให้ B5 แตกต่างคือระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันทรงพลัง พร้อมด้วยเทคโนโลยีไฮบริด DMO (Dual Mode Off-road) อันล้ำสมัย ซึ่งเป็นการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ได้อย่างลงตัว ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 505 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขทางเทคนิค แต่เป็นการการันตีถึงพละกำลังอันมหาศาลที่พร้อมจะพาคุณบุกตะลุยไปในทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนลูกรัง ขึ้นเขา หรือเส้นทางทุรกันดาร B5 ก็พร้อมตอบสนองได้อย่างมั่นใจ ยิ่งไปกว่านั้น ภายในห้องโดยสารยังอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน มอบประสบการณ์การเดินทางที่หรูหรา สงบเงียบ และเพลิดเพลินตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางใกล้หรือไกล DENZA B5 คือนิยามใหม่ของ SUV ที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันการใช้งาน ความหรูหรา และสมรรถนะขั้นสูง
BYD Ti7: Urban SUV สไตล์ Adventure พร้อมห้องโดยสารอัจฉริยะแห่งอนาคต
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ BYD Ti7 รถยนต์ Urban SUV สไตล์ Adventure ที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเช่นกัน Ti7 ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “STARSHIP Ark” ซึ่งสะท้อนผ่านดีไซน์ตัวถังทรงเหลี่ยมที่ผสานความดุดันเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว เมื่อแรกเห็น ผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความแข็งแกร่งและพร้อมลุย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งความโฉบเฉี่ยวที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองใหญ่ ห้องโดยสารของ BYD Ti7 คือจุดที่เทคโนโลยีแห่งอนาคตถูกนำมาใช้จริงได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการออกแบบสไตล์ Dual Layer Symmetry ที่ให้ความรู้สึกกว้างขวางและเป็นระเบียบ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ BYD Intelligent Cockpit ที่เชื่อมต่อการแสดงผลผ่านหน้าจอต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นระบบแสดงผลบนกระจกหน้า AR-HUD ขนาด 26 นิ้ว ซึ่งเป็นเหมือนการฉายข้อมูลสำคัญๆ ขึ้นบนกระจกหน้ารถ ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน และอุปกรณ์เสริมหน้าจอผู้โดยสารด้านหลัง BYD PAD ขนาด 13 นิ้ว ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถยนต์ได้โดยตรง เสมือนมีแท็บเล็ตประสิทธิภาพสูงเป็นศูนย์กลางควบคุมในรถ สิ่งเหล่านี้คือการยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้เหนือไปอีกขั้น มอบความบันเทิงและความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารทุกคน
ในด้านสมรรถนะ BYD Ti7 มาพร้อมขุมพลัง PHEV แบบ DM 5.0 platform 4WD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง เข้ากับ BYD Blade Battery อันเป็นหัวใจสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้า BYD แพลตฟอร์ม DM 5.0 มอบกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 620 นิวตันเมตร ซึ่งให้พละกำลังที่เหลือเฟือสำหรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ยังสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 155 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันสำหรับหลายๆ คน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงได้อย่างมีนัยสำคัญ และที่สำคัญ Ti7 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Fi-Pilot L2+ มากถึง 20 ระบบ ซึ่งยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ไปอีกขั้น ช่วยลดความเมื่อยล้าและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางได้อย่างยอดเยี่ยม
DENZA D9 Phantom Edition: MPV หรูเหนือระดับ สู่ประสบการณ์การเดินทางสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
สำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหรา ความสะดวกสบายสูงสุด และพื้นที่กว้างขวางสำหรับครอบครัวหรือการเดินทางเพื่อธุรกิจ DENZA D9 Phantom Edition คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่สุด การเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยของรุ่น Phantom Edition นี้เป็นการยกระดับรถ MPV (Multi-Purpose Vehicle) ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ด้วยชุดตกแต่งสเกิร์ตรอบคันดีไซน์สปอร์ต กระจังหน้าแบบใหม่ และชุดสปอยเลอร์ ที่เพิ่มความสง่างามและความสปอร์ตให้กับตัวรถได้อย่างลงตัว เมื่อมองจากภายนอก D9 Phantom Edition จะสะกดทุกสายตาด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและมีระดับ
แต่ความพิเศษที่แท้จริงของ DENZA D9 Phantom Edition อยู่ที่ภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ที่จะได้รับความสะดวกสบายสูงสุดด้วยจอเพดานระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ซึ่งเป็นศูนย์รวมความบันเทิงและการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย มอบประสบการณ์การเดินทางที่เพลิดเพลินและเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง นอกจากนี้ วัสดุคุณภาพสูง การตกแต่งภายในที่ประณีต และเบาะนั่งที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระอย่างดีเยี่ยม ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ DENZA D9 Phantom Edition กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการยานยนต์ MPV ที่มอบความเหนือระดับในทุกมิติ
DM-i Super Hybrid: เทคโนโลยี PHEV ที่ฉีกทุกกฎการขับขี่
นอกจากยนตรกรรมรุ่นใหม่แล้ว เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ของ BYD ยังคงเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญต้องเน้นย้ำ ด้วยประสบการณ์ที่ได้สัมผัสและทดลองขับรถยนต์ที่ใช้ระบบ DM-i ผมกล้าพูดได้เลยว่านี่คือนวัตกรรมระบบ Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) ที่แตกต่างจากระบบอื่นๆ ในตลาดอย่างสิ้นเชิง
ความโดดเด่นของ DM-i คือการออกแบบให้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า EV อย่างแท้จริง นั่นคือการตอบสนองที่ฉับไว แรงบิดมาทันทีที่เท้าแตะคันเร่ง ไร้ซึ่งเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ และการขับขี่ที่นุ่มนวลอย่างเหนือชั้น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องพะวงเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่ตลอดเวลา เพราะเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดหรือต้องการพละกำลังเพิ่มเติม ระบบก็จะสลับไปใช้พลังงานจากเครื่องยนต์สันดาปที่ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด นี่คืออิสระที่แท้จริงของการเดินทาง ที่คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ไฟฟ้าเพื่อความเงียบสงบและการประหยัด หรือใช้น้ำมันเพื่อระยะทางที่ยาวไกลกว่าโดยไม่ต้องหยุดชาร์จบ่อยๆ
หัวใจสำคัญที่ทำให้ DM-i Super Hybrid ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมคือ BYD Blade Battery แบตเตอรี่เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลด้านความปลอดภัย ความทนทาน และประสิทธิภาพในการเก็บประจุไฟฟ้า ด้วย Blade Battery ทำให้รถยนต์ DM-i สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ และยังช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ
และสำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid นี้ เรเว่ ออโตโมทีฟ ได้นำเสนอในหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น BYD Seal 5 DM-i ซึ่งเป็นซีดานขนาดกลางรุ่นแรกของไทยที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าได้สูงสุด 120 กิโลเมตร (NEDC) มาพร้อมข้อเสนอพิเศษในรุ่นย่อย Premium ทั้งดาวน์เริ่มต้นเพียง 34,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก อีกรุ่นคือ BYD SEALION 6 DM-i รถยนต์ SUV พรีเมียมและมีสไตล์ ที่ขับขี่ด้วยไฟฟ้าได้สูงสุด 104 กิโลเมตร (NEDC) และมาพร้อมข้อเสนอพิเศษในรุ่นย่อย Dynamic ด้วยดาวน์เริ่มต้นเพียง 44,995 บาท หรืออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก ข้อเสนอเหล่านี้ถือเป็นการตอกย้ำความตั้งใจของ เรเว่ ที่จะทำให้เทคโนโลยี PHEV ที่เหนือกว่านี้เข้าถึงง่ายสำหรับคนไทย
โอกาสสุดท้ายของ EV 3.0: ทำไมต้องซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD และ DENZA ในตอนนี้
ในฐานะผู้สังเกตการณ์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามาอย่างใกล้ชิด ผมสามารถยืนยันได้ว่าช่วงเวลาปลายปี 2025 นี้คือ “โอกาสทอง” ครั้งสุดท้ายที่คุณจะสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า BYD และ DENZA พร้อมรับสิทธิประโยชน์สูงสุดจากมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าภาครัฐ EV 3.0 ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 นี้ หลังจากนั้น ราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงกว่าราคาปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ผลิตในประเทศไทยอย่าง BYD DOLPHIN และ BYD ATTO 3 จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดมูลค่า 150,000 บาทจากโครงการ EV 3.0 อีกต่อไป แต่จะได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดมูลค่า 50,000 บาทจากโครงการ EV 3.5 แทน ซึ่งหมายถึงราคาที่เพิ่มขึ้นถึง 100,000 บาท ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้านำเข้า เช่น BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 7 และ DENZA D9 นอกจากจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดจากภาครัฐมูลค่า 75,000 บาทแล้ว ยังมีการปรับอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 8% รวมเป็น 10% ซึ่งจะส่งผลให้ราคานำเข้าสูงขึ้นไปอีกอย่างมีนัยสำคัญ
สถานการณ์นี้ทำให้การตัดสินใจซื้อรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA ในช่วงเวลานี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง คุณไม่ได้เพียงแค่ได้เป็นเจ้าของนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ก่อนที่ราคาจะปรับขึ้นตามกลไกตลาดและนโยบายภาครัฐที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า 100,000 ราย ที่ให้การยอมรับในคุณภาพและนวัตกรรมระดับชั้นนำของ BYD คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์นี้
ทัพยนตรกรรมพลังงานใหม่ BYD พร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุด
นอกเหนือจากรุ่นใหม่และเทคโนโลยี DM-i แล้ว เรเว่ ออโตโมทีฟ ยังจัดเต็มด้วยข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ BYD รุ่นยอดนิยมที่ได้สร้างปรากฏการณ์ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยมาแล้ว:
BYD DOLPHIN: สำหรับรุ่นย่อย Standard มาพร้อมราคาพิเศษเพียง 449,900 บาท หรือ 459,900 บาท (พร้อมโฮมชาร์จเจอร์) ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก นี่คือโอกาสทองสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่คุ้มค่า ประหยัด และใช้งานได้จริง
BYD ATTO 3: รถยนต์ SUV ไฟฟ้ายอดนิยม สำหรับรุ่นย่อย Premium ราคาพิเศษ 629,900 บาท หรือ 639,900 บาท (พร้อมโฮมชาร์จเจอร์) และสำหรับรุ่นย่อย Extended ราคาพิเศษ 699,900 บาท หรือ 709,900 บาท (พร้อมโฮมชาร์จเจอร์) ทั้งสองรุ่นย่อยนี้มาพร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD M6: สำหรับรุ่นย่อย Dynamic มาพร้อมดาวน์เริ่มต้นเพียง 39,995 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
BYD SEALION 7: สำหรับรุ่นย่อย Premium มาพร้อมดาวน์เริ่มต้นเพียง 57,495 บาท หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และฟิล์มเซรามิก
ข้อเสนอเหล่านี้คือการเน้นย้ำว่า เรเว่ ออโตโมทีฟ ไม่ได้เพียงนำเสนอรถยนต์ที่เหนือกว่า แต่ยังนำเสนอ “ช่วงเวลาที่ดีที่สุด” ในการเป็นเจ้าของยานยนต์พลังงานใหม่ ที่มาพร้อมกับความมั่นใจและสิทธิประโยชน์สูงสุด
วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ เรเว่ ออโตโมทีฟ: ผู้นำที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม
นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการได้ครอบครองพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดในงานมหกรรมยานยนต์ระดับชาติอีกครั้ง ซึ่งไม่เพียงเป็นข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพของ เรเว่ เท่านั้น แต่ยังเป็นความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแก่ผู้บริโภค ให้ได้สัมผัสและทำความรู้จักกับยานยนต์พลังงานใหม่ล่าสุดจาก BYD และ DENZA กันอย่างจุใจ ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าการลงทุนในพื้นที่ขนาดใหญ่นี้คือการสร้างโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สำรวจนวัตกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ และได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนจากผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ คุณประธานวงศ์ยังได้แสดงความมั่นใจว่าแคมเปญล่าสุดของ เรเว่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการ EV 3.0 จากภาครัฐ จะมอบข้อเสนอและผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ทั้งยังมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปข้างหน้าท่ามกลางปัจจัยท้าทายในปัจจุบัน นี่คือมุมมองที่สะท้อนถึงความรับผิดชอบต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภค ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้นำในตลาด
นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ ได้เสริมว่า เทคโนโลยีล่าสุดมากมายที่อยู่ในรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA มิได้สร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้บริโภคเท่านั้น แต่เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้วย ภายในพื้นที่จัดแสดงของ เรเว่ จึงได้นำรถยนต์พลังงานใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังหลายแบบมาจัดแสดง ทั้ง EV และ PHEV ระดับแถวหน้าของวงการอย่าง DM-i Super Hybrid รวมถึงยานยนต์ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมแห่งโลกอนาคตจาก BYD สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ เรเว่ ที่จะนำเทคโนโลยีที่ดีกว่ามาให้ชาวไทยได้สัมผัส พร้อมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนกว่าให้กับเราทุกคน นี่คือวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนอนาคตยานยนต์พลังงานสะอาดของประเทศไทย ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับเทรนด์ระดับโลกอย่างแท้จริง
อนาคตยานยนต์ไทย 2025: ก้าวสำคัญที่ BYD และ DENZA ร่วมสร้าง
ปี 2025 ถือเป็นปีที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้มากขึ้นเกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในด้านการประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง การลดมลพิษ และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า นโยบายภาครัฐที่สนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็มีบทบาทสำคัญในการเร่งการเปลี่ยนผ่านนี้
ในบริบทนี้ BYD และ DENZA ภายใต้การนำของ เรเว่ ออโตโมทีฟ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและอนาคตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง, ระบบขับเคลื่อน DM-i Super Hybrid ที่เป็นนวัตกรรม, และการออกแบบที่ผสานความล้ำสมัยเข้ากับความต้องการใช้งานจริง แบรนด์เหล่านี้ได้มอบทางเลือกที่หลากหลายและน่าสนใจให้กับผู้บริโภค การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่าง DENZA B5, BYD Ti7 และ DENZA D9 Phantom Edition ยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของแบรนด์ในการตอบสนองความต้องการในเซกเมนต์ต่างๆ ตั้งแต่ SUV ออฟโรด ไปจนถึง MPV หรูหรา
การที่ เรเว่ ออโตโมทีฟ มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการครอบคลุมถึง 167 สาขาทั่วประเทศ คือปัจจัยสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ว่าจะได้รับการดูแลและบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีใหม่ การเข้าถึงบริการที่ง่ายดายและการสนับสนุนด้านเทคนิคที่แข็งแกร่ง คือหัวใจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในระยะยาว
สรุปและคำเชิญชวน: อย่าพลาดโอกาสครั้งสำคัญ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอย้ำว่า Motor Expo 2025 ไม่ใช่เพียงแค่งานแสดงรถยนต์ทั่วไป แต่เป็นประตูสู่การเป็นเจ้าของอนาคตแห่งยานยนต์พลังงานใหม่ ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมล้ำสมัยและข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาสุดท้ายของมาตรการ EV 3.0 นี่คือจังหวะที่ลงตัวที่สุด ที่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
อย่าปล่อยให้โอกาสอันดีที่สุดนี้หลุดมือไป เพราะเมื่อถึงปี 2026 ต้นทุนการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าอาจไม่เอื้ออำนวยเท่าวันนี้ ทัพยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD และ DENZA พร้อมให้ทุกท่านสัมผัสแล้วที่บูธหมายเลข A06 ณ มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 หรือหากไม่สะดวกเดินทางไปงาน ท่านสามารถเยี่ยมชมและทดลองขับรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ BYD และ DENZA ใกล้บ้านท่านทั้ง 167 สาขาทั่วประเทศ
ก้าวเข้ามาสัมผัสอนาคตและคว้าข้อเสนอที่ดีที่สุด เพื่อการเดินทางที่ยั่งยืนและเหนือระดับของคุณได้แล้ววันนี้! ทีมงานผู้เชี่ยวชาญจาก เรเว่ ออโตโมทีฟ พร้อมให้คำแนะนำและบริการอย่างเต็มที่ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณและคนที่คุณรัก
