ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
11 สุดยอดรถยนต์เร็วที่สุดในโลกปี 2025: บทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ
ในโลกแห่งยนตรกรรมที่มีการพัฒนาไม่หยุดยั้ง การแสวงหาความเร็วสูงสุดได้กลายเป็นขีดจำกัดที่ท้าทายวิศวกรและนักออกแบบรถยนต์ทั่วโลก ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการรถยนต์สมรรถนะสูงมากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของยานยนต์เหล่านี้ จากรถสปอร์ตธรรมดา สู่ซูเปอร์คาร์ และก้าวเข้าสู่ยุคของไฮเปอร์คาร์ที่ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด ความเร็วที่เคยเป็นเพียงความฝัน วันนี้ได้กลายเป็นความจริงที่จับต้องได้ และในปี 2025 นี้เอง เราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ตอกย้ำว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเต็มไปด้วยพลังแห่งนวัตกรรม
อุปสรรคสำคัญที่เคยขวางกั้นรถยนต์ให้ไม่สามารถทำความเร็วเกิน 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 480 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ได้ถูกทำลายลงไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่สำหรับปี 2025 นี้ บรรดาไฮเปอร์คาร์รุ่นใหม่ไม่เพียงแต่ทำลายสถิติเดิมเท่านั้น แต่ยังพุ่งทะยานสู่ความเร็วระดับที่เหลือเชื่อยิ่งกว่าเดิม ด้วยวิศวกรรมที่ล้ำหน้า การใช้วัสดุน้ำหนักเบาพิเศษ และระบบอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างประณีต ยานยนต์เหล่านี้ไม่ใช่แค่เครื่องจักรที่เร็วที่สุด แต่ยังเป็นผลงานศิลปะชิ้นเอกที่แสดงถึงศักยภาพสูงสุดของมนุษย์ และนี่คือ 11 สุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ประจำปี 2025 ที่ผมคัดสรรมาให้คุณได้สัมผัสถึงขีดสุดแห่งความเร็ว
ตารางอันดับ 11 สุดยอดรถยนต์เร็วที่สุดในโลก
| อันดับ | รถยนต์ | ความเร็วสูงสุด |
| :—- | :———————– | :———————– |
| 11 | Rimac Nevera C Two | 415 กม./ชม. (258 ไมล์/ชม.) |
| 10 | Bugatti Veyron 16.4 Super Sport | 431 กม./ชม. (267.85 ไมล์/ชม.) |
| 9 | Hennessey Venom GT | 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์/ชม.) |
| 8 | Koenigsegg Agera RS | 447.19 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.) |
| 7 | Czinger 21C | 452 กม./ชม. (281 ไมล์/ชม.) |
| 6 | SSC Tuatara | 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.) |
| 5 | Bugatti Chiron Super Sport 300+ | 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.) |
| 4 | Bugatti Bolide | 498+ กม./ชม. (310+ ไมล์/ชม.) |
| 3 | Hennessey Venom F5 | 500+ กม./ชม. (310.7+ ไมล์/ชม.) |
| 2 | Koenigsegg Jesko Absolut | 531 กม./ชม. (330 ไมล์/ชม.) |
| 1 | Devel Sixteen | 550+ กม./ชม. (347 ไมล์/ชม.) |
เจาะลึก 11 สุดยอดรถยนต์เร็วที่สุดในโลก
Rimac Nevera C Two: การปฏิวัติวงการด้วยพลังงานไฟฟ้า
คงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าคำว่า “ไฟฟ้า” และ “ไฮเปอร์คาร์” จะมาบรรจบกันได้อย่างไร้รอยต่อเท่ากับ Rimac Nevera C Two นี่คือบทพิสูจน์ว่าอนาคตแห่งความเร็วไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครื่องยนต์สันดาปภายในอีกต่อไป Nevera มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาด 120kWh และมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด สร้างแรงบิดมหาศาลที่ส่งพละกำลังสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างทันท่วงที ทำให้รถคันนี้สามารถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 1.85 วินาที ซึ่งเร็วกว่าซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์น้ำมันหลายคันที่อยู่ในลิสต์นี้เสียอีก
Rimac ไม่ได้แค่สร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็ว แต่ยังสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น ด้วยกล้อง 13 ตัวที่คอยจับภาพและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยผู้ขับขี่ปรับปรุงสมรรถนะบนสนามแข่งแบบเรียลไทม์ Nevera เป็นมากกว่ารถยนต์ มันคือคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนได้ เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ยุคแห่งพลังงานสะอาด โดยยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่งความเร็วไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ความเร็วสูงสุด: 415 กม./ชม. (258 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.85 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.rimac-automobili.com
Bugatti Veyron 16.4 Super Sport: ตำนานผู้บุกเบิก
แม้จะเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดารายชื่อนี้ แต่ Bugatti Veyron 16.4 Super Sport ยังคงยืนหยัดอย่างสง่างามในฐานะผู้บุกเบิกและเป็นบรรพบุรุษของไฮเปอร์คาร์ยุคใหม่ Veyron ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับทั้ง Bugatti และผู้ผลิตรายอื่นๆ ด้วยการผลักดันขีดจำกัดทางวิศวกรรมยานยนต์ไปสู่จุดที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ผมจำได้ว่าตอนที่ Veyron เปิดตัวครั้งแรก มันสร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลก ด้วยเครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบ อันเป็นเอกลักษณ์
Veyron 16.4 Super Sport คือบทสรุปสุดท้ายของซีรีส์ Veyron ที่ได้รับการปรับปรุงในทุกมิติ ทั้งความแรง ความเสถียร และความหรูหรา มันคือการรวมกันของพลังดิบและความสง่างามที่ไร้ที่ติ การออกแบบที่โค้งมนแต่แข็งแกร่งยังคงเป็นอมตะ และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบไฮเปอร์คาร์ในปัจจุบัน Bugatti Veyron 16.4 Super Sport ไม่ใช่แค่รถยนต์ที่เร็ว แต่มันคือตำนานที่มีชีวิต ที่จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ยานยนต์ไปอีกนานแสนนาน
ความเร็วสูงสุด: 431 กม./ชม. (267.85 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.bugatti.com
Hennessey Venom GT: พลังอเมริกันบนรันเวย์ NASA
Hennessey Venom GT คือการประกาศศักดาของวิศวกรรมยานยนต์สัญชาติอเมริกัน ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 รถคันนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทำลายสถิติโลกบนรันเวย์ของศูนย์อวกาศเคนเนดีของ NASA การพัฒนา Venom GT ใช้เวลากว่าสองปีเต็ม และผลิตออกมาเพียง 29 คันทั่วโลก แต่ละคันมีราคาเริ่มต้นที่ 1.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของความเร็วระดับตำนาน
สิ่งที่ทำให้ Venom GT โดดเด่นคือโครงสร้างแชสซีคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงต้านอากาศ ทำให้รถคันนี้มีรูปลักษณ์ที่ดูปราดเปรียวและดุดันราวกับเสือดำที่พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ทุกเมื่อ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบของมันให้พละกำลังมหาศาล ที่สามารถผลักดันให้ Venom GT ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 434 กม./ชม. และเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.05 วินาที นี่คือเครื่องจักรแห่งความเร็วที่บ่งบอกถึงจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันของ Hennessey อย่างแท้จริง
ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 3.05 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.hennesseyspecialvehicles.com
Koenigsegg Agera RS: งานฝีมือจากสวีเดนผู้ท้าทายสถิติ
Koenigsegg Agera RS ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นผู้ท้าทายสถิติโลกโดยเฉพาะ ด้วยการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว ดุดัน และประสิทธิภาพที่ไร้ที่ติ Agera RS คือบทสรุปของความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ไฮเปอร์คาร์ที่สมบูรณ์แบบของ Koenigsegg แบรนด์จากสวีเดนคันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างรถยนต์ที่เร็วและพิเศษกว่าใคร รถคันนี้ถูกผลิตขึ้นด้วยมือเพียง 25 คันเท่านั้น โดย 10 คันแรกถูกจองหมดก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทำให้มันเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่หายากและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก
หัวใจของ Agera RS คือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลังถึง 1176 แรงม้า พร้อมแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต จุดเด่นที่น่าประทับใจคือชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดถูกผลิตขึ้นภายในโรงงานของ Koenigsegg เอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและความใส่ใจในรายละเอียดอย่างสูงสุด Agera RS ไม่ใช่แค่รถที่เร็ว แต่มันคือเครื่องบ่งชี้ถึงมาตรฐานใหม่ในโลกของไฮเปอร์คาร์ ทั้งในด้านความเร็ว การออกแบบ และงานฝีมือ
ความเร็วสูงสุด: 447.19 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.koenigsegg.com
Czinger 21C: นวัตกรรมแห่งศตวรรษที่ 21
แตกต่างจากซูเปอร์คาร์ทั่วไปที่อาจยังคงยึดติดกับวิธีการและดีไซน์แบบดั้งเดิม Czinger 21C คือรถยนต์ที่ถูกสร้างมาเพื่อศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง มันคือการก้าวไปข้างหน้าในทุกมิติ ด้วยประสิทธิภาพการทำลายสถิติรอบสนามที่น่าทึ่ง และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่ไม่เคยมีในรถยนต์คันไหนมาก่อน 21C ใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ แรงกดอากาศมหาศาล และอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้รถคันนี้เป็นเลิศทั้งภายในและภายนอก
Czinger 21C ผสานพลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยระบบไฟฟ้า 800 โวลต์ที่คล้ายกับที่พบในรถ Formula 1 ซึ่งช่วยเสริมกำลังขับเคลื่อนได้อย่างมหาศาล แม้จะไม่สามารถทำความเร็วสูงสุดด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ แต่ก็มีกำลังเพียงพอที่จะเดินทางในระยะทางปานกลางโดยไม่ใช้น้ำมัน นี่คือการมองเห็นอนาคตของไฮเปอร์คาร์ที่ยั่งยืนแต่ยังคงมอบความเร้าใจสูงสุดให้กับผู้ขับขี่
ความเร็วสูงสุด: 452 กม./ชม. (281 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.czinger.com
SSC Tuatara: ความเร็วที่ถูกยืนยัน
Shelby SuperCars (SSC) ไม่ใช่หน้าใหม่ในโลกแห่งความเร็ว ในปี 2007 SSC Ultimate Aero เคยครองตำแหน่งรถโปรดักชั่นที่เร็วที่สุดในโลกมาแล้ว และในยุคนั้น การทำความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมงยังคงเป็นเพียงความฝัน แต่ปัจจุบัน SSC ได้มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนความฝันนั้นให้เป็นจริงด้วย Tuatara รถคันนี้ผสมผสานตัวถังที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำมากเพียง 0.279 เข้ากับเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 1,750 แรงม้า ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้ว่าจะมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับความเร็วสูงสุดที่เคยอ้างว่าทำได้ถึง 331 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งภายหลังถูกแก้ไข แต่ SSC ก็ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า Tuatara สามารถทำความเร็วได้ถึง 295.0 ไมล์ต่อชั่วโมง (474.8 กม./ชม.) ในปี 2022 โดยมี Racelogic เป็นผู้ยืนยัน ซึ่ง SSC เชื่อว่านี่ไม่ใช่ขีดจำกัดที่แท้จริงของรถคันนี้ และยังคงมีความเป็นไปได้ที่ Tuatara จะสามารถทำความเร็วได้สูงกว่านี้อีกในอนาคต ทำให้มันยังคงเป็นหนึ่งในไฮเปอร์คาร์ที่น่าจับตาที่สุด
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.sscnorthamerica.com
Bugatti Chiron Super Sport 300+: ผู้บุกเบิกความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง
Bugatti คือชื่อที่คุ้นเคยในวงการไฮเปอร์คาร์หรูมาอย่างยาวนาน ด้วยเครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบที่ได้รับการอัปเกรดอย่างเข้มข้นใน Bugatti Chiron Super Sport 300+ ทำให้รถคันนี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ จน Bugatti สามารถยึดครองถึงสามอันดับในลิสต์รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกของเรา และ Super Sport 300+ ยังคงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ยานยนต์
สิ่งที่ทำให้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ โดดเด่นเป็นพิเศษคือการเป็นรถยนต์คันแรกที่สามารถทำลายสถิติความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (หรือ 483 กม./ชม.) ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน มันยังคงเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการผสมผสานระหว่างรูปทรงและฟังก์ชันการทำงาน อากาศพลศาสตร์ และความสวยงามได้อย่างลงตัว ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.4 วินาที Bugatti คันนี้จึงเป็นตัวแทนของความเร็วและสไตล์ที่มาพร้อมกันอย่างแท้จริง
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.4 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 3.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.bugatti.com
Bugatti Bolide: สุดยอดแห่งประสิทธิภาพบนสนามแข่ง
หลังจากความสำเร็จของ Chiron Super Sport ทาง Bugatti ก็กลับมาทบทวนและพัฒนาสิ่งใหม่ การสร้างรถยนต์ให้เหนือกว่า Super Sport 300+ ที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบอยู่แล้วนั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง คำตอบของ Bugatti คือ Bolide ซึ่งเป็นไฮเปอร์คาร์น้ำหนักเบาที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนสนามแข่งโดยเฉพาะ ด้วยเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตร ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษให้มีพละกำลังถึง 1825 แรงม้า และแรงบิด 1364 ปอนด์-ฟุต ทำให้ Bolide เป็นการแสดงศักยภาพสูงสุดของเครื่องยนต์ W16 อย่างแท้จริง
Bolide มีการออกแบบที่ล้ำยุคด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์เปลือยที่แต่งแต้มด้วยสีฟ้าอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวรถมีความสูงจากพื้นเพียง 39.2 นิ้ว ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำและลดแรงต้านอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม ความเร็วสูงสุดที่คาดการณ์ไว้คือ 310 ไมล์ต่อชั่วโมง (498 กม./ชม.) และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.17 วินาที Bugatti Bolide จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่า Bugatti ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความหรูหรา แต่ยังคงเป็นผู้นำด้านวิศวกรรมสมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่อง
ความเร็วสูงสุด: 498+ กม./ชม. (310+ ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.17 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.bugatti.com
Hennessey Venom F5: พายุทอร์นาโดบนท้องถนน
Hennessey Venom F5 คืออีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกจาก John Hennessey ที่สืบทอดจิตวิญญาณแห่งความเร็วจาก Venom GT ชื่อ F5 มาจากพายุทอร์นาโดที่เร็วที่สุด ซึ่งสะท้อนถึงพละกำลังและความเร็วอันมหาศาลของรถคันนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้ฝากระโปรงของ Venom F5 คือเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบที่ผลิตในอเมริกา ซึ่งให้กำลังเกือบ 2,000 แรงม้า พลังนี้ทำให้ Venom F5 สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 484 กม./ชม. (301 ไมล์/ชม.) พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 2 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง
Venom F5 ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำลายสถิติโลกที่ Hennessey เคยทำไว้กับ Venom GT ด้วยการเพิ่มความพิเศษ ความเร็ว และราคาให้เหนือกว่าเดิม รถคันนี้ผลิตขึ้นเพียง 24 คันเท่านั้น ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์สีเหลืองสดใสทำให้มันเป็นรถที่โดดเด่นและจดจำได้ทันที Venom F5 เป็นมากกว่ารถยนต์ มันคือการแสดงออกถึงความหลงใหลในความเร็วที่ไร้ขีดจำกัดของ Hennessey
ความเร็วสูงสุด: 500+ กม./ชม. (310.7+ ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: น้อยกว่า 2 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.hennesseyspecialvehicles.com
Koenigsegg Jesko Absolut: อาวุธลับจากสวีเดน
ในขณะที่การแข่งขันเพื่อหารถยนต์ที่เร็วที่สุดมักจะวนเวียนอยู่กับ Bugatti และ Hennessey แต่ Koenigsegg Jesko Absolut ได้เข้ามาเปลี่ยนกระดานเกมอย่างสิ้นเชิง ด้วยการเพิ่มความเร็วสูงสุดขึ้นอีกเกือบ 30 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ สำหรับช่วงเวลาหนึ่ง หากมีใครถามว่ารถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกคืออะไร คำตอบก็คือ Jesko Absolut คันนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
Koenigsegg ผู้ผลิตรถยนต์จากสวีเดนได้เปิดตัว Jesko Absolut เพื่อสร้างสถิติโลกใหม่ พวกเขาจึงได้ปรับปรุงเครื่องยนต์จาก Agera RS ซึ่งเป็นซูเปอร์คาร์ยอดนิยมของพวกเขา ลงทุนในการควบคุมที่แม่นยำยิ่งขึ้น และทำให้รถคันนี้มีน้ำหนักเบาและอากาศพลศาสตร์ที่ดียิ่งขึ้นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม รถคันนี้ไม่ได้เน้นแค่ความเร็วเท่านั้น แต่ยังใส่ใจในความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ ด้วยระบบควบคุมสภาพอากาศ ระบบอินโฟเทนเมนต์ และพื้นที่วางขาและศีรษะที่มักถูกละเลยในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก Jesko Absolut สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 330 ไมล์ต่อชั่วโมง (531 กม./ชม.) ซึ่งเป็นความเร็วที่ยากจะหาใครเทียบได้
ความเร็วสูงสุด: 531 กม./ชม. (330 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.6 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 3.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.koenigsegg.com
Devel Sixteen: ปริศนาแห่งความเร็วสูงสุด
และแล้วเราก็มาถึงรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกประจำปีนี้ นั่นคือ Devel Sixteen ด้วยพลังและความเร็วที่เหลือเชื่อ มันคือรถที่ตั้งเป้าหมายที่จะทำลายทุกสถิติที่มีอยู่ ด้วยความเร็วสูงสุดที่อ้างไว้ถึง 347 ไมล์ต่อชั่วโมง (หรือกว่า 550 กม./ชม.) Devel Sixteen กำลังจ้องมองมาตรฐานความเร็วถัดไปที่ 350 ไมล์ต่อชั่วโมง และถ้าหากความเร็วนี้ได้รับการยืนยัน ก็จะถือเป็นหมุดหมายใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
Devel Sixteen เปิดตัวครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ด้วยสถิติที่ทำให้วงการยานยนต์ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ด้วยเครื่องยนต์ V16 ขนาด 12.3 ลิตร ควอด-เทอร์โบขนาด 81 มม. ที่ให้พละกำลังถึง 5,007 แรงม้า และมาพร้อมกับคำว่า “สอบถามราคา” ที่สร้างความลึกลับและน่าค้นหาให้กับรถคันนี้ Devel Sixteen เป็นรถยนต์ที่เราจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดในปีต่อๆ ไป เพราะสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับมันบ่งชี้ว่ามันจะเป็นรถที่ต้องเอาชนะหากสถิติได้รับการยืนยัน ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมหน้าของโลกไฮเปอร์คาร์ไปอย่างสิ้นเชิง
ความเร็วสูงสุด: 550+ กม./ชม. (347 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.develmotors.com
โบนัส: รถยนต์แห่งอนาคตที่น่าจับตามองที่สุด
นอกเหนือจาก 11 สุดยอดไฮเปอร์คาร์ที่กล่าวมาแล้ว โลกแห่งความเร็วยังคงมีรถยนต์อีกหลายคันที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและเตรียมที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจในอนาคตอันใกล้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมตื่นเต้นกับนวัตกรรมเหล่านี้อย่างมาก และเชื่อว่ามันจะผลักดันขีดจำกัดของความเร็วไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน นี่คือบางส่วนที่เราจะต้องจับตาดู:
Koenigsegg CC850: กำหนดเปิดตัวในปี 2024 เครื่องจักรแห่งความเร็วนี้ให้พละกำลัง 1,385 แรงม้า ต่อน้ำหนักรถ 1,385 กก. เพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 50 ปีของ Christian von Koenigsegg ผู้ก่อตั้ง
Aspark Ow: ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าจากญี่ปุ่นคันใหม่นี้คาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ในไม่ช้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวที่ให้กำลังรวม 1,985 แรงม้า ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.72 วินาที
Zenvo TSR-GT: แม้ยังไม่ระบุวันส่งมอบที่ชัดเจน แต่ TSR-GT ทั้งสามคันก็ถูกขายออกไปหมดแล้ว และคาดว่าจะมอบประสบการณ์ความเร็วสูงสุดถึง 424 กม./ชม. (263 ไมล์/ชม.) ให้กับเจ้าของผู้โชคดี
บทสรุป: การเดินทางสู่ขีดสุดแห่งความเร็ว
การไล่ล่าความเร็วสูงสุดในโลกยานยนต์ไม่มีวันสิ้นสุด รถยนต์แต่ละคันในรายชื่อนี้เป็นมากกว่าเครื่องจักรที่เร็ว มันคือสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางวิศวกรรม ความมุ่งมั่นของมนุษย์ และความหลงใหลในสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ในปี 2025 นี้ เราได้เห็นการทำลายสถิติและการสร้างมาตรฐานใหม่ที่น่าทึ่ง และเชื่อได้เลยว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
ในฐานะผู้ที่อยู่ในวงการนี้มานาน ผมขอยืนยันว่ายุคทองของไฮเปอร์คาร์และซูเปอร์คาร์ยังคงดำเนินต่อไป และอนาคตดูจะสดใสยิ่งกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านวัสดุศาสตร์ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และอากาศพลศาสตร์ เราจะได้เห็นรถยนต์ที่เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก
หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในความเร็วและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับที่ยากจะลืมเลือน ผมขอเชิญชวนให้คุณได้สำรวจโลกของไฮเปอร์คาร์เหล่านี้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม การเยี่ยมชมโชว์รูม หรือแม้แต่การเข้าร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางอันน่าตื่นเต้นนี้ มาร่วมกันเป็นประจักษ์พยานของอนาคตยานยนต์ไปด้วยกัน!
รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก 2025: 11 สุดยอดไฮเปอร์คาร์ ทะลุขีดจำกัดความเร็ว
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของสุดยอดเครื่องจักรที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นมา การแข่งขันเพื่อครองตำแหน่ง “รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก” ไม่ใช่เพียงการอวดอ้างตัวเลข แต่เป็นการขับเคี่ยวกันทางวิศวกรรมขั้นสุดยอด นวัตกรรม และความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามทุกขีดจำกัดที่เคยมีมา ในปี 2025 นี้ วงการไฮเปอร์คาร์ได้ยกระดับมาตรฐานไปอีกขั้น ด้วยความเร็วที่เคยเป็นเพียงความฝัน บัดนี้ได้กลายเป็นความจริงบนท้องถนน นี่คือยุคที่รถยนต์ไม่ได้เป็นแค่พาหนะ แต่เป็นผลงานศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ เป็นเครื่องยืนยันถึงขีดความสามารถของเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ตลอดเส้นทางแห่งความเร็ว เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตั้งแต่การทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (480 กม./ชม.) ไปจนถึงการมาถึงของขุมพลังไฟฟ้าที่เปลี่ยนเกม ผมจะพาคุณดำดิ่งไปสำรวจ 11 สุดยอดไฮเปอร์คาร์และซูเปอร์คาร์ที่ได้รับการยอมรับว่าเร็วที่สุดในโลกประจำปีนี้ รถแต่ละคันล้วนมีเรื่องราว มีจิตวิญญาณ และมีสมรรถนะที่น่าทึ่ง พร้อมที่จะสร้างตำนานบทใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นชื่อที่คุ้นเคยซึ่งยังคงรักษาความยิ่งใหญ่ หรือหน้าใหม่ที่เข้ามาท้าทาย เราจะมาดูกันว่าใครคือผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารความเร็ว
ปีนี้มีความน่าสนใจหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ Devel Sixteen ยังคงเป็นที่จับตามองในตำแหน่งผู้นำ ด้วยความเร็วที่ยังคงเป็นตำนานที่รอการพิสูจน์ ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นคือการปรับลดอันดับของ SSC Tuatara ลงมา หลังจากที่มีการยืนยันความเร็วใหม่อย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกัน Rimac Nevera ก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของการมาถึงของยุคแห่งรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือก แต่เป็นผู้ท้าชิงที่น่าเกรงขาม
มาดูกันว่ารถยนต์รุ่นใดบ้างที่ติดอันดับสุดยอดแห่งความเร็วในปี 2025 นี้
Rimac Nevera C Two
เมื่อพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า หลายคนอาจไม่ได้นึกถึงคำว่า “ไฮเปอร์คาร์” แต่ Rimac Nevera C Two ได้พลิกโฉมความเชื่อนั้นอย่างสิ้นเชิง ด้วยชุดแบตเตอรี่ขนาด 120kWh และมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด Nevera สามารถทำความเร็วสูงสุดที่รถยนต์ไฟฟ้าคันอื่น ๆ ทำได้เพียงแค่ฝัน มันคือบทพิสูจน์ว่าพลังงานไฟฟ้าก็สามารถมอบสมรรถนะที่น่าตกตะลึงได้ไม่แพ้เครื่องยนต์สันดาปภายใน
Nevera ถูกออกแบบมาเพื่อท้าทายทุกขีดจำกัด บริษัทผู้ผลิตอธิบายว่ารถคันนี้ “ทรงพลังอย่างยิ่ง และถูกชาร์จด้วยสายฟ้า” ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 1.85 วินาที เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วอันบ้าระห่ำได้อย่างปลอดภัย Nevera มาพร้อมกล้อง 13 ตัวที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงการขับขี่บนสนามแข่งแบบเรียลไทม์ นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ได้เป็นแค่ทางเลือก แต่เป็นผู้บุกเบิกในโลกของไฮเปอร์คาร์อย่างแท้จริง
ความเร็วสูงสุด: 415 กม./ชม. (258 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.85 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Bugatti Veyron 16.4 Super Sport
Bugatti Veyron 16.4 Super Sport อาจถือเป็นหนึ่งในซูเปอร์คาร์ที่มีอายุมากที่สุดในรายการนี้ แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความเร็วที่ทำลายสถิติได้อย่างน่าภาคภูมิใจ Veyron 16.4 Super Sport ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับทั้ง Bugatti และผู้ท้าชิงรายอื่น ๆ ในโลกของไฮเปอร์คาร์ มันคือความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์
Veyron 16.4 Super Sport เป็นรุ่นสุดท้ายของตระกูล Veyron ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศในทุกด้าน ก่อนที่จะปิดฉากชื่อ Veyron ลงอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา มีสไตล์ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว Bugatti Veyron 16.4 Super Sport จะยังคงจารึกชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์ไปอีกนานแสนนาน นี่คือการลงทุนในงานศิลปะแห่งความเร็วที่ยังคงมีคุณค่าเหนือกาลเวลา
ความเร็วสูงสุด: 431 กม./ชม. (267 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Hennessey Venom GT
ในวันวาเลนไทน์ปี 2014 John Hennessey จาก Hennessey Performance ได้ประกาศยุติการแข่งขันกับ Bugatti ชั่วคราว เมื่อ Venom GT ของเขาได้ทำลายสถิติโลกในฐานะรถยนต์ที่เร็วที่สุดบนรันเวย์ของศูนย์อวกาศเคนเนดีของ NASA รถคันนี้ใช้เวลาในการออกแบบและพัฒนาถึงสองปี และถูกผลิตขึ้นมาเพียง 29 คันเท่านั้น โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้เป็นหนึ่งในรถหายากที่นักสะสมใฝ่หา
Venom GT มีดีไซน์ที่งดงาม ด้วยเส้นสายที่โค้งมนและตัวถังที่เพรียวบาง โครงสร้างแชสซีคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาทำให้มันดูคล้ายเสือดำที่พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ทุกเมื่อ และมันก็ทำได้จริง ๆ: Venom GT ทำความเร็วสูงสุดที่ 434 กม./ชม. (270 ไมล์ต่อชั่วโมง) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในขณะนั้น ขณะทำการทดสอบสถิติโลก มันยังสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.05 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 434 กม./ชม. (270 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 3.05 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Koenigsegg Agera RS
Koenigsegg Agera RS ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นที่จดจำและเป็นที่กล่าวขาน มันคือซูเปอร์คาร์ที่พร้อมท้าทายการทำลายสถิติโลกด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว มันคือสัตว์ร้ายที่ทะลุขีดจำกัดและสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้มันเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่น่าประทับใจที่สุดในโลก
Agera RS ถูกสร้างขึ้นด้วยมือเพียง 25 คันเท่านั้น โดย 10 คันแรกถูกขายล่วงหน้าไปแล้วก่อนที่จะมีการจัดแสดงครั้งแรก บริษัทรายงานว่านี่คือรุ่นที่ขายดีที่สุด และยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่หายากที่สุดในปัจจุบัน ฟีเจอร์ที่น่าดึงดูดใจที่สุดของมันคือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลังถึง 1176 แรงม้า และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต และแทบทุกส่วนของรถคันนี้ถูกผลิตขึ้นภายในโรงงานของ Koenigsegg เอง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในอุตสาหกรรม
ความเร็วสูงสุด: 447.2 กม./ชม. (277.8 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Czinger 21C
แตกต่างจากซูเปอร์คาร์บางคันที่ยังคงยึดติดกับวิธีการและดีไซน์แบบดั้งเดิม Czinger 21C ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อศตวรรษที่ 21 มันคือรถยนต์ที่ก้าวล้ำไปในอนาคตในทุก ๆ ด้าน สมรรถนะในการทำลายสถิติรอบสนามเป็นเพียงหนึ่งในหลายสิ่งหลายอย่างที่มันภาคภูมิใจ
โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบส่งกำลังไฮบริดแบบเฉพาะตัว แรงกดมหาศาล และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้รถคันนี้มีความเชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอก Czinger 21C เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิง โดยเสริมกำลังด้วยระบบไฟฟ้า 800 โวลต์ ซึ่งคล้ายกับที่พบในรถ Formula 1 รุ่นล่าสุด แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ถึงความเร็วสูงสุดด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่ก็ทรงพลังพอที่จะเดินทางได้ระยะทางปานกลางโดยไม่ใช้น้ำมัน นี่คือตัวอย่างของนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่ผสานพลังงานได้อย่างไร้รอยต่อ
ความเร็วสูงสุด: 452 กม./ชม. (281 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
SSC Tuatara
Shelby SuperCars (SSC) ไม่ใช่หน้าใหม่ในโลกแห่งความเร็ว ในปี 2007 SSC Ultimate Aero เคยครองตำแหน่งรถยนต์โปรดักชั่นที่เร็วที่สุดในโลก ในเวลานั้น การทำความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมงดูเหมือนเป็นเพียงแค่จินตนาการ แต่วันนี้ SSC ต้องการเปลี่ยนความฝันนั้นให้กลายเป็นความจริง
Tuatara ผสานตัวถังที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำอย่างไม่น่าเชื่อที่ 0.279 เข้ากับเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 1,750 แรงม้า บนแพลตฟอร์มที่มีราคา 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ว่าจะเคยมีช่วงเวลาสั้น ๆ ที่โลกถูกทำให้เชื่อว่า SSC Tuatara ทำความเร็วได้น่าทึ่งถึง 331 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่คำกล่าวอ้างนั้นกลายเป็นเท็จ
อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งหมดหวัง SSC ได้ยืนยันว่า Tuatara สามารถทำความเร็วได้ 474.8 กม./ชม. (295.0 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในปี 2022 โดยบริษัทได้เชิญ Racelogic มายืนยันความเร็วแยกต่างหาก และพวกเขาก็ยังเชื่อว่านี่ไม่ใช่ความเร็วสูงสุดที่แท้จริงของรถคันนี้ บางที SSC Tuatara อาจจะทำความเร็วถึง 331 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในที่สุด เวลานั้นจะบอกเอง นี่คืออีกหนึ่งไฮเปอร์คาร์ที่ยังคงอยู่ในสายตาของนักลงทุนและผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะสูง
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Bugatti Chiron Super Sport 300+
Bugatti เป็นชื่อที่มีเรื่องราวในโลกของไฮเปอร์คาร์หรูมานานหลายปีอย่างไม่ต้องสงสัย เครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบที่ได้รับการอัปเกรดอย่างเข้มข้นซึ่งขับเคลื่อน Chiron ได้เพิ่มความเร็วให้กับสัญลักษณ์แห่งความเร็วนี้ พร้อมเสริมพละกำลังให้ความงาม และผลลัพธ์คือ Bugatti มีรถถึงสามคันที่ติดอันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกของเรา
แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดอย่างแท้จริงในตอนนี้ (เราจะพูดถึงตำแหน่งนั้นในอีกสักครู่) แต่ Bugatti Chiron Super Sport 300+ มีชื่อเสียงที่จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์และบทสนทนาที่น่าตื่นเต้นไปอีกหลายปี: มันคือรถยนต์คันแรกที่ทำลายกำแพงความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (483 กม./ชม.) ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
มันยังคงเป็นตัวแทนของความสมดุลที่ไร้ที่ติระหว่างรูปทรงและฟังก์ชันการใช้งาน หลักอากาศพลศาสตร์ และสุนทรียภาพ ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.4 วินาที Bugatti คันนี้จึงมาพร้อมความเร็วและสไตล์ในเวลาเดียวกันอย่างแท้จริง
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.4 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 3.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Bugatti Bolide
หลังจากความสำเร็จของ Chiron Super Sport, Bugatti กลับไปที่โต๊ะออกแบบอีกครั้ง แบรนด์ยานยนต์ประวัติศาสตร์แห่งนวัตกรรมนี้ต้องการที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง แต่จะทำได้อย่างไรเมื่อ Super Sport 300+ ดูเหมือนจะเป็นความสมบูรณ์แบบบนล้ออยู่แล้ว? คำตอบนั้นง่าย:
พบกับเครื่องยนต์ 8.0 ลิตร W-16 กำลัง 1825 แรงม้า แรงบิดมหาศาล 1364 ปอนด์-ฟุต เห็นได้ชัดว่ารถคันนี้กำลังจะไปได้ไกล
Bugatti Bolide คือไฮเปอร์คาร์น้ำหนักเบาที่แสดงให้เห็นถึงขีดสุดของ Bugatti ในด้านความงาม พลัง และนวัตกรรม ด้วยการใช้เครื่องยนต์เดียวกับ Chiron ที่มีเรื่องราว แต่มาพร้อมเทอร์โบที่มากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Bolide จะแสดงให้โลกเห็นว่าเครื่องยนต์ W-16 สามารถทำอะไรได้บ้าง
มันยังมีน้ำหนักเบา ดูล้ำยุค (สีฟ้าอ่อนถูกแต้มบาง ๆ บนโครงคาร์บอนไฟเบอร์เปลือย) และมีขนาดเล็ก: Bolide สูงจากพื้นเพียง 39.2 นิ้ว ความเร็วสูงสุดที่คาดการณ์ไว้คือ 498 กม./ชม. (310 ไมล์ต่อชั่วโมง); มันสามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.17 วินาที นี่คือการลงทุนในเทคโนโลยีรถแข่งที่แท้จริง
ความเร็วสูงสุด: 498 กม./ชม. (310+ ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.17 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Hennessey Venom F5
ถัดมาในกลุ่มรถยนต์ทำลายสถิติของ Hennessey คืออีกหนึ่งรุ่นในตระกูล Venom ของ John Hennessey นั่นคือ F5 ชื่อนี้อ้างอิงถึงพายุทอร์นาโดที่เร็วที่สุด นั่นคือพายุ F5 ซึ่งเป็นพลังธรรมชาติที่ Hennessey เลียนแบบด้วยพลังอันมหาศาลและความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
ภายใต้กระโปรงหน้าของ Venom F5 คือเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบที่ผลิตในอเมริกา ผลลัพธ์คือเกือบ 2,000 แรงม้า ซึ่งทำให้ Venom F5 มีสิ่งที่จำเป็นในการทำความเร็วสูงสุด 500+ กม./ชม. (310.7+ ไมล์ต่อชั่วโมง) อัตราเร่งของมันก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน เพราะสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึงสองวินาที
สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ Hennessey ทำลายสถิติโลกที่เคยทำไว้กับ GT, F5 ได้รับการยกระดับในด้านสไตล์ ความพิเศษ ราคา และความเร็ว มีเพียง 24 คันเท่านั้นที่ถูกผลิตขึ้น ราคาป้ายอยู่ที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์สีเหลืองสดใส? เป็นเอกลักษณ์ที่น่าจดจำทันที
ความเร็วสูงสุด: 500+ กม./ชม. (310.7+ ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: น้อยกว่า 2 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Koenigsegg Jesko Absolut
จนถึงตอนนี้ อาจดูเหมือนว่าการแข่งขันเพื่อตัดสินรถยนต์ที่เร็วที่สุดในปีนี้ส่วนใหญ่เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างผู้ผลิตรถยนต์สองรายคือ Bugatti และ Hennessey ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะทั้งสองเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ผลิตรถยนต์ที่น่าทึ่งซึ่งอัดแน่นไปด้วยพละกำลังดิบ
แต่! นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะผูกขาดการแข่งขันนี้
ขอแนะนำ: Koenigsegg Jesko Absolut – ไฮเปอร์คาร์ที่ยกระดับความเร็วขึ้นไปอีกเกือบสามสิบไมล์ต่อชั่วโมงเป็นที่น่าตกตะลึง เป็นเวลานาน หากมีใครสงสัยว่ารถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกคืออะไร รถคันนี้คือคำตอบอย่างแน่นอน
ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสวีเดน Koenigsegg ได้เปิดตัวรถคันนี้เพื่อสร้างสถิติโลกใหม่ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงได้ปรับปรุงเครื่องยนต์จากซูเปอร์คาร์ยอดนิยมรุ่นอื่นของพวกเขาอย่าง Agera RS; พวกเขาลงทุนในการควบคุมที่แม่นยำยิ่งขึ้น และทำให้รถคันนี้เบาลงและมีหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้นเพื่อสมรรถนะสูงสุด
อย่างไรก็ตาม รถคันนี้ไม่ได้มีแค่ความเร็วเท่านั้น แต่ยังสร้างมาเพื่อความสุขในการขับขี่อีกด้วย ด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิ ความบันเทิง และพื้นที่วางศีรษะ/ขาที่มักจะถูกมองข้ามเมื่อพูดถึงรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก
Jesko Absolut ทำความเร็วสูงสุดที่ 531 กม./ชม. (330 ไมล์ต่อชั่วโมง); ผู้ผลิตยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอัตราเร่ง แต่ด้วยความเร็วสูงสุดระดับนี้ มั่นใจได้เลยว่ามันจะต้องน่าประทับใจ นี่คือสุดยอดการลงทุนในรถยนต์สมรรถนะสูงที่มาพร้อมความสะดวกสบาย
ความเร็วสูงสุด: 531 กม./ชม. (330 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.6 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Devel Sixteen
เรามาถึงจุดสูงสุด: รถยนต์ที่เร็วที่สุดในปีนี้ พละกำลังและความเร็วที่เกือบจะไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนจาก Devel Sixteen – รถยนต์ที่มุ่งมั่นที่จะทำลายสถิติทั้งหมดที่เผชิญหน้าอยู่ ด้วยความเร็วสูงสุดที่อ้างไว้ที่ 550+ กม./ชม. (347 ไมล์ต่อชั่วโมง) Devel Sixteen กำลังจ้องมองมาตรฐานความเร็วถัดไป: 350 ไมล์ต่อชั่วโมง
Devel Sixteen เปิดตัวครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ด้วยสถิติที่ทำให้โลกยานยนต์กระซิบกันอย่างลึกลับ ขณะที่เรารอการผลิต: มันมีกำลังม้าอันน่าทึ่งถึง 5,007 แรงม้า เครื่องยนต์ V16 Quad Turbo ขนาด 12.3 ลิตร 81 มม. และบรรยากาศที่น่าสนใจรอบตัวที่ทำให้ต้อง “สอบถามราคา” อยู่ตลอดเวลา รถคันนี้เป็นหนึ่งที่น่าจับตามองอีกครั้งในปีหน้า เพราะสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับมันบ่งชี้ว่ามันจะเป็นรถที่ต้องเอาชนะหากสถิติของมันได้รับการยืนยัน
หมายเหตุ: Devel Sixteen รุ่น V16 ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ณ เวลาที่เผยแพร่การจัดอันดับนี้ ความเร็วสูงสุดที่แบรนด์อ้างสิทธิ์ยังไม่ได้รับการยืนยัน เราจะอัปเดตบทความนี้ทันทีที่มีข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม Devel Sixteen รุ่น V8 ได้รับการเปิดตัวแล้ว โดยมีความเร็วสูงสุดที่ยืนยันแล้วที่ 200 กม./ชม. (124 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ความเร็วสูงสุด: 550+ กม./ชม. (347 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (สำหรับรุ่น V8)
โบนัส: รถยนต์แห่งอนาคตที่น่าตื่นเต้นที่สุด
อยากมองเข้าไปในลูกแก้ววิเศษที่เผยให้เห็นอนาคตของรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกใช่ไหม? นี่คือรุ่นที่คุณต้องจับตาดู:
Koenigsegg CC850: กำหนดเปิดตัวในปี 2024 เครื่องจักรแห่งความเร็วคันนี้ให้กำลัง 1,385 แรงม้า ด้วยน้ำหนักรถเปล่าที่ 1,385 กก. (3,053 ปอนด์) เพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 50 ปีของผู้ก่อตั้ง Christian von Koenigsegg
Aspark Ow: คาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ทุกเมื่อ ไฮเปอร์คาร์สัญชาติญี่ปุ่นคันใหม่นี้กำลังพุ่งทะยานเข้าสู่เวทีด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวที่ให้กำลัง 1,985 แรงม้า ทำให้เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.72 วินาที
Zenvo TSR-GT: แม้วันส่งมอบจะไม่แน่นอน แต่รถ TSR-GT ทั้งสามคันก็ถูกขายไปแล้ว และคาดว่าจะมอบเครื่องจักรที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 424 กม./ชม. (263 ไมล์ต่อชั่วโมง) ให้กับเจ้าของผู้โชคดี
บทสรุป: ความเร็วที่ไม่หยุดนิ่ง และวิวัฒนาการที่ไร้ขีดจำกัด
โลกของไฮเปอร์คาร์ในปี 2025 ยังคงเป็นเวทีแห่งการแข่งขันที่ดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในให้มีประสิทธิภาพสูงสุด การบุกเบิกเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง หรือการหลอมรวมวัสดุและหลักอากาศพลศาสตร์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว รถยนต์เหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่ยานพาหนะ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญทางวิศวกรรม นวัตกรรมที่ล้ำสมัย และความหลงใหลในความเร็วที่ไม่มีวันสิ้นสุด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่ายุคทองของยานยนต์สมรรถนะสูงเพิ่งเริ่มต้นขึ้น และยังมีสิ่งมหัศจรรย์อีกมากมายที่รอให้เราได้ค้นพบ
รถยนต์ทั้ง 11 คันที่เราได้สำรวจไปนั้น แต่ละคันล้วนมีเรื่องราว มีดีเอ็นเอของความเร็ว และมีศักยภาพในการสร้างตำนาน ความเร็วสูงสุด อัตราเร่งที่น่าตกตะลึง และการออกแบบที่ล้ำยุค ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้รถยนต์เหล่านี้เป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่รักความเร็วทั่วโลก การลงทุนในรถยนต์เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการซื้อยานพาหนะ แต่เป็นการครอบครองผลงานศิลปะชิ้นเอกที่สะท้อนถึงจุดสูงสุดของเทคโนโลยีและดีไซน์
หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในความเร็วและนวัตกรรม ขอเชิญชวนให้คุณสัมผัสกับโลกของไฮเปอร์คาร์และซูเปอร์คาร์เหล่านี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม การเยี่ยมชมโชว์รูมเสมือนจริง หรือเพียงแค่การจินตนาการถึงประสบการณ์การขับขี่อันเร้าใจ อย่าพลาดที่จะติดตามความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะอนาคตที่เต็มไปด้วยความเร็วและนวัตกรรมกำลังรอคุณอยู่ และใครจะรู้ คุณอาจจะได้พบกับสุดยอดรถในฝันของคุณในเร็ววันนี้ก็ได้!
