• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1111563 ตใจคน ยากเก นจะเย ยวยา part 2

admin79 by admin79
November 11, 2025
in Uncategorized
0
N1111563 ตใจคน ยากเก นจะเย ยวยา part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 อันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกแห่งปี 2025: ขีดสุดแห่งวิศวกรรมและความเร็ว

ในโลกที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งของยานยนต์ปี 2025 ความเร็วไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขบนมาตรวัดอีกต่อไป แต่คือบทพิสูจน์แห่งวิศวกรรมอันล้ำเลิศ, นวัตกรรมที่กล้าหาญ และความหลงใหลอย่างไร้ขีดจำกัด การได้ครอบครองรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกเปรียบเสมือนการเป็นเจ้าของงานศิลปะที่เคลื่อนที่ได้ เป็นเครื่องยืนยันถึงสถานะที่เหนือชั้น และพลังที่ไม่อาจหาใครเทียบได้ แม้ว่าถนนสาธารณะจะไม่อนุญาตให้ปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของมันได้ แต่การได้รู้ว่าขุมพลังมหาศาลนั้นพร้อมอยู่ใต้เท้า ก็เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ จะพาทุกท่านดำดิ่งสู่โลกของไฮเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งล้วนแล้วแต่ก้าวข้ามขีดจำกัด 400 กม./ชม. (250 ไมล์ต่อชั่วโมง) และนิยามคำว่า “เร็ว” เสียใหม่

ปี 2025 ถือเป็นยุคทองของยานยนต์สมรรถนะสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการท้าทายบัลลังก์ของเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิม เรากำลังเห็นการผสมผสานอันน่าทึ่งระหว่างพละกำลังดิบจากเครื่องยนต์ V8, W16 และแรงบิดมหาศาลจากมอเตอร์ไฟฟ้า นี่คือการสำรวจสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน

ไฮไลต์แห่งความเร็วประจำปี 2025:

รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme (รถยนต์ไฟฟ้า)

รถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme

รถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการ: Yangwang U9 Xtreme

รถยนต์ที่ออกตัว 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง) ได้เร็วที่สุด: Rimac Nevera

และนี่คือสุดยอดรถยนต์ที่ครองตำแหน่งผู้นำด้านความเร็วแห่งปี 2025

Yangwang U9 Xtreme

ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): รอประกาศ

ราคา: รอประกาศ

ปี 2025 ได้เปิดศักราชใหม่แห่งความเร็วสูงสุดอย่างแท้จริง ด้วยการปรากฏตัวของ Yangwang U9 Xtreme รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ มันมาพร้อมพละกำลังมหาศาลถึง 3,000 แรงม้า และได้จารึกชื่อในฐานะรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 496.22 กม./ชม. ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี การก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดนี้ถือเป็นเรื่องน่าทึ่ง เพราะแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง SSC, Koenigsegg, Hennessey และ Rimac ต่างพยายามมานานกว่าห้าปีเพื่อโค่นบัลลังก์ของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ การที่รถยนต์ EV จากจีนซึ่งหลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ สามารถทำได้สำเร็จ ยิ่งตอกย้ำถึงศักยภาพและวิวัฒนาการอันรวดเร็วของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า เป้าหมายต่อไปของโลกยานยนต์ย่อมหนีไม่พ้นการก้าวข้ามกำแพง 500 กม./ชม. อย่างแน่นอน

Yangwang U9 Xtreme ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 30 คัน และยังมุ่งมั่นที่จะสร้างสถิติรอบสนาม Nürburgring Nordschleife โดยสามารถทำเวลาได้ 6:59.157 นาที ซึ่งถือว่าเร็วจัด แต่ก็ยังคงห่างจาก Porsche 911 GT3 RS (992) ที่ทำไว้ 6:44.848 นาที เมื่อปลายปี 2022 อย่างไรก็ตาม U9 Xtreme กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่เราเคยรู้จักเกี่ยวกับซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง และเร่งตลาดไฮเปอร์คาร์สั่งทำพิเศษที่มุ่งเน้นผู้ขับขี่ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความเหนือชั้นทั้งด้านตัวเลขและประสบการณ์การขับขี่สุดขีด

ระบบขับเคลื่อน: ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว (Quad-motor electric system)

พละกำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: รอประกาศ (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: ขับเคลื่อนโดยตรงด้วยไฟฟ้า

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd

Bugatti Chiron Super Sport 300+

ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.4 วินาที

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Bugatti Chiron Super Sport 300+ คือรถยนต์โปรดักชั่นคันแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถทะลุผ่านกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงได้อย่างเป็นทางการ ด้วยความเร็วสูงสุดที่ได้รับการบันทึก 490.484 กม./ชม. ณ สนามทดสอบของบริษัท นี่คือความสำเร็จที่เหลือเชื่อ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากขุมพลังเครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร ที่สามารถผลิตแรงม้าได้ถึง 1,578 ตัว และแรงบิดกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ค่อนข้างสูง 0.35 Cd แต่พละกำลังมหาศาลนี้ก็ยังช่วยให้มันพิชิตความเร็วสูงสุดได้อย่างสง่างาม และยังคงเป็นหนึ่งในจุดสูงสุดของวิศวกรรมยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน

เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะทำความเร็วอันน่าเหลือเชื่อนี้ได้ แต่รถยนต์ที่ส่งมอบให้กับลูกค้าจะถูกจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์ต่อชั่วโมง) ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและความทนทาน ซึ่ง Bugatti ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดล็อกข้อจำกัดนี้ในรถยนต์ของลูกค้า นี่คือการยอมรับถึงขีดจำกัดของถนนสาธารณะและยางรถยนต์ แต่ก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จทางวิศวกรรมที่ไม่เหมือนใคร

เครื่องยนต์: W16 ควอด-เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร

พละกำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต

ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.35 Cd

SSC Tuatara

ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.7 วินาที

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

SSC Tuatara จาก SSC North America สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการยานยนต์ทั่วโลก เมื่อครั้งที่ประกาศว่าสามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 508.73 กม./ชม. (316.11 ไมล์ต่อชั่วโมง) บนทางหลวงในทะเลทรายเนวาดา ซึ่งจะโค่นสถิติของ Bugatti และเป็นรถยนต์คันแรกที่ทะลุ 500 กม./ชม. อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม การอ้างสิทธิ์ครั้งนั้นกลับกลายเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด และแบรนด์ได้ออกมายอมรับถึงความผิดพลาดดังกล่าวด้วยความโปร่งใส ซึ่งถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในวงการไฮเปอร์คาร์

แม้จะเกิดเรื่องราวขึ้น SSC ก็ยังคงไม่ย่อท้อในการพิสูจน์ศักยภาพที่แท้จริงของ Tuatara ในความพยายามล่าสุดที่บันทึกไว้เมื่อปี 2022 พวกเขาสามารถทำความเร็วได้ถึง 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง) บนเส้นทางยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ณ ศูนย์อวกาศ Kennedy Space Centre สิ่งที่น่าสนใจคือ Tuatara ยังคงเร่งความเร็วได้ต่อไป แม้จะผ่านจุดสูงสุดที่ได้รับการยืนยันแล้วก็ตาม หากรันเวย์ยาวกว่านี้ เราอาจได้เห็นตัวเลขที่สูงกว่านี้อีก นี่คือบทพิสูจน์ถึงวิศวกรรมยานยนต์อเมริกันที่แข็งแกร่งและไม่ยอมแพ้

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.9 ลิตร

พละกำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.279 Cd

Yangwang U9 Track Edition

ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): รอประกาศ

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท หรือ 358,595 เหรียญสหรัฐฯ)

รถยนต์ที่มาเสริมทัพความเร็วสูงสุดในรายการของเราคือ Yangwang U9 Track Edition ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลงานจากแบรนด์ย่อยหรูหราของ BYD รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มาพร้อมพละกำลังเกือบ 3,000 แรงม้า ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว 1,200 โวลต์ และได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก (ก่อนหน้า U9 Xtreme) หลังจากทำความเร็วสูงสุดได้ 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์ต่อชั่วโมง) ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี โดยนักขับมืออาชีพ Marc Basseng

ก่อนหน้านี้ Rimac Nevera เคยครองตำแหน่งรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่ตอนนี้ถูกโค่นบัลลังก์โดยนวัตกรรมจากจีนแล้ว แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะโดดเด่นเรื่องอัตราเร่งที่น่าทึ่ง แต่การทำความเร็วสูงสุดในระดับนี้มักจะเป็นเรื่องท้าทายหากไม่มีชุดเกียร์แบบดั้งเดิม Yangwang U9 Track Edition ได้แก้ปัญหานี้ด้วยการนำเสนอระบบมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวตัวแรกของโลกที่ใช้มอเตอร์สมรรถนะสูง 30,000 รอบต่อนาที ซึ่งช่วยให้สามารถทำความเร็วได้ถึง 472.41 กม./ชม.

ระบบ “e4 Platform” ของแบรนด์นี้ควบคุมแรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวอย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งทำงานร่วมกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X เพื่อควบคุมการปรับแนวตั้งของล้อแต่ละล้ออย่างอิสระ ทำให้รถเกาะถนนได้ในทุกสถานการณ์ นี่คืออนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ

ระบบขับเคลื่อน: ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว (Quad-motor electric system)

พละกำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: รอประกาศ (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: ขับเคลื่อนโดยตรงด้วยไฟฟ้า

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd

Koenigsegg Agera RS

ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.9 วินาที

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 2.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Koenigsegg Agera RS ยังคงเป็นหนึ่งในไฮเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลก และเป็น Koenigsegg ที่เร็วที่สุดที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ วิดีโอที่เผยแพร่โดยแบรนด์ได้แสดงให้เห็นถึงความเร็วสูงสุดเฉลี่ยที่ 446.97 กม./ชม. รถคันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร ที่สร้างพละกำลัง 1,176 แรงม้า และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการนี้

หลายคนอาจสงสัยว่า Koenigsegg Jesko Absolut รุ่นใหม่เคลมความเร็วสูงสุดไว้ที่ 330 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 531 กม./ชม.) ทำไมถึงไม่ติดอันดับ? คำตอบคือ Jesko Absolut ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการในสนามจริง แม้จะพิสูจน์แล้วว่าเร็วกว่า Agera RS และ Regera ในการทดสอบ 0-400-0 กม./ชม. แต่การหาถนนที่ยาวพอสำหรับทำความเร็วสูงสุดนั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง และถนนส่วนใหญ่ก็เป็นของสาธารณะ หรือถูกครอบครองโดยกลุ่ม Volkswagen (Bugatti) ซึ่งไม่เปิดโอกาสให้แบรนด์อื่นเข้ามาใช้ ทำให้ภารกิจของ Christian von Koenigsegg ในการพิชิตความเร็วสูงสุดยังคงดำเนินต่อไป

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร

พละกำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1,280 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Bugatti Tourbillon

ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์ต่อชั่วโมง) ด้วย Speed Key

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.0 วินาที

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะเป็น Bugatti ที่เร็วที่สุดที่เคยได้รับการทดสอบ แต่ Bugatti Tourbillon คือรถยนต์ที่ลูกค้าของ Bugatti สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้อย่างแท้จริง ด้วยความเร็วสูงสุด 445 กม./ชม. (276 ไมล์ต่อชั่วโมง) เมื่อใช้ Speed Key ซึ่งเร็วกว่า Chiron 300+ ในสเปกของลูกค้าที่ถูกจำกัดไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์ต่อชั่วโมง) Tourbillon ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของ Bugatti

แตกต่างจาก Chiron ที่ใช้เครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบ Tourbillon หันมาใช้เครื่องยนต์ V16 ไฮบริด แบบไร้ระบบอัดอากาศ ขนาด 8.3 ลิตร ซึ่งยังคงผลิตพละกำลังมหาศาลถึง 1,800 แรงม้า และแรงบิด 1464 ปอนด์-ฟุต ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.0 วินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานสู่ความเร็วสูงสุดอันน่าทึ่ง และด้วยชื่อเสียงของ Bugatti คุณมั่นใจได้เลยว่ามันจะทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายที่สุด นี่คือนวัตกรรมยานยนต์ไฮบริดที่ผสานความหรูหราเข้ากับประสิทธิภาพระดับสุดยอด

เครื่องยนต์: V16 แบบไร้ระบบอัดอากาศ ขนาด 8.3 ลิตร (ไฮบริด)

พละกำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1464 ปอนด์-ฟุต (1,985 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: รอประกาศ

Hennessey Venom F5

ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.6 วินาที

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เช่นเดียวกับการแข่งขันอวกาศ สงครามแห่งความเร็วสูงสุดยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้นระหว่างสี่บริษัทหลัก (Bugatti, Hennessey, SSC และ Koenigsegg) โดยทั้งหมดกำลังพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงในรถยนต์ที่วิ่งบนถนนได้ อาวุธที่ Hennessey เลือกใช้คือ Venom F5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 6.6 ลิตร ที่ให้พละกำลัง 1,817 แรงม้า

ในขณะที่ SSC Tuatara ต้องเผชิญกับข้อถกเถียงเกี่ยวกับการพยายามทำลายสถิติครั้งแรก Hennessey Venom F5 ได้ทำความเร็วสูงสุดอย่างเงียบๆ ที่ 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในปี 2022 ซึ่งตอกย้ำตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดตลอดกาลอันดับที่ห้า และหากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ มันก็จะสามารถทำความเร็วได้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังมองหา ในการอัปเดตล่าสุด เขาประกาศว่าปี 2024 จะเป็นปีที่ Venom F5 จะพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ และเราจะคอยติดตามผลการทดสอบนี้อย่างใจจดใจจ่อ

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 6.6 ลิตร

พละกำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1193 ปอนด์-ฟุต

ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Hennessey Venom GT

ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.9 วินาที

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

John Hennessey เคยเล่าถึงแนวคิดเบื้องหลัง Hennessey Venom GT ว่า “วันหนึ่งผมล้อเล่นเรื่องการนำเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) มาใส่ไว้ด้านหลังของ Lotus Exige” “จากนั้นผมก็คิดว่า ลองวาดภาพดูสิว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร พอเห็นภาพร่าง ผมก็หยุดหัวเราะและเริ่มคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับแนวคิดนี้”

“การออกแบบเครื่องยนต์วางกลางแบบ Ford GT จะทำให้เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังอยู่เหนือยางหลัง ซึ่งช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น เราออกแบบแรงกดอากาศให้เพียงพอเพื่อให้รถมีการควบคุมเหมือนรถโกคาร์ทบนถนนหรือสนามแข่ง ในขณะเดียวกัน เราก็มีรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งให้การเร่งความเร็วที่ไม่มีใครเทียบได้ นี่คือจุดเริ่มต้นของแนวคิด Venom GT”

ผลลัพธ์ที่ตามมาคือการสร้างสถิติความเร็วโลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ซึ่งบันทึกเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 ที่ศูนย์อวกาศ John F. Kennedy บนรันเวย์ลงจอดของกระสวยอวกาศยาว 3.2 ไมล์ Venom GT คือตัวแทนของรถยนต์ที่มีสมรรถนะดิบและไม่มีการประนีประนอม ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่บ่งบอกถึงจิตวิญญาณแห่งการแสวงหาความเร็วอย่างแท้จริง

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ GM LS7 ขนาด 7.0 ลิตร

พละกำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา Ricardo 6 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Bugatti Veyron Super Sport

ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.5 วินาที

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เมื่อเปิดตัวในปี 2010 Bugatti Veyron Super Sport ได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ว่าเป็นรถยนต์โปรดักชั่นที่ถูกกฎหมายบนท้องถนนที่เร็วที่สุดในโลก ปัจจุบันมันถูกโค่นบัลลังก์โดย Chiron Super Sport 300+ ผู้เป็นทายาท แต่ถึงกระนั้น เครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร ของ Veyron Super Sport ก็ยังคงผลิตพละกำลังมหาศาลถึง 1,200 แรงม้า และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมากสำหรับยุคสมัยนั้น

Veyron Super Sport ไม่ใช่แค่รถยนต์ที่เร็ว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นรถที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดไฮเปอร์คาร์ และปูทางไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ Bugatti ในรุ่นต่อๆ ไป มันยังคงเป็นความคลาสสิกที่ทรงคุณค่า และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ Bugatti ในการผลักดันขีดจำกัดของวิศวกรรมยานยนต์

เครื่องยนต์: W16 ควอด-เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร

พละกำลังสูงสุด: 1,200 แรงม้า (882 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ Ricardo 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.36 Cd (ในโหมดความเร็วสูงสุด)

Rimac Nevera

ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 1.8 วินาที

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Rimac Nevera คือราชาแห่งรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง เป็นรถยนต์ที่ออกตัว 0-100 กม./ชม. ได้เร็วที่สุดในรายการนี้ และเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง) Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ซึ่งรวมทั้ง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili เข้าไว้ด้วยกัน

Nevera สามารถทะลุผ่านกำแพง 250 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ด้วยฝีมือวิศวกรของ Rimac ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท พวกเขาติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวที่ล้อแต่ละข้าง เพื่อให้ได้พละกำลังรวม 1,888 แรงม้า และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้เป็นรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการนี้เช่นกัน Nevera ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ที่เร็ว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ของยานยนต์ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นและสมรรถนะที่เหนือชั้นได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบส่งกำลังโดยตรงที่ล้ำสมัย Rimac Nevera เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าอนาคตของไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร

ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าแม่เหล็กถาวรหุ้มคาร์บอนแบบติดผิวอิสระ 4 ตัว

พละกำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: ระบบขับเคลื่อนโดยตรงแบบความเร็วเดียว

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.30 Cd

รถยนต์ที่เคยติดอันดับ แต่ถูกผลักดันออกไป

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีรถยนต์หลายคันที่เคยครองตำแหน่งสูงสุด แต่ด้วยการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ก็ถูกรถรุ่นใหม่ที่เร็วและล้ำหน้ากว่าเข้ามาแทนที่ นี่คือบางส่วนของรถยนต์ที่ยังคงเป็นตำนาน แต่ตอนนี้ถูกผลักดันออกนอก 10 อันดับแรกของเรา:

Koenigsegg Regera

ความเร็วสูงสุด: 400 กม./ชม. (249 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.8 วินาที

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Koenigsegg Regera เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกในด้านอัตราเร่ง 0-400-0 กม./ชม. และมีแนวโน้มว่าจะเร็วกว่าความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 400 กม./ชม. หากได้รับการทดสอบเต็มประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้พละกำลัง 1,500 แรงม้า และระบบส่งกำลัง Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ Regera สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ภายในเวลาเพียง 20.68 วินาที ทำให้มันเร็วกว่า Rimac Nevera ในการทดสอบนี้ นี่คือบทพิสูจน์ถึงความอัจฉริยะของวิศวกรรมสวีเดนที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในทุกมิติ

McLaren Speedtail

ความเร็วสูงสุด: 403 กม./ชม. (250 ไมล์ต่อชั่วโมง)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 3.0 วินาที

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ในขณะนั้น)

McLaren Speedtail เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่สวยงามที่สุดในรายการ และยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีคุณค่า หายาก และเป็นที่ต้องการมากที่สุด ความเร็วสูงสุด 403 กม./ชม. (250 ไมล์ต่อชั่วโมง) นั้นน่าประทับใจเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่มีพละกำลังน้อยที่สุดในบรรดารถเหล่านี้ โดยมีพละกำลังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรถยนต์ส่วนใหญ่ในรายการ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร ผลิตพละกำลังเพียง 746 แรงม้า และแรงบิด 590 ปอนด์-ฟุต แต่สามารถทำความเร็วอันน่าทึ่งนี้ได้อย่างง่ายดายด้วยการออกแบบตัวถังที่ลื่นไหลและค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.278 Cd ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าแอโรไดนามิกส์ที่ยอดเยี่ยมสามารถชดเชยกำลังเครื่องยนต์ได้

บทสรุป: อนาคตแห่งความเร็วที่ไร้ขีดจำกัด

โลกของไฮเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลกยังคงเป็นสนามรบของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง จากการที่รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Yangwang U9 Xtreme ได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในปี 2025 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เทคโนโลยี EV สามารถท้าทายและแซงหน้าเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิมได้อย่างน่าทึ่ง แบรนด์ต่างๆ ทั่วโลกยังคงมุ่งมั่นผลักดันขีดจำกัดของความเร็ว ประสิทธิภาพ และประสบการณ์การขับขี่ ที่ไม่ใช่แค่การแข่งความเร็วสูงสุดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอัตราเร่ง การควบคุม และความหรูหราที่มาพร้อมกัน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ ผมสามารถยืนยันได้ว่ายานยนต์เหล่านี้คือผลงานชิ้นเอกทางวิศวกรรม ที่ผสมผสานศาสตร์และศิลป์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พวกมันไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความทะเยอทะยานของมนุษย์ที่ต้องการก้าวข้ามทุกขีดจำกัด และในอนาคตอันใกล้ เราจะได้เห็นนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านี้อย่างแน่นอน

คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสุดยอดรถยนต์เหล่านี้? คันไหนคือความฝันของคุณ หรือคุณคิดว่ารถคันไหนจะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าแห่งความเร็วในอนาคต? มาร่วมแบ่งปันมุมมองของคุณและค้นพบโลกแห่งยานยนต์สมรรถนะสูงไปพร้อมกับเราได้ที่เว็บไซต์ของเรา หรือติดตามข่าวสารล่าสุดเพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวในวงการสุดยอดรถยนต์แห่งอนาคต!

สุดยอดความเร็วเหนือจินตนาการ: เจาะลึก 10 อันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกแห่งปี 2025

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ที่คร่ำหวอดมากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าติดตามและเป็นประจักษ์พยานถึงวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของความเร็วและการออกแบบที่ก้าวข้ามขีดจำกัดมนุษย์มาโดยตลอด ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง การแสวงหาสมรรถนะสูงสุดของรถยนต์ยังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่สร้างสรรค์ยานพาหนะอันน่าทึ่งออกสู่สายตาชาวโลก และในปี 2025 นี้เอง เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการก้าวขึ้นมาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่พลิกโฉมหน้าของวงการไฮเปอร์คาร์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

การได้ครอบครองรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกสักคันในโรงจอดรถ อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เว้นแต่คุณจะมีรันเวย์ส่วนตัวยาวสุดลูกหูลูกตาให้ได้ลองเหยียบมิดคันเร่งดึงสมรรถนะออกมาอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับการมีวิสกี้หายากที่แพงที่สุดอยู่ในตู้โชว์ คุณรู้ดีว่าคุณอาจไม่มีโอกาสได้สัมผัสความเร็วสูงสุดที่ทำลายสถิติได้บนถนนทั่วไป รถยนต์ทุกคันในรายการของเราสามารถทำความเร็วได้เกิน 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (250 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้ว่าความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม การได้เป็นเจ้าของ “ม้าแข่งพันธุ์แท้” และขับมันไปอย่างช้าๆ โดยรู้ว่ามันมีความสามารถขนาดไหน ก็เป็นความรู้สึกที่ “คูล” อย่างไม่น่าเชื่อ บางครั้งมันก็เป็นเรื่องของสถิติบนกระดาษ และรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกเหล่านี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสุดยอดเหล่านั้น วันนี้เราจะมาเจาะลึกรายละเอียดกัน!

ภาพรวมรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกปี 2025: จุดเด่นที่ห้ามพลาด

ก่อนที่เราจะลงลึกไปในรายละเอียดของแต่ละคัน ลองมาดูจุดเด่นสำคัญจากรายการของเราที่สะท้อนถึงภูมิทัศน์ของรถยนต์สมรรถนะสูงในปี 2025 นี้:

รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก (โดยรวม): Yangwang U9 Xtreme (ตอกย้ำยุคสมัยของ EV)
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme (ผู้เล่นหน้าใหม่จากจีนที่สร้างประวัติศาสตร์)
รถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการ: Yangwang U9 Xtreme (พละกำลังไฟฟ้าที่เหนือชั้น)
รถยนต์ที่ออกตัวเร็วที่สุด (0-100 กม./ชม.): Rimac Nevera (ความเร่งที่น่าตกตะลึง)

นี่คือเพียงส่วนหนึ่งของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ที่กำลังขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้า มาร่วมค้นพบรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละคันกันว่าอะไรทำให้พวกมันกลายเป็นตำนานแห่งความเร็วในปัจจุบัน!

Yangwang U9 Xtreme: ราชันย์แห่งความเร็วไฟฟ้ากับยุคใหม่ของไฮเปอร์คาร์

ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): N/A
ราคา: N/A

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงของวงการยานยนต์มานาน ผมกล้าพูดได้เลยว่าเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยการปรากฏตัวของ Yangwang U9 Xtreme ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าพลัง 3,000 แรงม้า สัญชาติจีน ที่ได้จารึกชื่อลงในหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.) ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี

แบรนด์ระดับโลกอย่าง SSC, Koenigsegg, Hennessey และ Rimac ต่างพยายามโค่นล้มสถิติของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ มานานกว่าห้าปี ดังนั้นเมื่อรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักอย่าง Yangwang ก้าวขึ้นมาและเอาชนะทั้งหมดนี้ได้ มันสมควรได้รับการยกย่องอย่างยิ่ง เป้าหมายต่อไปที่ชัดเจนคือการทำความเร็วทะลุ 500 กม./ชม. และด้วยนวัตกรรมนี้ ผมเชื่อว่าเราจะได้เห็นมันในไม่ช้า

Yangwang U9 Xtreme ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 30 คัน โดยยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ แบรนด์ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำลายสถิติรอบสนาม Nürburgring Nordschleife ด้วย U9 Xtreme ซึ่งได้สร้างเวลาต่อรอบที่ 6:59.157 นาทีไปแล้ว ซึ่งถือว่าเร็วมาก แต่ก็ยังห่างจาก Porsche 911 GT3 RS (992) รุ่นล่าสุด ที่ทำเวลาได้ 6 นาที 44.848 วินาทีเมื่อเดือนตุลาคม 2022 อย่างไรก็ตาม สถิตินี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า

Yangwang U9 Xtreme จะเข้ามาเขียนนิยามใหม่ของซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง มันจะเร่งการเติบโตของตลาดไฮเปอร์คาร์สั่งทำพิเศษที่มุ่งเน้นคนขับ สำหรับผู้ที่ไม่ได้สนใจแค่ประสิทธิภาพที่เข้าถึงได้และตัวเลขในสถิติอีกต่อไป แต่แสวงหาขีดสุดของวิศวกรรมยานยนต์

ระบบขับเคลื่อน: ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Quad-motor
กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: N/A (รุ่นมาตรฐาน U9 มี 1,680 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: Direct-drive electric
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd

Bugatti Chiron Super Sport 300+: ตำนาน 300 ไมล์ต่อชั่วโมง ผู้บุกเบิกความเร็ว

ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.4 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Bugatti Chiron Super Sport 300+ คือรถยนต์ที่ผลิตจำหน่ายคันแรกที่สามารถทะยานข้ามกำแพงความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมงได้สำเร็จ เมื่อมันสร้างสถิติความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการที่ 490.484 กม./ชม. (304.773 ไมล์/ชม.) บนสนามทดสอบของบริษัท นี่คือความสำเร็จอันเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นได้ด้วยเครื่องยนต์ W-16 Quad-turbo ขนาด 8.0 ลิตร อันทรงพลัง ที่ผลิตกำลังสูงสุด 1,578 แรงม้า (1,160 กิโลวัตต์) และแรงบิดกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ค่อนข้างสูงที่ 0.35 Cd ซึ่งทำให้มันมีรูปทรงคล้ายอิฐมากกว่า SSC Tuatara (0.279 Cd) ซึ่งเป็นรถยนต์ผลิตจำหน่ายที่เร็วเป็นอันดับสองของโลก แต่ก็ยังสามารถทำความเร็วระดับนี้ได้อย่างน่าทึ่ง

สิ่งที่สำคัญที่ควรทราบคือ แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะสามารถทำความเร็วระดับสุดขีดได้ แต่แบรนด์ก็ได้ติดตั้งระบบจำกัดความเร็วสูงสุดแบบเดียวกับรถยนต์สมรรถนะสูงอื่นๆ รวมถึง Tourbillon รุ่นใหม่ รถยนต์สำหรับลูกค้าจะถูกจำกัดความเร็วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์/ชม.) Bugatti ยืนยันว่าระบบจำกัดความเร็วบน Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะไม่มีวันถูกถอดออก เพื่อความปลอดภัยและข้อจำกัดด้านกฎหมาย

เครื่องยนต์: 8.0 ลิตร W-16, Quad-turbo
กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.35 Cd

SSC Tuatara: บทเรียนจากความพยายามและความมุ่งมั่นในการพิชิตความเร็ว

ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.7 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เมื่อ SSC North America ประกาศว่าไฮเปอร์คาร์ Tuatara ของพวกเขาทำความเร็วเฉลี่ยได้ 508.73 กม./ชม. (316.11 ไมล์/ชม.) บนทางหลวงในทะเลทรายเนวาดา มันสร้างความตกตะลึงให้กับวงการยานยนต์อย่างมาก ซึ่งน่าจะทำลายสถิติของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ได้อย่างขาดลอย และทะลุกำแพง 500 กม./ชม. ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ในภายหลังข้อกล่าวอ้างนี้กลับเป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้น

แบรนด์ยอมรับว่าความเร็วที่อ้างถึงนั้นไม่เป็นความจริงในโพสต์โซเชียลมีเดีย “หากยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ เราขอรับทราบอย่างเป็นทางการว่าเราไม่สามารถทำความเร็วที่อ้างไว้เดิมที่ 331 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือแม้แต่ 301 ไมล์ต่อชั่วโมงในเดือนตุลาคม 2020 ได้” โพสต์ระบุ “เราเสียใจมากในฐานะบริษัทที่ได้เรียนรู้ว่าเราไม่สามารถทำความสำเร็จนี้ได้ และเรากำลังพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างโปร่งใส เป็นทางการ และไร้ข้อกังขา”

ถึงกระนั้น ความพยายามของพวกเขาก็ยังคงดำเนินต่อไป การทดสอบล่าสุดของแบรนด์ที่เผยแพร่บน YouTube ในเดือนพฤษภาคม 2022 แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถทำความเร็วได้ถึง 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.) บนเส้นทางยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ที่ Space Florida’s LLF, Kennedy Space Centre สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ SSC Tuatara ยังคงเร่งความเร็วเกินกว่าที่ยืนยันได้ เมื่อลูกค้า Larry Caplin ต้องผ่อนคันเร่งลง เราจึงสามารถจินตนาการได้ว่าตัวเลขจะสูงเพียงใดหากรันเวย์ยาวกว่านี้

เครื่องยนต์: 5.9 ลิตร V8, Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว 7 สปีด CIMA
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.279 Cd

Yangwang U9 Track Edition: ฝาแฝดความเร็วจากแดนมังกร ผู้ท้าชิงบัลลังก์ EV

ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): N/A
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท)

สมาชิกใหม่ล่าสุดในรายการรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกของเราคือรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจากแบรนด์ย่อยหรูหราของ BYD อย่าง YANGWANG มันคือ U9 Track Edition ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า Quad-motor ขนาด 1,200 โวลต์ ที่มีกำลังเกือบ 3,000 แรงม้า ซึ่งปัจจุบันสามารถอ้างสิทธิ์ได้อย่างเป็นทางการว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก หลังจากทำความเร็วสูงสุดได้ 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.) ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี โดยมี Marc Basseng นักขับมืออาชีพอยู่หลังพวงมาลัย

ก่อนหน้านี้ Rimac Nevera เคยครองตำแหน่งสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้าด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.) อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งนั้นได้ถูกทำลายลงโดยจีนเรียบร้อยแล้ว

แม้จะมีความสามารถในการเร่งความเร็วที่น่าทึ่ง แต่รถยนต์ไฟฟ้าก็ประสบปัญหาในการทำความเร็วสูงสุดระดับนี้โดยไม่มีเกียร์ทั่วไป แต่ YANGWANG ได้ยุติปัญหานั้นด้วยการเปิดตัวระบบ Quad-motor แห่งแรกของโลกที่มาพร้อมกับมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง 30,000 รอบต่อนาที ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดที่น่าเหลือเชื่อถึง 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.)

กำลังแรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวถูกควบคุมอย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี “e4 Platform” ของแบรนด์ สิ่งนี้ทำงานร่วมกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X เพื่อควบคุมการปรับแนวตั้งที่ล้อแต่ละล้ออย่างอิสระและช่วยให้รถยึดเกาะกับพื้นผิวถนนได้อย่างมั่นคง

ระบบขับเคลื่อน: ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Quad-motor
กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: N/A (รุ่นมาตรฐาน U9 มี 1,680 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: Direct-drive electric
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd

Koenigsegg Agera RS: สัญลักษณ์แห่งวิศวกรรมสวีเดนและความเร็วที่พิสูจน์แล้ว

ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Koenigsegg Agera RS เป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดเป็นอันดับสามของโลก และเป็น Koenigsegg ที่เร็วที่สุดที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ วิดีโอ YouTube ที่เผยแพร่โดยแบรนด์แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้ทำความเร็วสูงสุดเฉลี่ยได้ 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.) มันขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 5.0 ลิตร ที่ผลิตกำลังสูงสุด 1,176 แรงม้า (865 กิโลวัตต์) และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต (1,280 นิวตันเมตร) ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการของเรา

ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่: “Koenigsegg Jesko Absolut รุ่นใหม่ไม่ได้อ้างว่าทำความเร็วสูงสุดได้ 330 ไมล์ต่อชั่วโมงหรอกเหรอ?” ใช่ครับ แต่มันไม่เคยถูกทดสอบในสถานที่ที่เป็นทางการ มันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเร็วกว่า Agera RS และ Regera ในการทดสอบ 0-250mph-0 แต่แบรนด์ยังไม่เคยทดสอบความเร็วสูงสุดของ Jesko Absolut ในโลกจริง แม้ว่านั่นจะเป็นภารกิจของ Christian von Koenigsegg อย่างแน่นอน

เช่นเดียวกับรถยนต์หลายคันในรายการนี้ เหตุผลหลักที่เรายังไม่เห็น Jesko Absolut ทำความเร็วสูงสุดได้ก็คือ มีถนนเพียงไม่กี่แห่งบนโลกที่ยาวพอสำหรับการทดสอบส่วนใหญ่เป็นถนนสาธารณะ หรือเป็นของ Volkswagen Group (Bugatti) ซึ่งไม่ยอมให้ใครใช้

เครื่องยนต์: 5.0 ลิตร V8, Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1,280 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว 7 สปีด CIMA
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Bugatti Tourbillon: มรดกแห่งความเร็วสู่ยุคไฮบริด

ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) ด้วย Speed Key
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.0 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Bugatti Chiron Super Sport 300+ อาจเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีการทดสอบมา แต่ Bugatti Tourbillon คือรถยนต์ Bugatti ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้เร็วที่สุด ด้วยความเร็วสูงสุด 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) โดยใช้ Speed Key นี่เร็วกว่า Chiron 300+ ในสเปกสำหรับลูกค้า ซึ่งถูกจำกัดความเร็วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์/ชม.)

ไม่เหมือน Chiron, Bugatti Tourbillon ได้เปลี่ยนจากเครื่องยนต์ W16 Quad-turbo มาเป็นเครื่องยนต์ V16 Hybrid ขนาด 8.3 ลิตร แบบ Naturally Aspirated แต่ยังคงให้กำลังมหาศาลถึง 1,800 แรงม้า (1,342 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1464 ปอนด์-ฟุต (1,985 นิวตันเมตร) ซึ่งช่วยให้มันเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2 วินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานไปสู่ความเร็วสูงสุดอันมหัศจรรย์ที่ 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) และด้วยความเป็น Bugatti คุณก็รู้ดีว่ามันสามารถทำได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย

เครื่องยนต์: 8.3 ลิตร V16, Naturally Aspirated
กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1464 ปอนด์-ฟุต (1,985 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: N/A

Hennessey Venom F5: การไล่ล่า 300 ไมล์ต่อชั่วโมงในแบบฉบับอเมริกัน

ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.6 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เช่นเดียวกับการแข่งขันอวกาศ การช่วงชิงตำแหน่งสูงสุดของความเร็วยังคงเป็นที่ขับเคี่ยวกันระหว่างสี่บริษัทหลัก (Bugatti, Hennessey, SSC และ Koenigsegg) พวกเขาทั้งหมดกำลังพยายามที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงในรถยนต์ที่ใช้บนถนน และอาวุธที่ Hennessey เลือกใช้คือ Venom F5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 6.6 ลิตร ที่ผลิตกำลังสูงสุด 1,817 แรงม้า (1,355 กิโลวัตต์)

ในขณะที่ SSC Tuatara ต้องเผชิญกับความขัดแย้งเกี่ยวกับความพยายามในการทำสถิติปลอมในตอนแรก Hennessey Venom F5 ได้ทำความเร็วสูงสุดที่ 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.) อย่างเงียบๆ ในปี 2022 ซึ่งตอกย้ำให้เป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับห้า หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ มันจะไปได้เร็วกว่านี้อีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังพยายามค้นหา

ในการอัปเดตล่าสุดบน YouTube John Hennessey ผู้ก่อตั้งกล่าวว่าปี 2024 จะเป็นปีที่ Venom F5 จะพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ เราจะรอดูผลลัพธ์อย่างเงียบๆ หาก Volkswagen Group อนุญาตให้พวกเขาใช้ Ehra-Lessien ได้ก็คงจะดี!

เครื่องยนต์: 6.6 ลิตร V8, Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1193 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว 7 สปีด CIMA
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Hennessey Venom GT: จุดเริ่มต้นแห่งความเร็วอันบ้าคลั่ง

ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

“วันหนึ่งผมล้อเล่นเกี่ยวกับการเอาเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) ไปใส่ไว้ด้านหลังของ Lotus Exige” John Hennessey กล่าวกับ Road and Track เกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลัง Hennessey Venom GT “แล้วผมก็คิดว่า ลองวาดภาพดูสิว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร เมื่อผมเห็นภาพร่าง ผมก็เลิกหัวเราะและเริ่มคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับแนวคิดนี้”

“การออกแบบเครื่องยนต์วางกลางแบบ Ford GT จะทำให้เครื่องยนต์และเกียร์มีน้ำหนักอยู่บนยางหลัง ทำให้ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น ออกแบบให้มีแรงกดอากาศมากเท่าที่เราต้องการ เพื่อให้รถมีการควบคุมเหมือนรถโกคาร์ทบนถนนหรือสนามแข่ง ในขณะเดียวกัน เราก็มีรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้มีการเร่งความเร็วที่เหนือชั้น นี่คือวิธีที่แนวคิด Venom GT ถือกำเนิดขึ้น”

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือสถิติโลกใหม่ด้านความเร็วสำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 ที่ศูนย์อวกาศ John F. Kennedy บนรันเวย์ลงจอดกระสวยอวกาศยาว 3.2 ไมล์ ที่น่าขบขันคือ คุณสามารถเลือกติดตั้งระบบเสียงที่ออกแบบโดย Steven Tyler แห่ง Aerosmith ใน Hennessey Venom GT ของคุณได้ด้วย

เครื่องยนต์: 7.0 ลิตร GM LS7 V8, Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา 6 สปีด Ricardo
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Bugatti Veyron Super Sport: ผู้บุกเบิกยุคไฮเปอร์คาร์สมัยใหม่

ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.5 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เมื่อเปิดตัวในปี 2010 Bugatti Veyron Super Sport ได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ว่าเป็นรถยนต์ที่ผลิตจำหน่ายที่ถูกกฎหมายบนท้องถนนที่เร็วที่สุดในโลก ปัจจุบันมันถูกทำลายสถิติโดยพี่น้อง Chiron Super Sport 300+ อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ W-16 Quad-turbo ขนาด 8.0 ลิตร ที่ผลิตกำลังสูงสุด 1,200 PS (882 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร) ถือเป็นปริมาณที่น่าทึ่งสำหรับยุคนั้น และเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดของไฮเปอร์คาร์ยุคใหม่ที่ผลักดันขีดจำกัดของความเร็วอย่างแท้จริง

เครื่องยนต์: 8.0 ลิตร W-16, Quad-turbo
กำลังสูงสุด: 1,200 PS (882 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด Ricardo
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.36 Cd (โหมดความเร็วสูงสุด)

Rimac Nevera: ปฏิวัติวงการด้วยพลังงานไฟฟ้าและความเร่งอันน่าทึ่ง

ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 1.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Rimac Nevera คือราชาแห่งยานยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ที่ออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ได้เร็วที่สุดในรายการนี้ และเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.)

Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ซึ่งรวมถึง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili อย่างไรก็ตาม Nevera ได้ทะลุกำแพง 250 ไมล์ต่อชั่วโมงในมือของวิศวกร Rimac ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท พวกเขาได้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวบนล้อแต่ละข้าง เพื่อให้ได้กำลังรวมสูงสุดถึง 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร) นั่นทำให้มันเป็นรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการนี้อีกด้วย!

ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรติดตั้งบนพื้นผิว 4 ตัวแยกกัน (4x independent surface-mounted, carbon-sleeve, permanent-magnet electric motors)
กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ Direct-drive single-speed
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.30 Cd

รถยนต์ที่เคยติดอันดับ แต่ถูกผลักออกนอก Top 10 แห่งปี 2025

ความเร็วคือการแข่งขันที่ไม่หยุดนิ่ง และนี่คือรถยนต์ที่เคยครองตำแหน่งแต่ได้ถูกผลักดันออกนอกรายการ Top 10 ที่เร็วที่สุดของเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงพลวัตของวิวัฒนาการยานยนต์ที่น่าตื่นเต้น

Koenigsegg Regera

ความเร็วสูงสุด: 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Koenigsegg Regera เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับการทดสอบ 0-400-0 กม./ชม. มีแนวโน้มว่ามันจะเร็วกว่าความเร็วสูงสุด 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.) ที่ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่แบรนด์ไม่เคยทดสอบอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงไม่สามารถติดอันดับ 10 รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกได้อย่างเฉียดฉิว

เครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลัง 1,500 แรงม้า (1,119 กิโลวัตต์) และแรงบิด 944 ปอนด์-ฟุต (1,280 นิวตันเมตร) กำลังนี้ถูกส่งผ่านระบบเกียร์ Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยประหยัดน้ำหนักได้ 88 กก. และเชื่อมต่อเครื่องยนต์กับเพลาหลังโดยตรง ผลลัพธ์คือรถยนต์ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ในเวลาเพียง 20.68 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Rimac Nevera ถึง 0.64 วินาที

McLaren Speedtail

ความเร็วสูงสุด: 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 3.0 วินาที
ราคา (รถใหม่): เริ่มต้นที่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

McLaren Speedtail เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ดูดีที่สุดในรายการของเรา และยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีคุณค่า เป็นที่ต้องการ และมีราคาแพงที่สุดอีกด้วย ความเร็วสูงสุดที่ 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.) นั้นน่าประทับใจ เพราะมันเป็นรถยนต์ที่มีกำลังน้อยที่สุดในรายการนี้ โดยมีกำลังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในลิสต์ เครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 4.0 ลิตร ผลิตกำลังเพียง 746 แรงม้า (556 กิโลวัตต์) และแรงบิด 590 ปอนด์-ฟุต (800 นิวตันเมตร) อย่างไรก็ตาม มันสามารถทำความเร็วอันน่าทึ่งนี้ได้อย่างง่ายดายด้วยรูปทรงที่ลู่ลมและค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำเพียง 0.278 Cd

ทำไมคุณควรเชื่อมั่นในรายการนี้

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ ผมเข้าใจดีว่ามีข้อมูลมากมายบนอินเทอร์เน็ตที่อาจทำให้สับสน รายการรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกของเรานี้ ไม่ได้ถูกรวบรวมโดยใช้เพียงคำกล่าวอ้างของผู้ผลิตเท่านั้น และอาจดูแตกต่างจากรายการอื่นๆ เนื่องจากเราไม่ได้เพิ่มรถยนต์ที่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการเข้ามาในรายการ

แม้ว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Koenigsegg จะอ้างว่า Jesko Absolut รุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขาสามารถทำความเร็วได้ถึง 330 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่เราจะรอจนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์ได้ว่าทำได้จริงก่อนที่เราจะเพิ่มมันลงในรายการของเรา แน่นอนว่าการเพิ่มรถยนต์อย่าง Bugatti Chiron Super Sport 300+ ไว้ในอันดับต้นๆ ของรายการนี้อาจทำให้บางคนสงสัย เนื่องจากลูกค้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงความเร็วสูงสุด 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.) ได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม มันได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามัน สามารถ ทำได้

ความน่าเชื่อถือของรายการนี้มาจากประสบการณ์และการยึดมั่นในข้อมูลที่ตรวจสอบได้เท่านั้น เพราะในโลกของความเร็วสูงสุด ตัวเลขที่พิสูจน์ได้คือสิ่งเดียวที่สำคัญ

สรุปและก้าวไปข้างหน้า: การเดินทางสู่ขีดสุดแห่งความเร็ว

การไล่ล่าความเร็วสูงสุดในโลกยานยนต์ยังคงเป็นพรมแดนที่น่าหลงใหลและเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง จากเครื่องยนต์สันดาปภายในที่คำรามอย่างดุดัน ไปจนถึงขุมพลังไฟฟ้าที่เงียบเชียบแต่ทรงพลัง ทุกยานยนต์ในรายการนี้ล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกที่แสดงถึงความอัจฉริยะทางวิศวกรรมและความมุ่งมั่นของมนุษย์ในการก้าวข้ามขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง ระบบขับเคลื่อน Quad-motor ที่ซับซ้อน หรือการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่ล้ำสมัย รถยนต์เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้า

ในปี 2025 และปีต่อๆ ไป เราจะได้เห็นการแข่งขันที่เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ซึ่งจีนได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ต้องจับตา เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น แบตเตอรี่โซลิดสเตท หรือวัสดุคอมโพสิตที่เบากว่าเดิม จะผลักดันให้เกิดสถิติใหม่ๆ และนิยามของ “ความเร็ว” จะถูกเขียนขึ้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าติดตามโลกยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมเชื่อว่าการแข่งขันนี้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น และอนาคตจะนำมาซึ่งความเร็วและนวัตกรรมที่เหนือความคาดหมาย มาร่วมแบ่งปันความคิดเห็นของคุณเกี่ยวกับรถยนต์ในฝัน หรือคาดการณ์อนาคตของไฮเปอร์คาร์ได้ที่ด้านล่างนี้ และเตรียมพบกับปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่จะมาถึงในปีต่อๆ ไป!

Previous Post

N1111194 งหน ญหากล บไปหาพ อแม part 2

Next Post

N1111564 ดการเด กเปรต ฉบ บแอร part 2

Next Post
N1111564 ดการเด กเปรต ฉบ บแอร part 2

N1111564 ดการเด กเปรต ฉบ บแอร part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1111487 เม อสาม พาหญ งอ นข นรถ part 2
  • N1211570 ปลอมรอยจ บเพ อให แฟนเก าอ จฉา part 2
  • N1111561 คบก นแรกๆ อะไรก ไปหมด part 2
  • N1111564 สำเร จจนได กของนายจม กโต part 2
  • N1111562 แค เร องเล กๆ แต เล นเว อร จนเป นเร องใหญ part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.