ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อันดับสุดยอดรถที่เร็วที่สุดในโลก ปี 2025: สถิติใหม่และความท้าทายแห่งอนาคต
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่าโลกของไฮเปอร์คาร์และความเร็วสูงสุดนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง มันคือสังเวียนที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของฟิสิกส์ การได้ครอบครอง “สุดยอดไฮเปอร์คาร์” เหล่านี้ในโรงรถของคุณ เหมือนกับการมีม้าแข่งสายเลือดแท้ที่พร้อมจะพุ่งทะยาน แต่ในความเป็นจริง ถนนสาธารณะคงไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับความเร็วระดับทะลุ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เพียงแค่รู้ว่าศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดนั้นอยู่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ก็เพียงพอแล้วที่จะจุดประกายความหลงใหลได้อย่างมหาศาล
ปี 2025 ถือเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่พลิกโฉมวงการ “รถที่เร็วที่สุดในโลก” อย่างแท้จริง จากเดิมที่เครื่องยนต์สันดาปภายในครองบัลลังก์มาอย่างยาวนาน วันนี้เราเห็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเข้ามาท้าทายอย่างดุดัน พร้อมสร้างสถิติใหม่ที่น่าทึ่ง การไล่ล่าความเร็วสูงสุดไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขอีกต่อไป แต่เป็นการแสดงถึงขีดความสามารถทางวิศวกรรมที่ไร้ขีดจำกัด การพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงเหล่านี้ยังคงเป็นหนึ่งใน “การลงทุนที่น่าสนใจ” สำหรับนักสะสมและผู้หลงใหลในเทคโนโลยีระดับสูง เพราะมูลค่าของรถยนต์รุ่นลิมิเต็ดเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผมได้รวบรวมและจัดอันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก 10 คัน โดยอ้างอิงจากสถิติความเร็วสูงสุดที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการและโปร่งใส ไม่ใช่เพียงแค่คำกล่าวอ้างจากผู้ผลิต เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลนี้มีความน่าเชื่อถือสูงสุดสำหรับผู้อ่านทุกท่านที่ต้องการเจาะลึกในโลกของ “สุดยอดความเร็วรถยนต์” และ “เทคโนโลยี EV ล้ำสมัย”
ไฮไลต์สำคัญจากทำเนียบสุดยอดรถยนต์ความเร็วสูงแห่งปี 2025:
รถที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme
รถที่มีพละกำลังสูงสุดในลิสต์: Yangwang U9 Xtreme
รถที่ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้เร็วที่สุด: Rimac Nevera
จากข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ เรามาสำรวจรายละเอียดของ “รถที่เร็วที่สุดในโลก” แต่ละคันกันอย่างใกล้ชิด เพื่อทำความเข้าใจถึงความมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมที่อยู่เบื้องหลังความเร็วสุดขีดเหล่านี้
Yangwang U9 Xtreme
ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): N/A (แต่คาดว่าเร็วมาก)
ราคา: N/A (ราคาเปิดตัวยังไม่ระบุ แต่คาดว่าอยู่ในระดับ “รถหรูราคาแพง”)
ระบบขับเคลื่อน: ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว (Quad-motor electric system)
กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: N/A (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: ขับตรงด้วยไฟฟ้า (Direct-drive electric)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27 Cd
ปี 2025 ได้เปิดศักราชใหม่ของ “สุดยอดความเร็ว” อย่างเป็นทางการ ด้วยการปรากฏตัวของ Yangwang U9 Xtreme รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจาก BYD ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในฐานะ “รถที่เร็วที่สุดในโลก” ด้วยความเร็วอันน่าทึ่งถึง 496.22 กม./ชม. ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี การที่ EV จากค่ายที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักสามารถโค่นแชมป์เก่าอย่าง Bugatti Chiron Super Sport 300+ ลงได้ ถือเป็นการสั่นสะเทือนวงการและพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของ “เทคโนโลยี EV” ยุคใหม่ ด้วยพละกำลังเกือบ 3,000 แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวอิสระ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ “ประสิทธิภาพยานยนต์” ระดับนี้ แสดงให้เห็นว่าขีดจำกัด 500 กม./ชม. กำลังจะถูกทำลายในไม่ช้า
นอกจากความเร็วสูงสุดแล้ว U9 Xtreme ยังแสดงให้เห็นถึง “วิศวกรรมยานยนต์” ระดับสูงด้วยการพยายามสร้างสถิติรอบสนาม Nürburgring Nordschleife โดยสามารถทำเวลาได้ 6:59.157 ซึ่งถึงแม้จะยังไม่สามารถเอาชนะ Porsche 911 GT3 RS (992) ได้ แต่ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถในการควบคุมและเสถียรภาพภายใต้ความเร็วสูง การออกแบบที่เน้น “อากาศพลศาสตร์” ด้วยค่า Cd เพียง 0.27 ยังช่วยให้รถสามารถแหวกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมาถึงของ U9 Xtreme ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่เราเคยรู้เกี่ยวกับ “ไฮเปอร์คาร์” สมรรถนะสูงเท่านั้น แต่ยังเร่งการเติบโตของตลาด “รถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูง” ที่เน้นการผลิตแบบจำกัดและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นสำหรับผู้ที่มองหาที่สุดแห่งสมรรถนะและนวัตกรรม
Bugatti Chiron Super Sport 300+
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.4 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 125 ล้านบาท)
เครื่องยนต์: W-16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบสี่ตัว (quad-turbo)
กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต (1,600 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.35 Cd
Bugatti Chiron Super Sport 300+ คือตำนานที่จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็น “รถโปรดักชั่นคันแรกที่ทะลุ 300 ไมล์ต่อชั่วโมง” ได้สำเร็จ ด้วยการทำสถิติอย่างเป็นทางการที่ 490.48 กม./ชม. ณ สนามทดสอบของบริษัทเอง แม้ว่าตำแหน่ง “รถที่เร็วที่สุดในโลก” จะถูกส่งต่อให้ Yangwang U9 Xtreme ไปแล้ว แต่ความสำเร็จนี้ยังคงเป็นบทพิสูจน์ถึง “นวัตกรรมเครื่องยนต์” อันยอดเยี่ยมของ Bugatti หัวใจสำคัญของความสำเร็จนี้คือเครื่องยนต์ W-16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบสี่ตัวอันมหาศาล ที่สร้างพละกำลังถึง 1,578 แรงม้าและแรงบิดมหาศาล ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาเมื่อพิจารณาจากค่า Cd ที่ค่อนข้างสูงที่ 0.35
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมต้องชี้ให้เห็นว่าแม้ Chiron Super Sport 300+ จะมีศักยภาพที่น่าทึ่ง แต่รถของลูกค้าจะถูกจำกัดความเร็วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 440 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และ Bugatti ก็ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดล็อกข้อจำกัดนี้ แต่อย่างไรก็ตาม การที่รถคันนี้สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงขีดจำกัดของตนเองได้ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ Chiron Super Sport 300+ ยังคงเป็นหนึ่งใน “สุดยอดไฮเปอร์คาร์” ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในตลาด “รถยนต์หรูราคาแพง” การผสมผสานระหว่าง “ประสิทธิภาพยานยนต์” ระดับโลกและ “วิศวกรรมยานยนต์” อันประณีต ทำให้ Bugatti ยังคงเป็นผู้นำในตลาด “รถยนต์สมรรถนะสูง” มาอย่างยาวนาน
SSC Tuatara
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.7 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 57 ล้านบาท)
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 5.9 ลิตร เทอร์โบคู่
กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาแบบคลัตช์เดี่ยว 7 สปีด CIMA
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.279 Cd
SSC Tuatara สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกยานยนต์เมื่อมีการประกาศว่าสามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 508.73 กม./ชม. ในปี 2020 ซึ่งจะเป็นการทำลายสถิติของ Bugatti อย่างสิ้นเชิง แต่หลังจากนั้นไม่นาน SSC North America ก็ยอมรับว่าการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวไม่เป็นความจริง ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับวงการอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างโปร่งใสก็ยังคงดำเนินต่อไป
ความพยายามล่าสุดที่บันทึกไว้ในเดือนพฤษภาคม 2022 แสดงให้เห็นว่า Tuatara สามารถทำความเร็วได้ถึง 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.) บนเส้นทางยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ซึ่งเป็นความเร็วที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง สิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าคือรถยังคงเร่งความเร็วได้อีกหลังจากผ่านจุดที่ได้รับการยืนยันแล้ว หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ เราอาจได้เห็นตัวเลขที่สูงขึ้นไปอีก “วิศวกรรมยานยนต์” ของ SSC ในการสร้าง “ไฮเปอร์คาร์” คันนี้ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ที่ให้กำลังถึง 1,750 แรงม้า และการออกแบบ “อากาศพลศาสตร์” ที่ยอดเยี่ยมด้วยค่า Cd เพียง 0.279 นั้น ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเป็นหนึ่งในความพยายามที่จริงจังที่สุดในการไล่ล่า “สถิติความเร็วรถยนต์” ด้วยการผสมผสานของ “เทคโนโลยีเครื่องยนต์” และ “การออกแบบตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์” ที่เบาเป็นพิเศษ Tuatara ยังคงเป็นคู่แข่งที่น่าจับตาในกลุ่ม “รถยนต์สมรรถนะสูง” ที่พร้อมจะสร้าง “ประสบการณ์ขับขี่สุดขีด” ให้กับผู้ที่ได้สัมผัส
Yangwang U9 Track Edition
ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): N/A
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท)
ระบบขับเคลื่อน: ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว (Quad-motor electric system)
กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: N/A (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: ขับตรงด้วยไฟฟ้า (Direct-drive electric)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27 Cd
อีกหนึ่งดาวเด่นจากค่าย Yangwang ของ BYD คือ U9 Track Edition ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในฐานะ “รถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก” ด้วยความเร็วสูงสุด 472.41 กม./ชม. ที่สนาม Papenburg ด้วยพละกำลังเกือบ 3,000 แรงม้าจาก “ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว” ทำให้ U9 Track Edition ก้าวข้ามสถิติเดิมของ Rimac Nevera ไปอย่างขาดลอย ซึ่งเป็นการตอกย้ำอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในตลาด “ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า” ด้วย “เทคโนโลยี EV” ที่ล้ำสมัย U9 Track Edition ใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงถึง 30,000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกความเร็วสูงสุดที่เคยเป็นข้อจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีเกียร์แบบดั้งเดิม
ระบบ e4 Platform ที่ควบคุมแรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวอย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาที ร่วมกับ DiSus-X Intelligent Body Control System ที่สามารถปรับความสูงของล้อแต่ละข้างได้อย่างอิสระ ทำให้รถคันนี้ไม่เพียงแต่มีความเร็วที่บ้าคลั่ง แต่ยังมีการยึดเกาะถนนและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม การผสมผสานของ “วิศวกรรมยานยนต์” ระดับสูงและ “เทคโนโลยี EV” ที่ก้าวหน้า ทำให้ Yangwang U9 Track Edition เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “สุดยอดประสิทธิภาพยานยนต์” ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า รถคันนี้ไม่เพียงแค่เร็ว แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่แสดงถึงอนาคตของ “รถยนต์สมรรถนะสูง” ที่เน้นการขับขี่ในสนามแข่งและ “ประสบการณ์ขับขี่สุดขีด”
Koenigsegg Agera RS
ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 91 ล้านบาท)
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 5.0 ลิตร เทอร์โบคู่
กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1,280 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาแบบคลัตช์เดี่ยว 7 สปีด CIMA
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd
Koenigsegg Agera RS ยังคงยืนหยัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของ “รถที่เร็วที่สุดในโลก” และเป็นรถยนต์ของ Koenigsegg ที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการว่าเร็วที่สุด การทำสถิติความเร็วเฉลี่ย 446.97 กม./ชม. ที่บันทึกไว้ในวิดีโอ YouTube เป็นเครื่องยืนยันถึง “ประสิทธิภาพยานยนต์” ที่ไร้ที่ติ Agera RS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลังถึง 1,176 แรงม้าและแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในลิสต์นี้
แม้ว่า Koenigsegg Jesko Absolut รุ่นใหม่จะเคลมความเร็วสูงสุดไว้ที่ 530 กม./ชม. แต่เนื่องจากยังไม่มีการทดสอบอย่างเป็นทางการบนพื้นดินจริง เราจึงยังไม่สามารถนำมารวมในการจัดอันดับนี้ได้ นี่คือหลักการสำคัญของผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญ: “สถิติความเร็วรถยนต์” ต้องได้รับการพิสูจน์ Koenigsegg เผชิญความท้าทายเดียวกันกับผู้ผลิตไฮเปอร์คาร์รายอื่น นั่นคือการหาเส้นทางที่ยาวพอและปลอดภัยสำหรับการทดสอบความเร็วสูงสุด ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นถนนสาธารณะหรือสนามทดสอบส่วนตัวของกลุ่มยานยนต์ขนาดใหญ่ Koenigsegg Agera RS ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของ “วิศวกรรมยานยนต์” สัญชาติสวีเดนที่มุ่งมั่นในการสร้าง “รถยนต์สมรรถนะสูง” ที่ไม่ธรรมดา และยังคงเป็นที่ต้องการของนักสะสม “รถหรูราคาแพง” ทั่วโลก
Bugatti Tourbillon
ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) ด้วย Speed Key
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.0 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 143 ล้านบาท)
เครื่องยนต์: V16 ขนาด 8.3 ลิตร แบบหายใจเอง (Naturally aspirated) พร้อมระบบไฮบริด
กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,464 ปอนด์-ฟุต (1,985 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): N/A
หาก Bugatti Chiron Super Sport 300+ คือบทพิสูจน์ความเร็วสูงสุด Bugatti Tourbillon คือนิยามของ “สุดยอดความหรูหราควบคู่สมรรถนะ” ที่ลูกค้า Bugatti จะสามารถเข้าถึงได้อย่างเต็มที่ ด้วยความเร็วสูงสุด 445 กม./ชม. (เมื่อใช้ Speed Key) ซึ่งสูงกว่า Chiron 300+ รุ่นลูกค้า (ที่ถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 440 กม./ชม.) Tourbillon จึงเป็นตัวเลือกที่เหนือกว่าในแง่ของ “ประสบการณ์ขับขี่สุดขีด” สำหรับเจ้าของ
สิ่งที่น่าสนใจคือ Tourbillon ได้ทิ้งเครื่องยนต์ W16 เทอร์โบสี่ตัวอันเป็นเอกลักษณ์ของ Chiron ไปใช้เครื่องยนต์ V16 ขนาด 8.3 ลิตร แบบหายใจเอง ผสานกับระบบไฮบริด ซึ่งให้พละกำลังมหาศาลถึง 1,800 แรงม้าและแรงบิด 1,464 ปอนด์-ฟุต การเปลี่ยนไปใช้ “เทคโนโลยีไฮบริด” นี้ แสดงให้เห็นถึงทิศทางใหม่ของ Bugatti ในการผสาน “นวัตกรรมเครื่องยนต์” เข้ากับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่ทิ้งซึ่ง “ประสิทธิภาพยานยนต์” ที่เป็นเลิศ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.0 วินาที คือเครื่องยืนยันถึงความเร็วที่ดุดัน และในฐานะ Bugatti คุณสามารถมั่นใจได้ว่าความเร็วระดับนี้จะมาพร้อมกับความสะดวกสบายและความมั่นคงที่หาได้ยากใน “ไฮเปอร์คาร์” ทั่วไป เป็นการแสดงออกถึง “วิศวกรรมยานยนต์” ที่ไร้ที่ติ และเป็น “การลงทุนรถยนต์สะสม” ที่มีมูลค่าสูงในอนาคต
Hennessey Venom F5
ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.6 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 57 ล้านบาท)
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 6.6 ลิตร เทอร์โบคู่
กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,193 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาแบบคลัตช์เดี่ยว 7 สปีด CIMA
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd
Hennessey Venom F5 คืออาวุธสำคัญของ Hennessey ในการเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อทำลายกำแพงความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.6 ลิตร เทอร์โบคู่ “Fury” ที่ให้พละกำลังมหาศาลถึง 1,817 แรงม้า Venom F5 ได้แสดงให้เห็นถึง “ประสิทธิภาพยานยนต์” ที่น่าเกรงขาม
แม้ว่า SSC Tuatara จะประสบปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือในความพยายามแรก Hennessey Venom F5 ได้เงียบๆ ทำสถิติความเร็วสูงสุดที่ 437 กม./ชม. ในปี 2022 ซึ่งตอกย้ำตำแหน่งของตนในฐานะหนึ่งใน “รถที่เร็วที่สุดในโลก” ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าหากมีเส้นทางที่ยาวกว่านี้ Venom F5 จะสามารถทำความเร็วได้สูงยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังพยายามหาทางอยู่ ณ ขณะนี้ ในการอัปเดตล่าสุด Hennessey ระบุว่าปี 2024 (ในบริบทของบทความปี 2025) จะเป็นปีที่ Venom F5 จะพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นความท้าทายที่น่าติดตามอย่างใกล้ชิด การผสมผสานระหว่าง “แรงม้าสูงสุด” และ “วิศวกรรมยานยนต์” ที่เน้นความเร็ว ทำให้ Venom F5 เป็น “ไฮเปอร์คาร์” ที่น่าเกรงขามและเป็น “การลงทุนในรถยนต์หายาก” ที่มีแนวโน้มเพิ่มมูลค่าในอนาคต
Hennessey Venom GT
ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 50 ล้านบาท)
เครื่องยนต์: GM LS7 V8 ขนาด 7.0 ลิตร เทอร์โบคู่
กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา Ricardo 6 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd
Hennessey Venom GT คือผลผลิตจากแนวคิดที่บ้าคลั่งของ John Hennessey ที่ต้องการนำเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) ไปใส่ไว้ใน Lotus Exige ด้วยการออกแบบเครื่องยนต์วางกลาง ทำให้รถคันนี้มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นำไปสู่อัตราเร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ และเป็นพื้นฐานของแนวคิด Venom GT
ในปี 2014 Hennessey Venom GT ได้สร้าง “สถิติความเร็วรถยนต์” โลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ด้วยการทำความเร็ว 435.31 กม./ชม. บนรันเวย์ยานอวกาศขนาด 3.2 ไมล์ที่ศูนย์อวกาศ John F. Kennedy การใช้เครื่องยนต์ GM LS7 V8 ขนาด 7.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลัง 1,244 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีดของ Ricardo เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง “นวัตกรรมเครื่องยนต์” และ “วิศวกรรมยานยนต์” ที่เน้นประสบการณ์การขับขี่ที่ดิบและน่าตื่นเต้น Hennessey Venom GT เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “รถยนต์สมรรถนะสูง” ที่สร้างขึ้นด้วยความหลงใหลและวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญ ถือเป็นอีกหนึ่ง “การลงทุนรถยนต์สะสม” ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ของ “สุดยอดความเร็ว”
Bugatti Veyron Super Sport
ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.5 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 86 ล้านบาท)
เครื่องยนต์: W-16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบสี่ตัว (quad-turbo)
กำลังสูงสุด: 1,200 แรงม้า (882 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ Ricardo 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.36 Cd (ในโหมดความเร็วสูงสุด)
เมื่อ Bugatti Veyron Super Sport เปิดตัวในปี 2010 ได้รับการจดจำจาก Guinness World Records ว่าเป็น “รถโปรดักชั่นที่ถูกกฎหมายบนถนนที่เร็วที่สุดในโลก” แม้ในปัจจุบันจะถูกโค่นตำแหน่งโดย Chiron Super Sport 300+ ผู้เป็นพี่น้องร่วมค่าย แต่ Veyron Super Sport ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยและเป็นตำนานของ “สุดยอดความเร็วรถยนต์” ด้วยเครื่องยนต์ W-16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบสี่ตัวอันเป็นเอกลักษณ์ ที่สร้างพละกำลังถึง 1,200 แรงม้าและแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งอย่างยิ่งสำหรับยุคนั้น
Veyron Super Sport คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง “วิศวกรรมยานยนต์” ที่ซับซ้อนและ “ประสิทธิภาพยานยนต์” ที่ไร้ที่ติ การออกแบบที่แข็งแกร่งและ “เทคโนโลยีเครื่องยนต์” ที่ก้าวหน้า ทำให้รถคันนี้ไม่เพียงแต่เร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ยังให้ความรู้สึกมั่นคงและหรูหราขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ในฐานะ “รถยนต์หรูราคาแพง” ที่กลายเป็นไอคอน Veyron Super Sport ยังคงเป็นที่ต้องการของนักสะสมและเป็นตัวอย่างสำคัญของ “ไฮเปอร์คาร์” ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการยานยนต์
Rimac Nevera
ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 1.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 107 ล้านบาท)
ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร 4 ตัวอิสระ (4x independent surface-mounted, carbon-sleeve, permanent-magnet electric motors)
กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: ขับตรงด้วยความเร็วเดียว (Single-speed direct-drive transmission)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.30 Cd
Rimac Nevera อาจถูก Yangwang U9 Track Edition แซงหน้าไปในฐานะ “รถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก” แต่ก็ยังคงเป็นราชาแห่งรถยนต์ไฟฟ้าในด้าน “อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่เร็วที่สุด” ด้วยเวลาเพียง 1.8 วินาที ซึ่งทำให้เป็น “รถที่เร็วที่สุดในโลก” ในการทำอัตราเร่ง และยังคงอยู่ในทำเนียบ “รถยนต์สมรรถนะสูง” ที่ทำความเร็วสูงสุดได้ 412 กม./ชม.
Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Bugatti Rimac ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili Nevera สร้างสถิติความเร็วสูงสุดนี้โดยวิศวกรของ Rimac ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท ด้วยการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวบนแต่ละล้อ ทำให้ Nevera มี “กำลังสูงสุด” ถึง 1,888 แรงม้า และ “แรงบิดมหาศาล” 1,741 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้เป็นรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในลิสต์นี้ “เทคโนโลยี EV” ขั้นสูงของ Rimac ผสานกับการออกแบบ “อากาศพลศาสตร์” ที่โดดเด่น (ค่า Cd 0.30) และ “ยางสมรรถนะสูง” ทำให้ Nevera เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของ “นวัตกรรมยานยนต์” ไฟฟ้าที่สามารถให้ “ประสบการณ์ขับขี่สุดขีด” และ “ประสิทธิภาพยานยนต์” ที่น่าทึ่ง มันเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของยานยนต์ไฟฟ้าในยุค 2025 และเป็น “การลงทุนรถยนต์สะสม” ที่มีแนวโน้มสดใส
รถยนต์ที่เคยครองตำแหน่งแต่ถูกผลักออกจาก 10 อันดับแรก
ในวงการ “สุดยอดความเร็ว” ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง มีรถยนต์หลายคันที่ครั้งหนึ่งเคยโดดเด่น แต่ด้วยการพัฒนาอย่างรวดเร็วของ “เทคโนโลยี EV” และ “นวัตกรรมเครื่องยนต์” ทำให้พวกมันต้องหลุดจาก 10 อันดับแรกไป แต่ก็ยังคงเป็นตำนานที่น่าจดจำ
Koenigsegg Regera
ความเร็วสูงสุด: 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 68 ล้านบาท)
Koenigsegg Regera เป็น “ไฮเปอร์คาร์” ที่น่าทึ่งในเรื่องอัตราเร่ง 0-400-0 กม./ชม. และเชื่อว่ามีศักยภาพที่เร็วกว่าความเร็วสูงสุด 400 กม./ชม. ที่ถูกจำกัดไว้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่เนื่องจากไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ ทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ 10 อันดับแรกของ “รถที่เร็วที่สุดในโลก” ได้ Regera ใช้เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,500 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบ Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้ 88 กก. และเชื่อมโยงเครื่องยนต์กับเพลาล้อหลังโดยตรง ด้วย “วิศวกรรมยานยนต์” ที่เป็นเอกลักษณ์ Regera ยังคงเป็นหนึ่งใน “รถยนต์สมรรถนะสูง” ที่น่าชื่นชมในด้าน “ประสิทธิภาพยานยนต์” และ “เทคโนโลยีเครื่องยนต์”
McLaren Speedtail
ความเร็วสูงสุด: 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 3.0 วินาที
ราคา (รถใหม่): เริ่มต้นที่ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 71 ล้านบาท)
McLaren Speedtail คือหนึ่งใน “ไฮเปอร์คาร์” ที่สวยงามที่สุดและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 403 กม./ชม. ที่น่าประทับใจ แม้ว่าจะมีพละกำลังน้อยกว่ารถส่วนใหญ่ในลิสต์นี้เกือบครึ่ง ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ขนาด 4.0 ลิตร ที่ให้กำลังเพียง 746 แรงม้าและแรงบิด 590 ปอนด์-ฟุต แต่ McLaren ก็สามารถบรรลุความเร็วระดับนี้ได้อย่างง่ายดาย ต้องขอบคุณการออกแบบตัวถังที่ลื่นไหลและ “อากาศพลศาสตร์” ที่ยอดเยี่ยมด้วยค่า Cd ต่ำเพียง 0.278 Speedtail เป็นตัวอย่างของ “วิศวกรรมยานยนต์” ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบและประสิทธิภาพโดยรวม ทำให้เป็น “รถยนต์สมรรถนะสูง” ที่ยังคงน่าประทับใจและเป็น “การลงทุนรถยนต์สะสม” ที่มีมูลค่าสูงในตลาด “รถหรูราคาแพง”
ความน่าเชื่อถือของการจัดอันดับนี้
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ ผมยึดมั่นในหลักการที่ว่า “สถิติความเร็วรถยนต์” ต้องได้รับการพิสูจน์อย่างเป็นทางการ การจัดอันดับ “รถที่เร็วที่สุดในโลก” ของเราจึงไม่ได้รวบรวมข้อมูลจากคำกล่าวอ้างของผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณอาจเห็นความแตกต่างจากลิสต์อื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต เราจะไม่เพิ่มรถยนต์ที่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการลงในรายการนี้ แม้ว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Koenigsegg จะอ้างว่า Jesko Absolut รุ่นใหม่ของพวกเขาสามารถทำความเร็วได้ถึง 530 กม./ชม. เราจะรอจนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์ได้จริงก่อนที่จะเพิ่มเข้าไปในลิสต์นี้
แน่นอนว่า การที่ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ยังคงอยู่ในอันดับต้นๆ อาจทำให้บางคนสงสัย เพราะลูกค้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงความเร็วสูงสุด 490.48 กม./ชม. แต่รถคันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้จริง และนั่นคือเกณฑ์ที่เราใช้ เราให้ความสำคัญกับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เรานำเสนอเป็น “สุดยอดข้อมูลยานยนต์” ที่เชื่อถือได้และทันสมัยที่สุดในตลาด “รถยนต์สมรรถนะสูง” ปี 2025
โลกของไฮเปอร์คาร์และความเร็วสูงสุดยังคงพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกับ “นวัตกรรมยานยนต์” ที่น่าตื่นเต้นและ “เทคโนโลยี EV” ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ หากคุณมีความหลงใหลในความเร็วและ “ประสบการณ์ขับขี่สุดขีด” เช่นเดียวกับผม ผมขอเชิญชวนให้คุณร่วมแบ่งปันความคิดเห็นหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับ “รถที่เร็วที่สุดในโลก” เหล่านี้ได้เลยครับ!
สุดยอดรถยนต์ความเร็วสูงที่สุดในโลกปี 2025: ทะยานสู่ขีดจำกัดแห่งความเร็วและนวัตกรรม
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมานานกว่าทศวรรษ ผมเข้าใจดีถึงความลุ่มหลงในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก การได้เป็นเจ้าของหนึ่งในสุดยอดไฮเปอร์คาร์เหล่านี้ในโรงจอดรถของคุณ อาจเป็นความท้าทายที่น่าตื่นเต้น ราวกับการเป็นเจ้าของวิสกี้หายากที่แพงที่สุดในตู้เก็บไวน์ คุณรู้ดีว่าบนท้องถนนทั่วไป คุณไม่มีทางที่จะได้สัมผัสความเร็วสูงสุดที่ทำลายสถิติได้เลย รถยนต์ทุกคันในรายการที่เราจะพูดถึงนี้ สามารถทะยานได้เกินกว่า 400 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.) แต่มีเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ
อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าของรถยนต์สายพันธุ์แชมป์เปี้ยน และขับขี่มันอย่างช้าๆ เพียงเพื่อรู้ว่ามันมีความสามารถที่ซ่อนอยู่ภายใน เป็นความรู้สึกที่พิเศษอย่างยิ่ง บางครั้งมันก็เกี่ยวกับสถิติ ตัวเลขที่น่าตื่นตาตื่นใจ และรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกก็เป็นเช่นนั้นแหละ ปี 2025 นี้ ได้ตอกย้ำยุคสมัยใหม่ของการแสวงหาความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการก้าวเข้ามาของพลังงานไฟฟ้าที่พลิกโฉมวงการ วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงยานยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งไม่ใช่แค่เร็ว แต่เป็นผลงานทางวิศวกรรมที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมสำรวจแนวโน้มและนวัตกรรมที่กำลังขับเคลื่อนอนาคตของไฮเปอร์คาร์
ไฮไลต์สำคัญจากรายชื่อสุดยอดรถยนต์ความเร็วสูงในปี 2025
ปีนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในโลกของความเร็วอย่างแท้จริง และเป็นที่น่าจับตาว่าพลังงานไฟฟ้าได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำลายขีดจำกัดที่เคยมีมา นี่คือจุดเด่นที่สำคัญจากสุดยอดรถยนต์ในรายการของเรา:
รถที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme รถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่
รถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme การันตีความเหนือชั้นในกลุ่ม EV
รถที่มีพละกำลังสูงสุดในรายการ: Yangwang U9 Xtreme ด้วยขุมพลังไฟฟ้าที่ไม่อาจหาใครเทียบได้
รถที่มีอัตราเร่งสูงสุด (0-100 กม./ชม.): Rimac Nevera ยังคงเป็นเจ้าแห่งการออกตัวที่เร็วที่สุด
เมื่อคุณได้เห็นภาพรวมของแชมป์เปี้ยนเหล่านี้แล้ว เรามาสำรวจรายละเอียดของแต่ละคันในแบบฉบับผู้เชี่ยวชาญกัน
Yangwang U9 Xtreme
ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): N/A (คาดการณ์ว่าต่ำกว่า 2.0 วินาที)
ราคา: N/A (จำกัดการผลิตเพียง 30 คัน)
ก้าวเข้าสู่ปี 2025 อย่างเต็มตัว โลกยานยนต์ได้บันทึกประวัติศาสตร์บทใหม่ เมื่อ Yangwang U9 Xtreme รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่ได้รับการพัฒนาอย่างสุดขีด กำลังปลุกกระแสและนิยามคำว่า “รถที่เร็วที่สุดในโลก” ขึ้นมาใหม่ ด้วยพละกำลังมหาศาลกว่า 3,000 แรงม้าจากระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วนๆ U9 Xtreme ได้สร้างสถิติความเร็วสูงสุดอันน่าทึ่งที่ 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.) ณ สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ประเทศเยอรมนี การก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทำลายสถิติเดิมของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ที่ครองตำแหน่งมายาวนานกว่าห้าปี แต่ยังเป็นการประกาศศักดาของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจีนในเวทีระดับโลกอีกด้วย แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง SSC, Koenigsegg, Hennessey และ Rimac ต่างพยายามอย่างหนักเพื่อโค่นบัลลังก์ แต่กลับเป็น Yangwang ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของไฮเปอร์คาร์ความเร็วสูง และตอนนี้เป้าหมายต่อไปที่ 500 กม./ชม. ก็ดูเหมือนจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม นี่คือการแสดงออกถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงอย่างแท้จริง
U9 Xtreme ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 30 คัน ด้วยราคาที่ไม่เปิดเผย แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือความพยายามของ Yangwang ที่จะทำลายสถิติรอบสนาม Nürburgring Nordschleife โดยสามารถทำเวลาได้ถึง 6:59.157 ซึ่งถือว่ารวดเร็วอย่างยิ่ง แม้จะยังห่างจาก Porsche 911 GT3 RS (992) ที่ทำไว้ 6:44.848 นาทีในปี 2022 แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างไฮเปอร์คาร์ที่ครบเครื่องทั้งความเร็วทางตรงและประสิทธิภาพในสนามแข่ง
Yangwang U9 Xtreme ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์ที่เร็วที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่จะพลิกโฉมความเข้าใจเดิมๆ ของเราเกี่ยวกับซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง และจะเร่งให้ตลาดไฮเปอร์คาร์สั่งทำพิเศษที่เน้นผู้ขับขี่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการแค่ตัวเลขบนแผ่นสถิติ แต่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นและเป็นเอกลักษณ์
ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว (Quad-motor electric system)
กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 kW)
แรงบิดสูงสุด: N/A (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 Nm)
ระบบส่งกำลัง: Direct-drive electric
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27 Cd
Bugatti Chiron Super Sport 300+
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.4 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ก่อนที่ Yangwang U9 Xtreme จะมาสร้างประวัติศาสตร์ Bugatti Chiron Super Sport 300+ คือยานยนต์คันแรกที่ก้าวข้ามกำแพงความเร็ว 300 ไมล์/ชม. ได้สำเร็จ เมื่อมันสร้างสถิติความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการที่ 490.484 กม./ชม. (304.773 ไมล์/ชม.) ณ สนามทดสอบของบริษัท นี่คือความสำเร็จอันน่าทึ่งที่เกิดจากขุมพลัง W-16 ขนาด 8.0 ลิตร พ่วงด้วยเทอร์โบสี่ตัวอันมหาศาล ซึ่งให้กำลังถึง 1,578 แรงม้า (1,160 kW) และแรงบิดกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ค่อนข้างสูงที่ 0.35 Cd ซึ่งทำให้มันดูเหมือน “ก้อนอิฐ” มากกว่า SSC Tuatara (0.279 Cd) แต่ก็ยังสามารถทะยานสู่ความเร็วระดับนี้ได้อย่างน่าทึ่ง มันคือบทพิสูจน์ถึงความอัจฉริยะทางวิศวกรรมของ Bugatti ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะสามารถทำความเร็วสูงสุดระดับนี้ได้ แต่ Bugatti ก็ได้ติดตั้งระบบจำกัดความเร็วสูงสุดไว้สำหรับรถยนต์ที่ส่งมอบให้ลูกค้า เช่นเดียวกับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นอื่นๆ ของแบรนด์ รวมถึงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Tourbillon โดยรถยนต์ของลูกค้าจะถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์/ชม.) และทาง Bugatti ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดล็อกข้อจำกัดนี้ ถือเป็นการสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ Bugatti ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เครื่องยนต์: W-16 ขนาด 8.0 ลิตร, เทอร์โบ 4 ตัว
กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.35 Cd
SSC Tuatara
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.7 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อ SSC North America ประกาศว่า Tuatara ไฮเปอร์คาร์ของพวกเขาสามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 508.73 กม./ชม. (316.11 ไมล์/ชม.) บนถนนหลวงในทะเลทรายเนวาดา มันได้สร้างความตกตะลึงให้กับวงการยานยนต์ทั่วโลก นั่นหมายถึงการเอาชนะสถิติของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ได้อย่างขาดลอย และทะลุขีดจำกัด 500 กม./ชม. ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ต่อมากลับพบว่าการอ้างสิทธิ์นี้เป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นทั้งหมด
ทางแบรนด์ได้ออกมายอมรับว่าความเร็วที่อ้างถึงนั้นเป็นเท็จผ่านโพสต์บนโซเชียลมีเดีย “หากยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ เราขอรับทราบอย่างเป็นทางการว่าเราไม่ได้ทำความเร็วตามที่อ้างไว้เดิมที่ 331 ไมล์/ชม. หรือแม้แต่ 301 ไมล์/ชม. ในเดือนตุลาคม 2020” โพสต์ระบุ “เราเสียใจอย่างสุดซึ้งในฐานะบริษัทที่ทราบว่าเราไม่บรรลุความสำเร็จนี้ และเรากำลังพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อทำลายกำแพง 300 ไมล์/ชม. อย่างโปร่งใส เป็นทางการ และไม่มีข้อกังขา” นี่คือบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือในโลกของการทำลายสถิติ
ถึงกระนั้น ความผิดหวังนี้ก็ไม่ได้หยุดยั้งพวกเขาจากการพยายาม โดยความพยายามล่าสุดที่บันทึกไว้และเผยแพร่บน YouTube ในเดือนพฤษภาคม 2022 แสดงให้เห็นว่า Tuatara สามารถทำความเร็วได้ถึง 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.) บนเส้นทางยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ณ ศูนย์อวกาศ Kennedy Space Centre สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ SSC Tuatara ยังคงเร่งความเร็วต่อไปได้อีกเมื่อ Larry Caplin ลูกค้าที่ขับขี่ ต้องผ่อนคันเร่ง ดังนั้นเราจึงจินตนาการได้ว่าตัวเลขจะสูงขึ้นไปอีกแค่ไหนหากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ นี่คือไฮเปอร์คาร์ที่แท้จริงที่มีศักยภาพอันมหาศาล รอเพียงโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเองอย่างเป็นทางการ
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 5.9 ลิตร, ทวินเทอร์โบ
กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 kW)
แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.279 Cd
Yangwang U9 Track Edition
ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): N/A
ราคา: เริ่มต้น 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท)
สมาชิกใหม่ล่าสุดในทำเนียบรถที่เร็วที่สุดในโลกคือรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจากแบรนด์ย่อยสุดหรูของ BYD อย่าง Yangwang นี่คือ U9 Track Edition ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าพลังสี่มอเตอร์เกือบ 3,000 แรงม้า ด้วยระบบ 1,200 โวลต์ ที่สามารถอ้างสิทธิ์อย่างเป็นทางการว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลกได้แล้ว หลังจากทำความเร็วสูงสุด 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.) ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี โดยมี Marc Basseng นักแข่งมืออาชีพอยู่หลังพวงมาลัย
ก่อนหน้านี้ Rimac Nevera เคยครองตำแหน่งสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าด้วยความเร็ว 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.) แต่ตอนนี้สถิตินั้นถูกโค่นโดยรถยนต์จากประเทศจีนแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในเอเชีย
แม้จะมีความสามารถในการเร่งความเร็วที่น่าทึ่ง แต่รถยนต์ไฟฟ้าก็มักจะมีข้อจำกัดในการทำความเร็วสูงสุดโดยปราศจากเกียร์แบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม Yangwang ได้แก้ปัญหานี้ด้วยการเปิดตัวระบบสี่มอเตอร์ตัวแรกของโลกที่ใช้มอเตอร์สมรรถนะสูง 30,000 รอบต่อนาที ซึ่งช่วยให้รถยนต์สามารถทำความเร็วสูงสุดที่น่าเหลือเชื่อถึง 472.41 กม./ชม. ได้
เอาต์พุตแรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวถูกควบคุมอย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี “e4 Platform” ของแบรนด์ เทคโนโลยีนี้ทำงานร่วมกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X เพื่อควบคุมการปรับแนวตั้งของแต่ละล้ออย่างอิสระ และช่วยให้รถยึดเกาะกับพื้นผิวถนนได้อย่างมั่นคง นี่คือการผสมผสานระหว่างพละกำลังและเทคโนโลยีการควบคุมที่ล้ำสมัยอย่างแท้จริง
ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว (Quad-motor electric system)
กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 kW)
แรงบิดสูงสุด: N/A (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 Nm)
ระบบส่งกำลัง: Direct-drive electric
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27 Cd
Koenigsegg Agera RS
ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 2.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Koenigsegg Agera RS ยังคงเป็นหนึ่งในรถที่เร็วที่สุดในโลก และเป็น Koenigsegg ที่เร็วที่สุดที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ วิดีโอที่เผยแพร่โดยแบรนด์แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้สามารถทำความเร็วเฉลี่ยสูงสุดได้ถึง 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.) มันขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,176 แรงม้า (865 kW) และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต (1280 Nm) ซึ่งทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีกำลังสูงสุดในรายการของเรา
คุณอาจกำลังคิดว่า “Koenigsegg Jesko Absolut รุ่นใหม่ล่าสุดไม่ได้เคลมความเร็วสูงสุด 330 ไมล์/ชม. หรือ?” ใช่ครับ แต่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการบนพื้นสนามทดสอบจริง แม้จะพิสูจน์แล้วว่าเร็วกว่า Agera RS และ Regera ในการทดสอบ 0-250 ไมล์/ชม.-0 แต่แบรนด์ยังไม่เคยทดสอบความเร็วสูงสุดของ Jesko Absolut ในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะเป็นภารกิจหลักของ Christian von Koenigsegg ผู้ก่อตั้ง
เช่นเดียวกับรถยนต์หลายคันในรายการนี้ เหตุผลหลักที่เรายังไม่เห็น Jesko Absolut ทำความเร็วสูงสุดได้นั้นเป็นเพราะมีถนนเพียงไม่กี่สายบนโลกที่ยาวพอสำหรับการทดสอบส่วนใหญ่เป็นถนนสาธารณะ หรือไม่ก็เป็นกรรมสิทธิ์ของ Volkswagen Group (Bugatti) ซึ่งไม่ยอมให้ใครใช้ การหาพื้นที่ทดสอบที่เหมาะสมและปลอดภัยเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ผลิตไฮเปอร์คาร์เหล่านี้
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 5.0 ลิตร, ทวินเทอร์โบ
กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 kW)
แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1280 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd
Bugatti Tourbillon
ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) พร้อม Speed Key
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.0 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Bugatti Chiron Super Sport 300+ อาจเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีการทดสอบมา แต่ Bugatti Tourbillon คือรถยนต์ Bugatti ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้จริง ด้วยความเร็วสูงสุด 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) โดยใช้ Speed Key ซึ่งเร็วกว่า Chiron 300+ ในสเปคลูกค้าที่ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์/ชม.) นี่คือไฮเปอร์คาร์แห่งอนาคตที่ยังคงรักษาจิตวิญญาณของ Bugatti ไว้อย่างเต็มเปี่ยม
ต่างจาก Chiron ที่ใช้เครื่องยนต์ W16 เทอร์โบสี่ตัว Bugatti Tourbillon มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V16 ไฮบริดแบบดูดอากาศธรรมชาติขนาด 8.3 ลิตร แต่ก็ยังคงสร้างพละกำลังที่น่าสะเทือนเลื่อนลั่นถึง 1,800 แรงม้า (1,342 kW) และแรงบิด 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 Nm) ซึ่งช่วยให้มันเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียงสองวินาที ก่อนที่จะทะยานสู่ความเร็วสูงสุดอันมหัศจรรย์ที่ 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) และด้วยความเป็น Bugatti คุณรู้ดีว่ามันสามารถทำได้และจะทำได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย นี่คือการผสมผสานระหว่างความหรูหรา ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมยานยนต์อย่างลงตัว
เครื่องยนต์: V16 ขนาด 8.3 ลิตร, ดูดอากาศธรรมชาติ
กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): N/A
Hennessey Venom F5
ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.6 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เช่นเดียวกับการแข่งขันอวกาศ การทำลายสถิติความเร็วสูงสุดยังคงเป็นสมรภูมิที่สี่บริษัทหลัก (Bugatti, Hennessey, SSC และ Koenigsegg) กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทุกบริษัทต่างพยายามที่จะทะลวงกำแพง 300 ไมล์/ชม. ในรถยนต์ที่ถูกกฎหมาย และอาวุธที่ Hennessey เลือกใช้คือ Venom F5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 6.6 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,817 แรงม้า (1,355 kW)
ในขณะที่ SSC Tuatara ถูกจับได้ว่ามีการสร้างเรื่องเท็จในการพยายามครั้งแรก Hennessey Venom F5 กลับทำความเร็วสูงสุดได้ 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.) อย่างเงียบๆ ในปี 2022 ซึ่งตอกย้ำตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดเป็นอันดับห้าตลอดกาล หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ มันคงจะไปได้เร็วกว่านี้อีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังพยายามหาอยู่ นี่คือการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ของวิศวกรชาวอเมริกัน
ในการอัปเดตล่าสุดบน YouTube John Hennessey กล่าวว่าปี 2024 จะเป็นปีที่ Venom F5 จะพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์/ชม. อย่างเป็นทางการ ดังนั้นเราจะรอคอยผลลัพธ์อย่างใจจดใจจ่อ ช่างน่าเสียดายที่ Volkswagen Group ไม่อนุญาตให้พวกเขาใช้สนาม Ehra-Lessien ซึ่งเป็นสนามทดสอบในฝันสำหรับรถยนต์ความเร็วสูง
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 6.6 ลิตร, ทวินเทอร์โบ
กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1193 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd
Hennessey Venom GT
ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
“วันหนึ่งผมเคยล้อเล่นเกี่ยวกับการนำเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) ไปไว้ด้านหลังของ Lotus Exige” John Hennessey กล่าวกับ Road and Track เกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลัง Hennessey Venom GT “จากนั้นผมก็คิดว่า ลองวาดภาพดูสิว่ามันจะเป็นอย่างไร พอเห็นภาพร่าง ผมก็หยุดหัวเราะและเริ่มคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับแนวคิดนี้”
“การออกแบบเครื่องยนต์วางกลางแบบ Ford GT จะทำให้เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังอยู่เหนือยางหลัง ซึ่งให้การยึดเกาะที่ดีขึ้น ออกแบบแรงกดอากาศให้มากที่สุดเท่าที่เราต้องการ เพื่อให้รถมีการควบคุมเหมือนรถคาร์ทบนถนนหรือสนามแข่ง ขณะเดียวกัน เราก็มีรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งให้อัตราเร่งที่ไม่มีใครเทียบ นี่คือที่มาของแนวคิด Venom GT”
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือสถิติโลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 ณ ศูนย์อวกาศ John F. Kennedy บนรันเวย์ลงจอดกระสวยอวกาศยาว 3.2 ไมล์ ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าจดจำและแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในการออกแบบและวิศวกรรมที่แตกต่างออกไป
และเรื่องที่น่าสนใจคือ คุณสามารถสั่งติดตั้งระบบเครื่องเสียงที่ออกแบบโดย Steven Tyler แห่งวง Aerosmith ใน Hennessey Venom GT ของคุณได้ด้วย นี่คือความใส่ใจในรายละเอียดที่เหนือความคาดหมาย
เครื่องยนต์: GM LS7 V8 ขนาด 7.0 ลิตร, ทวินเทอร์โบ
กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา Ricardo 6 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd
Bugatti Veyron Super Sport
ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.5 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อเปิดตัวในปี 2010 Bugatti Veyron Super Sport ได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ให้เป็นรถยนต์โปรดักชั่นที่ถูกกฎหมายบนท้องถนนที่เร็วที่สุดในโลก ทุกวันนี้มันถูกแซงหน้าโดยน้องชายอย่าง Chiron Super Sport 300+ อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ W-16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบสี่ตัว ยังคงสร้างกำลังได้มากถึง 1,200 PS (882 kW) และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 Nm) ซึ่งเป็นปริมาณที่น่าทึ่งสำหรับยุคนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคไฮเปอร์คาร์สมัยใหม่และเป็นตำนานที่ยังคงมีคุณค่าจนถึงทุกวันนี้
Veyron Super Sport เป็นมากกว่าแค่รถเร็ว มันคือผลงานชิ้นเอกที่ผสมผสานความหรูหรา ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เป็นรถยนต์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าความเร็วระดับสูงสุดสามารถบรรจุอยู่ในแพ็คเกจที่ใช้งานได้จริงบนท้องถนน และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับวิศวกรยานยนต์ทั่วโลก
เครื่องยนต์: W-16 ขนาด 8.0 ลิตร, เทอร์โบ 4 ตัว
กำลังสูงสุด: 1,200 PS (882 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ Ricardo 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.36 Cd (ในโหมดความเร็วสูงสุด)
Rimac Nevera
ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 1.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Rimac Nevera คือราชาแห่งรถยนต์ไฟฟ้า เจ้าของตำแหน่งรถยนต์ที่มีอัตราเร่งเร็วที่สุดในรายการนี้จาก 0-100 กม./ชม. และยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.) แม้จะถูกโค่นตำแหน่ง EV ที่เร็วที่สุดโดย Yangwang U9 Xtreme แต่ Nevera ก็ยังคงเป็นมาตรฐานสำหรับประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่สามารถมองข้ามได้
Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ซึ่งรวมทั้ง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili อย่างไรก็ตาม Nevera ได้ทะลุขีดจำกัด 250 ไมล์/ชม. ในมือของวิศวกร Rimac ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท พวกเขาได้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวบนแต่ละล้อ ทำให้มีกำลังรวม 1,888 แรงม้า (1,388 kW) และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 Nm) ซึ่งทำให้เป็นรถยนต์ที่มีกำลังสูงสุดในรายการนี้เช่นกัน นี่คือการผสมผสานของเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก
Rimac Nevera ไม่เพียงแต่เร็วและแรงเท่านั้น แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป และเป็นผู้นำในการบุกเบิกยุคใหม่ของไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า
ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าถาวร 4 ตัวแบบ surface-mounted, carbon-sleeve
กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ Direct-drive แบบ single-speed
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.30 Cd
รถยนต์ที่เคยครองตำแหน่งแต่ถูกผลักออกจาก 10 อันดับแรก
ในโลกที่ความเร็วเป็นสิ่งสูงสุด การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด และมีรถยนต์ที่เคยเป็นดาวเด่นแต่ก็ต้องหลีกทางให้กับผู้มาใหม่ นี่คือรถยนต์บางคันที่ถูกผลักออกจากรายชื่อ 10 อันดับแรกที่เร็วที่สุดตลอดหลายปีที่ผ่านมา
Koenigsegg Regera
ความเร็วสูงสุด: 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก จากการทดสอบ 0-400-0 กม./ชม. Koenigsegg Regera มีแนวโน้มที่จะเร็วกว่าความเร็วสูงสุด 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.) ที่ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม แบรนด์ไม่เคยทดสอบความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการ จึงทำให้มันหลุดจาก 10 อันดับแรกไปอย่างฉิวเฉียด
เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลัง 1,500 แรงม้า (1,119 kW) และแรงบิด 944 ปอนด์-ฟุต (1,280 Nm) กำลังนี้ถูกส่งผ่านระบบเกียร์ Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้ถึง 88 กก. และเชื่อมโยงเครื่องยนต์กับเพลาล้อหลังโดยตรง
ผลลัพธ์คือรถยนต์ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ในเวลาเพียง 20.68 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Rimac Nevera ถึง 0.64 วินาที นี่คือความอัจฉริยะทางวิศวกรรมที่สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 5.0 ลิตร, ทวินเทอร์โบ
กำลังสูงสุด: 1,500 แรงม้า (1,119 kW)
แรงบิดสูงสุด: 944 ปอนด์-ฟุต (1,280 Nm)
ระบบส่งกำลัง: Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.278 Cd
McLaren Speedtail
ความเร็วสูงสุด: 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 3.0 วินาที
ราคา (รถใหม่): เริ่มต้น 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หนึ่งในรถยนต์ที่ดูดีที่สุดในรายการของเรา McLaren Speedtail ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีมูลค่าสูง เป็นที่ต้องการ และมีคุณค่ามากที่สุดอีกด้วย ความเร็วสูงสุด 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.) ของมันนั้นน่าประทับใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นรถยนต์ที่มีกำลังน้อยที่สุดในรายการนี้ ด้วยกำลังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรถยนต์ส่วนใหญ่ในที่นี้ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร ให้กำลังเพียง 746 แรงม้า (556 kW) และแรงบิด 590 ปอนด์-ฟุต (800 Nm) แต่ก็ยังสามารถทำความเร็วอันน่าทึ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย ต้องขอบคุณการออกแบบตัวถังที่ลู่ลมและค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำเพียง 0.278 Cd
นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่าอากาศพลศาสตร์ที่ดีสามารถชดเชยกำลังเครื่องยนต์ที่น้อยกว่าได้อย่างไร McLaren Speedtail ไม่ได้มุ่งเน้นที่การเป็นรถที่เร็วที่สุดด้วยกำลังมหาศาล แต่เน้นที่ประสิทธิภาพสูงสุดจากการออกแบบที่ชาญฉลาดและความประณีตในการสร้างสรรค์
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 4.0 ลิตร, ทวินเทอร์โบ
กำลังสูงสุด: 746 แรงม้า (556 kW)
แรงบิดสูงสุด: 590 ปอนด์-ฟุต (800 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์คลัตช์คู่ Graziano 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.278 Cd
เหตุใดคุณจึงควรเชื่อถือรายการนี้
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรมยานยนต์ ผมขอยืนยันว่ารายการรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกนี้ ไม่ได้รวบรวมขึ้นโดยอาศัยเพียงคำกล่าวอ้างของผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว และด้วยเหตุนี้ รายชื่อของเราอาจดูแตกต่างจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต เราไม่เพิ่มรถยนต์ที่ไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการเข้าสู่รายการของเรา
แม้ว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถืออย่าง Koenigsegg จะอ้างว่า Jesko Absolut รุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขาสามารถทำความเร็วได้ถึง 330 ไมล์/ชม. (ประมาณ 531 กม./ชม.) แต่เราจะรอดูจนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์ได้จริงก่อนที่เราจะเพิ่มมันลงในรายการ การยึดมั่นในข้อมูลที่ตรวจสอบได้และเป็นทางการเป็นหลักการสำคัญของเราในการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือให้กับคุณ
แน่นอนว่าการมีรถยนต์อย่าง Bugatti Chiron Super Sport 300+ อยู่ในอันดับต้นๆ ของรายการนี้อาจทำให้บางคนสงสัย เพราะลูกค้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงความเร็วสูงสุด 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.) ได้จริง อย่างไรก็ตาม รถคันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามันสามารถทำความเร็วระดับนั้นได้ภายใต้สภาวะการทดสอบที่ควบคุมและเป็นทางการ ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เราใช้ในการจัดอันดับ
เราเชื่อมั่นในการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่อิงจากข้อเท็จจริงทางวิศวกรรมและสมรรถนะที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์สูงสุดเกี่ยวกับสุดยอดรถยนต์ความเร็วสูงแห่งยุค
อนาคตที่ไร้ขีดจำกัดของความเร็ว
ปี 2025 ได้เปิดศักราชใหม่ของไฮเปอร์คาร์ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวข้ามขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นพลังงานไฟฟ้าที่เข้ามาเปลี่ยนเกม หรือวิศวกรรมเครื่องยนต์สันดาปที่ยังคงยืนหยัด รถยนต์เหล่านี้เป็นมากกว่าพาหนะ พวกมันคือสัญลักษณ์ของความทะเยอทะยานของมนุษย์ในการผลักดันขอบเขตของสิ่งที่เป็นไปได้ และสะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนมหาศาลในด้านวิศวกรรมยานยนต์และนวัตกรรมใหม่ๆ หากคุณหลงใหลในความเร็วและเทคโนโลยี หรือกำลังมองหารถยนต์ลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีสมรรถนะสูงสุดเพื่อการลงทุนในรถยนต์หรู การติดตามการพัฒนาในเซ็กเมนต์นี้คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
คุณคิดอย่างไรกับสุดยอดรถยนต์เหล่านี้? มีรถคันไหนที่คุณประทับใจเป็นพิเศษ หรือมีคำถามเกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงเหล่านี้หรือไม่? เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะรับฟังความคิดเห็นของคุณ มาร่วมสำรวจโลกแห่งความเร็วและนวัตกรรมไปพร้อมกับเรา และอย่าพลาดการอัปเดตข้อมูลล่าสุดจากวงการยานยนต์แห่งอนาคต!

