• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1111632 แม หน เป นกะเทย EP2 part 2

admin79 by admin79
November 11, 2025
in Uncategorized
0
N1111632 แม หน เป นกะเทย EP2 part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 สุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกแห่งปี 2025: ทะลุขีดจำกัดแห่งความเร็วและวิศวกรรม

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อความเร็วสูงสุดโดยเฉพาะ จากเครื่องยนต์สันดาปภายในอันทรงพลังไปจนถึงขุมพลังไฟฟ้าที่ปฏิวัติวงการ ในปี 2025 นี้ โลกแห่งไฮเปอร์คาร์ยังคงผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ ทำให้เราได้เห็นยนตรกรรมที่รวดเร็วเกินจินตนาการ ผู้ที่ครอบครองรถยนต์เหล่านี้ในโรงจอดรถเปรียบเสมือนมีม้าแข่งสายเลือดแท้ที่พร้อมทะยาน แม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสความเร็วสูงสุดที่ทำลายสถิติบนท้องถนนทั่วไป แต่การได้รู้ว่าศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดนั้นอยู่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ก็เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย นี่คือสถิติที่น่าทึ่ง การชิงไหวพริบทางวิศวกรรม และความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งแต่ละคันล้วนสามารถทำความเร็วได้เกิน 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

จากการรวบรวมข้อมูลอย่างพิถีพิถันและอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดในตลาดปี 2025 ทำให้เราเห็นเทรนด์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการก้าวขึ้นมาของรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงอิทธิพล การจัดอันดับนี้จะมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ที่ได้รับการทดสอบและยืนยันความเร็วอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องและน่าเชื่อถือสูงสุด

ภาพรวมรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกประจำปี 2025:

รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme

รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme

รถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการ: Yangwang U9 Xtreme

รถยนต์ที่มีอัตราเร่งเร็วที่สุด (0-100 กม./ชม.) ในรายการ: Rimac Nevera

จากข้อมูลเบื้องต้นที่น่าสนใจนี้ เรามาเจาะลึกรายละเอียดของสุดยอดรถยนต์แต่ละคันกันดีกว่า

Yangwang U9 Xtreme

ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: รอการยืนยัน

ราคา: รอการเปิดเผย

เราได้เข้าสู่ยุคใหม่ของความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยการปรากฏตัวของ Yangwang U9 Xtreme รถยนต์ไฟฟ้าพลังงาน 3,000 แรงม้า ที่ผลิตในประเทศจีน ซึ่งได้จารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยการทำความเร็วสูงสุดถึง 496.22 กม./ชม. ณ สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี ในช่วงเวลาที่แบรนด์อย่าง SSC, Koenigsegg, Hennessey และ Rimac พยายามโค่นแชมป์ Bugatti Chiron Super Sport 300+ มานานกว่าห้าปี การที่รถยนต์ EV จากจีนที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักสามารถเอาชนะทั้งหมดนี้ได้ ถือเป็นการแสดงศักยภาพที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง เป้าหมายต่อไปที่น่าจับตาคือการทำความเร็ว 500 กม./ชม.

Yangwang U9 Xtreme ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 30 คัน และยังคงพยายามทำลายสถิติเวลาต่อรอบของ Nürburgring Nordschleife ด้วยเวลาที่เคยทำได้ 6:59.157 ซึ่งถือว่าเร็วมาก แต่ก็ยังห่างจาก Porsche 911 GT3 RS (992) เจเนอเรชันล่าสุดที่ทำเวลา 6:44.848 ในเดือนตุลาคม 2022 อย่างไรก็ตาม ยนตรกรรมคันนี้กำลังเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง และเร่งให้ตลาดไฮเปอร์คาร์ที่สร้างขึ้นด้วยมือและเน้นการขับขี่สำหรับผู้ที่ไม่สนใจประสิทธิภาพที่เข้าถึงได้และตัวเลขบนแผ่นข้อมูลอีกต่อไป

ระบบขับเคลื่อน: ระบบไฟฟ้าสี่มอเตอร์

กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 kW)

แรงบิดสูงสุด: รอการยืนยัน (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 Nm)

ระบบเกียร์: ระบบขับเคลื่อนโดยตรงด้วยไฟฟ้า

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27 Cd

Bugatti Chiron Super Sport 300+

ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.4 วินาที

ราคา: เริ่มต้น 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Bugatti Chiron Super Sport 300+ เป็นรถยนต์โปรดักชั่นคันแรกที่สามารถทำลายกำแพงความเร็ว 300 ไมล์/ชม. ได้สำเร็จ ด้วยการสร้างสถิติความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการที่ 304.773 ไมล์/ชม. (490.484 กม./ชม.) ณ สนามทดสอบของบริษัท ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอันน่าทึ่งที่เกิดจากเครื่องยนต์ W-16 ควอด-เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร อันมหาศาล ที่ให้กำลัง 1,578 แรงม้า (1,160 kW) และแรงบิดกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ค่อนข้างสูงที่ 0.35 Cd แต่ขุมพลังที่เหลือล้นก็พาให้มันทะยานสู่ความเร็วระดับนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะทำความเร็วได้ถึงขีดสุด ลูกค้าที่ซื้อรถคันนี้จะถูกจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 273 ไมล์/ชม. (440 กม./ชม.) เช่นเดียวกับรถยนต์สมรรถนะสูงอื่น ๆ ของ Bugatti รวมถึง Tourbillon รุ่นใหม่ล่าสุด ทาง Bugatti ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดล็อกข้อจำกัดความเร็วนี้สำหรับรถยนต์ลูกค้า ทำให้ความเร็วที่ทำลายสถิติยังคงเป็นเอกสิทธิ์ของการทดสอบเท่านั้น

เครื่องยนต์: 8.0 ลิตร W-16, ควอด-เทอร์โบ

กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 kW)

แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต

ระบบเกียร์: อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.35 Cd

SSC Tuatara

ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.7 วินาที

ราคา: เริ่มต้น 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เมื่อ SSC North America ประกาศว่าไฮเปอร์คาร์ Tuatara ของพวกเขาทำความเร็วเฉลี่ยได้ 316.11 ไมล์/ชม. (508.73 กม./ชม.) บนถนนในทะเลทรายเนวาดา มันสร้างความตกตะลึงให้กับวงการยานยนต์ทั่วโลก เพราะมันจะแซงสถิติของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ไปอย่างขาดลอย และทำลายกำแพง 500 กม./ชม. ได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ต่อมาพบว่าการกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ทางแบรนด์ยอมรับในโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า “หากยังไม่ชัดเจน เราขอประกาศอย่างเป็นทางการว่าเราไม่ได้ทำความเร็วตามที่กล่าวอ้างเดิมที่ 331 ไมล์/ชม. หรือแม้แต่ 301 ไมล์/ชม. ในเดือนตุลาคม 2020” โพสต์ระบุ “เราเสียใจอย่างยิ่งในฐานะบริษัทที่ทราบว่าเราไม่บรรลุความสำเร็จนี้ และเรากำลังพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์/ชม. อย่างโปร่งใส เป็นทางการ และไร้ข้อกังขา”

ถึงกระนั้น ความมุ่งมั่นของพวกเขาก็ไม่เคยหยุดยั้ง ความพยายามล่าสุดที่บันทึกไว้และเผยแพร่บน YouTube ในเดือนพฤษภาคม 2022 แสดงให้เห็นว่ารถทำความเร็วได้ 295 ไมล์/ชม. (475 กม./ชม.) บนเส้นทางยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ณ ศูนย์อวกาศ Kennedy Space Centre สิ่งที่น่าตกใจคือ SSC Tuatara ยังคงเร่งความเร็วได้อีกหลังจากความเร็วสูงสุดที่ได้รับการยืนยัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงหากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้

เครื่องยนต์: 5.9 ลิตร V8, ทวิน-เทอร์โบ

กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 kW)

แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 Nm)

ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดากึ่งอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.279 Cd

Yangwang U9 Track Edition

ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: รอการยืนยัน

ราคา: เริ่มต้น 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท)

สมาชิกใหม่ล่าสุดในรายการรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกคือรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนจากแบรนด์ย่อยหรูหราของ BYD อย่าง YANGWANG นั่นคือรุ่น U9 Track Edition ด้วยพลังเกือบ 3,000 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนสี่มอเตอร์ และระบบไฟฟ้า 1,200 โวลต์ ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถอ้างสิทธิ์ได้อย่างเป็นทางการว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก หลังจากทำความเร็วสูงสุด 293.54 ไมล์/ชม. (472.41 กม./ชม.) ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี โดยมี Marc Basseng นักขับมืออาชีพอยู่หลังพวงมาลัย

ก่อนหน้านี้ Rimac Nevera เคยเป็นอันดับหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้าด้วยความเร็วสูงสุด 256 ไมล์/ชม. (412 กม./ชม.) แต่ตอนนี้สถิตินั้นได้ถูกโค่นล้มโดยจีนแล้ว

แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถให้อัตราเร่งที่น่าทึ่ง แต่โดยทั่วไปมักประสบปัญหาในการทำความเร็วสูงสุดสูงๆ โดยไม่มีระบบเกียร์แบบเดิม แต่ YANGWANG ได้ยุติปัญหานั้นด้วยการเปิดตัวระบบสี่มอเตอร์ตัวแรกของโลกที่ใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง 30,000 รอบต่อนาที ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดที่น่าเหลือเชื่อถึง 293.54 ไมล์/ชม. (472.41 กม./ชม.)

แรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวถูกควบคุมอย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี “e4 Platform” ของแบรนด์ โดยทำงานร่วมกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X เพื่อควบคุมการปรับแนวตั้งของล้อแต่ละล้ออย่างอิสระ และช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคง

ระบบขับเคลื่อน: ระบบไฟฟ้าสี่มอเตอร์

กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 kW)

แรงบิดสูงสุด: รอการยืนยัน (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 Nm)

ระบบเกียร์: ระบบขับเคลื่อนโดยตรงด้วยไฟฟ้า

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27 Cd

Koenigsegg Agera RS

ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.9 วินาที

ราคา: เริ่มต้น 2.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Koenigsegg Agera RS ครองตำแหน่งรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกอันดับสาม และเป็น Koenigsegg ที่เร็วที่สุดที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ วิดีโอบน YouTube ที่เผยแพร่โดยแบรนด์แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้ทำความเร็วสูงสุดเฉลี่ยได้ 277.87 ไมล์/ชม. (446.97 กม./ชม.) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,176 แรงม้า (865kW) และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต (1280 Nm) ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการของเรา

หลายคนอาจสงสัยว่า “Koenigsegg Jesko Absolut รุ่นใหม่ไม่ได้อ้างว่าทำความเร็วสูงสุดได้ 330 ไมล์/ชม. หรือ?” ใช่ครับ แต่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการในสภาพความเป็นจริง ซึ่งเป็นหลักการสำคัญที่เราใช้ในการจัดอันดับนี้ แม้จะได้รับการพิสูจน์แล้วว่า Jesko Absolut เร็วกว่า Agera RS และ Regera ในการทดสอบ 0-250 ไมล์/ชม.-0 แต่แบรนด์ยังไม่เคยทดสอบความเร็วสูงสุดของมันในโลกจริง อย่างไรก็ตาม นี่คือภารกิจที่ Christian von Koenigsegg ผู้ก่อตั้งตั้งใจจะทำแน่นอน

เช่นเดียวกับรถยนต์หลายคันในรายการนี้ เหตุผลหลักที่เรายังไม่เห็น Jesko Absolut ทำความเร็วสูงสุดได้นั้น เนื่องจากมีถนนที่ยาวพอสำหรับทดสอบเพียงไม่กี่แห่งบนโลก และส่วนใหญ่เป็นถนนสาธารณะ หรือเป็นของ Volkswagen Group (Bugatti) ซึ่งไม่ยินยอมให้แบรนด์อื่นใช้งาน

เครื่องยนต์: 5.0 ลิตร V8, ทวิน-เทอร์โบ

กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865kW)

แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1280 Nm)

ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดากึ่งอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd

Bugatti Tourbillon

ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) ด้วย Speed Key

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.0 วินาที

ราคา: เริ่มต้น 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Bugatti Chiron Super Sport 300+ อาจเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีการทดสอบ แต่ Bugatti Tourbillon คือรถยนต์ที่ลูกค้า Bugatti สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้จริง ด้วยความเร็วสูงสุด 276 ไมล์/ชม. (445 กม./ชม.) โดยใช้ Speed Key ซึ่งเร็วกว่า Chiron 300+ ในสเปคลูกค้าที่ถูกจำกัดความเร็วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 273 ไมล์/ชม. (440 กม./ชม.)

แตกต่างจาก Chiron ตรงที่ Bugatti Tourbillon ทิ้งเครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบ เพื่อหันมาใช้เครื่องยนต์ V16 ไฮบริด ขนาด 8.3 ลิตร แบบหายใจเอง ซึ่งยังคงให้กำลังมหาศาลถึง 1,800 แรงม้า (1,342 kW) และแรงบิด 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 Nm) ช่วยให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2 วินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานสู่ความเร็วสูงสุด 276 ไมล์/ชม. (445 กม./ชม.) และด้วยความเป็น Bugatti คุณก็รู้ว่ามันสามารถทำได้ง่ายดายและสะดวกสบาย

เครื่องยนต์: 8.3 ลิตร V16, หายใจเอง

กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 kW)

แรงบิดสูงสุด: 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 Nm)

ระบบเกียร์: อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): รอการเปิดเผย

Hennessey Venom F5

ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.6 วินาที

ราคา: เริ่มต้น 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เหมือนกับการแข่งขันอวกาศ การชิงชัยเพื่อครองบัลลังก์ความเร็วสูงสุดยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้นระหว่างสี่บริษัทหลัก (Bugatti, Hennessey, SSC และ Koenigsegg) โดยทั้งหมดพยายามที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์/ชม. ในรถยนต์ที่ใช้งานบนท้องถนนได้ และอาวุธที่ Hennessey เลือกใช้คือ Venom F5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 6.6 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,817 แรงม้า (1,355 kW)

ในขณะที่ SSC Tuatara ต้องเผชิญกับข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการพยายามทำลายสถิติที่ถูกกล่าวอ้างในตอนแรก Hennessey Venom F5 ได้สร้างสถิติความเร็วสูงสุด 271.6 ไมล์/ชม. (437 กม./ชม.) อย่างเงียบ ๆ ในปี 2022 ซึ่งทำให้มันเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดอันดับที่ห้าตลอดกาล หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ มันก็จะไปได้เร็วกว่านี้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังพยายามค้นหา

ในการอัปเดตล่าสุดบน YouTube John Hennessey ผู้ก่อตั้งกล่าวว่าปี 2024 จะเป็นปีที่ Venom F5 จะพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์/ชม. อย่างเป็นทางการ ดังนั้นเราจะรอคอยผลลัพธ์อย่างเงียบ ๆ ถ้าเพียงแต่ Volkswagen Group จะอนุญาตให้พวกเขาใช้สนาม Ehra-Lessien ได้!

เครื่องยนต์: 6.6 ลิตร V8, ทวิน-เทอร์โบ

กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 kW)

แรงบิดสูงสุด: 1193 ปอนด์-ฟุต

ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดากึ่งอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd

Hennessey Venom GT

ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.9 วินาที

ราคา: เริ่มต้น 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

“วันหนึ่งผมเคยล้อเล่นเกี่ยวกับการนำเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) มาใส่ไว้ด้านหลังของ Lotus Exige” John Hennessey กล่าวกับ Road and Track เกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลัง Hennessey Venom GT “จากนั้นผมก็คิดว่า ลองร่างภาพดูสิว่ามันจะเป็นยังไง พอเห็นภาพร่าง ผมก็หยุดหัวเราะและเริ่มคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับแนวคิดนี้”

“การออกแบบเครื่องยนต์วางกลางแบบ Ford GT จะทำให้รับน้ำหนักของเครื่องยนต์และเกียร์อยู่ที่ยางหลัง ทำให้การยึดเกาะดีขึ้น ออกแบบแรงกดให้มากที่สุดเท่าที่เราต้องการเพื่อให้รถมีการควบคุมเหมือนรถโกคาร์ทบนถนนหรือสนามแข่ง ในขณะเดียวกัน เราก็มีรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้อัตราเร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ นี่คือจุดกำเนิดของแนวคิด Venom GT”

สิ่งถัดมาคือการสร้างสถิติความเร็วโลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 ที่ศูนย์อวกาศ John F. Kennedy บนรันเวย์ลงจอดกระสวยอวกาศระยะทาง 3.2 ไมล์ สิ่งที่น่าขบขันคือ คุณสามารถเลือกติดตั้งระบบเครื่องเสียงที่ออกแบบโดย Steven Tyler แห่ง Aerosmith ใน Hennessey Venom GT ของคุณได้ด้วย

เครื่องยนต์: 7.0 ลิตร GM LS7 V8, ทวิน-เทอร์โบ

กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 kW)

แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 Nm)

ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดา Ricardo 6 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd

Bugatti Veyron Super Sport

ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที

ราคา: เริ่มต้น 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เมื่อเปิดตัวในปี 2010 Bugatti Veyron Super Sport ได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ว่าเป็นรถยนต์โปรดักชั่นที่ถูกกฎหมายบนท้องถนนที่เร็วที่สุดในโลก วันนี้ มันถูกแซงหน้าโดย Chiron Super Sport 300+ ที่เป็นญาติกัน แต่ถึงกระนั้น เครื่องยนต์ W-16 ควอด-เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร ก็ยังคงให้กำลังมหาศาลถึง 1,200 PS (882 kW) และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 Nm) ซึ่งเป็นปริมาณที่น่าทึ่งสำหรับยุคนั้น

Veyron Super Sport ไม่เพียงแต่สร้างสถิติความเร็ว แต่ยังได้กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับวงการไฮเปอร์คาร์ทั้งหมด เป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยที่ความหรูหรา ผสมผสานกับประสิทธิภาพทางวิศวกรรมที่ไร้ขีดจำกัด การออกแบบที่โดดเด่นและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าทำให้มันเป็นไอคอนที่ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงทั่วโลกจวบจนปัจจุบัน

เครื่องยนต์: 8.0 ลิตร W-16, ควอด-เทอร์โบ

กำลังสูงสุด: 1,200 PS (882 kW)

แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 Nm)

ระบบเกียร์: อัตโนมัติคลัตช์คู่ Ricardo 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.36 Cd (โหมดความเร็วสูงสุด)

Rimac Nevera

ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที

ราคา: เริ่มต้น 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Rimac Nevera คือราชาแห่งรถยนต์ไฟฟ้า เจ้าของสถิติรถยนต์ที่มีอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กม./ชม. ที่เร็วที่สุดในรายการนี้ และเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 256 ไมล์/ชม. (412 กม./ชม.) ก่อนที่ Yangwang U9 Track Edition จะเข้ามาทำลายสถิติ EV

Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ซึ่งรวมทั้ง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili อย่างไรก็ตาม Nevera ได้ทำลายกำแพงความเร็ว 250 ไมล์/ชม. ด้วยฝีมือของวิศวกร Rimac ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท พวกเขาติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวบนแต่ละล้อ ทำให้มีกำลังรวมถึง 1,888 แรงม้า (1,388 kW) และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 Nm) ซึ่งทำให้มันเป็นรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการนี้อีกด้วย

ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร 4 ตัว

กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 kW)

แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 Nm)

ระบบเกียร์: ระบบขับเคลื่อนโดยตรงความเร็วเดียว

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.30 Cd

รถยนต์ที่เคยติดอันดับแต่ถูกเบียดตกจาก 10 อันดับแรก

ในขณะที่เทคโนโลยีและวิศวกรรมก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ย่อมมีรถยนต์บางคันที่เคยเป็นตำนานความเร็ว ต้องหลีกทางให้กับผู้ท้าชิงรายใหม่ นี่คือรถยนต์บางรุ่นที่ยังคงน่าจดจำและทรงคุณค่า แม้จะไม่อยู่ใน 10 อันดับแรกของปี 2025 แล้วก็ตาม

Koenigsegg Regera

ความเร็วสูงสุด: 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.8 วินาที

ราคา: เริ่มต้น 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

หนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกจาก 0-400-0 กม./ชม. Koenigsegg Regera มีแนวโน้มว่าจะเร็วกว่าความเร็วสูงสุด 249 ไมล์/ชม. (400 กม./ชม.) ที่ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่แบรนด์ไม่เคยทดสอบความเร็วสูงสุดที่แท้จริง ทำให้มันแทบจะไม่ติด 10 อันดับแรกของรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก

เครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลัง 1,500 แรงม้า (1,119 kW) และแรงบิด 944 ปอนด์-ฟุต (1,280 Nm) กำลังนี้ถูกส่งผ่านระบบเกียร์ Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้ 88 กก. และเชื่อมโยงกำลังของเครื่องยนต์เข้ากับเพลาหลังโดยตรง ผลลัพธ์คือรถยนต์ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ในเวลาเพียง 20.68 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Rimac Nevera 0.64 วินาทีเลยทีเดียว

เครื่องยนต์: 5.0 ลิตร V8, ทวิน-เทอร์โบ

กำลังสูงสุด: 1,500 แรงม้า (1,119 kW)

แรงบิดสูงสุด: 944 ปอนด์-ฟุต (1,280 Nm)

ระบบเกียร์: Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD)

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.278 Cd

McLaren Speedtail

ความเร็วสูงสุด: 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 3.0 วินาที

ราคารถใหม่: เริ่มต้น 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

หนึ่งในรถยนต์ที่ดูดีที่สุดในรายการของเรา McLaren Speedtail ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีคุณค่า เป็นที่ต้องการ และมีราคาสูงที่สุด ความเร็วสูงสุด 250 ไมล์/ชม. (403 กม./ชม.) นั้นน่าประทับใจมาก เพราะเป็นรถยนต์ที่มีกำลังน้อยที่สุดในรายการนี้ โดยมีกำลังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ส่วนใหญ่ในที่นี้ เครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร ให้กำลังเพียง 746 แรงม้า (556 kW) และแรงบิดเพียง 590 ปอนด์-ฟุต (800 Nm) แต่ถึงกระนั้น มันก็สามารถทำความเร็วที่น่าทึ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย ต้องขอบคุณตัวถังที่ลื่นไหลและค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำที่ 0.278 Cd

Speedtail คือบทพิสูจน์ว่าความเร็วสูงสุดไม่ได้มาจากกำลังมหาศาลเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่ไร้ที่ติและความใส่ใจในรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว มันคือผลงานศิลปะที่เคลื่อนที่ได้ เป็นการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และสุนทรียภาพที่ยากจะหาใครเทียบ

เครื่องยนต์: 4.0 ลิตร V8, ทวิน-เทอร์โบ

กำลังสูงสุด: 746 แรงม้า (556 kW)

แรงบิดสูงสุด: 590 ปอนด์-ฟุต (800 Nm)

ระบบเกียร์: อัตโนมัติคลัตช์คู่ Graziano 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.278 Cd

สนามรบที่มองไม่เห็น: ความท้าทายและอนาคตของความเร็ว

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการนี้ ผมขอย้ำว่าการจัดอันดับนี้แตกต่างจากรายการอื่น ๆ ที่มักรวบรวมข้อมูลจากการอ้างสิทธิ์ของผู้ผลิต เรายึดมั่นในหลักการที่ว่ารถยนต์จะต้องได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการเท่านั้น แม้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Koenigsegg จะอ้างว่า Jesko Absolut รุ่นใหม่ล่าสุดสามารถทำความเร็วได้ถึง 330 ไมล์/ชม. เราก็ยังคงรอจนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์ได้จริงก่อนที่จะเพิ่มเข้าไปในรายการ แน่นอนว่าการที่ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ติดอันดับสูงสุดอาจทำให้หลายคนสงสัย เพราะลูกค้าไม่ได้รับอนุญาตให้ทำความเร็วสูงสุด 304.77 ไมล์/ชม. (490.48 กม./ชม.) นั้น แต่ประเด็นคือ มันได้พิสูจน์แล้วว่าทำได้ นี่คือเส้นแบ่งระหว่างความสามารถที่พิสูจน์ได้กับคำกล่าวอ้าง

โลกของไฮเปอร์คาร์ในปี 2025 กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยการก้าวขึ้นมาของรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง ซึ่งไม่เพียงแต่ทำลายสถิติความเร็วสูงสุดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอัตราเร่งที่เหลือเชื่อ การแข่งขันนี้ไม่ได้เป็นเพียงการแย่งชิงตัวเลขเท่านั้น แต่ยังเป็นการผลักดันนวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ อากาศพลศาสตร์ ระบบขับเคลื่อน และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ รถยนต์ในอนาคตจะไม่เพียงแค่เร็วขึ้น แต่ยังจะฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และอาจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็นกำแพงความเร็วใหม่ ๆ ถูกทำลายลงอีกครั้ง ใครจะเป็นผู้บุกเบิกความเร็ว 500 กม./ชม. อย่างเป็นทางการในรถยนต์โปรดักชั่น? และเทคโนโลยีใดจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันขีดจำกัดเหล่านี้? คำถามเหล่านี้ทำให้วงการยานยนต์ยังคงน่าติดตามและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ร่วมเดินทางสู่ความเร็วสูงสุดกับเรา

โลกของรถยนต์ที่เร็วที่สุดยังคงวิวัฒนาการอย่างไม่หยุดยั้ง และแต่ละคันที่ปรากฏในรายการนี้ไม่เพียงแค่เป็นยานพาหนะ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญทางวิศวกรรม ความมุ่งมั่น และความปรารถนาอันไม่สิ้นสุดของมนุษย์ที่จะพิชิตความเร็ว

คุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์ความเร็วสูงสุดที่ปฏิเสธไม่ได้แล้วหรือยัง? หรือคุณมีไฮเปอร์คาร์ในฝันคันไหนที่คิดว่าจะมาทำลายสถิติในปีถัดไป? ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนา และแบ่งปันความคิดเห็นของคุณกับเราในวันนี้ เพื่อให้เราได้สำรวจอนาคตของความเร็วไปด้วยกัน!

สุดยอด 10 อันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกแห่งปี 2025: ประสบการณ์ 10 ปี ในโลกแห่งความเร็ว

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของความเร็วและวิศวกรรมยานยนต์ จากเครื่องยนต์สันดาปภายในที่คำรามกึกก้องไปจนถึงพลังงานไฟฟ้าที่เงียบเชียบแต่ไร้ขีดจำกัด ปี 2025 นี้เป็นพยานถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่ไม่เพียงแต่สร้างสถิติใหม่ แต่ยังกำหนดนิยามใหม่ของคำว่า “เร็วที่สุด” การครอบครองรถยนต์ที่สามารถทำความเร็วได้เหนือ 400 กม./ชม. นั้นเป็นสิ่งที่ยากจะจินตนาการ เว้นแต่คุณจะมีรันเวย์ส่วนตัวยาวเหยียด เพราะบนถนนสาธารณะ การปลดปล่อยพละกำลังสูงสุดของรถเหล่านี้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่นั่นไม่ได้หยุดยั้งความหลงใหลในตัวเลขบนสถิติ ความเป็นที่สุด และความรู้ที่ว่าเครื่องจักรที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของคุณนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง มันคือเรื่องของความสมบูรณ์แบบทางวิศวกรรม อากาศพลศาสตร์ที่ไร้ที่ติ และขีดจำกัดที่กำลังถูกผลักดันออกไปเรื่อยๆ นี่คือการจัดอันดับที่เกิดจากการวิเคราะห์อย่างละเอียด การตรวจสอบข้อมูลที่เชื่อถือได้ และประสบการณ์ตรงจากผู้ที่คลุกคลีในวงการนี้อย่างแท้จริง

สรุปไฮไลท์เด่นจากทำเนียบสุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในปี 2025:

รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme
รถยนต์ที่มีพละกำลังสูงสุดในลิสต์: Yangwang U9 Xtreme
รถยนต์ที่ออกตัวเร็วที่สุด (0-100 กม./ชม.): Rimac Nevera

เมื่อได้เห็นภาพรวมของที่สุดแห่งที่สุดแล้ว ตอนนี้เรามาเจาะลึกรายละเอียดของรถยนต์แต่ละคันที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในโลกแห่งความเร็วกัน

Yangwang U9 Xtreme
ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): ยังไม่ระบุ
ราคา: ยังไม่ระบุ
ระบบขับเคลื่อน: ระบบไฟฟ้า Quad-motor
กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 kW)
แรงบิดสูงสุด: ยังไม่ระบุ (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 Nm)
ระบบส่งกำลัง: ขับเคลื่อนไฟฟ้าโดยตรง
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27

ปี 2025 ได้เปิดศักราชใหม่ของความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการด้วยการมาถึงของ Yangwang U9 Xtreme ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าพลังงานมหาศาลจากจีน ที่มาพร้อมพละกำลังกว่า 3,000 แรงม้า และได้จารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยการทำความเร็วสูงสุดที่ 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.) ณ สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี ความสำเร็จนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะแบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนานอย่าง SSC, Koenigsegg, Hennessey และ Rimac ต่างพยายามโค่น Bugatti Chiron Super Sport 300+ มานานกว่าห้าปี การที่รถยนต์ EV จากผู้ผลิตจีนที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักสามารถก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้นั้น เป็นสิ่งที่ต้องคารวะอย่างยิ่ง และเป็นการตอกย้ำว่าเป้าหมายต่อไปคือการทะลุ 500 กม./ชม. อย่างแน่นอน

U9 Xtreme ถูกผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 30 คัน และยังอยู่ระหว่างการพยายามสร้างสถิติรอบสนาม Nürburgring Nordschleife โดยมีเวลาที่ทำได้แล้วที่ 6:59.157 นาที ซึ่งถือว่าเร็วมาก แม้จะยังห่างจาก Porsche 911 GT3 RS (992) ที่ทำไว้ 6:44.848 นาที ในปี 2022 ก็ตาม Yangwang U9 Xtreme จะเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ของไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูง และเร่งให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูที่เน้นการขับขี่พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด สำหรับผู้ที่ไม่ได้มองหาเพียงแค่ตัวเลขบนสเปกชีท แต่คือประสบการณ์ที่เหนือกว่าขีดจำกัด

Bugatti Chiron Super Sport 300+
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.4 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: W-16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบสี่ตัว
กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.35

ก่อนหน้าที่ Yangwang U9 Xtreme จะก้าวขึ้นมา Bugatti Chiron Super Sport 300+ คือผู้บุกเบิกและเป็นรถยนต์โปรดักชั่นคันแรกที่สามารถทำลายกำแพงความเร็ว 300 ไมล์/ชม. ได้สำเร็จ ด้วยสถิติอย่างเป็นทางการที่ 490.484 กม./ชม. (304.773 ไมล์/ชม.) ณ สนามทดสอบของบริษัทเอง นับเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง ซึ่งเป็นไปได้ด้วยเครื่องยนต์ W-16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบสี่ตัวอันมหาศาล ที่สร้างพละกำลังได้ถึง 1,578 แรงม้า และแรงบิดกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ 0.35 Cd ซึ่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ก็ยังสามารถพุ่งทะยานไปได้ด้วยพละกำลังอันไร้ขีดจำกัด

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะทำความเร็วอันน่าเหลือเชื่อได้ แต่ Bugatti ได้จำกัดความเร็วสูงสุดของรถยนต์ที่ส่งมอบให้ลูกค้าไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์/ชม.) เช่นเดียวกับรถสมรรถนะสูงรุ่นอื่น ๆ รวมถึงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Tourbillon และทาง Bugatti ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดล็อกข้อจำกัดความเร็วนี้อย่างแน่นอน แต่การที่มันได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้จริง ก็เพียงพอที่จะตอกย้ำสถานะของมันในประวัติศาสตร์ยานยนต์

SSC Tuatara
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.7 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 5.9 ลิตร เทอร์โบคู่
กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 kW)
แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.279

เมื่อ SSC North America ประกาศว่า Tuatara ไฮเปอร์คาร์ของพวกเขาทำความเร็วเฉลี่ยได้ 508.73 กม./ชม. (316.11 ไมล์/ชม.) บนทางหลวงในทะเลทรายเนวาดา มันสร้างความตกตะลึงให้กับวงการยานยนต์ทั่วโลก เพราะนั่นหมายถึงการเอาชนะ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ได้อย่างขาดลอยและเป็นรถคันแรกที่ทะลุกำแพง 500 กม./ชม. ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีการยอมรับว่าการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวไม่เป็นความจริง

แม้จะเกิดเรื่องราวที่น่าผิดหวัง แต่ SSC ก็ยังคงเดินหน้าพิสูจน์ศักยภาพของ Tuatara อย่างต่อเนื่อง การทดสอบล่าสุดที่เผยแพร่บน YouTube ในเดือนพฤษภาคม 2022 แสดงให้เห็นว่า Tuatara สามารถทำความเร็วได้ 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.) บนรันเวย์ยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ณ ศูนย์อวกาศ Kennedy Space Centre สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ SSC Tuatara ยังคงเร่งความเร็วต่อไปได้อีกเมื่อผู้ขับขี่ต้องถอนคันเร่ง นั่นทำให้เราจินตนาการได้ว่า หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ ความเร็วสูงสุดที่แท้จริงของมันอาจจะสูงกว่านี้มาก SSC Tuatara จึงยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังและมีศักยภาพในการทำลายสถิติได้อย่างแท้จริง

Yangwang U9 Track Edition
ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): ยังไม่ระบุ
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท)
ระบบขับเคลื่อน: ระบบไฟฟ้า Quad-motor
กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 kW)
แรงบิดสูงสุด: ยังไม่ระบุ (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 Nm)
ระบบส่งกำลัง: ขับเคลื่อนไฟฟ้าโดยตรง
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27

นอกเหนือจาก U9 Xtreme แบรนด์หรู Yangwang ในเครือ BYD ยังนำเสนอ U9 Track Edition ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสมาชิกใหม่ในทำเนียบรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าคันนี้มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่มอเตอร์ พลังงานเกือบ 3,000 แรงม้า ระบบไฟฟ้า 1,200 โวลต์ และได้สร้างสถิติเป็นรถยนต์ EV ที่เร็วที่สุดในโลก ณ จุดหนึ่ง (ก่อน U9 Xtreme จะทำลายสถิติสูงสุดลง) ด้วยความเร็ว 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.) ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี โดย Marc Basseng นักขับมืออาชีพ

ก่อนหน้านี้ Rimac Nevera เคยเป็นผู้นำของรถยนต์ EV ด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. แต่ตอนนี้ Yangwang U9 Track Edition ได้พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยี EV ของจีนสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้ แม้รถยนต์ EV จะมีความสามารถในการเร่งความเร็วที่เหลือเชื่อ แต่ก็มักประสบปัญหาในการทำความเร็วสูงสุดสูงๆ หากไม่มีระบบเกียร์แบบดั้งเดิม ทว่า Yangwang ได้แก้ไขปัญหานี้ด้วยการเปิดตัวระบบ Quad-motor แห่งแรกของโลกที่ใช้มอเตอร์สมรรถนะสูง 30,000 รอบต่อนาที ช่วยให้สามารถทำความเร็วสูงสุดที่น่าเหลือเชื่อถึง 472.41 กม./ชม. ได้อย่างราบรื่น

เอาต์พุตแรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวถูกควบคุมอย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี “e4 Platform” ของแบรนด์ ทำงานร่วมกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X เพื่อควบคุมการปรับแนวตั้งของล้อแต่ละล้ออย่างอิสระ ช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคงในทุกสภาวะ

Koenigsegg Agera RS
ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 5.0 ลิตร เทอร์โบคู่
กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 kW)
แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1280 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33

Koenigsegg Agera RS ยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกและเป็น Koenigsegg ที่เร็วที่สุดที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ คลิปวิดีโอที่โพสต์โดยแบรนด์แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้ทำความเร็วเฉลี่ยสูงสุดได้ถึง 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่สร้างพละกำลัง 1,176 แรงม้า และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต ทำให้มันเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในลิสต์ของเรา

คุณอาจกำลังคิดว่า “Koenigsegg Jesko Absolut รุ่นใหม่เคลมความเร็วสูงสุดไว้ที่ 330 ไมล์/ชม. ไม่ใช่หรือ?” ใช่ครับ แต่ยังไม่เคยได้รับการทดสอบในสภาวะจริงอย่างเป็นทางการ แม้จะพิสูจน์แล้วว่าเร็วกว่า Agera RS และ Regera ในการทดสอบ 0-400-0 กม./ชม. แต่ทางแบรนด์ยังไม่เคยทดสอบความเร็วสูงสุดของ Jesko Absolut ในโลกแห่งความเป็นจริง เหตุผลหลักที่หลายๆ คันในลิสต์นี้ยังไม่สามารถทำความเร็วสูงสุดที่เคลมไว้ได้จริงก็คือ มีถนนที่ยาวพอสำหรับทำความเร็วระดับนั้นเพียงไม่กี่แห่งบนโลก ส่วนใหญ่เป็นถนนสาธารณะ หรือไม่ก็เป็นกรรมสิทธิ์ของ Volkswagen Group (Bugatti) ซึ่งไม่ยินยอมให้ผู้อื่นใช้ Koenigsegg Agera RS จึงยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเร็วที่ได้รับการพิสูจน์แล้วอย่างแท้จริง

Bugatti Tourbillon
ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) พร้อม Speed Key
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.0 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: V16 หายใจเองตามธรรมชาติ ขนาด 8.3 ลิตร (ไฮบริด)
กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): ยังไม่ระบุ

แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะเป็นรถยนต์ Bugatti ที่เร็วที่สุดที่เคยมีการทดสอบ แต่ Bugatti Tourbillon คือรถยนต์ Bugatti ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้จริง ด้วยความเร็วสูงสุด 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) เมื่อใช้ Speed Key ซึ่งเร็วกว่า Chiron 300+ ในเวอร์ชั่นลูกค้าที่ถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์/ชม.)

แตกต่างจาก Chiron ตรงที่ Bugatti Tourbillon ได้ละทิ้งเครื่องยนต์ W16 เทอร์โบสี่ตัว มาใช้เครื่องยนต์ V16 หายใจเองตามธรรมชาติ ขนาด 8.3 ลิตร แบบไฮบริดแทน แต่ยังคงสร้างพละกำลังได้มหาศาลถึง 1,800 แรงม้า และแรงบิด 1464 ปอนด์-ฟุต ซึ่งช่วยให้มันเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียงสองวินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานสู่ความเร็วสูงสุดอันน่าทึ่งที่ 445 กม./ชม. นอกจากนี้ ด้วยความเป็น Bugatti คุณจึงมั่นใจได้ว่ามันจะทำความเร็วได้ง่ายดายและสะดวกสบายในทุกเส้นทาง

Hennessey Venom F5
ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.6 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: V8 ขนาด 6.6 ลิตร เทอร์โบคู่
กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1193 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33

เช่นเดียวกับการแข่งขันอวกาศ การช่วงชิงตำแหน่งราชันย์แห่งความเร็วยังคงดำเนินอยู่ระหว่างสี่บริษัทใหญ่ (Bugatti, Hennessey, SSC และ Koenigsegg) โดยทั้งหมดต่างพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์/ชม. ในรถยนต์ที่ขับขี่บนถนนสาธารณะได้ และอาวุธที่ Hennessey เลือกใช้คือ Venom F5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.6 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่สร้างพละกำลัง 1,817 แรงม้า

ในขณะที่ SSC Tuatara ต้องเผชิญกับข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์ครั้งแรก Hennessey Venom F5 ได้ทำความเร็วสูงสุดที่ 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.) อย่างเงียบๆ ในปี 2022 ซึ่งทำให้มันเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดอันดับที่ห้าตลอดกาล หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ มันก็จะไปได้เร็วกว่านี้อย่างแน่นอน และนั่นคือสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังพยายามค้นหา

ในการอัปเดตล่าสุดบน YouTube John Hennessey กล่าวว่าปี 2024 จะเป็นปีที่ Venom F5 พยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์/ชม. อย่างเป็นทางการ ดังนั้นเราจึงจะเฝ้ารอผลลัพธ์อย่างใจจดใจจ่อ หากเพียงแต่ Volkswagen Group จะอนุญาตให้พวกเขาใช้สนาม Ehra-Lessien ได้!

Hennessey Venom GT
ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: GM LS7 V8 ขนาด 7.0 ลิตร เทอร์โบคู่
กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา Ricardo 6 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33

“อยู่มาวันหนึ่งผมล้อเล่นเรื่องการนำเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) ไปใส่ไว้ด้านหลังของ Lotus Exige” John Hennessey กล่าวกับ Road and Track เกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลัง Hennessey Venom GT “จากนั้นผมก็คิดว่า ลองวาดภาพดูสิว่ามันจะออกมาเป็นยังไง พอดูภาพร่างแล้ว ผมก็หยุดหัวเราะและเริ่มคิดจริงจังกับไอเดียนี้”

“การออกแบบเครื่องยนต์วางกลางแบบ Ford GT จะทำให้เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังอยู่เหนือยางหลัง ให้การยึดเกาะที่ดีขึ้น ออกแบบแรงกดอากาศเท่าที่เราต้องการเพื่อให้รถมีการควบคุมเหมือนรถโกคาร์ทบนถนนหรือสนามแข่ง ขณะเดียวกัน เราก็มีรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้การเร่งความเร็วเหนือชั้น นี่คือจุดเริ่มต้นของแนวคิด Venom GT”

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือสถิติความเร็วโลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 ที่ศูนย์อวกาศ John F. Kennedy บนรันเวย์ลงจอดกระสวยอวกาศระยะทาง 3.2 ไมล์ ความน่ารักคือ คุณสามารถเลือกติดตั้งระบบเครื่องเสียงที่ออกแบบโดย Steven Tyler แห่ง Aerosmith ได้ใน Hennessey Venom GT ของคุณ

Bugatti Veyron Super Sport
ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.5 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: W-16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบสี่ตัว
กำลังสูงสุด: 1,200 แรงม้า (882 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ Ricardo 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.36 (ในโหมดความเร็วสูงสุด)

เมื่อเปิดตัวในปี 2010 Bugatti Veyron Super Sport ได้รับการรับรองจาก Guinness World Records ว่าเป็นรถยนต์โปรดักชั่นที่ถูกกฎหมายบนถนนที่เร็วที่สุดในโลก ปัจจุบัน มันถูกโค่นบัลลังก์โดย Chiron Super Sport 300+ ผู้เป็นพี่น้องร่วมค่าย แต่ถึงกระนั้น เครื่องยนต์ W-16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบสี่ตัวของ Veyron Super Sport ก็ยังสามารถสร้างพละกำลังได้มหาศาลถึง 1,200 แรงม้า และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างยิ่งในยุคนั้น

Veyron Super Sport ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความเร็ว แต่ยังเป็นงานศิลปะทางวิศวกรรมที่ผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เคยเป็นไปได้ในการสร้างรถยนต์ จุดเด่นของมันคือการรวมความหรูหราเข้ากับประสิทธิภาพระดับสุดยอด เป็นเครื่องยืนยันถึงปรัชญาของ Bugatti ที่ไม่ประนีประนอมในเรื่องคุณภาพและความสามารถ

Rimac Nevera
ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 1.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร 4 ตัว แยกอิสระ
กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 Nm)
ระบบส่งกำลัง: ระบบขับเคลื่อนโดยตรงแบบความเร็วเดียว
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.30

Rimac Nevera คือราชาแห่งรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง เป็นรถยนต์ที่เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้เร็วที่สุดในลิสต์นี้ และยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.)

Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ซึ่งรวมทั้ง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili เข้าไว้ด้วยกัน แต่ Nevera ได้ทำลายกำแพงความเร็ว 250 ไมล์/ชม. ได้ตั้งแต่ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท วิศวกรของ Rimac ได้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวบนแต่ละล้อ ทำให้มีกำลังรวมสูงสุดถึง 1,888 แรงม้า และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้มันเป็นรถยนต์ที่มีพละกำลังสูงสุดในลิสต์นี้เช่นกัน

Nevera ไม่ได้เป็นเพียงรถที่เร็ว แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นของ Rimac ในการผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า มันแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของพลังงานไฟฟ้าในการสร้างสรรค์ซูเปอร์คาร์ที่เหนือความคาดหมาย ทั้งในด้านสมรรถนะและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

อนาคตแห่งความเร็วที่คุณสัมผัสได้

จากประสบการณ์กว่าทศวรรษในวงการนี้ ผมกล้าพูดได้เลยว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของอุตสาหกรรมยานยนต์ การแข่งขันเพื่อสร้างรถยนต์ที่เร็วที่สุดไม่เคยหยุดนิ่ง และปี 2025 ได้พิสูจน์แล้วว่าอนาคตของความเร็วนั้นหลากหลายและน่าทึ่งกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ว่าจะเป็นพลังดิบจากเครื่องยนต์สันดาป หรือความเงียบเชียบแต่ไร้ขีดจำกัดของระบบไฟฟ้า ทุกคันในลิสต์นี้ล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกที่แสดงถึงจุดสูงสุดของวิศวกรรมและนวัตกรรมยานยนต์

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าการลงทุนในรถยนต์สมรรถนะสูงเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการครอบครองเครื่องจักรแห่งความเร็ว แต่ยังเป็นการลงทุนในงานศิลปะและเทคโนโลยีแห่งอนาคต ที่จะกลายเป็นตำนานแห่งยุคสมัย หากคุณมีความหลงใหลในความเร็วและต้องการทำความเข้าใจเทรนด์ของไฮเปอร์คาร์ในปี 2025 และปีต่อๆ ไปอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น อย่าลังเลที่จะติดตามข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมจากเรา เพราะโลกของความเร็วไม่เคยหยุดนิ่ง และเราพร้อมที่จะพาคุณไปสัมผัสกับทุกการเปลี่ยนแปลง.

Previous Post

N1111637 เพ อนข จฉา EP2 part 2

Next Post

N1111630 คนชอบน นทา EP3 part 2

Next Post
N1111630 คนชอบน นทา EP3 part 2

N1111630 คนชอบน นทา EP3 part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1111489 เป นแค แม าน ทำไมข บรถหร มาทำงาน part 2
  • N1111486 เพ อนก นเขาไม แย งแฟนก นหรอก part 2
  • N1111488 เจ าของบ านต วจร งค อใคร part 2
  • N1111490 เป นเม ยประธานบร ทำไมมาก นข าวกล องข างทาง part 2
  • N1111487 เม อสาม พาหญ งอ นข นรถ part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.