ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัว: เจาะลึกนวัตกรรมยานยนต์ปี 2025, 2026 และอนาคต
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของอุตสาหกรรมนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 2025 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและความตื่นเต้น การมาถึงของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ไม่ได้เป็นเพียงการปรับโฉมหรือเพิ่มฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการปฏิวัติประสบการณ์การขับขี่อย่างแท้จริง ทั้งจากค่ายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ดั้งเดิมและแบรนด์หน้าใหม่จากเอเชีย ที่ต่างก็เร่งพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ปี 2025 เป็นปีที่เราได้เห็นรถยนต์รุ่นใหม่มากมายออกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็น Nissan Micra โฉมล่าสุด, Toyota RAV4 เจเนอเรชันใหม่ หรือ Fiat Grande Panda ที่มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมี รถยนต์ไฟฟ้า รุ่นใหม่ๆ จากผู้ผลิตจีนจำนวนมากที่เข้ามาเขย่าตลาดโลก อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นลูกใหม่ของยานยนต์ที่กำลังจะเปิดตัวไปจนถึงปี 2026 และปีต่อๆ ไปนั้นยิ่งน่าจับตามองกว่าเดิม ในบทความนี้ ผมจะพาทุกท่านเจาะลึกถึงรุ่นรถยนต์ที่สำคัญและน่าสนใจที่สุด ที่กำลังจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราในอนาคตอันใกล้
แม้ว่า รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาในปี 2025 เนื่องจากผู้ผลิตต่างมุ่งผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาใช้ ยานยนต์ไร้มลพิษ เพื่อหลีกเลี่ยงกฎระเบียบและค่าปรับที่เข้มงวดขึ้น แต่ตลาดสำหรับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และ รถยนต์ไฮบริด ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ เนื่องจากกฎการห้ามจำหน่ายรถยนต์เบนซินและดีเซลใหม่ยังไม่บังคับใช้จนกว่าจะถึงปี 2030 ทำให้ผู้ผลิตยังมีเวลาที่จะตอบสนองความต้องการในตลาดนี้ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นรถซูเปอร์มินิ, ซีดาน, รถยนต์อเนกประสงค์ SUV หรือแม้แต่ ไฮเปอร์คาร์ สุดหรู ทุกเซกเมนต์ล้วนมีการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง นี่คือรายชื่อรถยนต์เด่นที่เราได้รวบรวมมาให้ทุกท่านได้เตรียมตัวเป็นเจ้าของอนาคต
Alfa Romeo Giulia (อัลฟ่า โรมิโอ จูเลีย)
จากประสบการณ์ของผมในวงการ รถยนต์พรีเมียม เชื่อว่า Alfa Romeo Giulia เจเนอเรชันถัดไปที่กำลังจะมาถึงในปี 2026 จะต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการสานต่อตำนานของรุ่นปัจจุบันที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน รถยนต์ซีดาน ระดับผู้บริหารที่น่าปรารถนาที่สุด การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่นี้ Giulia จะมาพร้อมตัวเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินไฮบริดและระบบขับเคลื่อน ไฟฟ้า 100% โดยจะใช้ แพลตฟอร์ม EV ที่เน้นประสิทธิภาพสูงอย่าง STLA Large ซึ่งรองรับระบบไฟฟ้า 800V เพื่อการ ชาร์จเร็ว เป็นพิเศษ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้ ระยะทางขับขี่ เกิน 600 กิโลเมตร รวมถึงระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ สิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ยังจะมีรุ่น Quadrofoglio ที่ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับ นักขับผู้หลงใหลในสมรรถนะ
Alfa Romeo Stelvio (อัลฟ่า โรมิโอ สเตลวิโอ)
ก่อนที่ Giulia จะเปิดตัว เราจะได้พบกับ Alfa Romeo Stelvio SUV เจเนอเรชันใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 เช่นกัน โดยจะใช้สถาปัตยกรรม STLA Large เดียวกัน และมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและ ระบบส่งกำลังไฟฟ้า ให้เลือก ตามที่หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแบรนด์ได้กล่าวไว้ว่า Stelvio Quadrofoglio ใหม่นี้จะมาพร้อม “เสียงคำราม” ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยืนยันว่า ขุมพลังเบนซิน ยังคงอยู่สำหรับรุ่น สมรรถนะสูง
Alpine A290 (อัลพีน A290)
สำหรับแฟนๆ รถยนต์แฮทช์แบ็ก สัญชาติฝรั่งเศสที่รักความเร็ว Alpine ผู้ผลิตรถสปอร์ตน้ำหนักเบา A110 อันโด่งดัง ได้เปิดตัวรุ่น A290 ซึ่งเป็นเวอร์ชัน สปอร์ต ของ Renault 5 E-Tech ไฟฟ้า 100% โดยไม่เพียงแต่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ Alpine ยังได้ปรับปรุงช่วงล่างใหม่ทั้งหมด เพิ่มความกว้างของฐานล้อ ล้อขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง Michelin แบบพิเศษ และดีไซน์ที่ โฉบเฉี่ยว ยิ่งขึ้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับ ประสบการณ์การขับขี่ ที่ไม่ธรรมดา
Alpine A390 (อัลพีน A390)
Alpine กำลังก้าวเข้าสู่ดินแดนใหม่ด้วยการเปิดตัว รถยนต์คูเป้-เอสยูวีไฟฟ้า ที่เรียกว่า ‘Sport Fastback’ ในชื่อ Alpine A390 ที่มีดีไซน์อันน่าทึ่ง ซึ่งได้รับการออกแบบให้ดูเหมือน “รถแข่งในชุดสูท” ด้วยรูปทรงที่ดูแข็งแกร่งและคล้ายกับคู่แข่งหลักอย่าง Porsche Macan Electric แม้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Renault Scenic แต่ก็มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ Tri-motor ที่ให้กำลังถึง 464 แรงม้า พร้อม ระบบควบคุมแรงบิด เพื่อการควบคุมที่ว่องไว อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที โดยคาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2.5 ล้านบาท
Aston Martin Valhalla (แอสตัน มาร์ติน วัลฮัลลา)
Aston Martin Valhalla จะเป็น รถยนต์เครื่องวางกลาง ที่ผลิตจำนวนมากรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปีของแบรนด์อังกฤษนี้ โดยจะผลิตเพียง 999 คันเท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร Flat-plane ที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ให้กำลังรวม 1,069 แรงม้า และแรงบิด 1,100 นิวตันเมตร เพียงพอที่จะเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.5 วินาที ในขณะที่ อากาศพลศาสตร์เชิงรุก ได้รับแรงบันดาลใจจากไฮเปอร์คาร์ Valkyrie ของบริษัท และนำความรู้และ เทคโนโลยี F1 มาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบ ถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่ผสมผสาน ความหรูหราและสมรรถนะสูงสุด เข้าไว้ด้วยกัน
Audi (ออดี้)
ในปี 2024 Audi ได้เปิดตัวรถยนต์ไปแล้วกว่าเจ็ดรุ่น ตั้งแต่ A3 แฮทช์แบ็กและ e-tron GT ที่ได้รับการปรับโฉม ไปจนถึง รถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่าง Q6 e-tron SUV และ A6 e-tron ซีดาน ที่ใช้ เทคโนโลยี ที่พัฒนาร่วมกับ Porsche รุ่นล่าสุดที่เข้ามาคือ A5 ซึ่งมาแทนที่ A4 ซีดานและ Avant เดิม รวมถึง Q5 โฉมล่าสุด แต่แบรนด์ พรีเมียม รายนี้ยังไม่มีท่าทีว่าจะชะลอตัวลงเลย เพราะยังมี Q3 SUV คอมแพคพรีเมียม และ A6 ซีดานระดับผู้บริหารเจเนอเรชันถัดไปที่กำลังจะตามมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Audi ในการรักษาความเป็นผู้นำด้าน นวัตกรรมยานยนต์
BMW iX3 (บีเอ็มดับเบิลยู iX3)
BMW iX3 ใหม่ได้รับการเปิดตัวไปแล้ว และเป็นรุ่นแรกของ ยานยนต์ Neue Klasse ของแบรนด์เยอรมัน ซึ่งเป็นชุดรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์และพื้นฐานทางวิศวกรรมที่คล้ายคลึงกัน เพื่อให้แบรนด์ก้าวทัน เทคโนโลยีล่าสุด นั่นรวมถึง เทคโนโลยีภายในรถยนต์ และวิศวกรรมด้วย เนื่องจาก iX3 มาพร้อมกับระบบ Infotainment iDrive ล่าสุด เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ใหม่นี้ช่วยให้สามารถเดินทางได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรในรุ่นระยะกลาง และยังมีรุ่นที่เดินทางได้ไกลกว่านั้นกำลังจะตามมา ซึ่งเป็นผลมาจากสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ ที่ช่วยให้ การชาร์จเร็ว ขึ้นอย่างมาก โดยสามารถเพิ่มระยะทางได้ประมาณ 400 กิโลเมตรในเวลาเพียง 10 นาทีที่สถานีชาร์จที่รองรับ
BMW M3 (บีเอ็มดับเบิลยู M3)
BMW 3 Series เจเนอเรชันถัดไปมีกำหนดจะเปิดตัวในปีหน้า และ M3 ใหม่จะตามมาในปี 2027 นี่จะเป็นครั้งแรกที่ M3 มาพร้อม ขุมพลังไฟฟ้า 100% ซึ่งอาจฟังดูเป็นเรื่องที่ขัดใจแฟนๆ ของ ซีดานสปอร์ต อันเป็นสัญลักษณ์นี้ แต่ระบบขับเคลื่อนสี่มอเตอร์สามารถให้กำลังได้สูงสุดถึง 1,341 แรงม้า (ตามทฤษฎี) และ ระบบควบคุมแรงบิด เพื่อความว่องไวอย่างน่าทึ่ง อย่างไรก็ตาม หากคุณยังไม่มั่นใจ M3 ก็จะมีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินหกสูบแถวเรียงทวินเทอร์โบเช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ BMW ในการผสาน สมรรถนะแบบดั้งเดิม เข้ากับ อนาคตไฟฟ้า
BMW M5 Touring (บีเอ็มดับเบิลยู M5 Touring)
เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของ BMW M5 ที่มีเวอร์ชัน รถยนต์สเตชันแวกอน ! M5 Touring ใหม่ มาพร้อมระบบส่งกำลัง ปลั๊กอินไฮบริด ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตัว ให้กำลังรวม 717 แรงม้า และแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3.6 วินาที พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 500 ลิตร ซึ่งเป็นการผสมผสาน ความเร็วและความอเนกประสงค์ ได้อย่างลงตัว
BYD Atto 2 (บีวายดี อัตโต้ 2)
BYD Atto 2 คือผู้ท้าชิงจากยักษ์ใหญ่จีนในตลาด รถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่มีการแข่งขันสูง โดยมีคู่แข่งตั้งแต่ Vauxhall Frontera ที่เน้นราคาประหยัด ไปจนถึง Skoda Elroq และ Kia EV3 ที่มีความซับซ้อนกว่า เพื่อดึงดูดผู้ซื้อ Atto 2 มาพร้อม เทคโนโลยี ที่อัดแน่นเป็นมาตรฐาน รวมถึงหน้าจอสัมผัสแบบหมุนได้ขนาด 12.8 นิ้ว, Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ระบบกล้อง 360 องศา, เบาะหน้าและพวงมาลัยปรับความร้อนได้ และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่กว่าสิบรายการ รุ่นเริ่มต้น ‘Boost’ มี ระยะทางขับขี่ 338 กิโลเมตร แต่จะมีรุ่นแบตเตอรี่ใหญ่กว่าตามมา ซึ่งเน้นย้ำถึง ความคุ้มค่าและเทคโนโลยี ที่ BYD มอบให้
Cadillac Lyriq (คาดิลแลค ลีริค)
หลังจากห่างหายจากตลาดไปเกือบสิบปี Cadillac กำลังกลับมาพร้อม รถยนต์ SUV ไฟฟ้า 100% สองรุ่น โดยหวังที่จะแย่งส่วนแบ่งการตลาดจาก Audi, BMW และ Mercedes หัวหอกของการกลับมาของแบรนด์อเมริกันอันโด่งดังนี้คือ Cadillac Lyriq รถยนต์ SUV ขนาดใหญ่ ที่ดูหรูหราและล้ำสมัย ซึ่งจะมุ่งเป้าไปที่ BMW iX Lyriq จะมาพร้อมมอเตอร์คู่เป็นมาตรฐาน ให้กำลัง 520 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 102kWh ซึ่งคาดว่าจะให้ ระยะทางขับขี่ 530 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ภายในมาพร้อมจอ OLED ขนาดใหญ่ถึง 33 นิ้ว ทอดยาวทั่วแดชบอร์ด โดยคาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท หากราคาสูงเกินไป Cadillac Optiq ที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าและราคาถูกกว่าก็น่าจะตามมาในไม่ช้า
Citroen e-C3 (ซีตรอง e-C3)
Citroen e-C3 ใหม่ที่ได้รับรางวัลนี้ ได้รับการวางตำแหน่งให้เป็น รถยนต์ซูเปอร์มินิไฟฟ้า สำหรับมหาชน โดยมีราคาเริ่มต้นเพียงประมาณ 9 แสนบาท แบตเตอรี่ LFP (ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต) ขนาด 44kWh ให้ ระยะทางขับขี่ ที่เหมาะสมที่ 320 กิโลเมตร แต่ Citroen จะนำเสนอตัวเลือกแบตเตอรี่ที่ถูกกว่าด้วยระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร e-C3 มีรูปลักษณ์ที่ดูเป็น ครอสโอเวอร์ มากกว่าซูเปอร์มินิรุ่นก่อนหน้า พร้อมด้วยระบบกันสะเทือนแบบไฮดรอลิก Bump-stops ของ Citroen และเบาะนั่ง Active Comfort ที่นุ่มนวลอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเน้นย้ำถึง ความสบายและราคาที่เข้าถึงได้
Citroen C3 Aircross (ซีตรอง C3 Aircross)
Citroen C3 Aircross ใหม่คือคู่แข่งของ Dacia Duster ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และมีไม้เด็ดบางอย่างซ่อนอยู่ สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือตัวเลือกแบบ 5 หรือ 7 ที่นั่ง แม้ว่า รถยนต์ SUV ขนาดเล็ก นี้จะยาวเพียง 4.39 เมตรเท่านั้น ผู้ซื้อยังสามารถเลือกได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน, ไฮบริด และ ไฟฟ้า 100% โดย e-C3 Aircross EV จะให้ ระยะทางขับขี่ ระหว่าง 300 ถึง 400 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 8.5 แสนบาท ซึ่งสูงกว่า C3 ซูเปอร์มินิประมาณ 1 แสนบาท แสดงให้เห็นถึง ความหลากหลายและความคุ้มค่า
Citroen C5 Aircross (ซีตรอง C5 Aircross)
ขั้นตอนสุดท้ายของการปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ Citroen คือ C5 Aircross เจเนอเรชันถัดไปที่โดดเด่น ความสบายยังคงเป็นจุดเน้นหลัก แต่ รถยนต์ SUV สำหรับครอบครัว สัญชาติฝรั่งเศสนี้ยังเติบโตขึ้นเพื่อให้มีพื้นที่เบาะหลังที่กว้างขวางที่สุดในคลาส พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 651 ลิตร ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้ความรู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่น ในขณะเดียวกัน ภายใต้รูปลักษณ์ที่โดดเด่นคือ แพลตฟอร์ม STLA Medium เดียวกันกับ Peugeot 3008 และ Vauxhall Grandland ล่าสุด ดังนั้นตัวเลือกระบบส่งกำลังแบบ Mild-hybrid, ปลั๊กอินไฮบริด และ ไฟฟ้า 100% จึงเหมือนกัน โดยรุ่น EV มี ระยะทางขับขี่ สูงสุดถึง 680 กิโลเมตร
Cupra Raval (คูปรา ราวัล)
Cupra Raval คือคู่แข่งสายสปอร์ตของ Volkswagen ID.Polo ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งทั้งคู่ได้จัดแสดงที่งาน Munich Motor Show 2025 Raval ยังไม่ถูกเปิดเผยอย่างเต็มรูปแบบ แต่ได้รับการยืนยันผ่านรถยนต์ต้นแบบที่คลุมด้วยลายพราง รถยนต์จะถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ในภายหลัง อาจเป็นช่วงต้นปี 2026 รถยนต์ Cupra ขนาดเล็ก นี้จะมีความยาวเพียงสี่เมตรกว่าๆ ซึ่งเหมาะสำหรับ การขับขี่ในเมือง แต่มีห้าประตูเพื่อความหลากหลายในการใช้งาน จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่มีกำลังมากกว่า 200 แรงม้า และให้ ระยะทางขับขี่ สูงสุดถึง 435 กิโลเมตรในรุ่นที่เหมาะสม Raval จะเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ และแม้จะยังไม่มีการยืนยันราคาในขณะนี้ แต่คาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับ ผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่มีสไตล์
Dacia (ดาเซีย)
ข่าวดีสำหรับทุกคน Dacia กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ คุ้มค่า มากยิ่งขึ้น ด้วยแผนการสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ในปีนี้เพียงปีเดียว เราได้เห็นการมาถึงของ Dacia Duster Mk3 ใหม่ ซึ่งเป็น รถยนต์ SUV ขนาดเล็ก ยอดเยี่ยมแห่งปีของเรา และ Dacia Spring EV ที่มีราคาต่ำกว่า 6 แสนบาท นอกจากนี้ Dacia Bigster ก็ได้ออกสู่ตลาดแล้ว โดยหวังว่าจะเข้ามาเขย่าวงการ รถยนต์ SUV ขนาดกลาง Bigster เป็นหนึ่งในสามรุ่นใหม่ที่ Dacia กำลังเปิดตัวใน C-segment ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยอีกรุ่นหนึ่งคาดว่าจะมาท้าชนกับ Skoda Octavia ที่ได้รับรางวัล ซึ่งเป็น การแข่งขันที่น่าตื่นเต้น สำหรับผู้ที่มองหา ความคุ้มค่าและความอเนกประสงค์
DS No8 (ดีเอส โน8)
DS No8 เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับแบรนด์ พรีเมียม จากปารีสอย่าง DS ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ยอมแพ้ในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง BMW, Audi และ Mercedes รถยนต์คูเป้-เอสยูวีไฟฟ้า ที่หรูหราคันนี้มุ่งเน้นที่ความหรูหรา, ความสบาย และสิ่งที่แบรนด์เรียกว่าคุณสมบัติ ‘serene’ (ความสงบ) นอกจากนี้ยังให้ ระยะทางขับขี่ ที่มหาศาลถึง 750 กิโลเมตร และด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2.1 ล้านบาท ทำให้สามารถทำราคาได้ต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง Polestar 4 และ Audi Q6 e-tron อย่างมีนัยสำคัญ นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้าหรู ที่ต้องการความแตกต่าง
Ferrari F80 (เฟอร์รารี่ F80)
รุ่นล่าสุดในสายเลือด ไฮเปอร์คาร์ ระดับ ‘หนึ่งครั้งในทศวรรษ’ ที่ถือกำเนิดขึ้นในมาราเนลโล Ferrari F80 คือผู้สืบทอดของ F40, F50, Enzo และ LaFerrari ดีไซน์อันน่าทึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง 499P ที่ชนะเลอม็องของ Ferrari รวมถึง ระบบส่งกำลัง ด้วย นั่นคือเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร ที่ทำรอบได้ถึง 9,200 รอบ/นาที คู่กับเทอร์โบสองตัว และมอเตอร์ไฟฟ้าห้าตัว ให้กำลังรวม 1,183 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 2.15 วินาที โดยมีราคามากกว่า 120 ล้านบาท เป็นการตอกย้ำ ความเป็นที่สุดของสมรรถนะและความพิเศษ ของ Ferrari
Ferrari Elettrica (เฟอร์รารี่ อีเลททริก้า)
ใช่แล้ว แม้แต่ Ferrari ก็ยังต้องก้าวเข้าสู่ยุค รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจจะใช้ชื่อว่า ‘Ferrari Elettrica’ (ซึ่งหมายถึง ‘ไฟฟ้า’ ในภาษาอิตาลี) จากภาพสายลับของรถทดสอบ EV คันแรก จากมาราเนลโลนี้จะเป็น รถยนต์สี่ประตู ไม่ใช่ ซูเปอร์คาร์สองประตู เราไม่ได้คาดหวัง รถยนต์ SUV ทรงกล่องแบบ 4×4 แต่เป็นรถที่มีกลิ่นอายของ Ferrari Purosangue ที่มีสไตล์ดุดัน ซึ่งบริษัทเรียกว่า “รถสปอร์ตสี่ที่นั่งสี่ประตู” ดูเหมือนว่า Ferrari กำลังวางแผนวิธีที่จะทำให้รถคันนี้เป็น รถที่ขับสนุก อย่างแท้จริง แม้จะเป็นไฟฟ้าก็ตาม
Fiat Grande Panda (เฟียต แกรนด์ แพนด้า)
กว่าทศวรรษแล้วนับตั้งแต่ Fiat Panda รุ่นปัจจุบันเปิดตัว ดังนั้นการเปลี่ยนโฉมจึงล่าช้ามานาน และในที่สุด Fiat Grande Panda ใหม่ก็มาถึง นี่คือรถยนต์ฝาแฝดที่มีดีไซน์เหลี่ยม โดดเด่น และสนุกสนานของ Citroen e-C3 ซึ่งได้รับรางวัล Auto Express Car of the Year และเป็นรุ่นแรกในตระกูลรุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Panda ดีไซน์แบบ Retro-futuristic นำแรงบันดาลใจมาจาก Panda ดั้งเดิมจากยุค 80s รวมถึง Panda 4×4 ที่ดูบึกบึนกว่า ภายในห้องโดยสารก็แปลกตาไม่แพ้กัน มีองค์ประกอบทรงสี่เหลี่ยมมากขึ้น พร้อมการผสมผสานสีที่สดใส และวัสดุที่น่าสนใจ เช่น เส้นใยไม้ไผ่บนแดชบอร์ด มีพื้นที่เก็บของมากมาย แต่ฟีเจอร์ที่สะดวกที่สุดของ Grande Panda คือ สายชาร์จแบบพับเก็บได้ ที่ซ่อนอยู่ในส่วนหน้าของรุ่น EV จะมีรุ่น ไฮบริด ให้เลือกด้วย และราคาเริ่มต้นเพียง 7.5 แสนบาท ซึ่งเป็นการนำเสนอ รถยนต์ขนาดเล็ก ที่มีสไตล์และ เทคโนโลยี ที่น่าสนใจในราคาที่เข้าถึงได้
Ford (ฟอร์ด)
หากคุณคิดว่า Ferrari นำเครื่องยนต์ V6 มาใส่ในไฮเปอร์คาร์มูลค่าหลายล้านปอนด์ของตนเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน คุณอาจจะยังไม่ได้ยินว่าหลังจาก 40 ปีแห่งการหายไป ชื่อ Ford Capri อันศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้ง…สำหรับ รถยนต์ SUV ไฟฟ้า ! ส่วนหลังนี้ไม่ควรแปลกใจ เพราะ Ford กำลังมุ่งเน้นไปที่ รถยนต์ไฟฟ้า อย่างมาก โดยได้เปิดตัว Explorer SUV ใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ และ Puma ครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่ขายดีที่สุดเวอร์ชัน EV อย่างไรก็ตาม Mustang ยังคงปฏิเสธที่จะทิ้งเครื่องยนต์ V8 และที่ดีกว่านั้นคือ มีรุ่น Mustang GTD ที่เน้นการขับขี่ในสนามแข่ง โดยมาพร้อมซูเปอร์ชาร์จ ให้กำลังมากกว่า 800 แรงม้า และ เทคโนโลยี ที่ถูกห้ามใช้ในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งแสดงให้เห็นถึง ความหลากหลายในการพัฒนายานยนต์ ของ Ford
Genesis GV60 Magma (เจเนซิส GV60 แม็กม่า)
BMW มี M division, Mercedes มี AMG และตอนนี้ Genesis ก็วางแผนที่จะเปิดตัวรุ่น Magma สมรรถนะสูง สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตน โดยเริ่มจาก Genesis GV60 Magma ที่ร้อนแรง ซึ่งมีกำหนดจะมาถึงช่วงปลายปีนี้ และผมสงสัยว่ามันจะอัดแน่นด้วยพลังที่มากกว่า Hyundai Ioniq 5 N และ Kia EV6 GT ที่มีกำลังถึง 641 แรงม้า ซึ่งใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน Tyrone Johnson หัวหน้าฝ่ายพัฒนารถยนต์ของ Genesis ยังกล่าวกับ Auto Express ว่า: “เรามีเป้าหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และสิ่งที่เราพยายามทำก็แตกต่างจาก Ioniq 5 N หรือ EV6 GT อย่างสิ้นเชิง” ซึ่งบ่งชี้ว่า GV60 Magma จะมีลักษณะเฉพาะตัว รุ่นต้นแบบที่ปรากฏในงาน Goodwood Festival of Speed 2024 ให้แนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่ Genesis วางแผนไว้ รวมถึงฐานล้อที่กว้างขึ้น, ช่วงล่างที่ต่ำลง, รูปลักษณ์ที่ดุดัน และการตกแต่งภายในที่ สปอร์ต ยิ่งขึ้น พร้อมเบาะนั่งแบบ Bucket seat ซึ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่น่าจับตามอง
Honda 0 SUV (ฮอนด้า 0 เอสยูวี)
เมื่อพูดถึง รถยนต์ไฟฟ้า Honda อยู่ในสถานการณ์ที่ตามหลังคู่แข่งมาพักใหญ่ แต่จะไม่นานแล้ว เพราะได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเปิดตัว รถยนต์ EV ล้ำสมัยเจ็ดรุ่นใหม่ล่าสุดภายในปี 2030 ภายใต้แบรนด์ย่อย ‘0 Series’ ทั่วโลก รุ่นแรกจะมาถึงในปี 2026 โดยเริ่มจาก รถยนต์ SUV ขนาดกลาง ที่ดูโฉบเฉี่ยวที่เราเคยเห็นในรูปแบบต้นแบบแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นจะมี ซีดานเรือธง ที่อิงจากแนวคิด Honda Saloon ที่ล้ำยุค ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการกลับมาของ Honda ในตลาด ยานยนต์ไฟฟ้า
Honda Prelude (ฮอนด้า พรีลูด)
หลังจากห่างหายไปนานกว่าสองทศวรรษ Honda Prelude จะกลับมาอีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 รุ่นที่หกใหม่นี้จะเป็น รถยนต์คูเป้สองประตู ที่ดูโฉบเฉี่ยว มาพร้อม ขุมพลังไฮบริด และ เทคโนโลยีเกียร์เสมือนจริง ที่ Honda เรียกว่า ‘S Shift’ ซึ่งคาดว่าจะจำลอง “เสียงและความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติที่รวดเร็ว” รถยนต์ต้นแบบของ Prelude ใหม่ได้ถูกเปิดเผยเมื่อสองปีที่แล้ว และนับตั้งแต่นั้นมา การออกแบบก็ดูเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ซึ่งเป็นการนำ รถสปอร์ตคลาสสิก กลับมาในรูปแบบที่ทันสมัย
Hyundai Inster (ฮุนได อินสเตอร์)
Hyundai Inster คือ รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาประหยัด รุ่นใหม่ของแบรนด์ ที่มีดีไซน์แปลกตาแต่น่ารักอย่างยิ่ง มีขนาดเล็กกว่า รถยนต์ซูเปอร์มินิ อย่าง Skoda Fabia หรือ Renault Clio แต่ไม่เปลืองพื้นที่ภายในห้องโดยสารแม้แต่มิลลิเมตรเดียว และมีเบาะหลังแบบเลื่อนได้ที่ทำให้รถคันเล็กนี้มีความอเนกประสงค์อย่างน่าประหลาดใจ ที่จริงแล้วมันกว้างขวางมากจนสามารถใส่กระดานโต้คลื่นเข้าไปได้ Inster ยังให้ ระยะทางขับขี่ สูงสุดถึง 368 กิโลเมตร และมีราคาเริ่มต้นที่ 9.7 แสนบาท ซึ่งเป็นการนำเสนอ ทางเลือก EV ที่ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้
Hyundai Ioniq 9 (ฮุนได ไอออนิก 9)
นอกจากจะแนะนำ รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่สุด ของบริษัทแล้ว Hyundai ยังได้เปิดตัว รถยนต์ EV ที่ใหญ่ที่สุด ของตน นั่นคือ Ioniq 9 แบบเจ็ดที่นั่ง ยานพาหนะขนาดมหึมาความยาวห้าเมตรนี้คือ ทางเลือกไร้มลพิษ ที่ดูทันสมัยของ Hyundai Santa Fe และเป็นรถยนต์ฝาแฝดของ Kia EV9 ที่ได้รับรางวัล รถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่โดดเด่นทั้งสองรุ่นนี้ใช้ แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกัน แต่ Ioniq 9 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า 110.3kWh ซึ่งเมื่อรวมกับการออกแบบที่ลื่นไหลอย่างน่าประหลาดใจ ก็ให้ ระยะทางขับขี่ สูงสุดถึง 620 กิโลเมตร Ioniq 9 มาพร้อมภายในที่สดใหม่และสมกับเป็น เรือธง ที่เต็มไปด้วย เทคโนโลยี รวมถึงจอแสดงผลคู่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่อยู่ในแผงโค้งเดียวกัน, ระบบตัดเสียงรบกวนถนนแบบ Active และผู้ช่วย AI จะมีให้เลือกแบบ 7 ที่นั่งและ 6 ที่นั่ง และด้วยความอเนกประสงค์ที่เป็นหัวใจสำคัญสำหรับรถยนต์ประเภทนี้ มีพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดประมาณ 2,000 ลิตร ขึ้นอยู่กับการจัดวางเบาะนั่ง โดยคาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ 2.7 ล้านบาทเมื่อเปิดจองปลายปีนี้
Hyundai Ioniq 3 (ฮุนได ไอออนิก 3)
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Ioniq จะขยายตัวต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยการเปิดตัว Ioniq 3 รุ่นที่เล็กกว่า ซึ่งได้ถูกเผยโฉมล่วงหน้าในงาน Munich Motor Show 2025 โดย Hyundai Concept Three คาดว่า รถยนต์แฮทช์แบ็กไฟฟ้า 100% ใหม่นี้ ซึ่งจะเป็นคู่แข่งของ Volkswagen ID.3 จะถูกเปิดเผยในปี 2026 รถยนต์ต้นแบบบ่งบอกทิศทางที่แบรนด์อาจจะใช้กับรุ่นใหม่นี้: มันค่อนข้าง สปอร์ต และดูโดดเด่น ดังนั้นคาดว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่ ไดนามิก ไม่ใช่แบบเรียบง่าย เรายังคาดหวัง เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่ยอดเยี่ยมจากแบรนด์ที่มั่นคงนี้ ดังนั้นเราจึงตั้งตารอรุ่นใหม่ในปีหน้า
IM Motors L6 (ไอเอ็ม มอเตอร์ส L6)
IM Motors คือแบรนด์พี่น้องระดับ พรีเมียม ของ MG และเราได้รับแจ้งว่าจะถูกนำเข้าสู่ตลาดในปี 2025 ผลิตภัณฑ์แรกของพวกเขาคือ IM L6: รถยนต์ซีดานไร้มลพิษ ระดับพรีเมียมที่บริษัทคาดว่าจะมาท้าชนกับ Tesla Model 3 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เราได้รับแจ้งว่า L6 สามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึงสามวินาที และ ชาร์จเร็ว ด้วยความเร็วสูงกว่า 300kW ซึ่งไม่เพียงแต่เหนือกว่า Tesla เท่านั้น แต่ยังเทียบเท่ากับสถิติของ Porsche Taycan อีกด้วย นับเป็น รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่น่าจับตามองจากผู้เล่นหน้าใหม่
Jaguar four-door GT (จากัวร์ จีที สี่ประตู)
การปฏิวัติผลิตภัณฑ์ของ Jaguar เป็นประเด็นร้อนมาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากหนึ่งในแบรนด์รถยนต์หลักของอังกฤษกำลังจะเปลี่ยนไปใช้ ระบบไฟฟ้า 100% และก้าวขึ้นสู่ตลาด พรีเมียม อย่างจริงจัง ด้วยการหยุดการผลิตรุ่นปัจจุบันทั้งหมด Jaguar กำลังเตรียมที่จะเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า ใหม่สามรุ่น โดยเริ่มจาก รถยนต์ GT สี่ประตู ที่จะมีราคาประมาณ 5.3 ล้านบาท รถยนต์ต้นแบบที่ใกล้เคียงการผลิตจะถูกเปิดเผยก่อนสิ้นปีนี้ จากนั้นรถยนต์จริงจะมาถึงในปี 2026 รถยนต์ GT ที่ยังไม่มีชื่อนี้จะอยู่บน แพลตฟอร์ม EV ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเรียกว่า Jaguar Electrified Architecture และใช้ เทคโนโลยี ที่ “พลิกเกม” ตามที่ผู้บริหารที่เราได้พูดคุยด้วย Steve Marsh ผู้อำนวยการบริหารโครงการรถยนต์ ยังเปิดเผยว่ามันจะสามารถเดินทางได้ไกลถึง 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสำหรับการเดินทางข้ามทวีป ผู้ขับขี่จะสามารถเพิ่ม ระยะทางขับขี่ 320 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 15 นาที จนถึงตอนนี้เราเห็นเพียงรถต้นแบบที่คลุมด้วยลายพรางอย่างหนาแน่น พร้อมสัดส่วนที่ต่ำและเป็นแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม แนวคิด Jaguar Type 00 ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2024 ได้บอกใบ้ถึงรายละเอียดที่ประณีตบางอย่างที่รถยนต์เวอร์ชันผลิตจริงอาจมี
Jeep Recon (จี๊ป รีคอน)
Jeep เพิ่งเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้าคันแรก คือ Avenger ในปี 2023 แต่ก็ไม่ใช่ EV เพียงรุ่นเดียวที่แบรนด์นี้กำลังพัฒนาอยู่ รุ่นที่เราตื่นเต้นที่สุดคือ 4×4 ที่บึกบึนที่เรียกว่า Recon EV ขนาด Wrangler คันนี้จะใช้การออกแบบที่แข็งแกร่งและ แพลตฟอร์ม STLA Large ที่เน้น EV จากบริษัทแม่ Stellantis ซึ่งยังใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ Wagoneer S SUV เรือธงใหม่ของ Jeep อีกด้วย นี่คือ รถยนต์ไฟฟ้า ที่เหมาะสำหรับ การขับขี่แบบออฟโรด
Kia EV4 (เกีย EV4)
Kia EV4 ใหม่ล่าสุดคือส่วนเสริมต่อไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ รถยนต์สำหรับครอบครัว ที่ดูโดดเด่นของแบรนด์ และมีให้เลือกทั้ง ซีดาน ที่ดูโฉบเฉี่ยว หรือ แฮทช์แบ็กห้าประตู แบบดั้งเดิม โดยคาดว่าแบบหลังจะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากกว่าในยุโรป คู่แข่งของ VW ID.3 นี้ใช้ แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกันกับ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัล และให้ ระยะทางขับขี่ เกือบ 640 กิโลเมตร ผลลัพธ์คือ รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัว ที่ยอดเยี่ยม เงียบสงบและกว้างขวาง ทำให้เราประทับใจอย่างมากหลังจากได้ทดลองขับครั้งแรก
Kia PV5 (เกีย PV5)
ในปีนี้ Kia กำลังนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้าน รถยนต์ไฟฟ้า เข้าสู่โลกของ รถตู้ ด้วยกลุ่ม รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งน่าจะทำให้ Ford E-Transit ตระกูลนี้ต้องกังวล หัวหอกของการโจมตีคือ Kia PV5 ซึ่งในฐานะ รถตู้แวน จะเข้าปะทะกับ Ford E-Transit Custom นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชัน MPV ที่จะมาท้าชนกับ Volkswagen ID. Buzz ในขณะที่ VW เน้นความรู้สึกแบบนักเล่นเซิร์ฟ PV5 ให้ความรู้สึกที่ ล้ำยุค มากกว่า และดีไซน์ที่เหมาะสมกับ Blade Runner จะช่วยให้มันดูเข้ากันกับ Kia EV9 และ EV3 SUV รูปทรงคล้ายอิฐและฐานล้อที่ยาวมากจะช่วยให้ผู้โดยสารมีพื้นที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และประตูหลังแบบเลื่อนได้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้าออก ผู้ซื้อที่มาเป็นครอบครัวจะยินดีที่ทราบว่า รถตู้ไฟฟ้า และ MPV ของ Kia จะมาพร้อม การรับประกันเจ็ดปี ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
Land Rover Defender OCTA (แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ อ็อคตา)
ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที กำลัง 626 แรงม้า และราคาที่สูงถึง 6.6 ล้านบาท Defender OCTA เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของ Land Rover Defender อย่างไม่ต้องสงสัย เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตรของมันเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่ติดตั้งใน Defender ยุคใหม่ และเพื่อให้แน่ใจว่า แชสซี 4×4 จะรับมือกับแรงม้าอันมหาศาลได้ Land Rover ได้ทำการปรับปรุงครั้งใหญ่ รวมถึงเบรก Brembo ที่ได้รับการอัปเกรด, พวงมาลัยที่ตอบสนองเร็วขึ้น, ยางที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และระบบกันสะเทือน 6D Dynamics ใหม่ที่ใช้ เทคโนโลยี คล้ายกับ ซูเปอร์คาร์ ของ McLaren ซึ่งเป็น รถยนต์ออฟโรดสมรรถนะสูง ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Lotus mid-size SUV (โลตัส เอสยูวี ขนาดกลาง)
ในขณะที่ Lotus สร้างชื่อเสียงจาก รถสปอร์ตน้ำหนักเบา แบรนด์นี้ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นผู้ผลิต EV พรีเมียม โดยเริ่มต้นด้วย Eletre hyper-SUV และ Emeya GT แต่ Lotus หวังที่จะขยายฐานลูกค้าให้กว้างกว่าเจ้าของ รถยนต์หรู และผู้บริหารองค์กร ด้วย รถยนต์ SUV ขนาดกลาง ที่จะมาท้าชนกับ Porsche Macan Electric ใหม่ Lotus ตั้งเป้าราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2.3 ล้านบาทสำหรับ Type 134 ซึ่งเป็นชื่อภายใน ซึ่งจะทำราคาได้ต่ำกว่า Macan อย่างมีนัยสำคัญ แบรนด์ได้ยืนยันว่าจะมีการเปิดเผยในปี 2025 ดังนั้นโปรดติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถยนต์ SUV สัญชาติอังกฤษ ที่กำลังจะมาถึงนี้
Lotus electric sports car (โลตัส รถสปอร์ตไฟฟ้า)
รถยนต์ SUV และ ซีดาน จะคิดเป็นส่วนใหญ่ของยอดขาย Lotus ในไม่ช้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะละทิ้งมรดกการผลิต รถสปอร์ต เกือบ 80 ปี ในปี 2027 บริษัทจะเปิดตัว รถสปอร์ตไฟฟ้า 100% คันแรก ซึ่งจะมาแทนที่ Emira ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน มีรหัสว่า Type 135 จะถูกสร้างขึ้นที่ฐาน Hethel ของ Lotus ใน Norfolk และใช้สถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ในขณะที่การออกแบบคาดว่าจะนำมาจากแนวคิด Lotus Theory 1 (ภาพด้านบน) ซึ่งเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของ รถสปอร์ตไฟฟ้า
Mazda 6e (มาสด้า 6e)
Mazda MX-30 ครอสโอเวอร์ที่บกพร่องมาตลอดเป็น EV เพียงคันเดียวของแบรนด์ญี่ปุ่นมาหลายปี แต่จะไม่นานแล้ว เพราะ Mazda 6e ซีดาน ใหม่ล่าสุดจะมาถึงในปี 2026 เพื่อท้าชน Tesla Model 3 โชคไม่ดีที่เริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เนื่องจาก ระยะทางขับขี่ ที่เคลมของ 6e สูงสุด 550 กิโลเมตร น้อยกว่า Tesla เกือบ 160 กิโลเมตร อย่างน้อย Mazda ก็สัญญาว่า ซีดาน ที่ดูดีคันนี้จะมอบ “พฤติกรรมการขับขี่ที่คาดหวังจากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์หลายทศวรรษในการสร้างรถยนต์ที่ขับสนุก” นอกจากนี้ยังมีรุ่นพี่น้อง SUV ที่มีตัวถังสูงกว่า ซึ่งคาดว่าใช้งานได้จริงมากกว่าในชื่อ Mazda CX-6e
McLaren W1 (แมคลาเรน W1)
ก่อนหน้านี้มี F1, จากนั้น P1, และตอนนี้ McLaren W1 ได้มาถึงเพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของ Woking คู่แข่งโดยตรงของ Ferrari F80 ที่เรากล่าวถึงก่อนหน้านี้ W1 มาพร้อม ระบบส่งกำลังไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่ส่งกำลังทั้งหมด 1,258 แรงม้า ไปยังล้อหลังเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้รถลอยขึ้น อากาศพลศาสตร์แบบ ground-effect ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Formula One สามารถสร้างแรงกดได้ 1,000 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 280 กม./ชม. ซึ่งเป็น ไฮเปอร์คาร์ ที่รวม เทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ต ไว้ในรถถนน
Mercedes CLA (เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLA)
Mercedes CLA เจเนอเรชันถัดไปจะเป็นรุ่นแรกของสิ่งที่แบรนด์เรียกว่า รถยนต์ ‘entry luxury’ ใหม่ โดยใช้สถาปัตยกรรม MMA ใหม่ล่าสุด ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของ รถยนต์ SUV สองรุ่นและ รถยนต์สเตชันแวกอน หนึ่งรุ่น ระบบส่งกำลังไฟฟ้า สามารถให้ ระยะทางขับขี่ เกือบ 800 กิโลเมตร และ การชาร์จเร็ว อย่างเหลือเชื่อ ด้วย เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ขั้นสูงที่เป็นไปได้ด้วยแพลตฟอร์มใหม่นี้ มีราคาที่สมเหตุสมผลและเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือมากกว่า รถยนต์ EV รุ่นก่อนๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่าของ Mercedes
Mercedes GLC (เมอร์เซเดส-เบนซ์ GLC)
ไม่นานหลังจาก BMW iX3 ใหม่ Mercedes GLC ล่าสุดก็ถูกเปิดเผยและพร้อมออกสู่ท้องถนนในไม่ช้า เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดและไม่เกี่ยวข้องกับ GLC ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นเก่า: มันใช้สถาปัตยกรรม MB.EA ไฟฟ้า 100% ใหม่ทั้งหมด และมีแบตเตอรี่ 94kWh ที่ช่วยให้ ระยะทางขับขี่ 700 กิโลเมตร และความเร็ว DC Fast Charging สูงสุดถึง 330kW รุ่นเปิดตัวที่เรียกว่า GLC 400 4MATIC มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและกำลังรวม 482 แรงม้า ดังนั้น สมรรถนะ จึงมั่นใจได้ เราจะต้องรอดูว่ามันจะเอาชนะ BMW iX3 ใหม่ทั้งหมดได้หรือไม่
MINI John Cooper Works (มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์)
MINI Cooper ล่าสุดเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากที่สุดในปีที่แล้ว และกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ตอนนี้แบรนด์ได้เพิ่มความพิเศษเพื่อสร้าง MINI John Cooper Works รถยนต์ฮอตแฮทช์ ใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำเสนอด้วย ขุมพลังเบนซิน และ ไฟฟ้า 100% JCW Electric ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านหน้า ซึ่งเพียงพอสำหรับ 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที – เร็วกว่า Hyundai i20 N – แต่ก็ยังมีรุ่นเบนซินแบบ Old-school ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร 228 แรงม้า น่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกเกียร์ธรรมดาอีกต่อไป มีเพียงเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่เจ็ดสปีด แต่ผู้ซื้อยังคงมีตัวเลือกตัวถังแบบ Hard-top หรือ Convertible สำหรับรุ่นเบนซิน ซึ่งเป็นการผสาน ความคลาสสิกและสมัยใหม่
Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ)
ในฐานะ รถยนต์ EV สำหรับตลาดมวลชนคันแรก Nissan Leaf เป็นผู้บุกเบิกที่แท้จริง แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากลับถูกลดบทบาทลงเนื่องจากคู่แข่งที่ ล้ำสมัย และโดยทั่วไปแล้วเหนือกว่า เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูด รถยนต์แฮทช์แบ็กสำหรับครอบครัว นี้ได้กลายร่างเป็น รถยนต์ SUV ครอสโอเวอร์ ที่เพรียวบาง ซึ่งขับเคลื่อนด้วย เทคโนโลยี เดียวกันกับ Nissan Ariya ที่เคยได้รับรางวัล Auto Express Car of the Year รูปทรงที่เพรียวบางรวมกับกลไกอื่นๆ ทำให้ Leaf ใหม่เป็น รถยนต์แอโรไดนามิกที่สุด ที่แบรนด์ญี่ปุ่นรายนี้เคยผลิตมา และ ระยะทางขับขี่ สูงสุดถึง 600 กิโลเมตร ซึ่งมาพร้อมแบตเตอรี่ 75kWh ที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จึงควรอยู่ในระดับต่ำอย่างที่คุณคาดหวังจากรถยนต์ชื่อนี้
Nissan Micra (นิสสัน ไมคร้า)
นี่คือ Nissan Micra ใหม่ทั้งหมด และหากคุณคิดว่ามันดูคล้ายกับ Renault 5 ใหม่ที่กำลังจะมาถึงอย่างน่าสงสัย นั่นเป็นเพราะว่ามันเป็นเวอร์ชันที่เปลี่ยนตราและปรับแต่งด้านหน้าของ รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ที่หรูหรานั้น Nissan ได้ละทิ้งไฟหน้าสี่เหลี่ยมและไฟท้ายแนวตั้งของ R5 มาใช้ไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ที่ดูตลก ซึ่งคล้ายกับ Micra Mk3 ที่โด่งดัง นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกันชนใหม่ กระจกหลังใหม่ และแน่นอนว่า Nissan ได้เพิ่มตราสัญลักษณ์และการออกแบบล้อของตัวเองเข้าไป แต่นั่นคือทั้งหมด ตัวเลือกแบตเตอรี่, ความเร็วระยะทาง, สมรรถนะ, แชสซี, ความอเนกประสงค์ และภายในยังคงเหมือนกัน ซึ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่เน้นสไตล์
Polestar 5 (โพลสตาร์ 5)
ห้าปีแล้วนับตั้งแต่แนวคิด Polestar Precept อันโดดเด่นถูกเปิดเผย แต่ในที่สุดแบรนด์ในเครือ Volvo ก็พร้อมที่จะเปิดตัวคู่แข่งของ Porsche Taycan และ Lotus Emeya: Polestar 5 มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบน้อยมากสำหรับรุ่นผลิตจริง และเช่นเดียวกับแนวคิด ไม่มีการติดตั้งหน้าต่างหลัง เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารด้านหลังให้สูงสุด – เช่นเดียวกับ Polestar 4 coupé น่าเสียดายที่รายละเอียดหนึ่งที่ไม่ถูกนำมาใช้คือประตูแบบ ‘suicide’ coach doors ของแนวคิดดั้งเดิม ในขณะที่ภายในจะใช้ วัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากพืช อย่างกว้างขวางเพื่อเสริม คุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แทนที่จะใช้สถาปัตยกรรมที่มีอยู่ Polestar 5 อาศัย แพลตฟอร์มอลูมิเนียม ที่อัดขึ้นรูปและเชื่อมต่อกันซึ่งสร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นที่ที่ EV เรือธง คันนี้ได้รับการพัฒนาด้วย มาพร้อม ระบบไฟฟ้า 800V และกำลังขับที่มหาศาลสูงสุดถึง 874 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร ซึ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่เน้น ความยั่งยืน
Polestar 7 (โพลสตาร์ 7)
หากคุณยังไม่เดา Polestar 7 จะเป็นรุ่นที่เจ็ดจากแบรนด์สวีเดนนี้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือมันจะเป็นคำตอบสำหรับ Tesla Model Y รถยนต์ SUV คอมแพคพรีเมียม นี้จะถูกสร้างขึ้นในยุโรป มาพร้อม เทคโนโลยีล่าสุด และอาจมีราคาเริ่มต้นประมาณ 1.6 ล้านบาท Polestar จะย้ายออกจากแนวทางแพลตฟอร์มที่หลากหลายในปัจจุบันด้วย 7 และจะใช้ “สถาปัตยกรรมเดียว ลดความซับซ้อน, ค่าใช้จ่าย และการลงทุน” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้น ประสิทธิภาพและการเข้าถึง
Porsche Boxster/Cayman (ปอร์เช่ บ็อกซ์สเตอร์/เคย์แมน)
รถสปอร์ตเครื่องวางกลาง ของ Porsche อย่าง Cayman และ Boxster กำลังจะเลิกใช้เครื่องยนต์เบนซินเพื่อเปลี่ยนไปใช้ ระบบส่งกำลังไฟฟ้า 100% อย่างน้อยก็สำหรับรุ่นปกติ – เนื่องจากรุ่น GT ระดับสูงอาจยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน ทั้งสองรุ่นจะใช้ แพลตฟอร์มรถสปอร์ตไฟฟ้า ที่ Porsche พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และจากภาพสายลับของเรา จะมีฐานล้อยาวกว่ารุ่นเดิม นี่อาจเป็นเพื่อรองรับ ชุดแบตเตอรี่ ที่ติดตั้งอยู่หลังห้องโดยสาร แทนที่จะอยู่ใต้พื้นเหมือน EV ส่วนใหญ่ ซึ่งจะช่วยในการกระจายน้ำหนักและการนั่งขับขี่ในตำแหน่งที่ต่ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ รถสปอร์ต
Porsche Cayenne Electric (ปอร์เช่ คาเยนน์ อีเลคทริค)
Porsche Cayenne จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินและ ไฮบริด ไปก่อน แต่ Cayenne Electric ใหม่กำลังจะมาถึงและจะใช้ แพลตฟอร์ม PPE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับที่ใช้สำหรับ Macan Electric ดังนั้นคาดว่าจะมี ความจุแบตเตอรี่ ประมาณ 100kWh, มอเตอร์คู่ และ ระบบกันสะเทือนแบบ Active รวมถึงความเป็นไปได้ในการ ชาร์จไร้สาย ซึ่งคุณเพียงแค่ขับรถทับและจอดในที่จอดรถที่รองรับ ซึ่งสามารถ ชาร์จรถยนต์ ได้ – เหมือนกับการวางสมาร์ทโฟนบนแผ่นชาร์จไร้สาย ซึ่งเป็นการนำเสนอ เทคโนโลยีชาร์จไฟ ที่สะดวกสบาย
Range Rover Electric (เรนจ์ โรเวอร์ อีเลคทริค)
Range Rover คือ รถยนต์ SUV หรู ดั้งเดิม และกว่าครึ่งศตวรรษต่อมา มันยังคงเป็นราชาแห่งป่า แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมี Range Rover Electric Thomas Müller ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ JLR กล่าวว่า “เรากำลังดำเนินการตามเป้าหมายเพื่อสร้าง Range Rover ที่เงียบที่สุดและประณีตที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนผสมมหัศจรรย์ที่รองรับความสำเร็จของ Range Rover ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง – ตอนนี้มาพร้อม การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์” ซึ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้าหรู ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์
Renault 4 (เรโนลต์ 4)
ตามหลัง Renault 5 ใหม่ที่ยอดเยี่ยมที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ไม่นาน คือ Renault 4 รถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก คันนี้มีรูปทรงเหลี่ยมคล้ายกับ R4 ดั้งเดิมจากยุค 60s และการออกแบบได้รวมคุณสมบัติที่คุ้นเคยหลายอย่าง เช่น หน้าต่างท้ายรถทรงสี่เหลี่ยมคางหมู, ไฟท้ายทรงแคปซูล และกระจังหน้าแนวนอนกว้างพร้อมไฟหน้าทรงกลม ใช้ แพลตฟอร์ม AmpR Small เดียวกันกับ R5 แฮทช์แบ็ก แต่จะมีให้เลือกเฉพาะแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 52kWh ที่ให้ ระยะทางขับขี่ 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
Renault Twingo (เรโนลต์ ทวินโก)
ส่วนเสริมสุดท้ายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Retro ของ Renault คือ Twingo ใหม่ทั้งหมด ซึ่งได้มีการเผยโฉมในรูปแบบแนวคิดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 Luca de Meo ซีอีโอของ Renault ได้กล่าวว่า Twingo ใหม่นี้เป็น “กระสุนเงินสำหรับการ เคลื่อนที่อย่างยั่งยืน” โดยมีกำหนดจะเปลี่ยนจากแนวคิดสู่การผลิตในเวลาเพียงสองปี และมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 20,000 ยูโร หรือประมาณ 6.8 แสนบาท ซึ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาประหยัด ที่น่าจับตา
Rivian R2 (ริเวียน R2)
สตาร์ทอัพ EV ผู้บุกเบิกจากอเมริกาอย่าง Rivian ผู้ผลิต รถกระบะไฟฟ้า 100% คันแรกของโลก ในที่สุดก็จะเข้าสู่ตลาดในปี 2027 แต่ไม่ใช่ด้วยรถกระบะ รุ่นแรกที่จะจำหน่ายคือ Rivian R2: รถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง ที่จะมาท้าชน Tesla Model Y และอื่นๆ อีกมากมาย เรายังคาดว่า Rivian R3 แฮทช์แบ็ก และ R3X ฮอตแฮทช์ จะมาถึงในภายหลัง ซึ่งเป็นการขยายตลาด รถยนต์ไฟฟ้า ของ Rivian
Skoda (สกอด้า)
ปี 2024 เป็นปีที่ Skoda มีความเคลื่อนไหวอย่างมากเช่นกัน เนื่องจากรุ่นยอดนิยมหลายรุ่นได้รับการอัปเดต เช่น Kamiq และ Octavia นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Kodiaq เจเนอเรชันที่สองใหม่ทั้งหมด และ Superb ล่าสุด – ซึ่งทั้งคู่ได้รับรางวัลจาก Auto Express New Car Awards เมื่อมองไปข้างหน้า แบรนด์เช็กจะต่อยอดความสำเร็จของ Enyaq และเปิดตัว รถยนต์ SUV ไฟฟ้า หลากหลายขนาดและราคา รวมถึงรุ่นที่อาจมีราคาต่ำกว่า 8 แสนบาท ในทำนองเดียวกัน Skoda กำลังพัฒนารถยนต์ สเตชันแวกอนสำหรับครอบครัวไร้มลพิษ เพื่อให้อยู่เคียงข้าง Octavia Estate และ Superb Estate ที่ยอดเยี่ยม แบรนด์ยังได้อวดโฉมแนวคิด Skoda Epiq เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการเผยโฉมคู่แข่งของ VW ID. Cross ที่มีขนาดเท่า Kamiq ซึ่งเป็นการนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้า ที่ หลากหลายและคุ้มค่า
Suzuki e Vitara (ซูซูกิ อี-วิตาร่า)
Suzuki ได้ตัดสินใจกระโดดเข้าสู่ตลาด EV ทันทีด้วย รถยนต์ไฟฟ้าคันแรก นั่นคือ e Vitara ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็น รถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่น่าประทับใจมากมาย ฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือตัวเลือก AllGrip-e ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์คู่เพื่อให้ “สมรรถนะอันทรงพลัง” และการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นในสภาพถนนที่ลื่น ซึ่งเข้ากันกับรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างบึกบึน ระยะทางขับขี่ สูงสุดของ e Vitara คือ 426 กิโลเมตร ซึ่งเหนือกว่า Jeep Avenger เล็กน้อย แต่ไม่สามารถเทียบได้กับรถยนต์อย่าง Kia EV3 ที่สามารถเดินทางได้มากกว่า 600 กิโลเมตรในการชาร์จครั้งเดียว ซึ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้า ที่เน้น ความแข็งแกร่งและสมรรถนะ
Vauxhall Frontera (วอกซ์ฮอลล์ ฟรอนเทรา)
Vauxhall Frontera ไม่มีมรดกชื่อเสียงใกล้เคียงกับ Ford Capri หรือ Honda Prelude แต่ก็ได้รับการปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้งสำหรับ รถยนต์ SUV คอมแพค รุ่นใหม่ทั้งหมดที่เน้น ความอเนกประสงค์ และ ราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยรูปทรง SUV แบบเหลี่ยมดั้งเดิม, สูงสุดเจ็ดที่นั่ง และความจุสัมภาระสูงสุดเกือบ 1,600 ลิตร Frontera จึงเป็น รถยนต์ที่ใช้งานได้จริง ในแง่ของต้นทุน Vauxhall ถือเป็นก้าวสำคัญ เนื่องจากทั้งรุ่น ไฟฟ้า 100% และ เบนซิน-ไฮบริด มีราคาเริ่มต้นที่ 9.7 แสนบาท – เป็น ราคาที่เท่าเทียมกัน อย่างแท้จริง ซึ่งช่วยขจัดอุปสรรคทั่วไปในการเป็นเจ้าของ EV Frontera Hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซินสามสูบ 1.2 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 28 แรงม้า ที่รวมเข้ากับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่หกสปีด ในขณะที่รุ่น EV มาพร้อมแบตเตอรี่ 44kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 111 แรงม้า ซึ่งให้ ระยะทางขับขี่ สูงสุดถึง 300 กิโลเมตร – แม้ว่าจะมีรุ่น Long Range กำลังจะมาถึงในไม่ช้า
Volkswagen ID. Polo (โฟล์คสวาเกน ไอดี. โปโล)
Volkswagen ยืนยันว่าชื่อ ID.2 ไม่มีอีกต่อไปแล้ว: รถยนต์ซูเปอร์มินิไฟฟ้าราคาประหยัด รุ่นใหม่จากแบรนด์จะใช้ชื่อ ID. Polo แทน รถยนต์ได้ถูกเปิดเผยในระดับหนึ่งที่งาน Munich Motor Show 2025 โดยจัดแสดงในรูปแบบลายพรางที่ทำให้เราเห็นแนวคิดของรูปลักษณ์ของมัน รุ่นนี้จะใช้ แพลตฟอร์ม MEB เวอร์ชันราคาประหยัด ซึ่งจะทำให้มีราคาเริ่มต้นที่ต่ำ: อาจจะต่ำกว่า 1 ล้านบาท เมื่อรถมาถึงในปี 2027 ซึ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาเข้าถึงได้ ที่คนจำนวนมากรอคอย
Volkswagen ID.2X (โฟล์คสวาเกน ไอดี.2X)
Volkswagen ยังให้คำมั่นสัญญาเมื่อนานมาแล้วว่าจะเปิดตัว รถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาประหยัด รุ่นใหม่ที่ใช้พื้นฐาน ID.2 – ซึ่งตอนนี้เรียกว่า ID. Polo – และ แพลตฟอร์ม MEB Entry ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น ทางเลือกไร้มลพิษ ของ VW T-Cross ที่ได้รับความนิยม บริษัทได้ยืนยันแล้วว่าคู่แข่งของ Renault 4 ในอนาคตจะใช้ชื่อ Volkswagen ID.2X และจะถูกเปิดเผยในงาน Munich Motor Show ในเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ รถยนต์ SUV ไฟฟ้า ของ Volkswagen
Volvo ES90 (วอลโว่ ES90)
Volvo ได้ยกเลิกการผลิต S60 และ S90 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะละทิ้ง ซีดานขนาดใหญ่ โดยสิ้นเชิง Volvo ES90 ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นผู้ท้าชนของแบรนด์สวีเดนกับ BMW i5 และ Audi A6 e-tron รวมถึงเป็น รถยนต์ EV ที่ล้ำหน้าที่สุด ในด้าน เทคโนโลยี จนถึงปัจจุบัน ภายใต้รถยนต์คือ แพลตฟอร์ม เดียวกันกับ EX90 รถยนต์ SUV เรือธง แต่ ซีดาน ได้รับประโยชน์จาก มอเตอร์ไฟฟ้า น้ำหนักเบาใหม่เพื่อ สมรรถนะ และ ประสิทธิภาพ ที่ดีขึ้น รวมถึง เทคโนโลยี 800V ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่ม ระยะทางขับขี่ ได้ถึง 300 กิโลเมตร หลังจาก ชาร์จเพียง 10 นาที ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นการนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้าหรู ที่เน้น ความสะดวกสบายและเทคโนโลยี
อนาคตกำลังจะมาถึง: อย่าพลาดการเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการยานยนต์
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่าปี 2025 และปีต่อๆ ไปจะเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ จาก รถยนต์ไฟฟ้า ที่ให้ ระยะทางขับขี่ ไกลขึ้นและ ชาร์จเร็ว ขึ้น ไปจนถึง ไฮเปอร์คาร์ ที่มี สมรรถนะสูงสุด และ รถยนต์ SUV ที่ อเนกประสงค์ มากขึ้น มีนวัตกรรมมากมายรอให้เราได้สัมผัส ไม่ว่าคุณจะมองหา รถยนต์พรีเมียม, รถยนต์สำหรับครอบครัว, หรือ รถยนต์ประหยัดพลังงาน ตลาดนี้มีทุกสิ่งที่จะตอบสนองความต้องการของคุณ
อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ หากคุณกำลังพิจารณา รถยนต์คันใหม่ หรือเพียงต้องการอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับ เทคโนโลยีรถยนต์ล่าสุด นี่คือโอกาสของคุณที่จะได้สำรวจ ยานยนต์แห่งอนาคต ผมขอเชิญชวนให้ทุกท่านเตรียมตัวพบกับ รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด เหล่านี้ได้ที่โชว์รูมใกล้บ้านท่าน หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อตัดสินใจเลือก รถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณ ในยุคที่ นวัตกรรมยานยนต์ ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งนี้ครับ.
รถยนต์ใหม่ปี 2025 – 2026: ยุคทองของยานยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรม ที่คุณต้องจับตา!
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่า 10 ปี ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาที่น่าทึ่งมากมาย แต่ไม่มีครั้งไหนที่ตื่นเต้นเท่าปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2025 และ 2026 ที่ตลาดรถยนต์กำลังจะพลิกโฉมไปอย่างสิ้นเชิงจากคลื่นของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ทะลุขีดจำกัดด้านระยะทางและประสิทธิภาพ หรือรถยนต์ไฮบริดที่ยังคงแข็งแกร่งและมอบความประหยัดเชื้อเพลิงที่เหนือชั้น รวมถึงการกลับมาของตำนานบางรุ่น และการกำเนิดของแบรนด์ใหม่ๆ ที่พร้อมสั่นสะเทือนวงการ
ปี 2025 นี้ ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญอย่างแท้จริงครับ เราได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตจีนหลั่งไหลเข้าสู่ตลาด สร้างการแข่งขันที่ดุเดือดและเร่งให้ผู้ผลิตดั้งเดิมต้องปรับตัวเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าคือสิ่งที่กำลังจะตามมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทั้ง Volkswagen ID.Polo, Renault Clio โฉมใหม่ และข่าวคราวของ Audi, BMW, Mercedes และ Skoda ที่เตรียมเขย่าตลาดในทุกเซกเมนต์
แม้ว่า รถยนต์ไฟฟ้า 2025 จะเป็นหัวใจหลักของนวัตกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน ด้วยแรงผลักดันจากข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ก้าวหน้า แต่ รถยนต์ไฮบริดใหม่ และเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้รับการปรับปรุงก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการจำหน่ายรถยนต์เบนซินและดีเซลใหม่ยังไม่ส่งผลกระทบเต็มที่จนถึงปี 2030 ทำให้ผู้ผลิตยังมีโอกาสตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายครับ
ในบทความนี้ ผมจะพาคุณไปเจาะลึก การเปิดตัวรถยนต์ 2025 และ 2026 ที่น่าจับตามองที่สุด จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญที่คลุกคลีในวงการนี้มานานนับทศวรรษ เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกกระแสสำคัญและเตรียมพร้อมสำหรับการเลือก ซื้อรถยนต์ใหม่ 2025 หรือ 2026 ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรามาดูกันเลยครับว่ามีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง
ภาพรวมและแนวโน้มสำคัญของตลาดรถยนต์ในปี 2025 และ 2026
ก่อนที่เราจะดำดิ่งสู่รายละเอียดของแต่ละรุ่น ขอพูดถึงแนวโน้มที่สำคัญที่คุณควรรู้ก่อนครับ:
การเร่งตัวของรถยนต์ไฟฟ้า (EVs): เทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800V กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ช่วยให้การชาร์จเร็วขึ้นอย่างเหลือเชื่อ (ชาร์จ 10 นาทีวิ่งได้หลายร้อยกิโลเมตร) และระยะทางขับขี่ที่ยาวนานขึ้นจนหายห่วงเรื่อง “Range Anxiety” เราจะเห็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระยะทางเกิน 600-800 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ไฮบริดยังคงแข็งแกร่ง: สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมเข้าสู่โลก EV เต็มตัว รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และไมล์ดไฮบริด (MHEV) ที่ทันสมัยจะยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม มอบความประหยัดและประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม พร้อมลดการปล่อยมลพิษ
การรุกคืบของแบรนด์เอเชีย (โดยเฉพาะจีน): ผู้ผลิตจากจีนไม่เพียงแต่นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาเข้าถึงได้ แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและดีไซน์ที่น่าดึงดูด ทำให้พวกเขาเป็นผู้เล่นที่น่ากลัวในตลาดโลก
เทคโนโลยีห้องโดยสารและระบบขับขี่อัจฉริยะ: หน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ ระบบ AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ และระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) กำลังกลายเป็นมาตรฐานในรถยนต์รุ่นใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัย
ความหลากหลายของเซกเมนต์: ไม่ว่าคุณจะมองหารถยนต์ซูเปอร์มินิ SUV ขนาดเล็ก คอมแพ็คซีดาน รถยนต์หรู ไปจนถึงซูเปอร์คาร์ ทุกเซกเมนต์กำลังได้รับการเติมเต็มด้วยรุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
เจาะลึกรถยนต์ใหม่ที่น่าจับตาตามแบรนด์ (เรียงตามตัวอักษร)
Alfa Romeo
Alfa Romeo กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ การผสมผสานระหว่าง DNA ความสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์เข้ากับขุมพลังไฟฟ้าคือสิ่งที่น่าจับตา
Alfa Romeo Giulia (2026): รถยนต์หรู EV รุ่นนี้เตรียมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับซีดานสมรรถนะสูง ด้วยแพลตฟอร์ม STLA Large ที่รองรับระบบ 800V และระยะทางขับขี่กว่า 640 กม. แต่ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือข่าวลือว่าจะมีเวอร์ชั่น Quadrofoglio ที่ยังคงใช้เครื่องยนต์ V6 เบนซินอันโด่งดัง นี่คือการรักษาจิตวิญญาณแห่งความแรงไว้ในยุคใหม่
Alfa Romeo Stelvio (ปลายปี 2025): SUV สุดเท่ เตรียมอวดโฉมก่อน Giulia ด้วยสถาปัตยกรรม STLA Large เช่นกัน จะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและ EV สำหรับเวอร์ชั่น Quadrofoglio สัญญาว่าจะ “คำราม” อย่างแน่นอน การเปิดตัวของ Stelvio ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงการปรับโฉมกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Alfa Romeo เพื่อการแข่งขันในตลาด SUV รุ่นใหม่ ที่ดุเดือด
Alpine
แบรนด์สปอร์ตจากฝรั่งเศสกำลังนำเสนอความสนุกในการขับขี่สู่โลก EV
Alpine A290: นี่คือ “Hot Hatch” ไฟฟ้าที่สร้างจาก Renault 5 E-Tech แต่เพิ่มความดุดันด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง การปรับแต่งช่วงล่าง และยาง Michelin โดยเฉพาะ ด้วยราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจ A290 จะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหา รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่เร้าใจ
Alpine A390: Alpine ก้าวไปอีกขั้นกับ “Sport Fastback” ไฟฟ้าที่ดูเหมือน ซุปเปอร์คาร์ 2025 ในชุดสูท เตรียมเป็นคู่แข่งกับ Porsche Macan Electric ด้วยขุมพลัง Tri-motor 464 แรงม้า และ Torque Vectoring ที่ให้การควบคุมที่เฉียบคม อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.9 วินาที และราคาเริ่มต้นที่คาดว่าจะอยู่ในระดับพรีเมียม A390 คือการแสดงศักยภาพของ Alpine ในเซกเมนต์ที่หรูหราและมีสมรรถนะสูง
Aston Martin Valhalla
Aston Martin Valhalla: ซูเปอร์คาร์ Mid-engined รุ่นผลิตจริงครั้งแรกในประวัติศาสตร์กว่า 111 ปีของ Aston Martin ผลิตจำกัดเพียง 999 คัน มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 1,069 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที ด้วยแอโรไดนามิกที่ได้แรงบันดาลใจจาก F1 Valhalla ไม่ใช่แค่รถ แต่คือผลงานศิลปะวิศวกรรมที่หาตัวจับยาก เป็นหนึ่งใน ซุปเปอร์คาร์ 2025 ที่ทรงอิทธิพลที่สุด
Audi
ปี 2024 Audi เปิดตัวไปแล้วหลายรุ่น และปี 2025 ก็ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
Audi A5 / Q5 (รุ่นใหม่): A5 ใหม่จะเข้ามาแทนที่ A4 ทั้งเวอร์ชั่นซีดานและ Avant ส่วน Q5 จะมาพร้อมกับการอัปเกรดที่สำคัญ สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานที่สำคัญในการรักษาตำแหน่งของ Audi ในตลาดรถยนต์พรีเมียม
Audi Q3 / A6 e-tron (รุ่นใหม่): Q3 จะเป็น SUV คอมแพ็คพรีเมียมรุ่นใหม่ และ A6 e-tron ซีดานไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีร่วมกับ Porsche จะเสริมความแข็งแกร่งของ Audi ในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025 การขยายไลน์อัพ e-tron แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Audi ในการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า
BMW
BMW กำลังแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในการนำเสนอทั้ง EV และ ICE สมรรถนะสูง
BMW iX3 (Neue Klasse): นี่คือรุ่นแรกของตระกูล Neue Klasse ที่จะมาพร้อมดีไซน์ใหม่และเทคโนโลยีล้ำสมัย แบตเตอรี่รุ่นใหม่จะให้ระยะทางสูงสุด 800 กม. และระบบไฟฟ้า 800V ทำให้ชาร์จได้รวดเร็ว ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับอนาคตของ BMW ในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025
BMW M3 (2027): ตำนาน M3 กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นที่สุด ด้วยเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนที่อาจให้กำลังมหาศาลถึง 1,341 แรงม้า และ Torque Vectoring เพื่อความคล่องตัวที่น่าทึ่ง แต่สำหรับแฟนๆ ที่ยังยึดมั่นในเครื่องยนต์สันดาป ก็จะยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน Twin-turbo Straight-six เช่นเดิม BMW กำลังพยายามสร้างสะพานเชื่อมระหว่างโลกเก่าและใหม่ของสมรรถนะสูงได้อย่างน่าสนใจ
BMW M5 Touring: เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของ M5 ที่จะมีเวอร์ชั่น Estate มาพร้อมขุมพลัง Plug-in Hybrid V8 4.4 ลิตร Twin-turbo ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 717 แรงม้า และแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 500 ลิตร นี่คือรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงที่แท้จริง
BYD Atto 2
BYD Atto 2: ยักษ์ใหญ่จากจีนบุกตลาด SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่มีการแข่งขันสูง Atto 2 โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานที่อัดแน่น ทั้งหน้าจอสัมผัสหมุนได้ 12.8 นิ้ว, Apple CarPlay/Android Auto ไร้สาย, กล้อง 360 องศา และระบบช่วยเหลือการขับขี่ครบครัน รุ่นเริ่มต้นมีระยะทาง 338 กม. และจะมีรุ่นแบตเตอรี่ใหญ่กว่าตามมา BYD กำลังนำเสนอความคุ้มค่าและเทคโนโลยีที่เหนือกว่าในราคาที่จับต้องได้
Cadillac Lyriq / Optiq
Cadillac Lyriq: หลังจากการหายไปเกือบสิบปี Cadillac กลับมาพร้อม รถยนต์หรู EV เพื่อท้าชน Audi, BMW และ Mercedes Lyriq เป็น SUV ขนาดใหญ่ที่ดูโฉบเฉี่ยวและซับซ้อน มาพร้อมมอเตอร์คู่ 520 แรงม้า และแบตเตอรี่ 102kWh ที่ให้ระยะทาง 530 กม. หน้าจอ OLED ขนาด 33 นิ้วครอบคลุมแดชบอร์ด แสดงถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่สูงมาก
Cadillac Optiq: สำหรับผู้ที่มองหาขนาดที่เล็กลงและราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น Optiq จะตามมาในไม่ช้า ซึ่งจะช่วยให้ Cadillac ขยายฐานลูกค้าในตลาด EV พรีเมียมได้กว้างขึ้น
Citroen
Citroen มุ่งเน้นไปที่ความสะดวกสบายและการเข้าถึงได้ของรถยนต์ไฟฟ้า
Citroen e-C3: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก รุ่นใหม่ที่ได้รับรางวัล โดดเด่นด้วยราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่าย แบตเตอรี่ 44kWh ให้ระยะทาง 320 กม. และจะมีตัวเลือกแบตเตอรี่ราคาถูกกว่าที่ระยะทาง 200 กม. e-C3 มีรูปลักษณ์ที่คล้าย Crossover มากขึ้น และยังคงเอกลักษณ์ของ Citroen ด้วยระบบกันสะเทือน Hydraulic Bump-stops และเบาะ Active Comfort ที่นุ่มสบาย
Citroen C3 Aircross: คู่แข่ง Dacia Duster ที่มาพร้อมเซอร์ไพรส์ด้วยตัวเลือก 5 หรือ 7 ที่นั่ง แม้จะเป็น SUV ขนาดเล็ก (ยาว 4.39 เมตร) มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด และ EV โดยรุ่น e-C3 Aircross EV จะมีระยะทาง 300-400 กม. ในราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจ
Citroen C5 Aircross (รุ่นใหม่): C5 Aircross โฉมใหม่ยังคงเน้นความสบายเป็นหลัก แต่เพิ่มพื้นที่เบาะหลังและห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ (651 ลิตร) ภายในออกแบบให้รู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่น ใช้แพลตฟอร์ม STLA Medium ร่วมกับ Peugeot 3008 และ Vauxhall Grandland มีทั้ง Mild-hybrid, Plug-in Hybrid และ EV โดยรุ่น EV ให้ระยะทางสูงสุด 680 กม.
Cupra Raval
Cupra Raval (2026): คู่แข่งสปอร์ตของ Volkswagen ID.Polo ที่เปิดตัวบางส่วนในงาน Munich Motor Show 2025 Raval จะมีขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการขับขี่ในเมือง แต่ยังคงมี 5 ประตูเพื่อความอเนกประสงค์ ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยกำลังกว่า 200 แรงม้า และมีระยะทางขับขี่สูงสุด 435 กม. ในราคาเริ่มต้นที่คาดว่าจะประมาณ 25,000 ปอนด์ Raval จะเป็นประตูสู่แบรนด์ Cupra สำหรับผู้ที่มองหา รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่มีสไตล์
Dacia
Dacia ยังคงเดินหน้าขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า
Dacia Bigster: Bigster เข้าสู่ตลาดแล้วในปีนี้ และพร้อมที่จะเขย่าเซกเมนต์ SUV ขนาดกลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในสามรุ่นใหม่ที่ Dacia จะเปิดตัวใน C-segment นอกจากนี้ยังมี Duster และ Spring EV ที่เพิ่งเปิดตัวไป Bigster แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของ Dacia ในการนำเสนอคุณค่าที่ยอดเยี่ยมในขนาดที่ใหญ่ขึ้น
DS No8
DS No8: จุดเริ่มต้นยุคใหม่ของแบรนด์พรีเมียมจากปารีส DS No8 เป็น Coupé-SUV ไฟฟ้าที่เน้นความหรูหรา ความสบาย และความสงบ (Serene qualities) โดดเด่นด้วยระยะทางขับขี่มหาศาลถึง 750 กม. และราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจกว่าคู่แข่งอย่าง Polestar 4 และ Audi Q6 e-tron นี่คือ รถยนต์หรู EV ที่มาพร้อมสไตล์และเทคโนโลยีที่แตกต่าง
Ferrari F80 / Elettrica
Ferrari F80: ทายาทของตำนาน F40, F50, Enzo และ LaFerrari ด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง Le Mans 499P มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร 9,200 รอบต่อนาที ทวินเทอร์โบ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 5 ตัว กำลังรวม 1,183 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.15 วินาที ด้วยราคาที่สูงกว่า 3 ล้านปอนด์ F80 คืออีกหนึ่งสุดยอด ซุปเปอร์คาร์ 2025 ที่จะกลายเป็นตำนาน
Ferrari Elettrica: ใช่แล้ว แม้แต่ Ferrari ก็ยังต้องผลิต รถยนต์ไฟฟ้า 2025 โดยอาจใช้ชื่อว่า “Ferrari Elettrica” จากภาพสปายช็อต คาดว่าจะเป็นรถ 4 ประตู สไตล์เดียวกับ Purosangue ที่ Ferrari เรียกว่า “รถสปอร์ต 4 ที่นั่ง 4 ประตู” Ferrari กำลังหาวิธีที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขามีประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าใจไม่แพ้เครื่องยนต์สันดาป
Fiat Grande Panda
Fiat Grande Panda: การกลับมาของ Panda ในโฉมใหม่ที่ Retro-futuristic อย่างลงตัว เป็นรถแฝดของ Citroen e-C3 ที่ได้รับรางวัล รถรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Panda ดั้งเดิมจากยุค 80 และ Panda 4×4 ภายในที่แปลกตา พร้อมวัสดุที่น่าสนใจ และที่สำคัญคือสายชาร์จแบบพับเก็บได้ที่ซ่อนอยู่ในหน้ารถสำหรับรุ่น EV จะมีเวอร์ชั่นไฮบริดให้เลือกด้วยในราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่าย เป็นอีกหนึ่ง รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่น่ารักและใช้งานได้จริง
Ford
Ford ยังคงเดินหน้าในตลาด EV อย่างจริงจัง แต่ก็ไม่ทิ้งตำนานเครื่องยนต์ V8
Ford Capri (EV SUV): การฟื้นคืนชีพของชื่อ Capri ที่โด่งดัง แต่กลับมาในรูปแบบ SUV ไฟฟ้า นี่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Ford ในการผลักดัน EV หลังจากเปิดตัว Explorer SUV ใหม่ และ Puma Crossover EV ไปแล้ว
Ford Mustang GTD: ในขณะที่ Capri กลายเป็น EV แต่ Mustang ยังคงยึดมั่นในเครื่องยนต์ V8 ที่ทรงพลัง โดยเฉพาะ Mustang GTD ที่มาพร้อม Supercharged กว่า 800 แรงม้า และเทคโนโลยีที่ถูกแบนจากมอเตอร์สปอร์ต นี่คือการตอบสนองความต้องการของผู้ที่ยังคงหลงใหลในพละกำลังดิบๆ ของเครื่องยนต์สันดาป
Genesis GV60 Magma
Genesis GV60 Magma: แบรนด์หรูจากเกาหลีกำลังเปิดตัวเวอร์ชั่น Magma ที่เน้นสมรรถนะสูง GV60 Magma คาดว่าจะมาพร้อมพละกำลังที่มากกว่า Hyundai Ioniq 5 N และ Kia EV6 GT ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน Tyrone Johnson หัวหน้าฝ่ายพัฒนายานยนต์ของ Genesis เผยว่า Magma จะมี “เอกลักษณ์เฉพาะตัว” ที่แตกต่างออกไป นี่คือ รถยนต์หรู EV ที่พร้อมท้าชนกับแบรนด์เยอรมันในการนำเสนอสมรรถนะที่น่าตื่นเต้น
Honda
Honda กำลังเร่งเครื่องในตลาด EV ด้วยซีรีส์ใหม่และตำนานที่กลับมา
Honda 0 Series (SUV / Saloon): Honda สัญญาว่าจะเปิดตัว EV เจ็ดรุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ย่อย “0 Series” ภายในปี 2030 โดยจะเริ่มด้วย SUV ขนาดกลางในปี 2026 ตามด้วย Saloon Flagship ที่อิงจาก Honda Saloon Concept นี่คือความพยายามของ Honda ในการกลับมาเป็นผู้นำใน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 2025 และอนาคต
Honda Prelude (ต้นปี 2026): ตำนาน Prelude กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปกว่าสองทศวรรษ รุ่นที่หกจะเป็นคูเป้ 2 ประตูที่โฉบเฉี่ยว มาพร้อมขุมพลังไฮบริดและเทคโนโลยีเกียร์เสมือน “S Shift” ที่จำลองเสียงและความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติอย่างรวดเร็ว นี่คือการผสานความทันสมัยเข้ากับจิตวิญญาณแห่งความสปอร์ตของ Honda
Hyundai Inster / Ioniq 9 / Ioniq 3
Hyundai กำลังขยายไลน์อัพ EV ตั้งแต่เล็กสุดไปจนถึงใหญ่สุด
Hyundai Inster: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาจับต้องได้ของ Hyundai ที่มีดีไซน์น่ารักและแปลกตา Inster มีขนาดเล็กกว่ารถซูเปอร์มินิอื่นๆ แต่ไม่เสียพื้นที่ภายในแม้แต่มิลลิเมตรเดียว พร้อมเบาะหลังแบบเลื่อนได้ที่เพิ่มความอเนกประสงค์ มีระยะทางสูงสุด 368 กม. ในราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจ Inster คืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก สำหรับคนเมือง
Hyundai Ioniq 9: Hyundai เปิดตัว EV ที่ใหญ่ที่สุด: Ioniq 9 ที่นั่ง 7 ที่นั่งขนาด 5 เมตร นี่คือทางเลือกที่ล้ำยุคสำหรับ Santa Fe และเป็นรถแฝดของ Kia EV9 ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกัน แต่ Ioniq 9 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า 110.3kWh ให้ระยะทางสูงสุด 620 กม. ภายในเต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งหน้าจอคู่ 12.3 นิ้ว ระบบตัดเสียงรบกวน และ AI Assistant คาดว่าราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 65,000 ปอนด์
Hyundai Ioniq 3 (2026): Ioniq จะขยายไลน์อัพเพิ่มเติมด้วย Ioniq 3 รุ่นเล็กกว่า ซึ่งถูกพรีวิวด้วย Hyundai Concept Three ในงาน Munich Motor Show 2025 คาดว่าจะเป็น Hatchback ไฟฟ้าที่จะเป็นคู่แข่งกับ Volkswagen ID.3 ด้วยดีไซน์ที่สปอร์ตและโดดเด่น Hyundai มุ่งมั่นที่จะนำเสนอ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าล่าสุด ในทุกเซกเมนต์
IM Motors L6
IM Motors L6: แบรนด์พี่น้องพรีเมียมของ MG เตรียมบุกตลาดอังกฤษในปี 2025 ด้วย L6 ซีดานไฟฟ้าพรีเมียมที่คาดว่าจะท้าชน Tesla Model 3 ได้อย่างเต็มตัว L6 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 3 วินาที และชาร์จเร็วได้สูงกว่า 300kW ซึ่งไม่เพียงแต่เหนือกว่า Tesla แต่ยังเทียบเท่า Porsche Taycan นี่คือสัญญาณอันตรายจาก แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า น้องใหม่ที่พร้อมท้าชนผู้นำ
Jaguar Four-door GT
Jaguar Four-door GT (2026): Jaguar กำลังปฏิวัติแบรนด์สู่การเป็น รถยนต์หรู EV เต็มตัว ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่นใหม่ โดยจะเริ่มด้วย Four-door GT ที่มีราคาประมาณ 130,000 ปอนด์ จะใช้แพลตฟอร์ม EV เฉพาะที่เรียกว่า Jaguar Electrified Architecture และมาพร้อมเทคโนโลยี “Game-changing” ผู้บริหารเผยว่าจะมีระยะทางขับขี่เหลือเชื่อถึง 770 กม. และสามารถเพิ่มระยะทาง 320 กม. ได้ในเพียง 15 นาที นี่คือการแสดงความทะเยอทะยานของ Jaguar ในการสร้าง รถยนต์หรู EV ที่โดดเด่น
Jeep Recon
Jeep Recon: Jeep เปิดตัว Avenger ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกไปแล้ว แต่ Recon คือสิ่งที่น่าตื่นเต้นกว่ามาก นี่คือ 4×4 EV ขนาดเท่า Wrangler ที่จะคงดีไซน์ดุดันและใช้แพลตฟอร์ม STLA Large ของ Stellantis Recon จะมอบสมรรถนะ Off-road ที่แท้จริงแต่มาพร้อมกับความเป็น รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่ไร้มลพิษ
Kia EV4 / PV5
Kia ยังคงเป็นผู้นำด้าน EV ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
Kia EV4: EV4 คือส่วนเสริมใหม่ของตระกูลรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์โดดเด่น มีให้เลือกทั้งซีดานและแฮทช์แบ็ก (คาดว่าแฮทช์แบ็กจะได้รับความนิยมในยุโรปมากกว่า) ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกับ Kia EV3 SUV และให้ระยะทางเกือบ 640 กม. เป็น รถยนต์ครอบครัวไฟฟ้า ที่เงียบและกว้างขวาง
Kia PV5: Kia นำความเชี่ยวชาญด้าน EV มาสู่ตลาดรถตู้เชิงพาณิชย์ ด้วย PV5 ที่จะมาในรูปแบบ Panel Van และ MPV เพื่อท้าชน Ford E-Transit และ Volkswagen ID. Buzz ด้วยดีไซน์ที่ล้ำยุค และการรับประกัน 7 ปี ทำให้ PV5 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจและ รถยนต์ครอบครัวไฟฟ้า
Land Rover Defender OCTA
Land Rover Defender OCTA: สุดยอด Defender ที่มาพร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที กำลัง 626 แรงม้า และราคาที่สูงถึง 160,000 ปอนด์ ใช้เครื่องยนต์ V8 Twin-turbo 4.4 ลิตรที่ทรงพลังที่สุดที่เคยติดตั้งใน Defender พร้อมการปรับปรุงช่วงล่าง ระบบเบรก Brembo และระบบกันสะเทือน 6D Dynamics ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายซูเปอร์คาร์ McLaren นี่คือ Defender สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงสุดทั้งบนทางเรียบและ Off-road
Lotus Mid-size SUV / Electric Sports Car
Lotus กำลังปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์สู่แบรนด์ EV พรีเมียม
Lotus Mid-size SUV (Type 134): Lotus ตั้งเป้าที่จะขยายฐานลูกค้าด้วย SUV ขนาดกลางรุ่นใหม่ (Type 134) ที่จะท้าชน Porsche Macan Electric โดยมีราคาเริ่มต้นที่คาดว่าจะถูกกว่า Macan อย่างมีนัยสำคัญ การเปิดตัวจะมีขึ้นในปี 2025 เป็นการบุกตลาด SUV ไฟฟ้า ที่น่าจับตา
Lotus Electric Sports Car (Type 135) (2027): Lotus ไม่ทิ้งรากฐานสปอร์ตคาร์ จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตคาร์รุ่นแรกในปี 2027 เพื่อมาแทนที่ Emira ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน รุ่นนี้จะสร้างบนสถาปัตยกรรมเฉพาะที่ฐาน Hethel ของ Lotus โดยดีไซน์จะได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจาก Lotus Theory 1 concept นี่คือการแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าล่าสุด สามารถสร้างประสบการณ์สปอร์ตคาร์ที่เร้าใจได้อย่างไร
Mazda 6e / CX-6e
Mazda 6e (2026): หลังจาก MX-30 ที่อาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร Mazda กำลังจะเปิดตัว 6e ซีดานไฟฟ้าที่จะมาท้าชน Tesla Model 3 อย่างจริงจัง แม้ว่าระยะทาง 550 กม. จะยังน้อยกว่า Tesla แต่ Mazda สัญญาว่า 6e จะมอบ “พฤติกรรมบนถนนที่คุณคาดหวังจากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์หลายทศวรรษในการสร้างรถยนต์ที่ขับสนุก” ซึ่งเป็นจุดแข็งของ Mazda และจะมีรุ่น SUV ไฟฟ้า ที่ใช้งานได้จริงมากขึ้นในชื่อ CX-6e ตามมา
McLaren W1
McLaren W1: หลังจาก F1 และ P1 ตอนนี้ McLaren ได้เปิดตัว W1 เพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของ Woking W1 เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Ferrari F80 มาพร้อมขุมพลัง V8 Twin-turbo 4.0 ลิตร Hybrid 1,258 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อหลังเท่านั้น พร้อมแอโรไดนามิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก F1 ที่สร้างแรงกดได้ถึง 1,000 กก. ที่ความเร็ว 280 กม./ชม. W1 คือความสุดยอดของ ซุปเปอร์คาร์ 2025 แห่งยุค
Mercedes CLA / GLC
Mercedes ยังคงขยายไลน์อัพ EV ในทุกระดับ
Mercedes CLA (Entry Luxury EV): CLA โฉมใหม่จะเป็นรถยนต์ “Entry Luxury” รุ่นแรกของ Mercedes บนแพลตฟอร์ม MMA ที่จะรองรับ SUV สองรุ่นและ Shooting Brake ด้วย ขุมพลังไฟฟ้าสามารถให้ระยะทางเกือบ 800 กม. และชาร์จได้เร็วเป็นพิเศษด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง นี่คือ รถยนต์หรู EV ที่คุ้มค่าน่าสนใจ
Mercedes GLC (EV): ตามรอย BMW iX3, GLC รุ่นล่าสุดเตรียมออกสู่ท้องถนนเร็วๆ นี้ สร้างบนสถาปัตยกรรม MB.EA ที่เป็นไฟฟ้าล้วน มาพร้อมแบตเตอรี่ 94kWh ให้ระยะทาง 700 กม. และชาร์จเร็ว DC สูงสุด 330kW รุ่นเปิดตัว GLC 400 4MATIC จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและกำลังรวม 482 แรงม้า ซึ่งรับประกันสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม
MINI John Cooper Works
MINI John Cooper Works: MINI Cooper รุ่นล่าสุดได้รับความนิยมอย่างมาก และตอนนี้แบรนด์ได้เพิ่มความจัดจ้านด้วย JCW Hot Hatch รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฟฟ้าล้วน JCW Electric ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที ส่วนรุ่นเบนซินยังคงใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 228 แรงม้า นี่คือการผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัยที่ลงตัว
Nissan Leaf / Micra
Nissan กำลังปรับโฉมไอคอนของตนให้เข้ากับยุคสมัย
Nissan Leaf (โฉมใหม่): จากผู้บุกเบิกตลาด EV Leaf กำลังจะกลับมาในรูปแบบ SUV ไฟฟ้า Crossover ที่โฉบเฉี่ยว ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ Nissan Ariya ด้วยรูปทรงที่ลู่ลมและเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้ Leaf ใหม่เป็นรถยนต์ที่มีแอโรไดนามิกดีที่สุดของ Nissan และให้ระยะทางสูงสุด 600 กม. ด้วยแบตเตอรี่ 75kWh ซึ่งหมายถึงต้นทุนการใช้งานที่ต่ำ
Nissan Micra (โฉมใหม่): Micra ใหม่คือ Renault 5 ที่ถูกเปลี่ยนตราและปรับดีไซน์ด้านหน้าเล็กน้อย โดย Nissan ได้เปลี่ยนไฟหน้าสี่เหลี่ยมของ R5 เป็นไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ที่คล้ายกับ Micra Mk3 ในตำนาน แบตเตอรี่ ระยะทางขับขี่ สมรรถนะ และภายในยังคงเหมือนกัน นี่คือการใช้แพลตฟอร์มร่วมกันเพื่อสร้าง รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่คุ้มค่า
Polestar 5 / 7
Polestar กำลังสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ที่ครอบคลุมและล้ำสมัย
Polestar 5: ซีดานประสิทธิภาพสูงคู่แข่ง Porsche Taycan และ Lotus Emeya Polestar 5 ยังคงดีไซน์ที่โดดเด่นจาก Precept Concept ไม่มีกระจกหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลัง สร้างบนแพลตฟอร์มอลูมิเนียมเฉพาะใน UK ด้วยระบบไฟฟ้า 800V และกำลังสูงสุด 874 แรงม้า 900 นิวตันเมตร Polestar 5 คือ รถยนต์หรู EV ที่เน้นสมรรถนะและดีไซน์
Polestar 7: รุ่นที่เจ็ดจากแบรนด์สวีเดนจะเป็นคู่แข่งของ Tesla Model Y เป็น “SUV คอมแพ็คพรีเมียม” ที่จะผลิตในยุโรป และมาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด ด้วยราคาที่คาดว่าจะเริ่มต้นประมาณ 40,000 ปอนด์ Polestar 7 จะใช้สถาปัตยกรรมเดียวเพื่อลดความซับซ้อนและต้นทุน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการขยายตลาด SUV ไฟฟ้า
Porsche Boxster/Cayman EV / Cayenne Electric
Porsche กำลังเข้าสู่ยุค EV อย่างรอบคอบ แต่ไม่ทิ้งเอกลักษณ์สปอร์ต
Porsche Boxster/Cayman EV: สปอร์ตคาร์เครื่องยนต์กลางของ Porsche กำลังจะเปลี่ยนไปใช้ขุมพลังไฟฟ้าล้วน (สำหรับรุ่นปกติ) จะใช้แพลตฟอร์มสปอร์ตคาร์ไฟฟ้าเฉพาะที่พัฒนาโดย Porsche โดยจะมีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นเพื่อรองรับแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังห้องโดยสาร ไม่ได้อยู่ใต้พื้นเหมือน EV ทั่วไป เพื่อรักษาสมดุลน้ำหนักและตำแหน่งการขับขี่ที่ต่ำ นี่คือการรักษา DNA สปอร์ตไว้ในยุค EV
Porsche Cayenne Electric: Cayenne จะยังคงมีเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดต่อไป แต่ Cayenne Electric กำลังจะมาถึงโดยใช้แพลตฟอร์ม PPE เดียวกับ Macan Electric คาดว่าจะมีแบตเตอรี่ประมาณ 100kWh มอเตอร์คู่ และระบบกันสะเทือน Active รวมถึงความเป็นไปได้ของการชาร์จไร้สาย Cayenne Electric จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก SUV ไฟฟ้า ที่น่าสนใจจาก Porsche
Range Rover Electric
Range Rover Electric: ตำนาน SUV หรูดั้งเดิมกำลังก้าวเข้าสู่ยุคไฟฟ้าเป็นครั้งแรก ผู้บริหาร JLR ยืนยันว่า “เราตั้งเป้าที่จะสร้าง Range Rover ที่เงียบที่สุดและละเอียดอ่อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนผสมมหัศจรรย์ที่สนับสนุนความสำเร็จของ Range Rover ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง – ตอนนี้มาพร้อมกับการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์” Range Rover Electric จะนำความหรูหราและขีดความสามารถ Off-road อันเป็นเอกลักษณ์มาสู่โลกของ รถยนต์ไฟฟ้า 2025
Renault 4 / Twingo
Renault กำลังนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคคลาสสิก
Renault 4: ตามหลัง Renault 5 ใหม่ที่ยอดเยี่ยม Renault 4 คือ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่มีรูปทรงคล้าย R4 ดั้งเดิมจากยุค 60 ใช้แพลตฟอร์ม AmpR Small เดียวกับ R5 Hatchback แต่จะมีเฉพาะแบตเตอรี่ 52kWh ที่ให้ระยะทาง 400 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
Renault Twingo: Twingo ใหม่จะเป็นส่วนเสริมสุดท้ายของไลน์อัพ EV ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Retro ของ Renault โดยเปิดตัวในรูปแบบ Concept ในปี 2023 ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนจาก Concept สู่การผลิตในสองปี และมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 20,000 ยูโร ทำให้เป็น รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่เข้าถึงได้สำหรับคนเมือง
Rivian R2
Rivian R2 (2027): Rivian ผู้บุกเบิก EV จากอเมริกา เตรียมบุกตลาดยุโรปในปี 2027 ด้วย R2 ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง ที่จะท้าชน Tesla Model Y และอื่นๆ เราคาดว่าจะเห็น R3 Hatchback และ R3X Hot Hatch ตามมาในภายหลัง Rivian จะนำปรัชญาการออกแบบที่โดดเด่นและเน้นการผจญภัยมาสู่ตลาดใหม่
Skoda
Skoda ยังคงเดินหน้าขยายความสำเร็จในตลาด EV
Skoda EV SUVs (ต่างๆ): Skoda กำลังต่อยอดความสำเร็จของ Enyaq ด้วยการเปิดตัว SUV ไฟฟ้า หลากหลายขนาดและราคา รวมถึงรุ่นที่อาจมีราคาต่ำกว่า 20,000 ปอนด์ นอกจากนี้ Skoda ยังกำลังพัฒนารถยนต์ Estate ไฟฟ้าแบบไร้มลพิษที่จะมาพร้อมกับ Octavia Estate และ Superb Estate ปัจจุบัน Skoda Epiq Concept ยังได้พรีวิวคู่แข่งขนาด Kamiq สำหรับ VW ID. Cross ด้วย Skoda มุ่งมั่นที่จะนำเสนอ รถยนต์ครอบครัวไฟฟ้า ที่คุ้มค่าและใช้งานได้จริง
Suzuki e Vitara
Suzuki e Vitara: Suzuki กำลังก้าวเข้าสู่ตลาด EV ด้วย e Vitara ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่มีตัวเลือก AllGrip-e ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยใช้มอเตอร์คู่เพื่อมอบ “ประสิทธิภาพที่ทรงพลัง” และแรงฉุดเพิ่มเติมในสภาพถนนลื่น ระยะทางสูงสุด 426 กม. e Vitara พยายามนำเสนอจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครในตลาดที่แข่งขันสูง
Vauxhall Frontera
Vauxhall Frontera: การฟื้นคืนชีพของชื่อ Frontera ในรูปแบบ SUV คอมแพ็ค ใหม่ที่เน้นความอเนกประสงค์และการเข้าถึงได้ ด้วยรูปทรง SUV ที่เป็นกล่องๆ มีตัวเลือกสูงสุด 7 ที่นั่ง และพื้นที่เก็บสัมภาระเกือบ 1,600 ลิตร Frontera มอบความคุ้มค่าอย่างแท้จริง
Frontera เป็นหมุดหมายสำคัญเนื่องจากทั้งเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนและเบนซิน-ไฮบริดเริ่มต้นที่ราคาเดียวกัน ซึ่งเป็นกำแพงสำคัญในการเข้าสู่การเป็นเจ้าของ EV รุ่น Hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 3 สูบ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 28 แรงม้า ส่วนรุ่น EV มาพร้อมแบตเตอรี่ 44kWh และมอเตอร์ 111 แรงม้า ให้ระยะทาง 300 กม. และจะมีรุ่น Long Range ตามมา นี่คือการทำให้ รถยนต์ไฟฟ้า 2025 เข้าถึงได้สำหรับทุกคน
Volkswagen ID. Polo / ID.2X
Volkswagen กำลังทำให้ EV เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
Volkswagen ID. Polo (2027): ชื่อ ID.2 ถูกเปลี่ยนเป็น ID. Polo ซึ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่ราคาเข้าถึงได้จาก Volkswagen เปิดตัวบางส่วนในงาน Munich Motor Show 2025 โดยจะใช้แพลตฟอร์ม MEB เวอร์ชันต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยให้ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 25,000 ปอนด์ในอังกฤษเมื่อรถมาถึงในปี 2027
Volkswagen ID.2X: Volkswagen สัญญาว่าจะเปิดตัว SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่ราคาเข้าถึงได้โดยอิงจาก ID. Polo (เดิมคือ ID.2) และแพลตฟอร์ม MEB Entry ซึ่งจะเป็นทางเลือกไร้มลพิษสำหรับ VW T-Cross โดยยืนยันแล้วว่าจะใช้ชื่อ Volkswagen ID.2X และจะเปิดตัวในงาน Munich Motor Show ปีนี้ นี่คือการมอบตัวเลือก EV ให้กับตลาด SUV รุ่นใหม่ ที่กำลังเติบโต
Volvo ES90
Volvo ES90: แม้จะเลิกผลิต S60 และ S90 ไปแล้ว แต่ Volvo ไม่ได้ทิ้งตลาดซีดานขนาดใหญ่ ES90 ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นคู่แข่งของ BMW i5 และ Audi A6 e-tron และเป็น EV ที่ล้ำหน้าที่สุดของ Volvo ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ EX90 SUV Flagship แต่ได้ประโยชน์จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่เบาลงเพื่อประสิทธิภาพและความประหยัดที่ดีขึ้น พร้อมเทคโนโลยี 800V ที่ช่วยให้เพิ่มระยะทางได้ 300 กม. ในเพียง 10 นาที ราคาเริ่มต้นที่ 69,650 ปอนด์ ES90 คือ รถยนต์หรู EV ที่ผสานดีไซน์สแกนดิเนเวียเข้ากับ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าล่าสุด
อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและทางเลือกที่หลากหลาย
จากที่ผมได้วิเคราะห์มาทั้งหมด จะเห็นได้ชัดว่าปี 2025 และ 2026 ไม่ใช่แค่การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ธรรมดาๆ ครับ แต่มันคือการประกาศยุคใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และทางเลือกที่หลากหลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่หลงใหลในสมรรถนะอันเร้าใจ ผู้ที่ต้องการความหรูหราสะดวกสบาย ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ตลาดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะมอบสิ่งที่ตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน
รถยนต์ไฟฟ้า 2025 กำลังก้าวข้ามทุกข้อจำกัดเดิมๆ ด้วยระยะทางที่ไกลขึ้น การชาร์จที่เร็วขึ้น และสมรรถนะที่น่าทึ่ง ขณะที่ รถยนต์ไฮบริดใหม่ ก็ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นสะพานเชื่อมที่สมบูรณ์แบบ แบรนด์ต่างๆ กำลังปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับนำเสนอดีไซน์และเทคโนโลยีที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
ได้เวลาเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของการขับขี่!
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานาน ผมอยากเชิญชวนให้คุณเปิดใจเรียนรู้และสำรวจโลกของยานยนต์ยุคใหม่นี้ครับ อย่าปล่อยให้โอกาสที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่แห่งอนาคตหลุดลอยไป
หากคุณพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติยานยนต์ครั้งนี้ หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือก ซื้อรถยนต์ใหม่ 2025 หรือ 2026 ที่ใช่สำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบ ราคา รถยนต์ไฟฟ้า รุ่นต่างๆ การทำความเข้าใจ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าล่าสุด หรือการหารถที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวของคุณ
อย่ารอช้าที่จะติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ! เราพร้อมที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและชาญฉลาด เพื่อให้คุณได้รถยนต์ในฝันที่สมบูรณ์แบบที่สุดในปีแห่งนวัตกรรมนี้.
