ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
โลกยานยนต์ปี 2025: เจาะลึกสุดยอดรถยนต์ใหม่แห่งอนาคตที่กำลังจะพลิกโฉมตลาด
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมบอกได้เลยว่าปี 2025 คือจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง ตลาดรถยนต์ทั่วโลกกำลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ต่างเร่งเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เพียงแค่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ยังกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมสำหรับทศวรรษข้างหน้า จากรถซูเปอร์มินิประหยัดพลังงานไปจนถึงไฮเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้าสุดขีด และ SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานอเนกประสงค์ ทุกเซกเมนต์ล้วนเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวที่น่าจับตา บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงสุดยอดรถยนต์ใหม่ที่กำลังจะมาถึงในช่วงปี 2025, 2026 และในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจวิวัฒนาการของยานยนต์
ตลาดรถยนต์ในปี 2025 ได้ต้อนรับหลากหลายรุ่นใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Nissan Micra โฉมล่าสุด, Toyota RAV4 เจเนอเรชันใหม่ หรือ Fiat Grande Panda รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากจากแบรนด์จีนที่หลั่งไหลเข้ามาสร้างสีสันในตลาด แต่เชื่อเถอะว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นลูกใหม่ของรถยนต์รุ่นต่างๆ กำลังจะทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่องในปี 2026 และหลังจากนั้น ความท้าทายของผู้ผลิตในวันนี้ไม่ใช่แค่การสร้างรถที่ดี แต่เป็นการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ล้ำหน้าและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้รับการปรับปรุง, ระบบไฮบริดที่ชาญฉลาด หรือระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ไร้มลพิษ เพราะแม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นหัวใจหลักของการพัฒนา แต่ความต้องการรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปและไฮบริดก็ยังคงมีอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกฎระเบียบเกี่ยวกับการจำหน่ายรถยนต์น้ำมันใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างจริงจังในปี 2030 ผู้ผลิตจึงยังคงมีเวลาที่จะใช้ประโยชน์จากความต้องการในตลาดนี้
ในบทความเชิงลึกนี้ เราได้รวบรวมรายชื่อรถยนต์ที่น่าจับตาที่สุดจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก จัดเรียงตามตัวอักษรของชื่อผู้ผลิต เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวสำคัญในวงการยานยนต์ยุคใหม่แห่งปี 2025
Alfa Romeo
Alfa Romeo กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ผสมผสานระหว่างสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์และเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าได้อย่างลงตัว
Alfa Romeo Giulia (2026): Giulia โฉมใหม่มีความท้าทายครั้งใหญ่ในการสานต่อตำนานความสปอร์ตและความสง่างามของรุ่นปัจจุบันที่ถือเป็นหนึ่งในรถซีดานคอมแพ็คหรูที่น่าปรารถนาที่สุด การมาถึงของ Giulia ในปี 2026 จะมาพร้อมทางเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินไฮบริดและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยใช้แพลตฟอร์ม STLA Large ที่เน้นรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่งรองรับสถาปัตยกรรม 800V สำหรับการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษ, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้ระยะทางขับขี่มากกว่า 640 กิโลเมตร รวมถึงระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ สิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือรุ่น Quadrofoglio ที่จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 อันเลื่องชื่อของแบรนด์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสมรรถนะและเสียงคำรามที่เร้าใจ
Alfa Romeo Stelvio (ครึ่งหลังปี 2025): ก่อนที่ Giulia จะมาถึง Stelvio SUV เจเนอเรชันถัดไปมีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยจะใช้สถาปัตยกรรม STLA Large เช่นเดียวกับ Giulia พร้อมทางเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ผู้บริหารของแบรนด์ยืนยันว่า Stelvio Quadrofoglio ใหม่จะยังคงมี “บางสิ่งที่คำราม” ซึ่งหมายถึงเครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูงอย่างแน่นอน การกลับมาของ Stelvio คาดว่าจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด SUV พรีเมียมด้วยการผสมผสานดีไซน์อันโดดเด่นและประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ
Alpine
แบรนด์รถสปอร์ตฝรั่งเศสอย่าง Alpine กำลังขยายพอร์ตโฟลิโอสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง
Alpine A290: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถแฮทช์แบ็กฝรั่งเศสที่เร็วแรง Alpine ได้นำเสนอ A290 ซึ่งเป็นเวอร์ชันสมรรถนะสูงของ Renault 5 E-Tech ไฟฟ้าล้วน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ระบบช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด, ฐานล้อที่กว้างขึ้น, ล้อขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง Michelin แบบเฉพาะ และสไตล์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ทำให้ A290 พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่แบบ Hot Hatch ในยุค EV โดยมีราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง
Alpine A390: Alpine กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ด้วยการเปิดตัว A390 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบคูเป้-SUV หรือที่แบรนด์เรียกว่า ‘Sport Fastback’ ด้วยดีไซน์ที่ดูเหมือน “รถแข่งในชุดสูท” A390 มีรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและสปอร์ตคล้ายกับคู่แข่งหลักอย่าง Porsche Macan Electric แม้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Renault Scenic แต่ก็มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบสามมอเตอร์ที่ให้กำลังสูงถึง 464 แรงม้า พร้อมระบบ Torque Vectoring เพื่อการควบคุมที่คล่องตัว สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.9 วินาที และคาดว่าราคาจะเริ่มต้นประมาณ 60,000 ปอนด์ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Alpine ในการนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรู
Aston Martin
Aston Martin ยังคงยึดมั่นในความหรูหราและสมรรถนะสูงสุด
Aston Martin Valhalla: Valhalla จะเป็นรถยนต์ถนนเครื่องยนต์วางกลางที่ผลิตจำนวนมากรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปีของแบรนด์อังกฤษนี้ โดยจะผลิตเพียง 999 คันเท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร Flat-plane และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวม 1,069 แรงม้า และแรงบิด 1,100 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที พร้อมระบบแอโรไดนามิกส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไฮเปอร์คาร์ Valkyrie และเทคโนโลยี F1 นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนของวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูงสุดที่ Aston Martin สามารถนำเสนอได้
Audi
Audi ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยและการออกแบบที่โดดเด่น
การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ e-tron และ A/Q Series: ในปี 2024 Audi ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวรถยนต์ถึงเจ็ดรุ่น ตั้งแต่ A3 แฮทช์แบ็กและ e-tron GT ที่ได้รับการปรับโฉม ไปจนถึง Q6 e-tron SUV และ A6 e-tron ซีดานไฟฟ้าล้วนที่พัฒนาร่วมกับ Porsche รุ่นล่าสุดคือ A5 ซึ่งมาแทน A4 ซีดานและ Avant เดิม และ Q5 โฉมใหม่ แต่ Audi ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง เพราะยังมี Q3 SUV คอมแพ็คพรีเมียมและ A6 ซีดานหรูเจเนอเรชันถัดไปที่กำลังจะตามมา การมุ่งเน้นไปที่การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า (e-tron) ควบคู่ไปกับการพัฒนารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปและไฮบริดแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมของ Audi ในการเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมียม
BMW
BMW ยังคงย้ำจุดยืนในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและสมรรถนะการขับขี่
BMW iX3: iX3 ใหม่ได้รับการเปิดตัวแล้ว และเป็นรุ่นแรกในกลุ่ม Neue Klasse ของ BMW ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์และพื้นฐานที่ใช้ร่วมกัน เพื่อให้แบรนด์ก้าวทันเทคโนโลยีล่าสุด รวมถึงเทคโนโลยีในรถยนต์และวิศวกรรม iX3 มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ iDrive ล่าสุด เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ทำให้รถรุ่นกลางสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร และรุ่นที่มีระยะทางวิ่งไกลกว่ากำลังจะตามมา ด้วยสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ ทำให้สามารถชาร์จไฟได้เร็ว เพิ่มระยะทาง 400 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 10 นาทีที่สถานีชาร์จที่รองรับ iX3 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงการผสมผสานระหว่างสมรรถนะ ความหรูหรา และประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
BMW M3 (2027): M3 เจเนอเรชันถัดไปมีกำหนดจะตามหลัง 3 Series โฉมใหม่ในปี 2027 และจะเป็น M3 รุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แม้ฟังดูเป็นเรื่องที่ขัดต่อความเชื่อของแฟนๆ รถซีดานสปอร์ตอันโด่งดัง แต่ระบบขับเคลื่อนสี่มอเตอร์สามารถให้กำลังสูงถึง 1,341 แรงม้า (ตามทฤษฎี) และระบบ Torque Vectoring เพื่อความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ M3 จะยังมีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซินหกสูบเรียงทวินเทอร์โบเช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน ทำให้แฟนๆ มีทางเลือกที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสมรรถนะสูงสุด
BMW M5 Touring: เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของ BMW M5 ที่จะมีรุ่น Estate M5 Touring ใหม่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตัว ให้กำลังรวม 717 แรงม้า และแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 500 ลิตร นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะแบบรถสปอร์ตและความอเนกประสงค์แบบรถยนต์ครอบครัว
BYD
ยักษ์ใหญ่จากจีนยังคงรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการนำเสนอทางเลือกที่คุ้มค่า
BYD Atto 2: Atto 2 คือผู้ท้าชิงของ BYD ในตลาด SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูง ด้วยเทคโนโลยีมากมายเป็นมาตรฐาน เช่น หน้าจอสัมผัสหมุนได้ขนาด 12.8 นิ้ว, Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, กล้อง 360 องศา, เบาะหน้าและพวงมาลัยทำความร้อน และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่กว่าสิบระบบ รุ่นเริ่มต้น ‘Boost’ มีระยะทาง 340 กิโลเมตร และรุ่นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กำลังจะตามมา Atto 2 ตั้งเป้าที่จะดึงดูดผู้ซื้อด้วยความคุ้มค่าและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน
Cadillac
Cadillac กลับมาสู่ตลาดพร้อมรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่หรูหราและล้ำสมัย
Cadillac Lyriq: หลังจากห่างหายจากตลาดไปเกือบสิบปี Cadillac กลับมาพร้อม SUV ไฟฟ้าล้วนสองรุ่น โดยมี Lyriq เป็นหัวหอก ซึ่งเป็น SUV ขนาดใหญ่ที่ดูโฉบเฉี่ยวและซับซ้อน ตั้งเป้าที่จะแข่งขันกับ BMW iX Lyriq จะมาพร้อมมอเตอร์คู่ให้กำลัง 520 แรงม้า และแบตเตอรี่ขนาด 102kWh ที่ให้ระยะทาง 530 กิโลเมตร หน้าจอ OLED ภายในขนาดใหญ่ 33 นิ้วครอบคลุมแผงหน้าปัด ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 75,000 ปอนด์ ซึ่งสะท้อนถึงการวางตำแหน่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมไฟฟ้า หากราคานี้สูงเกินไป Cadillac Optiq ที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าและคาดว่าจะมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าก็จะตามมาในไม่ช้า
Citroen
Citroen เน้นความสบายและราคาที่เข้าถึงได้ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก
Citroen e-C3: e-C3 ใหม่ที่ได้รับรางวัล ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถซูเปอร์มินิไฟฟ้าสำหรับมหาชน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 22,000 ปอนด์ แบตเตอรี่ LFP (ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต) ขนาด 44kWh ให้ระยะทาง 320 กิโลเมตร และ Citroen ยังจะนำเสนอตัวเลือกแบตเตอรี่ที่ถูกกว่าพร้อมระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร e-C3 มีรูปลักษณ์ที่คล้ายครอสโอเวอร์มากกว่ารุ่นเดิม พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ Hydraulic Bump-stops และเบาะ Active Comfort ที่นุ่มนวลอันเป็นเอกลักษณ์ของ Citroen นี่คือการเดิมพันครั้งสำคัญของแบรนด์ในการนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น
Citroen C3 Aircross: C3 Aircross ใหม่ เป็นคู่แข่งของ Dacia Duster ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มาพร้อมตัวเลือกเบาะห้าหรือเจ็ดที่นั่งที่น่าแปลกใจ แม้ว่าจะเป็น SUV ขนาดเล็กที่มีความยาวเพียง 4.39 เมตร ผู้ซื้อยังสามารถเลือกรุ่นเบนซิน, ไฮบริด และไฟฟ้าล้วน โดย e-C3 Aircross EV คาดว่าจะให้ระยะทางระหว่าง 300 ถึง 400 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 20,605 ปอนด์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ราคาเป็นมิตร
Citroen C5 Aircross: C5 Aircross เจเนอเรชันถัดไปเป็นการปรับโฉมครั้งสุดท้ายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Citroen โดยยังคงเน้นที่ความสบายเป็นหลัก แต่ก็ได้ขยายขนาดเพื่อมอบพื้นที่เบาะหลังที่กว้างขวางและพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ 651 ลิตร ห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้รู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่น ภายใต้ตัวถังที่โดดเด่นคือแพลตฟอร์ม STLA Medium เดียวกันกับ Peugeot 3008 และ Vauxhall Grandland รุ่นล่าสุด ทำให้มีตัวเลือกระบบส่งกำลังแบบ Mild-hybrid, Plug-in hybrid และไฟฟ้าล้วนที่เหมือนกัน โดยรุ่น EV ให้ระยะทางสูงสุดถึง 680 กิโลเมตร
Cupra
Cupra ยังคงนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความสปอร์ตและมีสไตล์
Cupra Raval (2026): Cupra Raval เป็นคู่แข่งที่สปอร์ตของ Volkswagen ID.Polo ที่กำลังจะมาถึง ทั้งสองรุ่นได้จัดแสดงที่งาน Munich Motor Show 2025 โดย Raval ถูกนำเสนอภายใต้ผ้าคลุมลายพรางและจะเปิดเผยอย่างเต็มรูปแบบในต้นปี 2026 รถยนต์ Cupra คันเล็กนี้จะมีความยาวมากกว่าสี่เมตรเล็กน้อย เหมาะสำหรับถนนในเมือง แต่มีห้าประตูเพื่อความอเนกประสงค์ยิ่งขึ้น จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังมากกว่า 200 แรงม้า และมีระยะทางสูงสุด 435 กิโลเมตร Raval จะเป็นรุ่นเริ่มต้นของแบรนด์ และคาดว่าราคาจะเริ่มต้นประมาณ 25,000 ปอนด์
Dacia
Dacia มุ่งมั่นที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าและใช้งานได้จริง
Dacia Bigster และการขยาย C-segment: Dacia กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า ด้วยแผนการสำหรับรถยนต์ใหม่ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ปีนี้ Dacia Duster Mk3 ได้รับรางวัล Small SUV of the Year และ Dacia Spring EV ก็เปิดตัวในราคาต่ำกว่า 15,000 ปอนด์ นอกจากนี้ Dacia Bigster ก็ได้ออกสู่ตลาดพร้อมความหวังที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในกลุ่ม SUV ขนาดกลาง Bigster เป็นหนึ่งในสามรุ่นใหม่ที่ Dacia กำลังจะเปิดตัวในตลาด C-segment ที่สำคัญ โดยอีกรุ่นหนึ่งคาดว่าจะมาท้าทาย Skoda Octavia ที่ได้รับรางวัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Dacia ในการนำเสนอรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในราคาที่เข้าถึงได้
DS
DS ยังคงเน้นความหรูหราและดีไซน์ที่ประณีตในแบบปารีส
DS No8: DS No8 เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับแบรนด์พรีเมียมจากปารีสอย่าง DS ซึ่งยังคงต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง BMW, Audi และ Mercedes รถคูเป้-SUV ไฟฟ้าล้วนที่สง่างามนี้เน้นความหรูหรา ความสบาย และคุณภาพที่แบรนด์เรียกว่า ‘serene’ (สงบเงียบ) นอกจากนี้ยังให้ระยะทางที่ยอดเยี่ยมถึง 750 กิโลเมตร และด้วยราคาเริ่มต้นที่ 50,000 ปอนด์ ทำให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Polestar 4 และ Audi Q6 e-tron ได้อย่างมีนัยสำคัญ
Ferrari
แม้กระทั่ง Ferrari ก็ยังต้องปรับตัวเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้า แต่ยังคงรักษา DNA ของความเร็วและสมรรถนะไว้
Ferrari F80: F80 คือไฮเปอร์คาร์ “ครั้งหนึ่งในทศวรรษ” ลำดับล่าสุดจากมาราเนลโล ซึ่งเป็นผู้สืบทอดของ F40, F50, Enzo และ LaFerrari ดีไซน์อันน่าทึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง 499P ที่ชนะเลอม็อง รวมถึงระบบส่งกำลัง: เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร รอบเครื่องยนต์สูงสุด 9,200 รอบต่อนาที พร้อมเทอร์โบคู่และมอเตอร์ไฟฟ้าห้าตัว ให้กำลังรวม 1,183 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.15 วินาที และราคาที่สูงกว่า 3 ล้านปอนด์ F80 คือสุดยอดแห่งวิศวกรรมและการออกแบบยานยนต์
Ferrari Elettrica: ใช่แล้ว แม้แต่ Ferrari ก็ต้องก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจจะใช้ชื่อว่า ‘Ferrari Elettrica’ (ไฟฟ้าในภาษาอิตาลี) จากภาพสายลับของรถทดสอบ EV คันแรกจากมาราเนลโลนี้คาดว่าจะเป็นรถยนต์สี่ประตู ไม่ใช่รถซูเปอร์คาร์สองประตู เราไม่ได้คาดหวัง SUV แบบ 4×4 ที่ดูบึกบึน แต่เป็นบางอย่างที่ใกล้เคียงกับ Ferrari Purosangue ที่มีสไตล์ดุดัน ซึ่งบริษัทเรียกว่า “รถสปอร์ตสี่ที่นั่ง สี่ประตู” Ferrari ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้านี้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นเช่นเคย
Fiat
Fiat ยังคงนำเสนอรถยนต์ขนาดเล็กที่โดดเด่นด้วยดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งาน
Fiat Grande Panda: หลังจากกว่าทศวรรษที่ Panda รุ่นปัจจุบันได้เปิดตัว ในที่สุด Fiat Grande Panda ใหม่ก็มาถึง นี่คือรถคู่แฝดที่มีดีไซน์เหลี่ยมสันและมีชีวิตชีวาของ Citroen e-C3 และเป็นรุ่นแรกในตระกูลรถยนต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Panda ดีไซน์แบบ Retro-futuristic หยิบยืมองค์ประกอบจาก Panda ดั้งเดิมจากยุค 80s รวมถึง Panda 4×4 ที่แข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารมีเอกลักษณ์ไม่แพ้กัน พร้อมองค์ประกอบรูปทรงสี่เหลี่ยม, การผสมสีที่สดใส และวัสดุที่น่าสนใจ เช่น ใยไม้ไผ่บนแผงหน้าปัด Grande Panda ยังมีพื้นที่เก็บของมากมาย และฟีเจอร์ที่สะดวกที่สุดคือสายชาร์จแบบพับเก็บได้ที่ซ่อนอยู่ในส่วนหน้าของรุ่น EV นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริดให้เลือก โดยราคาเริ่มต้นเพียง 18,000 ปอนด์ ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับรถยนต์เมืองขนาดเล็ก
Ford
Ford มุ่งมั่นสู่พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว แต่ก็ยังไม่ทิ้งรากฐานของสมรรถนะ
Ford Capri (EV SUV): หากคุณคิดว่า Ferrari นำเครื่องยนต์ V6 มาใส่ในไฮเปอร์คาร์ราคาหลายล้านปอนด์เป็นเรื่องที่น่าถกเถียง คุณอาจไม่ได้ยินว่าหลังจาก 40 ปี ชื่อ Capri อันศักดิ์สิทธิ์ของ Ford ได้ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่…สำหรับ SUV ไฟฟ้า ส่วนหลังนี้ไม่น่าแปลกใจ เพราะ Ford กำลังมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง หลังจากเปิดตัว Explorer SUV ใหม่และ Puma ครอสโอเวอร์ขนาดเล็กเวอร์ชัน EV อย่างไรก็ตาม Mustang ยังคงยึดมั่นในเครื่องยนต์ V8 และยังมีรุ่น Mustang GTD ที่เน้นสนามแข่งพร้อมซูเปอร์ชาร์จ ให้กำลังมากกว่า 800 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยีที่ถูกห้ามในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและกลยุทธ์ที่รอบด้านของ Ford
Genesis
Genesis กำลังสร้างชื่อเสียงในตลาดรถยนต์หรูด้วยการนำเสนอความหรูหราและสมรรถนะ
Genesis GV60 Magma: Genesis มีแผนที่จะเปิดตัวรุ่น Magma สมรรถนะสูงของกลุ่มผลิตภัณฑ์ เริ่มต้นด้วย Genesis GV60 Magma ที่ร้อนแรงซึ่งมีกำหนดจะมาถึงปลายปี และคาดว่าจะมาพร้อมกำลังที่มากกว่า Hyundai Ioniq 5 N และ Kia EV6 GT ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน ผู้บริหารฝ่ายพัฒนายานยนต์ของ Genesis ยืนยันว่า GV60 Magma จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างออกไป รถต้นแบบที่ Goodwood Festival of Speed 2024 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่ Genesis วางแผนไว้ เช่น ฐานล้อที่กว้างขึ้น, ช่วงล่างที่ต่ำลง, รูปลักษณ์ที่ดุดัน และภายในที่สปอร์ตยิ่งขึ้นพร้อมเบาะ Bucket Seat นี่คือการเคลื่อนไหวที่น่าจับตาของ Genesis ในการสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่แตกต่าง
Honda
Honda กำลังเร่งตามให้ทันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการนำเสนอ EV เจเนอเรชันใหม่
Honda 0 Series (2026): ในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า Honda ค่อนข้างล้าหลังมาเป็นเวลานาน แต่จะไม่นานอีกต่อไป เพราะได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเปิดตัว EV เจ็ดรุ่นใหม่ที่ล้ำสมัยภายในปี 2030 ภายใต้แบรนด์ย่อย ‘0 Series’ ทั่วโลก รุ่นแรกจะมาถึงในปี 2026 โดยเริ่มต้นด้วย SUV ขนาดกลางที่โฉบเฉี่ยวซึ่งเราได้เห็นในรูปแบบของรถต้นแบบแล้ว ตามมาไม่นานจะเป็นรถซีดานเรือธงที่อ้างอิงจากแนวคิด Honda Saloon ที่ล้ำสมัย การเคลื่อนไหวนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Honda ในการกลับมาเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
Honda Prelude (ครึ่งแรกปี 2026): หลังจากห่างหายไปกว่าสองทศวรรษ Honda Prelude จะกลับมาในที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 รุ่นที่หกใหม่จะเป็นรถคูเป้สองประตูที่โฉบเฉี่ยวพร้อมระบบไฮบริดและเทคโนโลยีเกียร์เสมือนจริงที่ Honda เรียกว่า ‘S Shift’ ซึ่งจำลอง “เสียงและความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติที่รวดเร็ว” รถต้นแบบของ Prelude ใหม่ได้เปิดตัวเมื่อสองปีที่แล้ว และดีไซน์ก็ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก การกลับมาของ Prelude เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตขนาดเล็กที่ขับสนุก
Hyundai
Hyundai ยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
Hyundai Inster: Inster คือรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาประหยัดรุ่นใหม่ของ Hyundai ที่มีดีไซน์แปลกตาแต่น่ารัก มีขนาดเล็กกว่ารถซูเปอร์มินิอย่าง Skoda Fabia หรือ Renault Clio แต่ไม่เสียพื้นที่ห้องโดยสารแม้แต่มิลลิเมตรเดียว และมีเบาะหลังแบบเลื่อนได้ที่ทำให้รถคันเล็กนี้อเนกประสงค์อย่างน่าประหลาดใจ สามารถบรรทุก Surfboard ได้ Inster ยังให้ระยะทางสูงสุด 368 กิโลเมตร และมีราคาเริ่มต้นที่ 23,495 ปอนด์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับรถยนต์เมืองไฟฟ้าที่เข้าถึงได้
Hyundai Ioniq 9: นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าที่เล็กที่สุดแล้ว Hyundai ยังได้เปิดตัว EV ที่ใหญ่ที่สุด: Ioniq 9 เจ็ดที่นั่ง ยานยนต์ขนาดห้าเมตรคันนี้คือทางเลือกแห่งอนาคตที่ไร้มลพิษสำหรับ Hyundai Santa Fe และเป็นรถยนต์คู่แฝดของ Kia EV9 ที่ได้รับรางวัล SUV ไฟฟ้าทั้งสองรุ่นนี้ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกัน แต่ Ioniq 9 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า 110.3kWh ซึ่งรวมกับการออกแบบที่ลื่นไหลอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้ได้ระยะทางสูงสุดถึง 620 กิโลเมตร Ioniq 9 มาพร้อมภายในที่สดใหม่และสมกับเป็นเรือธง เต็มไปด้วยเทคโนโลยี รวมถึงหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้วในแผงโค้งเดียว, ระบบตัดเสียงรบกวนถนนแบบแอคทีฟ และผู้ช่วย AI มีรูปแบบเบาะเจ็ดและหกที่นั่งให้เลือก และด้วยความสำคัญของการใช้งานจริงสำหรับรถประเภทนี้ จึงมีพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดถึง 2,000 ลิตร ขึ้นอยู่กับการจัดวางเบาะนั่ง ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 65,000 ปอนด์เมื่อเปิดจองปลายปีนี้ Ioniq 9 จะเป็นผู้นำตลาด SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยีและความหรูหราที่เหนือชั้น
Hyundai Ioniq 3 (2026): กลุ่มผลิตภัณฑ์ Ioniq จะขยายเพิ่มเติมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยการแนะนำรุ่น Ioniq 3 ที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งได้รับการเผยโฉมในงาน Munich Motor Show 2025 โดย Hyundai Concept Three รถแฮทช์แบ็กไฟฟ้าล้วนใหม่ซึ่งจะเป็นคู่แข่งของ Volkswagen ID.3 คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 รถต้นแบบบ่งชี้ถึงทิศทางที่แบรนด์อาจจะใช้กับรุ่นใหม่: มันค่อนข้างสปอร์ตและดูโดดเด่น ดังนั้นคาดว่าจะมีรูปลักษณ์ที่ไดนามิกมากกว่าที่จะเรียบง่าย และเราคาดหวังเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยมจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงนี้
IM Motors
IM Motors แบรนด์พรีเมียมในเครือ MG กำลังจะเข้ามาสร้างความตื่นเต้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
IM L6: IM Motors เป็นแบรนด์พี่น้องระดับไฮเอนด์ของ MG และคาดว่าจะเข้ามาทำตลาดในสหราชอาณาจักรในปี 2025 รุ่นแรกที่จะนำเสนอคือ IM L6: ซีดานไฟฟ้าพรีเมียมที่บริษัทคาดว่าจะมาท้าทาย Tesla Model 3 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล L6 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึงสามวินาที และชาร์จไฟได้ที่ความเร็วมากกว่า 300kW ซึ่งไม่เพียงแต่เหนือกว่า Tesla เท่านั้น แต่ยังเทียบเท่ากับ Porsche Taycan IM L6 จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าหรูที่มาพร้อมสมรรถนะและเทคโนโลยีการชาร์จที่ล้ำสมัย
Jaguar
Jaguar กำลังปฏิวัติแบรนด์สู่ยุคไฟฟ้าเต็มรูปแบบและตลาดระดับหรู
Jaguar Four-door GT (2026): การพลิกโฉม Jaguar ทั้งหมดเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงมาหลายเดือน เนื่องจากเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์หลักของอังกฤษที่กำลังจะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบและย้ายไปสู่ตลาดระดับพรีเมียมอย่างจริงจัง เมื่อรถยนต์รุ่นปัจจุบันทั้งหมดเลิกผลิตแล้ว Jaguar กำลังเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่สามรุ่น โดยเริ่มต้นด้วย GT สี่ประตูที่จะมีราคาระหว่าง 130,000 ปอนด์ รถต้นแบบใกล้การผลิตจะเปิดตัวก่อนสิ้นปี และรถยนต์จริงจะมาถึงในปี 2026 GT ที่ยังไม่มีชื่อจะสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม EV เฉพาะที่เรียกว่า Jaguar Electrified Architecture และใช้เทคโนโลยี “เปลี่ยนเกม” ตามที่ผู้บริหารกล่าวไว้ สามารถวิ่งได้ไกลถึง 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสำหรับการเดินทางข้ามทวีป ผู้ขับขี่จะสามารถเพิ่มระยะทาง 320 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 15 นาที ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่น่าประทับใจสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าหรู
Jeep
Jeep ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความแข็งแกร่งและออฟโรด แต่ในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า
Jeep Recon: Jeep เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกคือ Avenger ในปี 2023 แต่ก็ยังมี EV อีกหลายรุ่นที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา รุ่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ Recon ซึ่งเป็นรถ 4×4 ที่แข็งแกร่ง Recon EV ขนาดเท่า Wrangler จะนำดีไซน์ที่ดูบึกบึนและแพลตฟอร์ม EV เฉพาะ STLA Large จากบริษัทแม่ Stellantis ซึ่งยังใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ Wagoneer S SUV เรือธงใหม่ของ Jeep Recon จะเป็นตัวแทนของ Jeep ในการนำเสนอประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดที่ไร้มลพิษ
Kia
Kia ยังคงเป็นผู้นำในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายและคุ้มค่า
Kia EV4: Kia EV4 ใหม่ล่าสุดคือส่วนเสริมต่อไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่มีดีไซน์โดดเด่น มีให้เลือกทั้งแบบซีดานที่โฉบเฉี่ยวและแฮทช์แบ็กห้าประตูแบบดั้งเดิม ซึ่งคาดว่าอย่างหลังจะได้รับความนิยมมากกว่าในยุโรป EV4 ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกันกับ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัล และให้ระยะทางเกือบ 640 กิโลเมตร เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่ยอดเยี่ยม เงียบสงบ และกว้างขวาง แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Kia ในการสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริง
Kia PV5: ปีนี้ Kia กำลังนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้ามาสู่โลกของรถตู้ ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์เชิงพาณิชย์ที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ ซึ่งน่าจะทำให้ Ford E-Transit ตระกูลต้องกังวล PV5 จะเป็นผู้นำในการโจมตีตลาดรถตู้แผงข้าง โดยจะแข่งขันกับ Ford E-Transit Custom นอกจากนี้ยังมีรุ่น MPV ที่จะมาท้าทาย Volkswagen ID. Buzz ในขณะที่ VW เน้นความรู้สึกแบบ Surfer Dude แต่ PV5 ให้ความรู้สึกที่ล้ำยุคกว่ามาก และดีไซน์ที่เหมาะสมกับ Blade Runner จะช่วยให้ดูเข้ากับ Kia EV9 และ EV3 SUV รูปทรงคล้ายอิฐและฐานล้อที่กว้างขวางจะช่วยให้ผู้โดยสารมีพื้นที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และประตูหลังแบบเลื่อนจะช่วยให้เข้าออกได้ง่าย ผู้ซื้อที่มองหารถยนต์ครอบครัวจะยินดีที่รถตู้และ MPV ไฟฟ้าของ Kia จะมาพร้อมการรับประกันเจ็ดปีที่โดดเด่นในอุตสาหกรรม
Land Rover
Land Rover ยังคงยกระดับความหรูหราและสมรรถนะของรถยนต์ออฟโรด
Land Rover Defender OCTA: ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที, 626 แรงม้า และราคาที่สูงถึง 160,000 ปอนด์ Defender OCTA คือสุดยอดของ Land Rover Defender อย่างไม่ต้องสงสัย เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตรเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่ติดตั้งใน Defender ยุคใหม่ และเพื่อให้มั่นใจว่าแชสซีของ 4×4 สามารถรับมือกับกำลังมหาศาลนี้ได้ Land Rover ได้ทำการปรับปรุงอย่างครอบคลุม รวมถึงเบรก Brembo ที่ได้รับการอัปเกรด, พวงมาลัยที่เร็วขึ้น, ยางที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และระบบกันสะเทือน 6D Dynamics ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายกับซูเปอร์คาร์ของ McLaren Defender OCTA คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความแข็งแกร่งแบบออฟโรดและสมรรถนะระดับรถสปอร์ต
Lotus
Lotus ก้าวเข้าสู่ยุค EV ด้วยการนำเสนอ SUV และรถสปอร์ตไฟฟ้าที่หรูหราและล้ำสมัย
Lotus Mid-size SUV (Type 134) (2025): ในขณะที่ Lotus สร้างชื่อเสียงจากรถสปอร์ตน้ำหนักเบา แบรนด์ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นผู้ผลิต EV ระดับพรีเมียม โดยเริ่มต้นจาก Eletre Hyper-SUV และ Emeya GT แต่ Lotus หวังที่จะขยายการเข้าถึงผู้คนนอกเหนือจากเจ้าของรถหรูและผู้บริหารด้วย SUV ขนาดกลางที่จะมาท้าชน Porsche Macan Electric ใหม่ Lotus ตั้งเป้าหมายราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ (55,000 ปอนด์) สำหรับ Type 134 ซึ่งถูกกว่า Macan อย่างมีนัยสำคัญ แบรนด์ยืนยันว่าจะเปิดเผยในปี 2025 ดังนั้นโปรดติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SUV สัญชาติอังกฤษที่กำลังจะมาถึงนี้
Lotus Electric Sports Car (Type 135) (2027): SUV และซีดานจะคิดเป็นยอดขายส่วนใหญ่ของ Lotus ในไม่ช้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะละทิ้งมรดกการผลิตรถสปอร์ตเกือบ 80 ปีของบริษัท ในปี 2027 บริษัทจะเปิดตัวรถสปอร์ตไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกที่จะมาแทน Emira ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน รุ่นที่ใช้รหัส Type 135 นี้จะผลิตที่ฐาน Hethel ของ Lotus ใน Norfolk และใช้สถาปัตยกรรมเฉพาะ ในขณะที่ดีไซน์คาดว่าจะหยิบยืมจากแนวคิด Lotus Theory 1 (ภาพประกอบ) รถสปอร์ตไฟฟ้าของ Lotus จะยังคงรักษาปรัชญาของแบรนด์ในด้านสมรรถนะและน้ำหนักเบาไว้ แม้จะเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้า
Mazda
Mazda กำลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ด้วยการนำเสนอซีดานและ SUV ที่น่าสนใจ
Mazda 6e (2026): MX-30 ครอสโอเวอร์ที่น่าผิดหวังเป็น EV เพียงรุ่นเดียวของ Mazda มาหลายปีแล้ว แต่จะไม่นานอีกต่อไป ซีดาน Mazda 6e ใหม่จะมาถึงในสหราชอาณาจักรในปี 2026 เพื่อท้าทาย Tesla Model 3 อย่างไรก็ตาม มันเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เพราะระยะทางที่เคลมไว้ของ 6e ที่ 550 กิโลเมตร น้อยกว่า Tesla เกือบ 160 กิโลเมตร อย่างน้อย Mazda ก็สัญญาว่าซีดานที่ดูดีนี้จะมอบ “พฤติกรรมการขับขี่ที่คาดหวังจากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์หลายทศวรรษในการสร้างรถยนต์ที่ขับสนุก” นอกจากนี้ยังมี SUV รุ่น CX-6e ที่สูงกว่าซึ่งน่าจะใช้งานได้จริงกว่าอีกด้วย
McLaren
McLaren ยังคงสร้างสรรค์ไฮเปอร์คาร์ที่ล้ำสมัยและทรงพลังที่สุดในโลก
McLaren W1: มี F1, P1 และตอนนี้ McLaren W1 ก็มาถึงเพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของ Woking W1 เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Ferrari F80 ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ W1 มีระบบส่งกำลังไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่ส่งกำลัง 1,258 แรงม้าทั้งหมดไปยังล้อหลังเท่านั้น เพื่อไม่ให้รถลอยขึ้น “แอโรไดนามิกส์แบบ Ground-effect ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Formula One” สามารถสร้างแรงกดได้ 1,000 กิโลกรัมที่ความเร็ว 280 กม./ชม. McLaren W1 คือความก้าวหน้าล่าสุดในวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูงสุด
Mercedes-Benz
Mercedes-Benz ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์หรูด้วยการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ที่หลากหลาย
Mercedes-Benz CLA: CLA เจเนอเรชันถัดไปจะเป็นรุ่นแรกในสิ่งที่แบรนด์เรียกว่ารถยนต์ ‘entry luxury’ รุ่นใหม่ ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม MMA ใหม่ ซึ่งจะรองรับ SUV สองรุ่นและ Shooting Brake ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสามารถให้ระยะทางเกือบ 800 กิโลเมตร และการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูงที่ทำได้ด้วยแพลตฟอร์มใหม่นี้ มีราคาที่เหมาะสมและเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจกว่ารถยนต์ไฟฟ้า Mercedes รุ่นใหญ่บางรุ่นก่อนหน้านี้
Mercedes-Benz GLC: ตามหลัง BMW iX3 ใหม่ Mercedes-Benz GLC ล่าสุดได้รับการเปิดตัวและมีกำหนดจะออกสู่ตลาดในไม่ช้า เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดและไม่เกี่ยวข้องกับ GLC เครื่องยนต์สันดาปเดิม: ใช้สถาปัตยกรรม MB.EA ไฟฟ้าล้วนใหม่ และมีแบตเตอรี่ 94kWh ที่ให้ระยะทาง 700 กิโลเมตร และความเร็วการชาร์จ DC Fast Charging สูงสุดถึง 330kW รุ่นเปิดตัวที่เรียกว่า GLC 400 4MATIC มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและกำลังรวม 482 แรงม้า ดังนั้นประสิทธิภาพจึงมั่นใจได้ GLC ใหม่จะเป็นผู้เล่นคนสำคัญในตลาด SUV ไฟฟ้าพรีเมียม
MINI
MINI ยังคงรักษาความสนุกในการขับขี่และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า
MINI John Cooper Works: MINI Cooper ล่าสุดเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่คาดหวังมากที่สุดในปีที่แล้ว และกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ตอนนี้แบรนด์ได้เพิ่มความพิเศษเพื่อสร้าง MINI John Cooper Works Hot Hatch ใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีตัวเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฟฟ้าเต็มรูปแบบ JCW Electric ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านหน้า ซึ่งเพียงพอสำหรับการเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Hyundai i20 N นอกจากนี้ยังมีรุ่นเบนซินแบบ Old-school ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร 228 แรงม้า น่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกเกียร์ธรรมดาอีกต่อไป มีเพียงเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่เจ็ดสปีดเท่านั้น แต่ผู้ซื้อยังคงมีทางเลือกตัวถังแบบ Hard-top หรือ Convertible ในรุ่นเบนซิน MINI JCW ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ขนาดเล็กที่ขับสนุก
Nissan
Nissan ยังคงพัฒนาสู่ยุค EV ด้วยการปรับโฉมรุ่นสำคัญและนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้
Nissan Leaf (2025): ในฐานะ EV สำหรับตลาดมวลชนรุ่นแรก Nissan Leaf เป็นผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง แต่ก็ถูกคู่แข่งที่ทันสมัยและเหนือกว่าโดยทั่วไปแซงหน้าไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ รถแฮทช์แบ็กสำหรับครอบครัวได้เปลี่ยนโฉมเป็น SUV ครอสโอเวอร์ที่เพรียวบาง โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับ Nissan Ariya ที่เคยได้รับรางวัล Car of the Year โปรไฟล์ที่โฉบเฉี่ยวรวมกับเทคนิคอื่นๆ ทำให้ Leaf ใหม่เป็นรถยนต์ที่แอโรไดนามิกที่สุดที่แบรนด์ญี่ปุ่นเคยผลิต และระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 600 กิโลเมตร ด้วยแบตเตอรี่ 75kWh ที่สมเหตุสมผล ทำให้ต้นทุนการใช้งานยังคงต่ำอย่างที่คาดหวังจากรถที่มีชื่อนี้ Leaf ใหม่คือการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้าที่เคยเป็นผู้บุกเบิก
Nissan Micra (2025): นี่คือ Nissan Micra ใหม่ทั้งหมด และหากคุณคิดว่ามันดูคล้ายกับ Renault 5 ใหม่ที่น่าสงสัย นั่นเป็นเพราะมันเป็นรุ่นที่เปลี่ยนตราสินค้าและเปลี่ยนส่วนหน้าของรถฝรั่งเศสที่หรูหรานั้น Nissan ได้ละทิ้งไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมและไฟท้ายแนวตั้งของ R5 สำหรับไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ที่ดูตลก ซึ่งคล้ายกับ Micra Mk3 ที่โด่งดัง นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกันชนใหม่, กระจกหลังใหม่ และแน่นอนว่า Nissan ได้เพิ่มตราสินค้าและการออกแบบล้อของตัวเองเข้าไป แต่ก็แค่นั้น ตัวเลือกแบตเตอรี่, ความเร็วในการขับขี่, สมรรถนะ, แชสซี, การใช้งานจริง และภายในห้องโดยสารยังคงเหมือนเดิม Micra ใหม่จะนำเสนอความน่ารักและฟังก์ชันการใช้งานแบบยุโรปในแพ็คเกจที่คุ้มค่า
Polestar
Polestar ยังคงนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นการออกแบบและสมรรถนะ
Polestar 5 (2025): ผ่านไปห้าปีแล้วนับตั้งแต่แนวคิด Polestar Precept อันน่าทึ่งได้ถูกเปิดเผย แต่ในที่สุด Volvo ก็พร้อมที่จะเปิดตัวคู่แข่งของ Porsche Taycan และ Lotus Emeya: Polestar 5 มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบเพียงเล็กน้อยสำหรับรุ่นผลิต และเช่นเดียวกับแนวคิดที่ไม่มีหน้าต่างด้านหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังสูงสุด เช่นเดียวกับ Polestar 4 Coupe น่าเสียดายที่รายละเอียดหนึ่งที่ไม่ได้นำมาใช้คือประตู Coach Doors แบบ ‘suicide’ ของแนวคิดดั้งเดิม ภายในห้องโดยสารจะใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากพืชอย่างกว้างขวางเพื่อเสริมคุณสมบัติด้านสิ่งแวดล้อม แทนที่จะใช้สถาปัตยกรรมที่มีอยู่ Polestar 5 ใช้แพลตฟอร์มอลูมิเนียมอัดขึ้นรูปและเชื่อมติดกันที่สร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นที่ที่ EV เรือธงนี้ได้รับการพัฒนาด้วย มีระบบไฟฟ้า 800V และกำลังขับมหาศาลถึง 874 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร Polestar 5 คือการแสดงออกถึงนวัตกรรมและสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม
Polestar 7 (202X): หากคุณยังไม่ได้เดา Polestar 7 จะเป็นรุ่นที่เจ็ดจากแบรนด์สวีเดน แต่ที่สำคัญกว่านั้น มันจะเป็นคำตอบสำหรับ Tesla Model Y “SUV คอมแพ็คพรีเมียม” นี้จะผลิตในยุโรป มีเทคโนโลยีล่าสุด และอาจมีราคาเริ่มต้นประมาณ 40,000 ปอนด์ Polestar จะเปลี่ยนจากแนวทางแพลตฟอร์มที่หลากหลายในปัจจุบันไปสู่ “สถาปัตยกรรมเดียว ลดความซับซ้อน, ต้นทุน และการลงทุน” ด้วย Polestar 7 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนในระยะยาว
Porsche
Porsche กำลังก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าสำหรับรถสปอร์ตและ SUV โดยยังคงรักษา DNA ของแบรนด์ไว้
Porsche Boxster/Cayman (EV): รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางของ Porsche อย่าง Cayman และ Boxster จะเปลี่ยนจากเครื่องยนต์เบนซินเป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วนในไม่ช้า อย่างน้อยก็สำหรับรุ่นปกติ – เนื่องจากรุ่น GT ระดับไฮเอนด์อาจยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน ทั้งสองรุ่นจะใช้แพลตฟอร์มรถสปอร์ตไฟฟ้าเฉพาะที่พัฒนาโดย Porsche และจากภาพสายลับ จะมีฐานล้อยาวกว่ารุ่นเดิม ซึ่งน่าจะเป็นเพื่อรองรับแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังห้องโดยสารผู้โดยสาร แทนที่จะอยู่ใต้พื้นเหมือน EV ส่วนใหญ่ สิ่งนี้จะช่วยในการกระจายน้ำหนักและการจัดตำแหน่งเบาะนั่งที่ต่ำลง Porsche ยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่แบบรถสปอร์ตที่น่าตื่นเต้น แม้จะเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้า
Porsche Cayenne Electric: Porsche Cayenne จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดในขณะนี้ แต่ Cayenne Electric ใหม่กำลังจะมาและจะใช้แพลตฟอร์ม PPE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับ Macan Electric ดังนั้นคาดว่าจะมีแบตเตอรี่ความจุประมาณ 100kWh, มอเตอร์คู่ และระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ รวมถึงความเป็นไปได้ของการชาร์จแบบไร้สาย นี่คือการที่คุณเพียงแค่ขับรถไปจอดในจุดจอดรถที่รองรับซึ่งสามารถชาร์จรถได้ – เหมือนกับการวางสมาร์ทโฟนบนแผ่นชาร์จไร้สาย Cayenne Electric จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูที่มีสมรรถนะและเทคโนโลยีไฟฟ้าล้ำสมัย
Range Rover
Range Rover กำลังจะนำเสนอ SUV หรูระดับตำนานในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า
Range Rover Electric: Range Rover คือ SUV หรูดั้งเดิม และกว่าครึ่งศตวรรษผ่านไป ก็ยังคงเป็นราชาแห่งป่า แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมี Range Rover Electric ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ JLR กล่าวว่า “เรากำลังตั้งเป้าที่จะสร้าง Range Rover ที่เงียบที่สุดและประณีตที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนผสมมหัศจรรย์ที่รองรับความสำเร็จของ Range Rover ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง – ตอนนี้นำเสนอโดยไม่มีมลพิษจากท่อไอเสีย” Range Rover Electric จะยังคงรักษาคุณสมบัติหลักของความหรูหรา, ความสามารถในการขับขี่ และความประณีตไว้ได้อย่างครบถ้วน แต่มาพร้อมกับประโยชน์ของการขับขี่แบบไร้มลพิษ
Renault
Renault นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอดีตพร้อมเทคโนโลยีแห่งอนาคต
Renault 4: ตามหลัง Renault 5 ใหม่ที่ยอดเยี่ยมซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้คือ Renault 4 SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กนี้มีรูปทรงเหลี่ยมสันคล้ายกับ R4 ดั้งเดิมจากยุค 60s และการออกแบบได้รวมคุณสมบัติที่คุ้นเคยหลายอย่าง เช่น หน้าต่างท้ายรถทรงสี่เหลี่ยมคางหมู, ไฟท้ายทรงแคปซูล และกระจังหน้าแนวนอนกว้างพร้อมไฟหน้าทรงกลม ใช้แพลตฟอร์ม AmpR Small เดียวกันกับ R5 Hatchback แต่จะมีเฉพาะแบตเตอรี่ 52kWh ขนาดใหญ่กว่าที่ให้ระยะทาง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง Renault 4 คือการนำเสนอความคลาสสิกในรูปแบบที่ทันสมัยและยั่งยืน
Renault Twingo (202X): ส่วนเสริมสุดท้ายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Retro ของ Renault คือ Twingo ใหม่ทั้งหมด ซึ่งได้รับการเผยโฉมในรูปแบบแนวคิดในเดือนพฤศจิกายน 2023 CEO ของ Renault เรียกว่าเป็น “กระสุนเงินสำหรับการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน” Twingo ใหม่มีกำหนดจะเปลี่ยนจากแนวคิดสู่การผลิตในเวลาเพียงสองปี และมีราคาเริ่มต้นที่น่าทึ่งต่ำกว่า 20,000 ยูโร หรือประมาณ 17,000 ปอนด์ Twingo คือความมุ่งมั่นของ Renault ในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Rivian
Rivian ผู้บุกเบิก EV จากอเมริกาจะเข้ามาทำตลาดในสหราชอาณาจักรพร้อม SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง
Rivian R2 (2027): Rivian ผู้เริ่มต้น EV จากอเมริกาผู้บุกเบิก ผู้ผลิตรถกระบะไฟฟ้าทั้งหมดคันแรกของโลก จะเข้าสู่ตลาดสหราชอาณาจักรในที่สุดในปี 2027 แต่ไม่ใช่ด้วยรถกระบะ รุ่นแรกที่จะจำหน่ายในอังกฤษคือ Rivian R2: SUV ไฟฟ้าขนาดกลางที่จะมาท้าทาย Tesla Model Y และอื่นๆ อีกมากมาย เราคาดว่า Rivian R3 Hatchback และ R3X Hot Hatch จะมาถึงชายฝั่งของเราในอีกไม่นาน Rivian R2 จะนำเสนอทางเลือกที่น่าสนใจในตลาด SUV ไฟฟ้าด้วยการผสมผสานความสามารถแบบออฟโรดและความยั่งยืน
Skoda
Skoda ยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยการนำเสนอ EV หลากหลายขนาดและราคาที่เข้าถึงได้
การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ SUV และ Estate EV: ปี 2024 เป็นปีที่วุ่นวายอย่างยิ่งสำหรับ Skoda เนื่องจากหลายรุ่นยอดนิยมได้รับการอัปเดต เช่น Kamiq และ Octavia นอกจากนี้ยังมีการแนะนำ Kodiaq เจเนอเรชันที่สองใหม่ทั้งหมดและ Superb ล่าสุด – ซึ่งทั้งสองรุ่นได้รับรางวัลจาก Auto Express New Car Awards เมื่อมองไปข้างหน้า แบรนด์เช็กจะสร้างต่อยอดความสำเร็จของ Enyaq และเปิดตัว SUV ไฟฟ้าที่มีขนาดและราคาที่หลากหลาย รวมถึงรุ่นที่อาจมีราคาต่ำกว่า 20,000 ปอนด์ เช่นเดียวกัน Skoda กำลังพัฒนารถยนต์ Estate สำหรับครอบครัวที่ไร้มลพิษเพื่อมาคู่กับ Octavia Estate และ Superb Estate ที่ยอดเยี่ยม แบรนด์ยังได้จัดแสดงแนวคิด Skoda Epiq ซึ่งเป็นการเผยโฉมคู่แข่งใหม่ขนาด Kamiq สำหรับ VW ID. Cross นี่คือการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Skoda ในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายและคุ้มค่าสำหรับตลาดมวลชน
Suzuki
Suzuki เข้าสู่ตลาด EV ด้วย SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กพร้อมตัวเลือกขับเคลื่อนสี่ล้อ
Suzuki e Vitara: Suzuki ได้ตัดสินใจกระโดดเข้าสู่ตลาด EV ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกอย่าง e Vitara ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่น่าประทับใจมากมาย ฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือตัวเลือก AllGrip-e ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์คู่เพื่อให้ “สมรรถนะที่ทรงพลัง” และแรงฉุดเพิ่มเติมในสภาพถนนที่ลื่น ซึ่งเสริมกับรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ระยะทางสูงสุดของ e Vitara คือ 425 กิโลเมตร ซึ่งเหนือกว่า Jeep Avenger เล็กน้อย แต่ไม่สามารถเทียบกับรถยนต์อย่าง Kia EV3 ที่สามารถวิ่งได้มากกว่า 600 กิโลเมตรในการชาร์จครั้งเดียว Suzuki e Vitara จะนำเสนอทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้งานได้จริง
Vauxhall
Vauxhall นำเสนอ SUV ขนาดกะทัดรัดที่เน้นความอเนกประสงค์และราคาที่เข้าถึงได้
Vauxhall Frontera: Vauxhall Frontera ไม่มีมรดกชื่อเสียงเทียบเท่ากับ Ford Capri หรือ Honda Prelude แต่ก็ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่สำหรับ SUV ขนาดกะทัดรัดใหม่ทั้งหมดที่เน้นความอเนกประสงค์และราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยรูปทรง SUV ที่เหลี่ยมสันและเป็นแบบดั้งเดิม, เบาะนั่งสูงสุดเจ็ดที่นั่ง และความจุสัมภาระที่เป็นไปได้เกือบ 1,600 ลิตร Frontera จึงใช้งานได้จริง ในด้านต้นทุน Vauxhall ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะทั้งรุ่นไฟฟ้าล้วนและเบนซิน-ไฮบริดเริ่มต้นที่ 23,495 ปอนด์ – ซึ่งเป็นราคาที่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง กำจัดอุปสรรคทั่วไปในการเป็นเจ้าของ EV Frontera Hybrid ใช้การผสมผสานที่เรียบง่ายของเครื่องยนต์เบนซินสามสูบ 1.2 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า 28 แรงม้าขนาดเล็กที่รวมอยู่ในเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่หกสปีด ในขณะที่รุ่น EV ได้รับแบตเตอรี่ 44kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 111 แรงม้า ซึ่งให้ระยะทางสูงสุด 300 กิโลเมตร – แม้ว่ารุ่น Long Range จะมาในไม่ช้า Vauxhall Frontera คือทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับรถยนต์ครอบครัวที่คุ้มค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Volkswagen
Volkswagen ยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ID. ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้และอเนกประสงค์
Volkswagen ID. Polo (2027): Volkswagen ได้ยืนยันว่าชื่อ ID.2 จะไม่มีอีกต่อไป: รถซูเปอร์มินิไฟฟ้าที่เข้าถึงได้รุ่นใหม่จากแบรนด์จะใช้ชื่อ ID. Polo แทน รถได้ถูกเผยโฉมในระดับหนึ่งที่งาน Munich Motor Show 2025 โดยจัดแสดงในชุดลายพรางที่ทำให้เราเห็นภาพรวมของรูปลักษณ์ที่จะเป็นไปได้ รุ่นนี้จะใช้แพลตฟอร์ม MEB เวอร์ชันต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยให้ราคาเริ่มต้นต่ำ: อาจต่ำกว่า 25,000 ปอนด์ในสหราชอาณาจักรเมื่อรถมาถึงในปี 2027 ID. Polo คือความพยายามของ Volkswagen ในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับตลาดมวลชนในราคาที่เข้าถึงได้
Volkswagen ID.2X (กันยายนนี้): Volkswagen สัญญาไว้เมื่อนานมาแล้วว่าจะเปิดตัว SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กและราคาไม่แพงรุ่นใหม่บนพื้นฐานของ ID.2 – ซึ่งตอนนี้เรียกว่า ID. Polo – และแพลตฟอร์ม MEB Entry ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทางเลือกที่ไร้มลพิษสำหรับ VW T-Cross ที่ได้รับความนิยมอย่างมีประสิทธิภาพ ตอนนี้บริษัทได้ยืนยันแล้วว่าคู่แข่งของ Renault 4 ในอนาคตจะใช้ชื่อ Volkswagen ID.2X และในที่สุดก็จะถูกเปิดเผยในงาน Munich Motor Show ในเดือนกันยายนปีนี้ ID.2X จะเป็นส่วนเสริมที่สำคัญในกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ของ Volkswagen ที่ตอบสนองความต้องการ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก
Volvo
Volvo ยังคงมุ่งมั่นสู่พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบด้วยรถยนต์ซีดานและ SUV ที่หรูหรา
Volvo ES90: Volvo ได้ยกเลิก S60 และ S90 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งรถซีดานขนาดใหญ่ไปโดยสิ้นเชิง Volvo ES90 ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นผู้ท้าทายของแบรนด์สวีเดนสำหรับ BMW i5 และ Audi A6 e-tron รวมถึง EV ที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภายใต้พื้นฐานเดียวกับ EX90 SUV เรือธง แต่ซีดานนี้ได้รับประโยชน์จากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กใหม่เพื่อสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น รวมถึงเทคโนโลยี 800V ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มระยะทาง 300 กิโลเมตรได้หลังจากชาร์จเพียง 10 นาที ราคาเริ่มต้นที่ 69,650 ปอนด์ Volvo ES90 คือการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นของ Volvo ในการสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าหรูที่ยั่งยืน
บทสรุปและคำเชิญชวน
ปี 2025 และปีต่อๆ ไป กำลังจะนำเสนอภูมิทัศน์ยานยนต์ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและความหลากหลายอย่างไม่เคยมีมาก่อน เราได้เห็นความมุ่งมั่นของผู้ผลิตในการผลักดันเทคโนโลยีไฟฟ้า, ระบบไฮบริดที่ชาญฉลาด และการออกแบบที่น่าตื่นเต้นในทุกเซกเมนต์รถยนต์ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและสมรรถนะ, ผู้ที่มองหารถยนต์สำหรับครอบครัวที่ใช้งานได้จริง, หรือผู้ที่ต้องการทางเลือกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลาดรถยนต์ใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ล้วนมีสิ่งที่จะมอบให้คุณอย่างแน่นอน
ในฐานะผู้ขับเคลื่อนและผู้เชี่ยวชาญในวงการนี้ ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแส แต่เป็นการปฏิวัติที่จะกำหนดอนาคตของการเดินทางอย่างแท้จริง รถยนต์ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะอีกต่อไป แต่เป็นแพลตฟอร์มของเทคโนโลยี, ความยั่งยืน และประสบการณ์ส่วนบุคคล
เราขอเชิญชวนคุณมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่น่าตื่นเต้นนี้! คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะสัมผัสอนาคตของยานยนต์? ถ้ามีรุ่นใดที่คุณสนใจเป็นพิเศษ หรืออยากจะแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับเทรนด์รถยนต์แห่งอนาคต อย่าลังเลที่จะแสดงความคิดเห็นของคุณ เราพร้อมที่จะเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับคุณในโลกยานยนต์ที่ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งนี้
อนาคตแห่งยานยนต์: เจาะลึกรถยนต์รุ่นใหม่สุดเร้าใจปี 2025 และที่กำลังจะมาถึง
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นของโลกยานยนต์อย่างใกล้ชิด และปี 2025 นี้ ไม่ใช่แค่จุดเริ่มต้นของปีใหม่ แต่เป็นประตูบานสำคัญที่เปิดไปสู่อีกขั้นของนวัตกรรมยานยนต์ที่ก้าวล้ำและน่าหลงใหลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่การขับขี่ไม่ได้เป็นเพียงการเดินทางจากจุด A ไปจุด B อีกต่อไป แต่เป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสุดล้ำ ประสิทธิภาพอันเหนือชั้น และความยั่งยืนสำหรับโลกใบนี้
ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นคลื่นลูกใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตจีนหลั่งไหลเข้าสู่ตลาด สร้างความตื่นตัวและทางเลือกที่หลากหลาย แต่สิ่งที่กำลังจะมาถึงในปี 2025, 2026 และในอนาคตอันใกล้ กลับยิ่งใหญ่และน่าจับตามองกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการพลิกโฉมของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มาพร้อมระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้นและเทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็วอย่างก้าวกระโดด หรือแม้แต่การคงอยู่ของเครื่องยนต์สันดาปภายในและระบบไฮบริดที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนที่กฎระเบียบด้านมลพิษจะเข้มงวดขึ้นในทศวรรษหน้า ผู้ผลิตยังคงเห็นโอกาสในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค
ความน่าสนใจไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่รถยนต์ขนาดเล็กสำหรับเมืองใหญ่ (Superminis) ไปจนถึงรถยนต์ซีดานหรู รถ SUV อเนกประสงค์ และแม้แต่ซูเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลก ในบทความนี้ ผมจะพาคุณเจาะลึกถึงรถยนต์รุ่นสำคัญและน่าตื่นเต้นที่สุดที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเรียงตามตัวอักษรของผู้ผลิต เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวที่สำคัญในโลกยานยนต์ยุคใหม่นี้
Alfa Romeo Giulia
เมื่อพูดถึงความสง่างามแบบอิตาเลียนที่ผสานกับสมรรถนะอันดุดัน ชื่อของ Alfa Romeo Giulia ย่อมเป็นที่ประจักษ์ในฐานะหนึ่งในรถซีดานคอมแพ็คหรูที่น่าปรารถนาที่สุด การมาถึงของ Giulia เจเนอเรชันถัดไปในปี 2026 จึงเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญสำหรับแบรนด์ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัว
Giulia รุ่นใหม่จะยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบอันเย้ายวนใจ แต่ภายใต้เรือนร่างที่ปราดเปรียวนี้ จะเป็นขุมพลังที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินไฮบริดที่พัฒนาต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของ Alfa Romeo หรือทางเลือกที่น่าจับตาที่สุดคือระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วน แพลตฟอร์ม STLA Large ที่มุ่งเน้น EV เป็นหลัก คือหัวใจสำคัญของ Giulia ใหม่ แพลตฟอร์มนี้รองรับสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V ซึ่งหมายถึงการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษ และสามารถติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้ระยะทางวิ่งได้เกิน 400 ไมล์ (ประมาณ 640 กิโลเมตร) พร้อมทางเลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ
สิ่งที่ทำให้ผู้หลงใหลใน Alfa Romeo ทั่วโลกใจเต้นรัวคือการยืนยันว่าจะยังคงมีรุ่น Quadrifoglio ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งคาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์ V6 อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ด้วยประสบการณ์กว่าสิบปี ผมเชื่อว่า Alfa Romeo จะไม่ทำให้ผิดหวังในการสร้างสรรค์ประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคระดับพรีเมียมให้ความสำคัญ
Alfa Romeo Stelvio
ก่อนหน้า Giulia รุ่นใหม่ Alfa Romeo Stelvio SUV เจเนอเรชันถัดไปมีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 รถ SUV คันนี้จะใช้สถาปัตยกรรม STLA Large เช่นเดียวกับ Giulia โดยจะนำเสนอทางเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
Stelvio ถือเป็นรุ่นที่สร้างความสำเร็จอย่างมากให้กับ Alfa Romeo ในตลาด SUV ที่มีการแข่งขันสูง รุ่นใหม่นี้จะยังคงความสปอร์ตและความสง่างามไว้ได้อย่างลงตัว คาดว่าจะมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแบรนด์เคยกล่าวไว้ว่า Stelvio Quadrifoglio รุ่นใหม่จะมาพร้อม “บางสิ่งที่คำรามได้” ซึ่งเป็นการยืนยันถึงการคงอยู่ของขุมพลังเบนซินในรุ่นสมรรถนะสูง
Alpine A290
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถแฮทช์แบ็กฝรั่งเศสที่เร็วและสนุกสนาน Alpine กำลังจะมอบความสุขให้คุณ A290 คือเวอร์ชันประสิทธิภาพสูงของ Renault 5 E-Tech ที่เป็นไฟฟ้าล้วน โดย Alpine ซึ่งเป็นที่รู้จักจากรถสปอร์ต A110 น้ำหนักเบาอันยอดเยี่ยม ได้ยกระดับ A290 ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ช่วงล่างได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ขยายระยะฐานล้อ ล้อขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง Michelin แบบสั่งทำพิเศษ และสไตล์ที่สปอร์ตดุดันกว่าเดิม ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 33,500 ปอนด์ (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) รถคันนี้จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เปี่ยมด้วยบุคลิกและความสนุกในการขับขี่ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Alpine A390
Alpine กำลังก้าวเข้าสู่ดินแดนใหม่ด้วย A390 ซึ่งเป็นรถคูเป้-SUV ไฟฟ้า หรือที่แบรนด์เรียกว่า ‘Sport Fastback’ การออกแบบที่น่าทึ่งของ A390 ดูเหมือน “รถแข่งในชุดสูท” โดยมีโครงสร้างที่ปราดเปรียวคล้ายกับคู่แข่งหลักอย่าง Porsche Macan Electric แม้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Renault Scenic แต่ A390 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสามมอเตอร์ที่มอบกำลังถึง 464 แรงม้า พร้อมระบบ Torque Vectoring เพื่อการควบคุมที่คล่องตัวยิ่งขึ้น อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 60,000 ปอนด์ (ประมาณ 2.7 ล้านบาท) A390 แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของแบรนด์รถสปอร์ตไปสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายมากขึ้น
Aston Martin Valhalla
Aston Martin Valhalla จะเป็นรถยนต์เครื่องวางกลางที่ผลิตจำนวนมากคันแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปีของแบรนด์อังกฤษแห่งนี้ โดยจะมีการผลิตเพียง 999 คันเท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตรแบบ Flat-plane ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังรวมอยู่ที่ 1,069 แรงม้า แรงบิด 1,100 นิวตันเมตร เพียงพอที่จะพาพุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่า Valhalla ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นชิ้นงานศิลปะทางวิศวกรรม ที่นำความรู้และเทคโนโลยีจาก Formula 1 มาใช้ในด้านอากาศพลศาสตร์แบบ Active Aero ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไฮเปอร์คาร์ Valkyrie Valhalla คือตัวแทนของอนาคตซูเปอร์คาร์ที่ผสานขุมพลังไฮบริดเข้ากับประสิทธิภาพสูงสุด
Audi
ปี 2024 Audi ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวรถยนต์ถึง 7 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น A3 แฮทช์แบ็กและ e-tron GT ที่ปรับโฉมใหม่ ไปจนถึง Q6 e-tron SUV ไฟฟ้าล้วน และ A6 e-tron ซีดานที่ใช้เทคโนโลยีร่วมกับ Porsche ล่าสุดคือ A5 ซึ่งมาแทน A4 ซีดานและ Avant เดิม รวมถึง Q5 โฉมใหม่ แต่ Audi ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง เพราะยังมี Q3 SUV คอมแพ็คพรีเมียม และ A6 ซีดานผู้บริหาร เจเนอเรชันถัดไปที่กำลังจะมาถึง
Audi กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการออกแบบและวิศวกรรมยานยนต์อย่างเต็มตัว ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายและครอบคลุมทุกความต้องการ พร้อมคงไว้ซึ่งความหรูหรา ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ รถยนต์ไฟฟ้าของ Audi นั้นเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงและมีศักยภาพในการเติบโตในภูมิภาคนี้
BMW iX3
BMW iX3 โฉมใหม่ได้รับการเปิดเผยแล้ว และเป็นรถยนต์รุ่นแรกในกลุ่ม Neue Klasse ของแบรนด์เยอรมัน ซึ่งเป็นชุดของรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์และโครงสร้างพื้นฐานที่คล้ายคลึงกัน เพื่อให้แบรนด์ก้าวทันเทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีภายในรถยนต์และวิศวกรรม iX3 มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ iDrive ล่าสุด
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่หมายถึงระยะทางวิ่งสูงสุด 500 ไมล์ (ประมาณ 800 กิโลเมตร) ในรุ่นกลาง และรุ่นที่มีระยะทางวิ่งไกลกว่านั้นก็กำลังจะมาถึง นี่เป็นผลมาจากสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ ซึ่งช่วยให้การชาร์จเร็วขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้ประมาณ 250 ไมล์ (ประมาณ 400 กิโลเมตร) ในเวลาเพียง 10 นาทีที่สถานีชาร์จที่รองรับ iX3 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความมุ่งมั่นของ BMW ในการผลักดันขีดจำกัดของยานยนต์ไฟฟ้า
BMW M3
BMW 3 Series เจเนอเรชันถัดไปมีกำหนดมาถึงในปีหน้า และ M3 โฉมใหม่จะตามมาในปี 2027 นี่จะเป็น M3 รุ่นแรกที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าล้วน ซึ่งอาจฟังดูเป็นเรื่องที่ขัดใจแฟนๆ รถซีดานสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์นี้ แต่ระบบขับเคลื่อนสี่มอเตอร์สามารถให้กำลังได้สูงสุดถึง 1,341 แรงม้า (ในทางทฤษฎี) และระบบ Torque Vectoring เพื่อความคล่องตัวที่น่าทึ่ง อย่างที่เราได้สัมผัสจากแนวคิด VDX ของ BMW หากคุณยังไม่มั่นใจ M3 จะยังมีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซินหกสูบเรียงเทอร์โบคู่เช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน
การคงไว้ซึ่งทางเลือกเครื่องยนต์สันดาปควบคู่ไปกับขุมพลังไฟฟ้า แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจของ BMW ในการรักษากลุ่มลูกค้าดั้งเดิม ขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงอย่าง M3 EV เป็นการลงทุนที่สำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง (High-Performance EV) ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้สูง
BMW M5 Touring
เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของ BMW M5 ที่มีเวอร์ชันสเตชั่นแวกอน! M5 Touring โฉมใหม่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.4 ลิตร คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตัว ให้กำลังรวม 717 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3.6 วินาที พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 500 ลิตร
M5 Touring เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างประสิทธิภาพอันน่าทึ่งและการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน มันเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้บริหารที่ต้องการรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ที่เร้าใจในวันหยุดสุดสัปดาห์
BYD Atto 2
BYD Atto 2 คือคู่แข่งของยักษ์ใหญ่จีนในตลาด SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งมีคู่แข่งตั้งแต่ Vauxhall Frontera ที่เน้นงบประมาณไปจนถึง Skoda Elroq และ Kia EV3 เพื่อดึงดูดผู้ซื้อ Atto 2 มาพร้อมเทคโนโลยีมากมายเป็นมาตรฐาน รวมถึงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้วที่หมุนได้, Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ระบบกล้อง 360 องศา, เบาะนั่งด้านหน้าและพวงมาลัยปรับอุณหภูมิได้ และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากกว่าสิบระบบ รุ่นเริ่มต้น ‘Boost’ มีระยะทางวิ่ง 210 ไมล์ (ประมาณ 338 กิโลเมตร) แต่รุ่นแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่ากำลังจะมา Atto 2 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ BYD ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ง่ายและอัดแน่นด้วยฟังก์ชัน
Cadillac Lyriq
หลังจากหายไปจากตลาดสหราชอาณาจักรเกือบหนึ่งทศวรรษ Cadillac กำลังกลับมาพร้อมรถ SUV ไฟฟ้าล้วนคู่หนึ่งที่หวังว่าจะสามารถแย่งยอดขายจาก Audi, BMW และ Mercedes ได้ ผู้นำในการกลับมาของแบรนด์อเมริกันอันเป็นเอกลักษณ์คือ Cadillac Lyriq ซึ่งเป็น SUV ขนาดใหญ่ที่ดูโฉบเฉี่ยวและซับซ้อน โดยจะมาเป็นคู่แข่งของ BMW iX
Lyriq จะมาพร้อมมอเตอร์คู่เป็นมาตรฐานที่ให้กำลัง 520 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 102kWh ซึ่งคาดว่าจะให้ระยะทางวิ่ง 329 ไมล์ (ประมาณ 530 กิโลเมตร) จากการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง หน้าจอ OLED ภายในห้องโดยสารกว้างขวางถึง 33 นิ้ว ทอดยาวทั่วแดชบอร์ด ราคาคาดว่าจะสูงถึง 75,000 ปอนด์ (ประมาณ 3.4 ล้านบาท) หากราคาดังกล่าวสูงเกินไป Cadillac Optiq ที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าและคาดว่าจะมีราคาถูกกว่าก็กำลังจะตามมา Lyriq เป็นตัวแทนของความมุ่งมั่นของ Cadillac ในการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าหรู
Citroen e-C3
Citroen e-C3 โฉมใหม่ที่ได้รับรางวัล ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับมวลชน โดยราคาเริ่มต้นเพียง 22,000 ปอนด์ (ประมาณ 1 ล้านบาท) แบตเตอรี่ LFP (ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต) ขนาด 44kWh ให้ระยะทางวิ่ง 199 ไมล์ (ประมาณ 320 กิโลเมตร) แต่ Citroen จะนำเสนอทางเลือกแบตเตอรี่ที่ถูกกว่าด้วยระยะทางวิ่งประมาณ 124 ไมล์ (ประมาณ 200 กิโลเมตร) e-C3 มีรูปลักษณ์คล้ายครอสโอเวอร์มากกว่ารถยนต์ขนาดเล็กที่มาแทนที่ พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ Hydraulic Bump-Stops และเบาะนั่ง Active Comfort อันเป็นเอกลักษณ์ของ Citroen
Citroen C3 Aircross
Citroen C3 Aircross โฉมใหม่คือคู่แข่งของ Dacia Duster ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และมีข้อได้เปรียบหลายประการที่น่าสนใจที่สุดคือทางเลือกห้าหรือเจ็ดที่นั่ง แม้ว่า SUV ขนาดเล็กคันนี้จะยาวเพียง 4.39 เมตร ผู้ซื้อยังสามารถเลือกได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด และไฟฟ้าล้วน โดย e-C3 Aircross EV คาดว่าจะให้ระยะทางวิ่งระหว่าง 188 ถึง 250 ไมล์ (ประมาณ 300-400 กิโลเมตร) ราคาเริ่มต้นที่ 20,605 ปอนด์ (ประมาณ 930,000 บาท) ซึ่งแพงกว่า C3 supermini ประมาณ 2,500 ปอนด์ (ประมาณ 110,000 บาท)
Citroen C5 Aircross
ขั้นตอนสุดท้ายของการปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Citroen คือ C5 Aircross เจเนอเรชันถัดไปที่กล้าหาญ ความสะดวกสบายยังคงเป็นจุดเน้นหลัก แต่ SUV สำหรับครอบครัวสัญชาติฝรั่งเศสคันนี้ยังเติบโตขึ้นเพื่อมอบพื้นที่เบาะหลังที่กว้างขวางที่สุดในระดับเดียวกัน และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 651 ลิตร ห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้รู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่น ภายใต้ตัวถังที่โดดเด่นคือแพลตฟอร์ม STLA Medium เดียวกันกับ Peugeot 3008 และ Vauxhall Grandland ล่าสุด ดังนั้นทางเลือกเครื่องยนต์ Mild-Hybrid, Plug-in Hybrid และไฟฟ้าล้วนจึงเหมือนกัน EV รุ่นนี้มีระยะทางวิ่งสูงถึง 423 ไมล์ (ประมาณ 680 กิโลเมตร)
Cupra Raval
Cupra Raval เป็นคู่แข่งที่สปอร์ตของ Volkswagen ID.Polo ที่กำลังจะมาถึง ทั้งคู่ได้รับการจัดแสดงในงาน Munich Motor Show 2025 Raval ยังไม่ถูกเปิดเผยอย่างเต็มรูปแบบ แต่ได้รับการยืนยันผ่านรถยนต์ต้นแบบที่คลุมด้วยลายพราง รถยนต์คันนี้จะถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ในภายหลัง ซึ่งน่าจะเป็นต้นปี 2026
Cupra ขนาดเล็กคันนี้จะมีความยาวเพียงกว่าสี่เมตรเล็กน้อย ซึ่งเหมาะสำหรับถนนในเมือง แต่มีห้าประตูเพื่อความอเนกประสงค์เพิ่มเติม จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่มีกำลังมากกว่า 200 แรงม้า และมีระยะทางวิ่งสูงสุด 270 ไมล์ (ประมาณ 435 กิโลเมตร) Raval จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ และแม้ว่าราคาจะยังไม่ได้รับการยืนยันในอีกสักพัก แต่เราคาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 25,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) Raval เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เน้นดีไซน์และสมรรถนะ
Dacia
ข่าวดีสำหรับทุกคน Dacia กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ด้วยแผนการสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ปีนี้เพียงปีเดียวก็ได้เห็นการมาถึงของ Dacia Duster Mk3 โฉมใหม่ และ Dacia Spring EV ที่มีราคาต่ำกว่า 15,000 ปอนด์ (ประมาณ 680,000 บาท) นอกจากนี้ Dacia Bigster ก็ได้ลงสู่ถนนแล้ว โดยหวังที่จะเขย่าตลาด SUV ขนาดกลาง Bigster เป็นหนึ่งในสามรุ่นใหม่ที่ Dacia กำลังเปิดตัวใน C-segment ที่สำคัญของตลาดรถยนต์ โดยอีกรุ่นหนึ่งคาดว่าจะมาเป็นคู่แข่งของ Skoda Octavia ที่ได้รับรางวัล
Dacia กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ราคาประหยัดสามารถเป็นที่นิยมและน่าสนใจได้ โดยเฉพาะในตลาดที่ผู้บริโภคกำลังมองหาความคุ้มค่าและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน
DS No8
DS No8 เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับแบรนด์พรีเมียมจากปารีสอย่าง DS ซึ่งปฏิเสธที่จะยอมแพ้ในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง BMW, Audi และ Mercedes รถคูเป้-SUV ไฟฟ้าล้วนที่สง่างามนี้เน้นความหรูหรา ความสะดวกสบาย และคุณสมบัติที่แบรนด์เรียกว่า ‘ความสงบ’ นอกจากนี้ยังให้ระยะทางวิ่งที่มหาศาลถึง 466 ไมล์ (ประมาณ 750 กิโลเมตร) และด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 50,000 ปอนด์ (ประมาณ 2.2 ล้านบาท) จึงสามารถ undercut คู่แข่งที่มีศักยภาพอย่าง Polestar 4 และ Audi Q6 e-tron ได้อย่างมาก
DS No8 เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฝรั่งเศสในการสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับประสิทธิภาพและระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคในตลาดระดับบนให้ความสำคัญ
Ferrari F80
ล่าสุดในตระกูลไฮเปอร์คาร์ “ครั้งเดียวในทศวรรษ” อันรุ่งโรจน์จาก Maranello Ferrari F80 คือผู้สืบทอดของ F40, F50, Enzo และ LaFerrari การออกแบบที่น่าทึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง 499P ที่ชนะเลอม็อง เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อน: เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร 9,200 รอบต่อนาที คู่กับเทอร์โบสองตัวและมอเตอร์ไฟฟ้าห้าตัว กำลังรวม 1,183 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 2.15 วินาที และราคามากกว่า 3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 135 ล้านบาท) F80 เป็นการยืนยันว่า Ferrari ยังคงเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์สุดยอดรถยนต์สมรรถนะสูง ที่ผสานเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับความหรูหราและเอกลักษณ์ของแบรนด์
Ferrari Elettrica
ถูกต้องแล้ว แม้แต่ Ferrari ก็ต้องก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจจะใช้ชื่อว่า ‘Ferrari Elettrica’ โดยชื่อนี้หมายถึง ‘ไฟฟ้า’ ในภาษาอิตาลี จากภาพรถยนต์ทดสอบ EV คันแรกจาก Maranello จะเป็นรถสี่ประตู ไม่ใช่ซูเปอร์คาร์สองประตู เราไม่ได้คาดหวังรถ SUV แบบ 4×4 ที่มีรูปทรงเหลี่ยม แต่เป็นบางอย่างที่คล้ายกับ Ferrari Purosangue ที่มีสไตล์ดุดัน ซึ่งบริษัทได้กล่าวถึงว่าเป็น “รถสปอร์ตสี่ที่นั่งสี่ประตู” ดูเหมือนว่า Ferrari กำลังวางแผนที่จะทำให้รถคันนี้เป็นรถที่น่าขับขี่อย่างแท้จริง Ferrari Elettrica จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับแบรนด์ที่เคยปฏิเสธรถยนต์ไฟฟ้า แต่ในที่สุดก็ต้องยอมรับกระแสโลก
Fiat Grande Panda
กว่าทศวรรษแล้วที่ Fiat Panda รุ่นปัจจุบันเปิดตัว ดังนั้นการเปลี่ยนโฉมจึงล่าช้ามานาน และในที่สุด Fiat Grande Panda โฉมใหม่ก็มาถึง นี่คือรถน้องสาวที่โดดเด่นและมีสไตล์ของ Citroen e-C3 ที่ได้รับรางวัล Auto Express Car of the Year และเป็นรุ่นแรกในตระกูล Panda ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นแรกในยุคแปดศูนย์ รวมถึง Panda 4×4 ที่แข็งแกร่งกว่า
การออกแบบภายในก็แปลกตาไม่แพ้กัน มีองค์ประกอบสี่เหลี่ยมมากขึ้น พร้อมการผสมผสานสีสันที่สดใส และวัสดุที่น่าสนใจ เช่น ใยไม้ไผ่บนแดชบอร์ด มีพื้นที่เก็บของมากมาย แต่คุณสมบัติที่สะดวกที่สุดของ Grande Panda คือสายชาร์จแบบพับเก็บได้ที่ซ่อนอยู่ในส่วนหน้าของรุ่น EV จะมีเวอร์ชันไฮบริดให้เลือกด้วย และราคาเริ่มต้นเพียง 18,000 ปอนด์ (ประมาณ 810,000 บาท) Grande Panda เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Fiat ในการสร้างสรรค์รถยนต์ขนาดเล็กที่น่ารัก ฟังก์ชันการใช้งานสูง และราคาที่เข้าถึงได้
Ford
หากคุณคิดว่า Ferrari การวางเครื่อง V6 ในไฮเปอร์คาร์มูลค่าหลายล้านปอนด์เป็นเรื่องที่ขัดแย้ง คุณอาจจะยังไม่เคยได้ยินว่าหลังจาก 40 ปี Ford Capri อันศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้ง… สำหรับรถ SUV ไฟฟ้า! ส่วนสุดท้ายนี้ไม่น่าแปลกใจ เพราะ Ford กำลังทุ่มเทให้กับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ โดยเพิ่งเปิดตัว Explorer SUV ใหม่ และ Puma ครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่ขายดีที่สุดเวอร์ชัน EV อย่างไรก็ตาม Mustang ยังคงปฏิเสธที่จะละทิ้งเครื่องยนต์ V8 และที่ดีไปกว่านั้นคือมี Mustang GTD เวอร์ชัน Supercharged ที่เน้นการขับขี่ในสนามแข่ง พร้อมกำลังมากกว่า 800 แรงม้า และเทคโนโลยีที่ถูกห้ามในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต
Ford แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่สมดุล โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของรถยนต์สมรรถนะสูงด้วยเครื่องยนต์สันดาป ในขณะเดียวกันก็ลงทุนอย่างจริงจังในอนาคตของยานยนต์ไฟฟ้า การเปิดตัว Capri EV เป็นตัวอย่างของการใช้ชื่อคลาสสิกเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์เทรนด์ตลาด
Genesis GV60 Magma
BMW มีแผนก M, Mercedes มี AMG และตอนนี้ Genesis ก็วางแผนที่จะเปิดตัว Magma เวอร์ชันสมรรถนะสูงของกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตน โดยเริ่มจาก Genesis GV60 Magma ที่ร้อนแรงซึ่งมีกำหนดจะมาถึงช่วงปลายปี และเราคาดว่าจะให้กำลังมากกว่า Hyundai Ioniq 5 N และ Kia EV6 GT ที่มีกำลังถึง 641 แรงม้า ซึ่งใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน
Tyrone Johnson หัวหน้าฝ่ายพัฒนายานยนต์ของ Genesis กล่าวกับ Auto Express ว่า: “เรามีแนวคิดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และสิ่งที่เราพยายามทำนั้นแตกต่างจาก Ioniq 5 N หรือ EV6 GT อย่างสิ้นเชิง” ซึ่งบ่งชี้ว่า GV60 Magma จะมีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รุ่นแนวคิดที่ปรากฏในงาน Goodwood Festival of Speed 2024 ให้แนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่ Genesis วางแผนไว้ รวมถึงระยะฐานล้อที่กว้างขึ้น ระบบกันสะเทือนที่ต่ำลง รูปลักษณ์ที่ดุดัน และการตกแต่งภายในที่สปอร์ตยิ่งขึ้น พร้อมเบาะนั่งแบบ bucket seat Genesis กำลังสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่น่าจับตามองในตลาดรถยนต์หรู
Honda 0 SUV
เมื่อพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า Honda ดูเหมือนจะตามหลังคู่แข่งมาพักหนึ่ง แต่จะไม่นานอีกต่อไป เพราะได้ให้คำมั่นว่าจะเปิดตัว EV ล้ำสมัยใหม่เจ็ดรุ่นภายในปี 2030 ภายใต้แบรนด์ย่อย ‘0 Series’ ใหม่ของ Honda ทั่วโลก รุ่นแรกจะมาถึงในปี 2026 โดยเริ่มจาก SUV ขนาดกลางที่โฉบเฉี่ยวที่เราได้เห็นในรูปแบบต้นแบบแล้ว ตามมาด้วยรถซีดานเรือธงที่อ้างอิงจากแนวคิด Honda Saloon ที่ล้ำยุค
Honda กำลังเดิมพันครั้งใหญ่กับรถยนต์ไฟฟ้า และ ‘0 Series’ จะเป็นแกนหลักของกลยุทธ์นี้ โดยมุ่งเน้นที่การออกแบบที่เรียบง่าย เทคโนโลยีที่ยั่งยืน และประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรม
Honda Prelude
หลังจากหายไปนานกว่าสองทศวรรษ Honda Prelude จะกลับมาอีกครั้งในครึ่งแรกของปี 2026 Prelude เจเนอเรชันที่หกใหม่จะเป็นรถคูเป้สองประตูที่โฉบเฉี่ยวซึ่งมีขุมพลังไฮบริด และเทคโนโลยีเกียร์เสมือนจริงที่ Honda เรียกว่า ‘S Shift’ ซึ่งคาดว่าจะจำลอง “เสียงและความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติอย่างรวดเร็ว” รุ่นแนวคิดของ Prelude ใหม่ได้รับการเปิดเผยเมื่อสองปีที่แล้ว และนับตั้งแต่นั้นมา การออกแบบดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักหรืออาจจะไม่มีเลย
การกลับมาของ Prelude เป็นการแสดงให้เห็นถึงการรื้อฟื้นชื่อคลาสสิกของ Honda เพื่อนำเสนอรถยนต์ที่ผสมผสานความสปอร์ตเข้ากับเทคโนโลยีไฮบริด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่สนุกในการขับขี่แต่ยังคงประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง
Hyundai Inster
Hyundai Inster คือรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาประหยัดรุ่นใหม่ที่แปลกตาแต่น่ารักของแบรนด์ มีขนาดเล็กกว่ารถยนต์ขนาดเล็กอย่าง Skoda Fabia หรือ Renault Clio แต่ใช้พื้นที่ห้องโดยสารได้อย่างคุ้มค่าทุกมิลลิเมตร และมีเบาะหลังแบบเลื่อนได้ ซึ่งทำให้รถคันเล็กนี้มีความอเนกประสงค์อย่างน่าประหลาดใจ ในความเป็นจริงแล้ว มันกว้างขวางจนคุณสามารถใส่กระดานโต้คลื่นเข้าไปได้ Inster ยังมีระยะทางวิ่งสูงสุด 229 ไมล์ (ประมาณ 370 กิโลเมตร) และมีราคาเริ่มต้นที่ 23,495 ปอนด์ (ประมาณ 1.05 ล้านบาท) Inster เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในเมืองโดยเฉพาะ
Hyundai Ioniq 9
นอกจากการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่สุดแล้ว Hyundai ยังได้เปิดตัว EV ที่ใหญ่ที่สุด: Ioniq 9 เจ็ดที่นั่ง ยานยนต์ขนาดห้าเมตรคันนี้คือทางเลือกที่ล้ำยุค ไร้มลพิษ ของ Hyundai Santa Fe และเป็นรถน้องสาวของ Kia EV9 ที่ได้รับรางวัล SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งสองคันนี้ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกัน แต่ Ioniq 9 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า 110.3kWh ซึ่งเมื่อรวมกับการออกแบบที่ลื่นไหลอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้มีระยะทางวิ่งสูงสุด 385 ไมล์ (ประมาณ 620 กิโลเมตร)
Ioniq 9 มีการตกแต่งภายในที่สดใหม่และสมศักดิ์ศรีของรุ่นเรือธงที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี รวมถึงจอแสดงผลคู่ขนาด 12.3 นิ้วที่อยู่ในแผงโค้งเดียวกัน ระบบตัดเสียงรบกวนถนนแบบแอคทีฟ และผู้ช่วย AI จะมีให้เลือกทั้งแบบเจ็ดและหกที่นั่ง และด้วยความสำคัญของการใช้งานจริงสำหรับรถประเภทนี้ จึงมีพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดประมาณ 2,000 ลิตร ขึ้นอยู่กับการจัดวางเบาะนั่ง ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 65,000 ปอนด์ (ประมาณ 2.9 ล้านบาท) เมื่อเปิดรับจองในช่วงปลายปีนี้ Ioniq 9 เป็นคำตอบของ Hyundai สำหรับตลาด SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่สำหรับครอบครัวที่ต้องการความหรูหรา เทคโนโลยี และพื้นที่ใช้สอย
Hyundai Ioniq 3
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Ioniq จะขยายตัวต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยการเปิดตัว Ioniq 3 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งได้ถูกเปิดเผยในงาน Munich Motor Show 2025 โดย Hyundai Concept Three
คาดว่ารถแฮทช์แบ็กไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นคู่แข่งของ Volkswagen ID.3 จะถูกเปิดเผยในปี 2026 รถยนต์แนวคิดบ่งชี้ถึงทิศทางที่แบรนด์อาจจะใช้กับรุ่นใหม่: มันค่อนข้างสปอร์ตและมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ดังนั้นคาดหวังรูปลักษณ์ที่ไดนามิกมากกว่าที่จะเรียบง่าย เรายังคาดหวังเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยมจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงนี้ ดังนั้นเราจึงตั้งตารอรุ่นใหม่ในปีหน้า
IM Motors L6
IM Motors เป็นแบรนด์พี่น้องระดับพรีเมียมของ MG และเราได้รับแจ้งว่าจะเปิดตัวในสหราชอาณาจักรในปี 2025 ผลิตภัณฑ์แรกคือ IM L6: รถซีดานไร้มลพิษระดับพรีเมียมที่บริษัทคาดว่าจะมาเป็นคู่แข่งของ Tesla Model 3 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เราได้รับแจ้งว่า L6 สามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึงสามวินาที และชาร์จได้ที่ความเร็วสูงกว่า 300kW ซึ่งไม่เพียงแต่แซงหน้า Tesla เท่านั้น แต่ยังเทียบเคียงกับ Porsche Taycan ได้อีกด้วย IM L6 เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าแบรนด์จีนกำลังยกระดับมาตรฐานและท้าทายผู้นำตลาดในทุกระดับ
Jaguar four-door GT
การฟื้นฟูแบรนด์ Jaguar จากบนลงล่างเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงมาหลายเดือน เนื่องจากหนึ่งในแบรนด์รถยนต์หลักของอังกฤษกำลังจะก้าวไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบและยกระดับสู่ตลาดที่หรูหราอย่างจริงจัง หลังจากที่รถยนต์รุ่นปัจจุบันทั้งหมดหยุดการผลิต Jaguar กำลังเตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่สามรุ่น โดยเริ่มจากรถยนต์สี่ประตู GT ที่มีราคา 130,000 ปอนด์ (ประมาณ 5.8 ล้านบาท) รถยนต์แนวคิดใกล้การผลิตจะถูกเปิดเผยก่อนสิ้นปีนี้ โดยรถยนต์จริงจะมาถึงในปี 2026
GT ที่ยังไม่มีชื่อจะอยู่บนแพลตฟอร์ม EV ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษที่เรียกว่า Jaguar Electrified Architecture และใช้เทคโนโลยี “ปฏิวัติวงการ” ตามที่ผู้บริหารที่เราได้พูดคุยด้วย Steve Marsh ผู้อำนวยการบริหารโครงการยานยนต์ ยังเปิดเผยว่าจะครอบคลุมระยะทาง 478 ไมล์ (ประมาณ 770 กิโลเมตร) ด้วยการชาร์จครั้งเดียว และสำหรับการเดินทางข้ามทวีป ผู้ขับขี่จะสามารถเพิ่มระยะทาง 200 ไมล์ (ประมาณ 320 กิโลเมตร) ได้ในเวลาเพียง 15 นาที จนถึงขณะนี้เราได้เห็นเพียงรถต้นแบบที่คลุมด้วยลายพรางอย่างหนาแน่นพร้อมสัดส่วนที่ต่ำและเป็นแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม แนวคิด Jaguar Type 00 ที่ล้ำยุคซึ่งจัดแสดงเมื่อปลายปี 2024 ได้บ่งชี้ถึงรายละเอียดปลีกย่อยบางอย่างที่รถยนต์ผลิตจริงอาจมี Jaguar กำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าหรูระดับโลก
Jeep Recon
Jeep เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกคือ Avenger ในปี 2023 แต่ก็ไม่ใช่ EV เพียงรุ่นเดียวที่แบรนด์กำลังพัฒนาอยู่ รุ่นที่เราตื่นเต้นที่สุดคือ 4×4 ที่แข็งแกร่งที่เรียกว่า Recon EV ขนาด Wrangler คันนี้จะใช้การออกแบบที่แข็งแกร่งและแพลตฟอร์ม STLA Large สำหรับ EV โดยเฉพาะจาก Stellantis บริษัทแม่ ซึ่งยังใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ Wagoneer S SUV เรือธงรุ่นใหม่ของ Jeep อีกด้วย Jeep Recon เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่ารถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเมือง แต่ยังสามารถลุยไปได้ทุกที่
Kia EV4
Kia EV4 โฉมใหม่คือส่วนเสริมถัดไปในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่ดูโดดเด่นของแบรนด์ และมีให้เลือกทั้งแบบซีดานที่โฉบเฉี่ยวหรือแฮทช์แบ็กห้าประตูแบบดั้งเดิม โดยคาดว่าแบบหลังจะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากกว่าในยุโรป
คู่แข่งของ VW ID.3 คันนี้ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกันกับ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัล และให้ระยะทางวิ่งเกือบ 400 ไมล์ (ประมาณ 640 กิโลเมตร) เป็นผลให้มันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่ยอดเยี่ยม เงียบสงบ และกว้างขวาง Kia EV4 เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Kia ในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี
Kia PV5
ปีนี้ Kia กำลังนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้ามาสู่โลกของรถตู้ ด้วยกลุ่มรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ ซึ่งควรทำให้ Ford E-Transit ตระกูลนี้กังวลมาก ผู้นำในการบุกตลาดคือ Kia PV5 ซึ่งในฐานะรถตู้แผงข้างจะไปแข่งกับ Ford E-Transit Custom นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชัน MPV ที่จะมาเป็นคู่แข่งของ Volkswagen ID. Buzz อีกด้วย
ในขณะที่ VW เน้นอารมณ์แบบนักเล่นเซิร์ฟ PV5 มีความรู้สึกที่ล้ำยุคมากกว่ามาก และการออกแบบที่เหมาะสมกับ Blade Runner จะช่วยให้มันดูเข้ากันกับ Kia EV9 และ EV3 SUV รูปทรงคล้ายอิฐและฐานล้อที่ใหญ่โตควรทำให้ผู้โดยสารมีพื้นที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บวกกับประตูหลังแบบเลื่อนจะช่วยให้เข้าถึงได้ง่าย ผู้ซื้อที่กำลังมองหารถสำหรับครอบครัวจะยินดีที่ได้ยินว่ารถตู้และ MPV ไฟฟ้าของ Kia จะมาพร้อมการรับประกันเจ็ดปีชั้นนำในอุตสาหกรรม Kia PV5 เป็นการแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้าไปสู่ตลาดเชิงพาณิชย์และรถยนต์สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่
Land Rover Defender OCTA
ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที กำลัง 626 แรงม้า และราคาที่สูงถึง 160,000 ปอนด์ (ประมาณ 7.2 ล้านบาท) Defender OCTA จึงเป็น Defender ที่สุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัย เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.4 ลิตรเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่ติดตั้งใน Defender ยุคใหม่ และเพื่อให้มั่นใจว่าแชสซีของ 4×4 สามารถรับมือกับแรงมหาศาลได้ Land Rover ได้ทำการปรับปรุงอย่างครอบคลุม รวมถึงเบรก Brembo ที่อัปเกรดแล้ว ระบบบังคับเลี้ยวที่เร็วขึ้น ยางที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และระบบกันสะเทือน 6D Dynamics ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายกับซูเปอร์คาร์ของ McLaren Defender OCTA เป็นบทสรุปของความสามารถของ Land Rover ในการสร้างรถยนต์ Off-road สมรรถนะสูงที่ยังคงความหรูหรา
Lotus mid-size SUV
แม้ว่า Lotus จะสร้างชื่อเสียงจากรถสปอร์ตน้ำหนักเบา แต่แบรนด์ก็ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นผู้ผลิต EV ระดับพรีเมียม โดยเริ่มต้นด้วย Eletre hyper-SUV และ Emeya GT แต่ Lotus หวังที่จะขยายกลุ่มเป้าหมายนอกเหนือจากเจ้าของรถหรูและผู้บริหารองค์กร ด้วย SUV ขนาดกลางที่จะมาเป็นคู่แข่งของ Porsche Macan Electric ใหม่ Lotus ตั้งเป้าหมายราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 70,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 55,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2.5 ล้านบาท) สำหรับ Type 134 ซึ่งเป็นชื่อภายใน ซึ่งจะ undercut Macan ได้อย่างมาก แบรนด์ยืนยันว่าจะมีการเปิดเผยในปี 2025 ดังนั้นโปรดติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SUV สัญชาติอังกฤษที่กำลังจะมาถึงนี้
Lotus electric sports car
SUV และซีดานจะคิดเป็นสัดส่วนหลักของยอดขาย Lotus ในไม่ช้า แต่ก็ไม่ทิ้งมรดกการผลิตรถสปอร์ตเกือบ 80 ปี ในปี 2027 บริษัทจะเปิดตัวรถสปอร์ตไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรก ซึ่งจะมาแทนที่ Emira ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซิน รหัส Type 135 จะถูกสร้างขึ้นที่ฐาน Hethel ของ Lotus ใน Norfolk และใช้สถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ในขณะที่การออกแบบคาดว่าจะนำแรงบันดาลใจจากแนวคิด Lotus Theory 1 (ภาพด้านบน) มาใช้อย่างมาก Lotus กำลังพิสูจน์ว่ารถสปอร์ตไฟฟ้าก็สามารถรักษาจิตวิญญาณแห่งการขับขี่ที่เร้าใจได้
Mazda 6e
Mazda MX-30 ครอสโอเวอร์ที่ข้อบกพร่องน่าผิดหวังเป็น EV เพียงรุ่นเดียวของแบรนด์ญี่ปุ่นมาหลายปีแล้ว แต่จะไม่นานอีกต่อไป เพราะ Mazda 6e ซีดานโฉมใหม่จะมาถึงสหราชอาณาจักรในปี 2026 เพื่อท้าชนกับ Tesla Model 3 โชคไม่ดีที่เริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เนื่องจากระยะทางวิ่งที่อ้างของ 6e สูงสุด 342 ไมล์ (ประมาณ 550 กิโลเมตร) ซึ่งน้อยกว่า Tesla เกือบ 100 ไมล์ อย่างน้อย Mazda ก็สัญญาว่าซีดานที่ดูดีคันนี้จะมอบ “พฤติกรรมการขับขี่บนถนนที่ใครๆ ก็คาดหวังจากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์หลายสิบปีในการสร้างรถยนต์ที่สนุกในการขับขี่” นอกจากนี้ยังมีรุ่น SUV ที่สูงกว่า ซึ่งน่าจะใช้งานได้จริงกว่า ที่เรียกว่า Mazda CX-6e
Mazda กำลังพยายามอย่างหนักในการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือมากขึ้น โดยมุ่งเน้นที่ปรัชญาการขับขี่ Jinba Ittai ที่เป็นเอกลักษณ์
McLaren W1
ก่อนหน้านี้มี F1 แล้วก็ P1 และตอนนี้ McLaren W1 ก็ได้มาถึงเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า Woking สามารถทำอะไรได้บ้าง คู่แข่งโดยตรงของ Ferrari F80 ที่เรากล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ W1 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร ที่ส่งกำลังทั้งหมด 1,258 แรงม้า ไปยังล้อหลังเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้รถลอยขึ้นไป “อากาศพลศาสตร์แบบ ground-effect ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Formula One” สามารถสร้างแรงกดได้ 1,000 กก. ที่ความเร็ว 280 กม./ชม. McLaren W1 คือความสมบูรณ์แบบของวิศวกรรมยานยนต์ที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพสูงสุด
Mercedes CLA
Mercedes CLA เจเนอเรชันถัดไปจะเป็นรถยนต์รุ่นแรกในสิ่งที่แบรนด์เรียกว่ารถยนต์ ‘Entry Luxury’ ใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม MMA ใหม่ล่าสุด ซึ่งจะใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ SUV สองรุ่นและ Shooting Brake Estate ด้วย
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสามารถให้ระยะทางวิ่งเกือบ 500 ไมล์ (ประมาณ 800 กิโลเมตร) และการชาร์จที่รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูงที่ทำได้ด้วยแพลตฟอร์มใหม่ มีราคาที่สมเหตุสมผลและเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า Mercedes ขนาดใหญ่บางรุ่นก่อนหน้านี้ Mercedes CLA จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหราของ Mercedes ในแพ็คเกจที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
Mercedes GLC
ตามมาติดๆ กับ BMW iX3 โฉมใหม่ Mercedes GLC ล่าสุดได้รับการเปิดเผยแล้วและมีกำหนดจะลงสู่ถนนในไม่ช้า มันเป็นรถใหม่ทั้งหมดและไม่เกี่ยวข้องกับ GLC ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเดิม: ใช้สถาปัตยกรรม MB.EA ไฟฟ้าล้วนใหม่ และมีแบตเตอรี่ 94kWh ที่ให้ระยะทางวิ่ง 435 ไมล์ (ประมาณ 700 กิโลเมตร) และความเร็วในการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 330kW
รุ่นเปิดตัวที่เรียกว่า GLC 400 4MATIC มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและกำลังรวม 482 แรงม้า ดังนั้นประสิทธิภาพจึงมั่นใจได้ เราจะต้องรอดูว่ามันจะสามารถเอาชนะ BMW iX3 โฉมใหม่ได้หรือไม่ Mercedes GLC เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความมุ่งมั่นของ Mercedes-Benz ในการผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่ม SUV ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก
MINI John Cooper Works
MINI Cooper ล่าสุดเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับการคาดหวังมากที่สุดในปีที่แล้ว และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ตอนนี้แบรนด์ได้เพิ่มความพิเศษเพื่อสร้าง MINI John Cooper Works hot hatch โฉมใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีทางเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฟฟ้าล้วน JCW Electric ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านหน้า ซึ่งเพียงพอสำหรับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Hyundai i20 N แต่ก็ยังมีเวอร์ชันเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร สี่สูบ 228 แรงม้า น่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกเกียร์ธรรมดาอีกต่อไป มีเพียงเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่เจ็ดสปีดเท่านั้น แต่ผู้ซื้อก็ยังมีทางเลือกทั้งแบบ Hard-top หรือ Convertible ในรุ่นเบนซิน MINI John Cooper Works แสดงให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าก็สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและเร้าใจได้เช่นกัน
Nissan Leaf
ในฐานะ EV สำหรับตลาดมวลชนคันแรก Nissan Leaf เป็นผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง แต่ก็ถูกบดบังไปในไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากคู่แข่งที่ก้าวหน้ากว่าและเหนือกว่าโดยทั่วไป
เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดใจ รถแฮทช์แบ็กสำหรับครอบครัวได้กลายเป็น SUV ครอสโอเวอร์ที่พลิ้วไหว ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเดียวกับ Nissan Ariya ที่เคยได้รับรางวัล Auto Express Car of the Year
รูปทรงที่โฉบเฉี่ยวรวมกับเทคนิคอื่นๆ ทำให้ Leaf โฉมใหม่เป็นรถยนต์ที่แอโรไดนามิกที่สุดที่แบรนด์ญี่ปุ่นเคยผลิต และระยะทางวิ่งสูงถึง 375 ไมล์ (ประมาณ 600 กิโลเมตร) เป็นผลให้มันมีแบตเตอรี่ 75kWh ที่สมเหตุสมผล ดังนั้นต้นทุนการดำเนินงานควรจะต่ำเท่าที่คุณคาดหวังจากรถยนต์ชื่อนี้ Nissan Leaf กำลังกลับมาพร้อมการพลิกโฉมที่สำคัญเพื่อรักษาตำแหน่งในตลาด EV ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
Nissan Micra
นี่คือ Nissan Micra โฉมใหม่ และถ้าคุณคิดว่ามันดูน่าสงสัยคล้ายกับ Renault 5 ใหม่ นั่นเป็นเพราะมันคือเวอร์ชันที่เปลี่ยนตราและปรับแต่งด้านหน้าของรถฝรั่งเศสที่หรูหรานั้นเอง
Nissan ได้เปลี่ยนไฟหน้าสี่เหลี่ยมและไฟท้ายแนวตั้งของ R5 เป็นไฟกลมขนาดใหญ่ที่ดูตลก ซึ่งคล้ายกับ Micra Mk3 ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกันชนใหม่ กระจกหลังใหม่ และแน่นอนว่า Nissan ได้เพิ่มตราสัญลักษณ์และการออกแบบล้อของตัวเอง แต่นั่นก็เกือบทั้งหมด ตัวเลือกแบตเตอรี่ ความเร็วระยะทางวิ่ง ประสิทธิภาพ แชสซี การใช้งานจริง และภายในเหมือนกัน Nissan Micra เป็นตัวอย่างของความร่วมมือในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ช่วยให้สามารถนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่น่าสนใจสู่ตลาดได้เร็วขึ้น
Polestar 5
ห้าปีแล้วตั้งแต่แนวคิด Polestar Precept ที่น่าทึ่งได้รับการเปิดเผย แต่ในที่สุด Volvo ก็พร้อมที่จะเปิดตัวคู่แข่งของ Porsche Taycan และ Lotus Emeya: Polestar 5 มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบน้อยมากสำหรับรุ่นผลิตจริง และเช่นเดียวกับแนวคิดที่ไม่มีหน้าต่างหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังให้สูงสุด เหมือนกับ Polestar 4 coupé น่าเสียดายที่รายละเอียดหนึ่งที่ไม่รวมอยู่ในการผลิตคือประตู ‘suicide’ coach door ของแนวคิดดั้งเดิม ในขณะเดียวกัน การตกแต่งภายในจะใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากพืชอย่างกว้างขวางเพื่อเพิ่มคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แทนที่จะใช้สถาปัตยกรรมที่มีอยู่ Polestar 5 ใช้แพลตฟอร์มอลูมิเนียมอัดและเชื่อมที่สร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นที่ที่ EV เรือธงนี้ได้รับการพัฒนาด้วย มาพร้อมระบบไฟฟ้า 800V และกำลังขับเคลื่อนมหาศาลถึง 874 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร Polestar 5 เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Polestar ในการสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่ผสานการออกแบบที่ล้ำยุคเข้ากับความยั่งยืน
Polestar 7
ถ้าคุณยังไม่เดา Polestar 7 จะเป็นรุ่นที่เจ็ดจากแบรนด์สวีเดน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือจะเป็นคำตอบของ Tesla Model Y SUV “คอมแพ็คพรีเมียม” คันนี้จะถูกสร้างขึ้นในยุโรป มีเทคโนโลยีล่าสุด และอาจมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 40,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) Polestar จะก้าวออกจากแนวทางแพลตฟอร์มหลายแบบในปัจจุบันด้วย 7 และจะใช้ “สถาปัตยกรรมเดียว ลดความซับซ้อน ต้นทุน และการลงทุน” Polestar 7 เป็นอีกหนึ่งก้าวของ Polestar ในการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มตลาด
Porsche Boxster/Cayman
รถสปอร์ตเครื่องวางกลางของ Porsche อย่าง Cayman และ Boxster กำลังจะเปลี่ยนจากขุมพลังเบนซินไปสู่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วน อย่างน้อยสำหรับรุ่นปกติ เนื่องจากรุ่น GT ระดับสูงอาจยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน ทั้งสองรุ่นจะใช้แพลตฟอร์มรถสปอร์ตไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษโดย Porsche และจากภาพสายลับของเรา จะมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นที่กำลังจะตกรุ่น ซึ่งอาจเป็นเพื่อรองรับชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังห้องโดยสารผู้โดยสาร แทนที่จะอยู่ใต้พื้นรถเหมือน EV ส่วนใหญ่ สิ่งนี้จะช่วยในการกระจายน้ำหนักและการจัดตำแหน่งเบาะนั่งที่ต่ำ Porsche กำลังเผชิญกับความท้าทายในการนำเสนอรถสปอร์ตไฟฟ้าที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์การขับขี่ของ Porsche ไว้ได้
Porsche Cayenne Electric
Porsche Cayenne จะยังคงใช้ขุมพลังเบนซินและไฮบริดในตอนนี้ แต่ Cayenne Electric ใหม่กำลังจะมาและจะใช้แพลตฟอร์ม PPE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับ Macan Electric ดังนั้นคาดว่าจะมีแบตเตอรี่ความจุประมาณ 100kWh มอเตอร์คู่ และระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ รวมถึงความเป็นไปได้ของการชาร์จแบบไร้สาย นี่คือการที่คุณเพียงแค่ขับรถไปจอดในช่องจอดที่รองรับซึ่งสามารถชาร์จรถได้ – เหมือนกับการวางสมาร์ทโฟนของคุณบนแท่นชาร์จไร้สาย Porsche Cayenne Electric จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการ SUV หรูที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Range Rover Electric
Range Rover เป็น SUV หรูต้นฉบับ และกว่าครึ่งศตวรรษต่อมา ก็ยังคงเป็นราชาแห่งป่า แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมี Range Rover Electric Thomas Müller ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ JLR กล่าวว่า “เราตั้งเป้าที่จะสร้าง Range Rover ที่เงียบที่สุดและประณีตที่สุดเท่าที่เคยมีมา คุณสมบัติวิเศษที่สนับสนุนความสำเร็จของ Range Rover ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง – ตอนนี้มาพร้อมกับการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียเป็นศูนย์” Range Rover Electric เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหรูหรา ความสามารถในการลุย และความยั่งยืน
Renault 4
ตามมาติดๆ กับ Renault 5 ใหม่ที่ยอดเยี่ยมซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้คือ Renault 4 SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กคันนี้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมคล้ายกับ R4 ดั้งเดิมจากยุคหกศูนย์ และการออกแบบรวมเอาคุณสมบัติที่คุ้นเคยหลายอย่าง เช่น หน้าต่างสามเหลี่ยมด้านหลัง ไฟท้ายรูปแคปซูล และกระจังหน้าแนวนอนกว้างพร้อมไฟหน้าทรงกลม
ใช้แพลตฟอร์ม AmpR Small เดียวกันกับ R5 แฮทช์แบ็ก แต่จะมีให้เลือกเฉพาะแบตเตอรี่ 52kWh ที่ใหญ่กว่า ซึ่งดีสำหรับระยะทางวิ่ง 248 ไมล์ (ประมาณ 400 กิโลเมตร) ด้วยการชาร์จครั้งเดียว Renault 4 เป็นการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ย้อนยุคแต่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งาน
Renault Twingo
ส่วนเสริมสุดท้ายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากย้อนยุคของ Renault คือ Twingo โฉมใหม่ ซึ่งเปิดเผยในรูปแบบแนวคิดในเดือนพฤศจิกายน 2023 Luca de Meo ซีอีโอของ Renault กล่าวถึงว่าเป็น “กระสุนเงินสำหรับการเคลื่อนที่อย่างยั่งยืน” Twingo ใหม่มีกำหนดที่จะเปลี่ยนจากแนวคิดไปสู่การผลิตในเวลาเพียงสองปี และมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 20,000 ยูโร (ประมาณ 17,000 ปอนด์ หรือประมาณ 770,000 บาท) และใช่ จะมาถึงสหราชอาณาจักรด้วย! Renault Twingo จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ราคาไม่แพงและมีสไตล์
Rivian R2
Rivian บริษัทสตาร์ทอัพ EV ผู้บุกเบิกจากอเมริกา ผู้ผลิตรถกระบะไฟฟ้าล้วนคันแรกของโลก จะเข้าสู่ตลาดสหราชอาณาจักรในที่สุดในปี 2027 แต่ไม่ใช่ด้วยรถกระบะ รุ่นแรกที่จะขายในอังกฤษคือ Rivian R2: SUV ไฟฟ้าขนาดกลางที่จะมาเป็นคู่แข่งของ Tesla Model Y และอื่นๆ อีกมากมาย เรายังคาดว่า Rivian R3 แฮทช์แบ็กและ R3X hot hatch จะมาถึงฝั่งของเราในอีกไม่นาน Rivian R2 เป็นสัญญาณว่าตลาด EV กำลังจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น โดยมีผู้เล่นหน้าใหม่ที่นำเสนอนวัตกรรมและประสบการณ์ที่แตกต่าง
Skoda
ปี 2024 เป็นปีที่วุ่นวายอย่างยิ่งสำหรับ Skoda เช่นกัน เพราะหลายรุ่นยอดนิยมได้รับการอัปเดต เช่น Kamiq และ Octavia นอกจากนี้ยังได้เห็นการเปิดตัว Kodiaq เจเนอเรชันที่สองโฉมใหม่และ Superb ล่าสุด ซึ่งทั้งสองรุ่นได้รับรางวัลจาก Auto Express New Car Awards อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปข้างหน้า แบรนด์เช็กจะต่อยอดจากความสำเร็จของ Enyaq และเปิดตัว SUV ไฟฟ้าหลากหลายขนาดและราคา รวมถึงรุ่นที่อาจมีราคาต่ำกว่า 20,000 ปอนด์ (ประมาณ 900,000 บาท) ในทำนองเดียวกัน Skoda กำลังพัฒนารถยนต์สเตชั่นแวกอนสำหรับครอบครัวไร้มลพิษเพื่อวางจำหน่ายควบคู่ไปกับ Octavia Estate และ Superb Estate ที่ยอดเยี่ยม แบรนด์ยังได้จัดแสดงแนวคิด Skoda Epiq เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงคู่แข่งขนาด Kamiq ใหม่สำหรับ VW ID. Cross
Skoda กำลังปรับตัวเข้าสู่ยุค EV อย่างเต็มตัว โดยยังคงรักษาจุดแข็งด้านความคุ้มค่าและฟังก์ชันการใช้งานไว้
Suzuki e Vitara
Suzuki ได้ตัดสินใจกระโดดลงสู่บ่อน้ำลึกด้วย EV คันแรก โดย e Vitara โฉมใหม่เป็น SUV ไฟฟ้าล้วนขนาดเล็กที่จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่น่าประทับใจมากมาย คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือตัวเลือก AllGrip-e ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์คู่เพื่อให้ “สมรรถนะที่ทรงพลัง” และการยึดเกาะถนนพิเศษในสภาพถนนที่ลื่น ซึ่งเสริมกับรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ระยะทางวิ่งสูงสุดของ e Vitara คือ 265 ไมล์ (ประมาณ 426 กิโลเมตร) ซึ่งเหนือกว่า Jeep Avenger เพียงเล็กน้อยแต่ไม่สามารถเทียบได้กับรถยนต์อย่าง Kia EV3 ที่สามารถครอบคลุมระยะทางได้มากกว่า 370 ไมล์ (ประมาณ 600 กิโลเมตร) ในการชาร์จครั้งเดียว Suzuki e Vitara เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Suzuki ในการเข้าสู่ตลาด EV ด้วยรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
Vauxhall Frontera
Vauxhall Frontera ไม่มีมรดกชื่อเสียงใกล้เคียงกับ Ford Capri หรือ Honda Prelude แต่ก็ถูกปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้งสำหรับ SUV คอมแพ็คโฉมใหม่ที่เน้นความอเนกประสงค์และความสามารถในการซื้อ ด้วยรูปทรง SUV แบบสี่เหลี่ยมแบบดั้งเดิม สูงสุดเจ็ดที่นั่ง และความจุสัมภาระที่เป็นไปได้เกือบ 1,600 ลิตร Frontera จึงใช้งานได้จริงด้วย
ในแง่ของต้นทุน Vauxhall เป็นก้าวสำคัญ เพราะทั้งรุ่นไฟฟ้าล้วนและไฮบริดเบนซินเริ่มต้นที่ 23,495 ปอนด์ (ประมาณ 1.05 ล้านบาท) ซึ่งเป็นความเท่าเทียมกันของราคาอย่างแท้จริง ซึ่งช่วยขจัดอุปสรรคทั่วไปในการเป็นเจ้าของ EV Frontera Hybrid ใช้การผสมผสานที่เรียบง่ายของเครื่องยนต์เบนซินสามสูบ 1.2 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 28 แรงม้า ที่รวมอยู่ในเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่หกสปีด ในขณะที่ EV ได้แบตเตอรี่ 44kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 111 แรงม้า ซึ่งให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 186 ไมล์ (ประมาณ 300 กิโลเมตร) – แม้ว่ารุ่น Long Range กำลังจะมาในไม่ช้า Vauxhall Frontera เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV ที่คุ้มค่า ใช้งานได้จริง และมีทางเลือกทั้งเครื่องยนต์สันดาปและไฟฟ้า
Volkswagen ID. Polo
Volkswagen ยืนยันว่าชื่อ ID.2 ไม่มีอีกต่อไป: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาประหยัดรุ่นใหม่จากแบรนด์จะใช้ชื่อ ID. Polo แทน รถคันนี้ได้รับการเปิดเผยในระดับหนึ่งในงาน Munich Motor Show 2025 โดยจัดแสดงในชุดพรางซึ่งทำให้เราเห็นแนวคิดที่ดีเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของมัน รุ่นนี้จะใช้แพลตฟอร์ม MEB เวอร์ชันต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยให้ราคาเริ่มต้นต่ำ: อาจต่ำกว่า 25,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) ในสหราชอาณาจักรเมื่อรถมาถึงในปี 2027 Volkswagen ID. Polo เป็นความพยายามของ Volkswagen ในการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาสู่ตลาดมวลชนในราคาที่เข้าถึงได้
Volkswagen ID.2X
Volkswagen เคยสัญญาไว้เมื่อนานมาแล้วว่าจะเปิดตัว SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กและราคาไม่แพงรุ่นใหม่ที่ใช้ ID.2 (ตอนนี้เรียกว่า ID. Polo ด้านบน) และแพลตฟอร์ม MEB Entry ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทางเลือกไร้มลพิษของ VW T-Cross ยอดนิยม ตอนนี้บริษัทได้ยืนยันแล้วว่าคู่แข่งของ Renault 4 ในอนาคตจะใช้ชื่อ Volkswagen ID.2X และจะถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการในงาน Munich Motor Show ปีนี้ในเดือนกันยายน Volkswagen ID.2X เป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ SUV ไฟฟ้าของ Volkswagen ซึ่งจะมาตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
Volvo ES90
Volvo ได้ยกเลิก S60 และ S90 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งรถซีดานขนาดใหญ่ไปอย่างสิ้นเชิง Volvo ES90 ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นคู่แข่งของ BMW i5 และ Audi A6 e-tron ของแบรนด์สวีเดน และเป็น EV ที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่สุดของบริษัท ภายใต้ตัวถังคือแพลตฟอร์มเดียวกับ EX90 SUV เรือธง แต่ซีดานได้ประโยชน์จากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กใหม่เพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีขึ้น บวกกับเทคโนโลยี 800V ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มระยะทาง 186 ไมล์ (ประมาณ 300 กิโลเมตร) ได้หลังจากชาร์จเพียง 10 นาที ราคาเริ่มต้นที่ 69,650 ปอนด์ (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) Volvo ES90 เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Volvo ในการสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าที่หรูหรา ปลอดภัย และเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี
สรุปและคำเชิญ
อนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2025 และปีต่อๆ ไปนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและนวัตกรรมอย่างแท้จริง จากประสบการณ์กว่าสิบปี ผมสามารถยืนยันได้ว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการก้าวไปข้างหน้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนที่ก้าวล้ำ การฟื้นคืนชีพของชื่อรุ่นคลาสสิกในรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ยุคสมัย หรือแม้แต่การพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปและไฮบริดให้มีประสิทธิภาพสูงสุดก่อนยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
รถยนต์รุ่นใหม่เหล่านี้ไม่เพียงแต่บ่งบอกถึงเทรนด์ด้านพลังงานขับเคลื่อนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการออกแบบที่กล้าหาญ การผสานเทคโนโลยี AI และการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ รวมถึงความใส่ใจในความยั่งยืนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคในวันนี้มีทางเลือกที่หลากหลายอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในเมืองไปจนถึงซูเปอร์คาร์ไฮบริดที่ทรงพลัง และ SUV หรูที่สามารถลุยไปได้ทุกสภาพถนน
ในฐานะผู้บริโภคและผู้หลงใหลในยานยนต์ นี่คือช่วงเวลาที่คุณจะได้สัมผัสกับนิยามใหม่ของการขับขี่ ร่วมติดตามทุกความเคลื่อนไหวล่าสุดในวงการยานยนต์ และค้นหารถยนต์ในฝันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณกับเรา เพราะอนาคตของการเดินทางที่เร้าใจและยั่งยืนกำลังรอคุณอยู่ อย่าพลาดที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้!

