• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0511364 ทำไมต องให เพ อนจ าย อยากได ายเอง part 2

admin79 by admin79
November 4, 2025
in Uncategorized
0
N0511364 ทำไมต องให เพ อนจ าย อยากได ายเอง part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

สุดยอดรถยนต์รุ่นใหม่ปี 2025: อนาคตยานยนต์ที่คุณไม่ควรพลาด

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการรถยนต์โลกอย่างต่อเนื่อง และปี 2025 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งจุดเปลี่ยนที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ที่ตลาดรถยนต์กำลังเติบโตและปรับตัวเข้าสู่ยุคพลังงานทางเลือกอย่างเต็มตัว การมาถึงของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ไม่ใช่แค่การอัปเกรด แต่คือการปฏิวัตินวัตกรรม เทคโนโลยี และปรัชญาการขับขี่ ที่จะเข้ามาพลิกโฉมประสบการณ์การเดินทางของเราไปอย่างสิ้นเชิง

ตลอดปี 2025 นี้ เราได้เห็นการเปิดตัวรถยนต์หลายรุ่นที่สร้างความฮือฮา ไม่ว่าจะเป็น Nissan Micra โฉมใหม่ที่มาพร้อมความสดใส, Toyota RAV4 ที่อัปเกรดความล้ำสมัย หรือ Fiat Grande Panda ที่กลับมาพร้อมดีไซน์สุดคลาสสิกผสมผสานความทันสมัย แต่ที่น่าจับตาที่สุดคือคลื่นลูกใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากผู้ผลิตจีนที่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาด สร้างการแข่งขันที่ดุเดือดและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะแนวโน้มการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ๆ จะยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้นต่อเนื่องจนถึงปี 2026 และในอีกหลายปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการมาของ Volkswagen ID.Polo และ Renault Clio เจเนอเรชันล่าสุด รวมถึงข่าวดีสำหรับแฟนๆ Skoda, Audi, BMW และ Mercedes-Benz ที่เตรียมนำเสนอรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะยังคงเป็นหัวหอกสำคัญในตลาดรถยนต์ปี 2025 เนื่องจากผู้ผลิตพยายามผลักดันให้ผู้ซื้อหันมาใช้ยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษต่ำ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับจำนวนมหาศาลจากหน่วยงานกำกับดูแล แต่ก็ยังมียานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในและรถยนต์ไฮบริดอีกมากมายที่กำลังจะเปิดตัว ด้วยกฎระเบียบเกี่ยวกับการห้ามจำหน่ายรถยนต์เบนซินและดีเซลใหม่ที่คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2030 เป็นต้นไป ผู้ผลิตจึงยังมีเวลาที่จะสร้างกำไรจากความต้องการในตลาดกลุ่มนี้ นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นใหม่ยังครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่รถยนต์ขนาดเล็ก (Superminis) ไปจนถึงรถยนต์ซีดาน รถ SUV และแม้กระทั่งรถซูเปอร์คาร์สุดหรู ในบทความนี้ ผมจะพาคุณเจาะลึกถึงรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าจับตาที่สุดในปี 2025, 2026 และในอนาคตอันใกล้ โดยเรียงตามลำดับตัวอักษรของผู้ผลิต เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกข้อมูลสำคัญ

ภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด 2025: จุดเปลี่ยนที่ยั่งยืน

ปี 2025 ตอกย้ำถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างชัดเจน ด้วยนวัตกรรมแบตเตอรี่ที่ก้าวหน้า ระบบชาร์จที่รวดเร็วขึ้น (800V) และระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น ทำให้ EV ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นกระแสหลักที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงของผู้บริโภคได้มากขึ้น รถยนต์ไฮบริดเองก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่ม Plug-in Hybrid (PHEV) ที่มอบความยืดหยุ่นในการใช้งาน ทั้งการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนในชีวิตประจำวัน และการใช้เครื่องยนต์สันดาปสำหรับระยะทางไกล ผู้ผลิตจำนวนมากหันมาลงทุนมหาศาลในการพัฒนาแพลตฟอร์ม EV โดยเฉพาะ เพื่อสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะมาพร้อมประสิทธิภาพและความสามารถที่เหนือชั้น

Alfa Romeo: ความงดงามแห่งอิตาลีกับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานไฟฟ้า

แบรนด์ระดับตำนานจากอิตาลีอย่าง Alfa Romeo กำลังเตรียมเปิดตัวรถยนต์ที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในเซกเมนต์รถหรูสมรรถนะสูง
Alfa Romeo Giulia EV: กำหนดการเปิดตัวในปี 2026 นี้ Giulia เจเนอเรชันใหม่มีภารกิจที่ท้าทายในการสานต่อความสำเร็จของรุ่นปัจจุบันที่ขึ้นชื่อเรื่องความน่าปรารถนาและสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ รหัสใหม่นี้จะมาพร้อมทางเลือกทั้งเครื่องยนต์ไฮบริดและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยใช้แพลตฟอร์ม STLA Large ที่เน้น EV ซึ่งรองรับสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V สำหรับการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้ระยะทางวิ่งได้ไกลกว่า 640 กิโลเมตร รวมถึงระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่สำคัญที่สุดคือจะมีรุ่น Quadrofoglio พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V6 อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่จะยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจไม่เสื่อมคลาย นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างอนาคตและมรดกอันรุ่งโรจน์
Alfa Romeo Stelvio EV: ก่อนหน้า Giulia เล็กน้อย Alfa Romeo Stelvio SUV เจเนอเรชันใหม่มีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยจะใช้สถาปัตยกรรม STLA Large เช่นเดียวกับ Giulia และมีทางเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า แน่นอนว่า Stelvio Quadrofoglio ใหม่ก็จะมี “เสียงคำราม” ของเครื่องยนต์เบนซิน เพื่อเอาใจนักขับที่โหยหาความดิบและพลังงานที่แท้จริงจากอิตาลี

Alpine: สปอร์ตแฮทช์ไฟฟ้าสุดเร้าใจ

แบรนด์สปอร์ตจากฝรั่งเศสอย่าง Alpine ผู้สร้าง A110 ที่ยอดเยี่ยม กำลังก้าวเข้าสู่ยุค EV ด้วยรถยนต์ที่จะมอบความสนุกในการขับขี่ที่เหนือชั้น
Alpine A290 EV: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถแฮทช์แบ็กฝรั่งเศสที่เร็วแรง A290 คือคำตอบ มันคือเวอร์ชันที่ปรับปรุงใหม่ของ Renault 5 E-Tech ไฟฟ้าล้วน ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ช่วงล่างที่ออกแบบใหม่หมดจด ฐานล้อที่กว้างขึ้น ล้อขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง Michelin แบบพิเศษ และสไตล์สปอร์ตที่ดุดันยิ่งขึ้น ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.5 ล้านบาทในยุโรป ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับสปอร์ต EV ขนาดเล็ก
Alpine A390 EV: Alpine ก้าวเข้าสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคยด้วย Coupe-SUV ไฟฟ้า หรือที่แบรนด์เรียกว่า ‘Sport Fastback’ Alpine A390 ที่น่าทึ่งนี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือน “รถแข่งในชุดสูท” ด้วยรูปทรงที่ดูแข็งแกร่งคล้ายกับคู่แข่งหลักอย่าง Porsche Macan Electric แม้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Renault Scenic แต่ก็มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบสามมอเตอร์ที่ให้กำลัง 464 แรงม้า พร้อมระบบ Torque Vectoring เพื่อการควบคุมที่คล่องตัวยิ่งขึ้น อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.5 ล้านบาท

Aston Martin: ไฮเปอร์คาร์ลูกผสมแห่งอนาคต

แบรนด์หรูจากอังกฤษยังคงสร้างสรรค์รถยนต์สมรรถนะสูงที่น่าตื่นตาตื่นใจ
Aston Martin Valhalla: Valhalla จะเป็นรถยนต์ถนนแบบวางเครื่องกลางแบบซีรีส์โปรดักชั่นคันแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปีของแบรนด์อังกฤษนี้ จะผลิตเพียง 999 คัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรแบบ Flat-plane ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังรวมอยู่ที่ 1,069 แรงม้า และแรงบิด 1,100 นิวตันเมตร เพียงพอที่จะพารถพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที พร้อมแอโรไดนามิกส์แบบแอคทีฟที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไฮเปอร์คาร์ Valkyrie และเทคโนโลยีจาก F1

Audi: การขยายไลน์อัพ EV ที่แข็งแกร่ง

ในปี 2024 Audi ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวรถยนต์ถึงเจ็ดรุ่น รวมถึง A3 hatchback และ e-tron GT ที่ปรับโฉมใหม่ ไปจนถึง Q6 e-tron SUV และ A6 e-tron saloon ที่ใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาร่วมกับ Porsche แม้จะมีการเปิดตัวมากมาย แต่ Audi ก็ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
Audi A5 และ Q5 เจเนอเรชันใหม่: A5 โฉมใหม่ได้เข้ามาแทนที่ A4 saloon และ Avant เดิม ในขณะที่ Q5 ล่าสุดก็ถูกเปิดตัวไปแล้ว
Audi Q3 และ A6 e-tron: ยังมี Q3 premium compact SUV และ A6 executive saloon เจเนอเรชันถัดไปที่กำลังจะมาถึง ซึ่งคาดว่าจะมีการพัฒนาไปในทิศทางของรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อตอบรับกับกระแสโลกและเป้าหมายของแบรนด์

BMW: Neue Klasse และ M Division สู่ยุคไฟฟ้า

BMW ยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและสมรรถนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Neue Klasse ที่จะกำหนดทิศทางอนาคตของแบรนด์
BMW iX3 (Neue Klasse): iX3 ใหม่ถูกเผยโฉมแล้ว และเป็นรุ่นแรกในตระกูล Neue Klasse ซึ่งเป็นชุดรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์และโครงสร้างพื้นฐานที่คล้ายกัน เพื่อให้แบรนด์ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีล่าสุด รวมถึงเทคโนโลยีภายในรถด้วย iX3 มาพร้อมกับระบบ Infotainment iDrive ล่าสุด เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรในรุ่น Mid-range และรุ่นที่มีระยะทางวิ่งไกลกว่ากำลังจะตามมาในไม่ช้า ด้วยสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ ทำให้สามารถชาร์จไฟได้รวดเร็ว โดยเพิ่มระยะทางได้ประมาณ 400 กิโลเมตรในเวลาเพียง 10 นาที
BMW M3 EV/ICE: M3 เจเนอเรชันถัดไปมีกำหนดเปิดตัวในปี 2027 และจะเป็นรุ่นแรกที่มีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจฟังดูเป็นเรื่องที่ขัดใจแฟนๆ ของรถซีดานสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ระบบขับเคลื่อนสี่มอเตอร์สามารถให้กำลังได้สูงสุดถึง 1,341 แรงม้า (ตามทฤษฎี) และระบบ Torque Vectoring เพื่อความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจ M3 จะยังมีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน Straight-six ทวินเทอร์โบ เช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน
BMW M5 Touring PHEV: เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของ BMW M5 ที่จะมีเวอร์ชัน Station Wagon! M5 Touring ใหม่มาพร้อมระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตัว ให้กำลังรวม 717 แรงม้า และแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3.6 วินาที พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 500 ลิตร

BYD: ผู้ท้าชิงรายใหญ่ในตลาด EV ทั่วโลก

BYD ผู้นำ EV จากจีนยังคงขยายพอร์ตโฟลิโอด้วยรถยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีและราคาที่น่าสนใจ
BYD Atto 2: Atto 2 คือผู้ท้าชิงของ BYD ในตลาด Compact Electric SUV ที่มีการแข่งขันสูง โดยมีคู่แข่งตั้งแต่ Vauxhall Frontera ที่เน้นราคาประหยัด ไปจนถึง Skoda Elroq และ Kia EV3 ที่ซับซ้อนกว่า เพื่อดึงดูดผู้ซื้อ Atto 2 มาพร้อมเทคโนโลยีมากมายเป็นมาตรฐาน รวมถึงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้วแบบหมุนได้ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย กล้อง 360 องศา เบาะนั่งและพวงมาลัยอุ่น และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่กว่าสิบระบบ รุ่นเริ่มต้น ‘Boost’ มีระยะทางวิ่ง 338 กิโลเมตร และรุ่นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นกำลังจะตามมา

Cadillac: การกลับมาของความหรูหราแบบอเมริกัน

หลังจากห่างหายจากตลาดยุโรปไปเกือบสิบปี Cadillac กำลังกลับมาพร้อมกับ SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบสองรุ่น
Cadillac Lyriq: Lyriq คือหัวหอกในการกลับมาของแบรนด์อเมริกันอันเป็นเอกลักษณ์นี้ เป็น SUV ขนาดใหญ่ที่ดูโฉบเฉี่ยวและซับซ้อน โดยมีเป้าหมายที่จะแข่งขันกับ BMW iX Lyriq จะมาพร้อมมอเตอร์คู่ให้กำลัง 520 แรงม้า และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 102kWh ซึ่งให้ระยะทางวิ่ง 530 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ภายในห้องโดยสารมีจอ OLED กว้างถึง 33 นิ้วพาดผ่านคอนโซลหน้า ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 3.2 ล้านบาท หากราคานี้สูงเกินไป Cadillac Optiq ที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าและราคาถูกกว่าน่าจะตามมาในไม่ช้า

Citroen: EV เพื่อมวลชนและความสะดวกสบาย

Citroen ยังคงยึดมั่นในปรัชญาการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบายและการเข้าถึงง่าย
Citroen e-C3: e-C3 ใหม่ที่ได้รับรางวัล กำลังถูกวางตำแหน่งให้เป็น EV Supermini สำหรับมวลชน เนื่องจากราคาเริ่มต้นเพียง 9.5 แสนบาทในยุโรป แบตเตอรี่ LFP (ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต) ขนาด 44kWh ให้ระยะทางวิ่ง 320 กิโลเมตร และ Citroen จะเสนอทางเลือกแบตเตอรี่ที่ถูกกว่าอีกด้วย โดยมีระยะทางวิ่งประมาณ 200 กิโลเมตร e-C3 มีรูปลักษณ์ที่ดูเหมือน Crossover มากกว่า Supermini รุ่นเดิม พร้อมคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของ Citroen เช่น ระบบกันสะเทือน Hydraulic Bump-stops และเบาะนั่ง Active Comfort ที่นุ่มนวล
Citroen C3 Aircross: C3 Aircross ใหม่คือคู่แข่งของ Dacia Duster ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และมาพร้อมกับจุดเด่นหลายอย่างที่น่าประหลาดใจที่สุดคือตัวเลือกแบบ 5 หรือ 7 ที่นั่ง แม้ว่า SUV ขนาดเล็กนี้จะยาวเพียง 4.39 เมตร ผู้ซื้อยังสามารถเลือกเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด และไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดย e-C3 Aircross EV จะมีระยะทางวิ่งระหว่าง 300 ถึง 400 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 9 แสนบาท
Citroen C5 Aircross: ขั้นตอนสุดท้ายของการปรับโฉมไลน์อัพของ Citroen คือ C5 Aircross เจเนอเรชันถัดไปที่กล้าหาญ ความสะดวกสบายยังคงเป็นจุดเน้นหลัก แต่ SUV สำหรับครอบครัวจากฝรั่งเศสนี้ยังได้รับการขยายขนาดเพื่อให้มีพื้นที่เบาะหลังที่กว้างขวางที่สุดในคลาส พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 651 ลิตร ภายในห้องโดยสารออกแบบมาให้รู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่น ภายใต้ดีไซน์ที่โดดเด่นคือแพลตฟอร์ม STLA Medium เช่นเดียวกับ Peugeot 3008 และ Vauxhall Grandland รุ่นล่าสุด ทำให้มีทางเลือก Plug-in Hybrid และ EV ที่มอบระยะทางวิ่งได้สูงสุด 680 กิโลเมตร

Cupra: ความสปอร์ตในขนาดกะทัดรัด

Cupra แบรนด์ย่อยจาก Seat ยังคงนำเสนอรถยนต์ที่เน้นดีไซน์และสมรรถนะ
Cupra Raval: Raval คือคู่แข่งสปอร์ตของ Volkswagen ID.Polo ที่กำลังจะมาถึง ทั้งสองรุ่นถูกจัดแสดงในงาน Munich Motor Show 2025 โดย Raval ถูกนำเสนอในรูปแบบรถโชว์ที่หุ้มด้วยลายพราง รถคันนี้จะถูกเปิดเผยอย่างเต็มรูปแบบในภายหลัง คาดว่าต้นปี 2026 Raval จะมีความยาวเพียงสี่เมตรกว่าๆ ซึ่งเหมาะสำหรับถนนในเมือง แต่มีห้าประตูเพื่อความอเนกประสงค์ยิ่งขึ้น จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังมากกว่า 200 แรงม้า และมีระยะทางวิ่งสูงสุด 430 กิโลเมตร Raval จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ และคาดว่าราคาจะเริ่มต้นประมาณ 1.1 ล้านบาท

Dacia: คุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้

Dacia ยังคงมุ่งมั่นขยายไลน์อัพรถยนต์ที่คุ้มค่า
Dacia Bigster: Bigster ได้เปิดตัวสู่ท้องถนนแล้ว โดยหวังที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาด Mid-size SUV Bigster เป็นหนึ่งในสามรุ่นใหม่ที่ Dacia กำลังเปิดตัวใน C-segment ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่สำคัญอย่างยิ่ง อีกรุ่นหนึ่งคาดว่าจะมาท้าชนกับ Skoda Octavia ที่ได้รับรางวัล

DS Automobiles: ความหรูหราแบบฝรั่งเศส

DS แบรนด์พรีเมียมจากปารีส ยังคงยืนหยัดในการแข่งขันกับแบรนด์หรูจากเยอรมัน
DS No8: DS No8 เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับแบรนด์ DS โดยเป็น Coupe-SUV ไฟฟ้าล้วนที่เน้นความหรูหรา ความสะดวกสบาย และคุณภาพที่แบรนด์เรียกว่า ‘serene’ นอกจากนี้ยังให้ระยะทางวิ่งที่มหาศาลถึง 750 กิโลเมตร และด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 2.2 ล้านบาทในยุโรป จึงสามารถแข่งขันกับ Polestar 4 และ Audi Q6 e-tron ได้อย่างน่าสนใจ

Ferrari: ม้าลำพองสู่ยุคไฮบริดและไฟฟ้า

แม้แต่ Ferrari ก็ไม่สามารถต้านทานกระแสการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของสมรรถนะและความพิเศษไว้
Ferrari F80: F80 คือทายาทของ F40, F50, Enzo และ LaFerrari ซึ่งเป็นไฮเปอร์คาร์ “ครั้งหนึ่งในทศวรรษ” จาก Maranello การออกแบบที่น่าทึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง 499P ที่ชนะเลอม็อง รวมถึงระบบส่งกำลัง: เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร รอบเครื่องยนต์ 9,200 รอบต่อนาที คู่กับเทอร์โบสองตัวและมอเตอร์ไฟฟ้าห้าตัว กำลังรวม 1,183 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.15 วินาที และราคาที่สูงกว่า 130 ล้านบาท
Ferrari Elettrica: ใช่แล้ว แม้แต่ Ferrari ก็ยังต้องสร้างรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจใช้ชื่อว่า ‘Ferrari Elettrica’ (ภาษาอิตาลีหมายถึง “ไฟฟ้า”) จากภาพสปายช็อต รถ EV คันแรกจาก Maranello จะเป็นรถยนต์สี่ประตู ไม่ใช่ซูเปอร์คาร์สองประตู คาดว่าจะเป็นรถสี่ที่นั่ง สี่ประตูที่เน้นความเป็นสปอร์ต คล้ายกับ Ferrari Purosangue และ Ferrari กำลังวางแผนที่จะทำให้รถคันนี้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าหลงใหลเช่นเคย

Fiat: การกลับมาของความสนุกสไตล์อิตาลี

Fiat นำเสนอการกลับมาของ Panda ในรูปแบบที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Fiat Grande Panda: หลังจากห่างหายไปกว่าทศวรรษ Grande Panda ใหม่ก็มาถึงแล้ว นี่คือรถคู่แฝดที่มีดีไซน์เหลี่ยม สไตล์ฟังกี้ ของ Citroen e-C3 และเป็นรุ่นแรกในตระกูล Panda ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Panda เดิมในยุคแปดสิบ รวมถึง Panda 4×4 ภายในที่แปลกตาไม่แพ้กัน มาพร้อมองค์ประกอบสี่เหลี่ยม การผสมสีที่สดใส และวัสดุที่น่าสนใจ เช่น เส้นใยไม้ไผ่บนแผงหน้าปัด จุดเด่นที่สุดคือสายชาร์จแบบดึงกลับได้ที่ซ่อนอยู่ในจมูกของรุ่น EV นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริด และราคาเริ่มต้นเพียง 8 แสนบาท

Ford: กำลังรุกคืบตลาด EV อย่างเต็มที่

Ford กำลังให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก
Ford Capri Electric SUV: หลังจากหายไป 40 ปี ชื่อ Capri ได้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในรูปแบบของ SUV ไฟฟ้า ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะ Ford กำลังมุ่งเน้นไปที่ EV อย่างจริงจัง โดยได้เปิดตัว Explorer SUV ใหม่และ Puma Small Crossover เวอร์ชัน EV ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม Mustang ยังคงยึดมั่นในเครื่องยนต์ V8 และยังมีเวอร์ชัน Mustang GTD ที่เน้นการขับขี่ในสนามแข่ง มาพร้อมซูเปอร์ชาร์จ ให้กำลังมากกว่า 800 แรงม้า

Genesis: Magma Series สู่สมรรถนะไฟฟ้า

Genesis แบรนด์พรีเมียมจากเกาหลีใต้ กำลังจะเปิดตัวรุ่นสมรรถนะสูงภายใต้ชื่อ Magma
Genesis GV60 Magma: GV60 Magma ที่ร้อนแรงมีกำหนดจะมาถึงปลายปีนี้ และคาดว่าจะให้กำลังที่สูงกว่า Hyundai Ioniq 5 N และ Kia EV6 GT ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันก็มีกำลัง 641 แรงม้าอยู่แล้ว Genesis ตั้งใจที่จะสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ GV60 Magma ด้วยฐานล้อที่กว้างขึ้น ช่วงล่างที่ต่ำลง รูปลักษณ์ที่ดุดัน และภายในที่สปอร์ตยิ่งขึ้น พร้อมเบาะนั่งทรง Bucket Seats

Honda: การกลับมาที่ยิ่งใหญ่ด้วย EV และสปอร์ตไฮบริด

Honda กำลังเร่งเครื่องในตลาด EV และนำชื่อตำนานกลับมาอีกครั้ง
Honda 0 Series EV: Honda ได้ให้คำมั่นว่าจะเปิดตัว EV ล้ำสมัยเจ็ดรุ่นภายในปี 2030 ภายใต้แบรนด์ย่อยใหม่ ‘0 Series’ รุ่นแรกจะมาถึงในปี 2026 โดยเริ่มจาก SUV ขนาดกลางที่โฉบเฉี่ยว ตามมาด้วยรถซีดานเรือธงที่อ้างอิงจากแนวคิด Honda Saloon Concept
Honda Prelude Hybrid: หลังจากห่างหายไปกว่าสองทศวรรษ Honda Prelude จะกลับมาอีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 ในฐานะรถคูเป้สองประตูที่โฉบเฉี่ยว มาพร้อมระบบไฮบริดและเทคโนโลยีเกียร์เสมือนจริงที่ Honda เรียกว่า ‘S Shift’ ซึ่งจำลอง “เสียงและความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติที่รวดเร็ว”

Hyundai: ขยายไลน์อัพ Ioniq สู่ทุกขนาด

Hyundai ยังคงเดินหน้าขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Ioniq EV อย่างต่อเนื่อง
Hyundai Inster: Inster คือรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ราคาประหยัด ที่น่ารักและมีเอกลักษณ์ของ Hyundai มีขนาดเล็กกว่า Superminis อย่าง Skoda Fabia หรือ Renault Clio แต่ไม่เสียพื้นที่ภายในแม้แต่มิลลิเมตรเดียว พร้อมเบาะหลังแบบเลื่อนได้ที่ทำให้รถคันเล็กนี้อเนกประสงค์อย่างน่าประหลาดใจ สามารถใส่กระดานโต้คลื่นได้ Inster ยังมีระยะทางวิ่งสูงสุด 368 กิโลเมตร และราคาเริ่มต้นประมาณ 1 ล้านบาท
Hyundai Ioniq 9: Hyundai ได้เปิดตัว EV ขนาดใหญ่ที่สุดของตน: Ioniq 9 เจ็ดที่นั่ง ยานยนต์ขนาดยักษ์ยาวห้าเมตรคันนี้คือทางเลือกที่ปราศจากมลพิษในอนาคตของ Hyundai Santa Fe และเป็นรถคู่แฝดของ Kia EV9 ที่ได้รับรางวัล SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งสองรุ่นใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกัน แต่ Ioniq 9 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า 110.3kWh ซึ่งเมื่อรวมกับการออกแบบที่ลื่นไหลอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้มีระยะทางวิ่งสูงสุด 620 กิโลเมตร Ioniq 9 มีภายในที่สดใหม่ระดับเรือธง พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมถึงจอแสดงผลคู่ขนาด 12.3 นิ้วที่อยู่ในแผงโค้ง ระบบตัดเสียงรบกวนถนนแบบแอคทีฟ และผู้ช่วย AI มีตัวเลือกแบบเจ็ดและหกที่นั่ง และมีพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดประมาณ 2,000 ลิตร ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2.8 ล้านบาท
Hyundai Ioniq 3: กลุ่มผลิตภัณฑ์ Ioniq จะขยายเพิ่มเติมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยการเปิดตัว Ioniq 3 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กลง โดยได้รับการนำเสนอในงาน Munich Motor Show 2025 ในรูปแบบของ Hyundai Concept Three คาดว่ารถแฮทช์แบ็กไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นใหม่นี้ ซึ่งจะเป็นคู่แข่งของ Volkswagen ID.3 จะถูกเปิดเผยในปี 2026 รถแนวคิดนี้บ่งบอกถึงทิศทางที่แบรนด์อาจจะนำเสนอด้วยรุ่นใหม่: ค่อนข้างสปอร์ตและดูโดดเด่น

IM Motors: EV พรีเมียมจากจีนสู่ตลาดโลก

IM Motors แบรนด์พี่น้องระดับพรีเมียมของ MG เตรียมเข้าสู่ตลาดโลกในปี 2025
IM L6: รุ่นแรกที่นำเสนอคือ IM L6: ซีดานพรีเมียมที่ปราศจากมลพิษ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมาท้าชนกับ Tesla Model 3 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล L6 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาน้อยกว่าสามวินาที และชาร์จด้วยความเร็วที่สูงกว่า 300kW ซึ่งไม่เพียงแต่เหนือกว่า Tesla แต่ยังมีสถิติที่คล้ายกับ Porsche Taycan

Jaguar: การปรับโฉมครั้งใหญ่สู่ EV หรู

การปรับปรุง Jaguar ครั้งใหญ่กำลังเป็นประเด็นร้อน
Jaguar Four-door GT: Jaguar กำลังเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่สามรุ่น โดยเริ่มจากรถ GT สี่ประตูที่จะมีราคาประมาณ 5.6 ล้านบาท รถต้นแบบที่ใกล้เคียงกับรุ่นผลิตจริงจะถูกเปิดเผยก่อนสิ้นปีนี้ และรถจริงจะมาถึงในปี 2026 GT ที่ยังไม่มีชื่อนี้จะอยู่บนแพลตฟอร์ม EV เฉพาะที่เรียกว่า Jaguar Electrified Architecture และใช้เทคโนโลยี “ที่พลิกโฉมวงการ” สามารถวิ่งได้ไกลถึง 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสำหรับการเดินทางข้ามทวีป ผู้ขับขี่จะสามารถเพิ่มระยะทาง 320 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 15 นาที

Jeep: ลุยทุกเส้นทางด้วยพลังไฟฟ้า

Jeep กำลังขยายไลน์อัพ EV สู่รถออฟโรดที่แข็งแกร่ง
Jeep Recon: Jeep เพิ่งเปิดตัว Avenger ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกในปี 2023 แต่ก็ยังมี EV อื่นๆ อีกมากมายที่กำลังดำเนินการ รุ่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ 4×4 ที่แข็งแกร่งที่ชื่อว่า Recon EV ขนาดเท่า Wrangler นี้จะมาพร้อมการออกแบบที่แข็งแกร่งและแพลตฟอร์ม STLA Large สำหรับ EV โดยเฉพาะจากบริษัทแม่ Stellantis ซึ่งยังใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ Wagoneer S SUV เรือธงใหม่ของ Jeep

Kia: EV หลากหลายรูปแบบและฟังก์ชัน

Kia ยังคงเป็นผู้นำในการนำเสนอ EV ที่น่าสนใจในตลาด
Kia EV4: EV4 ใหม่ล่าสุดคือส่วนเสริมถัดไปในกลุ่มรถยนต์ครอบครัวไฟฟ้าล้วนที่มีดีไซน์โดดเด่นของแบรนด์ และมีให้เลือกทั้งแบบซีดานที่โฉบเฉี่ยวหรือแฮทช์แบ็กห้าประตูแบบดั้งเดิม ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากกว่าในยุโรป คู่แข่งของ VW ID.3 คันนี้ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกับ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัล และให้ระยะทางวิ่งเกือบ 640 กิโลเมตร
Kia PV5: ปีนี้ Kia กำลังนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้ามาสู่โลกของรถตู้ ด้วยรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำให้กลุ่ม Ford E-Transit ต้องกังวล PV5 จะเป็นรถตู้ Panel Van ที่จะแข่งขันกับ Ford E-Transit Custom และจะมีเวอร์ชัน MPV ที่จะมาท้าชนกับ Volkswagen ID. Buzz PV5 มีความรู้สึกที่ทันสมัยกว่ามาก และการออกแบบที่ดูเหมือน Blade Runner จะช่วยให้มันดูเข้ากันได้ดีกับ Kia EV9 และ EV3 SUV รูปทรงที่เกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมและฐานล้อที่ใหญ่จะช่วยให้ผู้โดยสารมีพื้นที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และประตูหลังแบบเลื่อนจะช่วยให้เข้าถึงได้ง่าย

Land Rover: Defender OCTA สุดยอดออฟโรดสมรรถนะสูง

Land Rover ยังคงยกระดับความสามารถของ Defender
Land Rover Defender OCTA: ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที กำลัง 626 แรงม้า และราคาประมาณ 7 ล้านบาท Defender OCTA เป็นรุ่นสุดยอดของ Land Rover Defender อย่างไม่ต้องสงสัย เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่ติดตั้งใน Defender ยุคใหม่ และเพื่อให้แน่ใจว่าแชสซีของ 4×4 สามารถรับมือกับกำลังมหาศาลได้ Land Rover ได้ทำการปรับปรุงอย่างครอบคลุม รวมถึงเบรก Brembo ที่อัปเกรดแล้ว พวงมาลัยที่เร็วขึ้น ยางที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และระบบกันสะเทือน 6D Dynamics ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายกับซูเปอร์คาร์ของ McLaren

Lotus: จากสปอร์ตคาร์เบาหวิวสู่ EV พรีเมียม

Lotus กำลังพลิกโฉมจากผู้ผลิตสปอร์ตคาร์น้ำหนักเบาไปสู่ผู้ผลิต EV พรีเมียมอย่างรวดเร็ว
Lotus Mid-size SUV (Type 134): Lotus กำลังหวังที่จะขยายการเข้าถึงให้ไกลกว่าเจ้าของรถหรูและผู้บริหารระดับสูง ด้วย Mid-size SUV ที่จะมาท้าชนกับ Porsche Macan Electric ใหม่ Lotus ตั้งเป้าราคาเริ่มต้นประมาณ 2.4 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่า Macan อย่างมีนัยสำคัญ แบรนด์ได้ยืนยันว่าจะมีการเปิดเผยในปี 2025
Lotus Electric Sports Car (Type 135): SUV และซีดานจะทำยอดขายส่วนใหญ่ของ Lotus ในไม่ช้า แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งมรดกการสร้างสปอร์ตคาร์เกือบ 80 ปี ในปี 2027 บริษัทจะเปิดตัวสปอร์ตคาร์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรก ซึ่งจะมาแทนที่ Emira ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน รุ่นที่ใช้รหัส Type 135 จะถูกสร้างขึ้นที่ฐาน Hethel ของ Lotus ใน Norfolk และใช้สถาปัตยกรรมเฉพาะตัว ในขณะที่การออกแบบคาดว่าจะได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากแนวคิด Lotus Theory 1

Mazda: EV ที่เน้นประสบการณ์การขับขี่

Mazda กำลังนำเสนอ EV ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้านพลวัตการขับขี่
Mazda 6e EV: Crossover Mazda MX-30 ที่มีข้อบกพร่องน่าผิดหวังเป็น EV เพียงรุ่นเดียวของแบรนด์ญี่ปุ่นมาหลายปี และเพิ่งถูกยกเลิกไป หวังว่า Mazda 6e ซีดานใหม่ทั้งหมดจะเป็นข้อเสนอที่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น เมื่อมาถึงยุโรปในปี 2026 เพื่อท้าชนกับ Tesla Model 3 แต่ 6e มีระยะทางวิ่ง 550 กิโลเมตร ซึ่งน้อยกว่า Tesla เกือบ 160 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม Mazda ให้คำมั่นว่าซีดานที่สวยงามคันนี้จะมอบ “พฤติกรรมการขับขี่บนถนนที่คาดหวังได้จากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์หลายทศวรรษในการสร้างรถยนต์ที่ขับสนุก” นอกจากนี้ยังมี SUV พี่น้องที่มีความสูงจากพื้นดินมากขึ้นและใช้งานได้จริงกว่า ซึ่งเรียกว่า Mazda CX-6e

McLaren: ไฮเปอร์คาร์รุ่นใหม่แห่ง Woking

McLaren ยังคงสร้างสรรค์ไฮเปอร์คาร์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัด
McLaren W1: W1 มาถึงแล้วเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า Woking สามารถทำอะไรได้บ้าง คู่แข่งโดยตรงของ Ferrari F80 W1 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่ส่งกำลังทั้งหมด 1,258 แรงม้า ไปยังล้อหลังเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้รถลอยขึ้น “แอโรไดนามิกส์ Ground-effect ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Formula One” สามารถสร้างแรงกดได้ 1,000 กก. ที่ความเร็ว 280 กม./ชม.

Mercedes-Benz: ยกระดับ EV สู่ทุกเซกเมนต์

Mercedes-Benz กำลังเดินหน้ายกระดับรถยนต์ไฟฟ้าในทุกระดับ
Mercedes CLA EV: CLA เจเนอเรชันถัดไปจะเป็นรุ่นแรกของสิ่งที่แบรนด์เรียกว่ารถยนต์ ‘Entry Luxury’ รุ่นใหม่ ที่ใช้สถาปัตยกรรม MMA ใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ SUV สองรุ่นและ Shooting Brake อีกหนึ่งรุ่น ระบบส่งกำลังไฟฟ้าสามารถให้ระยะทางวิ่งเกือบ 800 กิโลเมตร และการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูงที่เป็นไปได้ด้วยแพลตฟอร์มใหม่นี้ มีราคาที่เหมาะสมและเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือกว่ารถยนต์ Mercedes EV รุ่นก่อนๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่า
Mercedes GLC EV: GLC ล่าสุดถูกเปิดเผยแล้วและมีกำหนดจะออกสู่ท้องถนนในไม่ช้า เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดและไม่เกี่ยวข้องกับ GLC ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเดิม ใช้สถาปัตยกรรม MB.EA ที่เป็นไฟฟ้าทั้งหมดและมีแบตเตอรี่ 94kWh ที่ให้ระยะทางวิ่ง 700 กิโลเมตร และความเร็วในการชาร์จ DC Fast Charging สูงสุด 330kW รุ่นเปิดตัวที่เรียกว่า GLC 400 4MATIC มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและกำลังรวม 482 แรงม้า ดังนั้นสมรรถนะจึงมั่นใจได้

MINI: JCW EV ผสมผสานความสนุกในยุคใหม่

MINI ยังคงรักษาความสนุกในการขับขี่ พร้อมนำเสนอทางเลือก EV ที่น่าตื่นเต้น
MINI John Cooper Works Electric/Petrol: MINI Cooper ล่าสุดเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่คาดหวังมากที่สุดในปีที่ผ่านมา และพิสูจน์แล้วว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ตอนนี้แบรนด์ได้เพิ่มความพิเศษเพื่อสร้าง MINI John Cooper Works Hot Hatch ใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีทางเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฟฟ้าเต็มรูปแบบ JCW Electric ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านหน้า ซึ่งเพียงพอสำหรับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Hyundai i20 N นอกจากนี้ยังมีรุ่นเบนซินแบบ Old-school ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร 228 แรงม้า น่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกเกียร์ธรรมดาอีกต่อไป มีเพียงเกียร์อัตโนมัติ Dual-clutch เจ็ดสปีดเท่านั้น

Nissan: การปรับโฉมครั้งสำคัญสำหรับ Leaf และ Micra

Nissan กำลังนำรถยนต์รุ่นยอดนิยมของตนเข้าสู่ยุคใหม่
Nissan Leaf Crossover SUV: ในฐานะ EV สำหรับตลาดมวลชนรุ่นแรก Nissan Leaf เป็นผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง แต่ก็ตกอยู่ข้างหลังในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากคู่แข่งที่ล้ำหน้ากว่า เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับรถครอบครัวแฮทช์แบ็กนี้ ได้เปลี่ยนเป็น SUV Crossover ที่โฉบเฉี่ยว ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเดียวกับ Nissan Ariya รูปทรงเพรียวบางรวมกับกลไกอื่นๆ ทำให้ Leaf ใหม่เป็นรถยนต์ที่แอโรไดนามิกที่สุดที่แบรนด์ญี่ปุ่นผลิตมา และมีระยะทางวิ่งสูงถึง 600 กิโลเมตร ด้วยแบตเตอรี่ 75kWh ที่สมเหตุสมผล ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจึงควรต่ำอย่างที่คาดหวังจากรถยนต์คันนี้
Nissan Micra (Rebadged Renault 5): นี่คือ Nissan Micra ใหม่ทั้งหมด และถ้าคุณคิดว่ามันดูคล้ายกับ Renault 5 ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว นั่นเป็นเพราะมันเป็นเวอร์ชันที่เปลี่ยนป้ายและจมูกของรถฝรั่งเศสคันหรู Nissan ได้ละทิ้งไฟหน้าสี่เหลี่ยมและไฟท้ายแนวตั้งของ R5 สำหรับไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ที่ดูตลก ซึ่งคล้ายกับ Micra Mk3 ที่โด่งดัง นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกันชนใหม่ กระจกหลังใหม่ และแน่นอนว่า Nissan ได้เพิ่มตราสัญลักษณ์และการออกแบบล้อของตนเอง แต่มีเพียงเท่านี้ ตัวเลือกแบตเตอรี่ ความเร็ว ระยะทาง ประสิทธิภาพ แชสซี ความสามารถในการใช้งานจริง และภายในล้วนเหมือนกัน

Polestar: ผู้ท้าชิง EV ระดับพรีเมียมที่น่าเกรงขาม

Polestar ยังคงสร้างสรรค์ EV ที่มีประสิทธิภาพและดีไซน์ที่โดดเด่น
Polestar 5: เป็นเวลาห้าปีแล้วนับตั้งแต่แนวคิด Polestar Precept ที่น่าทึ่งถูกเปิดเผย แต่ในที่สุด Volvo ก็พร้อมที่จะเปิดตัวคู่แข่งของ Porsche Taycan และ Lotus Emeya: Polestar 5 มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบเพียงเล็กน้อยสำหรับรุ่นผลิตจริง และเช่นเดียวกับแนวคิด ไม่มีหน้าต่างด้านหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังให้สูงสุด เหมือนกับ Polestar 4 Coupe ภายในจะใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากพืชอย่างกว้างขวางเพื่อเสริมคุณสมบัติความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Polestar 5 ใช้แพลตฟอร์มอะลูมิเนียมอัดขึ้นรูปและเชื่อมต่อกันโดยเฉพาะที่สร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นที่ที่ EV เรือธงนี้ได้รับการพัฒนาด้วย มาพร้อมระบบไฟฟ้า 800V และกำลังขับมหาศาลสูงถึง 874 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร
Polestar 7: Polestar 7 จะเป็นรุ่นที่เจ็ดของแบรนด์สวีเดน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือจะเป็นคำตอบของแบรนด์สำหรับ Tesla Model Y SUV Compact Premium นี้จะถูกสร้างขึ้นในยุโรป มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด และอาจมีราคาเริ่มต้นประมาณ 1.7 ล้านบาท Polestar จะย้ายออกจากแนวทางการใช้แพลตฟอร์มหลายแบบในปัจจุบันกับรุ่น 7 และจะใช้ “สถาปัตยกรรมเดียวเพื่อลดความซับซ้อน ต้นทุน และการลงทุน”

Porsche: สปอร์ตคาร์และ SUV สู่ยุคไฟฟ้า

Porsche กำลังนำเสนอ EV ที่ยังคงรักษาจิตวิญญาณของสปอร์ตคาร์ไว้
Porsche Boxster/Cayman EV: สปอร์ตคาร์เครื่องยนต์กลางของ Porsche อย่าง Cayman และ Boxster จะละทิ้งเครื่องยนต์เบนซินเพื่อเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ อย่างน้อยก็สำหรับรุ่นปกติ ในขณะที่รุ่น GT ระดับสูงอาจยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน ทั้งสองรุ่นจะใช้แพลตฟอร์มสปอร์ตคาร์ไฟฟ้าเฉพาะที่พัฒนาโดย Porsche และจากภาพสปายช็อต จะมีฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นที่กำลังจะเลิกผลิต นี่อาจเป็นเพราะการติดตั้งชุดแบตเตอรี่ไว้ด้านหลังห้องโดยสารผู้โดยสาร แทนที่จะอยู่ใต้พื้นเหมือน EV ส่วนใหญ่ เพื่อช่วยในการกระจายน้ำหนักและตำแหน่งที่นั่งที่ต่ำ
Porsche Cayenne Electric: Porsche Cayenne จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดต่อไปในตอนนี้ แต่ Cayenne Electric ใหม่กำลังจะมาถึงและจะใช้แพลตฟอร์ม PPE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับ Macan Electric ดังนั้นคาดว่าจะมีแบตเตอรี่ความจุประมาณ 100kWh มอเตอร์คู่ และระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ รวมถึงความเป็นไปได้ของการชาร์จไร้สาย

Range Rover: ราชันแห่ง SUV หรู กับพลังงานสะอาด

Range Rover กำลังก้าวเข้าสู่ยุค EV โดยไม่ทิ้งความหรูหราและสมรรถนะ
Range Rover Electric: Range Rover คือ SUV หรูต้นฉบับ และกว่าครึ่งศตวรรษต่อมา ก็ยังคงเป็นราชาแห่งป่า แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมี Range Rover Electric ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ JLR กล่าวว่า “เราตั้งเป้าที่จะสร้าง Range Rover ที่เงียบและประณีตที่สุดเท่าที่เคยมีมา คุณสมบัติวิเศษที่สนับสนุนความสำเร็จของ Range Rover ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง – ตอนนี้มาพร้อมกับการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์”

Renault: การกลับมาของความคลาสสิกในรูปแบบ EV

Renault กำลังนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นคลาสสิก
Renault 4 EV: ตามหลัง Renault 5 ใหม่ที่ยอดเยี่ยมที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้คือ Renault 4 SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กคันนี้มีรูปทรงเหลี่ยมคล้ายกับ R4 ดั้งเดิมจากยุคหกสิบ และการออกแบบได้รวมคุณสมบัติที่คุ้นเคยหลายอย่าง เช่น หน้าต่างท้ายรถทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ไฟท้ายรูปทรงเม็ดยา และกระจังหน้าแนวนอนกว้างพร้อมไฟหน้าทรงกลม ใช้แพลตฟอร์ม AmpR Small เดียวกับ R5 แฮทช์แบ็ก แต่จะมีเฉพาะแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 52kWh ที่ให้ระยะทางวิ่ง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
Renault Twingo EV: การเพิ่มเติมสุดท้ายในไลน์อัพ EV ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอดีตของ Renault คือ Twingo ใหม่ทั้งหมด ซึ่งได้รับการนำเสนอในรูปแบบแนวคิดในเดือนพฤศจิกายน 2023 CEO ของ Renault อธิบายว่าเป็น “กระสุนเงินสำหรับการเคลื่อนที่อย่างยั่งยืน” Twingo ใหม่มีกำหนดจะเปลี่ยนจากแนวคิดสู่การผลิตในเวลาเพียงสองปี และมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 8 แสนบาท

Rivian: SUV EV สัญชาติอเมริกันบุกตลาดโลก

Rivian ผู้บุกเบิก EV จากอเมริกา เตรียมเข้าสู่ตลาดยุโรป
Rivian R2: Rivian ผู้บุกเบิก EV สตาร์ทอัพจากอเมริกา ผู้ผลิตรถกระบะไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของโลก จะเข้าสู่ตลาดอังกฤษในที่สุดในปี 2027 แต่ไม่ใช่ด้วยรถกระบะ รุ่นแรกที่จะจำหน่ายในอังกฤษคือ Rivian R2: SUV ไฟฟ้าขนาดกลางที่จะมาท้าชนกับ Tesla Model Y

Skoda: ขยายไลน์อัพ EV สู่ความหลากหลาย

Skoda ยังคงนำเสนอรถยนต์ที่คุ้มค่าและขยายไลน์อัพ EV อย่างต่อเนื่อง
Skoda Epiq และ EV รุ่นอื่นๆ: ปี 2024 เป็นปีที่วุ่นวายสำหรับ Skoda เช่นกัน เพราะหลายรุ่นยอดนิยมได้รับการอัปเดต เช่น Kamiq และ Octavia นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Kodiaq เจเนอเรชันที่สองใหม่ทั้งหมดและ Superb ล่าสุด ทั้งสองรุ่นได้รับรางวัลจาก Auto Express New Car Awards ในอนาคต แบรนด์เช็กจะต่อยอดความสำเร็จของ Enyaq และเปิดตัว SUV ไฟฟ้าหลากหลายขนาดและราคา รวมถึงรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า 8 แสนบาท Skoda กำลังพัฒนารถยนต์ Station Wagon สำหรับครอบครัวที่ปราศจากมลพิษ เพื่อวางตำแหน่งเคียงข้าง Octavia Estate และ Superb Estate ที่ยอดเยี่ยม แบรนด์ยังได้จัดแสดงแนวคิด Skoda Epiq ซึ่งเป็นตัวอย่างของคู่แข่งขนาดเท่า Kamiq ใหม่สำหรับ VW ID. Cross

Suzuki: e Vitara EV อเนกประสงค์

Suzuki เข้าสู่ตลาด EV ด้วย SUV ขนาดเล็กที่เน้นความทนทาน
Suzuki e Vitara: Suzuki ได้ตัดสินใจกระโดดเข้าสู่ตลาด EV ด้วย e Vitara ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าล้วนขนาดเล็กที่จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่น่าประทับใจมากมาย คุณสมบัติที่โดดเด่นคือตัวเลือก AllGrip-e ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์คู่เพื่อให้ “สมรรถนะที่ทรงพลัง” และแรงฉุดพิเศษในสภาพถนนที่ลื่น เข้ากับการออกแบบที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ระยะทางวิ่งสูงสุดของ e Vitara คือ 426 กิโลเมตร ซึ่งดีกว่า Jeep Avenger เล็กน้อย แต่ไม่สามารถเทียบเท่ากับรถยนต์อย่าง Kia EV3 ที่วิ่งได้มากกว่า 600 กิโลเมตรในการชาร์จครั้งเดียว

Vauxhall/Opel: Frontera ความคุ้มค่าและอเนกประสงค์

Vauxhall กำลังนำเสนอ SUV Compact ใหม่ที่เน้นความคุ้มค่าและพื้นที่ใช้สอย
Vauxhall Frontera Electric/Hybrid: Frontera ไม่ได้มีมรดกชื่อเสียงเท่า Ford Capri หรือ Honda Prelude แต่ก็ได้รับการนำกลับมาใช้ใหม่สำหรับ Compact SUV ใหม่ทั้งหมดที่เน้นความอเนกประสงค์และราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยรูปทรง SUV แบบกล่องดั้งเดิม ตัวเลือกสูงสุดเจ็ดที่นั่ง และความจุสัมภาระสูงสุดเกือบ 1,600 ลิตร Frontera จึงใช้งานได้จริง ในแง่ของต้นทุน Vauxhall เป็นก้าวสำคัญ เพราะทั้งรุ่นไฟฟ้าเต็มรูปแบบและเบนซินไฮบริดเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง ขจัดอุปสรรคทั่วไปในการเป็นเจ้าของ EV Frontera Hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซินสามสูบ 1.2 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 28 แรงม้าที่รวมอยู่ในเกียร์อัตโนมัติ Dual-clutch หกสปีด ในขณะที่รุ่น EV ได้รับแบตเตอรี่ 44kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 111 แรงม้า ซึ่งให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 300 กิโลเมตร แม้ว่ารุ่น Long Range กำลังจะมาถึงในไม่ช้า

Volkswagen: ID. Family ขยายตัวต่อเนื่อง

Volkswagen กำลังขยายตระกูล ID. EV ของตนด้วยรุ่นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
Volkswagen ID. Polo: Volkswagen ได้ยืนยันแล้วว่าชื่อ ID.2 ไม่มีอีกต่อไป: EV Supermini ราคาประหยัดใหม่จากแบรนด์จะใช้ชื่อ ID. Polo แทน รถคันนี้ถูกเปิดเผยบางส่วนในงาน Munich Motor Show 2025 โดยจัดแสดงในรูปแบบลายพรางที่ให้แนวคิดที่ดีเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของมัน รุ่นนี้จะใช้แพลตฟอร์ม MEB เวอร์ชันต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยให้ราคาเริ่มต้นต่ำ อาจต่ำกว่า 1.1 ล้านบาท ในยุโรปเมื่อรถมาถึงในปี 2027
Volkswagen ID.2X: Volkswagen ได้ให้คำมั่นเมื่อนานมาแล้วว่าจะเปิดตัว SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กและราคาประหยัดรุ่นใหม่ที่อ้างอิงจาก ID.2 (ตอนนี้ชื่อ ID. Polo) และแพลตฟอร์ม MEB Entry ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทางเลือกที่ปราศจากมลพิษสำหรับ VW T-Cross ยอดนิยม ตอนนี้บริษัทได้ยืนยันแล้วว่าคู่แข่ง Renault 4 ในอนาคตจะใช้ชื่อ Volkswagen ID.2X และจะถูกเปิดเผยในงาน Munich Motor Show ในเดือนกันยายนปีนี้

Volvo: ES90 ซีดานไฟฟ้าสุดหรู

Volvo กำลังนำเสนอซีดานไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ล้ำสมัย
Volvo ES90: Volvo ได้ยกเลิก S60 และ S90 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งซีดานขนาดใหญ่ไปโดยสิ้นเชิง Volvo ES90 ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นคู่แข่งของแบรนด์สวีเดนสำหรับ BMW i5 และ Audi A6 e-tron รวมถึงเป็น EV ที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภายใต้พื้นฐานเดียวกับ EX90 SUV เรือธง แต่ซีดานนี้ได้รับประโยชน์จากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเบาใหม่เพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีขึ้น บวกกับเทคโนโลยี 800V ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มระยะทางได้ถึง 300 กิโลเมตร หลังจากชาร์จเพียง 10 นาที ราคาเริ่มต้นประมาณ 3 ล้านบาท

อนาคตยานยนต์ที่หลากหลายและยั่งยืน

จากรายชื่อรถยนต์ที่กำลังจะมาถึงเหล่านี้ เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีไฟฟ้าที่ก้าวหน้า การรักษามรดกของเครื่องยนต์สันดาปในกลุ่มสมรรถนะสูง และการนำเสนอความหลากหลายในทุกเซกเมนต์ แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความคิดสร้างสรรค์ของผู้ผลิตรถยนต์ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย แต่ยังขับเคลื่อนเราไปสู่อนาคตของการเดินทางที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหารถยนต์คันใหม่ หรือต้องการอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรมยานยนต์ล่าสุดที่กำลังจะเข้ามาสร้างสีสันให้กับท้องถนนในประเทศไทย ผมขอเชิญชวนให้คุณเข้ามาสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม เปรียบเทียบรุ่นต่างๆ และเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เรากำลังจะได้สัมผัส หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำส่วนตัวเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใดรุ่นหนึ่ง หรือภาพรวมตลาดโดยรวม โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเพื่อปรึกษา ผมพร้อมที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกยานยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด!

อนาคตของการขับขี่: สุดยอดรถยนต์ใหม่แห่งปี 2025, 2026 และที่กำลังจะมาถึงในประเทศไทย

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าสิบปี ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์โลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดประเทศไทยที่เต็มไปด้วยพลวัตและโอกาสอันน่าตื่นเต้น ปี 2025 กำลังจะเป็นหมุดหมายสำคัญที่พลิกโฉมภูมิทัศน์ของถนนหนทางในบ้านเราอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการรุกคืบของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ รถยนต์ไฮบริดที่ยังคงความสำคัญด้านประสิทธิภาพ หรือแม้แต่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่ยังคงพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ผมจะพาคุณเจาะลึกถึงรถยนต์รุ่นสำคัญที่กำลังจะเปิดตัว และจะเข้ามาสร้างสีสันให้ตลาดรถยนต์ไทยในช่วงปี 2025, 2026 และหลังจากนั้น

กระแสของรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ชั่วคราว แต่ได้กลายเป็นทิศทางหลักที่ผู้ผลิตทั่วโลกมุ่งมั่นพัฒนาอย่างเต็มที่ ในประเทศไทย เราเห็นแบรนด์จีนเข้ามารุกตลาด EV อย่างหนักในช่วงปีที่ผ่านมา พร้อมกับแบรนด์ยุโรปและญี่ปุ่นที่เร่งเครื่องตามมาติดๆ ทว่า ผู้บริโภคชาวไทยก็ยังคงให้ความสนใจในรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและรถยนต์ไฮบริดอยู่มาก เนื่องจากความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ ผู้ผลิตจึงต้องนำเสนอทางเลือกที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่รถยนต์ขนาดเล็กสำหรับใช้งานในเมือง ไปจนถึงรถ SUV อเนกประสงค์ รถซีดานหรู และแม้กระทั่งรถสปอร์ตสมรรถนะสูง

ในบทความนี้ ผมได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นเด่นที่คาดว่าจะสร้างปรากฏการณ์ในตลาดประเทศไทย โดยเรียงตามลำดับตัวอักษรของแบรนด์ เพื่อให้คุณได้เตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตแห่งการขับขี่ที่กำลังจะมาถึง

อัลฟ่า โรมิโอ จูเลีย (Alfa Romeo Giulia) และ สเตลวิโอ (Stelvio)
การกลับมาของ Alfa Romeo ในตลาดโลกนั้นน่าจับตามองอย่างยิ่ง และในประเทศไทยเอง แบรนด์อิตาเลียนที่มีเอกลักษณ์ด้านดีไซน์และสมรรถนะนี้ก็มีฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่ง สำหรับ Giulia รุ่นต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมาถึงในปี 2026 นั้น มีความท้าทายอย่างมากในการสืบทอดความยอดเยี่ยมจากรุ่นปัจจุบันที่เป็นหนึ่งในรถซีดานหรูขนาดเล็กที่น่าปรารถนาที่สุด รถรุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมขุมพลังไฮบริดและทางเลือกแบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (EV) โดยใช้แพลตฟอร์ม STLA Large ที่รองรับระบบไฟฟ้า 800V เพื่อการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มอบระยะทางขับขี่มากกว่า 640 กิโลเมตร สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือการยืนยันว่าจะยังคงมีรุ่น Quadrofoglio พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V6 อันเป็นเอกลักษณ์ ให้แฟนๆ ผู้หลงใหลในเสียงเครื่องยนต์ได้สัมผัสความเร้าใจอย่างแท้จริง

ก่อนที่ Giulia จะมาถึง เราจะได้เห็น Alfa Romeo Stelvio SUV เจเนอเรชันใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งจะใช้สถาปัตยกรรม STLA Large เช่นกัน โดยมีตัวเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ สเตลวิโอรุ่น Quadrofoglio ก็จะมาพร้อมขุมพลังเบนซินที่ “คำราม” ได้อย่างสะใจ สะท้อนจิตวิญญาณความเป็นสปอร์ตของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน สำหรับผู้ที่มองหารถ SUV ที่ไม่เหมือนใครในตลาดรถหรูของไทย นี่คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

อัลพีน A290 และ A390 (Alpine A290 and A390)
สำหรับแฟนๆ รถแฮทช์แบ็กสัญชาติฝรั่งเศสที่รักความเร็ว Alpine A290 คือคำตอบ มันคือเวอร์ชัน “Go-Faster” ของ Renault 5 E-Tech ไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ ที่ Alpine ได้ปรับแต่งช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ขยายฐานล้อ และติดตั้งล้อขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง Michelin สั่งทำพิเศษ รวมถึงดีไซน์สปอร์ตดุดัน นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน ไม่ใช่แค่การประหยัดพลังงาน ราคาเริ่มต้นในตลาดโลกอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งน่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ขับขี่สนุกและมีสไตล์ไม่ซ้ำใคร

นอกจากนี้ Alpine ยังก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ด้วย A390 ซึ่งเป็น Coupe-SUV ไฟฟ้า หรือที่ทางแบรนด์เรียกว่า “Sport Fastback” ดีไซน์โดดเด่นราวกับ “รถแข่งในชุดสูท” โดยมีเป้าหมายในการแข่งขันกับ Porsche Macan Electric แม้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Renault Scenic แต่ A390 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสามมอเตอร์ที่ให้กำลังสูงถึง 464 แรงม้า พร้อมระบบ Torque Vectoring เพื่อการควบคุมที่แม่นยำ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2.5 ล้านบาท นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่น่าจะดึงดูดกลุ่มผู้บริหารและผู้ที่ชื่นชอบความหรูหราแบบสปอร์ตในไทย

แอสตัน มาร์ติน วัลฮัลลา (Aston Martin Valhalla)
Aston Martin Valhalla จะเป็นรถยนต์ Mid-Engined ที่ผลิตในจำนวนจำกัด (เพียง 999 คัน) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปีของแบรนด์อังกฤษคันนี้ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมถึง 1,069 แรงม้า และแรงบิด 1,100 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.5 วินาที พร้อมระบบแอโรไดนามิกส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถไฮเปอร์คาร์ Valkyrie และเทคโนโลยีจาก F1 วัลฮัลลาคือสุดยอดรถสะสมที่เปรียบเสมือนผลงานศิลปะชิ้นเอก ที่น่าจะถูกใจนักสะสมรถหรูและผู้ที่ต้องการความพิเศษเหนือระดับในประเทศไทย

ออดี้ (Audi)
ปี 2024 เป็นปีที่ Audi ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดตัวรถยนต์กว่า 7 รุ่น ตั้งแต่ A3 แฮทช์แบ็กและ e-tron GT ที่ปรับโฉม ไปจนถึง Q6 e-tron SUV และ A6 e-tron ซีดานไฟฟ้าล้วนที่พัฒนาร่วมกับ Porsche ในปี 2025 นี้ Audi ก็ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการเปิดตัว A5 รุ่นใหม่ (ซึ่งมาแทน A4 ซีดานและ Avant เดิม) และ Q5 รุ่นล่าสุด แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการมาถึงของ Q3 SUV พรีเมียมคอมแพกต์เจเนอเรชันใหม่ และ A6 ซีดานหรู สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย Audi คือหนึ่งในแบรนด์พรีเมียมที่น่าจับตา ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีการชาร์จเร็วและระยะทางขับขี่ที่น่าประทับใจ การออกแบบที่เรียบหรูและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ยังคงเป็นจุดแข็งที่ทำให้ Audi เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้บริหารและกลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์คุณภาพสูงในไทย

บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์ 3 (BMW iX3)
BMW iX3 ใหม่ ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกในกลุ่ม “Neue Klasse” ของแบรนด์เยอรมัน ได้เปิดตัวไปแล้ว โดยสะท้อนถึงดีไซน์และโครงสร้างพื้นฐานใหม่ที่จะทำให้ BMW ก้าวทันเทคโนโลยีล่าสุด รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์ iDrive ล่าสุด สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ที่ทำให้ iX3 เวอร์ชันกลางมีระยะทางขับขี่สูงถึง 800 กิโลเมตร และยังมีรุ่นที่ให้ระยะทางขับขี่ที่ไกลยิ่งกว่ากำลังจะตามมา ด้วยสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V ทำให้สามารถชาร์จไฟเพิ่มระยะทางได้ถึง 400 กิโลเมตรในเวลาเพียง 10 นาทีที่สถานีชาร์จที่รองรับ นับเป็นการพัฒนาที่สำคัญที่จะทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยคลายความกังวลเรื่องระยะทางและการชาร์จได้อย่างมาก

บีเอ็มดับเบิลยู M3 (BMW M3) และ M5 ทัวริ่ง (M5 Touring)
สำหรับแฟนๆ ความแรง BMW ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง M3 เจเนอเรชันต่อไป ซึ่งจะตามมาในปี 2027 จะเป็น M3 รุ่นแรกที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ อาจฟังดูแปลกใหม่สำหรับบางคน แต่ด้วยขุมพลังสี่มอเตอร์ที่ให้กำลังสูงถึง 1,341 แรงม้า (ในทางทฤษฎี) และระบบ Torque Vectoring จะมอบความคล่องตัวที่น่าทึ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ยังคงยึดมั่นในเครื่องยนต์สันดาป M3 ก็ยังคงมีทางเลือกเป็นเครื่องยนต์เบนซินหกสูบแถวเรียงทวินเทอร์โบเช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน การมีทางเลือกทั้ง EV และ ICE แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในความต้องการของตลาดที่หลากหลาย

และสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน BMW M5 Touring รุ่นใหม่ คือสิ่งที่น่าสนใจ เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของ M5 ที่มีรุ่นสเตชั่นวากอน โดยมาพร้อมระบบ Plug-in Hybrid ที่รวมเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 717 แรงม้า และแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร สามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.6 วินาที พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 500 ลิตร นี่คือรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งความเร็ว ความหรูหรา และการใช้งานในแบบรถครอบครัวอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการรถแรงและกว้างขวางในไทย

บีวายดี อัตโต้ 2 (BYD Atto 2)
BYD Atto 2 คือผู้ท้าชิงคนสำคัญในตลาด SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูงในประเทศไทย ด้วยการเข้ามาของ BYD ที่สร้างปรากฏการณ์ในตลาด EV ไทยมาแล้ว Atto 2 คาดว่าจะดึงดูดผู้ซื้อด้วยเทคโนโลยีที่ครบครันเป็นมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัสแบบหมุนได้ขนาด 12.8 นิ้ว, Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย, กล้อง 360 องศา, เบาะและพวงมาลัยอุ่น และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่กว่าสิบรายการ รุ่นเริ่มต้น ‘Boost’ มีระยะทางขับขี่ 338 กิโลเมตร และรุ่นแบตเตอรี่ใหญ่กว่ากำลังจะตามมา BYD Atto 2 จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ในราคาที่เข้าถึงได้

คาดิลแลค ลีริค (Cadillac Lyriq)
หลังจากหายไปจากตลาดโลกเกือบหนึ่งทศวรรษ Cadillac กำลังกลับมาพร้อมรถ SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบสองรุ่น โดยหวังที่จะแย่งส่วนแบ่งจาก Audi, BMW และ Mercedes โดยมี Cadillac Lyriq เป็นหัวหอก ด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวและหรูหรา Lyriq จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ BMW iX Lyriq มาพร้อมมอเตอร์คู่ให้กำลัง 520 แรงม้า และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 102kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่ 530 กิโลเมตร ภายในมาพร้อมจอ OLED ขนาด 33 นิ้วที่กว้างขวางครอบคลุมแดชบอร์ด ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 3 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้า SUV หรูหราที่มีสไตล์อเมริกันอันเป็นเอกลักษณ์ Lyriq คือตัวเลือกที่น่าสนใจ

ซีตรอง e-C3 (Citroen e-C3) และ C3 แอร์ครอส (C3 Aircross)
Citroen e-C3 ใหม่ คาดว่าจะเข้ามาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับมหาชน ด้วยราคาเริ่มต้นที่น่าดึงดูด (ประมาณ 9 แสนบาทในตลาดโลก) แบตเตอรี่ LFP ขนาด 44kWh ให้ระยะทางขับขี่ 320 กิโลเมตร และจะมีการเสนอตัวเลือกแบตเตอรี่ที่ถูกกว่าพร้อมระยะทางขับขี่ประมาณ 200 กิโลเมตร e-C3 มีรูปลักษณ์ที่ดูเป็นครอสโอเวอร์มากกว่ารถยนต์ขนาดเล็กทั่วไป พร้อมด้วยคุณสมบัติเด่นของ Citroen อย่างระบบกันสะเทือน Hydraulic Bump-Stops และเบาะ Active Comfort ที่นุ่มสบาย นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจะตอบโจทย์การใช้งานในเมืองของชาวไทยที่ต้องการความคุ้มค่าและความสบาย

ส่วน Citroen C3 Aircross ใหม่ คือคู่แข่งของ Dacia Duster ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และมีทีเด็ดอยู่ที่ตัวเลือก 5 หรือ 7 ที่นั่ง แม้จะเป็น SUV ขนาดเล็กที่มีความยาวเพียง 4.39 เมตร ผู้ซื้อยังสามารถเลือกได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด และไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดย e-C3 Aircross EV จะมีระยะทางขับขี่ระหว่าง 300-400 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้นในตลาดโลกประมาณ 8.5 แสนบาท รถ SUV 7 ที่นั่งในขนาดกะทัดรัด พร้อมตัวเลือกพลังงานที่หลากหลาย ทำให้ C3 Aircross เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับครอบครัวชาวไทย

คูปร้า ราวาล (Cupra Raval)
Cupra Raval คือคู่แข่งสปอร์ตของ Volkswagen ID.Polo ที่กำลังจะมาถึง ทั้งสองรุ่นถูกเผยโฉมในงาน Munich Motor Show 2025 โดย Raval มาในรูปแบบรถยนต์พรางตัว ขนาดตัวถังยาวกว่า 4 เมตรเล็กน้อย เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง แต่มีห้าประตูเพื่อความอเนกประสงค์ ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังมากกว่า 200 แรงม้า และมีระยะทางขับขี่สูงถึง 430 กิโลเมตร Raval จะเป็นรถยนต์เริ่มต้นของแบรนด์ Cupra และคาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าที่มีสไตล์โดดเด่นและสมรรถนะแบบสปอร์ต

ดาเซีย บิ๊กสเตอร์ (Dacia Bigster)
Dacia แบรนด์ที่เน้นความคุ้มค่า กำลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างแข็งขัน ปี 2024 นี้ Duster Mk3 ใหม่ ซึ่งเป็น Small SUV of the Year ของหลายสถาบัน ก็ได้เปิดตัวไปแล้ว เช่นเดียวกับ Dacia Spring EV ที่มีราคาต่ำกว่า 6 แสนบาทในตลาดโลก และที่น่าจับตาที่สุดคือ Dacia Bigster ที่พร้อมสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาด SUV ขนาดกลาง Bigster เป็นหนึ่งในสามรุ่นใหม่ที่ Dacia จะเปิดตัวในกลุ่ม C-segment ซึ่งเป็นตลาดสำคัญ โดยอีกรุ่นหนึ่งคาดว่าจะมาท้าชนกับ Skoda Octavia ที่ได้รับรางวัลมาแล้ว Dacia เน้นความคุ้มค่า พื้นที่ใช้สอย และความทนทาน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ชาวไทยให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Spring EV ที่สามารถเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่าย

ดีเอส นัมเบอร์ 8 (DS No8)
DS No8 ถือเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของแบรนด์พรีเมียมจากปารีสอย่าง DS ที่ยังคงมุ่งมั่นแข่งขันกับ BMW, Audi และ Mercedes รถคูเป้-SUV ไฟฟ้าล้วนสุดหรูคันนี้เน้นความหรูหรา ความสบาย และคุณภาพที่ทางแบรนด์เรียกว่า ‘ความสงบ’ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระยะทางขับขี่ที่น่าประทับใจถึง 750 กิโลเมตร และด้วยราคาเริ่มต้นในตลาดโลกที่ประมาณ 2.1 ล้านบาท ทำให้สามารถทำราคาได้ดีกว่าคู่แข่งอย่าง Polestar 4 และ Audi Q6 e-tron อย่างมีนัยยะ DS No8 จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมที่มีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร และเน้นประสบการณ์การขับขี่ที่ผ่อนคลาย

เฟอร์รารี F80 (Ferrari F80) และ เอเลทตริก้า (Elettrica)
Ferrari F80 คือทายาทของรถไฮเปอร์คาร์ระดับตำนานอย่าง F40, F50, Enzo และ LaFerrari ด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง Le Mans-winning 499P และขุมพลัง V6 3.0 ลิตร ที่มีรอบเครื่องสูงถึง 9,200 รอบ/นาที พร้อมเทอร์โบสองตัวและมอเตอร์ไฟฟ้าห้าตัว ให้กำลังรวม 1,183 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.15 วินาที ราคาเกินกว่า 120 ล้านบาท นี่คือสุดยอดรถยนต์ที่จะเป็นของสะสมล้ำค่าสำหรับมหาเศรษฐีในประเทศไทย

และใช่แล้ว แม้แต่ Ferrari ก็ยังต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจจะใช้ชื่อว่า ‘Ferrari Elettrica’ (ภาษาอิตาลีแปลว่า ‘ไฟฟ้า’) จากภาพสปายช็อต รถ EV คันแรกจากมาราเนลโลคาดว่าจะเป็นรถยนต์สี่ประตู ไม่ใช่ซูเปอร์คาร์สองประตู และอาจมีลักษณะคล้าย Ferrari Purosangue ซึ่งเป็น “รถสปอร์ตสี่ที่นั่งสี่ประตู” Ferrari กำลังหาวิธีที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นเช่นเคย สะท้อนให้เห็นว่าแม้แต่แบรนด์รถสปอร์ตระดับตำนานก็ต้องปรับตัวเข้าสู่ยุค EV

เฟียต แกรนด์ แพนด้า (Fiat Grande Panda)
หลังจากกว่าหนึ่งทศวรรษ Fiat Panda รุ่นใหม่ก็พร้อมแล้ว Fiat Grande Panda คือรถยนต์น้องสาวของ Citroen e-C3 ที่มีดีไซน์เป็นเหลี่ยมเป็นมุมและฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่น ดีไซน์ย้อนยุคแต่ล้ำสมัย ได้แรงบันดาลใจจาก Panda ดั้งเดิมในยุค 80s ภายในก็แปลกตาไม่แพ้กัน ด้วยองค์ประกอบทรงสี่เหลี่ยม การผสมผสานสีสันสดใส และวัสดุที่น่าสนใจ เช่น ใยไม้ไผ่บนแดชบอร์ด มีพื้นที่เก็บของมากมาย และฟีเจอร์ที่สะดวกที่สุดคือสายชาร์จแบบยืดหดได้ที่ซ่อนอยู่ในส่วนหน้าของรุ่น EV นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริดให้เลือกด้วย ราคาเริ่มต้นในตลาดโลกอยู่ที่ประมาณ 7.5 แสนบาท Grande Panda จะเป็นตัวเลือกที่น่ารักและใช้งานได้จริงสำหรับผู้ขับขี่ในเมืองไทยที่มองหารถยนต์ขนาดเล็กที่มีเอกลักษณ์

ฟอร์ด (Ford)
Ford กำลังมุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง หลังจากเปิดตัว Explorer SUV ไฟฟ้า และ Puma ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าไปแล้ว และสิ่งที่น่าฮือฮาคือการชุบชีวิตชื่อ Ford Capri กลับมาอีกครั้งในรูปแบบของ SUV ไฟฟ้า แม้ว่าชื่อ Capri ในอดีตจะเป็นรถสปอร์ตคูเป้ แต่การปรับเปลี่ยนเป็น EV SUV แสดงให้เห็นถึงทิศทางที่ชัดเจนของ Ford ในขณะเดียวกัน Mustang ก็ยังคงรักษาเครื่องยนต์ V8 อันเป็นตำนานไว้ และยังมี Mustang GTD ที่มาพร้อมซูเปอร์ชาร์จ ให้กำลังกว่า 800 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยีที่ถูกแบนจากมอเตอร์สปอร์ต สำหรับตลาดไทย Ford ยังคงเป็นแบรนด์ที่นำเสนอความหลากหลาย ตั้งแต่รถกระบะ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไปจนถึง EV ซึ่งจะทำให้ Ford ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในทุกเซกเมนต์

เจเนซิส GV60 แม็กม่า (Genesis GV60 Magma)
Genesis แบรนด์รถหรูจากเกาหลีใต้ กำลังวางแผนเปิดตัวรุ่น Magma ที่เน้นสมรรถนะสูง เพื่อมาแข่งขันกับ M Division ของ BMW และ AMG ของ Mercedes โดยเริ่มต้นด้วย Genesis GV60 Magma ที่คาดว่าจะมาถึงช่วงปลายปี 2025 คาดว่าจะมาพร้อมพละกำลังที่สูงกว่า Hyundai Ioniq 5 N และ Kia EV6 GT ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันมีกำลังถึง 641 แรงม้า GV60 Magma จะมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างออกไป ด้วยการปรับปรุงช่วงล่าง ดีไซน์ที่ดุดัน และภายในที่สปอร์ตยิ่งขึ้น พร้อมเบาะแบบ Bucket Seat สำหรับตลาดรถหรูสมรรถนะสูงในประเทศไทย Genesis GV60 Magma จะเป็นทางเลือกที่สดใหม่และน่าตื่นเต้น

ฮอนด้า 0 SUV (Honda 0 SUV) และ พรีลูด (Prelude)
ในด้านรถยนต์ไฟฟ้า Honda กำลังเร่งเครื่องอย่างเต็มที่ โดยประกาศจะเปิดตัวรถยนต์ EV ล้ำสมัย 7 รุ่น ภายใต้แบรนด์ย่อย ‘0 Series’ ภายในปี 2030 รุ่นแรกที่จะมาถึงในปี 2026 คือ SUV ขนาดกลางที่โฉบเฉี่ยว และตามมาด้วยรถซีดานเรือธงที่อิงจากแนวคิด Honda Saloon ซึ่งเน้นประสิทธิภาพและนวัตกรรมใหม่ๆ การกลับมาของ Honda ในตลาด EV ด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน จะทำให้แบรนด์ญี่ปุ่นนี้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในประเทศไทยได้อย่างสมศักดิ์ศรี

หลังจากห่างหายไปนานกว่าสองทศวรรษ Honda Prelude จะกลับมาอีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 โดยเป็นรุ่นที่หกในรูปแบบคูเป้สองประตูที่โฉบเฉี่ยว พร้อมระบบไฮบริด และเทคโนโลยีเกียร์เสมือนจริงที่ Honda เรียกว่า ‘S Shift’ ซึ่งจำลองเสียงและความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติที่รวดเร็ว การกลับมาของ Prelude จะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตคูเป้ และต้องการผสมผสานเทคโนโลยีไฮบริดเข้ากับประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน

ฮุนได อินสเตอร์ (Hyundai Inster), ไอออนิก 9 (Ioniq 9) และ ไอออนิก 3 (Ioniq 3)
Hyundai กำลังรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างครอบคลุม Inster คือรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในราคาที่เข้าถึงได้ มีดีไซน์น่ารัก กะทัดรัดกว่ารถยนต์ขนาดเล็กทั่วไป แต่ใช้พื้นที่ภายในได้อย่างคุ้มค่า ด้วยเบาะหลังแบบเลื่อนได้ ทำให้รถคันเล็กนี้อเนกประสงค์อย่างน่าประหลาดใจ สามารถใส่ Surfboard เข้าไปได้เลย Inster ให้ระยะทางขับขี่สูงถึง 368 กิโลเมตร และราคาเริ่มต้นประมาณ 9.7 แสนบาท นี่คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับการขับขี่ในเมืองไทย

ในขณะเดียวกัน Hyundai ก็ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด นั่นคือ Ioniq 9 แบบ 7 ที่นั่ง รถคันยักษ์ยาว 5 เมตรนี้เป็นทางเลือกไฟฟ้าที่ล้ำยุคของ Hyundai Santa Fe และเป็นรถยนต์พี่น้องกับ Kia EV9 ที่ได้รับรางวัล Ioniq 9 ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกัน แต่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 110.3kWh ซึ่งเมื่อรวมกับการออกแบบที่ลู่ลมอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้มีระยะทางขับขี่สูงถึง 620 กิโลเมตร ภายในของ Ioniq 9 มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงจอแสดงผลคู่ขนาด 12.3 นิ้วที่อยู่ในแผงโค้ง การตัดเสียงรบกวนบนถนน และ AI Assistant มีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 6 ที่นั่ง ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดถึง 2,000 ลิตร ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2.7 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ Ioniq 9 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมในไทย

กลุ่ม Ioniq จะขยายตัวต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยการเปิดตัว Ioniq 3 รุ่นที่เล็กกว่า ซึ่งถูกเผยโฉมในงาน Munich Motor Show 2025 ในรูปแบบของ Hyundai Concept Three รถแฮทช์แบ็กไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่นี้คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 และจะเป็นคู่แข่งของ Volkswagen ID.3 ด้วยดีไซน์ที่ดูสปอร์ตและกล้าหาญ คาดว่า Ioniq 3 จะมาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะทำให้ Hyundai มีทางเลือก EV ครอบคลุมทุกขนาด

อิม มอเตอร์ส แอล 6 (IM Motors L6)
IM Motors คือแบรนด์รถหรูในเครือ MG และคาดว่าจะเข้าสู่ตลาดโลกในปี 2025 โดยมี IM L6 เป็นรุ่นแรก ซึ่งเป็นรถซีดานไฟฟ้าพรีเมียมที่ทางบริษัทคาดว่าจะมาท้าชนกับ Tesla Model 3 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก IM L6 สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึงสามวินาที และชาร์จไฟได้ที่ความเร็วมากกว่า 300kW ซึ่งไม่เพียงแต่เหนือกว่า Tesla แต่ยังเทียบเคียงกับ Porsche Taycan เลยทีเดียว การมาถึงของ IM L6 จะสร้างความร้อนแรงในตลาดรถยนต์ซีดานไฟฟ้าพรีเมียมในประเทศไทยอย่างแน่นอน

จากัวร์ สี่ประตู GT (Jaguar four-door GT)
การฟื้นฟูแบรนด์ Jaguar ทั้งหมดเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เนื่องจากหนึ่งในแบรนด์รถยนต์อังกฤษที่เป็นรากฐานสำคัญกำลังจะเปลี่ยนผ่านสู่ยุคไฟฟ้าเต็มรูปแบบและยกระดับสู่ตลาดพรีเมียมอย่างจริงจัง หลังจากที่รถยนต์รุ่นปัจจุบันทั้งหมดได้ยุติการผลิตไปแล้ว Jaguar กำลังเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่สามรุ่น โดยเริ่มต้นด้วย GT สี่ประตู ที่จะมีราคาสูงถึง 5.4 ล้านบาท รถต้นแบบที่ใกล้เคียงกับรุ่นผลิตจริงจะถูกเปิดเผยภายในสิ้นปีนี้ และรถยนต์จริงจะมาถึงในปี 2026 GT ที่ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการนี้จะใช้แพลตฟอร์ม EV เฉพาะที่เรียกว่า Jaguar Electrified Architecture และจะใช้เทคโนโลยีที่ “พลิกเกม” ให้ระยะทางขับขี่ที่น่าทึ่งถึง 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถเพิ่มระยะทาง 320 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 15 นาที นี่คือรถยนต์ที่จะเป็นตัวแทนของความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีล้ำสมัยสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ระดับอัลตร้าลักซ์ในประเทศไทย

จี๊ป รีคอน (Jeep Recon)
Jeep เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก Avenger ในปี 2023 แต่ก็ยังมีรถยนต์ EV อีกหลายรุ่นที่กำลังพัฒนาอยู่ และรุ่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ Recon ซึ่งเป็นรถ 4×4 ที่แข็งแกร่ง Recon ขนาดใกล้เคียงกับ Wrangler จะมาพร้อมดีไซน์ที่ดุดันและใช้แพลตฟอร์ม STLA Large ที่พัฒนามาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับ Jeep Wagoneer S SUV เรือธงรุ่นใหม่ Jeep Recon จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความสามารถในการขับขี่แบบ Off-road อย่างแท้จริง

เกีย EV4 (Kia EV4) และ PV5 (Kia PV5)
Kia EV4 ใหม่ล่าสุด คือส่วนเสริมล่าสุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่มีดีไซน์โดดเด่นของแบรนด์ มีให้เลือกทั้งแบบซีดานที่โฉบเฉี่ยวและแฮทช์แบ็กห้าประตูแบบดั้งเดิม ซึ่งคาดว่าแบบแฮทช์แบ็กจะได้รับความนิยมมากกว่าในยุโรป รถรุ่นนี้เป็นคู่แข่งของ VW ID.3 ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกับ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัล และให้ระยะทางขับขี่เกือบ 640 กิโลเมตร เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่เงียบและกว้างขวาง ซึ่งคาดว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ซื้อในไทย

ปีนี้ Kia กำลังนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้ามาสู่โลกของรถตู้ ด้วยกลุ่มรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งจะมาท้าชนกับ Ford E-Transit โดยมี Kia PV5 เป็นหัวหอก ซึ่งจะมาในรูปแบบรถตู้ทึบ (Panel Van) และยังมีรุ่น MPV ที่จะมาท้าชนกับ Volkswagen ID. Buzz PV5 มีความรู้สึกที่ล้ำยุคกว่า ด้วยดีไซน์ที่ดูราวกับ Blade Runner และจะเข้ากับ Kia EV9 และ EV3 SUV ได้เป็นอย่างดี รูปทรงที่เกือบเป็นสี่เหลี่ยมและการออกแบบฐานล้อที่ยาวจะช่วยให้ผู้โดยสารมีพื้นที่มากที่สุด พร้อมประตูหลังแบบเลื่อนได้ นอกจากนี้ รถตู้และ MPV ไฟฟ้าของ Kia จะมาพร้อมการรับประกัน 7 ปี ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและครอบครัวในประเทศไทย

แลนด์ โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ ออคต้า (Land Rover Defender OCTA)
ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที กำลัง 626 แรงม้า และราคาที่สูงถึง 6.7 ล้านบาท Defender OCTA คือสุดยอดของ Land Rover Defender อย่างไม่ต้องสงสัย เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร คือเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่เคยติดตั้งใน Defender ยุคใหม่ และเพื่อให้แชสซีของ 4×4 คันนี้สามารถรับมือกับพละกำลังมหาศาล Land Rover ได้ทำการปรับปรุงอย่างครอบคลุม รวมถึงเบรก Brembo ที่อัปเกรดแล้ว พวงมาลัยที่ตอบสนองเร็วขึ้น ยางที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และระบบกันสะเทือน 6D Dynamics ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายกับซูเปอร์คาร์ของ McLaren นี่คือรถยนต์ SUV สุดหรูสมรรถนะสูง ที่จะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความเหนือระดับทั้งบนถนนและนอกถนนในประเทศไทย

โลตัส มิดไซส์ SUV (Lotus mid-size SUV) และ รถสปอร์ตไฟฟ้า (electric sports car)
Lotus สร้างชื่อเสียงจากรถสปอร์ตน้ำหนักเบา แต่แบรนด์ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วสู่การเป็นผู้ผลิต EV ระดับพรีเมียม โดยเริ่มต้นด้วย Eletre Hyper-SUV และ Emeya GT แต่ Lotus หวังที่จะขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นด้วย Mid-size SUV ที่จะมาท้าชนกับ Porsche Macan Electric ใหม่ Lotus ตั้งเป้าราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2.3 ล้านบาท (ในตลาดโลก) ซึ่งต่ำกว่า Macan อย่างมีนัยยะ รุ่น Type 134 นี้คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2025

แม้ว่า SUV และซีดานจะกลายเป็นยอดขายหลักของ Lotus ในไม่ช้า แต่แบรนด์ก็ไม่ได้ละทิ้งมรดกการผลิตรถสปอร์ตเกือบ 80 ปีของตน ในปี 2027 บริษัทจะเปิดตัวรถสปอร์ตไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรก ที่จะมาแทน Emira ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น Type 135 นี้จะถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมเฉพาะ และดีไซน์คาดว่าจะได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากแนวคิด Lotus Theory 1 Lotus กำลังแสดงให้เห็นว่าสามารถนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังคงรักษา DNA ของแบรนด์ในด้านสมรรถนะและการขับขี่ที่น่าตื่นเต้นได้

มาสด้า 6e (Mazda 6e) และ CX-6e (CX-6e)
Mazda MX-30 ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าที่ยังมีข้อจำกัด คือ EV เพียงรุ่นเดียวของแบรนด์ญี่ปุ่นมาหลายปี แต่จะไม่อยู่ในสถานการณ์นั้นอีกต่อไป เพราะ Mazda 6e ซีดานใหม่เอี่ยมจะมาถึงในปี 2026 เพื่อท้าชนกับ Tesla Model 3 แม้ว่าระยะทางขับขี่ที่เคลมไว้ของ 6e ที่ 550 กิโลเมตรจะน้อยกว่า Tesla เกือบ 160 กิโลเมตร แต่ Mazda สัญญาว่าซีดานรูปหล่อคันนี้จะมอบ “พฤติกรรมการขับขี่ที่คาดหวังจากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์ยาวนานในการสร้างรถยนต์ที่ขับสนุก” นอกจากนี้ยังมี SUV พี่น้องที่มีความสูงจากพื้นดินมากขึ้นและใช้งานได้จริงมากกว่า ในชื่อ Mazda CX-6e Mazda กำลังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังคงรักษาปรัชญาการขับขี่แบบ Jinba Ittai ของแบรนด์

แมคลาเรน W1 (McLaren W1)
หลังจาก F1 และ P1 ตอนนี้ McLaren W1 ได้มาถึงเพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของ Woking ในฐานะคู่แข่งโดยตรงของ Ferrari F80 ที่กล่าวไปแล้ว W1 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ไฮบริด ที่ส่งกำลังทั้งหมด 1,258 แรงม้า ไปยังล้อหลังเท่านั้น เพื่อไม่ให้รถลอยขึ้น ระบบแอโรไดนามิกส์ที่ “ได้รับแรงบันดาลใจจาก Formula One” สามารถสร้างแรงกดได้ถึง 1,000 กิโลกรัมที่ความเร็ว 280 กม./ชม. McLaren W1 คือสุดยอดรถยนต์สำหรับนักสะสมรถซูเปอร์คาร์และไฮเปอร์คาร์ที่ต้องการความพิเศษและสมรรถนะสูงสุดในไทย

เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLA (Mercedes CLA) และ GLC (Mercedes GLC)
Mercedes-Benz CLA เจเนอเรชันใหม่ จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกในสิ่งที่แบรนด์เรียกว่ารถยนต์ “Entry Luxury” รุ่นใหม่ โดยใช้สถาปัตยกรรม MMA ใหม่เอี่ยม ซึ่งจะรองรับ SUV สองรุ่นและ Shooting Brake อีกหนึ่งรุ่น ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสามารถให้ระยะทางขับขี่เกือบ 800 กิโลเมตร และการชาร์จที่รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูงที่ทำได้ด้วยแพลตฟอร์มใหม่นี้ CLA มีราคาที่น่าสนใจและเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือมากกว่ารถยนต์ EV ขนาดใหญ่บางรุ่นของ Mercedes-Benz ก่อนหน้านี้

ตามมาติดๆ คือ Mercedes-Benz GLC ล่าสุดที่ได้เปิดตัวไปแล้วและพร้อมที่จะออกสู่ท้องถนนในไม่ช้า นี่คือรถยนต์ใหม่ทั้งหมดและไม่เกี่ยวข้องกับ GLC ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเดิม โดยใช้สถาปัตยกรรม MB.EA ที่เป็นไฟฟ้าล้วน พร้อมแบตเตอรี่ 94kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่ 700 กิโลเมตร และความเร็วในการชาร์จ DC สูงสุด 330kW รุ่นเปิดตัวที่เรียกว่า GLC 400 4MATIC มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและกำลังรวม 482 แรงม้า เพื่อสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม GLC EV จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ BMW iX3 และจะสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาด SUV ไฟฟ้าพรีเมียมในไทย

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ (MINI John Cooper Works)
MINI Cooper ล่าสุดเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับการคาดหวังมากที่สุดในปีที่ผ่านมา และกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ตอนนี้แบรนด์ได้เพิ่มความพิเศษเพื่อสร้าง MINI John Cooper Works (JCW) Hot Hatch รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีตัวเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ JCW Electric ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านหน้า ซึ่งเพียงพอสำหรับการเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที – ซึ่งเร็วกว่า Hyundai i20 N แต่ก็ยังมีรุ่นเบนซินแบบ Old-school ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร 228 แรงม้า แม้จะไม่มีตัวเลือกเกียร์ธรรมดาอีกต่อไป แต่ผู้ซื้อก็ยังมีทางเลือกแบบ Hard-top หรือ Convertible สำหรับรุ่นเบนซิน MINI JCW จะยังคงเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความสนุกในการขับขี่และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเลือกพลังงานแบบใด

นิสสัน ลีฟ (Nissan Leaf) และ ไมครา (Micra)
ในฐานะ EV ที่ผลิตในปริมาณมากรุ่นแรก Nissan Leaf เคยเป็นผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง แต่ก็ลดความสำคัญลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีคู่แข่งที่ทันสมัยกว่าและเหนือกว่า เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ รถแฮทช์แบ็กสำหรับครอบครัวได้กลายร่างเป็นครอสโอเวอร์ SUV ที่โฉบเฉี่ยว ซึ่งใช้เทคโนโลยีเดียวกับ Nissan Ariya ที่เคยได้รับรางวัล Car of the Year โปรไฟล์ที่เรียบลู่ลม ผสานกับเทคนิคอื่นๆ ทำให้ Leaf รุ่นใหม่เป็นรถยนต์ที่แอโรไดนามิกที่สุดของแบรนด์ญี่ปุ่น และมีระยะทางขับขี่สูงถึง 600 กิโลเมตร ด้วยแบตเตอรี่ 75kWh ที่สมเหตุสมผล ค่าใช้จ่ายในการใช้งานจึงยังคงต่ำตามที่คาดหวังจากรถยนต์ชื่อนี้ Nissan Leaf ใหม่จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

และนี่คือ Nissan Micra ใหม่เอี่ยม และหากคุณคิดว่ามันดูคล้าย Renault 5 รุ่นใหม่ นั่นเป็นเพราะว่ามันคือเวอร์ชันที่ถูกเปลี่ยนป้ายและปรับหน้าใหม่จากรถฝรั่งเศสคันหรูคันนั้น Nissan ได้ละทิ้งไฟหน้าสี่เหลี่ยมและไฟท้ายแนวตั้งของ R5 แล้วเปลี่ยนเป็นไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ที่ตลกขบขัน ซึ่งคล้ายกับ Micra Mk3 ที่โด่งดัง นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกันชนใหม่ กระจกหลังใหม่ และแน่นอนว่า Nissan ได้เพิ่มป้ายและล้อของตัวเองเข้าไป แต่ก็มีเท่านี้ ตัวเลือกแบตเตอรี่ ความเร็ว ระยะทางขับขี่ สมรรถนะ แชสซี ความอเนกประสงค์ และภายในยังคงเหมือนกัน Micra จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่น่ารักและใช้งานได้ดีในเมือง เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มองหารถยนต์ที่มีสไตล์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โพลสตาร์ 5 (Polestar 5) และ 7 (Polestar 7)
ห้าปีนับตั้งแต่ Polestar Precept Concept อันโดดเด่นถูกเปิดเผย ในที่สุด Volvo ก็พร้อมที่จะเปิดตัวคู่แข่งของ Porsche Taycan และ Lotus Emeya นั่นคือ Polestar 5 มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบเพียงเล็กน้อยสำหรับรุ่นผลิตจริง และเช่นเดียวกับแนวคิด จะไม่มีกระจกหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารด้านหลังให้สูงสุด Polestar 5 ใช้แพลตฟอร์มอลูมิเนียมอัดขึ้นรูปและเชื่อมติดกันที่พัฒนาขึ้นในสหราชอาณาจักร มาพร้อมระบบไฟฟ้า 800V และกำลังขับมหาศาลสูงถึง 874 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร Polestar 5 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่มาพร้อมเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ล้ำสมัย

และถ้าคุณยังเดาไม่ถูก Polestar 7 จะเป็นรถยนต์รุ่นที่เจ็ดจากแบรนด์สวีเดน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือมันคือคำตอบของ Polestar สำหรับ Tesla Model Y รถ “Premium Compact SUV” คันนี้จะผลิตในยุโรป มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด และอาจมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1.7 ล้านบาท Polestar จะเปลี่ยนจากการใช้หลายแพลตฟอร์มในรุ่น 7 และจะใช้ “สถาปัตยกรรมเดียว เพื่อลดความซับซ้อน ต้นทุน และการลงทุน” Polestar 7 จะเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งในตลาด SUV ไฟฟ้าขนาดกลางในประเทศไทย

ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์/เคย์แมน (Porsche Boxster/Cayman) และ คาเยนน์ อีเล็กทริค (Cayenne Electric)
รถสปอร์ต Mid-Engined ของ Porsche อย่าง Cayman และ Boxster กำลังจะทิ้งเครื่องยนต์เบนซินเพื่อเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ อย่างน้อยก็สำหรับรุ่นปกติ ในขณะที่รุ่น GT ระดับสูงอาจยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินอยู่ ทั้งสองรุ่นจะใช้แพลตฟอร์มรถสปอร์ตไฟฟ้าเฉพาะที่พัฒนาโดย Porsche และจากภาพสปายช็อต จะมีฐานล้อยาวกว่ารุ่นปัจจุบัน ซึ่งน่าจะเพื่อรองรับชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังห้องโดยสาร แทนที่จะอยู่ใต้พื้นรถเหมือน EV ส่วนใหญ่ ซึ่งจะช่วยในการกระจายน้ำหนักและตำแหน่งการนั่งที่ต่ำ นี่คือความท้าทายที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Porsche ในการรักษาเอกลักษณ์การขับขี่ของรถสปอร์ตในยุคไฟฟ้า

สำหรับ Porsche Cayenne จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดในขณะนี้ แต่ Cayenne Electric ใหม่กำลังจะมาถึงและจะใช้แพลตฟอร์ม PPE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับ Macan Electric ดังนั้นคาดว่าจะมีแบตเตอรี่ความจุประมาณ 100kWh มอเตอร์คู่ และระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ รวมถึงความเป็นไปได้ของระบบชาร์จไร้สาย ซึ่งคุณสามารถขับรถไปจอดในช่องจอดที่รองรับเพื่อชาร์จไฟได้เลย Cayenne Electric จะยังคงเป็นผู้นำในตลาด SUV หรูสมรรถนะสูงในประเทศไทย โดยเพิ่มทางเลือกพลังงานไฟฟ้าเข้ามา

เรนจ์ โรเวอร์ อีเล็กทริค (Range Rover Electric)
Range Rover คือ SUV หรูต้นตำรับ และหลังจากกว่าครึ่งศตวรรษ ก็ยังคงเป็นราชาแห่งป่า แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมี Range Rover Electric ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ JLR กล่าวว่า “เรากำลังมุ่งมั่นที่จะสร้าง Range Rover ที่เงียบที่สุดและละเอียดอ่อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนผสมมหัศจรรย์ที่ทำให้ Range Rover ประสบความสำเร็จยังคงไม่เปลี่ยนแปลง – ตอนนี้มาพร้อมกับการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์” Range Rover Electric จะดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความหรูหรา ความสามารถในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และความยั่งยืนในรถยนต์ SUV ระดับสูงสุดในประเทศไทย

เรโนลต์ 4 (Renault 4) และ ทวินโก้ (Twingo)
ตามมาติดๆ กับ Renault 5 รุ่นใหม่ที่ยอดเยี่ยมที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ คือ Renault 4 ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีรูปทรงเป็นเหลี่ยมเป็นมุมคล้ายกับ R4 ดั้งเดิมจากยุค 60s และการออกแบบได้รวมคุณสมบัติที่คุ้นเคยหลายอย่าง เช่น กระจกหลังสามเหลี่ยม ไฟท้ายรูปทรงเม็ดยา และกระจังหน้าแนวนอนกว้างพร้อมไฟหน้าทรงกลม ใช้แพลตฟอร์ม AmpR Small เดียวกันกับ R5 แฮทช์แบ็ก แต่จะมีให้เลือกเฉพาะแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 52kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่ 400 กิโลเมตร Renault 4 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีสไตล์และใช้งานได้จริงสำหรับผู้ขับขี่ในเมืองไทย

ส่วนเสริมสุดท้ายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคเรโทรของ Renault คือ Twingo ใหม่เอี่ยม ที่เผยโฉมในรูปแบบแนวคิดในเดือนพฤศจิกายน 2023 โดย CEO ของ Renault Luca de Meo อธิบายว่าเป็น “กระสุนเงินสำหรับการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน” Twingo ใหม่คาดว่าจะเปลี่ยนจากแนวคิดสู่การผลิตในเวลาเพียงสองปี และมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 8 แสนบาท ซึ่งจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่พลิกเกมในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในประเทศไทยอย่างแท้จริง

สก๊อด้า (Skoda)
ปี 2024 เป็นปีที่ Skoda มีความเคลื่อนไหวอย่างมากเช่นกัน เนื่องจากมีการอัปเดตรุ่นยอดนิยมหลายรุ่น เช่น Kamiq และ Octavia นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Kodiaq เจเนอเรชันที่สองใหม่เอี่ยม และ Superb ล่าสุด – ซึ่งทั้งสองรุ่นได้รับรางวัลจาก Auto Express New Car Awards ในอนาคต แบรนด์เช็กจะต่อยอดความสำเร็จจาก Enyaq และเปิดตัว SUV ไฟฟ้าหลากหลายขนาดและราคา รวมถึงรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า 8 แสนบาท Skoda กำลังพัฒนารถสเตชั่นวากอนสำหรับครอบครัวที่ไร้มลพิษ เพื่อมาเสริมทัพ Octavia Estate และ Superb Estate ที่ยอดเยี่ยม แบรนด์ยังได้เผยโฉม Skoda Epiq Concept ซึ่งเป็นแนวคิดของรถยนต์ที่จะมาท้าชน VW ID. Cross ขนาดใกล้เคียง Kamiq Skoda ยังคงเป็นแบรนด์ที่นำเสนอความคุ้มค่า พื้นที่ใช้สอย และการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาด

ซูซูกิ e Vitara (Suzuki e Vitara)
Suzuki ตัดสินใจกระโดดเข้าสู่ตลาด EV อย่างเต็มตัวด้วย e Vitara ใหม่เอี่ยม ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่น่าประทับใจมากมาย คุณสมบัติที่โดดเด่นคือตัวเลือก AllGrip-e ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์คู่เพื่อให้ “สมรรถนะอันทรงพลัง” และการยึดเกาะถนนพิเศษในสภาพถนนที่ลื่น ซึ่งเสริมกับรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ระยะทางขับขี่สูงสุดของ e Vitara คือ 426 กิโลเมตร ซึ่งเหนือกว่า Jeep Avenger เล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถเทียบเท่ารถยนต์อย่าง Kia EV3 ที่สามารถวิ่งได้มากกว่า 600 กิโลเมตรในการชาร์จครั้งเดียว Suzuki e Vitara จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่พร้อมลุยและมีตัวเลือก 4WD

วอกซ์ฮอลล์ ฟรอนเตรา (Vauxhall Frontera)
Vauxhall Frontera ไม่มีมรดกชื่อเสียงเท่ากับ Ford Capri หรือ Honda Prelude แต่ได้รับการชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ในรูปแบบของ Compact SUV ใหม่เอี่ยมที่เน้นความอเนกประสงค์และความคุ้มค่า ด้วยรูปทรง SUV แบบกล่องและดั้งเดิม มีตัวเลือกสูงสุด 7 ที่นั่ง และความจุสัมภาระสูงสุดเกือบ 1,600 ลิตร Frontera จึงใช้งานได้จริง ในด้านราคา Vauxhall ถือเป็นก้าวสำคัญ เนื่องจากทั้งรุ่นไฟฟ้าล้วนและไฮบริดเบนซินมีราคาเริ่มต้นที่ 9.7 แสนบาท – ซึ่งเป็นราคาที่เท่ากันอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการขจัดอุปสรรคทั่วไปในการเป็นเจ้าของ EV Frontera Hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซินสามสูบ 1.2 ลิตร ผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 28 แรงม้า ที่รวมอยู่ในเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 6 สปีด ในขณะที่รุ่น EV มาพร้อมแบตเตอรี่ 44kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 111 แรงม้า ซึ่งให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 300 กิโลเมตร – แม้ว่ารุ่น Long Range กำลังจะมาถึงในไม่ช้า Vauxhall Frontera จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ SUV ที่คุ้มค่า อเนกประสงค์ และมีตัวเลือกพลังงานที่หลากหลาย

โฟล์คสวาเกน ID. โปโล (Volkswagen ID. Polo) และ ID.2X (Volkswagen ID.2X)
Volkswagen ได้ยืนยันแล้วว่าชื่อ ID.2 จะไม่มีอีกต่อไป: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เข้าถึงได้จากแบรนด์จะใช้ชื่อ ID. Polo แทน รถคันนี้ได้เปิดตัวในระดับหนึ่งในงาน Munich Motor Show 2025 โดยแสดงในรูปแบบรถพรางตัวที่ทำให้เราเห็นภาพรวมของดีไซน์ รถรุ่นนี้จะใช้แพลตฟอร์ม MEB เวอร์ชันต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยให้มีราคาเริ่มต้นที่ต่ำ: อาจจะต่ำกว่า 1 ล้านบาทในตลาดโลกเมื่อรถคันนี้มาถึงในปี 2027 ID. Polo จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่น่าสนใจสำหรับตลาดเมือง

Volkswagen ยังเคยสัญญาว่าจะเปิดตัว SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เข้าถึงได้ โดยอิงจาก ID.2 (ตอนนี้คือ ID. Polo) และแพลตฟอร์ม MEB Entry ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทางเลือกไร้มลพิษของ VW T-Cross ที่ได้รับความนิยม บริษัทได้ยืนยันแล้วว่าคู่แข่งของ Renault 4 ในอนาคตจะใช้ชื่อ Volkswagen ID.2X และจะเปิดเผยอย่างเป็นทางการในงาน Munich Motor Show ในเดือนกันยายนปีนี้ ID.2X จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาด SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งจะทำให้ Volkswagen มีตัวเลือก EV ที่ครอบคลุมมากขึ้นในประเทศไทย

วอลโว่ ES90 (Volvo ES90)
Volvo ได้ยุติการผลิต S60 และ S90 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งตลาดซีดานขนาดใหญ่ไปทั้งหมด Volvo ES90 ที่กำลังจะมาถึง จะเป็นผู้ท้าชนของแบรนด์สวีเดนกับ BMW i5 และ Audi A6 e-tron รวมถึงเป็น EV ที่ล้ำสมัยที่สุดของ Volvo ในปัจจุบัน ภายใต้ตัวถังคือแพลตฟอร์มเดียวกับ EX90 SUV เรือธง แต่ซีดานได้รับประโยชน์จากมอเตอร์ไฟฟ้าเบาใหม่เพื่อสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น บวกกับเทคโนโลยี 800V ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มระยะทางขับขี่ได้ถึง 300 กิโลเมตร หลังจากชาร์จเพียง 10 นาที ราคาเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท Volvo ES90 จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาซีดานไฟฟ้าหรูหราที่เน้นความปลอดภัย เทคโนโลยี และความยั่งยืนในประเทศไทย

สรุปและคำเชิญ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่าปี 2025 และปีต่อๆ ไปจะเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์โลก โดยเฉพาะในตลาดประเทศไทย ที่เราจะได้เห็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีก้าวล้ำอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รถยนต์ไฮบริดที่ประหยัดน้ำมัน หรือแม้แต่รถยนต์สมรรถนะสูงที่ยังคงมอบความเร้าใจในแบบฉบับดั้งเดิม ผู้ผลิตก็พร้อมที่จะนำเสนอทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณอย่างแน่นอน

เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ระบบการชาร์จที่รวดเร็ว โครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเติบโต และการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างแบรนด์ต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นในด้านราคา โปรโมชั่น รถยนต์ หรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่ถูกอัดแน่นเข้ามาในรถยนต์รุ่นใหม่

อนาคตของการขับขี่ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของยานพาหนะ แต่ยังรวมถึงประสบการณ์ ความสะดวกสบาย และความยั่งยืนที่เราสามารถสัมผัสได้ทุกวัน

คุณเองก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ได้! อย่ารอช้าที่จะสำรวจโลกแห่งยานยนต์ใหม่ล่าสุดเหล่านี้

หากคุณพร้อมที่จะค้นพบรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ หรือต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีแห่งอนาคต โปรดติดต่อเราวันนี้ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำแนะนำและช่วยเหลือคุณในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ที่ใช่ที่สุดสำหรับปี 2025 และอนาคต

Previous Post

N0511369 เป นภรรยาหร อคนใช นแน part 2

Next Post

N0511371 อย าด กคนท ภายนอก part 2

Next Post
N0511371 อย าด กคนท ภายนอก part 2

N0511371 อย าด กคนท ภายนอก part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0511139 แม กแต องชาย part 2
  • N0511138 ไม าจะเร ยกคนข เผ อกหร อคนข งกด part 2
  • N0511134 เล ยงหลานตามเพศท เก part 2
  • N0511137 ความอดทนของคนม นก หมดก นบ าง part 2
  • N0511132 สะใภ ทำงานหาเง นจนไม เวลามาด แลเเม part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.